ลมหายใจจอมยุทธ์

ลมหายใจจอมยุทธ์

last updateLast Updated : 2025-07-08
By:  BosskerrUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
22Chapters
5views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เมื่อคำว่าจอมยุทธ์ไม่ได้วัดกันที่ฝีมือ แต่วัดที่ลมหายใจสุดท้าย เจ้าจะเลือกปกป้องใคร?

View More

Chapter 1

บทที่ 1 เสียงลมหายใจในคืนพายุ

ท่ามกลางป่าหิมะของเทือกเขาต้าหลาน เสียงลมคำรามกึกก้องพัดผ่านยอดไม้โอนเอนราวกับฟ้ากำลังคร่ำครวญ พายุหิมะถาโถมดั่งโทสะของสวรรค์ ต้นไม้สูงตระหง่านถูกคลุมด้วยม่านสีขาว ละอองหิมะหนาทึบบดบังทัศนวิสัยจนมองไม่เห็นแม้แต่เงา

เสียงคำรามของฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง ฉับพลัน เสียงแหลมต่ำของบางสิ่งแหวกผ่านหิมะดัง “ฟึ่บ!” ตามด้วยเสียงร่างหนึ่งร่วงลงกระแทกผืนหิมะอย่างแรง

ร่างของเด็กหนุ่มในชุดแพรบางจมลึกลงไปในหิมะ ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด หยาดโลมหยดจากมุมปาก เสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนเปื้อนเลือดบริเวณอกซ้ายที่มีรอยแผลฉกรรจ์คล้ายถูกกระบี่แทงลึก ลมหายใจของเขาอ่อนราวสายไหม แต่มิได้ขาดสิ้น

แว่วเสียงฝีเท้าของใครบางคนกระทบหิมะจากเบื้องล่างของเนินเขา เสียงนั้นหยุดลงใกล้ร่างของเด็กหนุ่ม

“อะไรกันนี่”

ชายชราผู้แบกฟืนไว้เต็มหลังเอ่ยขึ้นอย่างตระหนก ดวงตาพร่ามัวเบิกโพลงเมื่อเห็นเลือดบนหิมะ สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากงุนงงเป็นระวังทันที มือข้างหนึ่งเลื่อนไปแตะด้ามมีดสั้นที่ซ่อนในผ้าคาดเอว ก่อนค่อย ๆ ก้าวเข้าใกล้ แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเด็กหนุ่ม และลมหายใจที่แทบไม่หลงเหลืออยู่ ชายชรากลับถอนหายใจอย่างเวทนา

“ยังหายใจอยู่ หนุ่มน้อยเอ๋ย เจ้ามาอยู่กลางพายุเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนตัดสินใจวางฟืนลงแล้วช้อนร่างเด็กหนุ่มขึ้นอุ้ม แม้จะผอมแห้งแต่ตัวเด็กหนุ่มนั้นหนักกว่าที่คาด ร่างของเขาเปียกโชกและเย็นเฉียบ

ชายชราผู้ชื่อว่า ‘ตาเถา’ รีบสาวเท้าฝ่าพายุหิมะกลับไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่หลังแนวเขา “หมู่บ้านเหอเจิน” ซึ่งเงียบงันราวกับไม่มีผู้คนอาศัยอยู่

เมื่อถึงบ้านไม้หลังเก่า ตาเถาวางร่างเด็กหนุ่มลงบนเสื่อฟางหน้าเตาผิง หญิงชรารูปร่างเล็กนามว่า “อาสุย” วิ่งออกมาพร้อมผ้าห่มและน้ำร้อน ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล

“ตาเถา! นั่นใครกัน?!”

“เจอที่ป่าหิมะ เจ้าหนูนี่เกือบขาดใจตายแล้ว”

อาสุยรีบตรวจชีพจร หัวคิ้วขมวดแน่น “ลมหายใจแปลกนัก ท่านดูสิ หายใจไม่เป็นจังหวะ เหมือนจงใจหายใจสวนจังหวะของใต้หล้า”

“หมายความว่าอย่างไร” ตาเถาขมวดคิ้ว

“ฟังให้ดีนะ ปกติลมหายใจของคนเราจะเข้าออกประสานกับจังหวะรอบข้าง เช่นลมพัด แรงสั่นของดิน หรือแม้แต่จังหวะการเคลื่อนไหวของสัตว์”

นางหยุดพูด เอาหูแนบใกล้หน้าอกของเด็กหนุ่ม

“แต่เด็กคนนี้น่ะ ลมหายใจของเขา เหมือนจะขัดแย้งกับธรรมชาติ”

ตาเถาเบิกตากว้าง ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ แต่สิ่งที่แน่ชัดคือเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ธรรมดา

สามวันผ่านไปในความเงียบสงัด ลมหายใจของเด็กหนุ่มเริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่แววตาเมื่อเขาลืมตาขึ้นกลับไม่เหมือนผู้เพิ่งรอดตาย หากแต่สงบนิ่งและว่างเปล่าราวผู้ไม่มีอดีต

ตาเถากำลังตัดไม้ริมประตู ได้ยินเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้นจากในบ้าน

“ที่นี่ คือที่ใดกัน?”

เขารีบเดินเข้ามา ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “เจ้าฟื้นแล้วหรือ! ข้าเรียกเจ้าหลายครั้ง เจ้าเงียบนิ่งอยู่นานนัก”

เด็กหนุ่มพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่ต้องยกมือกุมหน้าอก ร่างกายยังอ่อนแรง

“ข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

อาสุยถือชามน้ำซุปเดินเข้ามา ยื่นให้เขาช้า ๆ

“พวกเราพบเจ้าท่ามกลางพายุ ตอนนั้นเจ้าเกือบตายแล้ว รู้บ้างหรือไม่?”

เขารับชามน้ำมา แต่นัยน์ตายังว่างเปล่า

“ขะ...ข้าจำอะไรไม่ได้เลย...”

ตาเถาหรี่ตาลงช้า ๆ “แม้แต่ชื่อของเจ้าก็จำไม่ได้หรือ?”

เด็กหนุ่มเงียบไปนาน ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ อาสุยมองหน้าสามีพลางครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ ออกมา

“หากเป็นเช่นนั้นแล้ว พวกเราตั้งชื่อให้เขาดีหรือไม่?”

ตาเถาครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวว่า “ในวันที่พบเขาบนเขา ลมหายใจของเขาแปลกประหลาดยิ่งนัก เปลี่ยนแม้แต่เสียงลม...”

“เข่นนั้น...”

“ชื่อ หยางเหวิน เป็นอย่างไร?”

เด็กหนุ่มกะพริบตาเล็กน้อย ราวกับนึกบางสิ่งบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ

“หยางเหวิน...ข้าชื่อหยางเหวิน”

ลมหายใจแรกของชื่อใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในค่ำคืนพายุกระหน่ำ...

เมื่อฟื้นตัวได้มากขึ้น หยางเหวินเริ่มช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในหมู่บ้าน แม้จะยังจำอดีตไม่ได้ แต่เขากลับมีสัญชาตญาณในการเคลื่อนไหวที่แม่นยำและสง่างามเกินกว่าจะเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา

“เจ้าหนุ่มนั่น ท่าทางกวาดลานยังสง่ากว่าทหารรักษาวังเสียอีก” ชาวบ้านคนหนึ่งหัวเราะเบา ๆ

“อย่าพูดเล่นเช่นนี้สิ เจ้าก็รู้ว่าเด็กคนนี้แปลกนัก” อีกคนกระซิบ

และเป็นความจริง ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้หยางเหวิน โดยเฉพาะยามที่ยืนใกล้เขาในที่สงบ ผู้คนต่างรู้สึกอึดอัด ราวกับลมหายใจของตนถูกเบียดบัง หรือลดทอนลงโดยไร้เหตุผล

ครั้งหนึ่งในยามเช้าที่หมอกหนา ขณะที่หยางเหวินยืนอยู่ริมลำธาร เด็กชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา ก่อนจะหยุดกะทันหัน ดวงตาเบิกกว้าง

“ท่านพี่ แมลงทั้งหลายพวกนั้นล้วนหยุดนิ่งหมดเลย!”

หยางเหวินเลิกคิ้ว มองไปยังดอกหญ้าริมลำธาร ผึ้งที่เกาะอยู่ต่างสงบนิ่งไม่มีแม้แต่เสียงปีก แม้กระทั่งกระแสน้ำก็ดูไหลช้าลง เขาลองสูดหายใจเข้าอย่างลึก แล้วผ่อนลมหายใจออกเบา ๆ

วูบ~

ลมรอบตัวเปลี่ยนทิศในทันใด ใบไม้ปลิวหมุนเป็นเกลียวและผึ้งเหล่านั้นกระพือปีกบินหนีไปในทิศทางเดียวกันหมด

หยางเหวินยืนนิ่ง “ลมหายใจของข้า ควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้งั้นหรือ?”

เขายังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในใจลึก ๆ คล้ายกับว่าเคยสัมผัสกับพลังเช่นนี้มาก่อน เมื่อครั้งหนึ่งที่เขายังไม่ใช่ “หยางเหวิน”

เช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านเหอเจินกลับแจ่มใสผิดปกติ หยางเหวินเดินตามเส้นทางเลียบหุบเขาไปเรื่อย ๆ กระทั่งพบศาลาไม้เก่าแก่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวริมเหว เบื้องหลังคือภูผาสูงเสียดฟ้า และเสียงลมที่พัดผ่านไม่หยุดนิ่ง

ภายในศาลามีชายชราผู้หนึ่งนั่งหลับตาอย่างสงบนิ่ง ท่าทางราวกับส่วนหนึ่งของภูเขา ราวไม่เคยขยับเขยื้อนมานานปี

หยางเหวินหยุดยืนมอง ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ “ท่านลุง ท่านมานั่งที่นี่ทุกวันหรือขอรับ?”

ชายชราไม่ตอบ แต่ลืมตาช้า ๆ ดวงตาคมกริบภายใต้คิ้วขาวหนาเผยประกายเฉียบคมเกินวัย

“เจ้าหนุ่ม” เขากล่าวเสียงแหบพร่า “ลมหายใจของเจ้าขัดกับสวรรค์”

หยางเหวินชะงัก “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

ชายชรายิ้มบาง ๆ แล้วสูดลมหายใจเข้าอย่างแผ่วเบา ราวกับเพียงกลืนไอหมอกของเช้า แต่ฉับพลัน กลีบดอกไม้ที่ร่วงอยู่ใต้พื้นศาลากลับลอยขึ้นกลางอากาศ ราวถูกแรงไร้รูปดึงดูด

“พลังลมหายใจ มิใช่เพียงการมีชีวิต” ชายชรากล่าวต่อ “มันคือรากฐานของฟ้าดิน ลมหายใจของเจ้ากลับเดินสวนทางกับใต้หล้า เจ้าคือผู้มีชะตา”

หยางเหวินเม้มริมฝีปากแน่น “ข้าไม่รู้ว่าตัวข้าเป็นใคร ท่านรู้หรือไม่?”

ชายชรานิ่งไปชั่วขณะก่อนกล่าวเบา ๆ “ข้ารู้ว่าใต้หล้านี้เคยมีคนผู้หนึ่ง ผู้ที่ใช้ลมหายใจควบคุมกระแสธาร พัดพาชีวิตและความตาย แต่ถูกฟ้าสาปให้สูญสิ้น เจ้ามีกลิ่นอายเดียวกันกับคนผู้นั้น”

หยางเหวินใจเต้นแรง เขารู้สึกเหมือนความทรงจำบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในเงามืด

ชายชราลุกขึ้นช้า ๆ แล้วเดินผ่านไปทางประตูศาลา ทิ้งท้ายเพียงประโยคเดียว

“หากเจ้าต้องการรู้ความจริง จงขึ้นไปยังยอดเขาต้าหลาน ก่อนหิมะแรกจะโปรยปรายอีกครั้ง”

พูดจบเพียงเท่านี้ ชายชราก็เดินหายไปในม่านหมอก ราวกับไม่เคยมีตัวตน

หยางเหวินยืนนิ่งอยู่กลางศาลา ลมหายใจของเขาค่อย ๆ ช้าลง แล้วเปลี่ยนทิศ

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
22 Chapters
บทที่ 1 เสียงลมหายใจในคืนพายุ
ท่ามกลางป่าหิมะของเทือกเขาต้าหลาน เสียงลมคำรามกึกก้องพัดผ่านยอดไม้โอนเอนราวกับฟ้ากำลังคร่ำครวญ พายุหิมะถาโถมดั่งโทสะของสวรรค์ ต้นไม้สูงตระหง่านถูกคลุมด้วยม่านสีขาว ละอองหิมะหนาทึบบดบังทัศนวิสัยจนมองไม่เห็นแม้แต่เงาเสียงคำรามของฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง ฉับพลัน เสียงแหลมต่ำของบางสิ่งแหวกผ่านหิมะดัง “ฟึ่บ!” ตามด้วยเสียงร่างหนึ่งร่วงลงกระแทกผืนหิมะอย่างแรงร่างของเด็กหนุ่มในชุดแพรบางจมลึกลงไปในหิมะ ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด หยาดโลมหยดจากมุมปาก เสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนเปื้อนเลือดบริเวณอกซ้ายที่มีรอยแผลฉกรรจ์คล้ายถูกกระบี่แทงลึก ลมหายใจของเขาอ่อนราวสายไหม แต่มิได้ขาดสิ้นแว่วเสียงฝีเท้าของใครบางคนกระทบหิมะจากเบื้องล่างของเนินเขา เสียงนั้นหยุดลงใกล้ร่างของเด็กหนุ่ม“อะไรกันนี่”ชายชราผู้แบกฟืนไว้เต็มหลังเอ่ยขึ้นอย่างตระหนก ดวงตาพร่ามัวเบิกโพลงเมื่อเห็นเลือดบนหิมะ สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากงุนงงเป็นระวังทันที มือข้างหนึ่งเลื่อนไปแตะด้ามมีดสั้นที่ซ่อนในผ้าคาดเอว ก่อนค่อย ๆ ก้าวเข้าใกล้ แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเด็กหนุ่ม และลมหายใจที่แทบไม่หลงเหลืออยู่ ชายชรากลับถอนหายใจอย่างเวทนา“ยังหายใจอยู่ หนุ่มน้อ
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 2 หมู่บ้านไร้เงา
แสงแดดยามเช้าทอดผ่านม่านหมอกของขุนเขาต้าหลาน ส่องกระทบยอดไม้และดอกหญ้าริมทางในความสงบดูงดงาม ทว่าหยางเหวินที่กำลังเดินไปยังหมู่บ้านในหุบเขา กลับรู้สึกผิดปกติบางอย่างตั้งแต่ย่างเท้าเข้าเขตแดนแห่งนั้นหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า “หมู่บ้านหยิ่นซาน” เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่หลบเร้นอยู่ในหุบเขาด้านตะวันตกของเทือกเขา เป็นจุดหมายที่ตาเถาเคยเล่าให้ฟังว่ามีผู้คนแปลกหน้าอาศัยอยู่มากขึ้นในช่วงปีหลังแต่เมื่อย่างเข้าสู่เขตหมู่บ้าน หยางเหวินกลับพบสิ่งประหลาดอย่างหนึ่ง ทุกสิ่งในหมู่บ้านดูปกติดี ผู้คนเดินไปมา ทำงานบ้าน หาบน้ำ ถางหญ้า พูดคุยกันด้วยน้ำเสียงเบา ๆ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาหรือจะไม่มีใคร อยากเห็นเขาไม่ว่าจะเดินผ่านกลุ่มเด็กที่เล่นก้อนหิน หรือผ่านคนชราที่นั่งยองยองใต้ต้นไม้ ไม่มีใครมองมาที่เขา ไม่มีคำทัก ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแม้แต่แววตาแห่งความสงสัยสิ่งที่น่าพรั่นพรึงยิ่งกว่านั้นคือ แสงแดดยามสายทอดผ่านร่างของพวกเขา แต่ไม่มีเงาใดปรากฏเลยหยางเหวินหยุดยืนกลางลานดิน แหงนหน้าขึ้นมองดวงตะวัน แล้วก้มลงมองเงาของตนเอง เงาของเขามีอยู่จริงเขาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของหมู่บ้านนี้และหมู่บ้านนี้ อาจไม่ใช่ของใ
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 3 ปรมาจารย์ผู้หลบซ่อน
กงล้อเกวียนไม้ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดยามหมุนผ่านทางแคบทอดยาวสู่เชิงเขาตะวันออก หยางเหวินนั่งนิ่งอยู่บนหลังเกวียน ลมหายใจเข้าออกช้าแต่มั่นคง ในอกแม้ยังพร่าเลือนด้วยคำถามจากหมู่บ้านหยิ่นซาน แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่อาสุยกับตาเถาเป็นผู้ชี้ทางให้เขา ก่อนจะร่ำลาว่า “หากเจ้าต้องการรู้ว่าพลังของเจ้าคือสิ่งใด เจ้าต้องไปหาผู้นั้น เขาคือผู้เดียวที่เคยสัมผัสสิ่งคล้ายกับเจ้ามาก่อน”“เขาคือใครหรือขอรับ?”“หลัวซิง”“หลัวชิงหรือ?”ชื่อนั้นไม่ได้สะท้อนความคุ้นเคยใดในใจหยางเหวิน ทว่าคำบอกเล่าว่า หลัวซิงเคยเป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งของยุทธภพ แต่ถอนตัวหายสาบสูญไปเมื่อสามสิบปีก่อน ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ“ข้าต้องไปที่ใด?”“หุบเขาหานสุ่ย ปลายทางหนึ่งในใต้หล้าที่ไร้เสียงผู้คน”เกวียนไม้เก่า ๆ นำเขามุ่งหน้าผ่านทุ่งหญ้าและเนินเขา เสียงลมแทรกผ่านรอยแตกร้าวของตัวเกวียน ละอองฝุ่นลอยคลุ้งในแสงแดดยามสายคนบังคับเกวียนเป็นชายวัยกลางคนหน้าตาหงุดหงิด ไม่พูดไม่จา เพียงจ้องถนนเบื้องหน้าด้วยสายตาเคร่งขรึมหยางเหวินไม่ได้ถามสิ่งใดเพิ่มเติม เขาเพียงพินิจเสียงลมหายใจของคนรอบข้าง จับจังหวะและแรงสั่นสะเทื
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 4 คัมภีร์ลมหายใจกลับด้าน
รุ่งเช้าวันต่อมา หยางเหวินตื่นขึ้นจากสมาธิใต้ต้นเหมยเก่าแก่ที่อยู่หลังเรือนของหลัวซิง เขานั่งนิ่งทบทวนภาพในจิตที่ปรากฏเมื่อคืน สตรีผู้หายใจสวนทางกับสรรพสิ่ง นัยน์ตาของนางไม่เพียงเต็มไปด้วยความปวดร้าว แต่ยังมีบางอย่างที่คล้ายกับเขาเองหลัวซิงเดินมาหยุดอยู่ข้างเขา พลางยื่นแผ่นผืนกระดาษบางเฉียบสีเทาหม่น ส่งให้“นี่คือเศษคัมภีร์ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ของแท้ทั้งหมด แต่เพียงพอให้เจ้าเข้าใจว่าตนกำลังแบกอะไรไว้”หยางเหวินรับมาด้วยสองมือ ภาพที่เห็นมิใช่อักษรธรรมดา หากแต่เป็นเส้นสายวนเวียนคล้ายวงลมหายใจที่ไหลกลับหัวกลับหาง เหมือนลมหายใจเข้าไม่เคยออก และลมหายใจออกไม่เคยมีต้นทาง“คัมภีร์นี้ ไม่ใช่ตำรา แต่มันคือชีวิตของผู้ที่เคยใช้มัน” หลัวซิงเอ่ย“เจ้าจะเข้าใจมันได้ ก็เมื่อเจ้ารับรู้ได้ว่าแต่ละจังหวะของการหายใจนั้น มีที่มา และมีผู้เคยต้องตายเพื่อมัน”“หมายความว่า” หยางเหวินเบาเสียงลง “นี่คือคัมภีร์ที่เขียนด้วยชีวิตเช่นนั้นหรือ?”หลัวซิงพยักหน้าเบา ๆ “เจ้าเห็นลมหายใจสวนจังหวะได้ นั่นคือเจ้าเริ่มฟังเสียงของชีวิตผู้อื่นได้เช่นกัน แต่การฝึกนี้ต้องแลกด้วยบางสิ่ง แม้แต่ความทรงจำของตนเอง ก็อาจถูกสูบออกจากอกไปด
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 5 ศิษย์หญิงผู้ไม่เคยยิ้ม
เช้าวันใหม่ที่กระท่อมหลัวซิง เงาแดดทอดผ่านแนวไม้เป็นเส้นยาว หยางเหวินยืนอยู่หน้าลานฝึกหลังบ้าน ดวงตาแน่วแน่กำลังทบทวนลมหายใจต่อเนื่องในจังหวะประหลาดที่เขาเรียนรู้จากหลัวซิงเสียงฝีเท้าบางเบาดังขึ้นจากหลังพุ่มไม้ เขาหันขวับไปทันที ฝีเท้านั้นหยุดลงเบื้องหน้า เป็นร่างของหญิงสาวในชุดคลุมสีฟ้าหม่น ใบหน้าขาวซีดราวหิมะ เส้นผมรวบขึ้นอย่างเรียบง่าย ดวงตาเรียบนิ่งคล้ายทะเลสาบฤดูหนาวนางคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่เคยเห็นยิ้มแม้เพียงน้อย“นั่นคือศิษย์ของข้า”หลัวซิงที่ยืนอยู่ริมกระท่อมเอ่ยขึ้นอย่างไม่เร่งร้อน“ไป๋หรูอวิ๋น”หยางเหวินมองนางนิ่ง ๆ ในขณะที่นางยังไม่เปล่งถ้อยคำใด เพียงโค้งศีรษะเบา ๆ แล้วเดินผ่านเขาไปนั่งสงบอยู่ที่มุมลานฝึก ราวกับเขาไม่เคยมีตัวตน“นางพูดไม่ได้หรือ?” หยางเหวินถามเบา ๆ“นางพูดได้ แต่เลือกจะไม่พูดกับใครที่ยังไม่ฟังเสียงลมหายใจตนเองได้จนหมด” หลัวซิงตอบหยางเหวินเลิกคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาแฝงความฉงนนางพูดได้ แต่เลือกที่จะเงียบงันกับใต้หล้า?เขาพลันคิดถึงลมหายใจของหญิงในนิมิตคืนนั้นมันเบา สงบ และเศร้าในเวลาเดียวกันมีบางอย่างในตัวไป๋หรูอวิ๋นที่ทำให้จังหวะหายใจของเขาสั่นไหวเล็ก
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 6 ประตูเลือดของหุบเขาหยกขาว
เสียงกระทบพื้นเบา ๆ ของเงาร่างในชุดดำสามคนดังก้องอยู่ทั่วแนวหุบเขา ลมหายใจของพวกมันมิใช่เพียงผิดจังหวะกับธรรมชาติ แต่ยังส่งแรงกดดันที่บีบรัดเหมือนเชือกรัดคอหลัวซิงยืนนิ่ง ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดิน ดวงตาคมจับจ้องชายคนกลางซึ่งร่างสูงใหญ่กว่าใคร แม้ใบหน้าถูกปิดด้วยหน้ากากครึ่งซีก แต่แววตากลับเผยความรู้จักบางอย่างที่หลัวซิงไม่คาดคิด“พวกเจ้าคือศิษย์ของ ‘เหยี่ยวนิล’ งั้นหรือ?”คนกลางยกมือขึ้นวางบนด้ามกระบี่ ร่างไม่ไหวติงแต่แรงลมหายใจกลับทวีขึ้นทุกลมหายใจ“เรามาเพื่อพาตัวเด็กคนนั้นกลับไป” เสียงของมันแหบพร่า“เขาคือ ‘ภาชนะ’ ที่พวกเราตามหามานาน”หยางเหวินก้าวออกไปข้างหน้าโดยไม่รอให้หลัวซิงกล่าวสิ่งใด ลมหายใจของเขาส่งแรงสะเทือนบางเบาออกไปปะทะพลังของอีกฝ่าย“ข้าไม่ใช่ภาชนะของผู้ใดทั้งสิ้น” เขากล่าวเสียงหนักแน่นไป๋หรูอวิ๋นจับพิณแน่นขึ้นเล็กน้อย ก้าวมายืนข้างเขา นางยังไม่พูด แต่ลมหายใจเริ่มเข้าจังหวะพร้อมกันหลัวซิงเอ่ยเบา ๆ จากด้านหลัง“เจ้าไม่จำเป็นต้องชนะ เพียงแค่ไม่ปล่อยให้ใครกลืนลมหายใจของเจ้าไปก็พอ”จากนั้น เงาร่างของศัตรูก็พุ่งเข้ามารวดเร็วอย่างไร้เสียง ศัตรูในหน้ากากดำพุ่งเข้าหาหยาง
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 7 ลมหายใจที่ไม่ใช่ของตน
หลังเหตุการณ์ที่หุบเขาหยกขาวสงบลง หยางเหวินและไป๋หรูอวิ๋นพักฟื้นอยู่ที่กระท่อมของหลัวซิง แม้ร่างกายจะฟื้นตัวเร็ว แต่สิ่งที่ตกค้างอยู่ภายในใจกลับไม่ง่ายนักจะเยียวยาหลัวซิงบาดเจ็บหนักจนต้องปิดด่านฝึกเพื่อรักษาชีพจรพลังลมปราณชั้นใน หยางเหวินจึงใช้เวลานั่งสมาธิในเรือนไม้หลังเล็กทุกเช้า ทบทวนลมหายใจของตนอย่างเงียบงันแต่ในหนึ่งวันนั้น ระหว่างหายใจเข้า เขากลับได้ยินเสียงที่ไม่ใช่เสียงของตน“ช่วยข้าด้วย”เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเขา เงียบ แผ่ว แต่ชัดเจนราวกับใครมากระซิบข้างใบหู เขาลืมตาขึ้นทันที จังหวะลมหายใจขาดสะบั้นชั่วขณะ“เป็นอีกแล้วหรือ”หยางเหวินพึมพำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงแปลกประหลาดเหล่านี้ ทุกครั้งที่เขาฝึกหายใจลึก เสียงของผู้คนที่ไม่เคยเห็นหน้ากลับผุดขึ้นในจิตวันหนึ่ง เขาทดลองฝึกลมหายใจแบบ “สะท้อนกลับ” ตามคำสอนของหลัวซิง โดยจินตนาการว่าไม่ได้หายใจเพื่อตนเอง แต่เพื่อสะท้อนจังหวะของผู้คนรอบข้างพริบตานั้นเองเสียงหนึ่งก็แว่วชัดขึ้นกว่าเดิม“ข้าชื่อหลิ่งฮวา เจ้าคือผู้ที่ข้าทิ้งลมหายใจไว้ให้”หยางเหวินเบิกตากว้าง เขาไม่รู้จักคนที่ชื่อหลิ่งฮวา ไม่เคยพบหญิงใดชื่อนี้ แต่เมื่
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 8 คืนแรกของเลือดและพิณ
ลมหนาวเคลื่อนตัวลงจากยอดเขาต้าหลาน เงาจันทร์คลุมทั่วหุบเขา กลางเสียงเงียบงันของธรรมชาติ คืนนั้น เสียงพิณแรกแว่วขึ้นจากยอดผาไป๋หรูอวิ๋นนั่งอยู่ใต้ต้นสนโบราณ มือเรียวขาววางลงบนสายพิณหยก ท่วงทำนองแรกคล้ายสายลมแผ่ว เสียงดังกระทบผิวหินอย่างนุ่มนวลนางเล่นไม่ใช่เพียงเพื่อความสงบ แต่เพื่อกล่อมจิตเสียงพิณสะท้อนเข้าไปในใจของหยางเหวินซึ่งนั่งหลับตาอยู่บนหินไม่ห่างกันมาก ภายในสติที่สงบนั้น ท่วงทำนองกลับปลุกภาพบางอย่างขึ้นมาภาพของสตรีในชุดม่วงหมอก ภาพของสนามรบ ภาพเลือด และเสียงร้องแห่งความสูญเสียแต่ไม่มีเสียงใดน่าหวาดกลัวเท่า “เสียงร้องขอ” ที่เขาเคยได้ยินในจิต หยางเหวิ สะดุ้งเบา ๆ ลืมตาขึ้น“พิณของเจ้า มันเรียกบางสิ่งกลับมาในตัวข้า” เขากล่าวแผ่ว ๆไป๋หรูอวิ๋นยังคงไม่หยุดมือ “ข้ากล่อมจิตไม่ใช่เพื่อลบความทรงจำ แต่เพื่อให้เจ้าจ้องมองมันตรง ๆ โดยไม่หวั่นไหว”หยางเหวินกำมือแน่น แต่ในแววตากลับมีความนิ่งที่มากกว่าเดิม ท่ามกลางเสียงพิณนั้น เขาหลับตาอีกครั้ง คราวนี้เขายินยอมให้ภาพเหล่านั้นกลับมาคราวนี้ ภาพไม่ได้เป็นเพียงภาพฝัน แต่มันคือความทรงจำบางส่วนของเขาเองลานประลองที่เปียกชื้นด้วยฝนแ
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 9 เงาอดีตใต้หน้ากากเหล็ก
เช้าวันถัดมา ท้องฟ้าเหนือเขาต้าหลานยังคงอึมครึม กลิ่นอายของการต่อสู้เมื่อคืนไม่สลายไปง่าย ๆ เถ้าธุลีของศัตรูผู้ไร้ลมหายใจยังหลงเหลืออยู่ตามลานไม้และซอกหินไป๋หรูอวิ๋นยืนสำรวจเศษธุลีสีเทา มือขาวเรียวหยิบเศษกระเบื้องหน้ากากเหล็กที่ตกอยู่ขึ้นมาพินิจ“พรรคเหยี่ยวนิลไม่เคยใช้หน้ากากเหล็กแบบนี้มาก่อน” นางเอ่ยช้า ๆ “หรืออาจเป็นกลุ่มแยกที่ตัดขาดจากพรรคเดิม?”หยางเหวินนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ลมหายใจของเขาราบเรียบขึ้น แต่ภายในใจยังว้าวุ่นเขาไม่ได้ฝันอีก แต่เสียงนั้นยังคงอยู่“เจ้า! เลือดของผู้ทรยศ จงคืนลมหายใจนั้นเสีย” เสียงในความมืด วนเวียนอยู่ในห้วงจิตเขาลืมตาขึ้นอย่างกระทันหัน หันไปมองเศษหน้ากากในมือของไป๋หรูอวิ๋น“ข้าเคยเห็นสิ่งนั้นมาก่อน” เขากล่าวเสียงต่ำ “ในความทรงจำหนึ่ง มีคนที่ใส่หน้ากากแบบนี้ เขาเป็นคนที่ฆ่าท่านแม่ของข้า!”ไป๋หรูอวิ๋นชะงัก หยุดมือทันที “แน่ใจหรือ?”“ไม่แน่ใจ แต่จิตของข้าตอบสนองทันทีเมื่อเห็นมัน ข้ารู้สึกเหมือนเลือดในตัวข้าเดือดพล่านขึ้นมาเอง”นางพยักหน้าช้า ๆ “เช่นนั้นเราต้องตามหาต้นทางของหน้ากากนี้ และตามหาความจริงว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเขาเกี่ยวข้องกับเจ
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
บทที่ 10 คำถามกลางหิมะ
หิมะเริ่มตกในยามค่ำของเชิงเขาต้าหลาน ลมหนาวพัดผ่านราวกับเสียงสะท้อนของยุทธภพที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนหิมะหยางเหวินและไป๋หรูอวิ๋นยืนอยู่หน้าประตูเรือนพักของหลัวซิง สายลมหอบเอาความเงียบมาสู่เบื้องหน้าประตูไม้เก่า ๆประตูเปิดออกช้า ๆ ราวกับรู้ว่าพวกเขาจะมา หลัวซิงในชุดคลุมหนาทรงยาว นั่งรออยู่เบื้องหน้าเตาไฟ สีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเคย แต่แววตานั้นบ่งบอกว่าเขารู้ว่าเหตุใดศิษย์ทั้งสองถึงกลับมา“เจ้าทั้งสอง ได้ยินเสียงของอดีตแล้วสินะ” หลัวซิงกล่าวโดยไม่หันหน้าไปหยางเหวินก้าวเข้าไปในห้อง นั่งลงตรงข้ามอาจารย์อย่างสงบ แต่ดวงตากลับมุ่งมั่น“ท่านอาจารย์” เสียงของเขาหนักแน่น “ข้าอยากรู้ความจริง เกี่ยวกับศิษย์คนก่อนของท่าน คนที่สร้าง ‘เงาเหล็กใต้ฟ้า’”ไป๋หรูอวิ๋นนั่งลงข้าง ๆ สังเกตสีหน้าของหลัวซิงอย่างระมัดระวัง หลัวซิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้น“เขาชื่อว่า ‘หานซืออวิ๋น’”ทันทีที่สิ้นชื่อนั้น ลมหิมะข้างนอกพัดแรงขึ้นอย่างผิดปกติ“เขาเคยเป็นศิษย์ของข้า เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเหนือผู้ใดในยุทธภพ” เสียงของหลัวซิงเริ่มแผ่วลง “แต่เขากลับฝึกวิชาต้องห้ามจากคัมภีร์ลมหายใจกลับด้าน และเลือกเส้นทางที่ต่างจากคำสอน
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status