Share

รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย
รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย
Author: ขี้เกียจจะตั้งชื่อ

บทที่ 1

Author: ขี้เกียจจะตั้งชื่อ
“อือ”

ประตูห้องเปิดออก เงาร่างทั้งสองเดินตุปัดตุเป๋เข้าไป

ในดวงตาของทั้งสองเจือความเมาอยู่ พอเข้ามาก็จูบกันตรงที่เปลี่ยนรองเท้า

เสียงหอบหายใจหนักเบาดังขึ้น กลิ่นอายคลุมเครืออัดแน่นอยู่ในห้อง

“อ๊ะ”

ซินจือเหยาอุทานขึ้นมา เธอถูกชายหนุ่มอุ้มขึ้นอย่างสบาย ๆ

เรือนร่างอรชรของเธอขดอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย ความแตกต่างของรูปต่างชวนให้คนจินตนาการไปไกล

เงาร่างสูงตรงเดินไปถึงเตียง เมื่อซินจือเหยาถูกโยนลงบนเตียงแล้ว ร่างสูงใหญ่ก็ประกบลงมา

หางตาอีกฝ่ายแดงก่ำ ดวงหน้าที่ปกติหักห้ามมีเปลวเพลิงวูบไหวอยู่ในเวลานี้

สติสัมปชัญญะสูญสิ้น

มือของซินจือเหยาจับผ้าห่มแน่นจนข้อต่อกลายเป็นสีขาว แสงสีขาวในดวงตากะพริบผ่าน

แสงไฟมืดสลัว เสียงครางแผ่วเบาสะท้อนทั่วทั้งห้อง

......

“เหยาเหยา”

“เหยาเหยา”

ซินจือเหยาสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน หน้าผากมีเหงื่อซึมบาง ๆ ชั้นหนึ่ง

ฝันอีกแล้ว ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว ฝันแทบทุกคืนเลย

ในการปิดภาคเรียนฤดูร้อน วันนั้นเป็นวันเกิดของอวี๋เชว่ เธอเข้าร่วมอย่างสุขสันต์ กลับพบว่าเขาไม่ได้เชิญเธอเพียงคนเดียว ยังเชิญเพื่อนเรียนในสาขาเดียวกันคนอื่น ๆ มาด้วย ในนั้นรวมไปถึงเจี่ยงซินผู้เลื่องชื่อว่าหน้าตาพริ้มเพรา พวกเขานั่งติดกัน อากัปกิริยาสนิทสนม

คนมากมายต่างมองไปทางเธอ เหมือนกำลังจะดูปฏิกิริยาของเธอ

เธอเรียนสาขาเดียวกับอวี๋เชว่ แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ทุกคนรู้กันหมดว่าเธอชอบอวี๋เชว่มาสองปีแล้ว แม้แต่อวี๋เชว่เองก็ยังรู้ แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธเธอ

จากท่าทางของเพื่อน ๆ ทุกคนต่างรู้ตัวตนของเจี่ยงซิน ก็มีแต่เธอที่ยังเป็นกบในกะลา

ด้านหนึ่งหลอกล่อเธอ อีกด้านหนึ่งก็มีสัมพันธ์คลุมเครือกับเจี่ยงซิน

สายตาดูเรื่องสนุกของเพื่อนนักศึกษาทิ่มแทงหัวใจเธอ เธอจึงสาบานอยู่ในใจว่าต้องหยุดการรักอย่างโจ่งแจ้งอันน่าหัวเราะนี้

คืนนั้นเธอดื่มหนัก อารมณ์โกรธอัดอั้นอยู่เต็มอก

ตอนไปเข้าห้องน้ำเธอเดินซวนเซชนกับคนหนึ่งและสบกับสายตาลุ่มลึกของอีกฝ่าย

หล่อกว่าอวี๋เชว่ มีความเป็นชายมากกว่า

เธอไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน กระชากคอเสื้อของเขาแล้วเอ่ยปากด้วยลมหายใจหอมว่า “คุณจะนอนกับฉันไหม?”

ภาพหลังจากนี้ก็คือการอยู่นอกเหนือการควบคุม ทั้งสองเข้าห้อง อึ๊บ ๆ ผ่านค่ำคืนที่ไม่อาจพรรณนา

ในเช้าวันต่อมา ในตอนที่ซินจือเหยาที่ได้ความกล้าจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ตื่นขึ้นมาเห็นตัวเองนอนเปลือยเปล่ากับผู้ชายคนหนึ่งบนเตียงก็ตกตะลึงพรึงเพริดไปหมด พอแต่งตัวเสร็จก็ล้มลุกคลุกคลานออกจากห้อง

เขารู้ว่าตัวเองทำผิดไปแล้ว ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร และไม่กล้าสืบว่าผู้ชายคนนั้นคือใครด้วย

แต่เพราะในใจอยากรู้มาตลอด ถึงจะผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังฝันแทบทุกคืน

ร่างเปลืองเปล่ากอดรัดกัน ลมหายใจหอบหนัก และดวงตาลุ่มลึกของอีกฝ่าย...

“เหยาเหยา รีบลุกเร็ว ยังเหม่ออะไรอยู่อีก เพิ่งเปิดเทอมเธอก็คิดจะสายแล้วใช่ไหม?”

เสียงของซ่งอวี่เจียทำให้ซินจือเหยาได้สติ เธอรีบลบภาพเหลวไหลพวกนี้ออกจากสมอง ตามด้วยกุลีกุจอปีนลงจากเตียง

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ซินจือเหยาก็หอบหนังสือรีบไปห้องเรียนกับซ่งอวี่เจีย

“เธอจะวิ่งเร็วอย่างนั้นทำไม?” ซินจือเหยา ชักจะตามเธอไม่ทันแล้ว

“วันนี้มีคาบกายวิภาคศาสตร์ เธอลืมไปแล้วเหรอ?” ซ่งอวี่เจียเอ่ยปากพูด “ช่วงนี้เธอป้ำ ๆ เป๋อ ๆ นะ จำอะไรไม่ได้เลย”

เมื่อนั้นซินจือเหยาจึงนึกขึ้นได้

ได้ยินมาว่าทางมหาวิทยาลัยทุ่มเงินเชิญศาสตราจารย์กายวิภาคศาสตร์สุดเจ๋งมาคนหนึ่งที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปคินส์ มาถึงก็แหกกฎรับเป็นศาสตราจารย์เลย เป็นศาสตราจารย์อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์วิทยาลัยแพทย์

เนื่องจากศาสตราจารย์ท่านนั้นติดธุระไม่สามารถมามหาวิทยาลัยได้ตามกำหนด ทางมหาวิทยาลัยจึงเลื่อนวิชากายวิภาคศาสตร์ของนักศึกษาไปอีกหนึ่งเดือนให้หลังเสียอย่างนั้น ตอนนี้หลังจากกลับมาจากวันชาติ คาบเรียนแรกก็คือวิชาของศาสตราจารย์ท่านนั้น

“เหยาเหยา เธอรู้ไหม เช้านี้มีนักศึกษาเจอศาสตราจารย์คนนั้นแล้วนะ”

น้ำเสียงซ่งอวี่เจียแฝงความตื่นเต้น

“เห็นว่าศาสตราจารย์คนนั้นหน้าตาหล่อขั้นเทพ ตอนนี้กลุ่มวิทยาลัยแตกตื่นกันหมด นักศึกษาหลาย ๆ คนพากันเสียใจที่ไม่ได้ลงเรียนคาบเขา” ซ่งอวี่เจียดึงมือของซินจือเหยา “เดินเร็วหน่อย ชักช้าเราจะเบียดเข้าห้องเรียนไม่ได้แล้วนะ”

เวอร์ขนาดนี้เสียที่ไหน ตอนนี้พวกเธอเรียนปีที่สาม แถมยังเป็นคาบเรียนแรกอีก พวกหัวหมอหลาย ๆ คนตื่นไม่ไหวก็ให้รูมเมตมาลงเรียนแทน มักมีสภาพที่ห้องเรียนโล่งโจ้งแต่สมุดลงชื่อกลับลงชื่อครบเป็นประจำ

กระทั่งซินจือเหยาเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เห็นคนเต็มไปหมดก็ปาดอ้าตาค้าง

ไม่ต่างอะไรกับอาซิ่มอาแปะที่แย่งกันเอาขาฟรีในตลาดสด

ซ่งอวี่เจียราวกับสันนิษฐานภาพนี้อยู่ก่อนแล้ว

“หนุ่มหล่อแถมยังมีเครดิตจากมหาวิทยาลัยดัง ไม่ต่างอะไรกับสถานที่ติดตามดารา”

เธอลากซินจือเหยาเบียดเข้าไปข้างใน “หลีกหน่อย ๆ คนที่มาร่วมฟังก็อย่ายึดที่ของนักศึกษาตัวจริงอย่างเราได้ไหม?”

กว่าจะหาที่นั่งสองที่จากช่องเล็ก ๆ เจอ เพิ่งนั่งลงซ่งอวี่เจียก็เหมือนจะเห็นอะไรจึงทำหน้ารังเกียจ

“ซวย”

ตามสายตาของเธอ ซินจือเหยาเห็นอวี๋เชว่กับเจี่ยงซินนั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหน้า

วิชาสำคัญบางวิชาจะรวมนักศึกษาหลายห้องอยู่ในห้องเรียนใหญ่ ไม่นึกว่าครั้งนี้จะได้เจอกัน

พวกเขาท่าทางสนิทสนม ไม่รู้ว่าอวี๋เชว่กระซิบอะไรข้างหูเจี่ยงซิน หยอกให้เจี่ยงซินปิดปากหัวเราะ

ซินจือเหยาจ้องพวกเขาอยู่ตลอด ซ่งอวี่เจียจึงถอนหายใจ “ช่วงนี้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็เข้าใจได้ คนที่ชอบมาสองปีกลับไปคบกับคนอื่น ไม่ว่าใครก็รู้สึกแย่กันทั้งนั้น”

ซินจือเหยาได้ยินก็มองเธอด้วยความตะลึง “พวกเขาคบกันแล้วเหรอ?”

“ใช่สิ ยืนยันสัมพันธ์กันตอนวันเกิดอวี๋เชว่ไง ทำไมท่าทางเธอเหมือนเพิ่งจะรู้ล่ะ”

ซินจือเหยาพูดแผ่วเบา “ฉันเพิ่งจะรู้จริง ๆ”

“งั้นที่เธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวช่วงนี้มันเพราะใครกัน?”

นับจากเปิดภาคเรียนจนถึงตอนนี้ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ซ่งอวี่เจียรู้สภาพการณ์ของซินจือเหยา

“...”

ซินจือเหยาไม่กล้าบอกว่าเป็นเพราะเรื่องที่ตัวเองดื่มเหล้าแล้วหลับนอนกับคนอื่น

เห็นเธอไม่พูด ซ่งอวี่เจียนึกว่าเธอปากแข็งจึงตบบ่าเธออย่างรู้ใจ “ไม่เป็นไรนะ เธอเพิ่งรู้ก็เพิ่งรู้เถอะ”

“...”

มันก็เพิ่งรู้อยู่แล้ว

“อวี๋เชว่นอกจากจะหน้าตาดีนิดหน่อย การเรียนก็ดีนิด ๆ ก็ไม่รู้ว่ามีดีที่ตรงไหนอีก ทำให้เธอชอบเขาซึ่งเป็นสารเลวคนหนึ่งได้ คนที่หล่อกว่า เจ๋งกว่าเขามีถมเถไป ก็อย่างศาสตราจารย์ที่มาใหม่นี่ไง แพล็บเดียวก็เอาชนะเขาได้แล้ว เหยาเหยา ไม่งั้นเธอก็ชอบคนอื่นเถอะ”

ซินจือเหยามองเธอด้วยความสับสน “ชอบใครล่ะ?”

ซ่งอวี่เจียยิ้มหยอก “ชอบศาสตราจารย์คนใหม่ไง”

เธอพูดได้ทุกอย่างจริง ๆ

ซินจือเหยาเบิ๊ดกะโหลกเธอทีหนึ่ง “เธอเพ้อเจ้ออะไร!”

จู่ ๆ ในห้องเรียนก็มีเสียงอึกทึกดังมา

“ศาสตราจารย์มาแล้ว ๆ”

ห้องเรียนที่มีคนอัดแน่นบรรยากาศระทึกใจ แต่ละคนคอยืดคอยาวชะเง้อมอง

ซินจือเหยาก็เหมือนกัน

เธอแค่อยากเห็นว่ารูปลักษณ์หล่อขั้นเทพที่ว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น

หรือว่าจะมีดวงตาที่สามเหมือนเทพเจ้าสามตา

เงาร่างสูงใหญ่ปรากฏตัวจากที่ไกลและใกล้หน้าห้องเรียนมาเรื่อย ๆ

เขาสูงโปร่ง ดวงหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา เส้นโครงหน้าลื่นไหล สันจมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูปสวย ดวงตาลุ่มลึกราวกับมองทะลุใจคน บุคลิกสุภาพเรียบร้อย ทำให้คนราวกับอาบสายลมวสันต์

ซ่งอวี่เจียได้ยินซินจือเหยาที่อยู่ด้านข้างสูดปาก

“เหยาเหยา ฉันไม่ได้หลอกเธอใช่ไหม หล่อมากจริง ๆ”

ซินจือเหยาที่อยู่ด้านข้างฟุบตัวกับโต๊ะไปแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 100

    โจวจี้กำลังจะหยิบปากกามาติ๊ก พอได้ยินก็นิ่งไป “เธอไม่กินเผ็ดไม่ใช่เหรอ?”ซินจือเหยาตอบเสียงเบา “เจียเจียกินค่ะ”โจวจี้พยักหน้าแล้วติ๊กที่เนื้อต้มซ่งอวี่เจียมองพวกเขาจากอีกฝั่งทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เป็นความใกล้ชิดที่ดูเป็นธรรมชาติ มือที่บาดเจ็บของโจวจี้วางพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ของซินจือเหยาอย่างสบาย ๆ ส่วนอีกข้างถือปากกาติ๊ก ซินจือเหยาตัวเล็กกว่าโจวจี้มาก พอมองเผิน ๆ ก็เหมือนเธอถูกเขาโอบไว้ในอ้อมแขนส่วนตัวศาสตราจารย์โจวเป็นอย่างนี้นี่เองอยู่ที่มหาวิทยาลัย ถึงทุกคนจะรู้สึกว่าศาสตราจารย์โจวเป็นคนอ่อนโยนและมีมารยาท แต่ความจริงเวลาเรียนเขาจริงจังมาก มีความเป็นนักวิชาการเต็มตัวแล้วก็จริงจังกับการสอนมาก เลยทำให้ทุกคนแอบเกรง ๆ เขาอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังไม่เป็นอุปสรรคให้นักศึกษาหลาย ๆ คนเพ้อฝันกับเขาใครบ้างไม่อยากดึงผู้ชายที่หล่อเหมือนเซียนลงมาจากแท่นแต่ตอนนี้ซินจือเหยากลับได้ไปง่าย ๆยัยบ้านี่ ได้ดีขนาดนี้!ซ่งอวี่เจียอิจฉาอยู่ในใจอย่างหนักหลังจากอาหารขึ้นโต๊ะ เนื่องจากปฏิกิริยาท้องระยะต้น ซินจือเหยาจึงกินได้น้อยมาก ส่วนซ่งอวี่เจียก็ไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว พยายามล

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 99

    ซินจือเหยา : พูดความจริงอะไรเนี่ย ⁄(⁄ ⁄•⁄ω⁄•⁄ ⁄)⁄ซ่งอวี่เจีย : เอาจริงนะ พอดูอย่างนี้แล้วเธอก็เหมาะสมกับศาสตราจารย์โจวดีเหมาะสมงั้นเหรอ?ซินจือเหยายากจะจินตนาการว่าคำนี้กลับใช้กับเธอและโจวจี้ซ่งอวี่เจีย : เธอถือถ้วยรางวัลยืนกับเขามันได้ความรู้สึกเหมือนสุดยอดกับสุดยอดมาเจอกันซินจือเหยามองภาพนั้นนิ่ง ๆ จากนั้นก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้สุดยอดกับสุดยอดมาเจอกัน?เธอชอบคำนี้จริง ๆซินจือเหยาพูดอย่างใจป้ำ : เย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอนะซ่งอวี่เจีย : ว้าว ๆ ๆซ่งอวี่เจีย : ไม่บอกแต่แรกล่ะ ถ้ารู้ว่าเย็นนี้จะมีข้าวฟรี กลางวันก็กินน้อย ๆ แล้วซ่งอวี่เจีย : ไม่ได้ ก่อนกินข้าวฉันต้องทำท้องให้ว่าง แบบนี้ถึงจะกินได้เยอะซินจือเหยา : ...ขี้เกียจจะพูดกับเธอแล้วหลังจากแชตกับซ่งอวี่เจียเสร็จ ซินจือเหยาคิดแล้วจึงส่งรูปที่ซ่งอวี่เจียส่งมากับโจวจี้ตอนที่โจวจี้ได้รูปกำลังเตรียมตัวไปห้องเรียนเพื่อสอนคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้หลังจากเปิดรูปดู เขาก็เห็นซินจือเหยาในแวบแรก เธอถือถ้วยรางวัลยืนอยู่ข้างตัวเอง ใบหน้าเหนียมอาย ในดวงตาคือรอยยิ้มที่ปกปิดไม่อยู่โจวจี้ยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วตอบกลับ : สวยซิ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 98

    เธอคืนคำที่พวกเขาพูดเมื่อก่อนหน้านี้กลับไปอย่างง่าย ๆ พูดจบก็จากไปอย่างสบาย ๆเจี่ยงซินมองแผ่นหลังที่จากไปของเธอพักหนึ่งแล้วจึงคิดขึ้นมาได้ ดึงไหล่อวี๋เชว่ด้วยความโกรธ “ต้องโทษนายนั่นแหละ ข้อสุดท้ายง่ายขนาดนั้นยังตอบผิด นายดูสิ ตอนนี้เธอชิงที่หนึ่งไปแล้ว”อวี๋เชว่หัวเสียที่ตัวเองผิดพลาดจนเสียที่หนึ่งไปทุนเดิมอยู่แล้ว เจี่ยงซินไม่ปลอบใจเขาแล้วยังจะซ้ำเติมเขาอีกเขาพูดอย่างหงุดหงิด “อย่าพูดได้ไหม เธอได้เธอก็ไปเองสิ”เจี่ยงซินได้ยินก็โกรธจัด “อวี๋เชว่ นายหมายความว่ายังไง? แม้แต่นายก็ดูถูกฉันแล้วใช่ไหม?”ไม่รู้ตัวเองซะบ้างอวี๋เชว่คร้านจะพูดกับเธอจึงเดินไปเสียเจี่ยงซินยังไม่ยอมเลิก ฉุดแขนของเขา “ห้ามไปนะ นายต้องพูดกับฉันให้รู้เรื่องก่อน นายดูถูกฉันใช่ไหม? คิดว่าฉันเก่งสู้ซินจือเหยาไม่ได้ใช่ไหม?”พวกเขายังยืนอยู่หน้าหอประชุม คนที่เดินผ่านหลาย ๆ คนได้ยินเสียงจึงหันมามองพวกเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นเมื่อก่อนเพราะเจี่ยงซินหน้าตาดี เขาอยู่กับเธอจึงรู้สึกภูมิใจ แต่ระยะนี้ยิ่งอยู่กับเธอก็ยิ่งรู้สึกขายหน้า โดยเฉพาะหลังจากทะเลาะกันต่อหน้าธารกำนัลสองสามครั้ง แม้แต่เพื่อนของเขาก็ยังเย้ยเขา บอ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 97

    “เชิญซินจือเหยาตอบค่ะ”ซินจือเหยา พูดเสียงแหบพร่า “บริเวณส่วนท้ายของร่องขมับส่วนบนในซีกซ้ายของสมองใหญ่”พิธีกรแย้มยิ้ม “ถูกต้องค่ะ ยินดีกับซินจือเหยาด้วยนะคะที่ได้ที่หนึ่ง”ทั้งห้องประชุมปรบมือลั่น ซินจือเหยาเกือบอดใจไม่ไหวลุกขึ้นมา เธอมองไปยังเงาร่างโจวจี้เขาปรบมืออยู่ข้างล่างเวที สายตาจดจ่ออยู่กับเธอ มุมปากงามได้รูปยิ้มจาง ๆจู่ ๆ ซินจือเหยาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาจะภูมิใจในตัวเธอไหม? ต่อให้แค่นิดเดียวก็ยังดีนี่หมายถึงเธอใกล้เขาไปอีกนิดอวี๋เชว่ที่อยู่ด้านข้างหมดแรงพิงเก้าอี้ เจี่ยงซินที่อยู่ด้านล่างเวทีแค่นเสียงอย่างไม่ยินยอม บ่นพึมพำ “เธอก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”รางวัลของรางวัลที่หนึ่งคือถ้วยรางวัลกับกำไลออกกำลังกาย หลังจากรับของรางวัลแล้วก็ถึงช่วงเวลาถ่ายรูป ซินจือเหยากลับเห็นว่ามีผู้เข้าแข่งขันไปถ่ายรูปกับโจวจี้ทำไมถึงมีคนอย่างนี้นะซินจือเหยาขยับไปอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนเพราะมีคนไปก่อน คนอื่น ๆ จึงกล้าไปสอบถามโจวจี้โจวจี้น้ำเสียงเป็นมิตร ดูจะเหนื่อยใจอยู่หน่อย ๆ “คนเยอะอย่างนี้ ไม่งั้นก็ถ่ายรูปหมู่เถอะ”ในเมื่อเขาเป็นคนเสนอ นักศึกษาคนอื่น ๆ จ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 96

    “ตุบ”ซินจือเหยาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์กดปุ่ม“ค่ะ ซินจือเหยาตอบคำถาม”“ลิมโฟไซต์”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”“คำถามข้อที่สาม อวัยวะใหญ่สุดในร่างกายมนุษย์”“ตุบ”“เชิญหวังเสี่ยวเล่อตอบคำถามค่ะ”“ผิวหนัง”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”……บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ พอคำถามยิ่งยาก คะแนนก็เริ่มห่างกันทีละน้อย บางคนความเร็วมือแย่ ถึงจะรู้คำตอบแต่จนใจที่แย่งสิทธิ์ในการตอบคำถามไม่ได้ จึงได้แต่มองคนอื่นคว้าคะแนนไปต่อหน้าต่อตาบนเวทีการแข่งขันดุเดือด ส่วนข้างล่างบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดโจวจี้สีหน้าสงบ มองซินจือเหยาอยู่ตลอดเธอในการแข่งขันต่างจากปกติ สายตาจ้องหน้าจอใหญ่ตาเขม็ง ขบฟันกรามแน่น ท่าทางจดจ่อมากกว่าเวลาไหน ๆไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงก็ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ที่แปลกออกไปอีกอย่างหนึ่งยามตั้งใจ ดึงดูดคนเป็นพิเศษโจวจี้ถามตัวเองว่าเคยเห็นคนโดดเด่นมานักต่อนัก แต่ไม่ส่งผลต่อความชื่นชมคนที่พยายามของเขาเลย และเนื่องจากเธอคือภรรยาของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างหนึ่งกระนั้น การได้เห็นคนคนหนึ่งเติบโตละยอดเยี่ยมมากขึ้นทุกที จะรู้ส

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 95

    ซินจือเหยาจ้องดูหน้าจอบนโทรศัพท์มือถือ ปลายนิ้วจิ้มบนหน้าจออย่างรวดเร็วสิบสองนาทีผ่านไปไวมาก หน้าข้อสอบหยุดส่งอัตโนมัติ“การสอบรอบแรกจบลงแล้ว ตอนนั้นจะนับคะแนน” พิธีกรเป็นคนจากสโมสรนักศึกษา กำลังพูดคุยกับกรรมการเบา ๆ อยู่บนเวทีซินจือเหยาผ่อนคลายมือที่แข็งเกร็ง มั่นใจคะแนนของตัวเองมากดังคาด พิธีกรประกาศผลการแข่งรอบแรก“จางหยวนหยวนคลินิกคอลห้องห้าปีสองหนึ่ง ซินจือเหยาคลินิกคอลห้องเจ็ดปีสองสอง อวี๋เชว่คลินิคอลห้องสามปีสองสอง จ้าวโส่วตงคลินิกคอลห้องเก้าปีสองสาม หลินซวี่ช่องปากห้องสองปีสองศูนย์ หวังเสี่ยวเล่อการพยาบาลปีสองศูนย์... ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาสิบท่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงตอบคำถามในลำดับต่อไป ขอเชิญนักศึกษาที่เรียกชื่อขึ้นนั่งบนเวทีด้วยค่ะ”หลังจากพิธีกรขานชื่อแต่ละคนก็มีเสียงประมือดังกึกก้องซินจือเหยาลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นบนเวทีบนเวทีมีที่นั่งอยู่สิบที่ บนโต๊ะแต่ละตัวจะมีปุ่มสีแดงให้แย่งกันกดตอบคำถามไม่รู้ว่าจงใจหรือเปล่า อวี๋เชว่นั่งอยู่ข้างซินจือเหยา“สู้ ๆ นะ” อวี๋เชว่ราวกับพูดกับเธอซินจือเหยาไม่สนใจเขา กดปุ่มสีแดงทำความคุ้นเคยทันใดนั้นตรงที่นั่งคนดู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status