เช้าวันใหม่ ดูเหมือนจอมทัพไม่ได้หลับมาตลอดทั้งคืน เรียกว่าหลับๆ ตื่นๆ ก็ยังได้ เวลานี้เขาตาแข็งราวกับดื่มกาแฟ ข้างกายมีคนรักที่นอนกอดก่ายมาตลอดทั้งคืน โดยที่เธอนอนหนุนแขนซ้ายเขาเอาไว้พร้อมกับใช้มือฝ่ามือประคองศีรษะและลูบผมอย่างแสนรัก ส่วนแขนขวาก็เสยผมที่ปกปิดใบหน้าออกให้
เขายื่นจมูกเข้าไปกดจูบที่กลางหน้าผาก ทว่าคนตัวเล็กไม่รู้สึกตัว เธอหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย เขาจึงขยับลุก พร้อมกับประคองศีรษะเธอให้นอนหมอนแทน ส่วนตัวเขาค่อยๆ ขยับลงจากเตียงแล้วรั้งผ้าห่มขึ้นคลุมตัวให้เธอ จากนั้นจอมทัพก็เดินไปหยิบชุดคลุมในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ พร้อมกับบุหรี่หนึ่งตัว เดินไปเปิดประตูระเบียง แล้วยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น ทุกครั้งที่พ่นควันออกมา มันเต็มไปด้วยความเครียด เศร้าอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งที่มีคนรักข้างกาย แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาหยุดดำดิ่งได้เลย ถามตัวเองว่าทำไมถึงได้ทุกข์ใจถึงเพียงนี้ ยิ่งอลินทำดีและไม่ถือโทษที่เขาทำร้ายแม่และพี่ๆ ของเธอเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด และยิ่งเธอรักเขามากแค่ไหน เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่ เขาผิด ร้ายกาจ ใจคอโหดร้ายกับครอบครัวเธอ แต่ดูเถอะ เธอก็ยัง“หลานยายใช่ไหม ที่ทำให้คุณเฉินเปลี่ยนไป”“น้องเล็กต่างหากล่ะครับ น้องเล็กเข้ามาเปลี่ยนผมตั้งแต่แรก ไม่งั้นผมคงไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ คงต้องมีความสูญเสียตกตามกันไป เพราะเล็กรักผม และใช้ความรักดูแลผม จนหัวใจของผมต้องยอมแพ้ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ จนกระทั่งเรามีพยานตัวน้อยๆ ที่กำเนิดมาทำให้โลกของผมกลับมาสดใสขึ้น”“แค่อภัยให้กันทุกอย่างก็ปลดล็อกอย่างน่าอัศจรรย์” คุณหญิงนวลอนงค์กล่าวทั้งน้ำตา“ขอบใจหนูนะยัยเล็ก” คุณหญิงนวลอนงค์หันมาบอกกับลูกสาวคนเล็ก เพราะถ้าไม่ใช่อลินที่คอยใช้หัวใจรักษาความแค้นของจอมทัพ ใช้ความรักโอบกอด ให้ความโกรธนั้นลดลง ก็คงจะน่ากลัวอยู่ว่า จอมทัพคงจะล้างบางทั้งตระกูล กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง!“ว่าไงจ้ะ”“พี่เฉินคะ ใกล้จะถึงบ้านหรือยัง”“ใกล้แล้วจ้ะ กำลังเลี้ยวเข้าซอย ทำไมเหรอ”“ยัยหนูแอบไปซ่อนตัวที่ไหนไม่รู้ เล็กตามหาให้ทั่วเลย” น้ำเสียงของอลินค่อนข้างจะร้อนใจ“ซ่อ
อลินไปบอกข่าวดีกับแม่ พี่สาวและพี่ชายที่บ้าน ว่าทุกคนกำลังจะมีหลาน แต่จอมทัพก็ถือโอกาสเดินทางมาด้วย แน่นอนคนอย่างเขา เจ้าพ่อมาเฟีย มาธรรมดาโลกไม่จำ มีผู้ติดตามมาด้วยประมาณ 4 คัน ทุกคันจอดอยู่ที่นอกรั้วทั้งหมด มีคันของจอมทัพเพียงคันเดียวที่เข้ามาถึงในบ้านและด้วยรัศมีของลูกเขยคนนี้ ทำให้คนในบ้านของอลินต้องยอมสยบ ยิ่งเจียมเนื้อเจียมตัว แม้คุณหญิงนวลอนงค์จะเป็นแม่ยายของจอมทัพก็ตาม เธอก็ยังมีอาการหวั่นเกรง“สบายดีใช่ไหมลูก” คุณหญิงนวลอนงค์ถามบุตรสาว“สบายดีค่ะแม่” อลินตอบพลางมองหน้าทุกคน ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก แต่ให้ลูกเขยนั่งโซฟาตัวใหญ่ราวกับเจ้าบ้าน ส่วนเจ้าของบ้านนั่งข้างๆ กัน“คุณอา สบายดีใช่ไหมครับ” จอมทัพเป็นคนเอ่ยถามขึ้น แต่คำถามแสนอ่อนโยนนั้นทำให้คุณหญิงนวลอนงค์แทบสะอึก ก้อนสะอื้นดันจุกอยู่ที่คอ จนต้องก้มหน้าลง เพราะเธอเข้าใจดีว่า คำว่าสบายดีนั้นมันรวมๆ ไปจนถึงทุกเรื่องที่ผ่านมาในชีวิต“ตอนนี้ฉัน อา… สบายดีขึ้นมากค่ะ ตั้งแต่วันนั้นที่เริ่มปลงตก” คุณหญิงนวลอนงค์บ
“คุณพระคุณเจ้า พ่อคุณของป้า ทำเอาใจหายใจคว่ำ” ป้านาบอกด้วยความเป็นห่วง ระคนด้วยเสียงสั่นเครือ จอมทัพก็ไม่มีแม้คำจะเอ่ย เพราะเมื่อได้เห็นหน้าทุกคนที่พากันดีใจ ก็ทำให้เขารู้สึกผิดที่คิดจะทิ้งทุกคนไป โดยปล่อยภาระให้อลินดูแลแทน ในขณะที่ทุกคนรอการกลับมาของเขา“ฉันขอโทษทุกคนนะ ขอโทษนะครับ” พูดจบเขาก็ยิ่งกอดป้านาเอาไว้แน่น“คนแก่จะหัวใจวายนะคะ”“ฉันจะไม่ทำให้เป็นห่วงอีก” พูดจบเขาก็ดันป้านาออก“ทุกคนรักคุณท่านนะคะ”“ฉันรู้แล้ว” เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ทว่านัยน์ตายังมีน้ำใสๆ คลอเคล้าอยู่ ตั้งแต่มีความรักรู้สึกจิตใจของเขาจะอ่อนไหวเหลือเกิน จากผู้ชายที่แข็งแกร่งดุจภูผา แทบจะฟันแทงไม่เข้า เจ็บปวดไม่แสดงอาการ แต่ดูตอนนี้เธอ“เข้าบ้านกันนะทุกคน” จอมทัพบอก“ป้า ทำอาหารไว้รอ อยากให้กลับมากินอาหารแบบพร้อมหน้าพร้อมตา จะได้ไหมคะ” ไม่บ่อยนักที่ป้านาจะขอร้องเขาเพราะเมื่อก่อนป้านารู้ว่าจอมทัพเป็นคนที่ดุมากแค่ไหน จะพูดหรือขอร้องสิ่งใ
“คุณท่าน อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ บ้านเราต้องมีทั้งคุณท่านและนายหญิง ถึงจะสมบูรณ์แบบ” โจว์เอ่ยแทรกขึ้นน้ำเสียงเครือ ก้าวเท้าเข้าไปหาช้าๆ“อย่าเข้ามาโจว์” จอมทัพขู่ด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นทำให้โจว์ต้องชะงักเช่นกัน“อย่าเข้ามา” คราวนี้จอมทัพปรับน้ำเสียงให้หม่นลง ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวกลับไปทางเนินเขา ซึ่งมีเส้นทางลาดลงไปสูงพอสมควร อลินหันกลับมาหาโจว์เล็กน้อยแล้วตวัดมือให้ออกไปห่างๆ“เล็กจะจัดการเองค่ะ” เธอกระซิบแผ่วเบา โจว์ก็ได้แต่พยักหน้าและถอยออกไป ในจังหวะเดียวกันนั้น อลินจึงเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นระทึก กลัวเหลือเกินถ้าเขาตัดสินใจเร็ว เพราะเธอไม่มีสกิลในการหว่านล้อมในเหตุการณ์แบบนี้“พี่เฉิน กลับบ้านเรานะคะ ถ้ายังรักกัน เรามาเริ่มต้นกันใหม่ เริ่มสิ่งดีๆ กันใหม่ สิ่งที่ผ่านมาแล้วให้คิดซะว่ามันเป็นฝันร้าย” เขาได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับหลับตา น้ำตาเจ้ากรรมก็ร่วงหล่นลงข้างแก้ม ในจังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ยกปืนขึ้นจอที่ขมับของตัวเอง เท่านั้น
“ไม่ลำบากไม่ได้สิคะ ป้ารู้นะว่านายหญิงไม่ใช่คนตัวคนเดียวแล้ว ป้าเชื่อว่าในท้องนี้มีอีกหนึ่งชีวิต ที่กำลังจะเกิดมา ฉะนั้นอย่าให้ความเป็นห่วง ความเป็นกังวล มาทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยนะคะ มันจะไม่ดีต่อเจ้าตัวเล็กเปล่าๆ นายหญิงต้องดูแลตัวเองดีๆ”“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง เล็กไปหาหมอมาแล้วเมื่อวานนี้ กำลังจะบอกข่าวดีเรื่องนี้กับพี่เฉิน แล้วก็ค่อยบอกกับทุกคน แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมันทำให้เล็กไม่มีเวลาได้คิดอะไรเลย”“คุณท่าน ไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้มาก่อน ป้าล่ะเป็นห่วง เขาแบกรับอะไรไว้หลายอย่างมากมายในชีวิต เมื่อถึงคราวที่แบกรับเอาไว้ไม่อยู่ อาจจะแสดงออกมาในรูปแบบของจิตใจที่ดำดิ่ง หมกมุ่น เครียด แล้วก็อยากอยู่คนเดียวแบบนี้ เรื่องของคุณเอสทำให้คุณท่านรู้สึกแย่มากๆ ป้าขอให้เจอคุณท่านนะคะ”“ค่ะป้านา เล็กจะพาเขากลับมาให้ได้” อลินจับมือป้านาเอาไว้แน่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าคนรับใช้คนอื่นๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ แม้จะรู้สึกว่าไม่มั่นใจก็ตามจากนั้นโจว์จึงได้
ขณะที่ลูกน้องสองคนก็มาถึงโรงแรม พวกเขาพยายามเดินตามหาเจ้านายทุกจุดเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร ร้านคาเฟ่ หรือแม้กระทั่งร้านอาหารที่อยู่บนดาดฟ้า ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้านายจะอยู่ กระทั่งไร้หนทางเขาจึงถามกับพนักงานรีเซฟชั่น“ไม่ทราบว่าเห็นคุณท่าน มาที่โรงแรมหรือเปล่าครับ” นายทิว เป็นคนเอ่ยถามกับพนักงาน“ตั้งแต่คุณท่านออกไปกับคุณผู้ช่วย ในช่วงบ่ายจากนั้นก็ไม่เห็นคุณท่านกลับมาอีกเลยนะคะ”“แน่ใจนะครับ ไม่ใช่ว่าคุณท่านผ่านตาแล้วมองไม่เห็นกันหรือเปล่า”“เรามองมองเห็นแขกทุกคนค่ะ ไม่ให้คลาดสายตา คุณท่านยิ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ ฉะนั้นถ้าคุณท่านมาเราก็ต้องเห็นนะคะ แต่นี่คุณท่านไม่ได้กลับมาเลย”“โอเคเอ่อ ขอบคุณมากครับ”“ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรให้รับใช้หรือว่าดูแลหรือเปล่าคะ” ใจจริงพนักงานอยากจะถามว่าทำไมถึงถามหาจอมทัพ ทั้งที่ลูกน้องแต่ละคนคอยรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายอยู่แล้ว“ไม่ครับขอบ