Share

บทที่ 7

Author: ขี้เกียจจะตั้งชื่อ
โจวจี้ยื่นมือออกไปรับ ในตอนที่เห็นตัวอักษรที่เขียนอยู่ในนั้นว่า ‘ตั้งครรภ์ในโพรงมดลูกระยะแรก’ ดวงตาหดลงเล็กน้อย

ซินจือเหยาสังเกตปฏิกิริยาของเขาด้วยความระมัดระวังอยู่ตลอด เห็นเขาจ้องกระดาษแผ่นนั้นไม่ละสายตาจึงเริ่มใจไม่ดี รีบอธิบาย “ศาสตราจารย์โจว เด็กคนนี้เป็นของศาสตราจารย์นะคะ ฉัน ฉันมีผู้ชายแค่ศาสตราจารย์คนเดียว”

พูดจบก็อดหน้าแดงไม่ได้

ในที่สุดโจวจี้ก็เคลื่อนสายตาไปทางเธอ

มิน่าตั้งแต่เริ่มต้นก็เครียดขนาดนั้น

เธอเป็นแค่นักศึกษาอายุยี่สิบเอ็ดที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์อะไรทั้งนั้น ตอนที่รู้ว่าท้องต้องหวาดกลัวหมดกำลังแน่ ถ้าไม่ใช่ว่าทางตันก็คงไม่มาหาเขา

โจวจี้ด่าตัวเองในใจว่าสารเลว ควบคุมตัวเองไม่ได้ครั้งเดียวกลับทำลายชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง

เขาวางผลการตรวจในมือลงบนโต๊ะ แล้วถามเธอด้วยเสียงอ่อนโยน “เธอคิดยังไง?”

ความสงบของอีกฝ่ายทำให้ซินจือเหยาอึ้งไปเล็กน้อย เดาความคิดของเขาไม่ออก

แต่เธอก็ยังส่ายหน้าอย่างซื่อตรง พูดด้วยความสับสน “ฉันไม่รู้ค่ะ ฉัน ฉันกลัวอยู่หน่อย ๆ”

โจวจี้มองมือทั้งสองที่บิดไปบิดมาไม่หยุด เกิดความรู้สึกสงสาร

“จะกลัวก็ปกติ ไม่ว่าใครที่รุ่นราวคราวเดียวกับเธอเจอเรื่องแบบนี้ก็ต้องกลัวทั้งนั้น”

ซินจือเหยาก้มหน้าไม่พูด

โจวจี้เริ่มวิเคราะห์ความคิดของเขา “เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบเอ็ด ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ตอนนี้สำหรับเธอแล้ว การเรียนสำคัญที่สุด ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือเอาเด็กคนนี้ออก”

เป็นคำตอบที่คิดไว้อยู่แล้ว ซินจือเหยาหัวใจสะท้านเล็กน้อย ก้มหน้าพูด “ฉันไม่กล้าบอกพ่อแม่ค่ะ แต่ถ้าจะผ่าตัดต้องให้ญาติเซ็นชื่อ”

โจวจี้เห็นแพขนตาเธอกระพือเบา ๆ

“อันดับแรก ฉันต้องขอโทษเธอ คืนนั้นฉันดื่มเหล้า เสียการควบคุมชั่วขณะ...” โจวจี้กระดากจะพูดเล็กน้อยจึงเลือกที่จะข้ามไป “ฉันอายุมากกว่าเธอ ควรหักห้ามใจหน่อย”

ซินจือเหยาหน้าแดงระเรื่อ โบกมือเนือง ๆ “ไม่ใช่ค่ะ ฉันก็ผิดเหมือนกัน...”

“ถ้าเธอตัดสินใจจะทำแท้ง ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดกระบวนการ รับผิดชอบค่าผ่าตัดกับการพักฟื้นทั้งหมดจนกว่าเธอจะหายดี” โจวจี้เสียงสุขุม ทำให้ซินจือเหยาที่กระวนกระวายใจสงบลงนิด ๆ ราวกับปาฏิหาริย์

อย่างน้อยเธอก็มีคนหารือด้วย

ซินจือเหยากัดริมฝีปากและพยักหน้า “ค่ะ”

ที่โจวจี้พูดคือทางเลือกที่ดีที่สุด เรื่องเซ็นชื่อกับค่าใช้จ่ายที่เธอกังวลได้รับการประกัน

แต่ใครจะรู้ว่าโจวจี้พูดต่อ “ฉันยังพูดไม่จบ ต่อจากนี้คือทางเลือกที่สอง”

ซินจือเหยาตะลึงเล็กน้อย “ฮะ?”

ยังมีทางเลือกที่สองอีกเหรอ?

โจวจี้มองเธอ แล้วพูดออกไปอย่างถ้าไม่ทำให้คนทึ่งก็จะไม่ยอมหยุด “เราแต่งงานกัน”

หา?????

ซินจือเหยาเบิกตาโพลงทันใด มองโจวจี้ราวกับสงสัยว่าหูฝาด

ใบหน้าเขาสงบ เหมือนไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองพูดเมื่อครู่ทำให้คนทึ่งขนาดไหน

“การทำแท้งจะส่งผลเสียต่อร่างกายมาก ถ้าเราแต่งงานกัน จะสามารถคลอดเด็กออกมาได้อย่างถูกต้อง ฉันจะรับผิดชอบเป็นสามีและพ่อ สำหรับเรื่องการเรียน ช่วงใกล้คลอด เธอดรอปเรียนสักครึ่งปีได้ เอาไว้อยู่เดือนแล้วค่อยกลับมาเรียนต่อ ฉันจะรับเลี้ยงเด็กเอง ช่วงที่เธออยู่บ้านคลอดลูก ฉันจะสอนการบ้านเธอด้วย ฉันมั่นใจว่าจะไม่ทำให้เธอเสียการเรียนนะ”

โจวจี้สบตาตกตะลึงของซินจือเหยา

“แน่นอน เธออาจคิดว่าฉันแก่กว่าเธอเยอะ แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียทั้งหมด มีบางเรื่องที่ฉันกินเกลือมาก่อนเธอ แบ่งปันประสบการณ์กับเธอได้ ให้เธอเดินทางผิดน้อยหน่อย อีกอย่าง เงินเกษียณของฉันในอนาคตจะได้ก่อนเธอ”

นี่มันเรื่องขำฝืดแห่งศตวรรษ

ซินจือเหยาไม่คิดว่าแค่ไม่กี่นาทีสั้น ๆ โจวจี้นอกจากจะยอมรับเรื่องที่เขาเป็นพ่อได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเสนอสองมาตรการ หนึ่งในนั้นยังเป็นการแต่งงาน กระทั่งว่าเรื่องการเรียนของเธอและการเลี้ยงลูกก็คิดเอาไว้แล้ว

สมองของศาสตราจารย์มันช่างวิเศษอะไรอย่างนี้ ไวกว่าคนอื่น

อารมณ์ของซินจือเหยาเปลี่ยนจากตกตะลึงเป็นหวาดกลัว “ศาสตราจารย์โจวคะ ศาสตราจารย์อย่าล้อเล่นเลย”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น”

ท่าทางจริงจังของโจวจี้ทำให้อารมณ์บนใบหน้าซินจือเหยาแข็งทื่อ

“ฉันจะแนะนำตัวเองก่อนนะ โจวจี้ อายุยี่สิบเก้า เป็นคนเมืองหลินไห่ จบดอกเตอร์ ตอนนี้ทำงานที่วิทยาลัยการแพทย์ยูเนียนหลินไห่ เงินเดือนพอใช้ได้ พอสำหรับค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ตอนนี้เลยเช่าบ้านอยู่ แต่ก็ซื้อบ้านได้ทุกเมื่อเหมือนกัน ที่ขับคือรถของที่บ้าน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่ใช้ความรุนแรงในครอบครัว งานอดิเรกยามปกติคืออ่านหนังสือ วิ่ง พ่อแม่มีบริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ไม่เป็นปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูยามสูงวัย หลังแต่งงานไม่ต้องอยู่กับพ่อแม่สามี ตอนนี้ฉันเพิ่งทำงานอาจจะยุ่งบ้าง เอาไว้เข้าที่เข้าทางแล้วก็จะดีเอง หยุดสองวันต่อสัปดาห์ มีวันหยุดปิดเทอมภาคฤดูร้านและภาคฤดูหนาว มีเวลาเพียงพอที่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอกับลูก”

แนะนำตัวเองแบบติดดินสุด ๆ

คนไม่รู้ยังนึกว่าพวกเขากำลังนัดบอร์ดอยู่

ซินจือเหยาราวกับถูกฟ้าผ่า เงียบสนิทไปครึ่งค่อนวัน

โจวจี้มองเธอที่นิ่งไปจึงพูดอย่างมีความอดทนเต็มเปี่ยม “เธอคิดว่าที่ฉันพูดไปเมื่อกี้เหมาะสมกับเงื่อนไขการเป็นคู่ครองของเธอไหม?”

เหมาะจนไม่รู้จะเหมาะยังไงแล้วไหม เธอยังรู้สึกเหมือนสวรรค์ประทานผู้ชายหล่นทับเธอด้วยซ้ำ

ศาสตราจารย์โจวยอดเยี่ยมขนาดนี้ บอกว่าจะแต่งงานกับเธอ?

ใต้โต๊ะ ซินจือเหยาหยิกต้นขาตัวเอง

ซี้ด เจ็บจัง!

ไม่ได้ฝันไป

ซินจือเหยามองสีหน้าจริงจังของโจวจี้ ในที่สุดจึงตระหนักว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น เขาจริงจังกับเรื่องนี้

แต่ถ้าแต่งงาน...

จนแล้วจนรอดซินจือเหยาก็ยังรู้สึกว่าคำนี้ช่างห่างไกลกับเธอเหลือเกิน ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน

นี่คือเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการทำแท้งอีกนะ

ซินจือเหยาพูดตะกุกตะกัก “ศาสตราจารย์โจว ฉันขอคิดหน่อยได้ไหมคะ?”

“นานเท่าไร?”

“ก่อนจันทร์หน้าจะให้คำตอบค่ะ”

“ได้” โจวจี้พยักหน้า

อันที่จริงซินจือเหยาไม่ได้ใช้เวลามากอย่างนั้น ในตอนที่เธอกลับถึงบ้านอย่างกระวนกระวายใจ เพิ่งเปิดประตูก็ได้ยินเสียงของหลินไห่อิงกับซินฮ่าวเจ๋อดังออกมาจากข้างใน

“ผมอยากซื้อรองเท้า” เป็นเสียงของซินฮ่าวเจ๋อ

“ลูกก็เพิ่งซื้อไม่นานเองไม่ใช่เหรอ?” หลินไห่อิงพูด

“เมื่อวานเล่นบาสเตะพังไปแล้ว”

หลินไห่อิงลังเล “เท่าไรล่ะ?”

“เก้าพัน”

หลินไห่อิงขึ้นเสียงสูงกะทันหัน “แพงอย่างนี้เลยเหรอ ฮ่าวฮ่าว ความจริงเราไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อรองเท้าแพงอย่างนี้เลยนี่”

ซินฮ่าวเจ๋อน้ำเสียงไม่พอใจทันที “เพื่อนผมใส่แพงกว่านี้อีก ตอนนี้ผมอยู่ในโรงเรียนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ช่างเถอะ ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ ถึงยังไงผมก็ถูกเพื่อนหัวเราะเยาะจนชินแล้ว”

หลินไห่อิงรีบพูด “ซื้อ ๆ ๆ ฮ่าวฮ่าว แม่จะซื้อให้ลูกนะ”

ซินจือเหยาตัวแข็งทื่ออยู่กับที่

ครอบครัวของพวกเขาไม่ได้ร่ำรวย หลินไห่อิงเป็นแม่บ้านเต็มตัว ปกติจะทำงานฝีมือไปขายบ้าง ส่วนซินอู่เป็นหัวหน้าแผนกที่ไม่สำคัญอะไรและเงินเดือนไม่เยอะในละแวกนี้

ตั้งแต่ซินจือเหยารู้ความมักได้ยินพ่อแม่พูดกรอกหูว่าบ้านจน พ่อแม่ทำงานลำบาก ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ดังนั้นตอนเรียน เธอจึงแทบไม่มีเงินจะกิน กระทั่งอยู่มัธยมศึกษาตอนปลายพักที่หอพักแล้วถึงได้ค่ากินไม่กี่พัน แถมพวกเขายังไม่เคยให้เธอ เป็นเธอที่ประหยัดกินประหยัดใช้ ไม่มีแล้วจริง ๆ ถึงกล้ากลับไปขอจากพวกเขา แถมยังต้องถูกสั่งสอนยกหนึ่งก่อน

ภายหลังเข้ามหาวิทยาลัย นอกจากค่าเทอมแล้ว เธอแทบไม่เคยขอเงินจากพวกเขาสักแดง

เก้าพันคือค่ากินหลายเดือนของเธอสมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย

เธอตั้งค่าในใจและแข็งใจอยู่นานมากกว่าจะกล้าขอ ตอนนี้พอเป็นลูกชายของพวกเขา กลับได้มาสบาย ๆ

ความอึดอัดจนหายใจไม่ออกท่วมท้น จู่ ๆ ซินจือเหยาก็มีความคิดอยากหนีจากครอบครัวเดิมนี้อย่างแรงกล้า

และเหมือนว่าโจวจี้จะเป็นฟางช่วยชีวิตหนึ่งเดียวของเธอ

เธอวิ่งออกจากบ้าน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากใต้ตึกย่านที่พักเล็ก ๆ แล้วค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของโจวจี้

“ฮัลโหล” เสียงของอีกฝ่ายยังคงกระจ่างใสสุขุมเหมือนเคย

“ศาสตราจารย์โจวคะ” พอได้ยินเสียงของผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ทำไม น้ำตาของซินจือเหยาเอ่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เธอกำโทรศัพท์มือถือแน่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “เราแต่งงานกันเถอะค่ะ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 100

    โจวจี้กำลังจะหยิบปากกามาติ๊ก พอได้ยินก็นิ่งไป “เธอไม่กินเผ็ดไม่ใช่เหรอ?”ซินจือเหยาตอบเสียงเบา “เจียเจียกินค่ะ”โจวจี้พยักหน้าแล้วติ๊กที่เนื้อต้มซ่งอวี่เจียมองพวกเขาจากอีกฝั่งทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เป็นความใกล้ชิดที่ดูเป็นธรรมชาติ มือที่บาดเจ็บของโจวจี้วางพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ของซินจือเหยาอย่างสบาย ๆ ส่วนอีกข้างถือปากกาติ๊ก ซินจือเหยาตัวเล็กกว่าโจวจี้มาก พอมองเผิน ๆ ก็เหมือนเธอถูกเขาโอบไว้ในอ้อมแขนส่วนตัวศาสตราจารย์โจวเป็นอย่างนี้นี่เองอยู่ที่มหาวิทยาลัย ถึงทุกคนจะรู้สึกว่าศาสตราจารย์โจวเป็นคนอ่อนโยนและมีมารยาท แต่ความจริงเวลาเรียนเขาจริงจังมาก มีความเป็นนักวิชาการเต็มตัวแล้วก็จริงจังกับการสอนมาก เลยทำให้ทุกคนแอบเกรง ๆ เขาอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังไม่เป็นอุปสรรคให้นักศึกษาหลาย ๆ คนเพ้อฝันกับเขาใครบ้างไม่อยากดึงผู้ชายที่หล่อเหมือนเซียนลงมาจากแท่นแต่ตอนนี้ซินจือเหยากลับได้ไปง่าย ๆยัยบ้านี่ ได้ดีขนาดนี้!ซ่งอวี่เจียอิจฉาอยู่ในใจอย่างหนักหลังจากอาหารขึ้นโต๊ะ เนื่องจากปฏิกิริยาท้องระยะต้น ซินจือเหยาจึงกินได้น้อยมาก ส่วนซ่งอวี่เจียก็ไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว พยายามล

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 99

    ซินจือเหยา : พูดความจริงอะไรเนี่ย ⁄(⁄ ⁄•⁄ω⁄•⁄ ⁄)⁄ซ่งอวี่เจีย : เอาจริงนะ พอดูอย่างนี้แล้วเธอก็เหมาะสมกับศาสตราจารย์โจวดีเหมาะสมงั้นเหรอ?ซินจือเหยายากจะจินตนาการว่าคำนี้กลับใช้กับเธอและโจวจี้ซ่งอวี่เจีย : เธอถือถ้วยรางวัลยืนกับเขามันได้ความรู้สึกเหมือนสุดยอดกับสุดยอดมาเจอกันซินจือเหยามองภาพนั้นนิ่ง ๆ จากนั้นก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้สุดยอดกับสุดยอดมาเจอกัน?เธอชอบคำนี้จริง ๆซินจือเหยาพูดอย่างใจป้ำ : เย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอนะซ่งอวี่เจีย : ว้าว ๆ ๆซ่งอวี่เจีย : ไม่บอกแต่แรกล่ะ ถ้ารู้ว่าเย็นนี้จะมีข้าวฟรี กลางวันก็กินน้อย ๆ แล้วซ่งอวี่เจีย : ไม่ได้ ก่อนกินข้าวฉันต้องทำท้องให้ว่าง แบบนี้ถึงจะกินได้เยอะซินจือเหยา : ...ขี้เกียจจะพูดกับเธอแล้วหลังจากแชตกับซ่งอวี่เจียเสร็จ ซินจือเหยาคิดแล้วจึงส่งรูปที่ซ่งอวี่เจียส่งมากับโจวจี้ตอนที่โจวจี้ได้รูปกำลังเตรียมตัวไปห้องเรียนเพื่อสอนคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้หลังจากเปิดรูปดู เขาก็เห็นซินจือเหยาในแวบแรก เธอถือถ้วยรางวัลยืนอยู่ข้างตัวเอง ใบหน้าเหนียมอาย ในดวงตาคือรอยยิ้มที่ปกปิดไม่อยู่โจวจี้ยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วตอบกลับ : สวยซิ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 98

    เธอคืนคำที่พวกเขาพูดเมื่อก่อนหน้านี้กลับไปอย่างง่าย ๆ พูดจบก็จากไปอย่างสบาย ๆเจี่ยงซินมองแผ่นหลังที่จากไปของเธอพักหนึ่งแล้วจึงคิดขึ้นมาได้ ดึงไหล่อวี๋เชว่ด้วยความโกรธ “ต้องโทษนายนั่นแหละ ข้อสุดท้ายง่ายขนาดนั้นยังตอบผิด นายดูสิ ตอนนี้เธอชิงที่หนึ่งไปแล้ว”อวี๋เชว่หัวเสียที่ตัวเองผิดพลาดจนเสียที่หนึ่งไปทุนเดิมอยู่แล้ว เจี่ยงซินไม่ปลอบใจเขาแล้วยังจะซ้ำเติมเขาอีกเขาพูดอย่างหงุดหงิด “อย่าพูดได้ไหม เธอได้เธอก็ไปเองสิ”เจี่ยงซินได้ยินก็โกรธจัด “อวี๋เชว่ นายหมายความว่ายังไง? แม้แต่นายก็ดูถูกฉันแล้วใช่ไหม?”ไม่รู้ตัวเองซะบ้างอวี๋เชว่คร้านจะพูดกับเธอจึงเดินไปเสียเจี่ยงซินยังไม่ยอมเลิก ฉุดแขนของเขา “ห้ามไปนะ นายต้องพูดกับฉันให้รู้เรื่องก่อน นายดูถูกฉันใช่ไหม? คิดว่าฉันเก่งสู้ซินจือเหยาไม่ได้ใช่ไหม?”พวกเขายังยืนอยู่หน้าหอประชุม คนที่เดินผ่านหลาย ๆ คนได้ยินเสียงจึงหันมามองพวกเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นเมื่อก่อนเพราะเจี่ยงซินหน้าตาดี เขาอยู่กับเธอจึงรู้สึกภูมิใจ แต่ระยะนี้ยิ่งอยู่กับเธอก็ยิ่งรู้สึกขายหน้า โดยเฉพาะหลังจากทะเลาะกันต่อหน้าธารกำนัลสองสามครั้ง แม้แต่เพื่อนของเขาก็ยังเย้ยเขา บอ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 97

    “เชิญซินจือเหยาตอบค่ะ”ซินจือเหยา พูดเสียงแหบพร่า “บริเวณส่วนท้ายของร่องขมับส่วนบนในซีกซ้ายของสมองใหญ่”พิธีกรแย้มยิ้ม “ถูกต้องค่ะ ยินดีกับซินจือเหยาด้วยนะคะที่ได้ที่หนึ่ง”ทั้งห้องประชุมปรบมือลั่น ซินจือเหยาเกือบอดใจไม่ไหวลุกขึ้นมา เธอมองไปยังเงาร่างโจวจี้เขาปรบมืออยู่ข้างล่างเวที สายตาจดจ่ออยู่กับเธอ มุมปากงามได้รูปยิ้มจาง ๆจู่ ๆ ซินจือเหยาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาจะภูมิใจในตัวเธอไหม? ต่อให้แค่นิดเดียวก็ยังดีนี่หมายถึงเธอใกล้เขาไปอีกนิดอวี๋เชว่ที่อยู่ด้านข้างหมดแรงพิงเก้าอี้ เจี่ยงซินที่อยู่ด้านล่างเวทีแค่นเสียงอย่างไม่ยินยอม บ่นพึมพำ “เธอก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”รางวัลของรางวัลที่หนึ่งคือถ้วยรางวัลกับกำไลออกกำลังกาย หลังจากรับของรางวัลแล้วก็ถึงช่วงเวลาถ่ายรูป ซินจือเหยากลับเห็นว่ามีผู้เข้าแข่งขันไปถ่ายรูปกับโจวจี้ทำไมถึงมีคนอย่างนี้นะซินจือเหยาขยับไปอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนเพราะมีคนไปก่อน คนอื่น ๆ จึงกล้าไปสอบถามโจวจี้โจวจี้น้ำเสียงเป็นมิตร ดูจะเหนื่อยใจอยู่หน่อย ๆ “คนเยอะอย่างนี้ ไม่งั้นก็ถ่ายรูปหมู่เถอะ”ในเมื่อเขาเป็นคนเสนอ นักศึกษาคนอื่น ๆ จ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 96

    “ตุบ”ซินจือเหยาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์กดปุ่ม“ค่ะ ซินจือเหยาตอบคำถาม”“ลิมโฟไซต์”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”“คำถามข้อที่สาม อวัยวะใหญ่สุดในร่างกายมนุษย์”“ตุบ”“เชิญหวังเสี่ยวเล่อตอบคำถามค่ะ”“ผิวหนัง”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”……บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ พอคำถามยิ่งยาก คะแนนก็เริ่มห่างกันทีละน้อย บางคนความเร็วมือแย่ ถึงจะรู้คำตอบแต่จนใจที่แย่งสิทธิ์ในการตอบคำถามไม่ได้ จึงได้แต่มองคนอื่นคว้าคะแนนไปต่อหน้าต่อตาบนเวทีการแข่งขันดุเดือด ส่วนข้างล่างบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดโจวจี้สีหน้าสงบ มองซินจือเหยาอยู่ตลอดเธอในการแข่งขันต่างจากปกติ สายตาจ้องหน้าจอใหญ่ตาเขม็ง ขบฟันกรามแน่น ท่าทางจดจ่อมากกว่าเวลาไหน ๆไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงก็ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ที่แปลกออกไปอีกอย่างหนึ่งยามตั้งใจ ดึงดูดคนเป็นพิเศษโจวจี้ถามตัวเองว่าเคยเห็นคนโดดเด่นมานักต่อนัก แต่ไม่ส่งผลต่อความชื่นชมคนที่พยายามของเขาเลย และเนื่องจากเธอคือภรรยาของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างหนึ่งกระนั้น การได้เห็นคนคนหนึ่งเติบโตละยอดเยี่ยมมากขึ้นทุกที จะรู้ส

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 95

    ซินจือเหยาจ้องดูหน้าจอบนโทรศัพท์มือถือ ปลายนิ้วจิ้มบนหน้าจออย่างรวดเร็วสิบสองนาทีผ่านไปไวมาก หน้าข้อสอบหยุดส่งอัตโนมัติ“การสอบรอบแรกจบลงแล้ว ตอนนั้นจะนับคะแนน” พิธีกรเป็นคนจากสโมสรนักศึกษา กำลังพูดคุยกับกรรมการเบา ๆ อยู่บนเวทีซินจือเหยาผ่อนคลายมือที่แข็งเกร็ง มั่นใจคะแนนของตัวเองมากดังคาด พิธีกรประกาศผลการแข่งรอบแรก“จางหยวนหยวนคลินิกคอลห้องห้าปีสองหนึ่ง ซินจือเหยาคลินิกคอลห้องเจ็ดปีสองสอง อวี๋เชว่คลินิคอลห้องสามปีสองสอง จ้าวโส่วตงคลินิกคอลห้องเก้าปีสองสาม หลินซวี่ช่องปากห้องสองปีสองศูนย์ หวังเสี่ยวเล่อการพยาบาลปีสองศูนย์... ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาสิบท่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงตอบคำถามในลำดับต่อไป ขอเชิญนักศึกษาที่เรียกชื่อขึ้นนั่งบนเวทีด้วยค่ะ”หลังจากพิธีกรขานชื่อแต่ละคนก็มีเสียงประมือดังกึกก้องซินจือเหยาลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นบนเวทีบนเวทีมีที่นั่งอยู่สิบที่ บนโต๊ะแต่ละตัวจะมีปุ่มสีแดงให้แย่งกันกดตอบคำถามไม่รู้ว่าจงใจหรือเปล่า อวี๋เชว่นั่งอยู่ข้างซินจือเหยา“สู้ ๆ นะ” อวี๋เชว่ราวกับพูดกับเธอซินจือเหยาไม่สนใจเขา กดปุ่มสีแดงทำความคุ้นเคยทันใดนั้นตรงที่นั่งคนดู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status