ภายใต้ใบหน้าที่เย็นชา และเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงของมาเฟียนักรัก แท้จริงคือหน้ากาก ที่ดักใจใครบางคนให้ตกหลุมพลาง รักที่เกิดขึ้นโดยคนสองคนโดยไม่ต้องมีเหตุผล แต่เมื่อไหร่เราไร้ตัวตนจากสายตาเขา เราก็ต้องหาเรื่องให้ได้ใกล้ชิด เพื่อเรียกร้องความสนใจ และให้อีกฝ่ายซึมซับว่าเรามีตัวตนเพื่อที่จะอยู่ในใจเขา แม้ว่าจะด้วยวิธีการเห็นแก่ตัวก็ตาม....
Lihat lebih banyakโหด ‘ให้’ ได้ใจ (รังเถื่อน)
“จะไปไหน”
คนที่ปันคิดว่านอนหลับสนิท กลับผงกศีรษะขึ้นมาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มหนัก จนสะดุ้งใจสั่นอย่างกับคนกำลังทำผิดแล้วโดนจับได้
“ผมจะไปห้องน้ำ” ปันตอบกลับแล้วค่อย ๆ ขยับกายที่ปวดหน่วงไปทั้งตัวลงจากเตียง
“จะให้อุ้มไปไหม”
คำถามที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์พร้อมกับหรี่ตามองด้วยความกรุ่มกริ่ม
ปันจิกตามองค้อน แล้วตอบกลับ “ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นครับ ...แต่ก็เพราะคุณ ผมถึงมีสภาพเช่นนี้" ประโยคหลังต่อว่าอยู่ในใจ
“ก็ดี… อย่าทำตัวอ่อนแอ เพราะฉันไม่ชอบ”
สีหน้าและน้ำเสียงของเขาไม่ได้อ่อนโยนต่อใจคนฟังอย่างปันนัก “ผมก็ไม่ได้อยากให้คุณมาชอบผมนี่ครับ”
ปันโต้กลับเพราะเกือบเดือนมานี่เขาเรียกหา และเอาแต่ได้ตลอด จนจะขาดใจตายอยู่ใต้อ้อมอกแกร่งของเขาอยู่รอมร่อ ไม่รู้ติดใจหรือกลัวเสียเปรียบกันแน่…
และประโยคนั้นทำให้ได้สายตาจ้องกร้าวเป็นคำตอบ ซึ่งนั้นทำให้นักศึกษาหนุ่มวัยสิบเก้าปีอย่างปัน หมดหวังจะหลุดพ้นจากกรงขังของนายเดร์อย่างสิ้นเชิง
“อาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวฉันจะพาออกไปข้างนอก” เจ้าของห้องบอกพร้อมกับขยับลุกขึ้น จนผ้าห่มหลุดร่อนลงไปกองอยู่ตรงหน้าตัก เผยให้เห็นอกล่ำและขนสีเข้มเป็นแผงตรงหน้าอก
ปันกลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่หัวใจเต้นแรง และเสียวท้องน้อย หากเขาจงใจยั่ว ก็ได้ผล จนต้องรีบพูดก่อนจิตใจจะเตลิดไปไกล
“ขอบคุณครับ แต่ผมไม่ไป”
ที่ปันตัดสินใจปฏิเสธ เพราะน้ำเสียงและแววตาของเดร์ ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเขามีความห่วงใยอยู่ในนั้น หากมันเป็นคำสั่งที่อีกคนต้องปฏิบัติ เหมือนเช่นลูกน้อง ที่สำคัญหากยิ่งอยู่ใกล้ ผู้ชายนักรักอย่างเดร์ ประหนึ่งตัวติดกัน เช่นนั้นก็เหมือนพาตัวเองเดินไปตกหลุมที่อีกฝ่ายขุดไว้เป็นแน่
“ทำไม” เสียงทุ้มเข้มของเดร์ถาม พร้อมกับลุกขึ้นสลัดผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างออก โดยไม่สนว่าตัวเองจะอยู่ในสภาพเช่นไรในตอนนี้
เป็นปันที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยใจเต้นรัวระทึกหนักไปอีก เมื่อรูปร่างเปล่าเปลือย ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม และหน้าท้องลอนไร้ไขมันส่วนเกินประจักษ์อยู่ตรงหน้า โดยพยายามไม่นึกถึงภาพส่วนที่กำลังหลับไหลอยู่…
แม้อุณภูมิความเย็นของแอร์กำลังทำงาน แต่ก็ไม่สามารถทำให้อุณภูมิในร่างกายของปันสงบลงได้
เขาไม่รู้ตัวหรือไง ว่ากำลังทำให้วิญญาณคนร่วมห้องออกจากร่างแล้วไปสิงเขาแทน!
“ผะ ผมไปอาบน้ำแล้ว”
เมื่อใจไม่อาจสงบสุข ปันก็ต้องหาทางออกจากตรงนี้ก่อน
“ยังไปไหนไม่ได้”
เดร์บอกพร้อมถลาเข้ามาคว้าตัวปันเอาไว้เต็มอ้อมกอด แล้วลากไปที่เตียงกว้าง ก่อนจะผลักให้ลงไปนอนแผ่อยู่บนเตียง โดยสองแขนถูกรั้งตรึงไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ก่อนจะตามลงมาทาบทับกักร่างบางไว้ไม่ให้ขยับดิ้น
“จะทำอะไรผมอีก” ปันถามเสียงตื่น
“นายมันดื้อ…” เดร์บอกเสียงราบเรียบ หากสายตาจดจ่ออยู่ที่ใบหน้าฉาบสีเรื่อ ที่เขากกกอดมาทั้งคืนด้วยสายตาคาดโทษ
“ผมดื้อตรงไหน” ปันถามกลับเสียงแข็ง ทั้งที่เวลาเขาเรียกร้อง ก็ไม่เคยปฏิเสธ ยังจะหาว่าดื้ออีก เถอะ!
“ยังไม่รู้ตัว?”
“ผมรู้ตัวดี ว่าผมไม่เคยปฏิเสธตอนที่คุณเรียก” ปันตอบอย่างมั่นใจ
ดวงตาคมกล้าหรี่แคบ “คนละเรื่อง”
“เรื่องไหนอีก…แต่ถ้าเรื่องพาไปข้างนอก มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงนี่ครับ”
“ทุกอย่างที่เป็นความต้องการของฉัน มันคือข้อตกลงที่นายต้องทำ” เสียงทุ้มกร้าวกล่าวอย่างชัดเจนและย้ำชัด
“บ้าอำนาจ…” ปันเปรยออกมาเบา ๆ
“แค่คนที่มาเกี่ยวข้องเท่านั้นแหละ ที่ฉันจะสั่ง” เดร์ย่ำเตือน
คำพูดที่ปันไม่อาจปฏิเสธ ซึ่งมันไม่มีอยู่ในข้อตกลง ‘นอนกับฉันจนกว่าฉันจะพอใจ หรือไม่จนกว่านายจะหาเงินมาชดใช้จนหมด’
“หากความสุขของคุณอยู่บนความทุกข์คนอื่นก็แล้วแต่คุณเถอะ” พูดจบก็เปื้อนหน้าหนี
“พูดอย่างกับเวลานายนอนกับฉัน นายไม่มีความสุขงั้นแหละ”
ปันร้อนไปทั้งตัวเมื่อถูกถามจี้จุด อดไม่ได้ที่จะจ้องหน้าคนพูด
‘หลงตัวเอง…’ ปันต่อว่าปากขมุบขมิบไร้เสียงเพราะความหมั่นไส้
แต่เดร์อ่านปากที่ไร้เสียงออก จึงย้อนกลับ “แล้วไอ้ที่ครางเสียงออดเสียงอ้อน มันคืออะไร”
แล้วภาพโรมรันกันก่อนหน้านั้นก็แวบเข้ามา
ทุกครั้งที่เดร์กระแทกและย้ำเข้าไปในช่องทางคับแน่น เสียงทุ้มหวานก็ครางกระเส่าดังเว้าวอน
“อ่าส์…ระแรงอีก…” เสียงทุ้มแผ่วขาดห้วง เมื่ออีกฝ่ายขยับโยกอยู่ ก็ผ่อนแรงเบาลงเหมือนจงใจแกล้ง
“อะไรนะ ฉันไม่ได้ยิน…” เสียงทุ้มหนักขยับโน้มลงมาถาม
“คุ คุณ…” น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนเมื่ออีกฝ่ายหยุดนิ่งในขณะที่รอคำตอบ
“ว่าไง ฉันถามว่านายพูดอะไรเมื่อกี้…” เดร์ถามซ้ำพร้อมกับกระแทกจุดที่เชื่อมต่อกันเพื่อกระตุ้นเอาคำตอบอีกแรง จนเจ้าของปั้นท้ายโก่งงอนสะดุ้ง หากแต่เสียวซ่าน
“อ่า อึก…”
สัมผัสรุนแรง หากแต่สยิว จนต้องแอ่นสะโพกสู้รับน้ำหนักการกระแทก “แรง ๆไง” ปันย้ำเสียงกระเส่า
มุมปากหนายกสูง สนองให้อย่างเต็มใจ “อึม… อย่างนี้ใช่ไหม…” แล้วกระแทกลงไปหลายครั้งติดกัน จนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อ
“อือ ชะ ใช่ ระ แรงอีก คุ คุณเดร์…”
เมื่อเอวสอบขยับถี่รัว ปันก็ตอบจนเสียงสั่นสะส้าน ใบหน้าซุกจมหายไปกับเตียงนุ่มตามแรงกระแทกที่ส่งออกมาจากอีกฝ่าย
เดร์ยิ้มอย่างหยามใจ สายตาก็มองปั้นท้ายและแผ่นหลังนวลเนียนที่โก่งรับน้ำหนักได้อย่างถึงใจ กับสิ่งที่เชื่อมต่อกัน
แล้วคนคุมเกมอย่างเขาจะผ่อนปรนได้ยังไง… เดร์คิดแล้วประคองตัวตนกระแทกกระทั้นเข้าไปสุดแรงซ้ำ ๆ เมื่อจุดหมายปลายทางรออยู่ตรงหน้าโดยที่เขาจะพาอีกฝ่ายไปถึงพร้อมกัน…
ปันปาดน้ำตาทิ้ง เมื่อเพื่อนทยอยกันเดินเข้ามาอวยพรวันเกิดพร้อมของขวัญที่ทุกคนรวบรวมเงินกันซื้อมาให้ โดยแสนกับเกมเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของเรื่องนี้ทั้งหมด รวมทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ที่ทำงานบาร์โฮสต์ก็มากันหมดทุกคนงานเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจนกระทั่งเพื่อนๆ ทยอยกันกลับไปบ้างแล้ว“คเชนทร์...” เดร์ผลุดลุกขึ้นเมื่อเห็นลูกน้องคนที่อยู่ในใจเสมอปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า“ผมมาแสดงความยินดีกับคุณปันและนายครับ นี่ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากผม”ปันมองใบหน้าของคเชนทร์ที่ไร้ความสดใสอย่างเคย ก่อนจะรับของในมือมาถือไว้“คุณหายไปไหน รู้ไหมผมถามเรื่องคุณ คุณเดร์ก็ให้คำตอบกับผมไม่ได้” ปันเอ่ยสีหน้าน้อยใจคเชนทร์ยิ้มบางๆแล้วตอบกลับ “ผมก็อยู่ใกล้ๆ นี่แหละ เห็นยัง วันสำคัญคุณปัน ผมก็มาได้” คเชนทร์ตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ ปันยิ้มขื่น“นายไม่กลับไปได้ไหม” เดร์เป็นคนเอ่ยขึ้นบ้างหลังจากที่ยืนเหมือนคนน้ำท้วมปากอยู่นาน“ผมกลับไปนะดีแล้ว เพราะหลังจากนี้นายกับคุณปัน จะไม่มีเรื่องอะไรเข้ามากระทบหรือกวนใจได้อีก”ซึ่งคำของคเชนทร์ทำให้เดร์ถึงกับพูดไม่ออก หากแต่ปันยังงงกับสิ่งที่ทั้งคู่กำลังพูดสื่อกันอยู่“เฮยู!” เสียงแหลมห้
เดร์หยุดพูดแล้วมองหน้าปัน ที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจสัมผัส “ในวันที่มองไปไม่เห็นนายอยู่ข้างๆ มันเหมือนวันนั้นมีอะไรขาดไป จนไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนหายใจแต่หายใจไม่สุด” สายตาล่ำลึกมองจ้องวงหน้าสีเรื่อ เว้าวอนเกมขอร้อง ว่าอย่าได้หายไปไหนอีก...“นายรู้สึกกับฉันแบบนั้นบ้างหรือเปล่า”“ผมมีสิทธิ์คิดแบบนั้นได้หรือครับ”“นายได้สิทธิ์นั้นนานแล้วปัน...”“ครับขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กขี้ดื้อคนนี้นะครับ”“เช่นนั้น ฉันให้โอกาสตัวเองด้วยไง”“แต่...”“แต่อะไร”“อย่าโหดกับใคร หรือผมอีกได้ไหมครับ ผมกลัว”“ที่ฉันโหด เพื่อให้ได้ใจนายต่างหาก”“อะ...”“หากฉันใจดีกับนาย แล้วจะได้นายมาแนบกายไหมล่ะ”“โธ่ไม่เอาแบบนี้ รักชอบก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ผมคนขี้กลัว...”“ได้สัญญาว่าจะไม่โหด แต่กับนายนะ... ส่วนคนนอกต้องดูเป็นกรณีๆไป”เดร์ก็คือเดร์นักธุรกิจที่มีกฎเหล็กอยู่ในหัว...ปันค้อนให้ หากแต่ซุกใบหน้าไปบนอกแกร่ง กอดรัดร่างหนาแน่นขึ้นประหนึ่งแค่นี้ก็รู้สึกปลอดภัยที่สุดแล้ว...เดร์ลูบไปบนผิวกายของปันเบาๆ ด้วยความรักและอยากปกป้อง จากนี้ต่อไปเดร์สัญญากับตัวเอง ว่าจะไม่ให้คนที่รักเสียน้ำตาหรือเจอเรื่องที่น่ากวาดกลัวอีก!มหาฯลัย
ในห้องน้ำที่กว้างกว่าหอพัก เดร์ค่อยๆ วางปันลงในอ่างกุชชี่สีครีม โดยปันไม่ทีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใดก๊อกน้ำถูกเปิดให้น้ำไหลลงอ่างเอื่อย ๆ ปันถูกจัดให้นั่งอยู่กลางอ่างสองขายกชันขึ้น เดร์ก็นั่งลงในท่าเดียวกัน ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้สอดขาทั้งสองข้างซ่อนไขว้กัน ประกายตาหวามไหวมองสบกันปันก้มหน้ายิ้มอาย ลองมาในท่านี้ ไม่พ้น.... ปันคิดลมหายใจเกือบรดใส่กัน เดร์ยื่นมือไปจับใบหน้าที่ก้มหนีสายตา ให้หันมามอง แล้วเลื่อนมืออีกข้างไปจับต้นคอระหง เพื่อรอรับจังหวะจุมพิตที่ส่งลงมาประกบทาบทับอบอุ่น นุมนวลแต่อุ่นซ่านไปทั้งกาย...เดร์ค่อยๆ เลาะเล็มไปบนริมฝีปากอมชมพูหวานหอม ที่ชิมมาแล้วจนคุ้นชิน หากแต่ไม่รู้เบื่อ ในณะที่มือข้างหนึ่งของเดร์เริ่มทำงานล้วงลึกลงไปใต้น้ำและจับสิ่งที่อ่อนนุ่มแล้วขยับรูดไปมา“อ่าส์ ...” เสียงครางแผ่วเบาของปันเริ่มดังขึ้นเดร์กระหยิ่มพอใจ ยอมรับว่าปันเป็นชายหนุ่มที่น่าจุดไฟสวาทได้ง่ายที่สุด เพราะแค่เพียงสัมผัสไม่ว่าตรงจุดไหน คนตัวเล็กก็ตอบรับได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ไม่ใช่รอบแรกของวันนี้ที่พากันแตะฝั่งฝันเดร์ถอนริมฝีปากออกห่าง แล้วเปลี่ยนมาดึงตัวของปันให้มานั่งคร่อมบนขาของตน จากนั
เดร์กระตุกยิ้มอย่างผู้มีชัย แล้วเงยหน้าขึ้นค่อยๆ ปล่อยสะโพกเด้งลงมาต่ำ จนปันรับรู้ได้ถึงความแข็งขืนที่ถูกดันเข้ามาทักทายในช่องทางสีหวาน พร้อมกับแรงกดเข้าเป็นจังหวะ และแรงดันมาจากด้านล่าง“อึก! ซีดส์…” ปันกัดปากกลั้นเสียงคราง ทั้งเจ็บทั้งเป็นสุข“อย่าเกร็ง...” เสียงทุ้มกระเส่าบอกเบาๆ แล้วก้มใบหน้าลงไปหาแผ่นหลังขาวเนียน ก่อนจะใช้ลิ้นลากไล้เลียเม็ดเหงื่อที่ผลุดชุ่มออกมา แล้วกลืนกินรสชาติของบุรุษเพศอย่างไม่นึกรังเกียจซึ่งการกระทำของเดร์ เป็นสิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายตอบรับได้มากขึ้น จากนั้นเป็นปันที่โยกตัวเองเพื่อเติมเต็มสิ่งที่แข็งคาอยู่ตรงช่องทางสีหวานเข้าไปจนสุดลึก“อ่าส์ ปัน นายทำดีมาก....”เดร์หลุดครางออกมาด้วยความพออกพอใจ เช่นเดียวกับปันที่ครางออกมาด้วยความสุขสมปันเหงนหน้าหู่ปากสูดเอาอากาศแล้วเข้าปอดแล้วค่อย ๆ ผ่อนออกมา เพื่อบรรเทาความกระสันเสียว นัยน์ตาสุขเคลิ้มฝัน เมื่อสองมือหนาจับเอวกิ่วแล้วขยับยกให้เป็นจังหวะ โดยที่ตัวเองก็เด้งช่วยด้วย ซึ่งเป็นการช่วยที่ลงตัวควบคู่ไปกับจังหวะเพลงรัก จนเกิดเป็นเสียงครางกระเส่าแข่งกันอยู่ภายในรถแม้จะอยู่ในที่แคบ หากแต่ไม่ได้ทำให้รสรักเสียจังหวะแต่อย
การสั่นสะเทือน ของยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ในความเร็วมากกว่าปกติที่เคยขับ ทำให้คนที่หลับไม่ได้สติเริ่มขยับและรู้สึกตัว เดร์แม้จะไม่มีสมาธิมากนักแต่ก็ประคองรถขับออกไปยังจุดหมายปลายทางให้ไวและปลอดภัยที่สุดหันมองดูปันเกือบทุกห้านาทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มรู้สึกตัว เพื่อให้แน่ใจว่าปันไม่ได้ขวัญหนีดีฝ่อ จึงเบนรถจอดข้างทางเพื่อเช็คดูให้แน่ใจเสียก่อน“เป็นไงบ้าง...” เสียงทุ้ทนุ่มเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือไปกุมมือเรียวหนาของปันไว้แล้วบีบเบาๆปันรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและห่วงใยที่ส่งมาทางสายตาและการกระทำ จึงคลี่ยิ้มให้ “ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ” ปันตอบเสียงอ่อนแผ่วอย่างเจียมตัว“ดีแล้ว...” แล้วเดร์ก็ขยับยื่นมือไปปรับเบาะ เพื่อให้ปันได้นั่งถนัดขึ้นในช่วงจังหวะที่เดร์โน้มตัวทาบผ่าน กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้ปันเผลอสูดเข้าไปจนเต็มปอด แล้วนั่งหน้าแดงซ่านเพราะการกระทำของตัวเองปากบอกว่าเกลียด แต่ใจและร่างกายโหยหาเขาตลอด! ปันค้อนขอดตัวเองแล้วเก็บอาการเอาไว้โดยการกุมมือตัวเองแล้วบีบไปมา“เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า หรือไปหาหมอดีไหม”เดร์ถามด้วยความเป็นห่วง สายตาจับอยู่บนใบหน้านั้นด้ว
“คุ คุรเดร์...”ใบหน้าสินหวังก่อนหน้า ฉาบเฉายแววตาระรื่นมีความหวังขึ้น“นายอย่าเงียบ...ปัน” เสียงทุ้มสั่นขาดหายปันยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง เหมือนเสียงสวรรค์ทรงลงมาโปรด ความหวาดหวั่นที่สุมอยู่ในหัวใจ หล่นหายออกจากตัว ปันวิ่งฉิวไปที่ประตูด้วยความดีใจ ส่งมือเรียวที่สั่นระริก จับไปยังกลอนประตูเพื่อปลดออก แต่ยิ่งรีบเหมือนยิ่งช้ากับความรีบที่กลายเป็นเงอะงะแทน จนกระทั่งเปิดได้สำเร็จจึงออกแรงผลักประตูไปเต็มแรง จนมันกว้างออก และเห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าม่านตาเปิดกว้าง ริมฝีปากคลี่ขยายบิดเบะจะร้องไห้ด้วยความดีใจและตื้นตัน ถลาเข้าไปสวมกอดร่างสูงหนาไว้แน่น โดยลืมกลัวลืมอายไปหมดสิ้น!“คุณมารับผมแล้วใช่ไหมคุณเดร์...”เสียงนั้นสั่นสะเทือนหัวใจคนฟังอย่างเดร์ “อืม...” เดร์ตอบรับในลำคอ วงแขนก็โอบร่างคนที่บางกว่ามากไว้เต็มอ้อมอก“จะกลับได้ไง ในเมื่อข้อตกลงเรายังไม่เสร็จสมบูรณ์”เสียงทุ้มห้วนดังแทรกเข้ามา ปันขยับเพื่อมองเจ้าของน้ำเสียงที่ดูแข็งห้วนผู้ชายคนนั้น! เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ปันก็เผลอกอดเดร์แน่นขึ้นเพราะความหวาดกลัว ซึ่งเดร์รับรู้ถึงแรงกอดรัดของปันที่เพิ่มขึ้นจึงตัดสินใจดันให้ปันไปยืนหล
Komen