บนรถคุณหญิงนวลอนงค์ถูกจ่อด้วยอาวุธปืน เพื่อไม่ให้กระดุกกระดิกหรือว่าพูดอะไร ถ้าไม่ได้ถาม ส่วนคีตภัทรก็นั่งตัวสั่น เพราะเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาไม่กี่วัน แล้ววันนี้ก็ต้องโดนอีกแล้ว จากกลุ่มคนเดิม ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะต้องการอะไร
“เจ้านายของพวกแกต้องการอะไรอีก” คีตภัทรถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “กับแกไม่เท่าไหร่ แต่กับแม่แกมากกว่า” ชายชุดดำบอกเสียงเหี้ยม ทำให้คุณหญิงนวลอนงค์ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความกลัว เจอคนจริงที่ไม่ได้แค่ขู่อย่างจอมทัพ เธอก็ไปไม่เป็นเช่นกัน ให้รู้กันไปว่าทำให้น้องสาวของจอมทัพมีจุดจบอย่างน่าอนาถ ฉะนั้นคนที่เป็นหัวโจกก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นเช่นกัน “พวกแกจะทำอะไรฉันกับลูก แค่อุ้มลูกของฉันและคนของฉันไปซ้อมปางตายก็ยังไม่พอใจอีกเหรอ” “คุณเป็นตัวต้นเหตุคุณหญิงนวลอนงค์” “ตัวต้นเหตุอย่างนั้นเหรอ อีนังต้าเอสต่างหากที่มันเป็นตัวต้นเหตุ” คุณหญิงนวลอนงค์ยังไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย กับการกระทำของตัวเอง แน่นอนล่ะมันเป็นความผิดของต้าเอสด้วยเช่นกัน แต่กรรมมันเกิดจาบนรถคุณหญิงนวลอนงค์ถูกจ่อด้วยอาวุธปืน เพื่อไม่ให้กระดุกกระดิกหรือว่าพูดอะไร ถ้าไม่ได้ถาม ส่วนคีตภัทรก็นั่งตัวสั่น เพราะเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาไม่กี่วัน แล้ววันนี้ก็ต้องโดนอีกแล้ว จากกลุ่มคนเดิม ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะต้องการอะไร“เจ้านายของพวกแกต้องการอะไรอีก” คีตภัทรถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“กับแกไม่เท่าไหร่ แต่กับแม่แกมากกว่า” ชายชุดดำบอกเสียงเหี้ยม ทำให้คุณหญิงนวลอนงค์ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความกลัว เจอคนจริงที่ไม่ได้แค่ขู่อย่างจอมทัพ เธอก็ไปไม่เป็นเช่นกัน ให้รู้กันไปว่าทำให้น้องสาวของจอมทัพมีจุดจบอย่างน่าอนาถ ฉะนั้นคนที่เป็นหัวโจกก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นเช่นกัน“พวกแกจะทำอะไรฉันกับลูก แค่อุ้มลูกของฉันและคนของฉันไปซ้อมปางตายก็ยังไม่พอใจอีกเหรอ”“คุณเป็นตัวต้นเหตุคุณหญิงนวลอนงค์”“ตัวต้นเหตุอย่างนั้นเหรอ อีนังต้าเอสต่างหากที่มันเป็นตัวต้นเหตุ” คุณหญิงนวลอนงค์ยังไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย กับการกระทำของตัวเอง แน่นอนล่ะมันเป็นความผิดของต้าเอสด้วยเช่นกัน แต่กรรมมันเกิดจา
หลายวันต่อมา ช่วงเย็นคีตภัทรได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ และกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เหลือเพียงร่างกายที่บอบช้ำ และรักษาแผลบริเวณใบหน้ารวมถึงที่มือ ดังนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่ที่น่าอายก็คือ ฟันด้านหน้าของเขาหายไป 3 ซี่ ต้องหา Mass มาปิดปากเอาไว้ก่อน เพื่อรอเวลาที่จะไปใส่ฟันปลอมระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านอยู่นั้น ก็ได้มีรถเก๋งคันสีดำ ขับตามไม่เว้นระยะห่างเลย เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งสองด้านถูกขนาบข้างด้วยมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ และคันละสองคน น่าจะเป็นผู้ชาย ซึ่งแต่งชุดดำและปิดใบหน้าด้วยกันทั้งคู่ ไม่ว่ารถของคีตภัทรจะเลี้ยวไป หรือจะติดไฟแดงตรงจุดใด รถทั้งสามคัน ก็จะตามประกบเหมือนเช่นเคยเขารู้สึกหวาดระแวงจนต้องหันไปมอง และต้องบอกให้คนขับรถพยายามขับเลี่ยงออกไปให้ได้“ตาคีย์แกเป็นอะไร” คุณหญิงนวลอนงค์ถามขึ้น ขณะที่มองตามสายตาของลูกชาย“ผมรู้สึกว่ามีคนขับรถตามเรานะแม่” พอคีตภัทรพูดจบ คนเป็นแม่ก็หันมองตามทันที แล้วก็เห็นเป็นดังนั้น“จริงด้วย” คุณหญิงนวลอนงค์พูดด้วยความตกใจ สายตาก็ดูเบิกกว้าง หั
แต่จอมทัพไม่ได้ไปส่งอลินกลับหรอก ทว่าพาบ้านของเขา ให้เธอได้เห็นความเป็นไปทั้งหมดตามที่เธอได้พูดเอาไว้ว่า จะปักหลักเพื่อที่จะทำให้จิตใจของเขาพ่ายแพ้ต่อความแค้น แล้วเธอก็จะใช้ความดีและความรักเข้าแลก ฉะนั้นแล้วก็ต้องอยู่ที่คฤหาสน์เฉินนี่แหละแค่รถเลี้ยวเข้ามาในซอยกว้างขวาง บ้านเรือนสองฝั่งเต็มไปด้วย คนไทยเชื้อสายจีน และมีมูลนิธิขนาดใหญ่ตั้งอยู่พร้อมกับกลุ่มคนจำนวน นับสิบๆ คนอยู่ในชุดสีดำ ยืนอยู่ด้านหน้าคล้ายกับจะทำกิจกรรมอะไรบางอย่างแต่เมื่อรถของจอมทัพชะลอเล็กน้อยเหมือนจะเป็นการทักทาย ทุกคนก็โค้งคำนับให้อย่างพร้อมเพรียง ทำให้อลินหันไปมองด้วยความประหลาดใจ เท่านั้นยังไม่พอ ภายในมูลนิธิหรือว่าสมาคมนั้น ก็มีสมาชิกอีกนับไม่ถ้วนออกมาพร้อมกับโบกมือมายังรถของจอมทัพ ราวกับรู้ว่าคนที่อยู่ภายในนั้นเป็นใคร แต่เขาไม่ได้ลดกระจกลงแค่หันไปมอง แล้วยกมือขึ้นผ่านกระจกเท่านั้นบุคลิกของชายหนุ่มเวลานี้ มีความน่าเกรงขามมาก ไม่เหมือนพี่เฉินผู้อ่อนโยนของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว จากนั้นรถก็และผ่านหน้าสมาคมไปจนกระทั่งถึงรั้วบ้านขนาดใหญ่สีขาว ความสูงของรั้วน่าจะเลยศีรษะ เรียกได้ว่าเ
“และพี่พยายามแล้ว พี่ก็ทำไม่ลง แค่กับเล็กคนเดียว”“เล็กขอรับกรรมทั้งหมดแทนทุกคนที่ทำกับต้าเอส ให้พี่เฉินระบายความโกรธแค้นมาที่เล็กเพียงคนเดียว อย่าทำกับพวกเขาอีกเลยนะคะ” ฟังคำขอของเธอแล้ว มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่าเดิม เธอคงยอมได้เพื่อคนที่เธอรัก “รู้ว่า ครอบครัวของเล็กสู้พี่เฉินไม่ได้ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ไม่มีแม้แต่พละกำลังหรือ Power ที่จะมาปกป้องตัวเอง จากความเจ็บแค้นของพี่เฉิน แต่เล็กอยากจะขอ ไว้ชีวิตทุกคนได้ไหมคะ ตอนนี้ทุกคนคงหวาดกลัวและเจ็บปวดเหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งแม่และพ่อ” ใช่แล้วป้าจอมทัพรู้ทุกคนกำลังได้รับกรรมในสิ่งที่ตัวเองทำ เขาก็แค่เป็นคนเพิ่มความเจ็บปวดของกรรมนั้นมากขึ้นเท่านั้นเอง แต่เขาก็ได้รับการไม่ต่างจากเธอหรอก ต้องเจ็บปวดที่สูญเสียน้อง ต้องเจ็บปวดที่รักเธอ “ไม่ได้อยากเห็นเล็กร้องขอชีวิตแทนคนอื่น พี่อยากเห็นพวกเขาร้องขอชีวิตจากพี่”“พี่เฉิน” เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งน้ำตา ขณะที่เขาก็กำลังมองเธอด้วยดวงตาแดงก่ำเช่นกัน“พอแล้วกับค
“พี่เฉินคะ เล็กขอโทรศัพท์กลับบ้านได้ไหมคะ” เธอเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จโดยที่เขาออกมายืนรับลมที่ริมลำธาร แต่ความเงียบของเขาทำให้เธอรู้สึกประหม่า ทำได้แค่เพียงมองแผ่นหลังกว้างๆ ในจังหวะเดียวกันนั้น เขาก็เอียงคอกลับมาเพียงเล็กน้อย“พวกเขารู้ว่าเล็กอยู่กับพี่”“แต่เล็กก็อยากจะบอกแม่ว่าเล็กปลอดภัย” เขาสูดหายใจเข้า ลึกๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองส่งให้กับเธอ“ขอบคุณค่ะ” เธอรับโทรศัพท์มา แล้วก็กดหมายเลขของทางครอบครัว นั่นก็คือเบอร์โทรของแม่ เพื่อจะบอกท่านให้รู้ว่าเธอปลอดภัยกริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์ของอีกฝ่ายดังขึ้น ขณะที่คุณหญิงนวลอนงค์ยังอยู่ในอาการเศร้าหมอง ลูกคนอื่นๆ ไปทำงานแล้ว และท่านก็อยู่เฝ้าบ้าน อย่างเหงาๆกริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก เพราะเธอยังไม่กดรับ ก่อนจะได้สติแล้วสะดุ้ง จากนั้นจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์แปลกไม่ขึ้นชื่อ แต่ก็กดรับ“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงเหมือนพูดออกมาอย่างหมองหม่น“แม่ น
“เล็กยอมรับมัน จะยอมรับกรรมนี้ แก้แค้นเล็กให้สาสมเลย แต่ให้อภัยครอบครัวเล็กเถอะนะคะ” สิ้นคำเธอก็กอดเขาเอาไว้แนบแน่นเหมือนอย่างเคย เขาก็ได้แต่ถอนหายใจและกอดตอบแนบแน่นเช่นกัน “หิวหรือยังคะ นี่ก็ค่ำมืดแล้ว” เธอพยายามเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้เครียดไปมากกว่านี้“หิวแล้วนิดหน่อย แต่เล็กทำอะไรไม่ค่อยเก่งไม่ใช่เหรอ” คำถามของเขาทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองปลายคาง ที่มีเคราประปาย“เราทำด้วยกันก็ได้นะคะ”“ทำด้วยกันอย่างนั้นเหรอ” เขากระซิบถามชิดปากอิ่ม ความหมายเหมือนไม่ได้จะทำอาหารเลย“ค่ะ ทำด้วยกัน” เธอกระซิบตอบเสียงหวาน จากนั้นจึงลุกขึ้น และจับมือเขาให้ลุกตาม เพื่อที่จะได้จูงกันเข้าห้องครัว เรียกได้ว่าเธอทำให้ความคิดของเขาร่วงกลางอากาศเลยทีเดียว แต่ชายหนุ่มก็ยิ้มขณะที่เดินตาม“จะให้พี่ช่วยทำอาหารในชุดนี้เหรอ” เพราะว่าเขาใส่เพียงชุดคลุมเท่านั้น ภายในก็ใส่แต่กางเกงบ๊อกเซอร์ ส่วนเธอก็ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตที่คลุมสะโพกลงไปนิดหน่อย น่ามองชะมัด
“ไม่ พี่เฉิน” เธอโน้มตัวเข้าไปสวมกอดเขาเอาไว้ เหมือนจะไม่ยอมทำตามและจะไม่ไปไหน เธอจะอยู่จนกว่าจะทำให้เขาใจอ่อน จะเป็นน้ำเย็นชโลมใจให้เขา เพื่อหวังให้ไฟแค้นลดลง ต่อให้ต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม“เล็กจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะไม่กลับบ้าน เราจะอยู่ด้วยกันตรงนี้”“งั้นเล็กก็ต้องรับให้ได้ ถ้าพี่จะร้ายกับทุกคน”“เล็กจะใช้หัวใจของเล็ก ดับไฟแค้นที่สุมทรวงพี่เฉินให้มันดับมอดลง” คำพูดของเธอ ทำให้เขาเอียงคอมองหน้าอีกครั้ง“จะต่อกรกับมาเฟียเหรอ” เขาถามเสียงนุ่ม“จะสู้กันสักตั้ง แต่เล็กจะตั้งป้อมรบที่นี่”“ไม่กลัวพี่เหรอ”“วันแรกกลัว แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว” เขาพูดจบก็ใช้นิ้วเชยคางเธอและประกบจูบอีกครั้ง“ถ้าเล็กรู้ว่าพี่ทำอะไรได้บ้างแล้ว เล็กจะไม่พูดแบบนี้ และอาจจะเกลียดพี่ไปเลยก็ได้” เขาบอกเสียงแผ่ว พลางจ้องมองที่เรียวปากอิ่ม
“เหมือนฟ้าจะรู้ล่วงหน้า”“แน่นอนครับ ไม่มีอะไรที่บังเอิญ อีกอย่างคุณท่านคงเกลียดเธอไม่ลงหรอก เพราะอะไรรู้ไหม”“อะไร” จอมทัพถามเสียงเรียบ“ถ้าเกลียด มันคงไม่จบแบบนี้หรอก”“อยากจะร้าย อยากจะเลว แต่ภาพวันนั้นมันก็หวนมาให้ฉันคิดถึง ฉันรักตัวเล็กเหลือเกินโจว์”“ความรักอาจจะทำให้คุณท่านไว้ชีวิตพวกนั้นก็ได้นะครับ” จอมทัพได้แต่พยักหน้า พลางถอนหายใจ“แล้วกินอะไรหรือยังครับเนี่ย”“ยังเลย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวจัดการเอง ว่าแต่ไปส่งคีตภัทรแล้วได้ให้คนส่องดูหรือเปล่า”“ก็ให้คนตามไปดูที่โรงพยาบาลครับ เห็นตามพ่อมาดูด้วย ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวว่ายังไง ได้ยินแต่ขอจ้างบอดี้การ์ด”“หึๆ” “แต่เขาไม่มีกำลังหรอกครับตอนนี้ เพราะแทบจะหมดตัว ไปแต่ตัวเหลือทุกอย่างไว้ให้ลูกเมีย”
ขณะที่เธอก็หายใจหอบกระชั้น ความต้องการที่จะไปให้ถึงขอบฟ้านั้น ล้นอกอกจนแทบจะคุ้มคลั่ง สติเตลิดเกินจะกู่กลับ จนกระทั่งเป็นฝ่ายโน้มตัวขึ้นไปถอดบ็อกเซอร์ออกให้เขาเลยทีเดียว แต่เขาก็ช่วยถอดมันออกไปจากตัวอย่างรวดเร็ว และเตะลงไปไว้ข้างเตียง เวลานี้เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่กอดแนบแน่น ท่อนเนื้ออันแข็งตระหง่าน บดเบียดถูไถ่ไปกับร่องรักที่เปียกแฉะเขาเอื้อมมือลงไปขยับรูดระรัวๆ เพื่อกระตุ้นให้มันขยายใหญ่มากขึ้น ก่อนจะจดจ่อส่วนปลายกับร่องรัก แล้วกดเน้นหาทางเข้า ซึ่งเธอก็แอ่นเนินสวาทยกรับ หวังให้ท่อนเนื้อนั้นขยับเข้าไปได้โดยง่าย“ซี๊ดดดด เปียกมาก พี่ชอบที่สุดเลย” เขาเอ่ยปากชม พร้อมกับส่งเสียงซี๊ดซ๊าดในลำคอ เพราะความเสียวซ่านเมื่อท่อนกลายค่อยๆ จมหายเข้าไป ไม่ได้ยากเย็นเหมือนตอนแรก และความลื่นเหนียวของน้ำหวาน ทำให้ท่อนกายจมเข้าไปจนสุดลำ ทำให้เนินกายแนบแน่นเป็นเนื้อเดียว ลึกจนเธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว จนต้องจับสะโพกเขาเอาไว้ แบะขาออกจากกันมากขึ้น แล้วยกสะโพกขึ้นไปหา ในจังหวะที่เขาเริ่มกระแทกสะโพกลงเพื่อ ท่อนกายขนาดใหญ่คืบคลานเข้าๆ ออกๆ