“เหลืออีกสองวันก็จะถึงวันลอยกระทงแล้ว ช่วงนี้พวกเราก็ซ้อมกันอีกสักรอบแล้วกันนะ” ครามพูดพลางสังเกตการกระทำของฟ้าใสที่เธอกับน้องสาวของตนมาคอยทำหน้าที่ดูแลพวกตนไม่ว่าจะเป็นการซื้อน้ำดื่มหรือว่าหาขนมมาให้
(สงสัยเราจะคิดมากไปเอง เด็กคนนี้คงเป็นพวกใครดีด้วยก็ล้วนตอบแทนอีกทั้งยังเป็นพวกมีน้ำใจกับทุกคน) เด็กหนุ่มคิดก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม
“เฮีย! เป็นอะไร” คำถามของน้องทำให้ครามมองใบหน้ากลมของเธอด้วยความงุนงง
“แกพูดอะไร ฉันจะเป็นอะไร”
“หนูเห็นท่าทางเฮียแปลก ๆ ก็เลยถามดูเฮียไม่เป็นไรก็ดีเพราะเฮียเป็นหัวหน้าวงนะ” ครีมบอกปัด
“แกนี่ท่าจะเพี้ยน” ครามพูดก่อนที่เจ้าตัวจะไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ก่อนที่เสียงดนตรีจะดังขึ้นอีกครั้ง
ในขณะที่วันลอยกระทงเริ่มเข้ามาใกล้ โรงเรียนแต่ละโรงเรียนก็กำลังทำกระทงซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปี โดยที่ปีนี้ห้องที่รับหน้าที่ทำกระทงคือห้องม.4/1
เด็กนักเรียนทุกคนต่างช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งแม้ว่าจะต้องกลับบ้านเย็นกว่าปกติ
“เสียดายที่ไม่ได้ไปดูการซ้อม&rdqu
ครึ่งเดือนต่อมาหลังจากปิดภาคเรียน วันปัจฉิมของรุ่นพี่ม.6 ก็มาถึง ฟ้าใส ครีม ม่านเมฆ และน้ำหนึ่งต่างพากันไปร่วมงานแสดงความยินดีกับพวกเขาที่จบการศึกษาอย่างพร้อมเพรียง“บอกว่าไม่ต้องมาก็ไม่เชื่อ ร้อนละสิ” ครามพูดเมื่อเห็นใบหน้าของน้อง ๆ ที่ต่างก็มีเหงื่อซึม “จะได้ยังไงล่ะครับ วันนี้เป็นวันสำคัญของพวกเฮียเลยนะยังไงพวกเราก็ต้องมา” ม่านเมฆพูดก่อนที่ครีมจะเสริมออกมาบ้าง“ใช่แล้ว อีกอย่างพวกเฮียจะขาดน้องที่รักอย่างพวกหนูได้ยังไง”“แกก็ช่างกล้าพูดนะ ไม่กลัวร้อนก็ตามใจเถอะ” ครามคร้านจะเถียงกับน้องสาวพูดก่อนที่เจ้าตัวจะถูกเพื่อน ๆ เรียกให้ไปถ่ายรูปหมู่“เอ่อ...ไปเดี๋ยวนี้แหละ” แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไป ครีมก็เอ่ยเรียกเอาไว้ก่อน “เฮียนี่ของขวัญ เอาไปด้วย” ครามมองดาวกระดาษที่อยู่ในขวดแก้วอย่างไม่อยากเชื่อสายตา“แกไปซื้อที่ไหนมา” เขาย้อน“เฮียจะดูถูกกันเกินไปป่ะ นี่เป็นฝีมือของหนูกับฟ้าใสต่างหาก เฮียรีบรับไปเลย อ๋อแล้วก็มีนี่ด้วย” ครีมยัดขวดแก้วในมือให้เขาก่อนตามมาด้วยช่อดอกกุหลาบที่มีทั้งสีแดงและสีขาว“เอ่อ ขอบใจนะ” ครามรับของทั้งสองชิ้นมาก่อนจะวิ่งไปทางเพื่อน ๆ ที่รออยู่โดยมีอาจารย์ปร
หลังจากวันลอยกระทงผ่านมาเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงวันสอบวันสุดท้ายของปลายภาคเรียนในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายของพวกเขา“เผลอแป๊บเดียวพวกเฮียครามก็เรียนจบกันแล้ว” ครีมพูดในระหว่างที่กลุ่มของตนเดินมากินข้าวที่โรงอาหาร“นั่นสิ ว่าแต่แกจะให้อะไรเฮียครามในวันปัจฉิม” ฟ้าใสถามขึ้นอย่างสนใจ“ไม่รู้สิ คงเป็นดอกไม้เหมือนคนอื่นนั่นแหละ ว่าแต่แกถามฉันทำไมหรือว่าแกมีอะไรจะให้เฮียของฉันด้วย” ครีมทำสีหน้าล้อเลียน“แก อย่ามาทำหน้าอย่างนั้น การจะให้ของขวัญเฮียเขาก็ไม่แปลกนี่ เพราะตลอดเวลาพวกเราก็รบกวนเขาให้มาติวหนังสือตั้งหลายครั้งอีกทั้งเวลาไปไหนมาไหนเขาก็มักจะพาไป”“เฮ้อ! นึกว่า” ครีมทำหน้าเสียดาย“นึกว่าอะไร” ฟ้าใสทำสีหน้ามึนงงโดยมีม่านเมฆกับน้ำหนึ่งส่ายหัวไปมาให้กับความรู้สึกช้าของเธอ แต่อย่างว่าพวกเขาเพิ่งจะอยู่ม.4 การที่ไม่มีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ชอบพอใครเข้ามาเกี่ยวข้องมันก็นับว่าเป็นเรื่องดีในขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารกลางวันกันอย่างเอร็ดอร่อย อีกฟากฝั่งหนึ่งของโรงอาหารครามและเพื่อน ๆ ม.6 ก็กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องการสอบเอนทรานซ์ที่กำลังจะมาถึง“พวกเราจะเรียนต่อที่ไหนกันดี” ภูมิถามพลางเค
“ฟ้าใสมาถ่ายรูปรวมกับทุกคนเร็วเข้า” คนเป็นพ่อส่งเสียงเรียกหลังเห็นว่าเธอกำลังเดินตรงมาทางพวกเขา“ค่ะ” ฟ้าใสเข้าไปยืนอยู่ข้างม่านเมฆเป็นภาพแรกก่อนที่ป๊าจะสั่งให้ทุกคนเปลี่ยนตำแหน่งและท่าทางซึ่งฟ้าใสไม่รู้เลยว่าเธอได้มายืนข้างเฮียครามตอนไหนหลังจากป๊าของเธอได้รูปจนพอใจก็ถึงเวลาย้ายจากหน้าเวทีการแสดงดนตรีไปบริเวณท่าน้ำสถานที่ประกวดกระทงในค่ำคืนนี้เมื่อทุกคนมาถึงบริเวณริมน้ำก็พบกับผู้คนมากมายที่กำลังลอยกระทงกันอย่างสนุกสนาน แสงเทียนจากกระทงนับร้อยนับพันดวงส่องสว่างไสวไปทั่วบริเวณแม่น้ำสร้างบรรยากาศที่สวยงามและน่าประทับใจ“สวยจังเลย” ครีมเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นตาตื่นใจ“ใช่ สวยมาก” ฟ้าใสพยักหน้าเห็นด้วย“พวกเราไปลอยกระทงกันบ้างดีไหม” ธรชวน“รอก่อนสิคะ ยังไม่รู้ผลการประกวดกระทงเลย” ครีมแย้ง เนื่องจากตอนนี้คณะกรรมการกำลังเดินตรวจกระทงของแต่ละโรงเรียนอย่างตั้งใจพร้อมกับให้คะแนน“ใช่แล้วค่ะ พวกเราต้องลุ้นผลกระทงของตัวเองก่อน” ฟ้าใสเห็นด้วยพลางจับมือของครีม
หลังจากฟ้าใสทำหน้าที่ของตนเรียบร้อยเธอก็ถูกครีมกับครอบครัวที่ตามมาชักชวนไปดูการแสดงดนตรีสด“ไปให้กำลังใจทุกคนกัน” ครีมพูดขึ้นเสียงดังพลางจับมือของฟ้าใสแน่นในระหว่างเดินเบียดเสียดผู้คนเพื่อไปทางหลังเวทีกลุ่มของครามต่างอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์สีดำรองเท้าผ้าใบตามสมัยนิยมที่แต่ละคนชื่นชอบเมื่อม่านเมฆมองเห็นพี่สาวเจ้าตัวก็รีบเดินเข้าหา “เจ้สวยจัง ผมว่าหลังจากวันนี้คงจะมีคนเหมือนต้นอีกหลายคน” คำว่าต้นทำให้ครีมหัวเราะคิกคักอย่างล้อเพื่อนออกมาน้ำหนึ่งที่ได้ยินเองก็เกิดความสงสัยเนื่องจากเขาเพิ่งจะมาอยู่กลุ่มเดียวกันกับสามคนนี้“ต้นคือใครเหรอแล้วเกี่ยวไรกับฟ้าใสล่ะ” วันนี้น้ำหนึ่งได้สลัดภาพเด็กเรียนในภาพลักษณ์เรียบร้อยออกจึงทำให้ใบหน้าของเจ้าตัวดูดีขึ้นอย่างชัดเจน“คือ....” ครีมแสร้งลากเสียงยาวก่อนจะอุทานออกมาด้วยความคาดไม่ถึง“นะ..นั่นใช่ต้นไหม” นิ้วของเธอชี้ไปทางเด็กต่างโรงเรียนคนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดลำลองมีกระเป๋ากีตาร์สะพายอยู่ทางด้านหลังทุกสายตาย้ายไปมองตามนิ้วของค
“เหลืออีกสองวันก็จะถึงวันลอยกระทงแล้ว ช่วงนี้พวกเราก็ซ้อมกันอีกสักรอบแล้วกันนะ” ครามพูดพลางสังเกตการกระทำของฟ้าใสที่เธอกับน้องสาวของตนมาคอยทำหน้าที่ดูแลพวกตนไม่ว่าจะเป็นการซื้อน้ำดื่มหรือว่าหาขนมมาให้(สงสัยเราจะคิดมากไปเอง เด็กคนนี้คงเป็นพวกใครดีด้วยก็ล้วนตอบแทนอีกทั้งยังเป็นพวกมีน้ำใจกับทุกคน) เด็กหนุ่มคิดก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม“เฮีย! เป็นอะไร” คำถามของน้องทำให้ครามมองใบหน้ากลมของเธอด้วยความงุนงง“แกพูดอะไร ฉันจะเป็นอะไร”“หนูเห็นท่าทางเฮียแปลก ๆ ก็เลยถามดูเฮียไม่เป็นไรก็ดีเพราะเฮียเป็นหัวหน้าวงนะ” ครีมบอกปัด“แกนี่ท่าจะเพี้ยน” ครามพูดก่อนที่เจ้าตัวจะไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ก่อนที่เสียงดนตรีจะดังขึ้นอีกครั้งในขณะที่วันลอยกระทงเริ่มเข้ามาใกล้ โรงเรียนแต่ละโรงเรียนก็กำลังทำกระทงซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปี โดยที่ปีนี้ห้องที่รับหน้าที่ทำกระทงคือห้องม.4/1เด็กนักเรียนทุกคนต่างช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งแม้ว่าจะต้องกลับบ้านเย็นกว่าปกติ“เสียดายที่ไม่ได้ไปดูการซ้อม&rdqu
“...เอ่อ ๆ ซ้อมก็ซ้อมว่ะ” ภูมิพูด หลังจากนั้นแต่ละคนก็เข้าประจำตำแหน่งยังเครื่องดนตรีของตนเสียงกลองชุดดังกระหึ่ม ตามด้วยเสียงเบสที่หนักแน่น ม่านเมฆเริ่มบรรเลงกีตาร์ตามจังหวะ ส่วนน้ำหนึ่งก็เริ่มร้องเพลงเสียงดังฟังชัด“เดิมทีเดียวไม่เคยสนใจ มองทีไรไม่เคยเข้าตา[1]” น้ำหนึ่งร้องเพลงด้วยท่าทางสนุกแม้ว่าจะค่อนข้างเกร็งอยู่บ้าง เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้องซ้อม ท่าทางของทุกคนดูมุ่งมั่นและตั้งใจ ธรเคาะจังหวะกลองด้วยความสนุกจังหวะเพลงดำเนินไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งถึงท่อนโซโล่กีตาร์ของม่านเมฆ ม่านเมฆกำปิ๊กแน่นก่อนจะเริ่มโซโล่กีตาร์อย่างพลิ้วไหว นิ้วของเขาไล่ไปตามเฟรตอย่างรวดเร็วและแม่นยำ“เยี่ยมมาก ม่านเมฆ” ครามเอ่ยชมก่อนจะพูดต่อเสียงดังหลังเพลงจบ “เอาละ ซ้อมกันอีกรอบนะ”ทุกคนเริ่มซ้อมกันใหม่อีกครั้ง คราวนี้เสียงเพลงประสานกันอย่างลงตัว น้ำหนึ่งร้องเพลงเสียงดังฟังชัดขึ้นไม่ค่อยเกร็งเหมือนครั้งแรก รวมถึงท่าทางของเขาเองก็ดูสนุกสนานและมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วย“ดีมากทุกคน คราวนี้แยกย้ายกันกลับบ้านได้
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปหาเฮียครามนะคะแม่” ครีมพูดพร้อมกับเดินนำเพื่อน ๆ ขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วก๊อก ๆ! ครีมเคาะประตูห้องพี่ชายสองสามครั้ง “เฮีย! เปิดประตูหน่อย! ม่านเมฆมาแล้ว!”เสียงถอนหายใจดังลอดประตูก่อนที่เฮียครามจะเปิดประตูออกด้วยสภาพหัวยุ่งกับเสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้น“พวกเธอมาเร็วกว่าที่คิด” เฮียครามพูดพลางขยับตัวเปิดทางให้ม่านเมฆและน้องสาวกับฟ้าใสเดินเข้ามาห้องของเฮียครามเต็มไปด้วยอุปกรณ์เกี่ยวกับดนตรี ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า หรือหนังสือเกี่ยวกับดนตรีรวมถึงมอเตอร์ไซค์ที่วางเรียงกันบนชั้นม่านเมฆเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมซึ่งเป็นมุมที่เฮียครามใช้สอนเขา ฟ้าใสกับครีมเองก็เดินเข้าไปนั่งที่ปลายเตียง เฮียครามหยิบกีตาร์ขึ้นมาพลางยื่นให้ม่านเมฆ“เอาละ วันนี้ฉันจะสอนจังหวะดีดคอร์ด นายต้องจับให้ได้ ไม่งั้นเล่นเพลงไม่ได้นะ”ม่านเมฆรับกีตาร์มา มือวางอยู่บนสายก่อนจะเงยหน้ามองคนพูดพลางพยักหน้ารับ
ครามมองรถของธรก่อนจะถอนหายใจ “ธรมึงมาขี่รถของกูส่วนไอ้ภูมิมึงมาขี่รถของไอ้ธรแล้วให้ม่านเมฆนั่งกับมึง ส่วนไอ้พัฒน์มึงไปนั่งกับไอ้ธรส่วนกูจะขี่รถพ่วงน้องสาวสองคนไปเอง” ครามพูดขึ้นโชคดีที่วันนี้น้อง ๆ ใส่ชุดกีฬา“ทำไมต้องเปลี่ยนรถวะ” ภูมิถามด้วยความรู้สึกสงสัยแม้ว่าเจ้าตัวอยากมีรถอย่างธรอย่างครามมากก็ตาม“ก็รถมึงมันซ้อนสามได้ อีกอย่างกูไม่ไว้ใจให้มึงพ่วงสามมีปัญหาไหม” ครามพูดก่อนจะเดินไปที่รถของเพื่อน“เชี่ยคราม กูพ่วงมึงต้องหลายครั้งแล้วนะโว้ย” ภูมิโวยวายพอเป็นพิธีทั้งที่ภายในใจดีใจจนเนื้อเต้น“มันไม่เหมือนกัน มึงหยุดโวยวายแล้วทำตามที่กูบอกซะ เย็นมากแล้วกูหิว” ครามตัดบท“ส่วนหมวกกันน็อคก็เอามาให้น้องมันใส่” ครามพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่เขาจะขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนโดยมีครีมตามขึ้นมาก่อนจะตามมาด้วยฟ้าใสปิดท้าย“นั่งให้ดี ๆ ล่ะจับให้แน่นด้วยนะ” ครามเตือนก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ออกตัวรถทั้งสา
การกินอาหารกลางวันของเด็กทั้งสี่เป็นไปอย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะลุกนำจานช้อนและแก้วน้ำไปไว้ยังจุดที่ทางโรงอาหารกำหนด“ไปกันเลยไหม” เสียงของน้ำหนึ่งดังขึ้น“อืม พวกเราเอาหนังสือกับสมุดมาแล้วไปกันเลยก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลา” ฟ้าใสพูดก่อนจะเดินจูงมือไปกับครีม“ดีนะที่เตรียมพร้อมไม่อย่างนั้นต้องวิ่งกลับไปเอาที่ห้องเสียเวลาตายเลย” ครีมพูดเด็กทั้งสี่ต่างกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางสนามฟุตบอลที่ตอนนี้กลุ่มของครามกำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่บนอัฒจันทร์“นั่นน้อง ๆ มากันแล้ว” ธรพูดพลางพยักปลายคางมาทางกลุ่มของเด็ก ๆ“เฮีย รอนานไหม” เสียงของครีมดังขึ้นพร้อมกับวิ่งยิ้มร่าเข้ามาหา“ช้า” ครามตอบพร้อมกับทำสีหน้าเบื่อหน่าย“เฮียอย่าทำหน้าแบบนี้สิ ก็วันนี้อาจารย์ปล่อยช้ากว่าจะได้กินข้าวหิวแทบตาย” ครีมจับแขนของเขาเขย่าเอ่ยเสียงอ้อน“เออ ๆ เรียนกันเถอะ แกนี่หาเหตุผลได้ตลอด” ครามบ่นแต่เจ้าตัวก็เต็มใ