“กลัวเอมไปอเมริกาขนาดนั้นเลยเหรอ” ชะเอมหรี่ตามองพร้อมทั้งเอ่ยถามเมื่อเข้ามานั่งในรถสปอร์ตคันหรูของอาชิ แต่เขาก็เอาแต่เมินหน้าหนี ไม่ยอมมองหน้าเธอ
“พูดมาก ขึ้นรถแล้วทำไมไม่คาดเข็มขัด” อาชิไม่ตอบ แต่กลับเอ่ยว่าชะเอมแทน ก่อนจะโน้มตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ
“ถ้าเอมไปอเมริกาจริง ๆ พี่อาชิจะทำยังไง”
“ฉันก็หาแฟนใหม่”
“จริงเหรอ แบบนี้ชะเอมก็เสียใจแย่เลย”
“ก็ถ้าเธอจะทิ้งฉันไปจริง ๆ เธอคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว แล้วเธอก็คงจะไม่รู้สึกเสียใจด้วย แล้วทำไมฉันจะหาแฟนใหม่ไม่ได้” ทั้งน้ำเสียงและสายตาของเขาช่างดูเย็นชาจนคนฟังหัวใจกระตุกวูบ
“เย็นชาจัง... อุ๊บ !” ดวงตาของชะเอมเบิกกว้างทันทีเมื่ออาชิรั้งใบหน้าของเธอไว้แล้วประกบปากจูบเธออย่างดูดดื่ม
“ต้องให้ทำแบบนี้ใช่ไหมถึงจะเรียกว่าไม่เย็นชา” ชะเอมก้มหน้างุด เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นเพื่อหลีกหนีสายตาของอาชิ
“...”
“ตอบ”
“เรารีบไปติวหนังสือกันดะ... อื้อออ” เมื่อเธอบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ เขาก็ประกบปากจูบเธออีกครั้ง และครั้งนี้ก็เนิ่นนานกว่าเดิม
ก๊อก ๆ ๆ
“ทำไมยังไม่ออกรถกัน มีอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมชะเอมหน้าแดงขนาดนั้น ไม่สบายเหรอ” ภูเอ่ยถามเมื่อกระจกรถเลื่อนลง
“อะ... เอมไม่ได้เป็นอะไร เรารีบไปกันเถอะ”
“มึงนำไปก่อนเลย” อาชิบอก
“เจ้าของบ้านก็ต้องนำไปก่อนดิวะ”
“มึงพูดเหมือนมึงไม่เคยไปบ้านกู เออ ๆ รีบตามมาละกัน” พูดจบก็เลื่อนกระจกปิดทันที แล้วเคลื่อนรถออกไปด้วยความเร็วพอสมควร
“ฉันจะมีเธอเป็นแฟนเพียงคนเดียว ถ้าเธอทิ้งฉันไปอเมริกาจริง ๆ ฉันก็จะไปตามเธอกลับมา ถ้าเธอไม่ยอมกลับ ฉันก็จะเป็นฝ่ายไปอยู่กับเธอแทน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้คนฟังรู้สึกใจชื้นและยิ้มออกมา
“เธอตามติดชีวิตฉันมาเป็นสิบปี นับจากนี้ไปฉันจะไม่มีวันให้เธอออกไปจากชีวิตของฉันอีกแล้ว ถ้าเธออยากออกฉันก็จะขังเธอไว้ จองจำเธอไปตลอดชีวิต”
“ทำไมฟังดูน่ากลัวจัง”
“ฉันให้โอกาสเธอ ถ้าเธอไม่อยากมีฉันอยู่ในชีวิตของเธอก็ขอให้บอก เมื่อบอกแล้วเธอก็เดินออกไปจากชีวิตของฉันได้เลย”
“แฟนของชะเอมชื่ออินทัชค่ะ”
“ฉันถือว่าเธอเลือกแล้วนะ”
“ค่ะ แต่พี่อาชิห้ามจูบเอมอีกนะ”
“ทำไม ?”
“เรายังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม”
“ถ้างั้นพอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ทำได้ งั้นสิ ?”
“มันก็ยังไม่สมควรเหมือนกัน”
“แต่ฉันจะทำ ถ้าฉันอยากจูบเธอ ฉันก็จะจูบ แล้วอาจจะทำมากกว่านั้นด้วย”
“พะ... พูดอะไรเนี่ย”
“หึ”
“แม่พายก็นึกว่ารีบร้อนออกไปไหน ที่แท้ก็ไปรับชะเอมนี่เอง” พรพระพายพูดขึ้นเมื่ออาชิจูงมือชะเอมเข้ามาในบ้าน
“สวัสดีค่ะ” ชะเอมยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีจ้ะ แล้ววันนี้ภูกับเดลไม่มาด้วยเหรอ”
“มาครับ นั่นไง” อาชิบอกพลางมองไปที่รถของเดลที่ขับเข้ามาในบริเวณบ้าน
“สวัสดีครับแม่พาย” เดลกับภูยกมือไหว้พรพระพายพร้อมกันเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน
“สวัสดีจ้ะ แล้วจะติวหนังสือกันตรงไหน แม่พายจะได้ให้แม่บ้านยกขนมกับน้ำไปให้”
“น่าจะศาลาริมน้ำครับ แล้วแฝดกับอธิไปไหนครับ” อาชิบอกก่อนที่จะถามหาน้องสาวและน้องชาย เพราะรู้สึกว่าวันนี้บ้านดูเงียบผิดปกติ
“ตามบอดีการ์ดไปส่งป้าแช่มที่สนามบิน พ่อแทนเห็นป้าแช่มบ่นคิดถึงน้องไนท์เลยให้ไปพักผ่อนหาหลานสาวที่ภูเก็ต”
“ครับ งั้นอาชิพาเพื่อนไปติวหนังสือกันก่อนนะครับ รักแม่พายนะครับ” พูดจบอาชิก็เข้าไปหอมแก้มนวลทั้ง 2 ข้างของพรพระพายอย่างที่เขามักทำเป็นประจำทุกวัน
“แม่พายก็รักอาชิค่ะ ตามสบายกันนะเด็ก ๆ” พรพระพายส่งยิ้มอย่างใจดีให้เพื่อน ๆ ของอาชิก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
“ครับ / ครับ / ค่ะ” ภู เดล ชะเอม พูดพร้อมกัน
“กี่ปี ๆ แม่พายของมึงก็ยังสวย” เดลพูดตามความรู้สึก ด้วยสายตาราวกับหลงเสน่ห์ในตัวของพรพระพาย
“มึงไปพูดใกล้ ๆ พ่อแทน แล้วมึงก็ทำหน้าแบบนี้ด้วยนะ” ภูพูด
“กูยังไม่อยากตาย ตีนลูกว่าหนักแล้ว ถ้าเจอตีนพ่อกูว่ากูคงจบชีวิต”
“มึง 2 คนไปรอที่ศาลาริมน้ำเลย กูไปเอาหนังสือในห้องกับชะเอมก่อน”
“แล้วทำไมต้องให้ชะเอมไปกับมึง เดี๋ยวกูไปกับมึงเองก็ได้” เดลถาม
“เรื่องของกู” อาชิบอกก่อนจะจูงมือชะเอมขึ้นไปบนห้องนอน
“ไปเอาหนังสือนะเว้ย ไม่ใช่ไปเอาอย่างอื่น” เดลพูดตามหลัง ซึ่งอาชิก็ชูนิ้วกลางให้โดยไม่ได้หันกลับไปมอง
“อื้ออออ... เสียว... เอมเสียว... อ๊า... พี่อาชิเบา ๆ ซี้ดดด” ร่างบางครางดังขึ้นเมื่อโดนคนตัวโตลงลิ้นเลียแล้วดูดหนักขึ้น กลีบอวบอูม 2 ข้างโดนแบะออกด้วยสองมือที่แยกมันออกจากกันเพื่อให้ตนเองแยงลิ้นเข้าไปในโพรงหวานได้ถนัดลิ้นร้อนห่อตัวแล้วแยงเข้าไปในโพรงเนื้อหวานด้านในแล้วคลายลิ้นออกในรูเนื้อหวานพร้อมอ้าปากกว้างงาบงับเอากลีบอูมเข้าไปในปาก แต่เขาก็ยังเอาเข้าปากไม่หมดด้วยความอวบใหญ่ของพูเนื้อ“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... เสียว... ซี้ดดดดด... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางร้องครางเสียงดังเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ปานจะขาดใจ ร่างแกร่งกระชับสะโพกมนเข้าหาใบหน้าตนเองให้ใกล้ขึ้น ล็อกไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้ร่างบางดิ้นหนี“อ๊า... ซี้ดดดดด... พี่อาชิ... อ๊า... อ๊ายยยยยย” ร่างบางเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมปล่อยน้ำหวานมากมายออกมา โพรงเนื้อหวานข้างในกระตุกตอดลิ้นร้อนถี่ ๆ ร่างแกร่งลงลิ้นเลียกลีบอวบไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำหวานของร่างบางที่หลั่งออกมาอย่างมากเข้าปากกินให้หมดไม่เหลือสักหยด ไม่ปล่อยให้หยดลงโซฟาด้วย“ตาพี่บ้างนะ” ร่างแกร่งบอก มือหนากอบกุมแก่นกายใหญ่ของตนเอง รูดขึ้นรูดลง 2-3 ทีแล้วนำม
“อ๊า... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางอดรนทนไม่ไหวร้องครางออกมาเมื่อร่างสูงใช้ฝ่ามือหนากดร่างของเธอให้นอนแนบที่โซฟาตัวยาว แล้วคร่อมทับ แหวกแยกขาเรียวสวยแยกออกจากกัน ถลกกระโปรงขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบ มือหนาสอดเข้าไปลูบไล้ที่ดอกไม้งามที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วลูกไม้สีดำปกคลุมเอาไว้นิ้วแกร่งสอดเข้าไปในร่องรักแล้วชักเข้าออกรัว ๆ ตามแรงอารมณ์จนร่างบางรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งกายจนแทบขาดใจ เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมา“หึ ๆ เสร็จแล้ว ใครกันแน่ที่หื่น” ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้าหวานที่นอนหายใจหอบล่องลอยเมื่อถึงฝั่งฝัน“พี่อาชินั่นแหละ ลุกออกไปเลย” เสียงหวานเอ่ยเถียงพลางมองค้อนเขา“ได้ไง เอมเสร็จแต่พี่ยังไม่เสร็จเลยนะ ไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ” มือหนาคว้ามือบางไปจับที่เป้ากางเกงของเขา“พี่อาชิ !” มือบางพยายามชักมือออกเมื่อสัมผัสโดนความใหญ่โตที่แข็งขืนซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงของเขา“อะไร ยังไม่ชินกับของผัวอีกเหรอ หืม ?” ใบหน้าคมโน้มหน้าลง ปลายจมูกโด่งและปากลงไปที่ลำคอขาวผ่องที่หอมหวานน่าจูบน่าไซ้น่าดูดเป็นที่สุด“ใครจะไปชินกับความหื่นของพี่อาชิกันเล่า”“ก็เอมไง เอมคนเดียวเท่านั้น” พูดจบริมฝีปากหนาประท
“มีอะไรกัน” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น“ก็เด็กพวกนี้น่ะสิ มารังแกลูกของเรา” แม่ของเด็กผู้ชาย 2 คนบอก“จริงเหรอครับธาม ธันน์” พ่อของเด็กผู้ชาย 2 คนนั้นหันไปถามลูกชายตนเอง“ผมกับธันน์ผลักน้องของเธอลงมาก่อนครับ เธอเลยต่อยหน้าผมกับธันน์ แล้วเธอก็ถีบผมลงมาจากสไลเดอร์” ธามบอกแล้วชี้ไปที่บัว คนที่ถีบตนเองตกลงมา“ใช่ครับ ผมผลักน้องคนนี้ก่อน แล้วเธอก็เข้ามาผลักผมตกลงมา” ธันน์บอกแล้วชี้ฟ้าใส คนที่ผลักตนเองตกลงมา“ว่าไงคุณ ไหนบอกว่าลูกเขารังแกลูกเรา”“ก็ใครเห็นแบบที่ฉันเห็นก็ต้องคิดแบบฉันทั้งนั้น”“ทางที่ดีคุณควรถามลูกของคุณก่อนที่จะมาโวยวายเป็นผีบ้าแบบนี้” แบมว่า“นี่...”“คุณหยุด... ผมต้องขอโทษแทนลูกชายทั้ง 2 คนกับภรรยาของผมด้วยนะครับ หรือว่าพวกคุณจะให้ผมลงโทษลูกของผมที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็บอกผมมาได้เลยครับ” ผู้ชายที่เป็นพ่อเด็กผู้ชาย 2 คนเอ่ยห้ามภรรยาตนเอง แล้วเอ่ยปากขอโทษพลางก้มหัวให้“คงไม่ต้องถึงขั้นลงโทษอะไรกันหรอกค่ะ” ชะเอมบอก“ขอบคุณครับ ผมจะกลับไปอบรมลูกชายทั้ง 2 คนของผมให้ดี ธาม ธันน์”“ขอโทษครับ” เด็กผู้ชายสองคนเอ่ยปากขอโทษพร้อมทั้งก้มหัวให้“ผมต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นอ
ตอนนี้โรงงานผลิตยาของครอบครัวแบมเติบโตและยิ่งใหญ่มากขึ้น มีออร์เดอร์จากนานาประเทศ มียอดส่งออกยาหลายร้อยล้านบาทต่อปี เพราะคุณอัณณพยื่นมือเข้าไปช่วยเรื่องการตลาด และด้วยฝีมือการบริหารงานของพี่ชายทั้ง 3 คนของแบมที่ทุ่มเททำอย่างเต็มที่คุณอัณณพเห็นว่าสายฟ้ากับแบมเป็นหมอทั้งคู่ จึงให้สายฟ้าเปิดโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ในเมื่อรักในวิชาชีพนี้แล้วคนเป็นพ่อก็พร้อมสนับสนุนและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจไปในตัว“จริง ๆ ก็ยังไม่ค่อยพร้อมหรอก แต่เลือกที่จะเดินทางนี้แล้วมันก็ต้องไปให้สุด เหมือนมึงไงที่กลายเป็นผู้บริหารแทนไท คอร์ปอเรชันที่ประสบความสำเร็จ ทำให้แทนไท คอร์ปอเรชันยิ่งใหญ่กว่าเดิม”“ฝีมือกูคนเดียวเสียเมื่อไหร่ น้องกูด้วย”“รวมถึงน้องเขยด้วยสินะ” สายฟ้ายกยิ้มเมื่อพูดถึงน้องเขยของอาชิ“ก็ต้องรวมสิวะ” อาชิหัวเราะร่า“คุยอะไรกันอยู่คะ” ชะเอมกับแบมเดินกลับมาหาสามี“คุยเรื่องโรงพยาบาลของไอ้สายฟ้า” อาชิรั้งตัวของภรรยาคนสวยมานั่งที่ตักแกร่ง“จริงสิ เดือนหน้าโรงพยาบาลก็จะเสร็จแล้วนี่นา ผอ.รามสูร รับสมัครหมอเพิ่มอีกสักคนไหมคะ”“จะยินดีมากถ้าแพทย์หญิงพรรณวรทไปเป็นหมอที่โรงพยาบาล แต่ท่าทางจะยากเพราะมีผัวขี้
“พี่บัวขา น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ พี่ฟ้าใสมาหาแล้ว” เสียงใส ๆ ของเรนิตาดังลั่นบ้านของแทนไท “ฟ้าใสวิ่งช้า ๆ สิคะ” แบมเอ่ยปรามลูกสาว“ถ้าช้าก็ไม่เรียกวิ่งสิคะคุณแม่” เท้าเล็ก ๆ หยุดวิ่ง หันมาบอกคนเป็นแม่หน้าทะเล้น“ฟ้าใสย้อนคุณแม่เหรอคะ” แบมตะโกนว่า แต่เรนิตาก็วิ่งเข้าบ้านไป ไม่ได้สนใจเสียงของคนเป็นแม่“เค้าว่าลูกพูดถูกนะ” สายฟ้าพูด“บี๋คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม” แบมหันหน้ามาว่าคนเป็นสามี“บี๋อยากเป็นม่ายเหรอ” สายฟ้าถามหน้าทะเล้น“อืม เค้าจะได้หาพ่อใหม่ให้ฟ้าใส” แบมพยักหน้าตอบ“อย่าหวังเลย บอกเลยมีตาย ชู้ตายคาตีน เมียตายคาเตียง” สายฟ้าว่าพลางรั้งใบหน้าหวานเข้ามาจูบที่ขมับหนัก ๆ“แต่...” ยังไม่ทันที่แบมจะได้โต้เถียง น้ำเสียงสั่นเครือของลูกสาวก็ดังขึ้น“คุณพ่อขา คุณแม่ขา”“อ้าว ฟ้าใสเป็นอะไรคะ”“ไม่มีใครอยู่เลยค่ะ... ฮึก... ฮึก... พี่บัวไม่อยู่ น้องปุณณ์ไม่อยู่ น้องปัณณ์ไม่อยู่ คุณลุงอาชิกับน้าชะเอมก็ไม่อยู่ คุณปู่แทนคุณย่าพายด้วย”“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง คุณพ่อโทร.ถามลุงอาชิให้นะครับ” สายฟ้าช้อนตัวลูกสาวขึ้นอุ้มแล้วปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม“พี่แกริค สวัสดีค่ะ วันนี้ทุกคนไปไหนกันเหร
“พี่บัวของปุง” ปุณณภพวิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจ เมื่อพี่สาวกลับมาถึงบ้านในเวลาค่ำ“พี่บัวของปังด้วย” ปัณณธรก็วิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจเช่นกัน“น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ของพี่บัว” เอมมาลินกอดแล้วก็หอมแก้มน้องชายฝาแฝดทั้ง 2 คน“จำไมพี่บัวไม่หอมปังก่อง”“ก็ปังเกิดทีหยัง พี่บัวก็ต้องหอมปังทีหยังฉิ” ปุณณภพพูด“ปุงเกิดก่องแป๊บเดียว”“ก็เกิดก่องอยู่ดีป้ะล่ะ”“แต่ปังอยากให้พี่บัวหอมปังก่อง”“ไม่เถียงกันสิคะ เอาแบบนี้ดีกว่า วันนี้พี่บัวหอมน้องปุณณ์ก่อน แต่วันพรุ่งนี้พี่บัวจะหอมน้องปัณณ์ก่อน สลับกันไปคนละวันดีไหม”“ดีฮับ” ปุณณภพ ปัณณธร ตอบพร้อมกัน“กอดแต่พี่บัว ไม่เห็นกอดคุณพ่อบ้างเลย”“กอดฮับ” ลูกชายฝาแฝดตอบและพุ่งตัวเข้าใส่คนเป็นพ่อพร้อมกัน“อุ้ย ! พี่บัวครับ คุณพ่อว่าพายุกำลังจะมา” อาชิกอดลูกชายฝาแฝดก่อนจะเหลือบมองเท้าของผู้หญิงที่เขาจำได้ดี ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนได้สบตากับดวงตาคู่งามที่ตอนนี้กำลังเขม่นมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความกราดเกรี้ยว“พายุอะไรเหรอคะคุณพ่อ อุ้ย ! จริงด้วยค่ะคุณพ่อ พี่บัวว่าไม่น่าจะใช่พายุธรรมดา แต่เป็นทอร์นาโดเลยค่ะ” เอมมาลินเอ่ยถามคนเป็น