แม่ขาปรายทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายแล้วนะคะ วางไว้ที่โต๊ะทำงานของพ่อ ปรายขอเก็บของต่อก่อนนะคะแม่
ปรายลดา วงษ์นรา หรือปราย วางรายละเอียดค่าใช้จ่ายหอพักไว้ที่โต๊ะทำงานของพ่อเธอ หญิงสาวเป็นบุตรสาวคนเล็กของ บ้านไร่วงษ์นรา พี่สาวของเธอ ปรานลดา วงษ์นรา เรียนจบทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชนที่กรุงเทพฯ และสอบบรรจุได้ที่ภาคใต้ ทำให้ปรายลดาที่กำลังเรียนปีสุดท้าย ต้องหาห้องพักใหม่ ให้ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด พ่อกับแม่เธอไม่อยากให้พักคนเดียว อยากให้ไปอยู่บ้านคนรู้จัก นี่คือปัญหาของเธอ กลางเทอมแบบนี้จะหาหอพักที่ไหน เพราะแถวมหาวิทยาลัย หอพักดีๆ และปลอดภัย หายากมาก เธอไม่อยากไปอยู่บ้านหลังนั้น ที่พ่อกับแม่แนะนำถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าของพ่อกับแม่ก็ตาม
เธอต้องหาหอพักใหม่ที่ใกล้มหาวิทยาลัย ที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งๆ ที่เก่าก็ปลอดภัยมากเสียแต่ว่า อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัย สมัยก่อนยังได้อาศัยรถของพี่สาวไปเรียน ปราณลดา แวะส่งเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยก่อนไปสอนหนังสือทุกวัน เพราะยังไงก็ต้องผ่านมหาวิทยาลัยของเธออยู่แล้ว
ปรายลดา เป็นเด็กสาวหน้าตาดีทีเดียวการันตีด้วยตำแหน่ง ดาวมหาวิทยาลัย ด้วยส่วนสูง 175 จมูกโด่ง ตาคม ตาดำมาก รูปร่างสมส่วน นิสัยของเธอนิ่งๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เธอกับพี่สาวหน้าตาคล้ายกันมาก ใครเห็นสองพี่น้องบ้านนี้ต่างก็ชื่นชม ด้วยความสูงที่ไร่เรี่ยกัน หน้าตาคล้ายกัน ทำให้ตอนเด็กๆ คนทักผิดอยู่เรื่อย ปรายลดา ห่างกับพี่สาวเธอ 4 ปี ถ้าหากว่าพี่สาวเธอทำงานที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิม พ่อกับแม่ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องที่พักของ ช่างเถอะถ้าเธอยืนยันว่าจะอยู่หอ พ่อกับแม่เธอก็ต้องยอมอยู่ดี อดทนเอา เดือนแรกตามใจท่านทั้งสองหน่อยก็แล้วกัน
พ่อกับแม่เคยคิดที่จะซื้อคอนโดให้เธอกับพี่สาวอยู่ แต่ทั้งสองคนห้ามเอาไว้ ด้วยไม่คิดว่าจะอยู่ที่เมืองหลวงตลอดไป ปกติเธอกับพี่สาวก็กลับบ้านกันบ่อย เดือนละ 2 ครั้ง ขับรถกันไปเอง พี่สาวเธอมีรถเก๋งเล็กๆ อยู่ 1 คัน ช่วงปิดเทอมหญิงสาวก็มักกลับบ้านไปช่วยงานที่ไร่ และที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างในตัวจังหวัด บ้านเธอสอนให้ลูกทำงานตั้งแต่ยังเด็ก พ่อชอบให้เธอไปช่วยแม่ที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง สมัยเด็กๆ เธอกับพี่สาวมักติดรถคนงานไปส่งของให้ลูกค้าบ่อย ๆ ทำให้ทั้งสองขับรถเป็นตั้งแต่อายุยังไม่ถึงวัยทำใบขับขี่
ทั้งสองสาวขับรถได้ทุกอย่าง ที่มีในไร่ พี่สาวเธอเลือกที่จะรับราชการ งานของที่บ้านคงต้องเป็นตัวเธอรับผิดชอบช่วยพ่อกับแม่ โชคดีที่บ้านเธออยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จริงๆ ถ้าอนาคต รถไฟฟ้าไปถึง เธอเรียนจบ หากทำงานที่กรุงเทพฯ เธอสามารถไปกลับก็ยังไหว แต่คงต้องรออีกนาน อย่าเพิ่งคิดล่ะกัน เรียนให้จบก่อน ที่สำคัญ เธอกลัวการไปอยู่บ้านหลังที่พ่อฝากฝังไว้ ไม่อยากไปเลย ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง เธอเคยเห็นหน้าคุณป้าดุจเดือนบ้าง แต่ก็ไม่สนิทนัก
ปรายลดาไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย วันหยุดเธอชอบนอนตื่นสาย ทำกับข้าวไม่เป็น กินข้าวไม่เป็นเวลา ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ขี้รำคาญ แต่รักความสะอาด ไม่ชอบใหใครมาวิจารณ์เรื่องของตัวเอง และไม่ชอบไปยุ่งเรื่องของใคร เกลียดคนยาก แต่ถ้าเกลียดคือคนๆ คือเกลีดคือเกลียดมาก คนๆ นั้นจะไม่ได้อยู่ในโลกของเธอเลย เธอจะไม่สนใจ ไม่พูดด้วย ถอยห่างออกมา เธอรู้ตัวเองดีว่านิสัยไม่ดีนัก แต่จะให้ปรับเปลี่ยนเพื่อคนอื่นมันก็ทำไม่ได้ นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอเลือกเรียน วนศาสตร์ เธอชอบป้าไม้ ชอบอ่านหนังสือ ปรายลดาเป็นหนอนหนังสือ อ่านทุกอย่าง ในห้องพักไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่หอ จะต้องมีชั้นวางหนังสือ มีหนังสือหลากหลาย มากที่สุดคือหนังสือเกี่ยวกับพืชพันธุ์ไม้
จนป่านนี้เธอก็ไม่เข้าใจพ่อกับแม่ เธอก็อยู่ของเธอได้ หอพักก็อยู่มานานมาก ไม่เคยมีปํญหา ปลอดภัยมากถึงมากที่สุด และตัวเธอก็ไม่ใช่คนเกเรอะไร ไอ้จะให้เธอหาเพื่อนมาแชร์ค่าหอ มันก็ไม่ใช่ เธอชอบอยู่คนเดียว อีกอย่างก็ใกล้ฝึกงาน เหลือเวลาไม่มากก็จะจบแล้ว ไม่แน่เธออาจคุยพับพ่อและแม่อีกครั้ง ขออยู่หอพักเดิม เอาจริงๆ ถ้าฝึกงานก็ไม่ค่อยได้อยู่หอ อีกไม่นานเธอเรียนจบ หางานทำ ถ้าได้งานก็อยากหาใกล้หอเดิม จะได้ไม่ต้องหาที่ใหม่ หรือถ้าไม่ได้งาน เธอก็จะกลับบ้าน ช่วยพ่อกับแม่ทำงานที่บ้าน
พ่อกับแม่เธอ บางทีก็ใจดีมาก อยากได้อะไรก็ตามใจ แต่บางทีก็เข้าใจอะไรยากมาก พี่สาวเธอรอดไปแล้ว เหลือแต่เธอนี่แหละ คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ บางทีมันก็มีเส้นบางๆ ยากที่ปรับตัวเข้าหากันได้ เธอเชื่อว่า พ่อกับแม่หวังดีกับเธอ แต่อย่าลืมว่า พ่อกับแม่ไม่ได้มาอยุ่ในสถานการณ์ปัจจุบันกับเธอสักหน่อย บางทีเธออาจให้พี่สาวเธอช่วยคุยให้ เพราะยังไงพี่ปราณก็เคยพักอยู่ที่หอนี้ด้วยกัน พี่ปราณพูดพ่อกับแม่ต้องฟังบ้างแหละ เอาเถอะอย่างน้อยก็ยังมีความหวังว่าจะได้พักที่หอเดิม
แต่ตอนนี้หญิงสาวเกิดอาการเบื่อมาก เธอต้องกลับไปหอ ปัญหาคือเธอต้องนั่งรถตู้เข้ากรุงเทพฯด้วยตัวเอง นั่นคือปัญหาใหญ่ สมัยที่พี่สาวเธอยังอยู่ด้วยกัน เธอก็อาศัยไป กลับ แต่นี่เธอต้องใช้บริการรถตู้ มันก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่เธอไม่ชอบนั่งเบียดกับใคร ไม่ได้รังเกียจ ระยะทางไม่ได้ไกลมากมาย จากบ้านเข้าหอ เวลาที่นั่งรถตู้โดยสาร เธอรู้สึกว่ามันช่างเนิ่นนานเหลือเกิน กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ช่วงนี้ยิ่งมีพวกโรคจิตเยอะมาก เธอได้ยินเพื่อนๆ เล่ามา ส่วนตัวเธอยังไม่เคยเจอ เห็นแต่เพื่อนๆ เล่าให้ฟัง
เพื่อนของเธอเคยเล่าให้ฟัง นั่งรถมาจากปราจีนบุรี ช่วงใกล้ถึงนครนายก มีผู้ชายหน้าตาดีมากขึ้นรถมาแล้วมานั่งใกล้ๆ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร เพื่อนเธอหลับเห็นว่าคนนั่งข้างๆ หน้าตาดี ก็คิดว่าไม่มีอะไร กำลังจะเผลอหลับก็มีมือมาวางที่ต้นขา นางก็หรี่ตาดูว่าจะยังไงต่อ เพื่อนเธอแต่งตัวมิดชิดมากกางเกงยีนต์ขายาว เสื้อเชื้ตยีนต์แขนยาว ไม่ได้แต่งตัวล่อแหลมอะไรเลย จากที่มันวางมือ แล้วมันก็ค่อยๆ เล่ื่อนมือมาใกล้ๆ เป้ากางเกง แต่มันทำได้แค่นั่น เพื่อนเธอก็ใช้มืออีกข้างตบหน้ามัน ผลักมันอย่างเร็วลงไปบนพื้นรถตู้ ตามด้วยทั้งเหยียบ ทั้งถีบ ทั้งด่า จนคนในรถร้องโวยวาย คนที่น่ั่งส่วนหน้าพูดกันประมาณว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นคนทำ แต่ดีคนที่นั่งเบาะอีกฝั่งเขาเห็นและถ่ายคลิปไว้ ลุงคนขับรถรีบจอดบอกว่า จำได้คนนี้ขึ้นรถสองรอบ และทำแบบนี้ทุกครั้ง แต่วันนี้ที่จำไม่ได้เพราะเขาใส่เสื้อตัวใหญ่ ใส่แว่น ใส่หมวก แต่เชื่อไหมว่า หน้าดาดีมาก คนเราวัดนิสัยจากหน้าตาไ่ม่ได้เลย รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ
ได้ฟังเพื่อนเล่า แบบนี้ ยิ่งทำให้ปรายลดาหลอน เวลาที่นั่งรถตู้กลับเธอมักขอนั่งหน้าคู่กับคนขับทุกครั้ง เลี่ยงไม่อยากไปนั่งหลัง เผื่อโชคไ่ม่ดี กลัวเจอคนโรคจิตเหมือนเพื่อนของเธอ ในใจเธออยากขอรถที่บ้านมาใช้สักคัน ไม่ใช่ว่าเธอเคยขอๆ แล้วแต่พ่อกับแม่อ้างว่า ยังเด็กรถในกรุงเทพฯ เยอะแยะ อันตราย เธอก็เถียงในใจ ขับรถก็เป็นใบขับขี่ก็มี บางทีพ่อกับแม่ก็ใช้เธอไปงานที่ต่างจังหวัด ทีแบบนี้ไม่ไว้ใจ คิดแล้วก็เหนื่อย ช่างเถอะ มีคนอีกมากมายที่ลำบากกว่าเธอมาก พ่อกับแม่สอนตลอดว่าให้มองคนที่ลำบากกว่าเรา อดทนเอาหน่อยนะปรายลดา เดี๋ยวก็เรียนจบแล้วล่ะ หญิงสาวปลอบใจตัวเอง
ทำไมต้องให้อภิสิทธิ์เด็กนั่นขนาดนั้นด้วยครับแม่ ญาติก็ไม่ใช่ ไม่น่าไว้ใจเลย ไม่รู้นิสัยใจคอเป็นยังไง ยิ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดแบบนี้ แม่ไว้ใจเขาเหรอครับ ผมบอกไว้ก่อนนะครับผม ไม่อยากให้ใครที่ไม่ใช่ญาติ เข้ามาวุ่นวายในบ้านเราตะวัน ว่องไววิทย์ บุตรชายคนโตของบ้านหลังนี้ เขารูปร่างสูงใหญ่เหมือนบิดา หน้าตาเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา เพื่อนๆ เขาชอบเรียกเขาว่าเสือยิ้มยาก ด้วยว่าเขาต้องรับผิดชอบกิจการของบิดาที่ด่วนเสียชีวิตไป เขาทำงานช่วยที่บ้านตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พ่อเขาเสียชีวิตเพราะป่วยด้วยโรคร้าย เจอทั้งเสือ สิงห์ กระทิง แรด ในการทำงาน คู่แข่งทางการค้า ทำให้เขาระมัดระวังตัวในเรื่องของการคบคน เขาต้องบริหารพนักงานมากมาย และไม่เคยไว้ใจใคร ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เขาเจอคนมากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เขาเจ็บมามากมีผู้หญิงเพียงแค่ 2 คน เท่านั้นที่เขารักและไว้ใจ คือนางดุจเดือน แม่ของเขา และกานดารา น้องสาวของเขา กานดาราไม่ค่อยแข็งแรง ร่างกายอ่อนแอ อาจเป็นเพราะตอนที่แม่เขาท้องน้องสาวเขา เป็นช่วงที่มีปัญหาเรื่องธุรกิจ ฐานะทางบ้านเขาช่วงนั้นเรียกว่าแย่ทีเดียว เขายังจำได้ แต่ได้เพื่อนของพ่อยื่นมือเข้ามาช่วย
ปรายลดา กดออดหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ หลังนี้แน่นอน ตามที่แม่ให้ที่อยู่มา ก่อนเข้ามาเธอก็โทรมาแล้ว บ้านอย่างกับวัง คงรวยน่าดู หญิงสาวขนสัมภาระมาเต็มรถ มีแต่ของฝากทั้งนั้น พ่อให้รถกะบะมาสด้าคันเล็กมาให้เธอใช้ เธอขอคันนี้มาเพราะคันเล็กดี ขับในเมืองใหญ่สะดวกหลายอย่าง ขับง่าย หาที่จอดง่าย พ่อกับแม่ไม่ยอมให้ใช้มอเตอร์ไซค์ ก็ดีเหมือนกันเธอจะได้ใส่สินค้าที่เธอขายไปส่งไปรษณีย์ หรือติดรถไปเผื่อมีลูกค้าใกล้ๆถึงแม่ว่าบ้านเธอจะค่อนข้างมีเงิน แต่หญิงสาวชอบที่ขายของ เธอขายโน้น นี่ นั่น หลายอย่าง ทำให้เธอมีเงินเก็บส่วนตัวพอสมควร เงินเดือนที่พ่อกับแม่ให้ก็อีกส่วน ใช้เงินที่หามาได้เองโคตรภูมิใจ บางทีเธอคิดว่า เรียนจบถ้ายังไม่มีงานทำ เธอก็จะยึดอาชีพนี้ไปเรื่อย ๆสวัสดีค่ะลุง หนูปรายลดาค่ะ ที่โทรถามทางเมื่อกี้ค่ะ หญิงสาวยกมือไหว้ชายสูงวัย ลุงน่าจะเป็นพ่อบ้าน แต่เอาจริง ๆ ไม่ว่าเธอจะเจอใครก็ตามก็ยกมือไหว้ตลอด ไหว้สวยด้วยสวัสดีครับคุณปรายลดา เชิญครับ ๆ คุณผู้หญิงรออยู่ข้างในครับ โอ้โห...ผลไม้เต็มรถเลยขอบคุณมากค่ะลุง ปรายขับเข้าไปเลยนะคะ หญิงสาวขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ยิ่งเข้ามาใกล้ยิ่งใหญ่โต ไม่น่
ฮัลโหล....ปราย กานมาแล้ว อยู่หน้าหอ ลงมารับที กานดาราตื่นเต้นไม่หาย ระหว่างทางที่มาหอปรายลดา พี่ชายเธอมีท่าทีผ่อนคลายมาก ไม่เคร่งขรึมเหมือนเมื่อก่อนไม่ถึง 5 นาทีหญิงสาวก็ลงมารับสองพี่น้อง เธอยกมือไหว้ชายหนุ่ม ยิ้มให้เขาเล็กน้อย เย้...ดีใจจังเลย ปรายมีเพื่อนมาหาในรอบ 3 ปี มาๆ ปรายช่วยถือ หญิงสาวพาสองพี่น้องขึ้นไปที่ห้องพักของเธอ กว่าจะขึ้นไปถึงห้องปรายลดา ก็ผ่านหลายด่านเหมือนกัน เพราะต้องใช้คีย์การ์ด คนที่พักอยู่ข้างในหอเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ คนที่พักที่นี่ส่วนมากจะเป็นคนทำงาน วัยรุ่นไม่ค่อยมีผู้หญิงคนนี้ไม่แต่งหน้าก็ยังดูดี คงไม่คิดว่าเขาจะมาส่งกานดารา เลยไม่ได้เตรียมตัว เท่าที่เขาดูห้องก็ถือว่ากว้างมาก เหมือนคอนโดเล็กๆ มีสองห้องนอน ห้องรับแขก ห้องน้ำในตัว มีครัวเล็กๆ ให้ทำอาหารกินได้ เขาดูแล้วก็ปลอดภัยดี สะดวกสบายทุกอย่าง ถึงว่าหญิงสาวถึงไม่อยากไปอยู่ที่อื่น ร้านสะดวกซื้อข้างล่างก็มี ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าซอยมามีตลาดสด ตลาดโต้รุ่งด้วยพี่ตะวันนั่งพักก่อนนะคะ ตามสบายเลย ห้องน้ำอยู่ด้านโน้น เดี๋ยวปรายพากานไปดูห้องแป๊ปค่ะ สำรวจได้เลย รับรองว่าปลอดภัยค่ะ เธอบอกเขาพร้อมพากานดาราไปดูห้องพัก
กานดาราสังเกตุว่า วันนี้พี่ชายของเธอมีท่าทีผ่อนคลายมาก เธอแอบสำรวจและสังเกตุพี่ชายเธอเงียบ ๆ ระหว่างนั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน นางดุจเดือนชอบทำอาหารกินเอง ลูกชายกับลูกสาวนางติดรสมือทำกับข้าวของนางมาก ทำอะไรก็อร่อยทุกอย่าง และทำได้หลากหลายเมนู ลูกชายนางแทบจะไม่ออกไปกินอาหารนอกบ้านเลยแม่ครับสิ้นเดือนนี้ไปนครนายกกันไหมครับ เผื่อแม่อยากไปเยี่ยมเพื่อนเก่า ผมก็อยากไปพักผ่อนเหมือนกัน พอดีกับที่ยายกานสอบเสร็จ แม่กับน้องจะได้ไปเปิดหูเปิดตา แม่ว่ายังไงครับ เขาพูดไปกินข้าวไปด้วยท่าทางสบายๆ ท่าทางแบบนี้นางดุจเดือนไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ปกติเขาจะนิ่งและเงียบขรึมอยู่ตลอดเวลาก็ดีนะลูก แม่ได้หมดไปบ้านหนูปรายใช่ไหม ดีเหมือนกันนะ หลายปีมากแล้วตั้งแต่พ่อไม่อยู่ แม่ก็ไม่ได้เจอน้าทั้งสองเลย ไปเมื่อไหร่ก็บอกแม่อีกทีนะ นางดุจเดือนตามใจลูกอยุ่แล้ว นางรู้สึกว่าลูกชาย ไม่ค่อยเคร่งเครียด ดูเขานิ่งๆ นางดีใจกับลูกชายที่เขาเปลี่ยนไป และยิ่งกว่านั้นลูกสาวของนางมีความสุข สดใส ร่าเริง แค่นี้คนเป็นแม่ก็ดีใจ มีความสุขมากแล้ว นางรู้สึกยินดีที่เด็กสาวอย่างปรายลดา เขามามีบทบาทในบ้านของนาง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจริ
แม่เดี๋ยวพ่อจะเข้าไปในเมืองสักหน่อย วันนี้แม่ออกไปร้านวัสดุก่อสร้างไหม พ่อจะไปดูส้มโอพันธุ์ใหม่ที่บ้านประธานเกษตรเขาสักหน่อย ถ้าแม่เข้าเมืองก็ไปด้วยกันเลย นายอลงกต วงษ์นรา ร้องเรียกบอกภรรยา เขาเป็นคนพื้นเพเป็นคนจังหวัดนี้ ครอบครัวเขาทำเกษตรมาตลอด และแน่นอนต้องเป็นเกษตรอินทรีย์เท่านั้น พืชผักผลไม้ที่ไร่เขา โรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ล้วนรับผักผลไม้จากไร่ของเขา แค่นี้ก็แทบจะทำไม่ทัน แต่เขาก็ไม่หยุดพัฒนา เขาเป็นคนใจเย็น รอบคอบ เขาวางรากฐานให้ลูกๆ ทั้งสองคน ถ้าเขากับภรรยาเสียชีวิตไป ลูกๆ เขาก็ไม่อดตาย แต่ลูกเขาต้องสานต่องานของเขา ไม่ใช่นั่งกินนอนกิน แบบนั้นหมดแน่ๆ จริงๆ เขาอยากได้ลูกชาย แต่ก็ไม่ได้กลายเป็นได้ลูกสาวสองคน แต่ลูกสาวก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ปราณลดาลูกสาวคนโตสอบบรรจุเป็นข้าราชครู ส่วนลูกสาวคนเล็กคือปรายลดา กำลังเรียนวนศาสตร์ปีสุดท้าย ถึงเขาจะทำไร่ ทำสวนแต่ครอบครัวเป็นปึกแผ่น ถ้าลูกเขาขี้เกียจจริงๆ แต่ไม่ใช่จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ก็ยังสามารถอยู่ได้อย่างสบายๆไปค่ะ วันนี้แม่จะแวะไปดูที่ทำร้านกาแฟด้วย เห็นว่าเจ้าของที่เขาจะขายด่วน บอกว่าร้อนเงิน พ่อไปดูกับแม่ไหม อาจเป็นช่วงบ่ายๆ ช่วงเช้าแม่จะเ
ฮัลโหล...ปราย พี่ปราณเองนะ เป็นยังไงบ้าง สอบเสร็จรึยัง เมื่อไหร่กลับบ้าน คุยกับพ่อแม่เรื่องหอพักรึยังสบายดีค่ะพี่ปราณ แหม…มาเป็นชุดเลยนะคะ ปรายกำลังสอบค่ะ คิดว่าสอบเสร็จแล้วก็จะขนของบางส่วนกลับบ้านเลย ปรายคิดว่าปรายจะอยู่ที่เดิมค่ะพี่ปราณ ไม่อยากย้าย ขี้เกียจ และจะไม่ไปอยู่บ้านคุณป้าดุจเดือนด้วย อยู่ที่เดิมก็สะดวกดี เพราะอีกไม่นานปรายก็จะฝึกงานแล้ว อดทนเอาอีกนิด กลับไปบ้านครั้งนี้จะไปคุยกับพ่อแม่เรื่องหอพักค่ะพี่ปราณช่วยปรายด้วยนะคะ ปรายขี้เกียจย้ายของ และบ้านป้าดุจเดือนก็ไกลจากมหาวิทยาลัยปรายมากด้วย เดินทางลำบากกว่าเดิม มันไม่อิสระเหมือนอยู่หอเดิมเรานะคะพี่ปราณ ปรายก็งง กับพ่อแม่ พี่ปราณกับปรายอยู่มาตั้งนานไม่เห็นเคยว่าอะไร ปรายก็ไม่ใช่คนเกเร อยู่ๆ นึกอยากให้ไปอยู่กับคนอื่น ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเขา แล้วปรายก็ไปเห็นบ้านเขามาแล้วนะคะ ปรายไม่อยากไปอยู่อีกหน่อยปรายก็ต้องไปฝึกงานตั้งหลายเดือน ไม่อยากเอาข้าวของเครื่องใช้ไปทิ้งไว้บ้านเขา อยู่หอนี่ปรายจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ สะดวกสบายทุกอย่าง นะคะพี่ปราณ ช่วยพูดให้พ่อกับแม่ยอมให้ปรายอยู่ที่หอพักนี้เหมือนเดิมทีนะคะ หญิงสาวอ้อนพี่สา
เช้านี้เวลาเจ็ดโมงกว่าๆ ที่โต๊ะอาหารบ้าน ว่องไววิทย์ ทุกคนทานอาหารกันพร้อมหน้าน้องกาน สอบเสร็จแล้วใช่ไหม เป็นยังไงบ้าง คิดว่าผ่านฉลุยไหมสบายค่ะพี่ตะวัน เทอมนี้สบายมากเลย เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มาจ่อรออยู่แล้วค่ะ กานดาราตอบพี่ชาย และยิ้มอย่างมีความสุข เธอทำได้แล้ว หญิงสาวมั่นใจในตัวเอง เรื่องเรียนเธอไม่เคยทำให้ที่บ้านผิดหวังพี่ดีใจด้วยนะ แล้วเรื่องฝึกงาน ได้ติดต่อไว้บ้างหรือยัง หรือจะฝึกที่บริษัทฯ เราคะ....พี่ตะวันว่าไงนะคะ กานดาราถามย้ำพี่ชายเธออีกครั้ง เธอไม่อยากจะเชื่อเลย พระเจ้า นี่พี่ชายเธอกินยาอะไรเข้าไป ถึงผิดสำแดงแบบนี้ แต่ไหนแต่ไหนยืนยันว่าจะให้เธอฝึกงานที่บริษัทฯ ไม่ยอมให้ไปฝึกที่ไหน แล้วตอนนี้ คืออะไร ใครช่วยตอบฉันทีพี่ถามว่า ได้ไปติดต่อสถานที่ฝึกงานไว้บ้างหรือยัง นี่ก็ใกล้แล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก จะไปฝึกที่อื่นก็ไป พี่ไม่ว่าอะไร รีบหาเดี๋ยวจะเสียโอกาสอื่อ...ขอบคุณพี่ตะวันนะคะ กานก็มองๆ ไว้บ้างค่ะ เดี๋ยวกานรีบติดต่อ ได้เรื่องยังไงกานแจ้งพี่ตะวันนะคะ กานดาราพูดเสียงสั่น จะไม่ให้สั่นได้ยังไง ที่ผ่านมา 22 ปี เธอไม่เคยเป็นตัวของตัวเอง เพิ่งจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองก
บ้านไร่วงษนรา เช้านี้อากาศที่นี่ดีมาก นางกรกนกลุกขึ้นใส่บาตรพระแต่เช้า นางทำเป็นกิจวัตร ประจำทุกวันพ่อคะ น้องปรายโทรมาแล้วนะ เขาจะมากันวันพรุ่งนี้ ลูกเราเอารถมาเอง เห็นว่าขนของบางส่วนกลับมาไว้บ้าน มีหนูกานดาราลูกพี่ดุจเดือนนั่งมาด้วย ส่วนพี่ดุจเดือน มากับลูกชาย ยังไม่แน่ว่าเขาจะมากันกี่วัน แต่แม่ทำความสะอาดบ้านหลังเล็กไว้แล้ว เผื่อเขาอยากเป็นส่วนตัว แม่ยังคิดว่าจะปิดร้านดีไหม หรือให้พนักงานดู พ่อว่าไงคะ นางกรกนก ขอความเห็นจากสามีปิดสัก 7 วันไหมแม่ จะได้พักบ้าง หลังจากนั้นอยากเปิดก็เปิด ไม่อยากเปิดก็ไม่เป็นไร ทำร้านกาแฟอย่างเดียวก็ได้ ไม่มีปัญหาหรอก อายุมากแล้วพักบ้างนะ นายอลงกต เข้ามาโอบไหล่ภรรยาเบาๆ มาดูแลพ่อได้แล้ว ไม่ต้องทำมากมายหรอกงานน่ะ ทำมาตลอดหลายปีแล้ว เท่าที่ทำมากินใช้ยังไงก็ไม่หมดแล้วล่ะ เดี๋ยวรออีกหน่อยน้องปรายก็มาช่วยแล้วพ่อคิดว่าลูกเรียนจบ แล้วจะไม่อยากทำงานที่เรียนมาหรือคะ นางสงสัยว่าทำไมสามีพูดแบบนั้นแม่ก็รู้ว่าลูกเราโลกส่วนตัวสูงจะตาย ไม่ค่อยคบใครใหม่ๆ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ แล้วอีกอย่างที่ลูกเรียนมาทางนี้ เป็นผู้หญิงด้วย จะไปอยู่ป่าอยู่เขาได้นานสักเท่าไหร่ พ่อไม่ได
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา
ที่ตรอกเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นคนต่างถิ่นมา จะไม่รู้เลยว่า อาคารที่เรียงรายกันสองฝั่ง นี่คือโกดังผ้ามือสอง ที่มีผ้าเยอะมากๆ มันเป็นที่ๆ ปรายลดาคุ้นเคยอีกที่หนึ่ง เวลาที่ได้คัดผ้า มันเหมือนกับเธอได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง อาจจะดูเวอร์เกินไป ถ้าจะไปเล่าให้คนอื่นฟัง ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือนคนเรา ชอบอะไรบางอย่างนั่นแหละ ชอบอ่านหนังสือ เวลาอ่านหนังสือก็จะอยู่แต่กับหนังสือ ไม่สนใจใคร คนเล่นเกมส์ก็จะมีความสุขกับการเล่นเกมส์ คนที่ชอบเย็บปักถักร้อย เวลาถักก็จะมีความสุข เพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังทำ“ของทั้งหมดนี้เราจะขนกลับไปยังไงอ่ะปราย ในเมื่อเราต้องไปเบตง และเราจะไปยังไง ขับรถไปเองหรือยังไง ก้อยยังคิดไม่ออกเลย”“จริงด้วย กานว่าจะถามหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้ถามสักที” กานดาราเอ่ยขึ้นบ้างผ้านี่ปรายจะให้ร้านส่งไปที่บ้าน บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว เราจะเช่ารถตู้ไปเบตง เพราะเราคงขับกันเองไม่ไหว ไม่ชำนาญทาง ขากลับปรายจะให้ก้อยกับกาน ขึ้นเครื่องกลับ ส่วนรถคันนี้ปรายจะฝากไว้ที่ปัตตานี ปรายมีเพื่อนที่นั่น ฝากได้ จนกว่าปรายจะกลับบ้าน เราจะเช่ารถตู้จากปัตตานีไปเบตงกันนะสาวๆ ค้างที่ปัตตานี เที่ยวในเมือง ที่ปัตต
เช้านี้ที่บ้านไร่ ทุกคนรวมตัวกันที่ลานจอดรถหน้าบ้านปรายลดา“น้องปราย น้องก้อย ป้าฝากน้องกานด้วยนะลูก น้องกานอย่าลืมโทรบอกพี่เขาด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางดุจเดือนบอกลูกสาว นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวนางเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ไม่มีแม่และพี่ชายไปด้วย นางเชื่อมั่นในตัวกานดารา ตั้งแต่ลูกสาวนางรู้จักคบหากับปรายลดา ลูกสาวนางเข้มแข็ง และแข็งแรงมาก เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยเอาจริงนางก็ห่วง แต่ไม่ห่วงมาก เพราะมีน้องปราย น้องก้อยไปด้วย เด็กทั้งสองคนไว้ใจได้“เดี๋ยวปรายขับเองนะ ไว้ถึงประจวบค่อยให้กานขับ ทางตรงไม่ใช่หน้าเทศกาล กานขับได้อยู่แล้ว ถึงชุมพรค่อยให้ก้อยขับ ดีไหมทุกคน”ปรายลดาถามเพื่อนทั้งสองคน“ได้เลย ก้อยไม่มีปัญหา ถ้าปรายเหนื่อยตอนไหน ก้อยเปลี่ยนก็ได้ สบายมาก”“กานก็ไม่มีปัญหาเลย ตกลงตามนี้นะ “สามสาวออกเดินทางจากนครนายก นางดุจเดือน และนางกรกนก เตรียมอาหาร ให้สามสาวเต็มที่ มีแต่ขอชอบ งของทุกคนทั้งนั้น รถจิ๊ปของปรายลดาคันใหญ่ จุของได้เยอะมากปรายลดาใส่ชุดฮาวายสีเหลืองสด ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ชุดที่เธอใส่ไม่ได้เข้ากับรถที่ขับเลย แต่เธอไม่ได้สนใจเพราะชอบ เธอชอบใส่เดรสหลวมๆ มากกว่าใส่กางเ
“น้องปราย จะไปนานไหมลูก” นายอลงกตถามลูกสาว ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ในห้องพัก“ปรายว่าจะค่อยๆ เดินทางไปเรื่อยๆ ค่ะพ่อ แต่จะพักที่หาดใหญ่หลายวันหน่อย เพราะว่าปรายกับกานคุยกันว่าจะคัดผ้าค่ะ หลังจากนั้นจะไปต่อที่เบตง คิดว่าจะข้ามไปฝั่งมาเลย์ และปรายจะอยู่ที่นั่นสักพัก ส่วนก้อยกับกาน จะกลับมาก่อนค่ะ”“แล้วมีที่อยู่เหรอ ไว้ใจได้ไหมลูก” นางกรกนกลูบหัวลูกสาวด้วยความรักหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่นอนตักมารดามาสักพัก“ปรายมีเพื่อนอยู่ที่นั่นค่ะแม่ เรียนรุ่นเดียวกัน ค้าขายอยู่ทางโน้น เขาแต่งงานได้สามีเป็นคนมาเลย์ค่ะ ปรายเคยไปเที่ยวสมัยเรียน แถบที่เขาอยู่ค้าขายได้สบายเลยค่ะแม่"“พ่อกับแม่ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำนะลูก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อกับแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้านเสมอ พ่อกับแม่จะปล่อยให้ลูกไปทำในสิ่งที่อยากทำ”“แล้วเรื่องพ่อตะวันล่ะลูก น้องปรายพูดให้แม่ฟังหน่อยซิ จะเอายังไงต่อไป เพราะแม่ดูแล้วว่าพ่อตะวันเขาก็คงไม่ปล่อยเราแน่ๆ โกรธและเกลียดเขามากเหรอลูก ถ้าน้องปรายรักพี่เขา เราก็ต้องปล่อยวางบ้างนะ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเขา แม่รู้ว่าน้องปรายไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล และคนที่เห็น