Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-04-01 16:02:35

“ใช่…นายเป็นโจร ที่จะเข้ามาขโมยของในบ้านฉันกลางวันแสกๆ กล้ามาก ไม่กลัวตายเลยใช่ไหม” ขณะถามก็ทำท่าจะฟาดไม้ เบสบอลใส่ฟาโรห์อีกครั้ง 

“ไอไม่ได้เป็นโจร” คนถูกฟาดสะดุ้งหลบหลีกแทบไม่ทัน ปากก็แก้ต่างให้ตนเอง นี่ถ้าเป็นพี่สะใภ้จริงโหดขนาดนี้ พี่ชายเขาจะเป็นยังไงบ้างนะ

“ไม่ได้เป็นโจร แล้วปีนเข้าบ้านคนอื่นแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ ไหนตอบมาสิ” เจ้าของบ้านคาดคั้นอย่างหาเรื่อง

“นี่บ้านยูเหรอ” ชายหนุ่มมองอย่างไม่มั่นใจ เริ่มเชื่อแล้วว่าเธออาจจะเป็นแฟนกับพี่ชายจริงๆ ไม่งั้นจะอยู่บ้านหลังนี้ได้ยังไง

“ใช่” คำตอบของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ฟาโรห์นิ่ง หรือว่าพี่ชายเขาจะไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยคนเดียวเสียแล้ว มิน่า...ติดต่อหาเท่าไหร่ก็เงียบ หรือเธอคนนี้จะใช่คนที่เฟร์เรบอกว่าจะมาตามหา

ฟาโรห์กวาดสายตามองผู้หญิงตรงหน้า แม้จะสวย แต่เขาฟันธงว่าเธอไม่ใช่สเปคแน่นอน เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ดุเป็นเสือแบบนี้ เขาอยากมีเมีย ไม่ใช่ผู้คุม 

 “ยูเป็นอะไรกับพี่ชายไอ” เมื่อสงสัยจึงถามออกไป ดูยังไงก็ไม่เหมือนสาวในฝันที่พี่ชายตามหาอยู่ดี เธอคนนั้นดูหวานกว่านี้ ไม่โหดร้ายทารุณ

“พี่ชาย...ใคร นี่อย่ามานอกเรื่อง” เจ้าของบ้านชี้หน้ามองโจร รูปหล่อสายตาเอาเรื่อง คิดจะมาหลอกล่อชวนคุยให้ตายใจเหรอ ไม่มีทางหรอก

“คืออย่างนี้ พอดีไอมาหาพี่ชาย เขาบอกว่าอยู่บ้านเลขที่ 9/88” ฟาโรห์เอ่ยอย่างมั่นใจ มองดูบ้านเลขที่ที่พี่ชายทิ้งเอาไว้ให้ในข้อความ 

“คุณบอกว่ามาบ้านเลขที่ 9/88 ใช่ไหม” แต่เลขที่บ้านที่ได้ยินทำให้เพลงพิณยิ้มมุมปากออกมา เกิดมาก็พึ่งจะเคยเห็นคนมาผิดบ้านแล้วเล่นใหญ่ขนาดนี้

“ใช่” ชายหนุ่มพยักหน้า

“หลังข้างๆ นู่น ไม่ใช่หลังนี้ เพราะบ้านฉันเลขที่ 19/88” เพลงพิณชี้ไปทางบ้านข้างๆ ที่มีรูปทรงไม่แตกต่างกันตามที่บอก

ประโยคที่ได้ยินทำเอาฟาโรห์นิ่ง ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ กระทั่งเห็นป้ายบ้านเลขที่หน้าประตู เขาก็ถึงบางอ้อ สงสัยเพราะรีบมากไปหน่อยถึงไม่ดูอะไรให้มันดีๆ 

“โอ้...พระเจ้า ไอขอโทษ ไอไม่ได้ตั้งใจบุกรุกเข้าบ้านยู” แม้คำว่า ‘บ้านเลขที่’ จะเป็นภาษาไทย แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขา นั่นเพราะเขาเคยเรียนภาษาไทยจากมารดาที่เป็นคนไทยมาตั้งแต่เด็กๆ และพอโตขึ้นก็ไปเรียนเพิ่มบ้าง 

หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ ลอบถอนหายใจที่คนรูปหล่อไม่ได้เป็นโจรอย่างที่คิดไว้

“ไอขอโทษจริงๆ ครับ” เขากล่าวด้วยความเสียใจ และคำขอโทษครั้งนี้กลับเป็นภาษาไทยที่ฟังรื่นหูไม่ต่างไปจากภาษาอังกฤษที่เขาเอ่ยมากนัก

“อืม….ฉันก็ขอโทษที่ฟาดคุณไปหลายที” เพลงพิณเปลี่ยนมาเอ่ยตอบเขาเป็นภาษาไทยเช่นกัน แม้จะแปลกใจ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องถาม ว่าทำไมเขาถึงพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดีแบบนี้ก็เถอะ 

“รู้แล้วก็กลับออกไปได้แล้วมั้งคะ...เชิญ” เพลงพิณเอ่ยรวบรัด ต่อให้ผู้ชายตรงหน้าจะหล่อสักแค่ไหน เธอก็ไม่เพ้อจนเสียจริตแน่นอน 

ก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูให้ชายหนุ่ม แต่พอหันมามองบ้านเลขที่ตัวเองก็กุมขมับแป๊บ เลขหนึ่งเธอมันหนีเที่ยวไปไหนเนี่ย ทำไมตัวหน้าถึงเหลือแค่เลขเก้าตัวเดียว 

มิน่า...ผู้ชายคนนี้ถึงมาผิดบ้าน เกือบถูกเธอตีตายหยังเขียดแล้วไหมล่ะ

“หลังข้างๆ นี่แหละคุณ” เสียงหวานตะโกนส่งท้าย ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คนเข้าบ้านผิดอย่างรู้สึกผิดที่ซัดเขาไปเสียหลายที

“ขอบคุณครับ” คนเข้าผิดบ้านหันมาพยักหน้ายิ้มแห้งๆ เจ็บระบมไปหมด จะโกรธเคืองก็ไม่ได้ ก็ความผิดเขาเองที่ดันดูไม่ดี แถมไปปีนเข้าบ้านเธอ ถ้ากดกริ่งเสียก็จบเรื่องไม่เจ็บตัวแบบนี้หรอก

“ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน...บาย” ชี้บอกเสร็จก็เดินเข้าบ้าน แล้วเก็บข้าวของยัดใส่รถ จากนั้นก็ขับออกไปทำงานตามปกติ วันนี้เธอมีเวรที่โรงพยาบาล ไหนจะต้องกลับมาดูแลคลินิกอีก พักนี้งานยุ่งอีรุงตุงนังดีแท้

ฟาโรห์ยืนมองจนกระทั่งเพลงพิณขับรถออกไปได้ไกลแล้ว จึงเดินมาหยุดอยู่หน้ารั้วบ้านหลังที่ถูกต้อง ครั้งนี้เลือกที่จะกดออด ไม่อยากเซอร์ไพรส์มันแล้ว เสียอารมณ์หมด กดออดไม่นาน เจ้าของบ้านที่หน้าตาเหมือนกันกับเขาก็ออกมาเปิดประตูให้

 “เข้ามาสิ” 

“อืม” ฟาโรห์เอ่ยรับ ก่อนจะก้าวยาวๆ ตามเฟร์เรพี่ชายเข้าไปภายใน และประโยคสำคัญก็ถูกเอ่ยขึ้นจากชายที่อายุน้อยกว่าเพียงสองนาที 

“นายหายไปไหนมา ทำไมถึงติดต่อไม่ได้เป็นเดือนๆ” 

“อ้อ…พอดีเข้าไปถ่ายรูปในป่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นี่ก็พึ่งจะกลับมาเมื่อวันก่อน” เฟร์เรเอ่ยตอบเสียงทุ้ม ไม่คิดว่าการที่เขาติดต่อไม่ได้ อยู่ๆ ฟาโรห์ก็จะบินมาหาแบบนี้ 

“ฉันก็ห่วง นึกว่านายถูกฆ่าเสียอีก” คนเป็นห่วงพูดประชดใส่ ยกมือขึ้นขยี้ปลายจมูกเบาๆ ท่าทางขัดใจ พี่ชายยังอยู่ดีมีสุข แต่ดันไม่ยอมส่งข่าวคราวเลย

 “ฉันไม่ดวงซวยขนาดนั้นหรอก” ใบหน้านิ่งๆ ยิ้มมุมปากออกมา ทั้งคู่แม้หน้าตาจะเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่การใช้ชีวิตนั้นกลับต่างกันสุดขั้ว

เฟร์เร แฝดผู้พี่ ชอบความเรียบง่าย เป็นช่างภาพอิสระ ลุคเขาดูอบอุ่น ขี้เล่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสุขุม สมแล้วที่เกิดมาเป็นพี่ 

ฟาโรห์ แฝดผู้น้อง ชอบแสงสียามค่ำคืน ซึ่งก็เหมาะกับอาชีพดีเจที่ทำอยู่ตอนนี้ บวกกับความหล่อหลาของหน้าตา ไหนจะหุ่นที่เต็มไปด้วยซิกแพคอีก ทำให้ฟาโรห์เป็นจุดสนใจของสาวๆ ได้ไม่ยาก เขาไม่ได้เจ้าชู้ เพียงแค่อัธยาศัยดีเท่านั้น 

“แล้วนี่พระเจ้าทรงประทานผู้หญิงในพรหมลิขิตคนนั้นมาให้นายหรือยัง” น้องชายทำท่าโบกมือขึ้นสูงไปทางฟ้าเบื้องบน แล้วทอดต่ำลงไปทางพี่ชายสายตาล้อเลียน

 “ยัง” เฟร์เรเอ่ยตอบยิ้มๆ ถ้าหาเธอเจอได้ง่ายๆ ป่านนี้เขาคงกลับเยอรมันไปนานแล้ว ไม่รอจนเกือบจะครบปีตามที่เคยพูดไว้แบบนี้หรอก ก่อนจะเอ่ยถามน้องชายไป 

“แล้วนี่นายจะอยู่เมืองไทยนานแค่ไหน” ที่ถามเพราะรู้นิสัยของฟาโรห์ดี น้องชายเขาเป็นดีเจ ชื่อเสียงนั้นก็มีพอตัว รับงานทั่วทุกมุมโลกก็ว่าได้ งานอิสระและขึ้นอยู่กับความพอใจ 

“ยังไม่มีกำหนด” ฟาโรห์ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวในห้องรับแขก พร้อมกับยกขาทั้งสองข้างพาดโต๊ะตรงกลาง เอนหลังอีกหน่อย แค่นี้ก็รู้สึกผ่อนคลายเป็นบ้า แต่ถึงจะรู้สึกผ่อนคลายกับความเงียบที่เกิดขึ้น เขาก็ยังคงชื่นชอบแสง สี เสียงในยามค่ำคืนอยู่ดี

 “เมื่อกี้ฉันเข้าบ้านผิด ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอตีฉันเพราะคิดว่าเป็นโจร คิดแล้วตลกเป็นบ้า” ฟาโรห์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นแบบยิ้มๆ

“ใคร” เฟร์เรทำหน้าเคร่งใส่ แปลกใจเล็กๆ เพราะปกติน้องชายจะไม่ใช่ผู้ถูกกระทำสักเท่าไรนัก

“บ้านหลังข้างๆ นายนี่แหละ” คนถูกตีหัวบุ้ยใบ้ปากไปทางบ้านของหญิงสาวขาโหด เจ้าของไม้เบสบอลที่ฟาดเขาแบบไม่ยั้งมือ

 “อ้อ” เฟร์เรเอ่ยรับเพียงแค่นั้น ไม่ได้เจาะลึกลงรายละเอียด ก่อนจะมองน้องชายตัวดีที่มาถึงเมืองไทยวันแรกก็ไปสร้างวีรกรรมเข้าให้เสียแล้ว มิน่า...เมื่อครู่ถึงได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาให้ได้ยิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 63 (จบ)

    “เซอร์ไพรส์” ทุกคนในห้องต่างตะโกนคำว่าเซอร์ไพรส์อย่างพร้อมเพรียง นอกจากพ่องานอย่างเฟร์เร ลลินดา ภาคิน บุหลันแล้ว ยังมีโปรดที่ยืนฉีกยิ้มหวานอีกคน ซึ่งโปรดไม่ได้มาคนเดียว ยังพาโชคดีมาด้วยแต่ยังไม่ทันที่เพลงพิณจะได้พูดอะไร เธอก็ต้องตกใจยกกำลังสอง เมื่อเห็นรูปของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันปรากฏอยู่บนโทรทัศน์ขนาดสี่สิบสองนิ้วที่ติดไว้กับกำแพงห้องโดยเฉพาะรูปปัจจุบันที่อิริยาบถต่างๆ นั้นแทบไม่ซ้ำกัน มีรูปตอนเธอไปซื้อต้นไม้กับเฟร์เร ที่หน้าเยินๆ ตอนไปกินข้าว ดูหนัง อันนี้สวยหน่อย รูปทีเผลอ ตอนเธอนอนน้ำลายยืด หรือแม้แต่ตอนไม่ได้แต่งหน้า และสิ่งที่สะดุดสายตาของเพลงพิณนั่นคือป้ายข้อความที่มักจะถูกใส่ไว้หรือแทรกอยู่มุมใดมุมหนึ่งบนรูปอ่านปะติดปะต่อได้เป็นคำว่า ‘Will you marry me’ นั่นยิ่งทำให้อกซ้ายของเพลงพิณเต้นรัว หายใจก็ชักจะไม่ค่อยทั่วท้องและทันทีที่ฉายมาถึงรูปสุดท้าย คำว่า Will you marry me ก็ชัดขึ้นด้วยป้ายตัวอักษรที่ถูกปล่อยลงมาตรงหน้าเพลงพิณได้อย่างพอดิบพอดี“โรแมนติกสุดๆ” บุหลันเพ้อออกมา เพราะจะมีอะไรโรแมนติกไปมากกว่านี้ไม่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 62

    หลังจบงานแต่งงานของลลินดาและภาคิน บรรดาเพื่อนสนิทก็ยังคงอยู่กันครบ ไม่มีใครหนีหายกลับกรุงเทพฯ ก่อน เพราะยังไม่จบภารกิจเสียทีเดียวทุกคนดูมีลับลมคมในแปลกๆ แปลกจนเพลงพิณอดที่จะสงสัยไม่ได้ พอถามใครก็บอกว่าไม่มีอะไรอย่างพร้อมเพรียง“เจ้…เย็นนี้เค้าอยากกินปูไข่ เราออกไปซื้อที่ท่าเรือกันนะ”“ไปสิ” เพลงพิณเอ่ยรับปากส้มไปโดยไม่ได้เอะใจอะไรสักนิด ว่าเธอกำลังถูกหลอกให้ออกไปจากโรงแรมก่อนชั่วคราวเมื่อบุหลันพาเพลงพิณไปแล้ว ที่เหลือเริ่มจัดสถานที่ ซึ่งก็คือห้องจัดเลี้ยงเล็กริมสระว่ายน้ำของทางโรงแรมนั่นเอง โดยมีเจ้าสาวหมาดๆ อย่างลลินดาคอยช่วยจัดส่วนหนุ่มๆ อย่างภาคินและเฟร์เรก็ถนัดใช้งานออกแรง ปีนป่ายติดรูปของเพลงพิณจนทั่วห้อง จากนั้นขบวนลูกโป่งก็ถูกนำเข้ามา“เป็นอะไรส้ม ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ” เพราะเห็นว่าบุหลันเอาแต่มองโทรศัพท์ เพลงพิณจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น ส่วนคนถูกถามก็แอบสะดุ้งมีพิรุธเบาๆ“เป็นอะไร ถามแค่นี้ต้องสะดุ้งด้วย”“เปล่าเจ้พิณ ไม่มีอะไร พอดีเค้าแค่นั่งคิดอะไร

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 61

    “อะไรคะ”“ผมต้องกลับเยอรมัน” ประโยคที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมมันถึงได้ปุบปับแบบนี้ เธอยังไม่อยากห่างกับเฟร์เร“กลับเยอรมัน เมื่อไหร่คะ”“อีกสองอาทิตย์ครับ ผมทิ้งภาระให้ลูกน้องรับผิดชอบงานของผมมานานมากพอแล้ว ผมต้องกลับไปคุมต่อ” เหตุผลของเฟร์เร ทำให้เพลงพิณไม่อาจแย้งเขาได้ และเธอก็โตพอที่จะเข้าใจคนรัก แม้จะหวิวๆ ในใจที่ต้องอยู่ห่างเขาก็เถอะ“ฉันเข้าใจ”“ผมอยากให้คุณไปด้วย”“สองอาทิตย์ฉันคงลางานไม่ได้แน่ เอางี้…คุณกลับไปก่อน ขอฉันเคลียร์งานแล้วจะบินตามไปนะ” ประโยคที่ได้ยิน ทำให้ใจของเฟร์เรชื้นขึ้นมาได้มาก เพลงพิณเข้าใจเขา“คุณโกรธผมหรือเปล่าที่อยู่ที่เมืองไทยต่อกับคุณไม่ได้”“ไม่โกรธค่ะ แต่ก็รู้สึกหวิวๆ ในอกอยู่เหมือนกัน เสียดายที่เราเจอกันช้าไป เพราะถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ ฉันก็คงได้อยู่กับคุณนานกว่านี้”“โธ่…ที่รัก” เฟร์เรคว้าเธอมากอด ฝ่ามืออุ่นๆ ลูบศีรษะของเธอไปมาอย่างปลอบโยน ยิ่

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 60

    “ผมมาที่นี่ก็เพราะมาตามหาคุณ” ยิ่งฟัง เพลงพิณก็ยิ่งงง“ตามหาฉันเหรอ ตามหาทำไม” นั่นน่ะสิ เขามาตามหาเธอทำไม ก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ หรือโปรดทำอะไรมิดีมิร้ายแฟนเธอ“เพราะผมรักคุณ ผมรักผู้หญิงคนที่คุณเห็นจากกล้องถ่ายรูปเมื่อครู่นี้ ผมรักเธอ จนยอมทิ้งทุกอย่างแล้วมาตามหาเธอ” เฟร์เรเอ่ยคำว่ารักให้เพลงพิณฟังครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนโปรดนั้นเมื่อรู้และเห็นอะไรมากพอ จึงหมุนตัวกลับออกไป เพราะดูท่าเพลงพิณกับเฟร์เรจะมีเรื่องให้คุยกันอีกนานและก็จริงอย่างที่โปรดคิด เพราะตอนนี้เฟร์เรตั้งคำถามกับ เพลงพิณถึงเรื่องเมื่อครั้งที่เธอไปเที่ยวเบอร์ลิน และเพลงพิณก็ถาม เฟร์เรย้ำอีกครั้ง ว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะหรือ พอได้คำตอบก็ยิ้มแก้มแตก ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มแน่น“คุณมาตามหาฉันเหรอ” พอคลายอ้อมกอดออกก็เอ่ยถาม“ครับ ข้ามฟ้า ข้ามทะเลมาตามหาความรักถึงที่นี่” คำพูดหวานๆ ที่ได้ยินทำเอาเพลงพิณแทบจะลอยได้ รู้สึกว่าความรักครั้งนี้ของเธอมันอยู่เหนือคำว่าพรห

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 59

    ความรักของเพลงพิณและเฟร์เรก่อตัวขึ้นอย่างสวยงาม แม้เธอจะเอ่ยบอกขอชายหนุ่มแต่งงานไปตอนเมามาย แต่เฟร์เรกลับคิดจริงจัง และเตรียมเซอร์ไพรส์เพลงพิณไว้แล้ว เพียงแค่รอเวลาเหมาะๆ เท่านั้น และช่วงนี้เขาก็นิ่ง ไม่เอ่ยอะไรเกี่ยวกับคืนนั้นอีกทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทั้งคู่มักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ อย่างเมื่อครู่เธอก็อยู่กับเฟร์เร แต่เขาขอตัวไปเอาของที่บ้าน ส่วนเพลงพิณก็นั่งเล่นใต้ซุ้มชิงช้าไม้รอ อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น พอหันไปมอง จึงเห็นว่าเป็นโปรด ที่ยืนยิ้มหล่อละลายใจเกย์อยู่“เข้ามาสิแก ประตูไม่ได้ล็อค”“ฉันไม่ได้มาหาแกย่ะ” โปรดตอบกลับมาได้อย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด จริตจะก้านนี่มาเต็ม“เอ้า! แล้วมาหาใครยะ อย่าบอกนะว่าแกมาหาแฟนฉัน”“ใช่…แต่แหม ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว นี่หล่อนแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้แรงเหมือนกันนะยะ” คำพูดของโปรด เพลงพิณทำเพียงแค่ไหวไหล่รับเบาๆ เท่านั้น“ก็แน่ล่ะ ว่าแต่แกจะไปหาเบคเขาทำไม”

  • รักนี้...เจ้ขอ   บทที่ 58

    “อะไรนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง กลัวว่าเขาหูฝาดที่ได้ยินว่าเพลงพิณชวนเขาแต่งงาน“เราแต่งงานกันตอนนี้เลยได้มั้ย ฉันแก่แล้ว มดลูกก็ใกล้จะเสื่อมเต็มที ถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้ ฉันกลัวมีลูกยาก” เหตุผลของเพลงพิณดูเหมือนจะฟังขึ้น“นี่คุณพูดจริงหรือแค่พูดขำๆ ตอนเมากันที่รัก”“ฉันพูดจริงๆ ให้เวลาคุณคิดก่อนก็ได้อ่ะ ไว้…พรุ่งนี้ ฉันจะมาฟัง คำ…ตอบ” พูดจบเพลงพิณก็น็อคกลางอากาศ ร่างบางโอนเอน จนเฟร์เรต้องรีบเข้าไปพยุง“คุณพิณ พิณครับ” คนตัวโตเขย่าร่างกึ่งเปลือยในอ้อมกอด แต่เพลงพิณก็ไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัว“เมาจนหลับไปแล้วเหรอ” ชายหนุ่มส่ายหน้าให้เธอ ก่อนจะอุ้มกลับมานอนที่เตียง จากนั้นก็หาผ้าไปชุบน้ำหมาดๆ ก่อนจะมาเช็ดตัวให้เธอ เสร็จก็หาเสื้อยืดของเขาในตู้ออกมาให้เธอสวม จากนั้นก็นั่งมองคนที่กำลังหลับพริ้ม“คำว่า...เราแต่งงานกันมั้ย ผมควรจะพูดไม่ใช่เหรอครับ” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะลุก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status