รักต้องแลก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 3
หลังจากที่แม่พักฟื้นจนหายดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนิชาก็กลับมาทำงานเป็นเลขาของอัคคีอีกครั้งตามคำสั่ง เรื่องความสัมพันธ์แลกเงินสิบล้านนั้นยังไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหนเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้พูดถึง เพียงสั่งให้เธอเคลียร์งานในช่วงที่หยุดไปให้เรียบร้อย นั่นพอจะทำให้เธอโล่งใจไปชั่วขณะ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะต้องรองรับอารมณ์ผีเข้าผีออกของเขาให้ต้องปวดหัวเพิ่ม
"ตอนเที่ยงสั่งอาหารสองชุด ของคุณด้วย เอาเข้ามากินที่ห้องทำงานผม...ทุกวัน"
สบายใจอยู่ได้ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นตอนสิบเอ็ดโมง เมื่อรับสายสิ่งที่ทำได้ก็คือทำตามคำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย ทุกทีถ้าไม่มีนัดลูกค้านิชาจะเป็นคนสั่งอาหารเที่ยงและจัดเสิร์ฟเข้าไปให้อัคคีในห้องทำงาน ส่วนของเธอถ้าไม่นั่งกินที่โต๊ะทำงานก็เข้าไปนั่งกินในห้องพักเบรกที่มีครัวเล็กๆ รวมถึงตู้เย็นและเครื่องชงชากาแฟอยู่ในนั้น มีไว้สำหรับปากท้องของท่านประธานและเลขาอย่างเธอโดยเฉพาะ
หลังวางสายเจ้านายไปแล้วนิชาก็โทรสั่งอาหารจากร้านประจำและเลือกเมนูที่เขาชอบกินอย่างเคยชิน เมื่ออาหารมาส่งก็ใกล้เที่ยงพอดีเธอจึงนำไปจัดใส่จาน ยืนทำใจอยู่สักพักก็ยกอาหารใส่ถาดเข้าไปในห้องทำงานของเขา
"ทานข้าวค่ะ" เสียงหวานเอ่ยเรียก ขณะที่ยกอาหารไปวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟารับแขก
อัคคีที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เงยหน้าขึ้นมองแว้บหนึ่งก่อนวางงานทั้งหมดลง คลายเนคไทและพับแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินมานั่งลงที่โซฟา เมื่อเห็นเจ้านายนั่งลงแล้วนิชาก็นั่งตาม โดยเว้นระยะห่างจากเขามาหนึ่งช่วงแขน เธอวางตัวห่างเหินจากเขามากกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะหลังจากเหตุการณ์แตกหักในวันนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องปั้นหน้ายังไงต่อหน้าเขา
พรึ่บ
ในขณะที่ร่างบางพยายามถอยห่าง อัคคีกลับเป็นฝ่ายเข้าหาอย่างจงใจ เขาขยับมานั่งข้างเธออย่างสนิทสนมและเริ่มทานข้าวของตัวเองไป ในขณะที่นิชารู้สึกเกร็งจนอยากจะขยับหนี ท่อนแขนแกร่งก็ล็อกเอวของเธอไว้ให้อยู่นิ่ง
ด้วยสถานะเป็นรองที่ค้ำคออยู่นิชาจึงไม่สามารถปัดป้องได้อย่างใจนึก เธอจำต้องปล่อยให้อัคคีกอดเอวอยู่แบบนั้น และรีบทานข้าวของตัวเองให้หมดไวไว จะได้รีบออกไปเสียที
ร่างสูงมองความเร็วในการทานของคนข้างกายอย่างนึกขัน คงอยากออกไปเร็วๆ ล่ะสิ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวังกันล่ะ
"เดี๋ยวตอนบ่ายให้ รปภ. ขึ้นมาย้ายโต๊ะทำงานของคุณเข้ามาข้างใน จะได้คุยงานกันได้สะดวกขึ้น" อัคคีบอกด้วยน้ำเสียงยียวน ก่อนกดยิ้มลึกเมื่อเห็นร่างบางหันขวับมามองด้วยความไม่พอใจ
"เกินไปหรือเปล่าคะ คิดจะแกล้งกันหรือไง" นิชาสติหลุดไปชั่วขณะเมื่ออีกฝ่ายบีบบังคับให้เธอจนมุมอีกครั้ง
"แกล้งอะไร คุณกลัวอะไรงั้นเหรอ หื้ม?" ร่างสูงเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มท้าทาย ดูก็รู้ว่าจงใจ
"จะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ!" นิชากระแทกเสียงเล็กน้อย พยายามทำตัวสงบลง ไม่วิ่งเต้นไม่ขัดขวางเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่สำเร็จ อีกอย่างยิ่งเห็นเธอโกรธเขาก็ยิ่งพอใจ เรื่องอะไรจะยอมให้สมหวัง
"ยอมง่ายจัง" ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู นิชาไม่ถอยหนีแต่หันไปมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แม้ระยะห่างของใบหน้าจะอยู่ใกล้จนลมหายใจเป่ารด
อัคคีกดยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเห็นเธอสู้เขาก็ยิ่งชอบใจ สรุปง่ายๆ ไม่ว่าเธอจะสู้หรือพยายามจะหนีเขาก็สนุกทั้งนั้น
"อย่ามองผมด้วยสายตาเร่าร้อนแบบนั้นสิ ผมจะอดใจไม่ไหวเอานะ" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยเย้าอย่างชอบใจ ทว่าเขาไม่ได้พูดเล่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยจากร่างบางกำลังเร่งเร้าให้เขาอยากสัมผัสเธอมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีสิทธิ์ในตัวอีกฝ่ายตามที่ตกลงกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอื่นให้เขาต้องหักห้ามใจ
"เร่าร้อน? ใช้ตาตุ่มมองเหรอคะ" ดวงตากลมสวยมองเหยียดร่างสูงอย่างไม่เก็บอาการอีกต่อไป ถึงอัคคีจะเป็นเจ้านายและไหนจะติดหนี้ชีวิตเป็นเงินสิบล้าน เธอก็ไม่คิดจะยอมก้มหน้าให้เขาเสียทีเดียว ขอให้ได้จิกกัดเอาคืนแค่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี
"หึ ปากดี" มือแกร่งดั่งคีมเหล็กคว้าบีบแก้มเนียนแน่นจนปากจู๋เข้าหากัน นิชาพยายามดิ้นหนีแต่เขาใช้แรงกดคางเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะบังคับให้หันมาหาแล้วก้มลงกัดปากนิ่มเพื่อทำโทษ
"อื้อออ" แรงกัดของอัคคีไม่เบาเลย มันทำให้นิชารู้สึกเจ็บจนต้องพยายามดิ้นหนีอีกครั้ง แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้ เธอทั้งทุบทั้งจิกเขาก็ไม่สะทกสะท้าน
ไม่นานสัมผัสก็แปรเปลี่ยนจากกัดมาเป็นรุกจูบอย่างดูดดื่ม ร่างบางพยายามดิ้นอีกครั้งแต่ก็สู้แรงและความช่ำชองของอัคคีไม่ได้ นานเข้าเรี่ยวแรงขัดขืนก็หมดลง ได้แต่ปล่อยให้เขากระทำได้ตามใจ และคนที่เพิ่งเคยถูกรุกรานด้วยสัมผัสร้อนรุ่มขนาดนี้ก็ได้แต่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหมดสภาพ
พรึ่บ!
ทันทีที่ถูกปล่อยเป็นอิสระนิชาก็เค้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายผลักร่างสูงออก ใช้หลังมือเช็ดปากลวกๆ และจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ข้าวกลางวันที่ยังกินไม่หมดก็ไม่มีอารมณ์จะกินต่อแล้ว เลยรีบเก็บส่วนของตัวเองลุกหนีออกจากห้องไป
"หึ หวาน..." อัคคีมองตามหลังร่างบางไปด้วยแววตาร้อนรุ่ม ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งอยากสัมผัสมากขึ้น ความปรารถนาดำมืดลึกๆ ภายในใจของเขาแรงกล้ามากกว่าที่คิดจนเขาเองก็ยังแปลกใจ...
นิชาเอาจานไปวางไว้ในซิงค์และหนีเข้าห้องน้ำเพื่อไปตั้งหลัก ลมหายใจของเธอหอบเหนื่อยเหมือนวิ่งขึ้นลงบันไดสิบชั้น ครั้นมองตัวเองในกระจกก็เห็นสภาพปากบวมเจ่อ แก้มแดงเรื่อ เสื้อหลุดลุ่ยและยับย่น ยิ่งมองก็ยิ่งรับไม่ได้เลยรีบจัดการตัวเองให้กลับมาเรียบร้อย ทว่าปากที่บวมเจ่อกับแก้มแดงเรื่อก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้อย่างที่ใจต้องการ
ปลายนิ้วเรียวยาวยกขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองเบาๆ พลันนึกไปถึงเหตุการณ์ในห้องนั้นแล้วก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจเพราะมีช่วงที่เธอเผลอไผลไปกับสัมผัสร้อนแรงของเขา
เมื่อตั้งสติและปรับอารมณ์จนกลับมาเป็นปกติได้แล้วนิชาก็ออกจากห้องน้ำไปเพื่อเก็บล้างจานข้าวกลางวันของตัวเองให้เรียบร้อน พลันเห็นจานอีกชุดที่คาดว่าเป็นของร่างสูงวางอยู่ด้วยกันก็ล้างไปพร้อมกัน
พอออกมาจากห้องพักเบรกก็คล้ายว่าจะปรี๊ดแตกขึ้นมาอีกหน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รปภ.จำนวนสามคนกำลังช่วยกันยกโต๊ะของเธอเข้าไปข้างใน...
นี่เอาจริงเหรอเนี่ย? ให้นั่งทำงานต่อหน้าเขาทั้งวัน เธอจะไม่ประสาทกินก่อนเหรอ!
"เอาเถอะ...คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ" ร่างบางถอนหายใจพึมพำกับตัวเอง ก่อนเอ่ยขอบคุณพี่ๆ พนักงานแล้วหยุดทำใจหน้าประตูพักหนึ่ง ถึงจะเปิดประตูห้องประธานเข้าไป
อัคคีกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะตัวเองแล้ว เห็นเธอเข้ามาเขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มยียวนให้เล็กน้อย แต่นิชาทำเป็นไม่เห็น เดินตรงไปนั่งโต๊ะเตรียมตัวทำงาน ตำแหน่งโต๊ะทำงานของเธออยู่ไม่ไกลจากเขาแถมหันหน้าเข้าหากันอีกต่างหาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้จัดแบบนี้ กวนประสาทจริงๆ
.
.
"คืนนี้สองทุ่ม ไปหาผมที่คอนโด...ห้ามสาย ห้ามหนี ไม่อย่างงั้นจะไปหาถึงบ้าน"
และแล้วเวลาทำใจที่เหลือเพียงน้อยนิดของนิชาก็หมดลง เธอนิ่งอึ้งอย่างตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำสั่งที่อัคคีทิ้งไว้ในตอนเลิกงาน ก่อนที่เขาจะเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
อย่าบอกนะว่าเริ่มแล้ว? ไวขนาดนี้เลยเหรอ...
ร่างบางกลับบ้านด้วยจิตใจว้าวุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้แต่คิดว่าจะเตรียมตัวรับมือยังไงดี ที่สำคัญทั้งถุงยางและยาคุมต้องเตรียมให้พร้อม เธอจะต้องไม่พลาดท้องในสถานการณ์แบบนี้เด็ดขาด!
"เป็นอะไรหรือเปล่าลูก หน้าเครียดเชียว" ผู้เป็นแม่เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้าบ้านมาหน้าเครียดๆ และคล้ายว่าจะเหม่อจนมองไม่เห็นเธอที่ยืนอยู่ตรงนี้
"อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดเรื่องงานนิดหน่อย แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า" นิชาพลันได้สติ รีบแก้ตัวและเข้าไปประคองแม่ พาเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยความห่วงใย
"แม่สบายดี ไม่มีอาการอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะ" นางพิมพายิ้มอย่างอ่อนใจเพราะโดนถามอยู่ทุกวัน อีกฝ่ายเป็นห่วงเธอมากนั้นเข้าใจได้แต่ติดจะกังวลมากเกินไปเสียหน่อย ไม่รู้ตอนทำงานมีสมาธิหรือเปล่า
"ห้ามโกหกนะคะ ถ้ามีอาการอะไรให้รีบบอกหนู ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ที่เจ้านายหนูใหัยืมยังเหลืออีกเยอะ หนูเหลือแม่คนเดียวแล้วรู้ใช่ไหมคะ" นิชาบอกแม่ด้วยความเป็นห่วง แม้จะต้องกัดฟันโกหกว่าเงินที่ใช้รักษาเป็นเงินที่เจ้านายให้ยืมมาชั่วคราวก็ต้องทำเพราะไม่สามารถบอกความจริงได้
"ได้ แม่จะบอกทุกอย่างเลย" ผู้เป็นแม่ยิ้มรับความหวังดีก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดไว้ด้วยความรัก
"อ้อ คืนนี้หนูมีกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่บริษัทนะคะ สองทุ่ม จะรีบไปรีบกลับและจะไม่ดื่มเยอะ แม่นอนก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ" เป็นอีกครั้งที่นิชาจำต้องโกหกบุพการีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง จะให้แอบออกไปถ้าโดนจับได้จะยิ่งมีพิรุธมากกว่า
"ขับรถดีๆ นะลูก ถ้าไม่ไหวก็เช่าโรงแรมนอนก็ได้ ดูแลตัวเองดีๆ" นางพิมพาพยักหน้ารับและสั่งกำชับเล็กน้อย ไม่ได้ห่วงมากนักเพราะรู้ว่าลูกสาวเป็นคนเก่ง ดูแลตัวเองได้ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"ค่ะ เด็กๆ ล่ะคะ" ร่างบางรับคำก่อนถามถึงหลานๆ ทั้งสองคน
"อยู่บนห้อง เพิ่งไล่ไปอาบน้ำเมื่อกี้"
"งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวลงมากินข้าวกัน"
แม้อยู่ต่อหน้าแม่นิชาจะเก็บอาหารได้ดี แต่พอหันหลังเดินขึ้นห้องร่างกายของเธอก็พลันหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานก็สลัดทิ้งไป นี่เป็นสิ่งที่เธอเลือกเองแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำใจยอมรับมันให้ได้ก็เท่านั้น
อย่างน้อยๆ เธอก็เคยรู้สึกดีกับเขา ก็แค่เป็นคู่นอนคงไม่ยากกระมัง ไม่แน่เขาอาจจะเบื่อและปล่อยเธอเป็นอิสระในเร็ววันก็ได้...
..
..
..
..
อุ๊ยยยย เอาเลยอ๋อออออออ
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ)ผ่านไปหลายเดือนอะไรหลายๆ อย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น น้องปุณณ์กับน้องปัญญ์ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่มีราคาค่าเทอมพอๆ กับราคาบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลัง มีคนขับรถรับส่งอย่างดี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีอัคคีเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงเท่านี้แต่เขายังคิดเผื่อไปถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ถึงแม้จะมีแต่ลูกหลานคนรวยก็ใช่ว่าจะมีแต่คนดีๆ ด้วยกลัวว่าหลานๆ จะถูกรังแกหรือดูถูกว่ามาจากครอบครัวธรรมดา อัคคีถึงกับลงทุนรับเด็กทั้งสองมาเป็นลูกบุญธรรม โดยให้ใช้นามสกุล 'ศิระพักตร์พิมล' ของเขาเป็นเกราะคุ้มกัน เพราะถ้าลูกหลานตระกูลไหนกล้ารังแกเด็กๆ ทั้งสองก็เท่ากับตั้งตนเป็นศัตรูกับเขาด้วยเช่นกัน ส่วนแม่ของนิชา อัคคีได้จ้างแม่บ้านมาคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนเพราะอยากให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกัน ตอนแรกนิชาไม่ยอมเพราะเป็นห่วงแม่ กลัวแม่ไม่มีเพื่อนแล้วจะเหงา เขาก็เลยจ้างแม่บ้านที่ไว้ใจได้สองคนมาคอยดูแล อายุเท่ากันกับแม่เธอหนึ่งคน ไว้คอยอยู่เป็นเพื่อนและหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนไว้คอยดูแลบ้านและเรื่องอาหารการกิน มีรถและคนขับรถให้เวลาอยากออกไปข้างนอก คนเจ้าเล่ห์จัดแจง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 26"ครับแม่" บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานตามปกติ ร่างสูงที่มีสายเรียกเข้าก็กดรับสาย แต่พอรู้ว่าปลายสายเป็นใครนิชาก็หูผึ่ง เพราะไม่รู้ว่าแม่ของเขาโทรมาทำไม ที่รู้คือคุณหญิงดาริกาไม่ค่อยชอบเธอตั้งแต่ที่เรียกไปคุยส่วนตัวในวันนั้น พอเกิดเรื่องถอนหมั้นและมีเธอเป็นต้นเหตุ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งไม่ชอบเธอแค่ไหน หลายครั้งที่ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับแม่และจบลงที่การทะเลาะ นิชาก็ยิ่งคิดหนัก แม่ไม่ชอบแต่ลูกชายกำลังจีบเธอ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ที่หลายคนมองว่าเบสิก แต่ก็ทำคนเลิกกันมาตั้งเท่าไร "นิ..." "..." "นิ!" "อะ คะ?" "เหม่ออะไร พี่เรียกตั้งนาน" สรรพนามที่เปลี่ยนไปของอัคคี นิชาไม่เคยชินเลยสักที ไม่พอเขายังบังคับให้เธอเรียกเขาว่าพี่ด้วย "อ้อ เปล่าค่ะ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ว่าแต่มีอะไรเหรอคะ" เธอแสร้งถามเผื่อเขาจะตอบความจริง เพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันก้าวข้ามคำว่า 'แฟน' มาไกลมากแล้ว "เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านพี่นะ แม่โทรมาชวน" "คะ?" นิชาได้ฟังก็ยิ่งงง เขากับแม่ดีกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นชวนเธอไปทานข้าวที่บ้านด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดร
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 25หลังเดินตลาดจนเหนื่อยทุกคนก็เดินกลับโรงแรมและแยกย้ายกันเข้าห้อง อัคคีทำทีเป็นกลับห้องตัวเอง แต่จริงๆ แค่มาอาบน้ำแล้วค่อยแอบออกไปเคาะห้องลูกสาวคนอื่นตอนดึก นิชาที่เห็นเขาไม่ตามมาที่ห้องก็พลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาจะมานอนด้วยกันอีก พอเขาไม่มาเลยแอบผิดหวัง แต่ก็พยายามสลัดความคิดทิ้งไป หยิบข้าวของเข้าไปอาบน้ำและสวมแค่ชุดคลุมออกมา ขณะที่กำลังจะแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู คิดว่าแม่อาจจะมาเลยเดินไปเปิดอย่างไม่คิดอะไร แต่กลับเจออัคคียืนอยู่หน้าห้องและแทรกตัวเข้ามาอย่างถือวิสาสะ "มาทำไมคะ" แม้จะแอบดีใจจนเนื้อเต้น แต่นิชาก็ยังแสดงออกนิ่งๆ เหมือนเดิม "อยากดื่ม มาดื่มกันเถอะ" ร่างสูงชูเครื่องดื่มที่สั่งมาจากบาร์ของโรงแรมให้ดู ก่อนเดินไปนั่งที่เตียง เทเครื่องดื่ม เปิดทีวีดูอย่างสบายใจ นิชาปล่อยเขาดื่มไปก่อน เพราะเธอยังต้องแต่งตัวและเป่าผมให้แห้ง ใช้เวลาสักพักก็เสร็จ เธอจึงปิดไฟสร้างบรรยากาศ เปิดไว้แค่แสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เธอขึ้นเตียงไปนั่งข้างเขาแต่ถูกดึงไปนั่งตรงหว่างขา รั้งตัวเอนพิงอกและกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มให้ พวกเรานั่ง
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 24"ปะ ปล่อยได้แล้วค่ะ ไม่ทำนะคะ เดี๋ยวแม่มาเจอ" นิชาพยายามดันร่างสูงออกห่าง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ เขินทั้งจูบหวานๆ และสายตาที่เขาเอาแต่มองมาไม่หยุด "คุณน้าอนุญาตให้ผมจีบคุณแล้ว...แล้วคุณล่ะ" อัคคีไม่ได้ปล่อยมือจากเอวบาง ยังคงกอดไว้อย่างแนบชิด ก่อนจะก้มลงถามความรู้สึกของเธอบ้าง "...คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ" นิชาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามเขา "ผมพูดกับแม่คุณขนาดนั้น คุณยังคิดว่าผมเล่นๆ อีกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดชนกันคล้ายว่าจะไม่พอใจที่เห็นเธอยังไม่เชื่อใจเขา "ก็...เปล่าค่ะ แต่บอกตรงๆ ว่านิไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ ความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคนรักกันแล้วทุกอย่างจะราบรื่น คุณมีครอบครัว มีสังคมสูงๆ ที่ไม่มีทางยอมรับคนธรรมดาอย่างนิ...นิเหนื่อยมามากพอแล้วค่ะ ไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอะไรอีก..." ร่างบางเปิดเผยสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในใจให้เขาได้รับรู้จนหมด แววตาคู่สวยเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวมากมายในชีวิตที่ผ่านมา "ผมขอโทษ...ที่เริ่มต้นกับคุณได้ไม่ดี ขอโทษที่เป็นหนึ่งในเรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด ให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะทำให้ค
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 23"เย่ๆ ทาเล๊~~" หลังจากที่คุณอาไฟบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเลในวันนั้น สองพี่น้องก็เก็บกระเป๋านั่งนับวันนับคืนรออย่างใจจดจ่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อัคคีมารับแต่เช้าด้วยรถตู้คันใหญ่พร้อมคนขับส่วนตัวที่นิชาคุ้นหน้าคุ้นตาดีคือ 'พี่ชิด' คนขับรถที่เขามักเรียกใช้เวลาเดินทางออกต่างจังหวัดไกลๆ หรือเวลาขี้เกียจขับรถเอง ส่วนเจ้าลัคกี้เอาไปฝากไว้ที่โรงแรมแมวแล้ว หายห่วง เมื่อมาถึงโรงแรมก็เช็กอินแบ่งห้องกันตามที่อัคคีจองไว้ให้คือเธอกับเขาและพี่ชิดคนละห้อง ส่วนแม่และหลานๆ ห้องเดียวกัน เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เด็กๆ ก็อ้อนขอออกไปเล่นน้ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งนิชา แม่และอัคคีต่างถูกหลานๆ ดึงให้ลงไปเล่นด้วยกัน แต่ด้วยความที่อายุเยอะแล้วนางพิมพาเล่นด้วยได้ไม่นานก็ขอไปนั่งดูดีกว่า สุดท้ายเลยเหลือแค่นิชากับอัคคีที่อยู่เล่นกับเด็กๆ ร่างสูงเล่นน้ำไปพลางแอบมองเลขาคนสวยไปด้วย เพราะเธอหัวเราะและยิ้มกว้างมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองจากเรื่องเครียดๆ มากมายเพื่อเล่นสนุกกับสองพี่น้อง ทั้งที่สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย นิชาเงยหน้า
รักต้องแลกWriter : Aile'Nตอนที่ 22"อะไรนะคะ? ได้ค่ะ จะรีบไป!" ร่างบางวางสายโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากคุณครูประจำชั้นโทรมาเรียกให้ไปที่โรงเรียนด่วน เพราะหลานชายมีเหตุทะเลาะวิวาทกับเพื่อนที่โรงเรียน ตอนนี้รออยู่ในห้องปกครอง "มีอะไรหรือเปล่า" อัคคีถามด้วยความห่วงใย มีไม่กี่เรื่องในชีวิตที่ทำให้เลขาคนสวยเป็นเดือดเป็นร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ก็ต้องเป็นหลานๆ "นิขอลาช่วงบ่ายนะคะ คุณครูแจ้งมาว่าน้องปุณณ์มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียน" ร่างบางพูดไปเก็บของไปด้วยความรีบเร่ง หลักๆ เลยคือเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหลานเธอไม่ได้เริ่มก่อนแน่นอน "ผมไปด้วย" ร่างสูงทิ้งงานลุกขึ้นทันที จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะเขาเดินนำไปก่อนแล้ว เมื่อมาถึงโรงเรียนนิชาก็ตรงไปที่ห้องปกครองทันที ก่อนจะได้รู้จากครูที่ประจำการอยู่ว่าผู้ปกครองของคู่กรณีต้องการให้เรื่องถึงผู้อำนวยการ เด็กๆ จึงถูกพาไปตัดสินที่ห้องของผู้อำนวยการ ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความสงสัย แค่เด็กทะเลาะกันทำไมถึงต้องไปที่ห้องผู้อำนวยการ มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมครูปกครองถึงตัดสินกันเองไม่ได้ในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง หรือไม่คงมี 'บาง