“อาทิตย์นี้จะไปติวหนังสือบ้านใคร” ภูเอ่ยถามในเย็นวันศุกร์ขณะที่เดินลงมาจากอาคารเรียน
“ไปบ้านไอ้อาชิสิ กูคิดถึงน้องเอวา” เดลบอก
“มึงไปคิดถึงใกล้ ๆ ตีนไอ้อาชิดิ”
“นี่มึงกับกูยังมีตัวตนอยู่เปล่าวะ” เดลพูดพร้อมทั้งหันไปมองอาชิกับชะเอมที่เดินเคียงคู่กันมา
“มึง 2 ตัวมองหน้ากูทำไม” อาชิถามเมื่อเดินลงบันไดมาถึงเดลกับภูที่ยืนรออยู่หน้าอาคารเรียน
“กูกับไอ้เดลคุยกันว่าอาทิตย์นี้จะไปติวหนังสือที่บ้านมึง ไอ้เดลมันบอกว่าคิดถึงเอวา”
“เชี่ยภู”
“มึงคิดถึงน้องกู มึงถาม... กูยัง” อาชิบอกพลางชี้ไปที่เท้าของตนเอง
“กูก็พูดเล่นไปงั้นแหละ”
“ระวังตีนกูจะไปเตะปากมึงเล่น ๆ บ้าง”
“หวงฉิบ นี่มึงกะจะไม่ให้น้องมึงมีแฟนเลยหรือไง”
“เรื่องของกู น้องกู”
“แล้วตกลงอาทิตย์นี้จะไปติวที่บ้านใคร” ชะเอมถาม
“บ้านไอ้อาชิ มึงโอเคเปล่า” ภูตอบชะเอมก่อนจะเอ่ยถามอาชิ
“อืม”
“โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกัน กูกลับบ้านละ วันนี้เสด็จพ่อให้กลับเร็ว” เดลบอกก่อนจะเดินแยกตัวไป
“กูก็กลับละ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย ภูไปนะชะเอม”
“บ๊ายบาย... อะไร ?” ชะเอมโบกมือลา แต่ก็ต้องชะงักเมื่ออาชิจับมือของเธอไว้
“หวง” อาชิตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาตามสไตล์ของเขา แล้วเดินออกจากโรงเรียนโดยจับมือของชะเอมไว้ไม่ยอมปล่อย
“ว่าไง พวกมึง จะมากี่โมง กูรออยู่เนี่ย” อาชิกรอกเสียงเข้าไปในสมาร์ตโฟน เครื่องหรูเมื่อเดลโทร.เข้ามา
(อาชิ ! มึงรีบมาสนามบินตอนนี้เลย)
“แล้วมึงไปทำอะไรที่สนามบิน”
(มาส่งชะเอม)
“ชะเอม ชะเอมจะไปไหน” อาชิถามด้วยความร้อนรน
(ไปอเมริกา)
“แล้วทำไมกูถึงไม่รู้เรื่อง”
(กูกับไอ้ภูก็พึ่งรู้ ถ้ามึงอยากเจอชะเอม มึงต้องรีบมาเดี๋ยวนี้เลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทันหรือเปล่า)
“มึง 2 คนอย่าเพิ่งให้ชะเอมไป รั้งเธอไว้ รอกูก่อน กูจะไปเดี๋ยวนี้” อาชิหยิบกุญแจรถแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที
“อาชิจะไปไหนลูก” พรพระพายเอ่ยถามเมื่อเห็นอาชิร้อนรนออกจากบ้าน แต่ก็ไม่ทันเพราะอาชิเข้าไปในรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
“ไอ้อาชิ ทางนี้เว้ย” เดลตะโกนเรียกเมื่อเห็นอาชิวิ่งหน้าตั้งผ่านประตูสนามบินเข้ามา
“ไอ้เดล ไอ้ภู ชะเอมอยู่ไหน” อาชิวิ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเดลกับภูด้วยความเหนื่อยหอบ
“กูว่ามึงมาช้าไปว่ะ ชะเอมเข้าไปข้างในแล้ว” เดลบอกด้วยใบหน้าเศร้า ๆ
“แล้วทำไมมึงไม่บอกให้ชะเอมรอกูก่อน” อาชิพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ
“กูบอกแล้ว แต่...”
“พี่อาชิ” เสียงหวาน ๆ ของชะเอมดังขึ้น
“ชะเอม” อาชิวิ่งเข้าไปกอดชะเอมทันที
“พะ... พี่อาชิเป็นอะไรคะ” ชะเอมถามด้วยความงุนงง พลางมองหน้าเดลกับภูอย่างต้องการคำตอบ แต่ 2 คนนั้นก็เอาแต่ยืนหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาเล็ด
“ชะเอม ทำไมถึงไม่บอกฉัน เธอจะไปโดยไม่บอกฉันจริง ๆ เหรอ” อาชิเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ยังกอดชะเอมไว้แน่น
“บอก ? บอกอะไร”
“ถ้าไม่มีฮีโร่อย่างฉัน แล้วใครจะปกป้องเธอ ถ้าเธอถูกคนอื่นแกล้งใครจะคอยช่วยเธอ แล้วถ้าฉันบาดเจ็บใครจะทำแผลให้ ไหนเธอบอกจะเป็นหมอที่คอยทำแผลให้ฉัน แล้วทำไมเธอต้องไป”
“เอมแค่มาส่งพ่อกับแม่กลับอเมริกา แล้วเอมก็กำลังจะกลับไปติวหนังสือกับพี่อาชิ ภู แล้วก็เดลไงคะ อย่าบอกนะว่าพี่อาชิคิดว่าเอมจะไปอเมริกา”
“ตกลงชะเอมไม่ได้ไปอเมริกาหรอกเหรอ”
“ไม่ได้ไปค่ะ”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงหัวเราะของสองเพื่อนรักภูกับเดลดังลั่นเมื่อหลอกอาชิได้สำเร็จ
“ไอ้เชี่ยเดล ไอ้เชี่ยภู มึง 2 ตัวหลอกกู” อาชิพูดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน มองหน้าสองเพื่อนรักอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“กูไม่เกี่ยวนะเว้ย ไอ้เดลมันเป็นคนคิดแล้วก็ทำเองทั้งหมด” ภูบอกพลางดันเดลไปยืนข้างหน้า
“อ้าวไอ้เชี่ยภู ทำไมมึงทิ้งกูกลางทางวะ”
“มึงได้ตายคาตีนกูแน่” อาชิบอกพร้อมทั้งวิ่งเข้าใส่เดลอย่างเอาเรื่อง
“ชะเอมช่วยเดลด้วย” เดลวิ่งไปหลบหลังชะเอม
“ไอ้เดล มึงปล่อยมือออกจากตัวชะเอมเดี๋ยวนี้”
“กูปล่อยแล้ว แต่มึงอย่าทำอะไรกูนะ กูแค่ล้อมึงเล่นเฉย ๆ” เดลยกสองมือขึ้นอย่างยอมแพ้
“ล้อเล่นเหรอ ไอ้เพื่อนเวร”
“กลับกันเถอะค่ะ จะได้รีบไปติวหนังสือ” ชะเอมพูดขึ้นเมื่อรู้สึกว่ากำลังเป็นจุดสนใจของทุกคนที่กำลังจ้องมองมายังกลุ่มของพวกเธอ
“ฝากไว้ก่อนนะมึง 2 ตัว เล่นใหญ่นักนะมึง” อาชิชี้หน้าคาดโทษเพื่อนรักทั้งสอง ก่อนจะจูงมือชะเอมออกไปจากสนามบิน
“เป็นไงมึง เกือบได้ตายคาตีนไอ้อาชิละ”
“เชี่ย เวลาโมโหน่ากลัวฉิบ”
“อื้ออออ... เสียว... เอมเสียว... อ๊า... พี่อาชิเบา ๆ ซี้ดดด” ร่างบางครางดังขึ้นเมื่อโดนคนตัวโตลงลิ้นเลียแล้วดูดหนักขึ้น กลีบอวบอูม 2 ข้างโดนแบะออกด้วยสองมือที่แยกมันออกจากกันเพื่อให้ตนเองแยงลิ้นเข้าไปในโพรงหวานได้ถนัดลิ้นร้อนห่อตัวแล้วแยงเข้าไปในโพรงเนื้อหวานด้านในแล้วคลายลิ้นออกในรูเนื้อหวานพร้อมอ้าปากกว้างงาบงับเอากลีบอูมเข้าไปในปาก แต่เขาก็ยังเอาเข้าปากไม่หมดด้วยความอวบใหญ่ของพูเนื้อ“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... เสียว... ซี้ดดดดด... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางร้องครางเสียงดังเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ปานจะขาดใจ ร่างแกร่งกระชับสะโพกมนเข้าหาใบหน้าตนเองให้ใกล้ขึ้น ล็อกไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้ร่างบางดิ้นหนี“อ๊า... ซี้ดดดดด... พี่อาชิ... อ๊า... อ๊ายยยยยย” ร่างบางเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมปล่อยน้ำหวานมากมายออกมา โพรงเนื้อหวานข้างในกระตุกตอดลิ้นร้อนถี่ ๆ ร่างแกร่งลงลิ้นเลียกลีบอวบไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำหวานของร่างบางที่หลั่งออกมาอย่างมากเข้าปากกินให้หมดไม่เหลือสักหยด ไม่ปล่อยให้หยดลงโซฟาด้วย“ตาพี่บ้างนะ” ร่างแกร่งบอก มือหนากอบกุมแก่นกายใหญ่ของตนเอง รูดขึ้นรูดลง 2-3 ทีแล้วนำม
“อ๊า... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางอดรนทนไม่ไหวร้องครางออกมาเมื่อร่างสูงใช้ฝ่ามือหนากดร่างของเธอให้นอนแนบที่โซฟาตัวยาว แล้วคร่อมทับ แหวกแยกขาเรียวสวยแยกออกจากกัน ถลกกระโปรงขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบ มือหนาสอดเข้าไปลูบไล้ที่ดอกไม้งามที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วลูกไม้สีดำปกคลุมเอาไว้นิ้วแกร่งสอดเข้าไปในร่องรักแล้วชักเข้าออกรัว ๆ ตามแรงอารมณ์จนร่างบางรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งกายจนแทบขาดใจ เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมา“หึ ๆ เสร็จแล้ว ใครกันแน่ที่หื่น” ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้าหวานที่นอนหายใจหอบล่องลอยเมื่อถึงฝั่งฝัน“พี่อาชินั่นแหละ ลุกออกไปเลย” เสียงหวานเอ่ยเถียงพลางมองค้อนเขา“ได้ไง เอมเสร็จแต่พี่ยังไม่เสร็จเลยนะ ไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ” มือหนาคว้ามือบางไปจับที่เป้ากางเกงของเขา“พี่อาชิ !” มือบางพยายามชักมือออกเมื่อสัมผัสโดนความใหญ่โตที่แข็งขืนซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงของเขา“อะไร ยังไม่ชินกับของผัวอีกเหรอ หืม ?” ใบหน้าคมโน้มหน้าลง ปลายจมูกโด่งและปากลงไปที่ลำคอขาวผ่องที่หอมหวานน่าจูบน่าไซ้น่าดูดเป็นที่สุด“ใครจะไปชินกับความหื่นของพี่อาชิกันเล่า”“ก็เอมไง เอมคนเดียวเท่านั้น” พูดจบริมฝีปากหนาประท
“มีอะไรกัน” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น“ก็เด็กพวกนี้น่ะสิ มารังแกลูกของเรา” แม่ของเด็กผู้ชาย 2 คนบอก“จริงเหรอครับธาม ธันน์” พ่อของเด็กผู้ชาย 2 คนนั้นหันไปถามลูกชายตนเอง“ผมกับธันน์ผลักน้องของเธอลงมาก่อนครับ เธอเลยต่อยหน้าผมกับธันน์ แล้วเธอก็ถีบผมลงมาจากสไลเดอร์” ธามบอกแล้วชี้ไปที่บัว คนที่ถีบตนเองตกลงมา“ใช่ครับ ผมผลักน้องคนนี้ก่อน แล้วเธอก็เข้ามาผลักผมตกลงมา” ธันน์บอกแล้วชี้ฟ้าใส คนที่ผลักตนเองตกลงมา“ว่าไงคุณ ไหนบอกว่าลูกเขารังแกลูกเรา”“ก็ใครเห็นแบบที่ฉันเห็นก็ต้องคิดแบบฉันทั้งนั้น”“ทางที่ดีคุณควรถามลูกของคุณก่อนที่จะมาโวยวายเป็นผีบ้าแบบนี้” แบมว่า“นี่...”“คุณหยุด... ผมต้องขอโทษแทนลูกชายทั้ง 2 คนกับภรรยาของผมด้วยนะครับ หรือว่าพวกคุณจะให้ผมลงโทษลูกของผมที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็บอกผมมาได้เลยครับ” ผู้ชายที่เป็นพ่อเด็กผู้ชาย 2 คนเอ่ยห้ามภรรยาตนเอง แล้วเอ่ยปากขอโทษพลางก้มหัวให้“คงไม่ต้องถึงขั้นลงโทษอะไรกันหรอกค่ะ” ชะเอมบอก“ขอบคุณครับ ผมจะกลับไปอบรมลูกชายทั้ง 2 คนของผมให้ดี ธาม ธันน์”“ขอโทษครับ” เด็กผู้ชายสองคนเอ่ยปากขอโทษพร้อมทั้งก้มหัวให้“ผมต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นอ
ตอนนี้โรงงานผลิตยาของครอบครัวแบมเติบโตและยิ่งใหญ่มากขึ้น มีออร์เดอร์จากนานาประเทศ มียอดส่งออกยาหลายร้อยล้านบาทต่อปี เพราะคุณอัณณพยื่นมือเข้าไปช่วยเรื่องการตลาด และด้วยฝีมือการบริหารงานของพี่ชายทั้ง 3 คนของแบมที่ทุ่มเททำอย่างเต็มที่คุณอัณณพเห็นว่าสายฟ้ากับแบมเป็นหมอทั้งคู่ จึงให้สายฟ้าเปิดโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ในเมื่อรักในวิชาชีพนี้แล้วคนเป็นพ่อก็พร้อมสนับสนุนและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจไปในตัว“จริง ๆ ก็ยังไม่ค่อยพร้อมหรอก แต่เลือกที่จะเดินทางนี้แล้วมันก็ต้องไปให้สุด เหมือนมึงไงที่กลายเป็นผู้บริหารแทนไท คอร์ปอเรชันที่ประสบความสำเร็จ ทำให้แทนไท คอร์ปอเรชันยิ่งใหญ่กว่าเดิม”“ฝีมือกูคนเดียวเสียเมื่อไหร่ น้องกูด้วย”“รวมถึงน้องเขยด้วยสินะ” สายฟ้ายกยิ้มเมื่อพูดถึงน้องเขยของอาชิ“ก็ต้องรวมสิวะ” อาชิหัวเราะร่า“คุยอะไรกันอยู่คะ” ชะเอมกับแบมเดินกลับมาหาสามี“คุยเรื่องโรงพยาบาลของไอ้สายฟ้า” อาชิรั้งตัวของภรรยาคนสวยมานั่งที่ตักแกร่ง“จริงสิ เดือนหน้าโรงพยาบาลก็จะเสร็จแล้วนี่นา ผอ.รามสูร รับสมัครหมอเพิ่มอีกสักคนไหมคะ”“จะยินดีมากถ้าแพทย์หญิงพรรณวรทไปเป็นหมอที่โรงพยาบาล แต่ท่าทางจะยากเพราะมีผัวขี้
“พี่บัวขา น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ พี่ฟ้าใสมาหาแล้ว” เสียงใส ๆ ของเรนิตาดังลั่นบ้านของแทนไท “ฟ้าใสวิ่งช้า ๆ สิคะ” แบมเอ่ยปรามลูกสาว“ถ้าช้าก็ไม่เรียกวิ่งสิคะคุณแม่” เท้าเล็ก ๆ หยุดวิ่ง หันมาบอกคนเป็นแม่หน้าทะเล้น“ฟ้าใสย้อนคุณแม่เหรอคะ” แบมตะโกนว่า แต่เรนิตาก็วิ่งเข้าบ้านไป ไม่ได้สนใจเสียงของคนเป็นแม่“เค้าว่าลูกพูดถูกนะ” สายฟ้าพูด“บี๋คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม” แบมหันหน้ามาว่าคนเป็นสามี“บี๋อยากเป็นม่ายเหรอ” สายฟ้าถามหน้าทะเล้น“อืม เค้าจะได้หาพ่อใหม่ให้ฟ้าใส” แบมพยักหน้าตอบ“อย่าหวังเลย บอกเลยมีตาย ชู้ตายคาตีน เมียตายคาเตียง” สายฟ้าว่าพลางรั้งใบหน้าหวานเข้ามาจูบที่ขมับหนัก ๆ“แต่...” ยังไม่ทันที่แบมจะได้โต้เถียง น้ำเสียงสั่นเครือของลูกสาวก็ดังขึ้น“คุณพ่อขา คุณแม่ขา”“อ้าว ฟ้าใสเป็นอะไรคะ”“ไม่มีใครอยู่เลยค่ะ... ฮึก... ฮึก... พี่บัวไม่อยู่ น้องปุณณ์ไม่อยู่ น้องปัณณ์ไม่อยู่ คุณลุงอาชิกับน้าชะเอมก็ไม่อยู่ คุณปู่แทนคุณย่าพายด้วย”“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง คุณพ่อโทร.ถามลุงอาชิให้นะครับ” สายฟ้าช้อนตัวลูกสาวขึ้นอุ้มแล้วปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม“พี่แกริค สวัสดีค่ะ วันนี้ทุกคนไปไหนกันเหร
“พี่บัวของปุง” ปุณณภพวิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจ เมื่อพี่สาวกลับมาถึงบ้านในเวลาค่ำ“พี่บัวของปังด้วย” ปัณณธรก็วิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจเช่นกัน“น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ของพี่บัว” เอมมาลินกอดแล้วก็หอมแก้มน้องชายฝาแฝดทั้ง 2 คน“จำไมพี่บัวไม่หอมปังก่อง”“ก็ปังเกิดทีหยัง พี่บัวก็ต้องหอมปังทีหยังฉิ” ปุณณภพพูด“ปุงเกิดก่องแป๊บเดียว”“ก็เกิดก่องอยู่ดีป้ะล่ะ”“แต่ปังอยากให้พี่บัวหอมปังก่อง”“ไม่เถียงกันสิคะ เอาแบบนี้ดีกว่า วันนี้พี่บัวหอมน้องปุณณ์ก่อน แต่วันพรุ่งนี้พี่บัวจะหอมน้องปัณณ์ก่อน สลับกันไปคนละวันดีไหม”“ดีฮับ” ปุณณภพ ปัณณธร ตอบพร้อมกัน“กอดแต่พี่บัว ไม่เห็นกอดคุณพ่อบ้างเลย”“กอดฮับ” ลูกชายฝาแฝดตอบและพุ่งตัวเข้าใส่คนเป็นพ่อพร้อมกัน“อุ้ย ! พี่บัวครับ คุณพ่อว่าพายุกำลังจะมา” อาชิกอดลูกชายฝาแฝดก่อนจะเหลือบมองเท้าของผู้หญิงที่เขาจำได้ดี ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนได้สบตากับดวงตาคู่งามที่ตอนนี้กำลังเขม่นมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความกราดเกรี้ยว“พายุอะไรเหรอคะคุณพ่อ อุ้ย ! จริงด้วยค่ะคุณพ่อ พี่บัวว่าไม่น่าจะใช่พายุธรรมดา แต่เป็นทอร์นาโดเลยค่ะ” เอมมาลินเอ่ยถามคนเป็น