ログイン“อาวุธสำหรับเจ้า เอาไว้ฝึกวรยุทธ หากเจ้าเลือกเส้นทางแล้ว และอยากเป็นแม่ทัพ ข้าจะสนับสนุนเจ้าเต็มที่ แต่เจ้าต้องตั้งใจฝึก อย่างน้อยก็ต้องอารักขาถิงถิงให้ได้ก่อน”
“นี่มัน มากเกินกว่าที่ข้าจะคิดฝัน ท่านอ๋อง เหตุใดท่านจึง..”
“หลังจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา พวกเจ้าเองก็ต้องมีกองกำลังของตัวเองเช่นกัน ถิงถิงบอกข้าว่าเจ้าอยากเป็นทหาร ข้าแค่มอบโอกาสนั้นให้กับเจ้า แต่ว่า นั่นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของเจ้าด้วย เจ้ารับปากข้าได้หรือไม่ว่าจะตั้งใจฝึก”
อาหลานคุกเข่าลงถวายคำนับให้เขาอย่างรู้สึกนับถือหมดหัวใจ
“อาหลานขอสัญญาว่าจะตั้งใจฝึกเพคะ จะปกป้องดูแลคุณหนูเท่าชีวิต ท่านอ๋องโปรดวางใจได้เลยเพคะ”
“ดีมาก เรือนร้อยบุปผายังต้องฝึกคนอีกมาก เจ้าเริ่มจากที่นี่ก่อน ข้าจะจัดหาคนมาให้เจ้าฝึก”
“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”
“เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้คนยกไปเก็บที่ห้องของเจ้าให้ ถิงถิง ไปอาบน้ำกันเถอะ”
“เอ่อ เดี๋ยวเจ้าค่ะ ท่านก็ไปอาบห้องท่านสิเจ้าคะ”
“ก็ใช่ ข้าแค่ชวนเจ้าไปอาบน้ำพร้อมกัน ไม่ได้บอกว่าอาบด้วยกันเสียหน่อย หรือว่าเจ้า….”
“ฝันไปเถอะ ขอตัวเจ้าค่ะ”
“อาหลานขอบพระทัยท่านอ๋อง”
“อาหลาน ข้าต้องขอโทษเจ้าที่เคยปรามาสพวกเจ้าในตอนแรก สิ่งนี้ถือว่าแทนคำขอโทษจากข้า แต่หลังจากนี้เวลาข้าไม่อยู่ ชีวิตของถิงถิง ข้าขอฝากไว้ให้เจ้าช่วยดูแลด้วย"
“หม่อมฉันรับด้วยเกล้าเพคะ”
“ข้าขอตัวก่อน”
เขาเดินตามถิงถิงขึ้นไปยังห้องพักของเขาเพื่อจะอาบน้ำ เมื่อเขาขึ้นมาแล้วก็พบว่าเป่าอี้รอเขาอยู่พร้อมกับเสี่ยวเฟย เหยี่ยวของเขานั่นเอง
“ข่าวส่งมาจากเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
เขารับจดหมายนั้นมา เมื่ออ่านจบจึงส่งคืนไปให้เป่าอี้
“เป็นดังที่คาด ข่าวที่ปล่อยออกไปทำให้พวกมันกระจายกำลังตามหาข้าที่นอกเมือง รวมถึงเมืองหลวงด้วย ต้องให้คนอารักขาเสด็จพ่อให้ดี”
“กระหม่อมเพิ่มกำลังในวังเพิ่มขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ในหย่งโจวเป็นอย่างไรบ้าง”
“ดูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วงนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เจ้าส่งคนไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่จวนท่านเจ้าเมืองดู ข้ารู้สึกว่ากลิ่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“พระองค์คิดว่าคุณหนูหลิน…”
“ข้ายังไม่รู้ จนกว่าคนร้ายจะปรากฏตัว เราห้ามประมาทโดยเด็ดขาด”
“ท่านอ๋อง แต่ว่าทางร้านร้อยบุปผาตอนนี้ มันจะเป็นที่ผิดสังเกตไปหรือไม่ขอรับ”
“ไม่หรอก เพียงแค่อาหลานฝึกอาวุธให้คนในเรือน มีอะไรน่าผิดสังเกต ข้าแค่อยากรู้ว่า หากมีคนเห็นว่าที่นี่มีการฝึกฝน ผู้ใดมันจะดิ้นรนจนร้อนตัวบ้างก็เท่านั้น”
“เรื่องที่คุณหนูหลินทะเลาะกับแม่นางฟาง คิดว่าไม่นานน่าจะถึงหูท่านเจ้าเมือง นางต้องหาเรื่องแม่นางฟางแน่นอน”
“ก็ลองดูว่าพวกเขาจะกล้าแค่ไหน กล้ามายุ่งกับคนของข้า ก็ต้องกล้ารับสิ่งที่พวกเขาต้องจ่าย ส่งข่าวให้เสด็จพ่อทราบด้วยเรื่องที่นี่ พระองค์จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“เอาล่ะ ข้าจะอาบน้ำ เจ้าก็ไปจัดการได้แล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เขาเดินออกมาเพื่อจะอาบน้ำ แต่เขาก็ลืมถามถิงถิงว่าห้องอาบน้ำอยู่ที่ใดแน่เพราะอยู่ที่นี่ เมื่อท่านหมอไม่ให้โดนน้ำ เขาจึงไม่ได้อาบน้ำหรือแช่น้ำเลย ทำเพียงแค่เช็ดตัวกับอ่างที่พวกสาวใช้เตรียมมาให้เท่านั้น
แต่ตอนนี้แผลของเขาแห้งมากแล้ว การแช่น้ำทำได้แต่จะแช่นานๆ ไม่ได้ เขาเลยเดินไปตามทางเดินและได้ยินเสียงน้ำ เขาจึงเดินไปตามทางนั้น กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาตามทางจนเขาเดินตามไปอย่างใจลอย
“นี่คงเป็นห้องอาบน้ำสินะ”
เขาเดินเข้าไป ห้องอาบน้ำนี้ใหญ่พอสมควรสำหรับอาบน้ำ แต่ไม่ได้ใหญ่มากเท่าจวนอ๋องของเขา แต่กลิ่นหอมนี้ไม่เหมือนที่ใดแน่นอน
เขาเห็นฉากกั้นก่อนจะถึงอ่างอาบน้ำ ไอน้ำที่ลอยขึ้นมาทำเอาจิตใจเขาเริ่มว้าวุ่น เป็นเพราะน้ำหอมที่ลอยมาหรือไม่นะ
เขาเห็นว่ามีคนกำลังเดินมาจึงต้องหลบไปที่ฉากกั้นด้านหลัง นางสวมเพียงชุดคลุมสีขาวสะอาด ผมถูกรวบเก็บเอาไว้ด้านบนจนหมด
เขายืนพิงที่ฉากกั้นอย่างตื่นเต้นเมื่อนางเริ่มปลดอาภรณ์ที่เหลือออก คองามระหงของนางนั้นช่างยั่วตาเขาเหลือเกิน เขาไม่เคยเห็นนางในรูปลักษณ์นี้มาก่อน
ท่านอ๋องกลืนน้ำลายเหนียวลงไปอย่างยากลำบากเมื่อเห็นว่าร่างเล็กของนางค่อยๆ เดินเปลือยเปล่าลงน้ำไป
หัวใจเขาเต้นแรงราวกับว่ามันจะทะลุออกมาด้านนอกแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองผู้ที่อยู่ในอ่างน้ำนั้น ผิวนางช่างขาวเนียนละเอียดยิ่งนัก
เขาแทบจะไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ เพียงแค่คิดถึงจูบรสน้ำตาลปั้นเมื่อครู่ก็เริ่มรู้สึกว่าจะยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวอีกต่อไป แต่เขาจะทำอย่างไรดี
หากออกไปตอนนี้ คนตรงหน้าจะเข้าใจเขาหรือไม่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจแอบมาดูนางอาบน้ำเลย ทุกอย่างมันเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน แต่อย่างไรเขาก็อดทนที่จะยืนตรงนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“ถิงถิง”
นางสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับหันมองหาเสียงนั้นพร้อมกับห่อตัวลงไปที่อ่างน้ำอย่างรวดเร็ว นางหันมาเห็นว่าเขาเดินออกมาจากฉากกั้น
“ท่านอ๋อง นี่ท่านจะทำอะไร เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่”
นางไม่กล้าหันไปแต่เสียงเขาเดินเตะของในห้องอาบน้ำทำให้นางต้องค่อยๆ หันไปมองเขาอีกครั้ง
“ท่าน ท่านอ๋อง นั่นท่านทำอะไร เหตุใดท่านจึง…”
ท่านอ๋องเอาผ้าขาวปิดตาตัวเองเอาไว้ พร้อมกับควานหาทางเดินไปทั่ว ถิงถิงเดินขึ้นมาพร้อมกับสวมชุดคลุมและเดินมาหาเขา
“เหตุใดท่านไม่รอข้าไปเรียกเจ้าคะ”
“ข้าผิดเองที่ไม่ได้ถามเจ้า ข้าเพียงแค่อยากแช่น้ำเท่านั้น”
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาท่านไปแช่ ข้า..”
“ถิงถิง ข้าสาบานว่าข้าไม่ได้ตั้งใจเข้ามาเจอเจ้าที่นี่”
“หม่อมฉันเชื่อเพคะ”
“ถิงถิง ข้าปิดตาแล้ว เจ้าก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ ถ้าอย่างนั้น ข้าขออาบกับเจ้าด้วยได้หรือไม่”
“ไม่ได้เพคะ”
“แต่ว่าข้าอาจจะทำแผลข้าโดนน้ำ เจ้าต้องช่วยข้า นี่คือความรับผิดชอบของเจ้า ลืมแล้วหรือ”
“แต่หม่อมฉันเป็นสตรี ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่สามารถทำเช่นนั้นได้”
“ข้าจะปิดตาเอาไว้ สาบานว่าจะไม่มีทางเปิดออกมา ถิงถิง แค่วันนี้ เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่ ไหนๆ ข้าก็เข้ามาแล้ว”
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านอาบน้ำอยู่หรือไม่เจ้าคะ”
“อาหลิน ข้าอาบน้ำอยู่ เจ้าไม่ต้องเข้ามา เดี๋ยวข้าอาบเสร็จแล้วจะลงไปเอง”
“ข้าจะมาถามว่าท่านจะกินข้าวพร้อมกับคุณชายหมิงเลยหรือไม่เจ้าคะ ท่านป้าลี่ให้มาถาม จะได้จัดสำรับเอาไว้ให้พวกท่านถูกเจ้าค่ะ"
“เจ้าต้องกินข้าวกับข้า เจ้าต้องทำแผลให้ข้าด้วย อย่าลืม”
“พระองค์หุบปากไป ข้าทราบแล้วเพคะ”
พวกเขากระซิบกันอยู่ข้างในห้องอาบน้ำ
“เอ่อ ยกไปที่ห้องของคุณชายหมิงได้เลย เจ้ายกยาและผ้าพันแผลไปด้วย”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
“ถิงถิง ตอนนี้ข้ากลับไม่ได้แล้ว”
"ก็ได้เพคะ แต่ว่าพระองค์ต้องหันหลัง หม่อมฉันก็จะหันหลังเช่นกัน"
“ก็ได้ ตอนนี้เจ้า เอ่อ อะฮึ่ม คือ สวมอะไรหรือไม่ ข้าจะให้เจ้าพาลงไปในอ่างแล้วค่อยถอดชุดออก”
“รอสักครู่เพคะ”
ถิงถิงมองที่ผ้าขาวที่ปิดตาเขาพลางโบกมือไปมาเพื่อให้แน่ใจว่าเขามองไม่เห็นจริงๆ นางจึงค่อยๆ ถอดชุดคลุมอีกครั้ง และพาเขาเดินลงไปในอ่างน้ำ
“ค่อยๆ เดินเพคะ ตรงนั้นมีบันได ว้าย..”
ตัวเขาดันเข้าไปจนชิดนางจนนางต้องกอดเขาไว้แน่นเพราะกลัวว่าเขาจะหกล้ม ร่างเปลือยเปล่าของนางตอนนี้แนบชิดกับเขาอยู่ในอ่างน้ำ แต่กลิ่นแก้มของนางที่อยู่ใต้จมูกเขานั้นยังได้กลิ่นชัดเจนจนเขาเริ่มจะอดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่
วังบูรพา“เร็วๆ เข้า เอาน้ำมา เตรียมผ้ามาอีก เร็วๆ เข้า”“แม่นม ออกหรือยัง” “ยังเพคะองค์รัชทายาท”“ข้าเข้าไปดูได้หรือไม่”“ไม่ได้ๆๆๆ เพคะ พระองค์รออยู่ตรงนี้เพคะ”“แต่ถิงถิงร้องหาข้า ท่านได้ยินหรือไม่ ให้ข้าเข้าไปเถอะ”“ไม่ได้เพคะ”“อ๊าาาาา ลี่หยาง อึ๊ยยยย”“เบ่งเพคะพระชายา เบ่ง หนึ่ง สอง สาม อึ๊ยยยยย”“อึ๊ยยย ลี่หยาง ท่านพี่ อ๊าาาาา”“ออกหรือยังเล่า ปัดโธ่!!”“เดี๋ยวๆ อย่าเข้าไปนะลี่หยาง เจ้าจะบ้าหรือ สตรีทำคลอดอยู่”“แต่เสียงถิงถิงเรียกข้าอยู่ เจ้าไม่ได้ยินหรือ นางเจ็บอยู่ ข้าจะเข้าไป ปล่อยข้านะ”“ไม่!! อย่าไป มารอตรงนี้ เจ้าเข้าไปก็ช่วยนางไม่ได้ รออยู่นี่”“ฟ่านหยวนผิง ปล่อยข้านะ ถิงถิง!!”“อ๊าาาาา ท่านพี่ อื้ออออ”“เบ่งอีกทีเพคะ”“กรีี๊ดดดดดด”“ปล่อยข้านะ ปล่อยยย!!!” ลี่หยางวิ่งเข้าไปที่ห้องคลอด เสียงตกใจของคนในนั้นทำเอาทุกคนทำตัวไม่ถูก ถิงถิงเองก็หลับตาอยู่ แต่ภาพที่เขาเห็นนั้นทำเอาสติของลี่หยางหลุดลอย จนแม่นมดันตัวเขาออกไป“เป่าอี้ รีบเอาตัวองค์รัชทายาทออกไปเร็วเข้า ใครปล่อยให้พระองค์เข้ามา”“ข้าบอกเจ้าแล้ว มานั่งตรงนี้” ลี่หยางกำลังตกใจกับสิ่งที่เขาได้เห็นเ
สายตาดุที่ส่งมาที่หมิงลี่หยางทำเอาเขาเกรงว่าคืนนี้จะได้นอนนอกห้องเลยไม่กล้าโกหก จึงได้เริ่มเล่าเรื่อง ที่จริงเว่ยจีไม่ควรพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลย เขาเองก็ไม่นึกอยากให้ถิงถิงโกรธเท่าใดนัก“ข้าสืบรู้มาว่าหงลี่กบดานอยู่ใกล้ๆ จวนน่าสงสัยก็มีอยู่หลายที่ แต่ที่ติดตามดู ที่จวนคหบดีน่าสงสัยที่สุด ก็เลยเลือกที่จะไปที่นั่น”“ท่านออกงานกับเว่ยจีตอนนั้น ท่านเริ่มสงสัยหรือยัง”“ที่จริงข้าหลอกใช้นางเพื่อให้พวกเขาโจมตี ข้านึกแปลกใจแต่แรกแล้วที่เขาไม่โจมตีเว่ยจีกับจวนนั้น ข้าเลยรู้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติ”“ท่านรู้ตอนไหนว่าตงหลางคือเจ้าสำนักหงลี่”“หลังจากงานเทศกาลฤดูร้อน”“ท่านรู้แต่ไม่บอกข้างั้นหรือ”“ข้าไม่มีเวลาบอกเจ้าต่างหาก ข้ารู้ระหว่างทางกลับไปเมืองหลวง เลยส่งคนไปเฝ้าร้านเจ้าเอาไว้ และรู้ข่าวว่าพวกหงลี่ก็ไปที่ม่านโจวแล้ว ข้าเลยเบาใจ เพียงแค่ตอนนั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดพวกมันต้องไปม่านโจว ที่แท้ก็เพราะเจ้านี่เอง” ถิงถิงหันกลับมาและเริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะเรื่องนี้นางก็ผิดที่ไม่ได้บอกเขาว่านางเป็นท่านหญิงของม่านโจว“นั่นแสดงว่าพวกมันตามข้าไปที่ม่านโจวสินะเจ้าคะ”“ใช่ ข้าก็เลยหมดห่วง แต
หย่งโจว / ร้านร้อยบุปผา“เร็วๆ เข้าเร็วๆ เอาผ้าแดงมาเพิ่มอีก ไม่ทันแล้วเร็วๆ ตรงนั้นล้างเสร็จหรือยัง มาช่วยตรงนี้ก่อน”“อาหลาน ผลไม้นี่เอาไว้ตรงไหน”“วางไว้ที่โต๊ะกลางด้านในเลย”“ป้าลี่ๆ ไปรับชุดที พวกนางมาแล้วเร็วๆ”“ได้ๆ ไปเดี๋ยวนี้ อาเถาเอ๊ย มาช่วยยกเครื่องประดับเจ้าสาวหน่อยเร็ว”“เจ้าค่ะๆ”“อาหลาน เจ้าจัดการไปถึงไหนแล้ว”“ฮูหยิน นายท่าน เกือบแล้วเจ้าค่ะ พวกท่านจะไปที่ใดกันเจ้าคะ”“ข้าจะไปจวนท่านเจ้าเมือง อาหลาน ที่เหลือฝากเจ้าดูด้วยนะ”“รับทราบเจ้าค่ะ เชิญฮูหยินกับนายท่านเลยเจ้าค่ะ” ถิงถิงและลี่หยางเดินขึ้นรถม้าพร้อมกับตะกร้าที่ใส่ผลไม้ชุดหนึ่งเอาไว้ รถม้าเคลื่อนตัวออกจากหน้าร้านร้อยบุปผามุ่งตรงไปที่จวนเจ้าเมือง พวกเขากลับมาที่หย่งโจวหลังพระราชพิธีมงคลสมรสที่เมืองหลวง และมาที่นี่ได้เกือบสองเดือนแล้ว วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งร้อยวันของหลินเยว่ซินหลังจากที่หมิงลี่หยางแจ้งข่าวให้ท่านเจ้าเมืองและส่งร่างไร้วิญญาณของนางกลับมาที่หย่งโจว รถม้าจอดสนิทตรงหน้าจวนท่านเจ้าเมือง เมื่อพวกเขาเดินลงจากรถม้า และเดินเข้าไปในจวนที่บัดนี้เริ่มเงียบเหงามากกว่าเดิม“องค์รัชทายาทกับพร
มือเรียวของพระชายาเลื่อนลงไปใต้น้ำเพื่อสัมผัสบางสิ่งที่ทิ่มนางอยู่ในน้ำสักพักแล้ว เมื่อนางพบแล้วจึงได้เริ่มขยับเจ้าแท่งแกร่งนั้นรูดขึ้นลง ทำเอาผู้ที่ถูกสัมผัสแทบจะทนไม่ไหว“ถิงถิง อย่าพึ่งใจร้อน ข้ายังไม่พร้อม เจ้าอย่าพึ่ง อาาา” ถิงถิงเองก็ไม่ฟังเสียงขอร้องของเขา นางแนบตัวเข้าไปชิดก่อนจะส่งลิ้นนั้นไปเล่นกับยอดอกสีเข้มตรงหน้าซึ่งนางหวังจะทำเช่นนี้มานานแล้ว หมิงลี่หยางที่ถูกสัมผัสที่รุกล้ำจากนางถึงกับทนไม่ไหว เขาไม่เคยถูกสัมผัสเช่นนี้มาก่อน มันช่างรุนแรงเกินกว่าที่เขาจะรับได้เพราะปกติเป็นเขาที่จู่โจมนาง“ถิงถิง อาาา นี่เจ้า...”“รู้สึกอย่างไรเพคะ”“ข้า จะไม่มีแรงยืนแล้ว...”“อีกนิดเดียวเพคะ”“ไม่นะ อาาา ถิงถิง เบาลงหน่อย อย่าเร่งแบบนั้น อ๊ะ อึ๊ยยย อาาา” ถิงถิงสลับลิ้นไปมาระหว่างแผงอกกว้างของเขาสองข้าง สัมผัสนั้นทำให้ผู้ที่ถูกรุกเริ่มทนไม่ไหวเขาดึงตัวนางออกและจับนางยกตัวขึ้นที่ขอบอ่าง“พอแล้ว ข้าทนอีกไม่ไหวแล้ว ถิงถิง เจ้าต้องรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้”“ท่านพี่ เดี๋ยวสิ อ๊าา อย่าเร็วนักสิเพคะ อ๊าาา”“ไม่ได้ ข้าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เจ้าเป็นคนเริ่ม
“เดี๋ยวสิ พระชายา เจ้าจะมาทำแบบนี้มันผิดธรรมเนียมนะ คือว่าข้ารอเจ้ามาตั้งสิบวัน สิบวันเชียวนะ แล้วเจ้าจะมาเมินข้าเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง เสด็จอาก็บอกว่า…”“นี่ท่านเมาหรือเพคะ หากอยากจะดื่มต่อท่านก็ออกไปดื่มกับพวกเขาไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้ หากจะอยู่ก็นอนนิ่งๆ วันนี้หม่อมฉันเหนื่อยมาก คุยไม่ไหวแล้ว”“ข้าก็ไม่ได้ชวนเจ้าคุยเสียหน่อย ถิงถิง เรามาสร้างเจ้าตัวเล็กคนใหม่กันเถอะนะ”“….”“ถิงถิง แต่ข้ายังไม่ง่วงเลย …. ถิงถิง..ไม่จริงน่ะ หลับไปแล้วงั้นหรือ” หมิงลี่หยางหันไปมอง นางหลับสนิทไปแล้วโดยไม่รอเขาพูดจบด้วยซ้ำไป แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เจอกันสิบวัน และพิธีวันนี้ก็เหนื่อยเอามากๆ จริงๆ ไม่แปลกที่นางจะเหนื่อย“เข้าห้องหอแต่ไม่ได้ชื่นชมเจ้าสาว ข้านี่ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ” หมิงลี่หยางทำได้แค่ล้มตัวลงนอนและกอดถิงถิงเอาไว้เท่านั้นในคืนนี้ จะทำอย่างไรได้เมื่อนางไม่ยอม จะมาขืนใจเอาตอนนี้ก็เสี่ยงจะถูกเมินไปอีกหลายวัน เพราะเขาพลั้งปากเองจะโทษผู้ใดได้ พรุ่งนี้ค่อยง้อนางก็แล้วกันวันรุ่งขึ้น หมิงลี่หยางค่อยๆ ขยับตัวขึ้นมา แต่เขารู้สึกว่าคนข้างๆ ที่เขากอดอยู่มีอาการแปลกๆ เหตุใดเขารู้
งานประกาศผลการประลอง แขกเกือบทุกคนที่ยังอยู่ในงาน องค์ชายต่างแคว้นทุกคนล้วนมีความยินดีที่จะอยู่ร่วมงานจนถึงพิธีมงคลสมรสของทั้งคู่ หลังจากจัดพิธีมงคลสมรสแล้วจะจัดให้มีงานล่าสัตว์ขึ้นด้วย ทั้งนี้ทุกคนต่างตื่นเต้นเพื่อรองานที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองงานนี้อย่างใจจดใจจ่อ“เอาล่ะทุกท่าน ตอนนี้ได้เวลาแล้ว ขอประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการในการประลองเพื่อเลือกคู่ของท่านหญิงฟ่านถิงถิงจวิ้นจู่แห่งม่านโจว องค์รัชทายาทแห่งฉีโจว องค์ชายหมิงลี่หยาง” หมิงลี่หยางในชุดองค์ชายเต็มยศสีเหลืองทองปักเลื่อมมังกรเดินเข้ามาในงานพิธีเพื่อรับมอบลูก “ซิ่วฉิว” ซึ่งเป็นลูกกลมๆ ที่ทำจากผ้าไหมมีพู่ห้อยอยู่รอบๆ ซึ่งถิงถิงยืนถือเอาไว้ที่ด้านหน้า ชุดของนางก็เป็นสีขาวทองปักเลื่อมสีทองรูปนกยูงเช่นกัน เมื่อเดินมาถึง ถิงถิงจึงได้มอบลูก ซิวฉิวให้เขารับเอาไว้และทั้งคู่ก็เดินขึ้นไปทำการคารวะฝ่าบาทก่อนจะหันออกมาและเดินออกจากท้องพระโรงเพื่อรอขึ้นรถม้าสำหรับแห่รอบเมืองเพื่อฉลองกับชาวเมืองม่านโจว“เหนื่อยหรือไม่”“ไม่เพคะ แต่หม่อมฉันง่วงนอน”“อยู่ในขบวนแห่ แต่เจ้ากลับง่วงได้ เก่งไปหรือไม่ถิงถิง เจ้ามองดูราษฎ







