“โอ๊ะ!!! รถมาพอดีเลย กลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้”
มือหนายกขึ้นมาโบกลาเพื่อนทั้งสองก่อนที่ร่างสูงจะเดินตรงไปยังรถตู้คันหรูที่มารับเขาพอดี สองหนุ่มสาวไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแต่หันมามองหน้ากัน
“ระวังนายกราฟไว้หน่อยก็ดีนะแบม จีน่าว่านายนี่ดูยังไงกับแบมอยู่นะ”
จีน่าที่เดินคล้องแขนของกราฟ กาลัญญูตรงไปที่ยังรถตู้ของครอบครัวเอ่ยออกมา
“เราก็ว่าอย่างนั้นแหละจีน่า นี่ก็ก่อกวนเราทุกวันเลย” แบม ภูวดลเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพื่อนใหม่มาเรียนได้เพียงสัปดาห์เดียวแต่ทว่าทำเขาปั่นป่วนหัวใจ
“แล้วเป็นไง แอบหวั่นไหวไปกับเขาไหม” จีน่า เจนจิราแอบกระซิบถาม
“ไม่!!!”
เสียงเข้มดังออกมาก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อนสาวรีบตามขึ้นไปก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับรู้ว่ามีอะไรบางอย่าง เธอรู้สึกได้ว่าแบม ภูวดลแอบหวั่นไหวไปกับคนที่ชอบก่อกวนเขา
ร่างสูงโปร่งที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนส่วนตัวของตนนั่งลงบนเตียงก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนที่มีเสียงข้อความดังเข้ามาเป็นระยะ สายตาคมกวาดอ่านทุกตัวอักษรในข้อความที่ส่งเข้ามาจากเพื่อนใหม่ แบม ภูวดลเลิกคิ้วหนาของตนขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อได้อ่าน
กราฟ เด็กใหม่ : นอนยัง
กราฟ เด็กใหม่ : ที่ถามว่าจะเรียนหมอด้านไหนนายยังไม่ได้ตอบเลย
แบม ภูวดล : กำลังนอน ถามทำไม?
กราฟ เด็กใหม่ : ก็อยากรู้ เผื่อว่าคิดเหมือนกันไง
แบม ภูวดล : ศัลแพทย์หัวใจ
กราฟ เด็กใหม่ : ว้าว… เหมือนกันเลย
แบม ภูวดลทำหน้างงก่อนที่จะรีบพิมพ์ข้อความเอ่ยถามกลับไป นี่ชีวิตของเขาต้องมีนายกราฟ กาลัญญูผู้นี้ตามติดไปตลอดจนทำงานเลยหรืออย่างไรกัน
แบม ภูวดล : นายก็ด้วยเหรอ…
กราฟ เด็กใหม่ : อืม… ความตั้งใจน่ะ
แบม ภูวดล : ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้นายสอบเข้าให้ได้นะ เราขอตัวนอนก่อน
แบม ภูวดลไม่อยากคุยต่อ เขาจึงอ้างว่าง่วงนอน หลังจากที่ส่งข้อความสุดท้ายตอบกลับกราฟ กาลัญญูไป เขาก็เดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านเพื่อหานมดื่มก่อนนอน เสียงจากทีวีจอแอลซีดีดังมาจากห้องนั่งเล่น ร่างสูงโปร่งจึงเดินถือแก้วนมที่เพิ่งรินมาตามเสียงไป
“พี่บี๋… ยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามพี่สาวออกมา
“อือ… กำลังดูละครเรื่องแรกของพี่อยู่” บี๋ พิชสินีย์เหลียวหลังกลับไปมองพร้อมกับตอบคำถามน้องชาย
“แล้วนายล่ะ ลงมาทำไม” ผู้เป็นน้องชายชูแก้วนมขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปนั่งลงข้างๆ ผู้เป็นพี่สาว
“พระเอกหล่อนะเนี่ย มีเลิฟซีนไหมเรื่องนี้” แบม ภูวดลยกแก้วนมขึ้นมากระดกแล้วกลืนลงคอ
“หล่อ…แต่สู้น้องชายพี่ไม่ได้ แบม ไปเป็นนักแสดงดีไหม เสียดายความหล่ออะ” บี๋ พิชสินีย์เอ่ยออกมาก่อนที่จะจับไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของน้องชาย
“ไม่!!! ง่วงละ ไปนอนก่อนนะ”
เขาตอบกลับเสียงแข็งพร้อมกับลุกขึ้นยืนจากโซฟาที่นั่งข้างพี่สาวแล้วเดินหนีไปทันที ส่วนคนแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้ดีว่าน้องชายไม่มีทางเปลี่ยนใจจากความตั้งใจที่มีมาตั้งแต่แรกส่งเสียงหัวเราะออกมาก่อนที่จะหันไปสนใจละครหลังข่าวที่กำลังถึงฉากที่เธอร่วมแสดงพอดี
ร่างสูงโปร่งใช้เวลาเดินจากห้องนั่งเล่นเพียงไม่นานก็ถึงห้องนอนของตน เขาเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนข้างหัวเตียงขึ้นมาดูอีกครั้ง ก็พบว่ามีข้อความของเพื่อนใหม่ที่ส่งมาทีหลังแล้วเขายังไม่ได้อ่าน แต่เพื่อเป็นการไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขายังไม่ได้นอน เขาจึงเลือกที่จะปล่อยผ่าน แบม ภูวดลเดินเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อแปรงฟันก่อนนอน
เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จจึงเดินออกมา ใบหน้าขาวใสไร้สิวถูกซับด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนสีขาว แบม ภูวดลถือผ้าผืนนั้นนำไปใส่ในตะกร้าก่อนที่จะเดินขึ้นเตียงแล้วล้มตัวลงนอน เขาไม่ได้หลับไปในทันที เพราะภายในใจนั้นมีเรื่องราวให้รู้สึกคันยุบยิบและวุ่นวายอยู่ภายในไม่น้อย กว่าเขาจะข่มตาให้หลับลงได้เวลาก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของใครหลายๆ คนแต่คงจะไม่ใช่สำหรับแบม ภูวดล เขาตื่นมาพร้อมกับใบหน้าที่ไม่สดใส อาจจะเพราะนอนไม่เต็มอิ่ม ร่างสูงในชุดเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น สวมรองเท้าผ้าใบกำลังวิ่งไปตามทางสวนสาธารณะของหมู่บ้าน ถึงแม้ว่าเขาจะนอนดึกขนาดไหน เขาก็สามารถตื่นเช้ามาเพื่อออกกำลังกายได้เป็นปกติ
“ไปวิ่งมาเหรอลูก” มารดาเอ่ยถามขณะที่เห็นบุตรชายเดินเช็ดเหงื่อเข้ามาในบ้าน
“ครับคุณแม่…แล้ววันนี้คุณแม่ไม่ได้เข้าเวรเช้าเหรอครับ" แบม ภูวดลเอ่ยถามมารดา
“จ้ะ… เข้าเวรบ่ายน่ะ” แพทย์หญิงศิริลักษณ์ ปรีชารักษ์ตอบบุตรชาย
“ใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เตรียมตัวไปบ้างหรือยังคะ” เธอเอ่ยถามต่อ
“ครับแม่ แบมขอตัวขึ้นห้องอาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียนก่อนนะครับ”
เขาตอบมารดาก่อนที่จะเอ่ยขอตัวเพราะมองดูเวลาเริ่มจะเกินเวลาที่เขากำหนดไว้แล้ว
“ไปเถอะลูก เสร็จแล้วลงมาทานข้าวด้วยกัน เดี๋ยวคุณพ่อกับพี่บี๋ก็พากันลงมาแล้วล่ะ”
แบม ภูวดลพยักหน้าก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเพื่อกลับไปยังห้องนอนของตน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สมาชิกครอบครัวลงมาที่ห้องอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา นายภูเมศ ปรีชารักษ์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมกับจิบกาแฟอยู่ที่หัวโต๊ะ ด้านซ้ายมือเป็นแพทย์หญิงศิริลักษณ์
ถัดมาเป็นบี๋ พิชสินีย์ในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดัง สองแม่ลูกกำลังรับประทานข้าวต้มสำหรับมื้อเช้าของวันนี้ ด้านขวามือของประมุขของบ้านคือบุตรชายคนโต บอม ภูวพล ที่กำลังจิบกาแฟและขนมปังปิ้งเช่นเดียวกับบิดา
ส่วนน้องเล็กของบ้านนั่งถัดมาจากพี่ชายคนโต แบม ภูวดลเลือกรับประทานข้าวต้มเช่นเดียวกับมารดาและพี่สาวเพื่อให้อยู่ท้องไปถึงมื้อกลางวัน หลังจากรับมื้อเช้าเสร็จครอบครัวปรีชารักษ์ก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
แบม ภูวดลรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจอยู่ไม่น้อยที่จะต้องพบเจอกับเพื่อนใหม่จอมวุ่นวายที่จนป่านนี้เขาก็ยังปรับตัวให้เข้ากับอีกฝ่ายไม่ได้เสียที เขาไม่เพียงเข้ามาก่อกวนอารมณ์ของแบม ภูวดลเท่านั้น แต่เขาเข้ามาก่อกวนหัวใจของแบม ภูวดลด้วย นี่แหละคือเรื่องที่เขากังวลใจอยู่ไม่น้อย
“แบม… นายล้างหน้าด้วยอะไรอะ หน้านายขาวดี”จู่ๆ เขาก็เอ่ยออกมาขัดจังหวะ ทั้งจีน่า เจนจิราและตั้ม อนุพงษ์ต่างพากันเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของแบม ภูวดลก็พากันเห็นด้วยกับกราฟ กาลัญญูกับเรื่องที่ว่าแบม ภูวดลนั้นหน้าขาวใส“โฟมล้างหน้าไง แล้วก็มาสก์หน้าก่อนนอน” เขาตอบตามความจริง“มาสก์หน้าด้วยเหรอนายน่ะ แต่มาสก์หน้าพวกผู้หญิงเขาทำกันไม่ใช่เหรอวะ” กราฟ กาลัญญูเอ่ยถามออกมาอย่างจับผิด“จีน่า… ก่อนนอนเธอมาสก์หน้านอนไหม”“ม่ะ…มาร์คสิ ถามได้ นายไม่มาร์คหรือไง เพิ่มวิตามินให้ผิวหน้าไง” จีน่าหันไปตอบอีกฝ่าย“ไม่อะ… ขี้เกียจหึๆ”สายตาที่มองไปยังแบม ภูวดลนั้นเต็มไปด้วยความจับผิด แต่มีหรือที่หนุ่มผู้เก็บงำความลับมานานอย่างแบม ภูวดลจะหลุดออกมา“พี่สาวมันเป็นดาราไง แม่มันก็เป็นคุณหมอ ไม่แปลกหรอกที่จะมันจะได้รับการดูแลจากแม่กับพี่สาว”ตั้ม อนุพงษ์เอ่ยออกมา เขาไม่ได้ช่วยเพื่อนแต่เขาคิดว่าเพื่อนดูแลตัวเองเพราะมีพี่สาวเป็นดาราและมีมารดาเป็นแพทย์หญิง“นายกำลังจับผิดอะไรเราหรือเปล่ากราฟ”แบม ภูวดลจ้องหน้าเขาพร้อมกับเอ่ยถามออกมา จีน่า เจนจิรากับตั้ม อนุพงษ์ก็หันไปมองหน้าเพื่อนใหม่เป็นตาเดียวกัน“เปล่า…. ก็แค่อยากรู
ร่างสูงโปร่งที่เดินผ่านเข้าประตูโรงเรียนมัธยมแห่งนี้มากำลังตกอยู่ในสายตาของคนที่กำลังนั่งรออยู่ แบม ภูวดลไม่ได้สนใจคนรอบข้างจึงทำให้เพื่อนใหม่เข้ามาประชิดตัว แขนแข็งแรงพาดลงบนไปไหล่กว้างมือหนาก็วางลงบนบ่า ชายหนุ่มสะดุ้งเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะหันใบหน้าหล่อเหลาไปมองแล้วพยายามจะเบี่ยงกายออกจากวงแขนแข็งแรงของอีกฝ่าย แต่ทว่ากราฟ กาลัญญูกลับบีบไหล่เขาอย่างแน่นหนา“ปล่อย!!!” น้ำเสียงแข็งกร้าวดังลอดไรฟันจนคนที่โอบไหล่อยู่ถึงกับหัวเราะดังอยู่ในลำคอ“หึๆ”กราฟ กาลัญญูผละวงแขนแข็งแรงของตนออกจากไหล่กว้างของอีกฝ่าย“หวงจังนะ… ร่างกายนายน่ะ”เขาเอ่ยออกมาขณะที่เดินข้างๆ สาวๆ ที่มองมาต่างพากันหวีดร้องเพราะหนุ่มฮอตกับหนุ่มหน้าหล่อ นักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่นั้นเดินเคียงข้างกันมา แบม ภูวดลไม่ตอบคำถามที่เขาถาม แต่ทว่ากลับรีบสาวเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กราฟ กาลัญญูมองตามเพื่อนชายตรงหน้ายิ้มๆ ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าแล้วก้าวตามไปอย่างไม่รีรอจีน่า เจนจิราที่เดินตามหลังมาแต่ไม่แสดงตัวเพราะเธอเองก็อยากจะรู้ว่าแบม ภูวดลนั้นคิดอย่างไรกับเพื่อนใหม่ที่เข้ามาก่อกวนให้เขารำคาญใจ หรือกำลังเข้ามาปั่นป่วนหัวใจขอ
“โอ๊ะ!!! รถมาพอดีเลย กลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้”มือหนายกขึ้นมาโบกลาเพื่อนทั้งสองก่อนที่ร่างสูงจะเดินตรงไปยังรถตู้คันหรูที่มารับเขาพอดี สองหนุ่มสาวไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแต่หันมามองหน้ากัน“ระวังนายกราฟไว้หน่อยก็ดีนะแบม จีน่าว่านายนี่ดูยังไงกับแบมอยู่นะ”จีน่าที่เดินคล้องแขนของกราฟ กาลัญญูตรงไปที่ยังรถตู้ของครอบครัวเอ่ยออกมา“เราก็ว่าอย่างนั้นแหละจีน่า นี่ก็ก่อกวนเราทุกวันเลย” แบม ภูวดลเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพื่อนใหม่มาเรียนได้เพียงสัปดาห์เดียวแต่ทว่าทำเขาปั่นป่วนหัวใจ“แล้วเป็นไง แอบหวั่นไหวไปกับเขาไหม” จีน่า เจนจิราแอบกระซิบถาม“ไม่!!!”เสียงเข้มดังออกมาก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อนสาวรีบตามขึ้นไปก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับรู้ว่ามีอะไรบางอย่าง เธอรู้สึกได้ว่าแบม ภูวดลแอบหวั่นไหวไปกับคนที่ชอบก่อกวนเขาร่างสูงโปร่งที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนส่วนตัวของตนนั่งลงบนเตียงก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนที่มีเสียงข้อความดังเข้ามาเป็นระยะ สายตาคมกวาดอ่านทุกตัวอักษรในข้อความที่ส่งเข้ามาจากเพื่อนใหม่ แบม ภูวดลเลิกคิ้วหนาของตนขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อได้อ่านกราฟ เด็กใหม่ : น
เพื่อนใหม่ที่ย้ายเข้ามาได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ทำเอาชีวิตที่เคยสงบสุขของแบม ภูวดลวุ่นวาย เขาต้องเผชิญกับอัตราการเต้นของหัวใจที่แรงและเร็วบ่อยครั้งเพราะอีกฝ่ายมักจะถึงเนื้อถึงตัวอยู่เสมอ ถึงแม้จะมีสองเพื่อนสนิทคอยกันและห้ามปรามให้ แต่ทว่าเพื่อนใหม่ดูเหมือนจะอยากแกล้งเขาให้เขาเปิดเผยตัวตนเสียเหลือเกิน“พอทีเถอะ ถ้านายยังไม่เลิกถึงเนื้อถึงตัวเราอีก นายก็ไปอยู่กลุ่มอื่นซะกราฟ” แบม ภูวดลเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด“หึๆ เป็นอะไร ฉันก็แค่โอบไหล่นาย จับแขน มันถึงเนื้อถึงตัวตรงไหน เพื่อนผู้ชายคนอื่นเขาก็ทำกัน”กราฟ กาลัญญูเอ่ยออกมายิ้มๆ เขารู้สึกสนุกที่เพื่อนจอมหวงเนื้อหวงตัวราวกับว่าตัวเองเป็นผู้หญิงคนนี้โมโห“นายก็รู้ว่าแบมไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกายของเขา แบบนี้มันเท่ากับลวนลามกันนะ ถามจริงนายชอบผู้ชายปะเนี่ย” จีน่า เจนจิราเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกไม่ชอบใจเช่นกัน“จริง…. ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับแบม มึงก็ไปอยู่กลุ่มอื่นเลยไอ้กราฟ” ตั้ม อนุวัฒน์เอ่ยออกมาอย่างโมโหเช่นกัน“โอเค โอเค ขอโทษ ขอโทษ ต่อไปเราจะไม่แกล้งนายแล้ว ก็อยากรู้ไงว่าทำไมถึงโดนตัวนายไม่ได้ ความรู้สึกมันเหมือนแบบโดนไฟช๊อตปะ” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยอ
“นายคนที่เราเจอตอนนั้นไง จำได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความตื่นเต้น“อืม… ไม่คิดเลย…ว่าจะมาเรียนที่นี่”แบม ภูวดลมองไปที่เพื่อนใหม่ที่หันมาสบตาเข้ากับเขาพอดี รอยยิ้มที่มุมปากของอีกฝ่ายทำเอาเขาต้องหลบสายตาที่ทะเล้นและแพรวพราวนั่น แต่จู่ๆ ร่างสูงก็เดินตรงมาหายังกลุ่มของเขา ทั้งจีน่า เจนจิราและตั้ม อนุพงษ์ถึงกับตกใจ แม้แต่แบม ภูวดลเองก็ตกใจไม่ต่างกัน“สวัสดี ห้อง…หกทับหนึ่งใช่ปะ” เสียงทุ้มดังขึ้นท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่กำลังมองมาอย่างสนใจ“อืม…ใช่"เสียงทุ้มของแบม ภูวดลดังขึ้น สาวๆ ที่มองมาเห็นภาพสองหนุ่มยืนอยู่ใกล้กันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพราะคนหล่อกับคนหล่ออยู่ด้วยกันแล้วภาพที่มองเห็นมันช่างดูเจริญหูเจริญตา เป็นอาหารตาชั้นเยี่ยม“สวัสดี เจอกันอีกแล้ว นาย…จำเราได้ไหม” กราฟ กาลัญญูทักทายหนุ่มหล่อตรงหน้าแล้วเอ่ยถามออกมา“จำได้ว่าเราเคยเจอกันครั้วหนึ่ง แต่จำชื่อนายไม่ได้หรอก” แบม ภูวดลตอบก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสนิททั้งสอง“ถ้าอย่างนั้นเราขอแนะนำตัวกับนายและจีน่าอีกที เราชื่อกราฟ กาลัญญู พิเชษฐ์พัฒน์ ย้ายมาจากโรงเรียนฝั่งมีน”หนุ่มหล่อรีบแนะนำตัว สองหนุ่มสาวเพื่อนซี้ได้แต่หันไปม
หลังจากปิดภาคเรียนไปนานเกือบเดือน การกลับมาเรียนในภาคเรียนที่สองอีกครั้งก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยก็เริ่มต้นขึ้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาก้าวลงจากรถตู้คันหรูของครอบครัวก่อนที่จะเยื้องย่างเข้าประตูโรงเรียนไป ทุกย่างก้าวของแบม ภูวดลนั้นเป็นที่จับตามองจากสาวๆ รุ่นน้อง ทุกท่วงท่าจังหวะการเดินมันทำให้สาวๆ มองตาเขาแทบลืมหายใจ ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงไอดอลก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ลงเลย“แบม!!!”เสียงทุ้มที่ตะโกนตามหลังมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งตรงมายังเขาทำให้คนถูกเรียกชื่อถึงกับชะงักหยุดเดินแล้วหันกลับไปมอง“มาแต่เช้า” เสียงทุ้มดังออกมาจากริมฝีปากสีแดงอมชมพูเป็นธรรมชาติ“นายก็มาเช้านี่ แล้วจีน่ามายัง วันนี้ได้ข่าวว่าห้องเรามีนักเรียนใหม่ย้ายมาจากโรงเรียนฝั่งมีนคนหนึ่งด้วย”ตั้ม อนุพงษ์เอ่ยขึ้นก่อนที่จะบอกถึงเรื่องราวที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับเพื่อนสนิท“ฝั่งมีน…” เขาทวนคำของเพื่อนสนิท“อืม…. เห็นบอกว่าย้ายมาเทอมนี้แหละ” ตั้ม อนุพงษ์บอกก่อนที่จะสาวเท้าก้าวเดินตามเพื่อนสนิทไป“ย้ายมาตอนนี้อะนะ” แบม ภูวดลยังเอ่ยถามด้วยความข้องใจ“อืม…” คน