“ผมนัดหมายกับเธอบนเครื่องบินแล้ว ถ้าทางเธอไฟดับ นั่นเป็นสัญญาณที่พวกเราจะเข้าไปช่วยเธอ ถึงเวลานั้นให้เธอฉวยโอกาสที่กำลังวุ่นวายหามุมซ่อนตัว รอจนพวกเราเข้าไปแล้วฆ่าศัตรูให้หมดก็ช่วยเธอออกมาได้แล้ว!” “ถ้าไม่ทำลายระบบวงจรไฟฟ้าของพวกเขา และทำให้ระบบภายในเสียหาย พวกเขาจะต้องใช้เธอเป็นตัวประกันข่มขู่พวกเราแน่!” ……ภายในวิลล่า หลังจากวิดีโอถูกวางสายไปแล้ว เสียงของฉินอันอันก็หายไปเช่นกัน หลังจากที่เธอหยุดดิ้นรนขัดขืนไม่ร้องไห้แล้ว ความสนใจของอิ๋นหวังก็ลดลงเหตุผลทั้งหมดนี้ก็เพื่อเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นคนของเขานั่นเอง มีเพียงแค่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของเขาเท่านั้น เธอถึงจะยอมอยู่อย่างสมัครใจ และเหตุผลที่โทรวิดีโอหาฟู่สือถิง ก็เป็นเพราะเขาตรวจสอบเจอว่าฟู่สือถิงคือผู้ชายของเธอหากทำให้ฟู่สือถิงเห็นว่าเธอถูกเหยียบย่ำ ฟู่สือถิงไม่มีทางต้องการเธออีกแน่นอน “ทำไมคุณไม่ร้องแล้วล่ะ? คุณคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะมาช่วยคุณจริง ๆ เหรอ?” อิ๋นหวังยิ้มและตบหน้าเล็ก ๆ ที่เย็นชาของเธอ “คุณรู้ไหมว่ามีทหารซ่อนอยู่ในป่าด้านล่างวิลล่ากี่คน? ถ้าผมไม่อนุญาต ไม่มีใครสามารถเข้ามาในวิลล่าของผมได้!” “ลูกสาวคุ
ไมค์เอาสองมือปิดหน้า ทรุดตัวลงและร้องไห้ “ผมเสียใจมาก! ทำไมเมื่อคืนนี้ผมถึงได้พูดจาโหดร้ายกับเธอขนาดนั้น!” ฟู่สือถิงคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ดวงตาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดร้าว “ตอนนั้นเธอทั้งหวาดกลัวและทำอะไรไม่ถูกเอามาก ๆ ถึงผมจะไปช่วยเธอไม่ได้ในทันที แต่ก็ไม่ควรพูดออกมาเลย! เธอได้ยินคำพูดของผมจะต้องสิ้นหวังมากแน่ ๆ…” ไมค์รู้สึกผิดมากจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ลูกกระเดือกฟู่สือถิงขยับขึ้นลงพร้อมกับพูดด้วยเสียงแหบพร่า “หยุดร้องได้แล้ว! ทำลายระบบใกล้เสร็จรึยัง?”ไมค์เช็ดน้ำตาด้วยมือทั้งสองข้างแล้วเหลือบมองความคืบหน้าบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ “ใกล้แล้วล่ะ… เสร็จภายในเที่ยงคืนนี้แน่นอน ผมปวดหัวมาก ถ้าฉินอันอันตายแล้วจริง ๆ ผมจะทำยังไงดี?” ฟู่สือถิงเองก็ไม่กล้าตั้งสมมติฐานนี้ “คุณกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนเถอะ!” ไมค์มองตอเคราสีเขียวครึ้มที่คางของเขาที่โผล่ออกมา แล้วคิดว่าบางทีเขาอาจจะเจ็บปวดมากกว่าตัวเอง เพราะยังมีลูกที่ยู่ในท้องของฉินอันอันด้วยเขายืนอยู่ที่เดิม ท่าทางเหม่อลอย ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ไมค์พูด “คุณต้องกลับไปดูแลเด็กสองคนแล้วก็ยังมีอิ๋นอิ๋นอีก” ไมค์เพิ่มเสียงให้ดังขึ้น เขาถึงได้มีป
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมคะ? ฉันจะไปทำมื้อเที่ยงนะคะ” ป้าหงพูดพร้อมกับเดินไปที่ห้องครัว ฟู่สือถิงมองดูบ้าน ที่มีสไตล์การตกแต่งเป็นแบบมินิมอลและมีเค้าโครงที่ชัดเจนในการมองแค่แวบเดียว รุ่ยลาคิดว่าเขากำลังหาห้องอยู่ ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องรับแขกอย่างรวดเร็วแล้วชี้บอกทางเขา “คุณนอนในห้องนี้ค่ะ!” ฟู่สือถิงส่งเสียงตอบรับ แต่สายตาของเขากลับถูกกรอบรูปบนตู้ดึงดูด ในกรอบรูปคือภาพถ่ายครอบครัวทีมีจางหยุนและฉินอันอันนั่งอุ้มเด็กทารกด้วยกัน เขาเดินไปที่ตู้แล้วหยิบกรอบรูปขึ้นมาดูอย่างละเอียด มีคำว่า ‘พวกเราอายุครบหนึ่งขวบแล้ว’ เขียนไว้มุมขวาล่างของรูปภาพ เพราะฉะนั้น น่าจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตอนที่เด็กสองคนนี้อายุหนึ่งขวบ เด็กทารกอายุหนึ่งขวบสองคนนี้ คนหนึ่งสวมสูทจิ๋วสุดหล่อ อีกคนสวมชุดเจ้าหญิงสีขาว มีมงกุฎประดับบนศีรษะ… เห็นได้ชัดว่าเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ดังนั้น นี่คือเสี่ยวหานและรุ่ยลางั้นเหรอ? “คุณรีบมาเร็ว ๆ สิคะ!” รุ่ยลายืนอยู่ที่ประตูห้องรับแขกและตะโกนบอกฟู่สือถิง “มาดูเตียงที่หนูตกแต่งให้คุณสิคะ!” ฟู่สือถิงวางรูปถ่ายลงแล้วเดินหาไปรุ่ยลาทันที ห้องพักแขกที่อยู่ชั
เวลาผ่านไปนาทีต่อนาที ท้องฟ้าด้านนอกมืดลง ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมา ถึงแม้ไม่หนักมากแต่ก็มากพอที่จะรบกวนจิตใจได้“คุณฉิน ยาเย็นลงแล้ว” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ฉินอันอันได้สติกลับมา เธอเดินไปที่ถังไม้แล้วยื่นมือไปทดสอบอุณหภูมิของยาน้ำ “เอาศพลงเลย!” เธอพูด “เอ่อ…ใส่ไปแบบนี้ จะไม่แช่จนเน่าเหรอ?” ผู้ช่วยอิ๋นหวังถาม “คุณฉิน คุณสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้จริง ๆ ใช่ไหม?” ฉินอันอันมองเขาอย่างเย็นชา “คุณกำลังตั้งคำถามกับฉันเหรอ?” “ฉันแค่อยากรู้” ฉินอันอันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่คือยาสูตรลับ ศพจะไม่เน่าเปื่อย” ผู้ช่วยเห็นว่าเธอจริงจังอย่างมากในสิ่งที่พูด ดังนั้นจึงไม่ตั้งคำถามอีก บอดี้การ์ดสองสามคนยกศพหญิงสาววางไว้ในถังไม้ ฉินอันอันมองเห็นใบหน้าตื่นตระหนกในระดับต่าง ๆ ศพหญิงสาวเมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่ว่าจะสวยขนาดไหนก็ไม่มีใครชื่นชมความงามของเธอ คนตายไม่ได้น่ากลัว ที่น่ากลัวคือสิ่งที่เราไม่รู้“คุณฉิน ต้องทำอะไรต่อไป?” ผู้ช่วยถาม “รอ” ฉินอันอันยืนอยู่ข้างถังและพูดเสียงเรียบผู้ช่วยใบหน้ามีประหลาดใจ “รออะไร?” “รอให้เธอคืนชีพกลับมา” หลังจากที่ฉินอันอันพูดสิ่งนี้แล้ว ในใจของเธ
“ฉินอันอันล่ะ ฉินอันอันอยู่ที่ไหน?!” อิ๋นหวังแผดเสียงคำราม “ไอ้พวกหมูโง่! ทำไมไม่พาเธอมาหาฉัน?!” บอดี้การ์ดและผู้ช่วยต่างพากันตามหาฉินอันอันเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเธอยืนอยู่ข้างถัง ไม่ขยับตัวเลยแล้วทำไมจู่ ๆ ถึงหายไปได้? ไฟฉายในมือของผู้ช่วยฉายไฟไปยังศพหญิงสาวที่แช่ในถังไม้ โทรศัพท์ในมือหล่นลงพื้นส่งเสียงดัง ‘ปัง’! “ผี! ผีหลอก!” มีคราบเลือดสองสามหยดติดอยู่ที่หางตาและมุมปากของศพหญิงสาว เหมือนกับว่าศพเปลี่ยนสภาพไปแล้ว มันน่ากลัวมาก! ผู้ช่วยตกใจกลัวจนวิ่งหนีเตลิดไปแล้ว! บอดี้การ์ดที่ถือไฟฉายต่างพากันฉายไฟไปที่ใบหน้าของศพหญิงสาวด้วยเช่นกัน ถึงแม้ทุกคนจะไม่กรีดร้อง แต่ก็วิ่งหนีไปโดยอัตโนมัติ “เจ้านาย ด้านนอกมีเฮลิคอปเตอร์เยอะมาก!” หลังจากผู้ช่วยวิ่งหนีมาที่ชั้นหนึ่ง ก็พบว่าด้านนอกน่ากลัวยิ่งกว่าผี! อิ๋นหวังกัดฟันแล้วยกปืนขึ้น ชี้ไปศีรษะของศพหญิงสาวแล้วเหนี่ยวไกปืน ครั้นเสียง ‘ปัง ปัง’ ดังติดต่อกันหลายครั้ง ส่วนศีรษะของศพหญิงสาวก็มีรูกระสุนปรากฎขึ้นหลายรู! นี่ไม่ใช่ลูกสาวที่เขารักสุดหัวใจอีกต่อไปแล้ว ลูกสาวของเขาเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลก ไม่ใช่ผีที่น่ากลัวแบบนี้!
ดวงตาของฟู่สือถิงเปลี่ยนเป็นอาฆาตทันที! คุณหมอรีบเปลี่ยนคำพูด “ฉันไม่ได้พูดว่าเธอตายแล้ว เธออาจเสียเลือดมากจนตกอยู่ในภาวะตกใจชั่วคราว แค่ ตกใจน่ะ!” ขนตาฟู่สือถิงสั่นเล็กน้อย เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกอดหญิงสาวในอ้อมแขนแน่น จนแทบจะผสานร่างของเธอเข้ามาในตัวเขา ครู่ต่อมา เฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดที่โรงพยาบาล และฉินอันอันก็ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อทำการช่วยชีวิต ฟู่สือถิงยืนอยู่นอกประตูห้องฉุกเฉิน ราวกับถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราวไว้ทั้งตัวร่างกายและหัวใจของเขาเหมือนจะกลวงเปล่า! ถ้าหากเกิดความผิดพลาดอะไรก็ตามกับฉินอันอัน เขาจะทำยังไง? เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นแทรกอารมณ์และความคิดอันเจ็บปวดของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดปุ่มรับสายอัตโนมัติ “ฉินอันอันเป็นยังไงบ้าง?! ผมจัดการอิ๋นหวังเรียบร้อยแล้ว!” ไมค์พูดอย่างภาคภูมิใจ “ตาแก่นี่! ผมรู้อยู่แล้วว่าจะเขาออกมาทางประตูด้านหลัง… พอเขาออกมาปุ๊บผมก็จับเขาปั๊บ!” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงขยับขึ้นลง น้ำเสียงแหบพร่า “เธอถูกยิงที่แขน ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่” “พวกคุณอยู่โรงพยาบาลไหน?! ผมจะไปเดี๋ยวนี้!” ไมค์ชะงักไปชั่วขณะแล้วถามว่า “ตอนคุณเจอเ
แน่นอนว่าเขาเลือกฉินอันอัน เขาไม่อยากทอดทิ้งลูก แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นลูกของพวกเขากำลังจะมีอายุครบสี่เดือน หากไม่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็จะมองเห็นหน้าเด็กได้ชัดเจนในการตรวจครรภ์ครั้งต่อไป! “เอาล่ะ คุณผู้ชาย คุณช่วยเซ็นชื่อในใบรับทราบและยินยอมรับการรักษาด้วย” คุณหมอหยิบเอกสารหนึ่งแผ่นแล้วยื่นให้เขา “ต้องการฉีดยาชาในการผ่าตัดเอากระสุนออกให้คนไข้หรือไม่? ยาชาอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์อย่างมาก ถ้าคุณต้องการเก็บลูกไว้ พวกเราจะไม่ฉีดยาชาให้คนไข้” “มันจะไม่เจ็บปวดมากเหรอ?!” ฟู่สือถิงย่อมอยากเก็บเด็กไว้ แต่เมื่อคิดถึงการผ่าตัดโดยไม่ใช้ยาชา ฉินอันอันจะต้องเจ็บปวดจนตายแน่นอน! “ใช่ เจ็บปวดมาก แต่จะผ่านไปได้” หมอกล่าว “ตอนนี้เธออ่อนแอมากแล้ว ผมไม่ยากให้เธอต้องได้รับความเจ็บปวดอีก” ฟู่สือถิงรู้สึกหัวใจถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ จนรู้สึกเจ็บตอนที่หายใจ “โปรดให้ยาชากับเธอเถอะครับ” “ตกลง” หมอหยิบใบรับทราบและยินยอมรับการรักษาที่เขาเซ็นชื่อจากมือเขาแล้วหันกลับเข้าห้องฉุกเฉินไป ฟู่สือถิงปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ต้องสละชีวิตเด็ก แต่ยังดีที่ฉินอันอันปลอดภัย ถ้าเธอเป็นอะไรไป ลูกของพวกเขาก็ไม่รอ
เธอรู้สึกเหมือนโดนฟาดอย่างแรง!ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บที่แขนของเธอ น่ากลัวว่าเธออาจจะลุกขึ้นจากเตียงคนไข้เลยก็เป็นได้ “สามีอะไร? ฉันยังไม่ได้แต่งงาน! ใครก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่าลูกฉันจะอยู่หรือตาย!” เพราะว่าเธอถูกกระตุ้นจนมีอารมณ์ตื่นเต้นมากเกินไป คุณหมอจึงรีบขอโทษ “คุณฉิน ขออภัย คุณฟู่ไม่ได้บอกว่าเขาคือสามีของคุณ เขาบอกว่าเขาคือพ่อของเด็ก” “ถึงเขาจะเป็นพ่อของเด็ก แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์!” ฉินอันอันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว น้ำตาของเธอไหลรินลงมา ฟู่สือถิงอยู่ในห้องผู้ป่วยทั้งคืน เช้านี้ป้าหงจึงมาเปลี่ยนให้เขากลับไปพักผ่อน อันที่จริงเธอไม่ควรรบกวนการพักผ่อนของเขา แต่ตอนนี้ฉินอันอันเป็นแบบนี้ ป้าหงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรหาเขา หลังจากป้าหงโทรบอกฟู่สือถิง ไมค์ผลักประตูห้องผู้ป่วยแล้วเดินเข้ามา “อันอัน ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว!” ไมค์เดินมาหาแล้วนั่งลงข้างเตียง พร้อมกับหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้เธอ “อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันกับฟู่สือถิงคิดเหมือนกัน ระหว่างเธอกับเด็ก เธอย่อมสำคัญกว่า ลูกน่ะมีใหม่ได้ แต่ถ้าไม่มีเธอแล้ว มันเท่ากับไม่เหลืออะไรเลย” ฉินอันอันผลักมือเขาที่เช็ดน้ำตาให้ตัว