Share

บทที่8

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-26 19:48:52

"นี่ ลูกหมู ทำไมชอบใส่กระโปรงสั้นจังวะ"

"ก็ขาชั้นสวย"

"ขาหมู มีแต่ไขมันเนี่ยนะ สวย"

"เห็นแล้วอยากกินคากิ"

"ถ้าจะหิวขนาดนั้นก็ไปซื้อข้าวกินเถอะ"

"อยากกินลูกหมูแทน"

"..."

เห็นมั้ยละ หมอนี่หน่ะพูดดีกับฉันได้ไม่นานหรอก ก็กลับมาหาเรื่องว่าฉันอีกละ ทำมาเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอีก หนวกหูชะมัดเลย อยากจะเอานิ้วเล็กเล็กของฉันจิ้มตาเขาสักที แถมยังทำมือรุ่มร่ามมาวางบนหน้าขาขาวเนียนและบีบเล่นอีก ฉันต้องไปมูที่ไหนใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ฉันจึงเลือกหยิบแอร์พอร์ตและสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพราะเพราะดีกว่า สบายหูสบายอารมณ์กว่าเสียงนายนี่ตั้งเยอะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงปล่อยใจไปกับเสียงเพลง แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ เพราะไอ้พิทบูลนี่ยื่นมือมาแย่งแอร์พอร์ตจากหูฉันไปข้างหนึ่งแล้วเอาไปใส่ที่หูเขา บอกว่าจะฟังด้วย ฉันได้แต่ถลึงตามองเขาตาเขียว

พอมาถึงคอนโด กุ้งถังกับเล้งแซ่บก็มาถึงพอดีฉันเลยลงจากรถและเดินตรงไปรับอาหาร ซึ่งพอเขาจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งมารับอาหารในมือฉันไปถือไว้ในมือของเขา และพาเดินกันเข้าลิฟต์ ถ้าจะยืนในลิฟต์นิ่งๆ เงียบไม่กวนประสาทใส่ฉันคงไม่ใช่เขา เพราะเขาเล่นเดินมายืนเบียดฉันจนแผ่นหลังบางของฉันติดกับผนังหน้าของฉันแทบจะฝังลงไปซบที่อกแกร่งของเขา ทำกับสาวๆ ในสต๊อคแบบนี้บ่อยสินะ แต่สำหรับฉัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เท่านั้น ฉันจึงใช้สองนิ้วเล็กๆ จิกลงที่หน้าอกของเขาอย่างแรง

"ซี๊ด"

"สมน้ำหน้า"

"เธอจะกินก่อนหรืออาบน้ำก่อน"

"กินก่อน แต่เปลี่ยนกางเกงแปป"

"ช่วยเปลี่ยนป่ะ"

"ทะลึ่ง"

"นี่ถ้าจะใส่สั้นขนาดนี้ วันหลังไม่ต้องใส่"

"ฉันกลัวนายจะน้ำลายหกหน่ะสิ"

"อืมก็จริง ไม่ใช่แค่น้ำลายนะที่หก"

"นี่แน่"

"อัยอ้วน" (ยัย อ้วน)

ผมแทบสำลักจนขาดอากาศหายใจทันทีเพราะยัยลูกหมูหยิบเล้งชิ้นใหญ่เท่าข้อมือผมยัดเข้ามาในปากที่กำลังจะอ้าขึ้นต่อล้อต่อเถียงกับเธอ นี่ก็ผ่านมาเกือบสามสัปดาห์แล้ว ที่ผมกลายมาเป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอการได้กวนประสาทเธอได้เถียงได้ว่าได้ตอบโต้กับเธอมันกลายเป็นสีสันในชีวิตของผมไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังช่วยคุณอาดูแลความเป็นอยู่ของเธอไปด้วย อย่างในตอนนี้ที่ผมกำลังแกะเปลือกกุ้งและป้อนเข้าปากเธอที่กำลังยุ่งอยู่กลับการแกะเนื้อออกจากเล้ง จนเธอแก้มป่องเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่หยุด ก่อนจะถอดถุงมือเดินไปหายางรัดผมมามัดผมให้เธอไม่ให้ลงมาเกะกะจนเข้าปากให้เธอรำคาญ ใครได้ผมเป็นแฟน ผมบอกเลยบอกว่าโชคดีแน่นอน

"นี่ ยัยอ้วน"

"อาทิตย์หน้าแล้ว ตื่นเต้นป่ะ"

"หดหู่มากกว่า"

"ใครจะเหมือนนาย อยากหมั้นกับฉันจนตัวสั่น"

"โอ้โห ยัยลูกหมู เบาได้เบาครับ"

"นี่ จิ๊ เดี๋ยวสิวขึ้น"

"ไอ้บ้า หยุดเลยนะ"

"ใครให้เอาของกินมาเล่นแบบนี้ห๊ะ"

เพราะผมหมันไส้ในความมั่นหน้าของเธอเลยเอากุ้งจิ้มซอสเอ๊กซ์โอแล้วปาดไปที่แก้มกลมกลมของเธอจนเธอพยายามเบี่ยงตัวหนีไม่ให้ผมยื่นมีไปแกล้งเธอ แต่จังหวะขยับหลบกันไปขยับหลบกันมาพากันเสียหลักล้มลงนอนกับพื้นทั้งคู่ โดยเธอนอนมองผมตาขวางมีรอยซอสเปรอะที่แก้มเหมือนหนวดแมวอยู่ด้านล่าง ส่วนผมที่หน้าขยำลงไปเกือบชนหน้าเธอต้องใช้สองแขนยันตัวเอาไว้แต่มันกลับเหมือนว่าผมกำลังกักขังเธออยู่ ก่อนที่ผมจะเอากุ้งที่อยู่ในมือป้อนเข้าปากผม แล้วโน้มตัวลงไปป้อนในปากผมเข้าปากเธอจนเธอต้องอ้าปากรับเล็กน้อยเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนของผมตามเข้าไปความรสชาดกุ้งถังในปากของเธอได้อย่างง่ายดาย ผมที่ได้ใจเลยเอื้อมมือไปหยิบกุ้งในจานที่แกะไว้ให้เธอมาใส่ในปากของผมอีกครั้งแล้วป้อนเธออีกหนจนหมด ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนปากไปชิมซอสเอ๊กซ์โอตามแก้มของเธอจนหมด แล้วเลื่อนปากร้อนไปชิมตามใบหูลงมาลำคอหอมหวานขบเม้มเบาเบาเพราะอดหมันเขี้ยวผิวขาวขาวไม่ได้ ก่อนจะไปหยุดตรงก้อนกลมนุ่มนิ่มที่มันล้นขึ้นมาให้ผมได้เห็นและอยากสัมผัส ช่างใจอยู่นานเกือบนาทีแต่ตอนนี้สวิตซ์ผมเปิดแต่ยังไม่อยากปิด จึงพาริมผีปากดูดชิมก้อนกลมนุ่มนิ่มตรงหน้าที่ผมเคยชิมมาแล้วครั้งหนึ่ง มือที่ซุกซนก็เลื่อนไปตามขอบกางเกงตัวจิ๋วด้านล่าง แล้วใช้นิ้วเรียวยาวจัดการส่วนบอบบางไม่ให้ได้พัก ทำเธอหายใจเกือบไม่ทันผมจึงเลื่อนปากขึ้นไปช่วยเพิ่มออกซิเจนให้เธอทันที

"นะ นาย"

"ห้าม เรียกแบบนี้"

"ฉันจะหยุดไม่ได้"

"อื้อ"

"อื้อ"

"อย่ากัดนะ"

"อะ เอานิ้วออกไปนะ"

"ไม่"

"อ๊า"

"หึ กุ้งอร่อยจัง"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่42

    ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่41

    "สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษ​คับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์​ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่40

    และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณ​ตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่39

    และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่38

    เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม

  • รักกันแบบธุรกิจ   บทที่37

    "ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status