ตอนที่ 6
“ฟลินท์! มาหาย่า” ผู้เป็นย่าตวาดสั่งเด็กน้อยเสียงดัง
“คุณย่า อย่าตวาดลูกผม”
“งั้นแกก็ให้ลูกแกอยู่กับย่าสิ”
“ไม่ครับ ผมก็จะพาลูกผมไปด้วย ส่วนเรื่องที่คุณย่าคิดจะรั้งลูกของผมเอาไว้เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองกับผม ผมว่าคุณย่าเลิกใช้วิธีนี้เถอะครับ ส่วนเรื่องผู้หญิงคนนั้นผมกลับไปหาแน่ แต่ผมไม่ได้คิดจะกลับไปคืนดี” คลินท์บอกเสียงแข็ง พลางโอ๋ลูกชายตัวน้อยไปด้วยและเพียงไม่กี่นาทีลูกชายก็หยุดร้อง
“ตาคลินท์! นี่แกกล้าขัดคำสั่งย่าเหรอ” คุณเซียล่าตวาดกลับด้วยความไม่พอใจเมื่อหลานชายเริ่มแข็งข้อใส่
“ผมไม่ได้อยากขัดคำสั่งคุณย่า แต่ผมเบื่อกับเรื่องนี้เต็มทนแล้ว แล้วผมขอร้อง คุณย่าอย่าตวาดใส่ลูกผมอีก” คลินท์ปรับโทนเสียงให้อ่อนลง แต่ความไม่พอใจก็ยังฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลา
“แกมันหลงลูกของแกมากไปแล้วนะตาคลินท์ แล้วอย่าให้ฉันรู้ว่าแกกลับไปหลงนังแม่มันอีกก็แล้วกัน ไม่งั้นทรัพย์สมบัติทุกอย่างของพ่อแม่แก ฉันจะยกให้คนอื่น” ผู้เป็นย่าเอ่ยเสียงกราดเกรี้ยว ใจก็ยิ่งแค้นเคืองผู้หญิงไร้สกุลคนนั้นที่ทิ้งสายเลือดเอาไว้ให้มันทิ่มแทงหัวใจของตน แล้วหากรู้ว่าการเอาเด็กนอกสมรสคนนี้เอาไว้แล้วจะทำให้หลานชายเพียงคนเดียวคิดแข็งข้อแบบนี้ ครั้งนั้นคงให้เด็กนอกคอกคนนี้ไปอยู่กับแม่ไร้สกุลคนนั้นเสียก็ดี
“ถ้าคุณย่าคิดจะเอาเหตุผลนี้มาเป็นข้อต่อรองกับผม ผมบอกเลยว่าผมไม่สน แล้วคุณย่าก็เลิกคิดจะใช้วิธีงี่เง่าพวกนี้มาบ่งการชีวิตผมได้แล้ว ผมโตแล้วนะครับ ผมตัดสินใจอะไรเองได้ เรื่องของแซนด้าก็เหมือนกัน ผมไม่มีวันแต่งงานกับแซนด้า” คลินท์ตอบกลับด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ที่ต้องมาทนรับฟังเรื่องพวกนี้ เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งคุณย่าของเขาก็มักจะพูดอยู่แบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้คุณย่าบงการชีวิตได้อีกแล้ว
“แต่หนูแซนด้าเหมาะกับแก่ที่สุด แล้วหนูแซนด้าก็รักแกนะตาคลินท์”
“แต่ผมไม่ได้รักแซนด้า”
“รักไม่รัก ยังไงแกก็ต้องแต่งานกับหนูแซนด้าตามที่ฉันสั่ง” ผู้เป็นย่าตวาดกลับด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว ขณะที่หลานชายก็ส่งลูกชายให้กับบารอนแล้วบอกให้พาขึ้นไปพัก แต่เสียงผู้เป็นย่าก็พูดแทรกขึ้นด้วยการสั่งให้จูเลียไปเอาตัวเด็กน้อยแล้วพาไปรอที่รถ
“จูเลีย! อย่าเข้าใกล้ลูกฉัน” คลินท์หันไปตวาดใส่คนของผู้เป็นย่า
“เอ่อ...” จูเลียถึงกับหน้าถอดสี ไม่รู้จะฟังคำสั่งใครดี
“จูเลีย! เอาตาฟลินท์ออกมา ฉันจะพาไปอยู่ด้วย” คุณเซียล่าออกคำสั่งอีกครั้ง
“คุณย่า ผมขอร้อง อย่ายุ่งกับลูกชายของผมเลย” คลินท์หันมาบอกกล่าวผู้เป็นย่า เพราะไม่อยากให้เรื่องราวยุ่งยากไปกว่านี้
“ฉันต้องยุ่ง เพราะฉันจะไม่ยอมให้แกพาลูกกลับไปหาผู้หญิงหน้าเงินคนนั้น จูเลีย! ไปเอาตาฟลินท์มา” ท้ายประโยคคุณเซียล่าหันไปออกคำสั่งกับ จูเลีย พยาบาลสาวที่ท่านว่าจ้างให้มาดูแลลูกของหลานชาย หลังรู้ว่าหลานชายกำลังจะเดินทางไปประเทศไทย
“จูเลีย! ถ้าเธอเข้าใกล้ลูกชายของฉัน ฉันฆ่าเธอแน่” คนหวงลูกขู่ ทำเอาพยาบาลสาวถอยร่นไปแทบไม่ทัน
“ตาคลินท์! แกอย่ามาขู่คนของย่า แล้วเอาลูกของแกมาให้ย่า แล้วแกจะไปไหนก็ไป ย่าจะไม่ห้าม” คนเป็นย่าเอ่ยสั่ง แต่คนเป็นหลานชายกลับหันไปบอกให้บารอนพาลูกชายขึ้นไปบนห้อง คุณเซียล่าจึงตวาดใส่ “บารอน! แกหยุดเดี๋ยวนี้”
“คุณย่า! คุณย่ามีแผนอะไรพูดออกมาเลยดีกว่าครับ ผมเบื่อที่จะต้องเถียงกับคุณย่าแล้วครับ” คลินท์พูดขึ้น เพราะเดาได้ว่าการมาของผู้เป็นย่าคงมีแผนการอยู่ในใจ
“แผนอะไรของแกตาคลินท์”
“ก็ที่คุณย่าจะเอาตัวลูกผมไว้ไงครับ”
เมื่อหลานชายรู้ทันแบบนี้แล้วคนเป็นย่าก็นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ฉันจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับลูกของแกอีก ถ้าแกหมั้นกับหนูแซนด้าก่อนที่แกจะไปเมืองไทย แล้วหลังจากแกจัดการเรื่องงานทางนั้นเรียบร้อยก็กลับมาแต่งงานกับหนูแซนด้า ส่วนเรื่องงานย่าจะเป็นคนจัดการให้”
“ผมไม่ได้รักแซนด้า”
“แต่งกันไปก็รักกันเองนั่นแหละ แกอย่ามาหาเรื่องไม่อยากหมั้นกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างหนูแซนด้าอีกเลยตาคลินท์”
“ผมไม่มีวันรักแซนด้า” คลินท์ยืนกรานในความรู้สึกของตัวเอง แบบไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เปลืองเวลา
“ถ้าแกไม่ทำตามคำสั่งฉัน ฉันจะทำทุกอย่างให้แกเอาตาฟลินท์ไปด้วยไม่ได้ แกอย่าลืมว่าคนอย่างฉันทำได้ทุกอย่าง แกคิดให้ดีๆ ตาคลินท์” คนเป็นย่าขู่
คลินท์กระแทกลมหายใจออกมาแล้วมองผู้เป็นย่าด้วยสายตาผิดหวังระคนตัดพ้อ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งแล้วพูดกับผู้เป็นย่า “ตกลงผมจะหมั้นกับแซนด้า แต่งานหมั้นจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผมเดินทางกลับจากเมืองไทยเท่านั้น หากคุณย่าไม่ตกลงผมก็ไม่หมั้น แล้วไม่ว่าคุณย่าคิดจะทำอะไรลูกชายของผม ผมก็จะปกป้องลูกชายของผมด้วยชีวิตของผม!” พูดจบก็เดินขึ้นห้องพักไปทันที
“คลินท์! คลินท์! แกกลับมาพูดกับย่าให้รู้เรื่องก่อน ตาคลินท์!” ผู้เป็นย่าขานเรียกเสียงดังลั่น แต่หลานชายไม่หันกลับมามอง
คนเป็นย่าเลยแต่มองตามไปอย่างขุ่นเคือง แต่คงโทษใครไม่ได้นอกจากตนคนเดียวที่ดันเอาเด็กเอาไว้ แทนที่จะให้กลับไปพร้อมผู้หญิงคนนั้น เพราะถ้าไม่มีเด็กคนนี้ หลานชายคงไม่คิดแข็งข้อกับตน
“จูเลีย! กลับ” คุณเซียล่าหันไปเรียกพยาบาล จากนั้นก็พากันออกจากบ้านของหลานชาย ไปพร้อมๆ กับคิดหาหนทางไม่ให้หลานชายกลับไปหาผู้หญิงคนนั้น!
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ