Beranda / วาย / รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ / |PART 11| การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

Share

|PART 11| การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

Penulis: Badberry
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-05 09:57:23

|PART 11|

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

โรงพยาบาลเฉินเซินแม้จะเป็นเพียงโรงพยาบาลประจำเมืองแต่ก็เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัย ทั้งยังมีทีมแพทย์มากฝีมือที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานของรัฐ ผู้คนต่างเมืองเมื่อเจ็บป่วยด้วยโรคที่หาสาเหตุไม่ได้ต่างก็มุ่งตรงมายังโรงพยาบาลแห่งนี้กันทั้งนั้น และแน่นอนกว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของที่ก็คือสกุลหลิวโดยมีสกุลซุนเป็นผู้ดำเนินการ

"เชิญทางนี้เลยครับคุณชายหลิว"

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนำทางหลิวอิงและหวงหนิงหลงไปยังห้องตรวจพิเศษ แม้ไม่ใช่การตรวจครั้งแรก แต่หลิวอิงกลับไม่ชินกับวิธีการและอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจของที่นี่สักที

เมื่อเข้าไปภายในห้องเปลี่ยนชุด หลิวอิงได้ถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่ออกจนเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า จากนั้นจึงหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับไว้ ออกมานอกห้องก็พบหวงหนิงหลงและทีมแพทย์ยืนรอเพื่อนำทางเขาไปยังห้องตรวจ

หลิวอิงถอดเสื้อคลุมออกเมื่ออยู่ภายในห้องตรวจพิเศษและส่งให้กับหวงหนิงหลง จากนั้นได้ไปนั่งบนเก้าอี้เพื่อรับการตรวจ เขารู้สึกถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของทีมแพทย์ มันทำให้เขาขนลุกและขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก ดีที่มีหวงหนิงหลงอยู่ในห้องด้วยกัน

เลือดจำนวนหนึ่งถูกนำออกจากร่างของหลิวอิง จากนั้นเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปร่างเป็นเตียงโดยอัตโนมัติ และลำเลียงร่างของเขาเข้าไปภายในอุโมงค์ที่เป็นกระจกใส คลื่นไฟฟ้าและพลังงานที่ปรับแต่งแล้วถูกปล่อยเข้ามา มันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับหลิวอิงนอกจากแสงที่สว่างจ้าจนต้องสวมแว่นตาป้องกันไว้

ภายในห้องห้องหนึ่งของโรงพยาบาลเฉินเซิน คนกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองภาพของหลิวอิงในห้องตรวจที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่อย่างพินิจพิเคราะห์ และมีการพูดคุยถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเขา

"ไม่น่าเชื่อว่าร่างกายจะเปลี่ยนไปจากก่อนหน้าชัดเจนขนาดนี้"

"นั่นสิครับ แค่ได้รับน้ำเชื้อจากผู้ชายแค่ครั้งเดียว สรีระและผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ลงมากทีเดียว"

พวกเขาสำรวจร่างกายของหลิวอิงอย่างละเอียดไปพร้อมกับทีมแพทย์ที่อยู่อีกห้องหนึ่ง และบันทึกข้อมูลที่สำคัญไว้

กล้ามเนื้อแข็งแรงของบุรุษเพศนั้นหายไปอย่างเห็นได้ชัด ผิวพรรณขาวผุดผ่องละเอียดและดูอ่อนนุ่มขึ้น เครื่องเพศมีสีอ่อนและขนาดลดลงเล็กน้อย สะโพกกลมกลึงเพราะมีปริมาณไขมันที่เพิ่มขึ้น

"นั่นเขากำลังจะกลายเป็นตัวเมียเหรอ เธอคิดว่ายังไงล่ะดอกเตอร์หยาง"

ผู้อาวุโสถามขึ้น ทำให้คนอื่น ๆ ภายในห้องหันไปมองหยางลู่เฉิงเพื่อฟังคำตอบ

"เรายังสรุปตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ เพราะพลาสม่าของอสรพิษเกล็ดเงินที่ฉีดเข้าไปในร่างกายคุณชายหลิวนั้นมีโครโมโซมทั้งตัวผู้และตัวเมีย เพื่อให้แน่ใจเราคงต้องรอผลเลือดอีกที"

หยางลู่เฉิงแสยะยิ้มร้ายมองเอวคอดของหลิวอิง ขนาดนอนหงายยังดูสวยงาม พิจารณาให้ดีแล้วหลิวอิงนั้นสวยกว่าจางหลิวซิงเสียอีก

"ถ้าอย่างนั้นก็รีบจัดการเข้า จะได้ดำเนินการขั้นต่อไปสักที"

หญิงสาวผู้มีริมฝีปากสวยสดสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนอยู่หัวโต๊ะข้างผู้มีอำนาจสูงสุดพูดขึ้น ใบหน้าอ่อนกว่าวัยนี้ปิดบังอายุแท้จริงไว้เสียสนิท หากไม่พูดไม่มีใครรู้เลยว่าเธอมีอายุล่วงมาถึงเลขห้าแล้ว แต่กลับมีใบหน้าอ่อนเยาว์ราวสาวอายุสามสิบต้น ๆ เท่านั้น

เธอบอกกับทุกคนภายในห้องว่าการทดลองทางชีวภาพครั้งนี้ทั้งหมดก็เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับมวลมนุษยชาติ และการทำงานใหญ่ย่อมต้องมีการเสียสละ อย่างเธอกับชายที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ หรือแม้แต่ดอกเตอร์ซุนที่สูญเสียลูกสาวไปกับการทดลองนี้

หลิวอิงใช้เวลาในการตรวจร่างกายอยู่เกือบสองชั่วโมง ซึ่งนับว่านานกว่าทุกครั้ง หลังอุโมงค์ได้เปิดออก หลิวอิงได้ลุกขึ้นนั่งโดยมีหวงหนิงหลงช่วยพยุงและสวมเสื้อคลุมเพื่อปกปิดร่างกายให้ จากนั้นหวงหนิงหลงได้ไล่แพทย์ทั้งหกคนให้ออกไปจากห้อง ตัวเขาก็สังเกตเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของทีมแพทย์เช่นกัน

"น่าขนลุกชะมัด"

หลิวอิงพูดขึ้นขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยมีหวงหนิงหลงคอยช่วย เขาอยากออกไปจากที่แห่งนี้โดยเร็วเพราะรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่มา หากไม่ใช่คำสั่งของคุณพ่อเขาจะไม่มาเหยียบที่นี่เด็ดขาด

"นี่หนิงหลง เมื่อตอนอยู่ในอุโมงค์ฉันรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้"

"มีอะไรหรือครับ"

"นอกจากนายและพวกหมอในห้องแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนมีสายตานับสิบคู่คอยแอบมองฉันจากที่ไหนสักแห่ง"

หวงหนิงหลงที่มีสีหน้าราบเรียบ เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนบอกว่าหลิวอิงคิดมากไปเอง ให้เขาทำใจให้สบายเพราะยังมีงานที่ต้องทำรออยู่อีกมากมาย ในขณะที่ภายในใจรู้สึกโกรธเคืองคนกลุ่มนั้นไม่น้อย

"หน็อย..ตาเฒ่าพวกนั้น.." หวงหนิงหลงคิดในใจก่อนขับรถพาหลิวอิงออกจากโรงพยาบาลไป

ทางด้านเซียวหลางขณะขับรถไปยังเรือนปิงเจี๋ย เขาได้พบเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเท้าไปทางเดียวกันจึงแวะจอดถาม ที่จริงเขาไม่ได้อยากจอดรถถามแต่เพราะถูกจางหลิวซิงดึงหูจึงยอมทำตาม พอพูดคุยสอบถามจึงรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนกับเซียวเยว่และกำลังไปที่เรือนปิงเจี๋ยจึงให้ขึ้นรถไปด้วยกัน

"วังหมิงหยวน นายมาที่นี่ได้ยังไงกัน"

เซียวเยว่ทักขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นเพื่อนร่วมมหาลัยมาพร้อมกับเซียวหลางและจางหลิวซิง

"นายใจดำมากเลยนะเสี่ยวเยว่ ย้ายบ้านทั้งทีทำไมไม่บอกฉันสักคำ"

วังหมิงหยวนพอเห็นหน้าเซียวเยว่ก็เข้าไปต่อว่า เป็นเพื่อนรักภาษาอะไรย้ายบ้านทั้งทีกลับไม่บอกกันสักคำ หากไม่ไปถามจากหม่าอี้เขาคงไม่รู้ว่าเซียวเยว่ได้ย้ายมาอยู่ที่เรือนปิงเจี๋ยของสกุลหลิวแล้ว

"หน็อย..ไอ้ม้าบ้านั่น คิดจะให้วังหมิงหยวนมาขวางฉันกับไป๋เหยียนงั้นเหรอ ชิ! ไม่มีทางซะหรอก" ลูกหมาป่ากัดฟันกรอด

สภาพอากาศรอบเรือนปิงเจี๋ยนั้นหนาวเย็นตลอดทั้งปี และภายในห้องยังติดเครื่องปรับอากาศไว้อีก สัตว์กลายพันธุ์ที่มาจากดินแดนที่หนาวเหน็บนั้นมีร่างกายที่ทนทานต่อความหนาวเย็นอยู่แล้วจึงไม่รู้สึกอะไร ส่วนจางหลิวซิงนั้นได้รับเลือดจากเซียวหลางทำให้อยู่ในสภาพอากาศที่แปรปรวนได้ เว้นแต่วังหมิงหยวนที่ต้องขอยืมเสื้อกันหนาวของเซียวเยว่มาสวมไว้

เมื่อมีคนนอกอยู่ด้วยเซียวหลางจึงไม่พูดเรื่องสัตว์กลายพันธุ์เพียงพูดคุยประสาพ่อลูกกับเซียวเยว่เท่านั้น และวังหมิงหยวนก็อยู่ที่เรือนปิงเจี๋ยจนถึงหัวค่ำ

"ว่าแต่เรือนปิงเจี๋ยของสกุลหลิวนี่อลังการจังเลยนะ"

วังหมิงหยวนพูดขึ้นขณะดื่มชาร้อนอยู่ในสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ภายในสระน้ำมีดอกบัวบานอยู่เต็มไปหมดและยังมีปลาสายพันธุ์ที่เขาไม่รู้จักว่ายวนอยู่ ครั้นพอวังหมิงหยวนเข้าไปดูใกล้ ๆ พวกมันต่างว่ายมาอยู่เบื้องหน้าของเขา พอเซียวเยว่เข้ามาใกล้พวกปลาก็ว่ายหนีออกไปทันที

"นายคุยอะไรกับพวกมันเหรอ?" เซียวเยว่ถามขึ้น

"คะ..คุยอะไร เปล่าสักหน่อย ปลามันพูดได้ที่ไหนกัน ฮะ ๆ ๆ" วังหมิงหยวนปฏิเสธพลางหัวเราะกลบเกลื่อน

เซียวเยว่พูดล้อเล่นเท่านั้นแต่วังหมิงหยวนร้อนตัวไปเอง เขาแค่จะถามว่าเมื่อไหร่วังหมิงหยวนจะกลับ ตัวเขาอยากจะไปหาเหอไป๋เหยียนและลูกใจจะขาด แต่วังหมิงหยวนนั้นกลับขอค้างที่เรือนปิงเจี๋ยด้วย มีหรือที่หมาป่าหนุ่มจะยอม เขาคว้าคอเสื้อของวังหมิงหยวนและลากตัวออกไปทันที

"คุณพ่อครับ เพื่อนผมจะกลับแล้ว รบกวนคุณพ่อไปส่งเขาที่หอพักเซินไห่ไห้ทีนะครับ"

"คะ..ใครจะกลับกัน ฉันจะค้างกับนายที่นี่ด้วย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ"

วังหมิงหยวนดิ้นรนจนหลุดจากมือของเซียวเยว่ เวรกรรมดันเสียหลักเซไปทางที่จางหลิวซิงยืนอยู่จึงถูกเซียวหลางคว้าคอเสื้อไว้อีกครั้ง

"ฉันจะไปส่งนายเอง"

เซียวหลางพูดเสียงเข้มพลางจ้องตาเขม็งจนวังหมิงหยวนทำตัวไม่ถูก และรีบตกปากรับคำทันที

"คะ..ครับ.."

หลังวังหมิงหยวนถูกเซียวหลางลากตัวไปส่งยังหอพักของมหาวิทยาลัยเซินไห่แล้ว เซียวเยว่จึงรีบไปหาเหอไป๋เหยียนที่ห้องทันที ภายในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศจนหนาว เขาพบเหอไป๋เหยียนในร่างงูขาวนอนขดกายอยู่บนเตียง วันนี้ทั้งวันเขาไม่เห็นไป๋เหยียนออกจากห้องสักก้าว พอเข้าไปใกล้ก็พบว่าเสื้อของเขาถูกเหอไป๋เหยียนนำมากองรวมกันและนอนทับไว้

"ตัวจริงอยู่นี่แล้วแท้ ๆ จะมัวกอดเสื้ออยู่ทำไมกัน" เซียวเยว่ว่าพลางอุ้มงูขาวที่ขดตัวนอนหลับซุกเข้าไปในเสื้อคลุมอีกทีหนึ่ง

เหอไป๋เหยียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหมาป่าหนุ่ม เขาบิดตัวอย่างเกียจคร้านและขดตัวกลับไปในท่าที่ผ่อนคลายกว่าเดิมโดยไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้น

จนเมื่อเวลาล่วงเข้ายามเช้า เหอไป๋เหยียนในร่างมนุษย์พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของหมาป่าหนุ่มจึงดันตัวออกและดึงผ้าขึ้นมาห่มให้แทนเพราะอีกฝ่ายยังคงหลับสนิท เขาลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นจึงออกไปยืดเส้นสายในสวนและพบเซียวอวี่นั่งดื่มกาแฟอยู่ จึงเข้าไปทักทาย

"ตื่นเช้าจังเลยนะเสียวอวี่ ไม่เหมือนน้องชายของเธอ รายนั้นยังนอนอุตุอยู่เลย"

"คุณอาไป๋เหยียนก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ" เซียวอวี่ทักทายกลับไป

"ไม่หรอก คงเพราะเมื่อวานฉันนอนมาทั้งวันล่ะมั้ง"

ตั้งแต่ตั้งครรภ์เหอไป๋เหยียนใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนอน อากาศหนาวเย็นทำให้เขาไม่อยากลุกออกจากเตียงไปไหน เป็นเพราะนอนทั้งวันทำให้เขาไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ตอนนี้ก็เลยหิวจนท้องร้องเสียงดัง

"คุณอาคงหิวแล้ว เดี๋ยวผมไปทำอะไรให้ทาน คุณอาอยากทานอะไรหรือครับ"

เซียวหลางให้เซียวอวี่มาอยู่ที่เรือนปิงเจี๋ยเพื่อดูแลไป๋เหยียนเพราะรู้ว่าลูกชายคนเล็กนั้นคลั่งรักงูขาวหนุ่มจนไม่สนใจอะไร นอกจากนั้น หากว่าเกิดเรื่องคาดไม่ถึง ทั้งคู่จะได้ช่วยเหลือกันได้

"ฉันอยากกินลูกพลับสด"

"ฮะ? อะไรนะครับ"

เซียวอวี่คิดว่าเหอไป๋เหยียนจะอยากทานแซนด์วิชหรือไม่ก็โจ๊กในตอนเช้าเสียอีก คิดไปคิดมาเหอไป๋เหยียนที่เป็นสัตว์กินเนื้อ ตอนแพ้ท้องน่าจะอยากกินพวกเนื้อสดมากกว่า แต่พอบอกว่าอยากทานผลไม้จึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย

"ที่นี่ไม่มีลูกพลับสด เดี๋ยวผมออกไปซื้อมาให้นะครับ"

แม้จะเกรงใจแต่เหอไป๋เหยียนก็ไม่ปฏิเสธ หากรอเซียวเยว่ตื่นวันนี้เขาคงไม่ได้กินลูกพลับสดแน่

ขณะเซียวอวี่จะออกจากเรือนปิงเจี๋ยเพื่อไปซื้อลูกพลับสดให้กับเหอไป่เหยียน จู่ ๆ มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นเซียวหลางที่โทรเข้ามาและบอกให้เขากับเซียวเยว่ไปพบตอนนี้

"พวกเธอไปกันเถอะ"

"คุณอาอยู่คนเดียวได้หรือครับ"

"ฉันโตแล้วนะ ทำไมจะอยู่คนเดียวไม่ได้ล่ะ"

เมื่อเหอไป๋เหยียนว่าแบบนั้นเซียวอวี่จึงไปปลุกเซียวเยว่ให้ตื่น ระหว่างรอเซียวเยว่แต่งตัวจึงเข้าไปทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้เหอไป๋เหยียน เพราะกลัวเขาและเด็กในท้องจะหิว

"ผมทำอาหารไว้ให้แล้ว มื้อเช้าอยู่บนโต๊ะ มื้อกลางวันและของว่างอยู่ในตู้เย็น คุณอาเอามาอุ่นทานได้นะครับ"

เซียวอวี่กลัวว่าจะกลับมาไม่ทันมื้อเย็นจึงได้ทำอาหารเตรียมไว้ให้เหอไป๋เหยียนทั้งสามมื้อ และลืมไปเสียสนิทว่าเหอไป๋เหยียนนั้นอยากกินลูกพลับสด

เมื่อเซียวเยว่กับเซียวอวี่ไม่อยู่แล้ว เรือนปิงเจี๋ยจึงเหลือเพียงเหอไป๋เหยียน อารมณ์คนท้องพอไม่มีของที่อยากกินจึงพาลไม่แตะต้องอาหารอย่างอื่นที่เซียวอวี่เตรียมไว้ให้ เหอไป๋เหยียนกลับเข้าไปในห้องและนอนขดตัวอยู่บนเตียง จากนั้นก็เผลอหลับไป

เหอไป๋เหยียนตื่นขึ้นในตอนหัวค่ำและพบว่าเซียวเยว่ยังไม่กลับก็พานให้รู้สึกน้อยใจ ที่ผ่านมาเขามักรำคาญที่หมาป่าหนุ่มมาคอยตามตอแย ครั้นพออีกฝ่ายไม่อยู่กลับคิดถึงขึ้นมาเสียได้

"ป่านนี้แล้วยังไม่กลับมาอีก คืนนี้จะไม่ให้นอนในห้อง คอยดูสิ"

ห้องนอนของเหอไป๋เหยียนกับเซียวเยว่นั้นได้จัดไว้แยกกัน แต่หมาป่าหนุ่มไม่ยอมอยู่ห้องของตัวเองกลับขนเอาเสื้อผ้ามาอยู่ห้องเดียวกับเหอไป๋เหยียน ทั้งยังแย่งพื้นที่บนเตียงของเหอไป๋เหยียนไปอีก ทีแรกเหอไป๋เหยียนก็อึดอัดพอนานวันเข้าก็เริ่มชิน

จนเวลาล่วงไปหลังเที่ยงคืนก็ไม่มีวี่แววว่าหมาป่าหนุ่มจะกลับมา อามรมณ์จากที่น้อยใจก็กลายเป็นโมโห ความหิวบวกกับฮอร์โมนของคนท้องทำให้เหอไป๋เหยียนไม่อยากเจอหน้าหมาป่าหนุ่มอีกจึงกลายร่างเป็นงูขาว เลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายของอีกฝ่ายหลงเหลืออยู่

คล้อยหลังเหอไป๋เหยียนไปไม่เท่าไรเซียวเยว่ก็ได้เดินทางกลับมาถึงเรือนปิงเจี๋ยโดยเซียวอวี่ไม่ได้กลับมาด้วยกัน เขารีบตรงไปหาเหอไป๋เหยียนที่ห้องทันที

"ฉันกลับมาแล้ว ไป๋เหยียน นายอยู่ที่ไหนกัน"

พอเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วไม่พบเหอไป๋เหยียนก็ทำเอาหมาป่าหนุ่มร้อนใจวิ่งวุ่นหาไปรอบเรือน คิดกังวลกลัวว่าเหอไป๋เหยียนจะหอบเสื้อผ้าหนีไป กว่าจะตั้งสติได้และใช้สัญชาตญาณในการดมกลิ่นตามหาและพบว่าเหอไป๋เหยียนนั้นได้นอนขดกายอยู่ในตู้เสื้อผ้าก็เสียเวลาไปพอสมควร

"ทำไมถึงมานอนอยู่ที่นี่ได้นะ"

หมาป่าหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าเหอไป๋เหยียนปลอดภัย จากนั้นจึงได้อุ้มเหอไป๋เหยียนในร่างของงูขาวออกมาจากตู้เสื้อผ้าและพาไปที่เตียง เหอไป๋เหยียนรู้สึกตัวพอดีจึงกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์และต่อว่าเซียวเยว่ที่กลับดึกทิ้งให้เขาต้องอยู่ลำพัง และยังปล่อยให้หิวอีก

"เซียวอวี่ทำอาหารไว้ให้แล้วนี่ ทำไมนายไม่กินล่ะ"

"ก็ฉันไม่อยากกินนี่นา แต่ตอนนี้ฉันหิวมากเลย ฮีก ๆ ๆ"

จู่ ๆ เหอไป๋เหยียนก็สะอื้นออกมา ทำเอาหมาป่าหนุ่มทำอะไรไม่ถูก ครั้นพอจะลุกไปเอาอาหารมาให้ก็ถูกเหอไป๋เหยียนรั้งตัวไว้บอกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว พออยู่เป็นเพื่อนเหอไป๋เหยียนก็เอาแต่ร้องว่าหิว หมาป่าหนุ่มถึงกับกุมขมับไม่รู้ต้องทำอย่างไร สุดท้ายจึงตัดสินใจไปเอาอาหารที่เซียวอวี่ทำไว้มาอุ่นโดยพาเหอไป๋เหยียนไปด้วย แต่เหอไป๋เหยียนกลับไม่ยอมแตะสักคำ

"ถ้าอย่างนั้นนายรออยู่นี่ก่อนนะ"

เซียวเยว่หายเข้าไปในครัวและกลับมาพร้อมกับไก่สด แต่เดิมเหอไป๋เหยียนเป็นงูน่าจะชอบกินอะไรพวกนี้ ที่ไหนได้เหอไป๋เหยียนกลับสะอื้นหนักกว่าเก่าและเอาแต่ร้องว่าหิวแต่ไม่ยอมบอกว่าอยากกินอะไร

"โอ๊ย..ทำไงดีเนี่ย!"

ช่วงที่กำลังกลุ้มใจเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นเซียวอวี่จึงกดรับสาย

"นายเป็นอะไรไปเยว่หลาง ทำไมน้ำเสียงไม่ค่อยดีเลย" เซียวอวี่ถามขึ้น

"ก็ไป๋เหยียนนะสิเป็นอะไรก็ไม่รู้ เอาแต่ร้องไห้บอกว่าหิว แต่ไม่ยอมกินอาหารที่ฉันเอามาให้สักอย่าง"

พอได้ยินแบบนั้นเซียวอวี่จึงบอกกับเซียวเยว่ว่าเหอไป๋เหยียนอยากทานลูกพลับสด เขาเพิ่งนึกออกจึงรีบโทรมาบอกเพื่อบอกให้เซียวเยว่แวะซื้อก่อนกลับเรือนปิงเจี๋ย แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว

"ทำไมนายถึงเพิ่มมาบอกล่ะ!!"

เซียวเยว่บอกกับเซียวอวี่และกดวางสายทันที จากนั้นได้หันมาบอกกับเหอไป๋เหยียนว่าจะออกไปซื้อลูกพลับสดมาให้ เหอไป๋เหยียนพอรู้ว่าจะต้องอยู่คนเดียวก็รั้งเซียวเยว่เอาไว้และร้องว่าไม่อยากอยู่คนเดียวแต่ก็บอกว่าหิวเช่นกัน

ด้วยความเป็นห่วงลูกในท้องเซียวเยว่จึงอุ้มเหอไป๋เหยียนไปที่รถและขับพาออกไปซื้อลูกพลับสดด้วยกัน เวลาป่านนี้ร้านขายผลไม้ก็ปิดแล้ว ร้านสะดวกซื้อก็ไม่มีลูกพลับสดขาย เซียวเยว่จึงตัดสินใจขับรถไปยังตลาดค้าส่งผลไม้ที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่อยู่ไกลออกไปแทน

ด้วยที่ไม่ใช่ฤดูทำให้ลูกพลับสดหายาก ส่วนที่มีขายก็ไม่สวยไม่มีให้เลือก แต่ก็ทนเห็นเหอไป๋เหยียนหิวไม่ได้จึงซื้อเท่าที่มีมาก่อน พอกลับถึงเรือนปิงเจี๋ยจึงปอกให้เหอไป๋เหยียนได้ทาน และระหว่างที่เซียวเยว่ปอกลูกพลับสดอยู่นั้นเหอไป๋เหยียนได้คืนร่างเป็นงูขาว เลื้อยเข้าไปขดตัวอยู่ในอกเสื้อไม่ยอมห่างไปไหน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ   SPECIAL PART คืนฮาโลวีนที่แสนวุ่นวาย

    SPECIAL PARTคืนฮาโลวีนที่แสนวุ่นวายในยุคสมัยที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและเป็นยุคที่ผู้คนไม่เชื่อเรื่องภูตผีปิศาจหรือสิ่งเร้นลับอีกต่อไป เทศกาลฮาโลวีนกลับยังได้รับความนิยมจากผู้คนในเมืองเฉินเซินเสมอมาแม้เป็นเทศกาลของชาติตะวันตกก็ตามเมืองเฉินเซินนับเป็นเมืองที่จริงจังกับเทศกาลฮาโลวีนไม่แพ้เมืองอื่น ทุกพื้นที่มีการตกแต่งให้ดูน่ากลัวราวกับอยู่ในเมืองแห่งความตายจริง ๆ ร้านค้าขนาดเล็กจะตกแต่งภายในให้เป็นป่าช้า ห้างขนาดใหญ่ถึงขั้นลงทุนตกแต่งตึกให้เป็นโรงพยาบาลผีสิง บนถนนจะมีหลุมฝังศพและสุสานตลอดเส้นทางที่จริงจังกันขนาดนี้เพราะหากสถานที่ใดตกแต่งได้สมจริงและน่ากลัวที่สุดจะได้รับรางวัลจากผู้ว่าการเมืองเฉินเซิน คิดเป็นมูลค่าแล้วไม่น้อยเลยทีเดียวหลังพระอาทิตย์ตกดิน ผู้คนภายในเมืองทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างแต่งกายในชุดผีหรืออมนุษย์ที่เป็นที่นิยมออกไปเคาะประตูตามบ้านเรือน เมื่อเปิดประตูออกมาคุณอาจจะได้พบกับศพที่ร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือดก็เป็นได้ณ คฤหาสน์สกุลหลิว เด็ก ๆ ต่างรอคอยที่จะออกไปเที่ยวเทศกาลฮาโลวีนด้วยความตื่นเต้น พวกเขาใช้เวลาเลือกชุดแต่งกายแฟนซีเป็นผีที่ชื่นชอบอยู่นาน สุดท

  • รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ   |PART 26| สิ้นสุดการเดินทาง

    |PART 26|สิ้นสุดการเดินทางสถานการณ์บนดาดฟ้าของศูนย์วิจัยที่ลักลอบสร้างขึ้นในป่านอกเมืองเฉินเซินในตอนนี้เริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อเกิดการประจันหน้าระหว่างพวกของพยัคฆ์ขาวเสวี่ยเทียนกับหลิวเมิ่งอัน โดยตรงนั้นยังมีจางหลิวซิงที่ควรจะออกไปจากที่นี่แล้วอยู่ด้วยและที่ศีรษะของเขาได้มีปืนจ่ออยู่"หลิวซิง เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!""พี่หลิวอิง ทำไมไม่ไปที่รถล่ะครับ"ความเอาแต่ใจของทั้งสองคนสร้างความลำบากใจให้กับพยัคฆ์ขาวเสวี่ยเทียนที่รับปากจะดูแลจางหลิวซิงและช่วยเหลือหลิวอิงจากศูนย์วิจัยไม่น้อย แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกลับมาอยู่ด้วยกันในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้ได้ เป็นการยากที่เขาจะปกป้องคนสองคนไปพร้อมกัน แม้สัตว์ทดลองด้านล่างจะได้สัตว์กลายพันธุ์ที่มาจากเหว่ยหลางช่วยจัดการก็ตาม"นี่นาย!?"หม่าอี้จำได้ว่าเคยพบกับถังหลินชีบนถนนเส้นที่ใช้เดินทางไปยังเรือนปิงเจี๋ย ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าถังหลินชีก็เป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่เดินทางมาจากเกาะเพราะถังหลินชีได้มาอยู่กับสวีเพ่ยหลังหม่าอี้เดินทางออกจากเกาะมาแล้ว ที่สำคัญถังหลินชียังเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์อีกด้วยถังหลินชียิ้มเป็นมิตร

  • รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ   |PART 25| อดีตที่ถูกเปิดเผย

    |PART 25|อดีตที่ถูกเปิดเผยบริเวณโถงใหญ่ภายในถ้ำอสรพิษได้เกิดการต่อสู้ระหว่างทหารรับจ้างกลายพันธุ์กับไป๋จื่ออิงขึ้น ในขณะที่หยางลู่เฉิงได้ใช้ปืนที่บรรจุเซรุ่มสำหรับฆ่าสัตว์กลายพันธุ์โดยเฉพาะยิงใส่วังหมิงหยวนที่พยายามห้ามไม่ให้เขาใช้ระเบิดที่มีความรุนแรงภายในถ้ำน่าแปลก..วังหมิงหยวนที่แสนเชื่องช้าคนนั้นกลับหลบกระสุนได้ทัน หรือเขาจะมีเทพเจ้าแห่งโชคคุ้มครองอยู่อย่างที่พูดกันนะ"ยะ..อย่าครับ อย่าฆ่าผม.."วังหมิงหยวนวิ่งหลบกระสุนที่หยางลู่เฉิงยิงใส่จนขาพันกันทำให้ลื่นล้มลงกับพื้น โถงกว้างไม่มีที่ให้หลบแต่กระสุนนั้นกลับไม่โดนตัวเขาสักนัด เพียงแค่เฉียดไปมาเท่านั้น ทำเอาหยางลู่เฉิงถึงกับหงุดหงิดจึงเปลี่ยนไปออกคำสั่งให้ทหารกลายพันธุ์มาจัดการกับวังหมิงหยวนแทน"จัดการกับไอ้ปอดแหกนี่ซะ!!""ช่วยด้วย!!"วังหมิงหยวนวิ่งวนไปรอบโถงและไปหลบอยู่ด้านหลังของไป๋จื่ออิงจึงถูกไล่ให้พ้นทางเพราะเกะกะการต่อสู้ พื้นที่ที่ถูกจำกัดภายในถ้ำอสรพิษทำให้ไป๋จื่ออิงไม่สามารถคืนร่างเดิมได้ เช่นนั้นแล้วจึงบอกวังหมิงหยวนให้หาทางช่วยตัวเองไปก่อน แต่เพราะฝีมืออ่อนด้อยทำให้วังหมิงหยวนเพลี่ยงพล้ำถูกทหารรับจ้างกลายพันธุ์ที่มีย

  • รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ   |PART 24| ข้อแลกเปลี่ยน

    |PART 24|ข้อแลกเปลี่ยนศูนย์วิจัยประจำเมืองเฉินเซินนั้นคือหน่วยงานขนาดใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนและคุ้มครองจากภาครัฐ ทั้งยังได้รับงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อใช้ในการทดลอง โดยศูนย์วิจัยจะเน้นเรื่องการค้นคว้าและทำการทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อช่วยให้ในอนาคตมนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นลึกเข้าไปภายในป่าที่อยู่นอกเมืองเฉินเซินได้มีศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งซุกซ่อนอยู่ คลื่นสัญญาณรบกวนที่ปกคลุมอยู่ในรัศมียี่สิบกิโลเมตรทำให้ยากแก่การค้นหาสถานที่แห่งนี้ได้ลักลอบทำการดัดแปลงพันธุกรรมของมนุษย์และสัตว์ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสนับสนุนสงครามชีวภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่พวกเขาทำล้วนผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ ลักลอบล่าสัตว์ป่า ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนเข้ากล้ามาตรวจสอบเพราะศูนย์วิจัยแห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับต้น ๆ ของเมืองเฉินเซินร่างของหลิวอิงนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงภายในห้องทดลองที่ทันสมัยที่สุด เพราะเป็นทายาทของสกุลหลิวเขาจึงได้รับความสนใจจากทั้งห้าสกุลเป็นพิเศษสูงขึ้นไปบนชั้นลอยเป็นห้องกระจกที่สามารถมองเห็นด้านล่างได้ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักวิชาการ รวมถึงแพทย์

  • รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ   |PART 23| หนอนบ่อนไส้

    |PART 23|หนอนบ่อนไส้กลางป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่นและถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนขาวโพลน ถ้าไม่สังเกตให้ดีใครเล่าจะรู้ว่าเบื้องหน้าที่เห็นเป็นหน้าผาเวิ้งว้างนั้นด้านล่างจะมีถ้ำน้ำแข็งซ่อนอยู่ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็คือถ้ำอสรพิษศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์อสรพิษเกล็ดเงินไป๋จื่ออิงนำทางทุกคนมาจนถึงริมผา จากนั้นได้โรยตัวลงมาเบื้องล่างจึงได้พบกับทางเข้า"ที่นี่ยังไงล่ะ ถ้ำอสรพิษที่พวกเธอตามหา" ไป๋จื่ออิงบอกกับทุกคนเซียวเยว่และวังหมิงหยวนตกตะลึงกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีถ้ำน้ำแข็งที่วิจิตรงดงามปรากฏอยู่บนโลกใบนี้วังหมิงหยวนก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าเพื่อเข้าไปดันประตูน้ำแข็งที่สลักลวดลายของอสรพิษไว้บนนั้นแต่ไม่สามารถเปิดออกได้จึงหันกลับไปถามไป๋จื่ออิงด้วยความสงสัย“กุญแจก็ไม่ได้ล็อก ทำไมถึงเปิดไม่ได้ล่ะ”ไป๋จื่ออิงมองวังหมิงหยวนด้วยสายตาสมเพชและเข้าไปยืนเบื้องหน้าประตูน้ำแข็ง ตราสัญลักษณ์บนนั้นทำปฏิกิริยากับตราประทับกลางหน้าผากของเขา จากนั้นประตูจึงได้เปิดออก ไป๋จื่ออิงบอกว่ามีเพียงลูกหลานของอสรพิษเกล็ดเงินเท่านั้นที่สามารถเปิดประตูนี้ได้"พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ"ได้ยินดังนั้นวั

  • รักกลายพันธุ์ ภาคตามหาความทรงจำ   |PART 22| ถ้ำอสรพิษ

    |PART 22|ถ้ำอสรพิษห้องพักภายในหออสรพิษนอกจากเหอไป๋เหยียนแล้วยังมีหมาป่าหนุ่มอยู่ร่วมห้องด้วยอีกคน โดยหมาป่าหนุ่มอ้างว่าเป็นห่วงลูกที่อยู่ในครรภ์จึงไม่สามารถแยกห้องกับเหอไป๋เหยียนได้เหลือเวลาประมาณหนึ่งเดือนที่เหอไป๋เหยียนจะครบกำหนดคลอด รูปร่างของเขาในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะเต้านมที่ขยายใหญ่จนดึงดูดสายตาของหมาป่าหนุ่มให้จับจ้องไม่วางตา ทั้งหมดเป็นเพราะน้ำเชื้อที่ได้รับถ่ายทอดมาจากเซียวหลางผู้เป็นบิดานั่นเอง"นายเลิกมองหน้าอกฉันสักทีได้มั้ย สายตาน่าขนลุกเป็นบ้า"เหอไป๋เหยียนว่าพลางวางถ้วยน้ำชาในมือลงก่อนลุกเดินหนีไปที่เตียง แต่หมาป่าหนุ่มได้เดินตามและนั่งข้างกันโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่แต่กับหน้าอกของเหอไป๋เหยียน"ฉันอยากจับหน้าอกของนาย อยากบีบเล่นให้หายคันมือ อยากเลีย อยากดูดแรง ๆ ชะมัด"เหอไป๋เหยียนใบหน้าแดงซ่านเมื่อได้ยินคำขอ เขาไม่คิดว่าหมาป่าหนุ่มจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ เช่นนี้แล้วคงจะนอนร่วมห้องกันไม่ได้แน่ ครั้นพอจะหนีก็ถูกอีกฝ่ายจับกดลงกับเตียงและอ้อนขอจับให้ได้"นะ..ขอฉันจับนิดหน่อยนะ จับแค่นิดหน่อยจริง ๆ ฉันสัญญา""ฉะ..ฉันไม่เชื่อนายหรอก"เหอไป๋เหยียนเห็น

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status