ตอนที่
[14] ไม่อาจปิดบัง นางคิดว่าการเดินจากออกจากหมู่บ้านเถียนเกาไปที่หมู่บ้านหวง หลิงของท่านตาท่านยายจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ แต่ทว่า...เดินทางผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม (หนึ่งชั่วโมง) ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถึงเสียที ท่านแม่กล่าวด้วยความอ่อนแรงเป็นระยะ ๆ ว่าให้ท่านตาท่านยายหยุดการเดินทางเพื่อพักสักหน่อย อีกทั้งนางได้ส่งกระแสจิตสอบถามเสี่ยวหลงเกี่ยวกับเส้นทางแล้ว จึงพบว่าหมู่บ้านเถียนเกากับหมู่บ้านหวงหลิง หากเดินเท้าแบบคนหนุ่มทั่วไปจะใช้เวลาเดินไป-กลับราวสี่ถึงห้าชั่วยาม (แปดถึงสิบชั่วโมง) ยิ่งท่านตาท่านยายที่มีอายุมากกอรปกับการเดินทางช่วงกลางคืนก็ยิ่งเพิ่มระยะเวลาไปอีก กว่าจะถึงหมู่บ้านเถียนเกาก็เป็นเวลาเช้าทั้งยังไม่ได้กินอะไรก็ต้องลากรถลากที่มีพวกนางสามแม่ลูกกลับหมู่บ้านโดยที่ยังไม่ได้พักอันใดอีก หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เดิมทีนางคิดว่าจะเปิดเผยทุกอย่างในภายหลัง แต่ยามนี้นางไม่สามารถให้ผู้เฒ่าทั้งสองต้องลำบากลากพวกนางกลับหมู่บ้านหลายชั่วยามลำพังสองคนได้แล้ว ‘เสี่ยวหลงตั้งเวลาภายในมิติกับด้านนอกราวกับพริบตาเดียวเช่นครั้งก่อน’ นางส่งกระแสจิตบอกเสี่ยวหลงก่อนที่จะนำมือทั้งสองข้างไปดึงมือของท่านแม่และพี่ใหญ่มาวางไว้ที่เอวของนาง ทั้งคู่เต็มไปด้วยความสงสัยแต่นางบอกว่าให้อยู่เช่นนี้สักครู่ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยนางก็นำมือข้างขวากดลงไปยังจุดสีแดงที่อยู่ข้อมือด้านซ้ายทันที ไม่นานร่างของคนทั้งสามก็หายวับไปในพริบตาจนผู้เฒ่าที่กำลังลากรถไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดอันใดขึ้นที่ด้านหลัง !!! ส่วนผู้ที่ถูกพาตัวมาก็เบิกตากว้างกับความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับตน เมื่อเข้ามาในมิติแล้วนางก็สั่งการให้เสี่ยวหลงนำพาตัวท่านแม่ พี่ใหญ่และนางไปประจำการที่เครื่องรักษาตนคนละเครื่อง เมื่อกระจกครอบปิดลงก็เป็นอันเริ่มดำเนินการรักษาทันที นางและพี่ใหญ่ที่ไม่ได้เป็นอันใดมาก เมื่อรักษาเสร็จไม่นานกระจกก็เปิดออกทันที ในขณะที่ท่านแม่นั้น ระบบภายในร่างกายนั้นอ่อนแอและเสียหายอย่างหนักจากการแท้งบุตร จึงต้องใช้เวลาสักครู่ พี่ใหญ่เมื่อกลับมาเป็นปกติและออกมาจากเครื่องรักษาตนก็รีบถามคำถามทันที “หยวนเออร์ นี่มันเกิดอันใดขึ้น เหตุใดเราจึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วเหตุใดเมื่อเข้าไปที่ลึกลับนั่น ร่างกายของเราจึงหายดีแล้ว ราวกับ...” “พี่ใหญ่ ไว้รอท่านแม่ออกมาแล้วข้าจะบอกพวกท่านพร้อมกัน อย่างไรรอท่านแม่รักษาอาการให้หายก่อนเถิด” นางรู้ว่าเขาอยากรู้อันใด แต่นางไม่อยากพูดหลายครั้งจึงอยากรอมารดาเสียก่อน ที่จริงแล้วนางกำลังแต่งเรื่องในหัวต่างหาก ว่าจะบอกพวกเขาอย่างไรดี “เจ้าหมายความว่าท่านแม่ก็จะหายจากอาการเจ็บป่วยเช่นนั้นหรือ หยวนเออร์” แววตาของพี่ใหญ่เต็มไปด้วยประกายความหวัง “ใช่แล้ว เครื่องรักษาตนนี่รักษาได้แทบทุกอาการเจ็บป่วยเลย” “ดีจริง หยวนเออร์ ท่านแม่จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว” ใบหน้าที่ยามนี้เผยแววหล่อเหลายิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนที่สายตาคมจะรีบหันกลับไปมองมารดาด้วยความรักใคร่ รอจากนั้นไม่นานกระจกใสก็เปิดขึ้นเป็นเข้าใจกันว่าการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว ครานี้นอกจากอาการของมารดาจะหายดีแล้วยังมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปนั่นก็คือ รูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาขึ้น กล่าวคือความงดงามกลับสู่ผู้เป็นมารดาแล้ว ฉินกุ้ยหยางคิดว่า นี่มารดางดงามมากกว่าเดิมเสียอีก เมื่อมองดูเทียบกับผู้เป็นน้องสาวแล้ว ราวกับมิใช่มารดาแต่เป็นพี่สาว! แท้จริงแล้วฉินกุ้ยหลินอายุเพียงสามสิบห้าปีเท่านั้น หากเป็นโลกก่อนก็คงอยู่ในวันสาวสะพรั่งวัยร้อนแรง แต่เมื่ออยู่ที่นี่กอรปกับการทำงานหนัก เลยทำหน้าใบหน้าและร่างกายไปก่อนอายุที่แท้จริง ยามนี้มิใช่เพียงผู้เป็นมารดาที่เปลี่ยนไปต้องกล่าวว่าสามคนแม่ลูกต่างก็เปลี่ยนไปด้วยกันทั้งสิ้น เสี่ยวหลงตั้งการกำหนดค่านอกจากจะรักษาแล้วยังฟื้นฟูร่างกายอย่างเข้มข้นให้ทั้งสามด้วย “ท่านแม่ ยินดีต้อนสู่ชีวิตใหม่”ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ