Share

บทที่ 2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-03 17:37:18

อิงหลิวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยการปลุกของแม่นม นางถูกพาไปเช็ดตัวและป้อนอาหารเด็กเล็ก ในระหว่างที่นางรับอาหารเสร็จ เสียงของหญิงชราที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากหน้าประตูเรือนเล็ก

“ทำไมลูกใหญ่ถึงไม่ให้คุณหนูใหญ่ไปส่งที่หน้าจวนกัน ทำอย่างกับเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่ลูก” ฮูหยินผู้เฒ่าโจว อดีตฮูหยินรองของอดีตนายใหญ่โจวคนก่อน บิดาของนายใหญ่โจวคนปัจจุบัน หรือก็คือ ปู่ของนาง ในชาตินี้ ดังขึ้นก่อนจะเดินก้าวเข้ามาในห้องที่นางอาศัยอยู่

“ท่านย่า” อิงหลิวเปิดปากทักผู้เป็นย่าของนางในชาตินี้ หากว่าใครดีกับนางที่สุดในบ้านตระกูลโจว ก็คือ ฮูหยินผู้เฒ่าตรงหน้านี้แหละ แม้ไม่ได้รักนางมากมาย แต่ก็สนิทสนมกับนางที่สุด อาจจะเป็นเพราะสงสาร หรืออะไรก็ตาม นางก็ไม่ได้สนใจ

“บิดาของเจ้ามีธุระที่ต่างแคว้น มารดาของเจ้าก็ต้องตามไปด้วย เจ้าไม่ต้องกังวลนะ ยังมีย่าอยู่ ทั้งอารอง และอาสาม ก็ยังอยู่ด้วย” หญิงชราอดไม่ได้ที่จะสงสารเด็กน้อยตรงหน้า นางรู้ดีสายตาที่ลูกใหญ่ของนางมองมาที่เด็กน้อยคนนี้ แทบไม่มีเศษเสี้ยวของความรักเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ศัตรูของนางในอดีต ฮูหยินเอกของสามีนาง เลี้ยงลูกอย่างไรกัน บุตรชายของนางผู้นั้นถึงได้ไม่สนใจใยดีสายเลือดของตัวเองเลย

“เจ้าค่ะ” อิงหลิวขานรับพร้อมรอยยิ้มกว้าง ยังไงแล้วนางก็เป็นเด็กสองขวบ ยังไม่มีกำลังจะปกป้องตัวเอง คงทำได้แต่พึ่งพาญาติ ๆ คนอื่น อารอง กับอาสามก็เป็นบุตรชายแท้ ๆ ของฮูหยินผู้เฒ่า ถือได้ว่ามีอำนาจมากสุดรองจากบิดาของนาง

อิงหลิวใช้ชีวิตแต่ละวันในการเล่าเรียนศาสตร์จากอาจารย์ที่ถูกจ้างมาสอนโดยอาสะใภ้รองและอาสะใภ้สาม สลับกับอ่านหนังสือตำราเองในห้องสมุดของตระกูล อารองมีภรรยาถึงสี่คนรวมฮูหยินเอก ส่วนอาสามมีภรรยาสองคนรวมฮูหยินเอก ทำให้ภายในบ้านตระกูลโจว ที่นางอาศัยอยู่มีเด็กเล็กเกือบสิบคนเลยทีเดียว แน่นอนว่านาง โจวอิงหลิวอายุมากสุด คือ หกขวบ

ในตอนที่นางอายุสามขวบ ฮูหยินผู้เฒ่าก็ได้รับจดหมายว่าบิดาและมารดาของนางหายตัวไประหว่างรอยต่อของแคว้นที่อยู่เหนือสุด ในตอนนั้นท่านย่าของนางตัดสินใจรับนางมาอาศัยอยู่ในเรือนใหญ่ เพราะไม่ต้องการให้บ่าวรับใช้มีโอกาสรังแกนาง สินเดิมของมารดารวมถึงสมบัติต่าง ๆ ของผู้เป็นบิดาของนางก็ถูกส่งมาเก็บในห้องเก็บของที่นางอาศัยอยู่ โดยมีท่านย่าดูแลไว้และไม่ต้องการให้ใครก็ตามมาหยิบของที่เป็นของหลานสาวตัวน้อย อิงหลิวรู้อย่างดีเพราะกฎเหล็กของตระกูลโจว คือ ความซื่อสัตย์ หากบุตรหลานคนใดทำผิด ย่อมถูกขับไล่ออกจากตระกูลทันที

อารองและอาสามค่อนข้างเอ็นดูนางเป็นพิเศษ เพราะก่อนที่พวกเขาจะมีบุตรเป็นของตนเอง พวกเขาก็แวะเวียนมาเล่นกับนางไม่เว้นแต่ละวัน แม้กระทั่งตอนนี้ พวกเขาก็ยังคงดูแลนางเช่นเดิม ยิ่งนางกำพร้า ไร้บิดามารดา พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้บ่าวรับใช้รังแกนาง มีก็แต่ บรรดาภรรยาของอารองและอาสาม ที่ไม่ค่อยจะชอบนางนัก แม้ไม่ได้รังแก แต่ก็ไม่ได้ดูแลเช่นกัน

บรรดาลูกพี่ลูกน้องของนางก็ไม่ได้มีท่าทีสนิทสนมกับนางแต่นางเห็นได้ชัดว่าเมื่อไรที่มีบ่าวรับใช้ในจวนที่ยกตนข่มนางหรือมีท่าทีกระด้างกระเดื่องใส่นาง พวกเขาก็ตรงมาจัดการให้นางทันที อาจเป็นเพราะศักดิ์ศรีของตระกูลโจว หรือเพราะสายเลือดที่ไหลเวียนในตัวของนางเองที่พวกเขายังต้องให้ความสำคัญ

ตระกูลโจวเป็นตระกูลพ่อค้าที่ใหญ่ที่สุดในแคว้น ทำการค้าขายระหว่างแคว้นเป็นหลัก รายได้ที่ไหลเข้ามาในตระกูลมีเยอะเสียจนต้องหาทางระบายออกไปโดยการบริจาคสร้างถนน สร้างโรงหมอ ตั้งโรงทาน หรือซ่อมแซมบำรุงวัดทั้งในเมืองหลวงและนอกเมืองหลวง ตลอดจนบริจาคเงินทองเข้าคลังหลวง เพื่อช่วยราชวงศ์และสร้างฐานที่มั่นให้กับตระกูล แม้จะไม่ใช่ขุนนาง แต่ปากเสียงของคนในตระกูลโจวก็มีความสำคัญต่อการตัดสินใจของคนในราชวงศ์

เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า อิงหลิวตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าตนจะออกไปใช้ชีวิตภายนอก ในแต่ละปีนางเตรียมความพร้อมนับไม่ถ้วน แผนการต่าง ๆ ถูกเตรียมไว้ นางรู้จุดยืนของตนในตระกูลเป็นอย่างดี แม้ว่าหลายครั้งที่นางไม่ใส่ใจต่อสายตาของคนบางพวก แต่นางก็รู้ดีว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ล้วนไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

“แผ่นดินกว้างใหญ่ ย่อมมีที่ที่ข้าจะอยู่ได้อย่างสบายใจ ทั้งยังมีสมบัติที่อยู่ในจี้หยก ก็ล้วนเป็นของวิเศษ” อิงหลิวนึกดีใจอยู่ไม่น้อย ที่ครั้งนั้นมารดาของนางในชาตินี้ได้มอบสิ่งของเหล่านี้ไว้ให้ หากไม่มีสมบัติพวกนี้ ชีวิตนางคงต้องยุ่งยากกว่านี้เป็นแน่

เรือนที่อิงหลิวอาศัยอยู่ในปัจจุบันเป็นเรือนเก่าของฮูหยินผู้เฒ่า ท่านย่าของนางผู้ที่นางสนิทด้วยมากที่สุด ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับอาสามที่ออกไปตั้งรกรากที่ต่างแคว้น ตระกูลโจวในตอนนี้ถือว่ามีสายหลักถึงสองสาย ตระกูลโจวสายหลักในแคว้นอ้ายที่นางอยู่ และตระกูลโจวสายหลักของอาสามที่แคว้นไป๋ ไม่รวมแคว้นเล็ก ๆ อีกสองสามแคว้นที่มีตระกูลโจวสายรองอยู่ซึ่งส่วนใหญ่ต่างเป็นบ่าวรับใช้ที่ได้รับแซ่

“สมบัติของท่านพ่อและสินเดิมของท่านแม่ที่ท่านย่าเคยดูแลให้ก็อยู่ครบ แผนการต่อไปก็เหลือเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น” อิงหลิวเผยยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องเก็บของ ที่เคยเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า แต่ยามนี้กลับว่างเปล่าหลงเหลือแต่เพียงร่องรอยเท่านั้นที่ชี้ชัดว่าเคยมีสิ่งของวางอยู่

“ตื่นเต้นจริง เพิ่งได้ลองใช้จี้หยกเป็นครั้งแรก” อิงหลิวที่เพิ่งได้ลองใช้จี้หยกเป็นครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยหลังเห็นพื้นที่ว่างขนาดสี่คูณสี่ที่เต็มไปด้วยสมบัติวิเศษ อย่างม้วนผ้าที่นำมาทำเป็นชุดที่นางเคยสวมใส่ตอนเด็ก หรือเครื่องประดับที่มีความสามารถหลากหลาย

“ของพวกนี้เป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับคนธรรมดาที่ไม่สามารถบ่มเพาะได้ แต่สำหรับผู้ที่บ่มเพาะจนมีพลังสูงส่งอาจเป็นแค่ของไร้ราคา” อิงหลิวจำได้ในตอนที่อารองและอาสามพานางออกไปเดินเล่นข้างนอก นางเห็นผู้ฝึกตนที่สามารถใช้พลังสร้างความอบอุ่นให้กับตนเองอย่างง่ายดาย บางคนถึงขั้นใช้กระบี่เดินทางบนฟ้าหรือหายตัวไปต่อหน้าต่อตานาง

“อีกแค่เพียงสามวันเท่านั้น ข้าก็จะเป็นอิสระแล้ว” อิงหลิวหยิบจดหมายที่ท่านย่าตอบกลับนางขึ้นมาอ่านอีกครั้ง

อิงหลิวหลานรัก ย่าย่อมหวังว่าเจ้าจะมีความสุข แต่หากว่าเจ้ารู้สึกว่าการที่ออกไปอยู่ตัวคนเดียวเจ้าจะมีความสุขมากกว่า ย่าจะไม่ห้ามเจ้า ขอเพียงเจ้าเขียนจดหมายหาย่าบ้าง ย่าก็พอใจแล้ว อารองและอาสามย่อมรักเจ้า เพราะเจ้าก็มีสายเลือดเหมือนกับพวกเขา หวังว่าจากนี้ไปเจ้าจะมีความสุขในที่ที่เป็นของเจ้า

ด้วยรัก

ย่าของเจ้า

ก่อนหน้าวันปักปิ่นสัญลักษณ์ของเด็กสาวที่พร้อมสู่วัยออกเรือน อิงหลิวตัดสินใจเข้าพบอารองและอาสะใภ้รองบอกเรื่องที่นางได้ตัดสินใจแน่วแน่ว่าตนจะออกไปใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว หลังที่อารองทราบเรื่องที่นางนำมาบอก สายตาที่มองมาทางนางก็ฉายแววความกังวลออกมาเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้มเข้าใจ และแน่นอนว่าอาสะใภ้รองย่อมเห็นด้วยกับนาง

ในงานปักปิ่นของอิงหลิวอบอวลไปด้วยความอบอุ่นที่แท้จริง บรรดาลูกหลานของครอบครัวอารองต่างรับรู้ถึงการตัดสินใจของอดีตสายเลือดหลักตระกูลโจว โจวอิงหลิวยืนขอบคุณแขกมากหน้าหลายตาที่ทยอยนำของขวัญมาให้นางในตอนที่งานปักปิ่นสิ้นสุดลง อารองและอาสะใภ้ต่างแยกย้ายไปพูดคุยกับบรรดาสหายสนิท

ภายในเรือนที่นางอาศัยตั้งแต่เล็กยามนี้กลับเต็มไปด้วยลูกพี่ลูกน้องวัยไล่เลี่ยกับนาง อิงหลิวอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เพราะนางจำได้ว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้ท่าทีสนิทสนมกับนางเลย โจวอิงหลิวเดินเข้าไปนั่งในที่ประจำของนางพร้อมเผยยิ้มเล็กน้อย

“พวกเจ้ามาทำไมหรือ?” นางหันไปมองผู้ที่มีอายุมากที่สุด หากว่านางจำไม่ผิดเด็กสาวตรงหน้าก็เกือบจะครบสิบสามปีแล้วกระมั้ง

“พี่อิงหลิว ข้าพาน้อง ๆ มาส่งท่านเจ้าค่ะ และมีของขวัญมอบให้พี่ด้วย หวังว่าท่านจะมีความสุขกับเส้นทางที่ท่านเลือกนะเจ้าคะ” โจวเหมยฮวา บุตรสาวคนโตของครอบครัวอารอง ผู้ที่เกิดจากฮูหยินใหญ่พูดเสร็จ ก็มอบของกล่องเครื่องประดับสีสวยให้นางพร้อมทั้งคำอวยพรอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มีกล่องเครื่องประดับและเงินอีกจำนวนไม่น้อยตามมาเรื่อย ๆ จนถึงผู้มอบของขวัญคนสุดท้าย ซึ่งเป็นเด็กชายอายุแค่สี่ขวบเท่านั้น

“ขอบใจพวกเจ้ามากนัก พี่ก็มีของจะมอบให้พวกเจ้าเหมือนกัน ถึงว่าเป็นของขวัญที่พี่มอบให้ล่วงหน้า” โจวอิงหลิวพูดเสร็จก็เดินไปหยิบกล่องที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อมอบให้กับครอบครัวอารอง

“เป็นของที่มารดาของพี่เคยมอบไว้ เมื่อตอนที่พี่ยังเด็ก เป็นสมบัติวิเศษ พี่หวังว่าพวกเจ้าจะชอบมันนะ” นางพูดพร้อมมอบม้วนผ้าให้กลุ่มเด็กตรงหน้าคนละม้วน แต่ละคนที่ได้รับสมบัติวิเศษไปก็เผยสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็น แต่สมบัติวิเศษบางชนิดต่อให้มีเงินมากก็ใช่ว่าจะซื้อได้ และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มาครอบครองเป็นจำนวนมาก ม้วนผ้าหนึ่งม้วนตัดชุดได้มากกว่าสามชุดเลยนะ

เช้าวันใหม่มาเยือน โจวอิงหลิวมองสำรวจเรือนที่นางอาศัยอยู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากนอกเรือน อารอง อาสะใภ้รอง พร้อมด้วยครอบครัวที่เหลือต่างพาเดินมาส่งนางที่หน้าบ้านตระกูลโจว นางกล่าวขอบคุณ อารองและอาสะใภ้รองอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวร่ำลาลูกพี่ลูกน้องที่เหลือ

“ขอบคุณอารองสำหรับทุกอย่างนะเจ้าคะ อาสะใภ้รองขอบคุณในความเมตตาของท่านด้วย ส่วนพวกเจ้าดูแลตัวเองดี ๆ หวังว่าเจอกันครั้งหน้า พวกเจ้าจะเติบโตขึ้นอย่างงดงาม ข้าลาล่ะ” โจวอิงหลิวมองภาพตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวขึ้นรถม้าที่อารองเตรียมไว้ให้

“ข้าเป็นผู้ชาย ไม่ได้อยากโตไปงดงามเสียหน่อย ต้องหล่อเหลาเหมือนท่านพ่อสิ” เสียงเด็กชายอายุสี่ขวบเอ่ยแย้งเสียงเบา

“เจ้านี่ พี่อิงหลิวแค่เปรียบเทียบเท่านั้น” เสียงของพี่สาวคนโตสุดอย่าง โจวเหมยฮวามองไปยังน้องชายของนางอย่างเอ็นดู

“แคว้นหนานไห่ อย่างมากสุดก็ใช้เวลาในการเดินทางเกือบสามเดือนสินะ” อิงหลิวมองแผนที่ในมือพร้อมทั้งคำนวณเวลาที่นางต้องใช้ในการเดินทาง

“ก่อนหน้านั้นต้องเปลี่ยนรถม้าระหว่างทางที่แคว้นชิงไห่เสียก่อน” ใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น จะได้เตรียมเสบียงเพิ่มด้วย อิงหลิวคิดในใจพลางจะมองภาพความวุ่นวายที่อยู่นอกรถม้า

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ระบบของผู้เกิดใหม่   บทที่ 123

    “ปิงปิง ภูตสมุนไพรสายเลือดแท้ ระดับพลังแดนวิญญาณ เคยเป็นตัวตนสูงส่งอย่างภูตธรรมชาติ และมีศักดิ์เป็นแม่ทัพของดินแดนภูต แต่ได้ถูกขับไล่และยึดสายเลือดธรรมชาติเพราะถูกทรยศจากฝ่ายเดียวกันจึงได้รับโทษที่ตนไม่ได้ก่อ ทั้งยังถูกลบความทรงจำ จึงได้กลายมาเป็นภูตสมุนไพร ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากตัวตนสูงส่งอย่าง

  • ระบบของผู้เกิดใหม่   บทที่ 122

    “ที่เจ้าสงสัยก็ไม่ผิดหรอก อันที่จริงแล้วก็มีแพทย์โอสถในสำนักของเราต่างก็สงสัยแบบเจ้าไม่ใช่น้อย บางคนถึงขั้นทำเรื่องเข้าไปตรวจดูอาการของพวกเขาถึงในสำนักเลย แต่ก็ไม่พบอะไร ซ้ำยังลามปามไปตรวจอาการของผู้อาวุโสบางคนด้วยก็ไม่พบอะไรเช่นกัน พวกเราจึงสามารถออกผลสรุปออกมาได้เพียงข้อเดียว คือ ท่านหญิงผู้นั้นมี

  • ระบบของผู้เกิดใหม่   บทที่ 121

    หลังอิงหลิวเห็นว่าคะแนนของตนพอที่จะเลื่อนระดับของระบบแล้ว นางก็จัดการแลกเปลี่ยนคะแนนเพื่อเลื่อนระดับทันทีพร้อมทั้งเปิดประตูมิติเพื่อที่จะใช้เวลาว่างที่เหลือเพื่อบ่มเพาะพลังต่อ“แลกเปลี่ยนคะแนนสำเร็จ”“กำลังทำการเลื่อนระดับระบบ เลื่อนระดับสำเร็จ”“ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับ ทักษะติดตัว ทักษะมองทะลุ ตรวจพบ

  • ระบบของผู้เกิดใหม่   บทที่ 120

    “ในเมื่อพวกท่านทุกคนได้รับการรักษาแล้ว ดังนั้นบุญคุณที่พวกท่านให้กำเนิดข้าและเลี้ยงดูข้ามาก็ถือได้ว่าอิงหลิวคนนี้ชดเชยให้พวกท่านครบหมดแล้ว ส่วนนี่คือโอสถฟื้นฟู จำนวนเพียงพอสำหรับระยะเวลาหกเดือน ข้าขอมอบให้ท่านนะเจ้าคะ วันสองวันนี้พวกท่านยังสามารถอยู่ในบ้านตระกูลโจวได้ แต่หลังจากนั้นข้าคงต้องขอบอกว่า

  • ระบบของผู้เกิดใหม่   บทที่ 119

    “สิ่งของชิ้นนี้ มีไว้ทำอะไรเจ้าคะท่านพ่อ” อิงหลิวรู้ว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือมีไว้ทำอะไรและมีพลังอะไรที่แอบแฝงไว้ แต่นางไม่รู้ถึงความสำคัญของมันหรือหน้าที่ของมันว่ามีไว้เพื่อทำอะไรภายในสำนักเซียนเหิน“ปกติแล้วของชิ้นนี้จะมอบไว้ให้กลุ่มจู่โจมของสำนักไว้เพื่อเป็นสิ่งของยึดเหนี่ยวในใจ และคอยย้ำเตือนว่าพว

  • ระบบของผู้เกิดใหม่   บทที่ 118

    “ท่านแม่สิ่งที่อยู่ในตัวของท่านตอนนี้ คือ อาคมเชื่อมโยงและพันธสัญญาข้ารับใช้ ข้าจะทำลายทั้งสองอย่างนั้นก่อน ส่วนอาคมแลกวิญญาณหากข้าทำตอนนี้ ทั้งท่านและท่านแม่หลี่เหมยหรงก็จะถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์ มีตัวตนและกายหยาบเป็นของตนเอง ซึ่งข้าไม่รู้ว่าท่านแม่หลี่เหมยหรงยังยึดติดกับเฟิ่งลู่เยี่ยนอยู่หรือไม่ ดังนั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status