Chapter 4
'ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ'
.
.
"ทำไมถึงทำแบบนี้ มันจะหักห้ามใจไม่ไหวเลยหรือไง"
"คุณเสกใจเย็น ๆ ค่ะ" ทิพย์รีบห้ามเสกที่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของกันต์
"จะให้ใจเย็นได้ยังไงดูมันทำสิ!" เสกง้างหมัดจะต่อยลูกชายแต่ทิพย์ก็รีบดึงแขนเอาไว้
"อย่าค่ะคุณเสก ทิพย์ขอ"
"ก็แค่แม่เลี้ยงไม่ต้องมาปกป้องหรอก"
"โอ๊ย!" กันต์ผลักตัวทิพย์ออกไปจนเธอถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า
"จะมากไปแล้วนะเจ้ากันต์ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแกมา" ย่าแรมรีบเข้ามาห้ามหลาน
"ยกยอกันเข้าไปก็แค่คนใช้ตกถังข้าวสาร" แต่กันต์ก็ยังคงหันไปดูถูกทิพย์ที่เคยเป็นเพียงสาวรับใช้ในบ้านต่อ
"แต่แกอย่าลืมสิว่าแกเองก็กำลังจะจับคนใช้ทำเมียเหมือนกัน" เสกหันไปมองมัทนาที่หมดสติอยู่บนเตียง
"แต่ผมคงจะไม่ยกย่องเชิดชูพวกสกุนต่ำขึ้นมาเป็นเมียแต่งหรอก อย่างดีก็แค่ของไว้คอยหยิบจับเล่นก็เท่านั้น" ว่าจบกันต์ก็หันตัวเดินออกจากห้องไป
"ไอ้กันต์!"
"พอเถอะค่ะคุณเสกอย่าให้มันบานปลายไปมากกว่านี้เลย" ทิพย์รีบห้ามเสกที่กำลังฉุนลูกชายจนเลือดขึ้นหน้า
"ใช่ ปล่อยเจ้ากันต์มันเถอะ พวกคนหนุ่มมันก็แบบเนี่ยควบคุมตัวเองยังไม่ได้" ย่าแรมพูดก่อนจะหันตัวเดินไปหามัทนา มือเหี่ยวลูบไล้ไปตามเนื้อขาวเต่งตึง
"เนื้อสาวนี่มันดีจริง ๆ เต่งตึงน่าจับ ไม่เหมือนคนแก่เนื้อเหี่ยว ๆ แบบฉัน"
"ดูท่ากันต์คงไม่ยอมรามือแน่ ขืนปล่อยไว้คงได้ทำร้ายมัทนาอีก อาจจะพลั้งมือจนเธอตายเหมือนคนอื่น ๆ อีก" ทิพย์พูดขึ้นอย่างหนักใจ
"งั้นเราก็ต้องทำให้เธอยอม" เสกกล่าว
"ยอม? หมายความว่ายังไงคะ?" ทิพย์ถามอย่างไม่เข้าใจ
"ไปเตรียมว่านมหาเสน่ห์ให้ฉันที
"นี่เราต้องใช้วิธีนี้กันจริง ๆ เหรอคะ?"
"ถ้าปล่อยไปเธออาจจะตายก็ได้" คำพูดของเสกมันทำให้ทิพย์ไม่มีทางเลือกเพราะเธอเองก็อยากช่วยชีวิตมัทนาถ้าปล่อยให้กันต์เข้าหามัทนาเองมีหวังคงได้พลาดพลั้งฆ่าแม่นกน้อยตัวนี้ตายเข้าสักวัน
ทางด้านของกันต์ที่เดินออกมาด้านนอก ชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในป่าที่ติดกับบ้าน เขาทุบตีไปตามต้นไม้ด้วยความโมโหจนมันสั่นไหว นกน้อยแตกรังร้องจ้าไปทั่วป่า ทำเอาสัตว์อื่นพากันเตลิดวิ่งหนีเช่นกัน
"อะไรของมันวะอยู่ดี ๆ นกก็แตกรัง"
แต่กลับมีเสียงตะโกนดังออกมาจากด้านในป่าเหมือนการที่กันต์ระบายอารมณ์กับต้นไม้ใบหญ้ามันจะทำให้กลุ่มคนบางคนไม่พอใจเพราะสัตว์ที่กำลังล่าตื่นตกใจเสียงนกจนวิ่งหนีไป แต่เหมือนเสียงนั้นจะทำให้กันต์สนใจเพราะเขากำลังหาที่ระบายอารมณ์อยู่พอดี
"แม่งเอ๊ยกูกำลังจะยิงกวาง อึก!"
ยังไม่ทันจะพูดจบนายพรานคนที่หมายมั่นจะยิงกวางก็ถูกมือใหญ่แทงจากด้านหลังทะลุออกมาถึงด้านหน้า เลือดสีสดไหลพุ่งสาดกระจายไปทั่วบริเวณก่อนที่ร่างกายนั้นจะถูกฉีกออกจากกันเป็นสองซีก เครื่องในไหลทะลักออกมากองที่พื้นอย่างน่าสยดสยอง
"ตัวอะไรวะเนี่ย!"
เมื่อเพื่อนนายพรานหันมาเห็นก็ต้องตกใจจนสติแทบหลุด แขนขาอ่อนแรงเมื่อสิ่งที่ทำร้ายเพื่อนของพวกเขามีร่างกายที่สูงใหญ่ ดวงตาสีแดงก่ำ ผิวกายสีเข้ม มีเขี้ยวใหญ่งอกออกมาจากปากท่าทางน่ากลัว
"...ยะ...ยักษ์ ยักษ์!" นายพรานอีกคนตะโกนออกมาอย่างสติแตกก่อนจะทิ้งข้าวของทุกอย่างแล้ววิ่งหนีเตลิดออกไปด้วยความหวาดกลัว
"...ระ...รอกู อึก!"
พรานอีกคนเตรียมจะวิ่งตามเพื่อนไปแต่ก็ไม่ทันเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่คว้าตัวเอาไว้ได้ก่อน ร่างนั้นถูกยกจนลอยภายใต้อุ้งมือมัจจุราชก่อนที่ร่างกายจะถูกบีบจนแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณพร้อมเศษชิ้นเนื้อที่กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
ร่างสูงใหญ่ของยักษาค่อย ๆ กลับคืนสภาพเดิมกลายเป็นเหมือนเช่นมนุษย์ทั่วไปแต่ปากยังคงมีเขี้ยวแหลมงอกล้นออกมา กันต์ที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเดินตรงเข้าไปหาศพของนายพรานที่คิดจะมาล่าสัตว์ในอณาเขตของเขา
สองมือเปื้อนเลือกหยิบซากแขนขึ้นมาข้างหนึ่งแล้วลงมือกัดกินเนื้อกระด้างนั้นอย่างกระหายในรสชาติของมนุษย์ที่ห่างเหินมานานถึงแม้ว่ามันจะไม่อ่อนไม่หวานเท่าเนื้อของหญิงสาวที่เขาเคยได้ลิ้มลองแต่นี่ก็พอทดแทนกันได้ในยามที่ร่างกายหิวโหยกลิ่นคาวเลือดของมนุษย์เช่นนี้
"ยักษ์ ยักษ์ ช่วยด้วยยักษ์"
พรานที่รอดชีวิตวิ่งเตลิดออกมาจากป่าตรงเข้ามาในหมู่บ้าน ปากก็ร้องตะโกนเหมือนคนเสียสติจนชาวบ้านต่างพากันออกมาดูด้วยความสงสัยแต่เมื่อได้ยินเสียงร้องว่ายักษ์เหล่าผู้คนก็ต่างพากันหลบเข้าบ้านด้วยความหวาดกลัว ลูกเล็กเด็กแดงร้องงอแงกันขึ้นมา หัวหน้าหมู่บ้านที่มีหน้าที่ดูแลความสงบสุขจึงต้องเป็นคนเดินเข้าไปห้ามปรามพรานป่าคนนั้นไม่ให้ตะโกนคำว่ายักษ์ออกมาให้ชาวบ้านหวาดกลัวอีก
"พอแล้วไอ้หนุ่ม เกิดอะไรขึ้น?" ไกรศักดิ์หัวหน้าหมู่บ้านถามไป
"...ชะ...ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย ยักษ์มันจะฆ่าฉัน"
"ยักษ์เยิกอะไรคงตาฝาดเห็นต้นไม้สูงมากกว่า"
"...ผะ...ผมไม่ได้ตาฝาดนะลุง มันฆ่าเพื่อนผม ศพอยู่ตีนเขานู้น" พรานป่าชี้นิ้วไปยังจุดเกิดเหตุ
"ใจเย็นก่อนนะ ไปสงบสติอารมณ์ในบ้านฉันก่อน"
"...มะ...ไม่ ผมไม่อยู่ที่นี่แล้ว"
"อ๊ะ! " หัวหน้าหมู่บ้านถูกพรานป่าผลักจนเกือบล้มก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบวิ่งหนีออกไปอย่างคนเสียสติ เอาแต่ร้องตะโกนคำว่ายักษ์แบบนั้นไปตลอดทาง
"เกิดอะไรขึ้นเหรอพี่?" น้อยภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเดินเข้ามาถามพร้อมชาวบ้านอีก 4-5 คน
"มันบอกว่าเจอยักษ์ บอกว่ายักษ์ฆ่าเพื่อนมันไป”
"ห้ะ! ...จะ...จริงเหรอพี่"
"จริงสิ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูศพหน่อยว่ามีจริงอย่างมันว่าไหม"
"ยักษ์มันมีจริงเหรอพ่อ?" อรดีลูกสาวของไกรศักดิ์ถามขึ้น
"ไม่หรอก ไร้สาระถ้ามีป่านนี้มันมาจับแกกินไปแล้ว"
"แต่พ่อเพิ่งพูดว่าผู้ชายคนนั้นเจอยักษ์?"
"มันคงหลอนเพราะเห็ดเมา ไม่งั้นก็ผลไม้มีพิษ กลัวว่ามันจะฆ่าเพื่อนมันเองแล้วหลอนเป็นยักษ์มากกว่า" ไกรศักดิ์พูดก่อนจะหันไปมองชาวบ้าน "พวกเอ็งก็ไปทำงานทำการกันได้แล้ว มีงานอะไรก็ไปทำ"
"ฉันบอกแล้วว่าบนเขากุมภกรรณมันมียักษ์" ชาวบ้านที่พากันเดินแยกย้ายก็จับกลุ่มพูดคุยกันไปด้วย
"งั้นที่เขาว่ามีสมบัติมันก็จริงสิ"
"จะไปรู้ไหมล่ะ ไอ้คนที่ขึ้นไปเอาก็ไม่เคยกลับลงมาสักคน"
"ที่มันไม่กลับลงมาเพราะถูกเสือกินไปแล้วหรือเปล่า ป่ารกขนาดนั้น"
"ฉันฟังเรื่องนี้มาตั้งแต่ปู่ย่าตายายนู้น เขาลือกันว่าข้างบนมันมีถ้ำสมบัติจริง ๆ แต่มียักษ์เฝ้าอยู่"
"ก็แค่ข่าวลือ ถ้ามีจริงคงมีคนไปเจอบ้างแหละ"
"พวกเอ็งนี่มัน ข้าบอกให้แยกย้ายไง!" เสียงของไกรศักดิ์ตะโกนมาจนชาวบ้านที่กำลังซุบซิบนินทาต้องรีบแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันในทันที
หัวหน้าหมู่บ้านผู้มีหน้าที่ต้องดูแลทุกคนมองไปยังบ้านพรรณภูมิที่มีรั้วรอบขอบชิดอยู่ตรงตีนเขาทำให้มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมจนไม่เห็นตัวบ้านเลย เขายกมือขึ้นไหว้ไปในอากาศก่อนจะพูดพึมพำออกมาเบา ๆ ไม่ให้ใครได้ยิน
"ท้าวเวสสุวรรณขอท่านจงดูแลบริวารของท่านอย่าให้มาทำร้ายชาวบ้านเลย ขอให้อยู่ในอณาเขตใครเขตมันเถอะ ท่านท้าวเวสสุวรรณโปรดคุ้มครองมนุษย์จากสิ่งชั่วร้ายภายใต้การปกครองของท่านด้วยเถิด"
"พ่อไหว้อะไรอะ?" อรดีที่อยากรู้อยากเห็นเลยถามคนเป็นพ่อ
"ก็ไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ให้อภัยพรานป่าคนนั้นที่เข้าไปล่วงเกินไง เราทุกคนรู้ดีว่าเขากุมภกรรณมีอาถรรพ์ เอ็งก็อย่าขึ้นไปนะนังอรดี"
ไกรศักดิ์หันมาเตือนลูกสาว เขาเลือกจะไม่เล่าความจริงที่ตัวเองรู้ออกไปเพราะกลัวว่าครอบครัวและชาวบ้านจะแตกตื่นจนพากันขนข้าวของหนีไปหมด ที่นี่มันบ้านเกิดจะพากันหนีไปไหนได้ จะย้ายที่อยู่ทีก็ต้องเสียเงินทองมากมาย
ตัวเขาเองเคยพบเจอมากับตัว สิ่งที่เรียกว่า ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ เขาที่ถูกตั้งชื่อตามยักษ์เพราะมันมียักษ์ปกปักรักษาที่นี่จริง ๆ ไม่รู้หรอกว่าข้างบนมันมีสมบัติจริงไหมเพราะเคยเจอแต่อสูรเฝ้าสมบัติเท่านั้นที่เดินไปเดินมา ตัวสูงใหญ่ ผิวกายเข้มน่าหวาดกลัว
ตอนพิเศษ 'รักเราบ้านสั่น'.."...พะ...พี่กันต์ อย่าสิ ไหนว่าปวดหลัง"มัทนาพยายามดันตัวของกันต์ที่กำลังลูบไล้เบียดเสียดร่างกายมาแนบชิดเธอออกไป พอลูกไม่ได้นอนด้วยก็เอาเชียว คิดแต่เรื่องใต้สะดือเนี่ยแหละ"ก็ปวดไงเลยต้องหาอะไรทำแก้ปวด"เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมทับเธอก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาถกเสื้อนอนของมัทนาขึ้น มือใหญ่ล้วงลึกเข้าไปเขี่ยยอดเม็ดบัวงามจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่องอย่างกับมะเขือเทศ"วิธีแก้ปวดของพี่คือการทำเรื่องอย่างว่าหรือไง?""ใช่มันจะทำให้ฉันหายปวดหลัง""มันจะช่วยพี่ยังไง?""ก็หายปวดหลังแล้วไปปวดเอวแทนไง""ว้าย!" เขาถอดกางเกงนอนของเธอออกแบบดึงทีเดียวไปกองที่ขาแถมมัทนาก็ไม่ได้ใส่กางเกงในนอนด้วยเลยเข้าทางของกันต์ชายหนุ่มซุกใบหน้าเข้าไปหากลีบดอกไม้งาม ลากไล้ลิ้นเลียไปทั่วทุกช่อดอกที่กำลังเปล่งปลั่งอวบอูม ไม่นานนักน้ำหวานสีใสก็ไหลทะลักออกเพราะร่างกายของมัทนาตอบสนองเร็วมาก ร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน แอ่นสะโพกขึ้นรับลิ้นของเขาเต็มที่ในขณะที่มือก็บีบเคล้นหน้าอกของตัวเองไปด้วย"ดูสิ เธอกลายเป็นแม่สาวร่านสวาทแล้ว""เพราะพี่นั่นแหละ อือ!"ชาย
ตอนพิเศษ #ฝาแฝด'เจ้าแฝดจอมซน'.."ป๋อนอนพื้น" ไม้เมืองดึงแขนกันต์ให้ลงไปนอนที่พื้นเพราะตัวเองจะนอนกับแม่และน้องบนเตียงแต่ตอนนี้คนเป็นพ่อนอนกินที่อยู่"แต่พ่อปวดหลังนะ พื้นมันแข็งจะตายไป" กันต์ม้วนตัวเข้าไปในผ้าห่มเพื่อไม่ให้ลูกดึงตัว"นุจะนอนกับแม๋กับน้อง" ไม้เมืองยังคงพยายามดึงพ่อให้ลงไปนอนที่พื้น"ป๋อลงไป" น้องดาหลาเข้ามาช่วยพี่ชายอีกแรงด้วยการผลักพ่อหวังให้ตกเตียง"ทำไมรุมพ่อแบบนี้ล่ะ ไม่รักพ่อเหรอไง?" กันต์ตีหน้าเศร้าเพื่อเรียกคะแนนสงสารจากลูก"เหวอ!" แต่แทนที่เจ้าสองแฝดจะเห็นใจกลับช่วยกันดึงช่วยกันผลักจนกันต์ตกเตียงลงไปกระแทกเข้ากับพื้นเต็ม ๆ จุกไปหมด เรียกว่าปวดหลังแปล๊บขึ้นมาเลยตามประสาคนทำงานหนัก โดนอะไรกระตุ้นนิดหน่อยความเจ็บนั้นสาหัสเหมือนหลังจะหัก"ทำไมทำแบบนี้ล่ะลูก พ่อเจ็บเห็นไหม" มัทนาที่เห็นว่าสองแฝดทำเรื่องไม่ดีก็หันมาดุเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้ลูกทำแบบนี้ มันจะเกิดอุบัติเหตุเอาง่าย ๆ"ขอโตดครับ / ค่ะ" เจ้าสองแฝดที่รู้ว่าตัวเองทำไม่ดีก็รีบขอโทษพ่อแม่ ก่อนจะก้าวลงจากเตียงแล้วลงไปโอบกอดคนเป็นพ่อที่นอนอยู่ที่พื้น"นุขอโตดนะ""นุก็ขอโตดด้วย""ไม่เป็นไรหรอก พ่อไม่โกรธหรอกน
ตอนพิเศษ #ฝาแฝด'ม้าไม่ใช่หมา'.."มัว มัว!" น้องดาหลารีบวิ่งเข้าไปหาวัวตัวโตที่อยู่ในคอกด้วยรอยยิ้มเริงร่าเช่นเดียวกับไม้เมือง เวลาที่สองแฝดมาที่คอกเลี้ยงสัตว์ทีไรมักจะตื่นเต้นแบบนี้ประจำเพราะมีสัตว์มากมายให้ได้ดู"อย่าวิ่งเข้าไปแบบนั้นสิลูก วัวมันจะตกใจเอานะ" กันต์รีบเข้ามาคว้าตัวเจ้าสองแฝดเอาไว้ก่อนจะวิ่งพรวดพราดเข้าไปในคอกวัวจนพวกมันตกใจเหยียบเอา"มัว มัว นุยักดูมัว" ไม้เมืองเงยหน้าขึ้นพูดกับพ่อ"ได้สิ เดี๋ยวพ่อพาไปนะ บอกแล้วไงเวลาไปไหนต้องไปกับผู้ใหญ่ ทำตามที่ผู้ใหญ่บอก""ครับ" ไม้เมืองรับคำ"ดีมาก งั้นไปกัน"คนเป็นพ่อจูงมือเจ้าสองแฝดเข้าไปในคอกวัวเพื่อให้ดูพวกมันชัด ๆ ทุกตัวล้วนเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และวัวประกวดทั้งนั้น รูปร่างเลยสวยงามกำยำ สุขภาพดีกว่าตัวที่อยู่ด้านนอก พวกนี้เวลาจะปล่อยไปกินหญ้าไปเดินเล่นต้องมีคนถือปืนเฝ้ากันเลยไม่อย่างงั้นโดนพวกขโมยแน่นอน ต้องได้รับการเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง"สวยไหมลูก?" มัทนาที่เดินตามมาที่หลังถามลูกทั้งสองคน"จวยข่า" น้องดาหลาตอบด้วยรอยยิ้มอย่างตื่นเต้น"ป๋อนุยักขี่มัว" ไม้เมืองเขย่าแขนคนเป็นพ่อ"ไม่ได้นะลูก วัวมันไม่ได้มีไว้ขี่นะ ไม่มีใครเขาข
ตอนพิเศษ NC'ไม่อยากหย่า'.."ไม้เมืองอย่าพาน้องดาหลาวิ่งในบ้านนะ เดี๋ยวจะตกบ้านลงไป!" กันต์ตะโกนบอกลูกแฝดทั้งสองคนที่กำลังวิ่งเล่นกันไปมารอบบ้านก็กลัวว่าจะตกลงไปเพราะบ้านเป็นแบบยกสูงแถมรูช่องอะไรก็เยอะด้วยเอาไว้รับลม"ไม่เป็นไรหรอกน่าพ่อดูอยู่!" พ่อเสกตะโกนกลับมา"ตัวเองแก่หงำเหงือกแบบนั้นจะไปตามหลานทันได้ยังไง?""เอ้าไอ้นี่ กูแก่ก็แก่แต่ตัว เรี่ยวแรงยังดี ต่อยหน้ามึงได้ลองไหมล่ะ?""พอเถอะ ทะเลาะกันอีกแล้วพ่อลูก ต่อหน้าไม้เมืองดาหลานะ" ทิพย์เดินเข้าไปหาสองแฝดก่อนจะจับมือของหลาน ๆ เอาไว้ "ไปเล่นข้างล่างกับยายดีกว่า เดี๋ยวยายจะสานปลาตะเพียนให้เอาไหม?""ม้า ม้ากลวย" น้องดาหลายกยิ้มด้วยความดีใจ"ปืนกลวย ปืนกลวย" ไม้เมืองขอบ้าง"ได้สิ เดี๋ยวตาจะทำปืนก้านกล้วยให้ด้วย" พ่อเสกลุกไปหาหลาน ๆ สุดที่รัก"งั้นไปกันนะ" ทิพย์จูงมือหลานทั้งสองคนลงไปด้านล่างโดยมีพ่อเสกตามไปด้วย เรียกว่าตายายติดหลานงอมแงม วัน ๆ ไม่ทำอะไรเลยนอกจากเลี้ยงหลาน ใครแย่งเลี้ยงก็ไม่ได้นะ จะเลี้ยงเองคนเดียวกันต์หันตัวเดินเข้ามาในห้องนอนก็ได้กลิ่นหอมอบอวลไปหมดจึงเดินเข้าไปหามัทนาที่กำลังทำอะไรสักอย่าง "ทำอะไรอยู่เหรอ?""กำลัง
ตอนพิเศษ NC'เบื่อแล้วเป็นยักษ์ อยากเป็นโจร'.."...ชะ...ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย!"เสียงตะโกนใสหวานของมัทนาดังก้องป่า หญิงสาวที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยวิ่งฝ่าดงหญ้าเข้าไปในป่าลึกด้วยท่าทางตื่นตกใจเหมือนกำลังหนีอะไรบางอย่าง"จะไปไหนแม่สาวน้อย""ว้ายยยย!"ร่างสูงของชายในชุดสีดำโพกผ้าปิดหน้าปิดตาจนมองไม่ออกว่าเป็นใครโผล่ออกมาขวางทางมัทนาเอาไว้จนเธอเสียหลักล้มก้นจ้ำเบ้า หญิงสาวรีบเขยิบตัวถอยหนีชายตรงหน้าแต่ก็โดนจับขาแล้วลากกลับไปหามันไอ้โจรขยี้กามทิ้งตัวลงคร่อมทับมัทนาก่อนจะใช้เชือกมัดแขนของหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีแล้วกระชากเสื้อออกจนกระดุมขาดเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่ม มือใหญ่ถกรั้งยกทรงขึ้นไปเหนืออกแล้วบีบเคล้นสองเต้าสวย"...ปะ...ปล่อย ปล่อยฉันนะ!""ไอ้โจรใจชั่ว!""วันนี้ฉันจะยัดเยียดความเป็นผัวให้เธอ""ฮ่ะ ๆ" มัทนาหลุดขำออกมาทำเอาโจรป่าหยุดชะงัก"ขำอะไรเนี่ย มันก็หลุดบทสิ" เจ้าโจรป่าดึงผ้าคลุมหน้าลงเผยให้เห็นว่าเป็นกันต์ที่วันนี้มารับบทโจรใจชั่ว"ก็พี่พูดอย่างกับละคร""ก็เล่นไปตามบทบาทไง หลุดบทแบบนี้ก็ไม่สนุกสิ""สนุกสิ" มัทนาเลื่อนมือขึ้นไปลูบอกกว้างด้วยปลายนิ้วเรียว"พี่โจรขาอย่าทำฉันเลย ฉันเอ
Chapter 41'แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก'..หนึ่งปีต่อมาเสียงผู้คนเจื้อยแจ้วไปทั่วบริเวณวัดที่ถูกสร้างใหม่จนเรียบร้อยสวยงามอร่ามตา เหล่าชาวบ้านต่างพากันแต่งตัวสวยงามมาทำบุญทำทาน เด็ก ๆ ที่ได้เจอเพื่อนก็วิ่งเล่นไปรอบวัดตามประสาเด็ก ชาวบ้านบางคนก็ถือโอกาสมาเปิดแผงขายของ ลูกชิ้น น้ำดื่ม ให้คนที่ต้องตื่นแต่เช้าแล้วยังไม่ได้กินข้าวได้รองท้อง"ป๋อ ๆ" เสียงใสหวานดังขึ้นพร้อมแรงเขย่าแขนเบา ๆ จนกันต์ต้องก้มลงมองน้องดาหลาในวัย 1 ขวบกว่า ๆ ที่กำลังจับมือเขาแน่น"ว่าไงครับลูกรักของพ่อ""กินหนม กินหนม" น้องดาหลาชี้นิ้วไปยังร้านขนม"ยังเช้าอยู่เลยจะกินขนมแล้วเหรอ?""กินหนม กินหนม นุยักกินหนม" น้องดาหลายังคงชี้นิ้วไปที่ร้านขนมแถมส่งสายตาปิ๊ง ๆ ออดอ้อนพ่อนั่นทำให้กันต์ใจอ่อนระทวยสุดท้ายก็ต้องพาลูกสาวมาซื้อ"ทำไมเอามาสองห่อล่ะ กินหมดเหรอ?" เขาถามลูกสาวเมื่อเห็นน้องดาหลาหยิบขนมออกมาสองห่อ"ของนุ ของไม้" น้องดาหลากล่าว"อ๋อ ของน้องดาหลาห่อหนึ่ง ของพี่ไม้เมืองห่อหนึ่งใช่ไหม?"น้องดาหลาพยักหน้ารับแทนคำตอบก่อนจะวางขนมให้ป้าเจ้าของร้านคิดเงิน "10 บาทลูก โตไวจริง ๆ เลย เห็นมาตั้งแต่แบเบาะแป๊บเดียวเดินป๋อแล้วเนี่