ธีรเดชนึกถึงเรื่องก่อนหน้า ดาวิกาขอร้องเขาว่าต้องการเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อเป็นรางวัลที่เธอทำรายได้จากการลงทุนทำละครเรื่องแรกได้กำไรให้เขา อีกทั้งยังได้รับรางวัลนำหญิงอีก เธอกำลังมีกระแสละครเรื่องแรกประสบความสำเร็จ หากได้เป็นพรีเซนเตอร์จะส่งผลให้เธอเป็นที่รู้จักอีกทั้งยังส่งผลดีกับเธอและบริษัทของเขาเขาคิดว่าทางไอยวรินทร์มีงานแน่นคงยังไม่ได้เซ็นสัญญา จึงตกปากรับคำให้ดาวิกามาเป็นพรีเซ็นเตอร์แทน ธีรเดชครุ่นคิดว่าจะทำยังไงถึงจะเป็นผลดีกับทุกคน
" โทรไปบอกทางนั้นว่า เรื่องพรีเซ็นเตอร์ยังคงเป็นไอยวรินทร์เหมือนเดิม"
" บอสคะ แล้วคุณดาวิกาหล่ะค่ะ ไหนจะข่าวที่แถลงไปเมื่อวานอีก ทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าพรีเซนเตอร์สินค้าตัวใหม่ของเราคือคุณดาวิกา "
" ก็เป็นทั้งสองนั่นแหละ น้ำหอมกลิ่นล่าสุดที่พายเป็นคนปรุงให้ไอยวรินทร์เป็นพรีเซ็นเตอร์ ส่วนลิปสติกตัวใหม่ที่กำลังผลิตให้ดาวิกาเป็น แก้ข่าวออกไปว่ามีการสื่อสารผิดพลาด ไปจัดการตามนี้ "
" ค่ะบอส"
" เดี๋ยวก่อน "
" คะ บอสมีอะไรจะสั่งเพิ่ม"
" ไปตามพายมาหาฉันด้วย"
" ได้ค่ะบอส"
ก็อก ก็อก ก็อก
" รุจีบอกว่าบอสต้องการพบฉัน"
" ฉันบอกหลายครั้งแล้ว ว่าอยู่กับฉันสองคนไม่ต้องเรียกบอส"
" ไม่ได้หรอกค่ะ ที่นี่เป็นบริษัทและคุณก็เป็นเจ้านายของฉัน"
ธีรเดชถอนหายใจเฮือกใหญ่ เห็นแววตาดื้อรั้นอยู่ในดวงตากลมโตคู่นั้นของเธอ
" เรื่องพรีเซนเตอร์ ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณก่อน ดาวิกากำลังมีกระแสถ้าเธอได้เป็นพรีเซนเตอร์จะส่งผลดีต่อบริษัท "
เมื่อเห็นว่าภูริตานิ่งเงียบเขาจึงพูดต่อ
" ไอยวรินทร์ยังเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมของคุณเหมือนเดิม ส่วนดาวิกาผมจะให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ของลิปสติกตัวใหม่แทน"
" ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้วก็ตามนั้น คุณเป็นประธานบริษัทอยากทำอะไรก็ทำไม่จำเป็นต้องบอกฉัน ฉันเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง บอสมีเรื่องแค่นี้ใช่ไหมค่ะ ถ้าอย่างงั้นฉันขอตัวก่อน "
" เดี๋ยวก่อน "
ภูริตาที่หันหลังกำลังจะเดินออกไปก็หยุดชะงัก
" เย็นนี้รอกลับบ้านพร้อมผม"
" ฉันขับรถมาเองค่ะ"
" เดี๋ยวให้อาชาขับไปไว้ที่บ้าน ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย"
" ค่ะ"
ภูริตาครุ่นคิดว่าเขามีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอนะหรือว่าจะคุยเรื่องหย่า ก็ดีจะได้นัดวันหย่าให้มันจบๆไป
" มึงโทรไปจองร้านอาหารไว้แล้วก็สั่งดอกไม้ช่อใหญ่ไว้ด้วย"
" ครับบอส "
" เดี๋ยวก่อน เอาเป็นกุหลาบแดงอย่างเดียวดอกใหญ่ๆช่อใหญ่ๆ"
" ครับ ได้ครับบอสผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"
ธีระเดชกระตุกยิ้มมุมปาก เขาคงละเลยภูริตามากไป เธอถึงดูเย็นชากับเขา เขาจึงถือโอกาสพาเธอไปกินอาหารอร่อยๆแล้วก็สั่งช่อดอกไม้ให้เธอ เขารู้ว่าเธอชอบดอกกุหลาบพอเธอได้เห็นต้องดีใจมากแน่
ตอนเย็นธีรเดชพาเธอมาที่ร้านอาหารหรู พนักงานนำอาหารมาเสริฟเต็มโต๊ะ
" ผมไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไรเลยสั่งมาเยอะเลย คุณอยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งได้เลย"
" ไม่หล่ะ คุณพาฉันมาที่นี่คงไม่ใช่แค่กินข้าวอย่างเดียวหรอกมั้ง พูดธุระของคุณมาเถอะ"
ธีรเดชขมวดคิ้วเธอคิดว่าเขาต้องมีเรื่องจะพูดกับเธอเท่านั้นเหรอถึงได้พาเธอมาที่นี่ทำไมไม่คิดบ้าง ว่าเขาก็อยากจะกินข้าวกับเธอในฐานะสามีภรรยานอกสถานที่เหมือนคู่อื่นเขา คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกผิดขึ้นมา ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพาเธอออกไปกินข้าวสองต่อสองเลย เธอจะน้อยใจก็เป็นเรื่องธรรมดา ก่อนจะได้พูดอะไรก็มีคนเอาดอกไม้มาส่งเขารับดอกไม้ไว้แล้วยื่นให้ภูริตา ภูริตาไม่อยากรับแต่เมื่อมองดูโต๊ะอื่นที่มองดูเธอกับเขาด้วยสายตาชื่นชม ก็ไม่อาจฉีกหน้าเขาได้รับช่อดอกไม้มา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขากดรับสายแล้วมีสีหน้าเคร่งเครียด
" ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้"
" เกิดอะไรขึ้น"
" ดาเกิดอุบัติเหตุผมต้องไปดูเธอ ผมขอโทษ ถ้าคุณจะนั่งกินที่นี่ต่อผมจะให้อาชาอยู่เป็นเพื่อน"
" ยังไงคุณก็ต้องไปใช่ไหม "
ธีรเดชไม่ตอบได้แต่พยักหน้า
" แล้วถ้าฉันขอไม่ให้คุณไปหล่ะ "
" เธอเกิดอุบัติเหตุไม่รู้ว่าเจ็บมากน้อยแค่ไหนผมต้องไปดูเธอ "
" ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ไม่ต้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อน"
ธีรเดชรู้สึกผิดเขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจรีบเดินออกไป ภูริตายิ้มขมขื่น ยังไงเธอก็ไม่เคยสำคัญสำหรับเขาอยู่แล้ว ในใจเจ็บหน่วงขึ้นมาน้ำตาเอ่อคลอ สั่งตัวเองว่าอย่าร้องไห้ ห้ามร้องเด็ดขาด เธอเรียกพนักงานให้ห่ออาหารทุกอย่างกลับบ้านยังดีที่เขาจ่ายเงินแล้วอาหารดีๆทั้งนั้นถ้าจะทิ้งเสียดายแย่ รับอาหารจากพนักงานเสร็จก็เดินออกมาจากร้านจะโยนช่อดอกไม้ทิ้งก็เสียดาย สายตาเหลือบไปเห็นเด็กชายสองคนกำลังขายพวงมาลัย
" เด็กน้อยพี่ให้ "
" ให้ผมเหรอครับ"
" ใช่จ๊ะ มีแต่อาหารอร่อยๆเอาไปแบ่งกันกินสิ "
เด็กชายตัวเล็กหน้าตามอมแมมยิ้มดีใจยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับถุงอาหารไป
" แล้วก็นี่ด้วย นี่เป็นกุหลาบนำเข้าจากอังกฤษ ถ้าพวกเธอเอาไปขายเป็นดอก ดอกนึงได้หลายร้อยเลยนะ"
" ขอบคุณครับพี่สาว"
้เด็กชายทั้งสองยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับช่อดอกไม้พากันเดินจากไป ภูริตายิ้มมองดูเด็กทั้งสองที่พากันนั่งกินอาหารที่เธอให้ไปโดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธออยู่ตลอด ตั้งแต่ที่เธออยู่ในร้านอาหารแล้ว
" เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคิดว่าเล่นขายของอยู่รึไง เมื่อวานประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้ให้คนโทรมาบอกว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมเป็นการสื่อสารผิดพลาด เฮอะ "
พิมพิลาบ่นไม่หยุด
" ช่างเถอะพี่พิม ไหนๆก็รับงานมาแล้วอีกอย่างพายตั้งใจปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้มาเพื่อฉันโดยเฉพาะ"
" ก็ใช่ไง พายเคยบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากริน จึงได้ปรุงกลิ่นนี้ขึ้นมาแล้วก็เจาะจงว่ารินต้องเป็นพรีเซนเตอร์เท่านั้น แต่เมื่อวานดันประกาศเปิดตัวดาวิกาซะงั้น มันน่าโมโหไหมหล่ะ พอมาวันนี้บอกทุกอย่างเหมือนเดิม เขาคิดว่าเราว่างงานคอยรับแต่งานเขาอย่างเดียวรึไง ทำแบบนี้มันหยามกันชัดๆ"
" ใจเย็นค่ะพี่พิม ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับไปกลับมาแบบนี้ แต่จะว่าไปถ้าดาวิกาได้เป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมที่ฉันปรุง ฉันก็เสียความรู้สึกจริงๆ ทั้งที่ตั้งใจให้รินแท้ๆ เป็นแบบนี้ฉันเลยคิดว่าจะลาออกดีไหม"
" ลาออกเลยเหรอ"
ไอยวรินทร์ถามด้วยความตกใจ
" ลาออกเลยพาย แล้วออกมาตั้งบริษัทเองเลยพี่สนับสนุนเต็มที่ น้ำหอมที่พายปรุงต้องขายดีแน่เชื่อพี่ พี่จะช่วยโปรโมทเต็มที่เลย"
" ขอบคุณค่ะพี่พิม"
"ถ้าอย่างงั้นฉันก็จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้แกฟรีไม่คิดเงินเลย"
" ฮ่าฮ่า ขอบใจแกมากไว้วันนั้นฉันจะเรียกใช้บริการแกแน่ แต่การเปิดบริษัทต้องใช้เงินทุนไม่น้อยเลย ฉันไม่มีตังค์อ่ะ"
" จบเลย"
" ฮ่า ฮ่า เพื่อนรักช่างเถอะ คนเก่งอย่างแกถึงออกจากที่นั่นก็มีอีกหลายที่อ้าแขนรับแก"
"อือ มาชนแก้ว "
" ว่าแต่ คิดถึงอิงมันเหมือนกันเนอะ"
" ใช่ ตั้งแต่ได้งานใหม่เป็นบาร์เทนเดอร์อยู่บนเรือสำราญที่อเมริกา ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน นางได้ทำงานที่นางชอบก็ดีใจกับนางด้วย"
" ไม่แน่นะ ถ้าติดต่อมาอีกทีก็นู่นเลย เชิญให้เราไปงานแต่งมันกับเศรษฐีสักคนก็ได้ "
" เออใช่ ใครจะไปรู้ตัวเล็กๆดำๆแบบนั้นป่านนี้แขกต่างชาติรุมจีบมันจนเลือกไม่ถูกแล้วก็ได้ ฮ่าฮ่า "
ภูริตา ไอยวรินทร์ และพิมพิลาผู้จัดการของไอยวรินทร์ นั่งกินดื่มกันอยู่พักใหญ่ก็แยกย้ายกันกลับ ภูริตาเดินโซเซเปิดประตูเข้าบ้านไม่คิดว่าจะเจอธีรเดชนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก เขาไม่ได้อยู่กับดาวิกาหรอกเหรอ ทันทีที่เขาเห็นเธอก็ลุกขึ้นเดินตรงเข้ามาหา
" ทำไมพึ่งกลับมาตอนนี้ ทำไมถึงไม่รับสายผม "
ภูริตาหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าที่แท้แบตหมดนี่เอง เธอไม่สนใจว่าเขาจะโทรมาทำไม ช่างสิ ในเวลานี้เขาควรอยู่กับคนรักสิแล้วมายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วปากก็ไวกว่าความคิดถามเขาออกไป
" ทำไมคุณไม่อยู่ดูแลคนรักคุณหล่ะ มายืนถามอะไรไร้สาระอยู่ตรงนี้"
ธีรเดชขมวดคิ้วมองดูเธอที่หน้าแดงกร่ำตาปรือ
"คุณดื่มมาเหรอ"
" เรื่องของฉัน "
ภูริตาเดินเลี่ยงเขาเดินโงนเงนจะขึ้นบันไดแต่ก็ถูกธีรเดชอุ้มขึ้นมา เขาอุ้มเธอพาเข้าห้องนอนวางเธอลงบนเตียงนุ่ม
กลับมาถึงเมืองไทยเขาก็พาเธอไปเปลี่ยนแหวนวงใหม่ให้ขนาดพอดีกับนิ้ว แล้วยังเตรียมจัดงานแต่งอีก ตอนนี้ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้กันหมดว่าเธอกับเขตคามกำลังจะแต่งงานกัน เลิกงานตอนเย็นเธอได้เจอกับธีรเดชที่มาดักรออยู่หน้าบริษัท เขาก้าวเข้ามาหาเธอ จะจับมือเธอแต่ถูกเขตคามปัดออก" อย่ามาแตะต้องผู้หญิงของกู"" มึงอย่าดึงเธอเข้ามาในเกมส์ระหว่างเรา มึงแค่ต้องการเอาชนะกู เหมือนตอนที่มึงแย่งดาไปจากกูเท่านั้นแหละ กูไม่เข้าใจว่ามึงจะอิจฉาอะไรกูนัก "" อิจฉา ฮ่าฮ่าฮ่า กูนี่นะอิจฉามึง กูจะอิจฉามึงทำไม กูหล่อกว่ามึงเท่ห์กว่ามึงตั้งหลายเท่า รวยกว่ามึงด้วย กูมีบริษัทตั้งหลายแห่งไหนจะโรงพยาบาลอีก แล้วมึงมีอะไรแค่บริษัทเดียวก็จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่ ไง ตั้งแต่พายลาออกมาได้ข่าวว่าบริษัทมึงทั้งขาดทุนทั้งหุ้นตก แล้วน้ำหอมล็อตใหม่ก็ขายไม่ดีเหมือนตอนที่พายอยู่ ผู้ลงทุนก็ทยอยถอนหุ้นอีกไม่ใช่เหรอ ฮ่าฮ่า ไม่เหมือนบริษัทกูนะปีนี้ได้กำไรโคตรเยอะแล้วก็บริษัทน้ำหอมของกูกับพายก็ได้กำไรเกินคาด แล้วยังขายดีจนผลิตไม่ทันอีก "" เรื่องอื่นช่างมัน กูสนใจแค่เรื่องพาย "" สนใจพาย มาสนใจอะไรตอนนี้ตอนที่เธออยู่กับมึงทำไมไม่สนใจเธอ ปล่อยให
เขตคามพึ่งรู้ว่าวันเกิดของภูริตาผ่านมาแล้วและวันนั้นที่เขาเจอเธอที่พัทยาเธอก็พึ่งกลับจากการฉลองวันเกิดที่ไอยวรินทร์จัดให้ เขาจึงตั้งใจจะชดเชยให้เธอย้อนหลัง เขามองดูแหวนเพชรในกล่องและตั๋วบินไปปารีส2ใบเขาจะขอเธอแต่งงานที่นั่นเขตคามพาภูริตาไปเที่ยวหลายที่พาไปกินของอร่อยๆเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จนมืดค่ำเขานั่งลงล้วงเอากล่องแหวนเพชรมาเปิด " ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปหน่อย แต่ผมไม่อยากรออีกแล้ว ผมอยากเข้านอนพร้อมคุณและตื่นนอนขึ้นมาเจอคุณในทุกเช้า พายครับผมรักคุณ แต่งงานกับผมนะ แสงไฟจากหอไอเฟลยิ่งทำให้บรรยากาศในตอนนี้โรแมนติกเข้าไปอีก ภูริตาลังเลแต่ก็คิดว่าความรักไม่ต้องใช้เวลานานหรอก รักก็คือรัก เธอพยักหน้าตอบรับ เขตคามดีใจรีบสวมแหวนให้เธอแต่แหวนหลวมไปหน่อย " ผมขอโทษนะผมกะไม่ถูกไว้กลับไปผมจะไปเปลี่ยนให้พอดีกับนิ้วคุณ ไม่สิ หาร้านที่นี่ก็ได้นี่งั้น พรุ่งนี้ผม"" ไม่ต้องรีบหรอกไว้กลับไปเมืองไทยก่อนก็ได้ แต่ฉันขอถอดเก็บไว้ก่อนนะกลัวมันหาย "เขตคามหน้าเศร้าพึ่งสวมไปแท้ๆก็ต้องถอดออกดูเป็นลางไม่ดีเลย แต่ถ้าหล่นหายไปจริงๆก็ไม่ดี ต้องโทษเขาที่กะขนาดนิ้วของเธอไม่ดีเอง ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
" ใครโทรมาเหรอแก "" คนโรคจิตหน่ะ"" _ "กินอาหารเสร็จก็พากันออกไปเดินเล่นข้างนอก ไอยวรินทร์ส่งสัญญาณ แล้วดอกไม้ไฟก็สว่างไสวขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิดเหนือท้องทะเล ภูริตาตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้า ดอกไม้ไฟหลายร้อยดอกถูกจุดขึ้นติดๆกัน เธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุข นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนทำเพื่อเธอขนาดนี้" แฮปปี้เบิร์ดเดย์จ๊ะพายเพื่อนรัก ฉันขอให้แกมีความสุขมากๆนะ เป็นไงของขวัญจากฉันชอบไหม "" ชอบมากขอบใจนะรินของขวัญของแกฉันชอบที่สุดเลย"" ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกต้องชอบ จำได้ว่าตอนเด็กๆแกชอบดูพลุดอกไม้ไฟมาก ตอนนั้นมีงานวัดแกก็ลากฉันไปดูเขาจุดพลุเป็นเพื่อนพอโตมาก็ชอบชวนฉันไปดูตามงานต่างๆแต่หลายปีมานี้เราไม่ค่อยได้ไปมาไหนด้วยกัน"" อือ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ดูดอกไม้ไฟด้วยกันแบบนี้ "" งั้นคืนนี้เรามารำลึกความหลังกันฉันจะอยู่คุยกับแกทั้งคืนเลย"คืนนี้ภูริตาพักอยู่ที่วิลล่ากับไอยวรินทร์ ส่วนพิมพิลาบอกว่าจะแวะไปหาเพื่อนเก่าไม่ไกลจากที่นี่ตอนเช้าถึงจะกลับทั้งสองคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ต่างคนต่างไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน ตอนเช้าก็พากันกลับกรุงเทพ แต่ไอยวรินทร์แวะซื้อขนมร้านอร่อยที่มาพัทยาทีไรต้องแวะ
ภูริตามองไปที่ห้องทำงานของเขตคาม วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาโทรมาบอกว่าไม่เข้าบริษัทตั้งแต่วันนั้นที่เขาไปที่คอนโดของเธอ เขาก็หายหน้าหายตาไป มีโทรมาบ้างบางวัน บางวันก็ส่งข้อความมา เธอพยายามไม่คิดมากคิดว่าเขากำลังดูแลพ่อของเขาและคงยุ่งมาก แต่ธีรเดชกลับเป็นคนที่มาให้เธอเห็นหน้าทุกวัน เลิกงานเขาจะมารอเธอที่หน้าบริษัท แล้วขับรถตามเธอไปที่คอนโดทุกวันเอาดอกไม้มาให้ทุกวันแต่เธอก็ไม่เคยรับ วันนี้หลังเลิกงานเธอแวะห้างเพื่อซื้อของสดไปใส่ตู้เย็น ธีรเดชก็ตามเธอมาด้วยเธอไล่เขาจนไม่รู้จะไล่ยังไงแล้ว ตราบใดที่เขาไม่ข้ามเส้นที่ขีดไว้เธอก็ไม่สนใจ เขาอยากตามก็ตามไป ระหว่างเลือกซื้อของสายตาก็หันไปเห็นเขตคามกำลังเข็นรถเข็นมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักคล้ายลูกครึ่งหยิบของลงรถเข็น ทั้งสองคุยกันหัวเราะคิกคัก ธีรเดชเห็นภูริตาหยุดเดินก็มองตามสายตาของเธอ เขากระตุกยิ้มมุมปาก" ผมบอกคุณแล้วว่าคนอย่างมันไม่จริงจังกับคุณหรอก ที่มันหายไปหลายวันมันบอกคุณว่ายังไงหล่ะภาพตรงหน้ายืนยันชัดไหมว่ามันโกหกคุณ "ภูริตาทำเป็นไม่สนใจรีบเข็นรถไปจ่ายเงินทันที เขตคามรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองจึงหันหลังไปดูก็ไม่เห็นมีใครที่รู้จัก ธีรเดชช่วยเอาข
ท้องฟ้าปลอดโปร่งแทบไม่มีเมฆ แสงแดดร้อนแรงสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณสุสาน ธีรเดชนั่งอยู่หน้าหลุมฝังศพดำรง ไม่สนใจแดดที่สาดส่องลงมาเขานั่งอยู่อย่างนั้นตั้งแต่เช้าจนเกือบเที่ยงแล้ว อาชายืนอยู่ใต้ต้นไม้มองดูธีรเดชนั่งเหม่อลอยสำนึกผิด ถึงเขาจะเป็นห่วงแต่เขาก็เป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่ง แดดร้อนขนาดนั้นเขาไม่บ้าไปนั่งตากแดดด้วยหรอก เมื่อธีรเดชอยากอยู่แบบนั้นก็ปล่อยไป เขาจะรออยู่ตรงใต้ต้นไม้ร่มๆนี่แหละ ทักษะเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องอีกสี่คน" บอสครับ รู้แล้วครับว่าคุณพายอยู่ที่ไหน "ธีรเดชหันขวับมามองทักษะภูริตาขับรถเข้ามาจอดแล้วเดินลงจากรถตั้งแต่ที่ย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นที่ดำรงซื้อให้เป็นเรือนหอของเธอกับธีรเดช เธอก็ใช้เงินเก็บของตัวเองซื้อคอนโดใกล้ที่ทำงานใหม่ หลังจบเรื่องวุ่นๆเธอลาออกจากบริษัทของธีรเดชแล้วมาทำงานที่บริษัทเปิดใหม่ ทีแรกเธอตั้งใจจะเปิดบริษัทเล็กๆ ผลิตน้ำหอมตามที่เธอถนัดตอนนั้นเขตคามก็เสนอขอลงทุนด้วย ภานุพงศ์บอกเธอว่าเขามีคอนเน็คชั่นที่ดีมีหุ้นส่วนย่อมดีกว่าลงทุนคนเดียวหรือเสียเวลาไปหาผู้อื่นร่วมทุน เธอคิดไปคิดมาก็จริงอย่างที่ภานุพงศ์ว่า เลยใช้เงินทุนที่ปู่ดำรงให้มรดกเธอเปิดบริษัทใหม่
" สรุปว่าที่คุณทำเรื่องโหดร้ายกับท่านเพราะท่านมีท่าทีไม่ชอบคุณแค่นั้น "" จะว่างั้นก็ได้ ถ้าไม่มีปู่ของคุณเรื่องของเรา"" ไม่มีเรื่องของเรา ถึงผมจะหย่ากับพายผมก็ไม่มีทางเลือกคุณ "" คุณโกหก "" ที่ผมทำดีกับคุณเพราะแค่สงสารคุณ ผมเห็นว่าคุณเคยเป็นแฟนกับพี่ภพเลยดีกับคุณก็แค่นั้น "อิศริยาแค่นยิ้มหัวเราะ หึหึ แค่สงสารเหรอแต่ว่าความสงสารเป็นบ่อเกิดแห่งความรักไม่ใช่เหรอ " ตอนที่คุณฉีดยาให้คุณปู่ตอนที่ท่านชักกระตุกต่อหน้าคุณ คุณทำได้ยังไง ผมไม่คิดว่าคุณจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ "" ฮ่าฮ่าฮ่า ช่วยไม่ได้ตาแกนั่นดันฉลาดรู้ทันฉัน แล้วตอนนั้นมีออเดอร์สั่งหัวใจกับไตเข้ามาพอดีฉันก็เลย "" สารเลว "ธีรเดชกำมือแน่นหน้าตาดำมืดแววตาเกรี้ยวกราดตะคอกด่าอิศริยา แต่เธอไม่สะทกสะท้านเลย" ใครกันแน่ที่เลว ทิ้งเมียตัวเองที่แท้งแล้วมาเฝ้าฉันทั้งคืน แล้วยังจะมาบอกว่าไม่คิดอะไรกับฉันอีก "ธีรเดชนิ่งอึ้ง ภูริตาแท้ง แท้งตอนไหนแล้วเธอไปท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่รู้เรื่องหรือว่าจะเป็นวันนั้นที่ทั้งภูริตาและอิศริยาตกบันไดพร้อมกัน แต่เขากลับไม่สนใจเธอแต่เป็นห่วงอิศริยารีบอุ้มอิศริยาไปห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นหางตาเขาเห็นเธ