ปริน ชยากับเอกจึงเดินตามปรางไปที่หลังบ้านป้ามล ที่มีต้นมะม่วงอยู่2-3ต้นใกล้กับรั้วบ้าน
“หนูแคทคะ ลงมาเถอะค่ะ เดี๋ยวตกลงมานะคะ”น้าสมยืนเรียกแคทอยู่ที่โคนต้นมะม่วง “น้าสมอย่าเสียงดังสิคะ เดี๋ยวป้ามลได้ยินค่ะ”แคทบอกมาจากบนต้นมะม่วง “แคทรีบลงมาเลย ได้มะม่วงพอแล้ว”มายด์แหงนหน้าบอกแคท “ขอเก็บอีก 2 ลูกนะแล้วจะรีบลงไปเลย”แคทบอก ปราง ปริน ชยากับเอกเดินมาทางหลังบ้านก็ได้ยินเสียงมายด์ แคทกับน้าสมคุยกันจึงเดินมาตามเสียง จนเห็นมายด์กับน้าสมยืนอยู่ที่โคนต้นมะม่วงต้นหนึ่ง ทุกคนจึงเดินเข้าไปหา “สวัสดีค่ะ/คับ น้าสม”ทุกคนยกมือไหว้น้าสม “สวัสดีค่ะ หนูปราง คุณปริน คุณชยา คุณเอก”น้าสมรับไหว้ “อ้าว!ปราง สวัสดีค่ะพี่ปริน พี่ชยา พี่เอกมาได้ยังไงคะ ทำไมปรางไม่เห็นโทรมาบอกก่อนว่าจะมาล่ะ”มายด์ยกมือไหว้พี่ๆ “เราอยากมาหาแคทกับมายด์ ก็เลยให้พี่ๆมาส่งน่ะ ที่ไม่โทรมาก่อนเพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกเธอไม่ได้ออกไปไหนกัน”ปรางบอก “มายด์ แล้วไหนแคทล่ะ เมื่อกี้พี่ว่าได้ยินเสียงแคทด้วยนะ”ปรินหันมองไปรอบๆ ชยา เอกกับปรางก็หันมองหาเหมือนกัน มายด์อมยิ้มแล้วชี้นิ้วไปบนต้นมะม่วง “แคท กำลังเก็บมะม่วงอยู่บนต้นค่ะ”มายด์บอก ทุกคนจึงแหงนหน้าขึ้นมองไปตามที่มายด์ชี้ ปรินเห็นแคทกำลังปีนกิ่งมะม่วงไปที่ปลายๆกิ่งเพื่อจะเก็บมะม่วง แคทได้ยินเสียงคนคุยกันแต่เธอไม่ได้สนใจจะก้มมาดูเพราะห่วงแต่จะไปเก็บมะม่วงที่เธอมองไว้ ปรินทั้งตกใจและแปลกใจที่เห็นแคทปีนต้นไม้ได้เก่ง เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะปีนป่ายต้นไม้ได้โดยมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ อีกอย่างเขาไม่เคยเห็นสาวๆสมัยนี้จะทำอย่างที่เธอทำอยู่ขณะนี้ ชยากับเอกเองก็คิดเหมือนกัน พวกเขาไม่คิดว่าผู้หญิงที่สวยและดูดีแบบเธอจะชอบห้อยโหนแบบผู้ชายอย่างนี้ “ยายแคท ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น ลงมาเลย เธอเป็นผู้หญิงนะ ทำไมชอบทำอะไรที่เขาไม่ทำกัน”ปรางบ่นแล้วเรียกแคทเสียงดัง แคทได้ยินเสียงปรางจึงก้มมาดู เธอเห็นปราง ปริน ชยากับเอกยืนอยู่ข้างๆมายด์กับน้าสม และกำลังแหงนหน้ามองเธออยู่ “อ้าว!ปรางมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สวัสดีค่ะพี่ๆ แล้วมาทำอะไรกันคะ”แคทพูด เธอทักทายทุกคน แต่ยังไม่ลงมาจากต้นมะม่วง “ไม่ต้องมาสวัสดีใครทั้งนั้น รีบๆลงมาเลย”ปรางว่า “หนูแคท รีบลงมาเถอะค่ะ ถ้าคุณมลรู้เอาน้าสมตายแน่ๆ”น้าสมบอก “รู้แล้วค่ะ แคทเก็บ 2 ลูกนี้แล้วก็จะลงไปเลยค่ะ น้าสม”แคทบอก เธอปีนไปเก็บมะม่วงที่มองไว้อีก 2 ลูกทันทีที่พูดจบ “แคทระวัง เอามะม่วงใส่ในตระกร้อก่อน แล้วค่อยๆลงมาไม่ต้องรีบ เดี๋ยวตก”มายด์กำชับ “จ้า รู้แล้ว”แคทบอก ทุกคนมองดูแคทที่ค่อยๆปีนลงมาอย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งเธอลงมายืนที่พื้นอย่างปลอดภัย ทุกคนพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปรินคิดว่าเพราะเธอเป็นแบบนี้พ่อถึงได้ว่าทำตัวเหมือนผู้ชาย แต่เขาคิดว่าแคทเก่งกว่าผู้ชายอีก เพราะเขาเองยังไม่กล้าปีนต้นไม้ขึ้นไปแบบนี้เลย “หนูแคทคะ ทีหลังไม่ทำอย่างนี ้แล้วนะคะ น้าสมหัวใจจะวาย”น้าสมเดินมาจับตัวแคททันทีที่เธอลงมาถึงพื้น “น้าสมคิดมากค่ะ ตอนที่อยู่บ้านแคทก็ปีนต้นไม้บ่อยๆค่ะไม่ตกหรอก”แคทยิ้ม “ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ค่ะ เป็นสาวเป็นนางมาปีนต้นไม้แบบนี้ถ้าคุณมลรู้ได้บ่น3วันไม่เลิกแน่ค่ะ”น้าสมถอนใจ “เราก็อย่าให้ป้ามลรู้สิคะ นะคะน้าสม”แคทกอดแขนน้าสม “ค่ะ แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะคะ ต่อไปห้ามหนูแคทปีนไปเก็บเองอีก”น้าสมบอก “ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”แคทยิ้ม “งั้น เดี๋ยวน้าเอามะม่วงไปทำน้ำปลาหวาน แล้วจะยกออกมาให้ที่หน้าบ้านนะคะ”น้าสมบอก “ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”มายด์บอก “แคทนี่จริงๆเลย ตกลงว่าเธอเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ ถึงได้ปีนต้นไม้อย่างนี้”ปรางหันมาถามแคททันทีที่น้าสมเดินเข้าบ้านไปแล้ว “ปราง นี่แค่เล็กๆเท่านั้น เธอต้องไปเห็นตอนที่แคทเรียนอยู่ม.4 ยิ่งกว่านี้อีก”มายด์ขำ “ยังไงเหรอมายด์ ยังมียิ่งกว่านี้อีกเหรอ”ชยาถาม “ใช่ แค่นี้พี่ก็ว่าเหนือความคาดหมายแล้วนะ”เอกพูด “ไม่ต้องเล่าเลยมายด์”แคทปรามดุๆ “เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าไม่เล่าเราโกรธจริงๆด้วย”ปรางทำหน้างอน “มันไม่ได้มีอะไรน่าเล่าเลย อย่างอนเลยนะ”แคทจับแขนปราง ทุกคนพากันขำ “ถึงไม่มีก็อยากรู้ จะเล่าหรือไม่เล่า”ปรางเสียงแข็ง “โอเคจ้า เล่าก็ได้ งั้นให้มายด์เล่าก็แล้วกัน”แคทถอนใจนิดๆ “ตอนนั้นที่โรงเรียนมีงาน พ่อแม่บางคนก็พาเด็กเล็กๆมาเที่ยวที่โรงเรียนด้วย แล้วเกิดมีเด็กคนหนึ่งทำลูกโป่งหลุดมือลอยไปติดอยู่ที่ต้นจามจุรี แล้วเด็กคนนั้นก็ยืนร้องไห้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ไม่ยอมไปไหน เรากับแคทเดินผ่านไปเห็น พอเข้าไปถามเด็กคนนั้นจึงได้รู้ แคทบอกกับเด็กว่าจะไปซื้อให้ ใหม่แต่เด็กคนนั้นไม่ยอมจะเอาแต่ลูกโป่งที่ลอยไปติดอยู่อย่างเดียว แม่เด็กก็มาช่วยพูดแต่ไม่ว่ายังไงเด็กก็ไม่หยุดร้องไห้”มายด์เล่า “นี่ อย่าบอกนะว่าแคทปีนขึ้นไปเอามาให้อ่ะ”ปรางถาม “ใช่ที่สุดเลย แคทปีนต้นจามจุรีขึ้นไปเอาลูกโป่งให้เด็ก แล้วคิดดูนะต้นจามจุรีสูงมากๆสูงพอๆกับที่มหาลัยเรามีอ่ะ ที่นี้พออาจารย์รู้ก็เลยวุ่นวายกันใหญ่ เพราะกลัวว่าแคทจะตกลงมาจึงต้องให้กู้ภัยเอาเบาะลมมาวางไว้ที่โคนต้น ดีว่าแคทลงมาได้อย่างปลอกภัยแถมเอาลูกโป่งลงมาให้เด็กคนนั้นได้ด้วย เด็กหยุดร้องไห้แม่เด็กก็เดินมาขอบใจแคท แต่อาจารย์เรียกแคทไปอบรมที่ห้องตอนพักกลางวัน 1อาทิตย์เต็มๆ”มายด์ยิ้ม พอมายด์เล่าจบ ทุกคนก็หันมามองหน้าแคทเหมือนกัน ต่างทำหน้าทั้งแปลกใจ ทั้งอึ้ง และตกใจที่เธอทำอะไรไม่ค่อยจะห่วงตัวเองสักเท่าไหร่ “ทำไมมองแคทแบบนั้นล่ะคะ พี่ๆ ปรางด้วย แคทก็แค่อยากให้เด็กหยุดร้องไห้แค่นั้น”แคทบอก “พี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพ่อถึงได้เป็นห่วงแคทมาก”ปรินพูด “ขนาดพี่ไม่ได้เห็นเอง ยังรู้สึกตกใจเลยนะ”ชยาบอก “พี่ไม่คิดว่าแคทจะทำอะไรอย่างนี้ได้นะเนี่ย”เอกบอก “มายด์ ตกลงว่ายายแคทนี่เป็นผู้หญิงใช่มั้ย”ปรางถาม “ปราง แคทเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยไม่เหมือนผู้หญิงทั่วๆไปก็เท่านั้น”มายด์ขำ “ถึงว่าพ่อแคทบอกกับพี่ว่า แคทชอบทำตัวเหมือนผู้ชาย”ปรินพูด “พี่ๆคะ ปรางด้วย แคทไม่ได้อยากทำตัวเหมือนผู้ชาย แคทแค่ไม่อยากให้พ่อต้องมาเป็นห่วงเพราะว่าแคทเป็นผู้หญิง พ่อกลัวแต่ว่าจะมีคนมาเอาเปรียบ มารังแกหรือมาทำร้าย แคทก็เลยพยายามทำให้พ่อเห็นว่าแคทดูแลตัวเองได้แค่นั้นค่ะ”แคทบอก “แต่พี่ว่า เหมือนพ่อจะห่วงแคทมากกว่าเดิมนะ”ปรินพูด “ใช่ค่ะ ไม่ว่าแคทจะพยายามทำแค่ไหน พ่อก็ไม่เคยจะห่วงน้อยลงเลย”แคททำหน้าเศร้า “พี่ว่าไม่แปลกหรอก ถ้าพี่เป็นพ่อแคทก็ต้องเป็นห่วงแบบนี้เหมือนกัน”ชยาบอก “นั่นสิ มีลูกสาวสวยอย่างนี้จะไม่ห่วงได้ยังไง”เอกพูด “แคทไม่สวยหรอกค่ะ ปรางกับมายด์สวยกว่าอีก จริงๆนะคะ”แคทบอกยิ้มๆ ชยากับเอกหันไปมองปรางกับมายด์แล้วก็พากันยิ้ม “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยยายแคท ไปค่ะพี่ๆแล้วก็ปรางด้วย เข้าบ้านกันค่ะป่านนี้น้าสมคงทำมะม่วงน้ำปลาหวานเสร็จแล้วล่ะค่ะ”มายด์บอก เธอทำหน้าเขินๆเมื่อถูกเอกมอง “จ้า ไปกันปราง ไปกันค่ะพี่ๆ”แคทยิ้ม เธอเดินจับมือปรางกับมายด์แล้วเดินเข้าบ้าน ปริน ชยากับเอกจึงเดินตามเข้าไป ปรินมองข้างหลังแคท วันนี้เธอขมวดผมเหมือนตอนไปมหาลัยสวมกางเกงขายาว ใส่เสื้อยืดแขนสั้นท่าทางทะมัดทะแมง เขาไม่คิดว่าเธอจะปราดเปรียวและทำอะไรที่ตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธออย่างมาก ถ้าคนที่ไม่ได้คุ้นเคยจะไม่มีทางรู้เลยว่าเธอมีนิสัยคล้ายผู้ชายมากกว่า ผู้หญิง เธอเป็นคนพูดตรงๆ ไม่ออ่นหวาน เธอไม่เหมือนหญิงสาวทั่วไปที่เขาเคยรู้จัก แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขายิ่งสนใจเธอมากขึ้นไปอีก ผู้หญิงที่เขาแอบชอบไม่เหมือนใครเลยจริงๆวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่5ของปรินกับแคท ปรินอยากจะเซอไพร์สเธอจึงโทรไปจองโต๊ะที่ร้านอาหารบนดาดฟ้าเพื่อจะฉลองกับเธอสองคน ตอนบ่ายปรินพาแคทกลับบ้านก่อนเวลา เขาบอกให้เธอแต่งตัวเพราะจะพาไปที่แห่งหนึ่ง แคทลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงาน เธอจึงงงๆที่วันนี้เขาพาเธอกลับบ้านเร็วแล้วยังบอกว่าให้แต่งตัวจะพาไปไหนสักที่ เมื่อแคทแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงก็เห็นว่าปรินรออยู่แล้ว เขาพาเธอไปที่รถแล้วเอาผ้ามาปิดตาของเธอ "พี่ปรินจะทำอะไรคะเนี่ย..ปิดตาแคททำไมคะ" "พี่จะพาไปที่แห่งหนึ่ง แต่ต้องปิดตาก่อนจะได้ตื่นเต้นไงคับ" "เล่นเป็นเด็กเลยนะคะ" "ห้ามแกะออกนะคับ นั่งเฉยๆถ้าถึงที่แล้วพี่จะเปิดตาออกให้" "ค่ะ..ก็ได้" ปรินขับรถไปเรื่อยๆจนถึงโรงแรมที่เขาจองโต๊ะไว้ เขาลงไปเปิดประตูและก้มลงอุ้มเธอพาไปที่ลิฟต์ เขากดขึ้นไปชั้นบนสุด เมื่อลิพต์เปิดปรินก็อุ้มแคทไปนั่งเก้าอี้ที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ เขาเอาผ้าที่ปิดตาของแคทออก "ลืมตาได้แล้วคับ"ปรินบอก แคทค่อยๆลืมตาขึ้น เธอมองไปข้างหน้าและมองไปรอบๆแล้วยิ้มออกมา รอบตัวเธอมีซุ้มดอกไม้เต็มไปหมด แถมมีเทียนหอมแท่งเล็กๆที่ถูกจุดแล้ววางไว้จนทั่วแทนการเ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นอนกอดกัน โดยปรินให้แคทซบไปที่หน้าอกของเขา แล้วก็กอดเธอไว้อย่างแน่น "พี่กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้กับเราอีกแล้ว" "แคทก็กลัวค่ะ...กลัวว่าจะไม่ได้นอนกอดพี่ปรินอย่างนี้อีก" "ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้..ทำให้พี่รู้ว่า เวลาของพวกเราไม่รู้ว่าจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลรักษาคนที่รักไว้ให้ดีๆ อย่าปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆโดยที่ไม่ได้มีความสุขด้วยกันเลย" "ใช่ค่ะ..แต่จริงๆแล้วพี่ปรินกับแคทก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาเลยนะคะ" "ใช่คับ..แต่พี่ว่าจะเพิ่มเวลาของเราให้มากขึ้นอีกหน่อยนะ" "เวลาของเรา? เวลาอะไรคะ" "ก็...เวลาที่เราจะเป็นของกันและกันไงคับ" "บ้า..พี่ปรินอ่ะ...ไม่คุยด้วยแล้วค่ะ" "งั้น..ทำอย่างอื่นแทนนะคับ" "ว้าย!พี่ปริน..ไม่เอา...พอแล้ว..อือ..อือ" ปรินก้มไปจูบปิดปากแคท แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นและจบลงเหมือนเดิมอีกครั้ง แคทกับปรินเดินทางกลับมาจากออสเตรเลียแล้ว เปรมพอเห็นแคทกับปรินกลับมาก็วิ่งเข้าไปกอดทั้งคู่ "น้องเปรมคิดถึงพ่อปรินกับแม่แคทที่สุดเลยคับ" "แม่กับพ่อก็คิดถึงน้องเปรมนะคับ"แคทพูด "แล้วแม่แคทหายหรือยังคับ" "แม่หายแล้วคับ แล้วน้องเปรมดื้อกับค
"พี่ปรินคะ..ไม่งอนนะคะ แคทอยู่ก็ได้ค่ะ"แคทจับมือของเขา ตอนนี้แคทนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ส่วนปรินยืนอยู่ข้างๆเตียง "พี่ไม่ได้งอน ถ้าเราไม่อยากอยู่พี่ก็ไม่บังคับหรอก"ปรินพูด น้ำเสียงน้อยใจนิดๆ "อยากสิคะ แคทแค่หวงลูกกับงานน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ"แคทบอก "เราอ่ะ ห่วงทุกอย่างแต่ไม่เห็นจะห่วงพี่เลย พี่แค่อยากอยู่กับเราสองคนต่ออีกหน่อยเท่านั้น"ปรินยังหน้าบึ้ง "ห่วงสิคะ แคทห่วงพี่ปรินที่สุด นะคะ นะนะเลิกงอน เลิกน้อยใจนะ"แคทพูด "เราห่วงพี่จริงๆนะ หรือแค่พูดให้พี่ดีใจเล่นๆ"ปรินถาม เขาเลิกงอนเธอแล้วแต่แค่อยากแกล้งเธอดูบ้าง "แคทพูดจริงๆค่ะ...ทำยังไงพี่ปรินถึงจะเชื่อล่ะคะ"แคทพูด "งั้นก็ต้องพิสูจน์"ปรินบอก "พิสูจน์ยังไงคะ"แคทถาม "อย่างนี้ไงคับ" ปรินก้มลงมาจูบโดยที่แคทไม่ทันตั้งตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งดันหัวเธอไว้ แล้วจูบเธอด้วยความรู้สึกรักใคร่ เขาเอาลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นของเธอ แล้วก็ไล้ริมฝีปากไปที่แก้ม ตา ใบหูและลงมาที่ซอกคอขาว เขาไซร้คอจนแคทร้องครางออกมาเบาๆ แล้วเขาก็วนขึ้นไปจูบที่ปากเธออีกครั้ง "พี่หายงอนเราแล้วล่ะ"ปรินยิ้ม "ไม่ต้องมายิ้มเลย ขี้โกงตลอดอ่ะ"แคทอายหน้าแดง "พี่ก็โกงกับเราคน
"หมอให้อยู่รอดูอาการอีก2-3วัน ถ้าไม่มีอะไรก็เดินทางกลับได้"ลุงหมอบอก "ดีเลยค่ะ งั้นปรางไปโทรบอกพ่อกับแม่ก่อนดีกว่า ป่านนี้คงรอแย่แล้วค่ะ ไปค่ะพี่ชยา"ปรางบอก "งั้น เดี๋ยวพี่กับมายด์ไปหาซื้ออะไรมากินฉลองกันหน่อยดีกว่านะ"เอกพูด "ลุงก็ขอไปคุยกับเพื่อนลุงก่อน หนูแคทพักผ่อนไปก่อนนะเดี๋ยวลุงมาใหม่"ลุงหมอบอก ทุกคนพากันเดินออกไปจากห้องกันหมด เหลือแค่ปรินที่ยังจับมือแคทและมองหน้าเธออยู่ "แคทมีอะไรแปลกไปเหรอคะ พี่ปรินถึงได้มองแบบนั้น"แคทถาม "แคทรู้มั้ยว่าพี่กลัวมากแค่ไหน ตั้งแต่เราเข้าห้องผ่าตัดมาจนกระทั่งก่อนที่เราจะฟื้นขึ้นมา พี่กลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงของเราอีกแล้ว พี่กลัวว่าเราจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนเฉยๆไม่รับรู้อะไรแต่นั่นพี่ก็ยังรับได้แค่ให้เรายังอยู่ไม่จากพี่ไปเลยก็พอ"ปรินหน้าเศร้ามาก "ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วค่ะ..อย่าคิดมากเลยนะคะ...ต่อไปนี้แคทจะไม่ทำให้พี่ปรินต้องทุกข์ใจเพราะแคทอีกแล้ว"แคทพูด "พี่ไม่เคยทุกข์เพราะเราเลยนะ เราทำให้พี่มีความสุขเสมอขอแค่มีเราอยู่ข้างๆ อย่าทิ้งพี่ อย่าปล่อยให้พี่ต้องเดินไปคนเดียวโดยที่ไม่มีเรา ได้มั้ยคับ"ปรินถาม "ได้ค่ะ..ต่อไปนี้แคทจะไม่ทิ้งพี่ปรินกับลู
"ขอบใจนะทุกคน ขอบใจจริงๆ"ปรินบอก ทุกคนเดินไปนั่งกันที่โซฟาข้างๆห้อง ลุงหมอเดินเข้ามาแล้วและนั่งคุยอยู่กับชยา เอก มายด์และปราง ส่วนปรินยังนั่งกุมมือแคทอยู่ข้างเตียง สักพักปรินก็รู้สึกว่านิ้วมือของแคทที่เขากุมอยู่กำลังขยับ ตอนแรกปรินไม่แน่ใจเขาจึงตั้งใจมองอีกครั้ง ก็เห็นว่ามันขยับจริงๆ "ลุงหมอคับ แคทขยับนิ้วคับ"ปรินบอก เขาเรียกลุงหมอเสียงดังด้วยความดีใจ ทุกคนรีบลุกแล้วเดินเข้ามายืนข้างเตียง "ไหนตาปริน..จริงด้วย"ลุงหมอบอกน้ำเสียงดีใจ "ใช่ค่ะ...ตาของแคทก็ขยับด้วยค่ะ"ปรางพูด เธอยิ้มด้วยความดีใจ "ดูกันไว้ก่อนนะ...ลุงจะไปบอกหมอ"ลุงหมอบอกแล้วรีบเดินออกไป แคทที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับเปลือกตาขึ้นๆลงๆ เพราะเธอหลับไปนานจึงยังไม่ชินกับแสง นิ้วมือก็เริ่มขยับมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่มือ รู้ว่ามีใครกำลังกุมมือของเธออยู่ ในที่สุดแคทก็ลืมตาขึ้นมาจนได้ "แคท...แคทรู้สึกตัวแล้ว ดีใจจริงๆ" ปรางกับมายด์หันมากอดกันเองด้วยความดีใจ "แคท..เป็นยังไงบ้าง รู้สึกเจ็บตรงไหนหรือป่าว รอเดี๋ยวนะคับลุงหมอไปตามหมอแล้ว"ปรินรีบพูด เขายิ้มด้วยความดีใจจนน้ำตาซึม ลุงหมอกับหมอที่ผ่าตัดแคทและพยาบาลเดิน
เมื่อเดินไปถึงห้องที่แคทนอนอยู่ ปรินน้ำตาคลอเมื่อเห็นแคทนอนหลับตาสนิท มีเครื่องมือและสายอะไรหลายอย่างอยู่รอบๆตัวเธอ ผมของเธอยังอยู่เหมือนเดิม ปากเธอมีท่อใส่อยู่ เขาไม่อยากเห็นเธอต้องเจ็บแบบนี้ จนเขาไม่ยอมมีลูกอีกก็เพราะกลัวเธอจะเจ็บแต่นี่ยิ่งกว่าตอนผ่าคลอดอีก "พี่ปรินคับ พี่ปรินต้องสู้นะคับ ใจของพี่ปรินกับพี่แคทส่งถึงกันได้ เพราะอย่างนั้นถ้าพี่ปรินท้อหรือหมดหวังพี่แคทก็จะรับรู้ได้นะคับ"กวางจับมือของปริน "ได้กวาง พี่จะสู้จะไม่ท้อเพื่อที่แคทจะได้กลับมาอยู่กับพี่อีกครั้ง พี่สัญญา"ปรินมองหน้ากวาง "ผมเชื่อว่าพี่แคทต้องผ่านไปได้ เพราะพี่แคทไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่าเรื่องอะไร ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ถ้าพี่แคทตัดสินใจจะทำก็จะทำจนได้"กวางพูด "ใช่ กูคิดเหมือนกวาง แคทเป็นนักสู้ที่ไม่เคยแพ้ เพราะฉะนั้นมึงต้องเข้มแข็ง"เอกพูด "ใช่ มึงยังมีพวกกู มีกวาง มีลุงหมอแล้วยังมีพ่อแม่ ปรางกับมายด์และที่สำคัญที่สุดคือมึงยังมีตาเปรม ที่เป็นตัวแทนความรักของมึงกับแคทอีกด้วย"ชยาพูด "กูรู้ กูจะสู้และผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม"ปรินพูด วันรุ่งขึ้นปริน ชยา เอก กวางและลุงหมอมาโรงพยาบาลกันตั้งแต่เช้า ปรินโทรก