ตอนที่
[14] ไม่อาจปิดบัง “ท่านแม่ ยินดีต้อนสู่ชีวิตใหม่” “ยะ...หยวนเออร์นี่มันอันใดกัน” นางฉินซื่อหรือยามนี้คือฉินกุ้ยหลิน ตกตะลึงเมื่อพบกับตนเองในกระจกบานยักษ์ที่บุตรสาวชี้ให้ตนดู ยามนี้นอกจากจะอยู่ในสถานที่อันแปลกประหลาด เมื่อเข้ามานั่งอยู่ในแท่นที่ตนไม่เคยพบเห็นนี้ก็พบว่าร่างกายของตนเปลี่ยนไป และเมื่อขยับขาก็พบว่า... มันขยับได้แล้ว! ทั้งยังไม่เจ็บปวดร่างกายอีกต่อไป “ท่านแม่ ยามนี้ท่านเดินได้แล้ว รีบลุกขึ้นมาเถิด” ฉินกุ้ยหยวนเอ่ยบอกมารดาที่กำลังนั่งนิ่งอยู่บนเครื่องรักษาตน ฉินกุ้ยหลินเมื่อได้ยินบุตรสาวกล่าวเช่นนั้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น ไม่นานก็ยิ้มร่าออกมา ตนเดินได้แล้วจริง ๆ ไม่พอยังเดินซอยเท้าไปมาได้อีก น้ำตาคลอเอ่อที่ดวงตาคู่งาม ไม่น่าเชื่อว่าตนจะหายจากอาการเจ็บป่วย “หยวนเออร์ หยางเออร์ แม่เดินได้แล้วจริง ๆ” “ท่านแม่ ดียิ่ง ๆ” ฉินกุ้ยหยวนร้องรับมารดา ไม่นานสามแม่ลูกก็กอดกันกลม เมื่อดีใจกันจนเต็มที่แล้ว ฉินกุ้ยหลินก็เริ่มสังเกตเห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงพวกตนสามแม่ลูก แต่ยังมี.....หมีขาวตัวยักษ์อีก “ท่านแม่ นี่คือ เสี่ยวหลง ผู้ช่วยของข้าเอง” “หยวนเออร์ เล่าทุกอย่างออกมาให้แม่ฟังโดยละเอียดได้หรือไม่” นอกจากสายตาคาดหวังจากมารดาแล้วยังมีพี่ชายของตนอีก ดีที่สมองอันชาญฉลาดของนางสามารถคิดเรื่องราว (แต่งเรื่อง) ได้อย่างรวดเร็ว “ท่านแม่ พี่ใหญ่ แท้จริงแล้วข้าเป็นคนที่ตายไปแล้ว” !!! “เจ้าหมายความว่าอย่างไรหยวนเออร์!!” ทั้งคู่เอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยสายตาอันตื่นตระหนก ทว่าก่อนที่นางจะเล่า นางก็สังเกตเห็นเนื้อตัวของพวกนั้นแต่ละคนนั้นแทบดูไม่ได้และยามนี้กำลังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยออกมาเป็นระยะ “ข้าว่า พวกเรารีบไปทำความสะอาดเนื้อตัวกันก่อนเถิด เมื่อเสร็จแล้ว ข้าจะออกไปรับท่านตายายมา จะได้ฟังเรื่องราวพร้อมกันทีเดียว หลังจากนั้นจะได้เข้าใจและเริ่มต้นใหม่ด้วยกันเสียที” ฉินกุ้ยหลินไม่คาดคิดว่าจะมีบ้านหลังใหญ่โตแปลกตาทั้งอยู่ในสถานที่ที่กว้างขวางใหญ่โตเช่นนี้ และเมื่อยิ่งก้าวเท้าเข้าไปด้านในตาก็ยิ่งเบิกกว้างยิ่งขึ้น นี่มันเป็นสถานที่อันใดกัน ในบ้านหลังนี้มีสิ่งของที่นางไม่เคยพบเจอเต็มไปหมด “พวกท่านเลือกห้องของพวกท่านเถิด” บ้านจำลองหลังนี้มีทั้งหมดสองชั้น ห้องของนางนั้นอยู่ชั้นสอง ซึ่งชั้นสองนั้นมีถึงสี่ห้องด้วยกัน ซึ่งด้านล่างก็เช่นเดียวกันทั้งด้านล่างยังมีห้องครัว ห้องกินอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องออกกำลังกายและห้องดูหนังอีก เรียกได้ว่าใหญ่โตครบครัน ท่านแม่เลือกห้องที่อยู่ชั้นล่าง คราแรกพี่ใหญ่ก็จะเลือกชั้นล่างเช่นเดียวกัน แต่นางคิดว่าเดี๋ยวท่านตาท่านยายมาก็คงจะอยู่ชั้นล่าง นางก็จะอยู่ชั้นบนเพียงแค่ผู้เดียว จึงได้ให้พี่ใหญ่ไปเลือกห้องที่อยู่ชั้นบนด้วยกัน เขาจึงเลือกห้องที่อยู่ถัดจากนางออกไป เมื่อทุกคนได้ห้องที่ตนต้องการแล้ว นางก็แนะนำพวกเขาเกี่ยวกับห้องของแต่ละคนว่ามีอันใดบ้าง โดยเฉพาะอุปกรณ์ภายในห้องน้ำและอ่างอาบน้ำที่จะให้พวกเขาชำระกาย ซึ่งยามนี้อ่างที่ว่ามีควันนุ่มฟูฟ่องลอยเต็มอ่างทั้งยังส่งกลิ่นหอมชวนลงไปชำระกายยิ่ง แน่นอนว่าหากทั้งสองได้ลงไปคงรู้สึกราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์อย่างแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริง! เมื่อทั้งฉินกุ้ยหลินและฉินกุ้ยหยางได้ลงไปชำระในอ่างน้ำสีขาวอันแปลกตา ก็รู้สึกว่าไม่อยากลุกขึ้นเลยสักนิด ความรู้สึกไม่สบายกายถูกชำระไปจนหมดสิ้น ทั้งยามนี้กลับรู้สึกผ่อนคลายยิ่ง พลางคิดว่าเหตุใดจึงมีสถานที่อัศจรรย์เช่นนี้อยู่บนโลกนี้ได้ ทั้งสามคนต่างก็ชำระร่างกายและผ่อนคลายจิตใจอยู่ในห้องของตนเอง ผ่านไปครู่ใหญ่จึงเสร็จเรียบร้อย สามแม่ลูกอยู่ในอาภรณ์ชุดใหม่ที่สวยงามและกลิ่นหอมสะอาด นั่งรวมตัวกันที่ห้องที่เรียกว่าห้องนั่งเล่น “เดี๋ยวข้าจะออกไปรับท่านตาท่านยายสักครู่ พวกท่านรอข้าที่นี่พร้อมเสี่ยวหลงนะ” กล่าวแล้วก็แตะข้อมือด้านซ้ายของตนทันทีตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ