Share

บทที่ 6

Author: ขี้เกียจจะตั้งชื่อ
ซินจือเหยายืนอยู่ด้านข้าง เธอเม้มริมฝีปากเรียกซินอู่ “พ่อ”

ซินอู่เหลือบมองเธอ ตามด้วยสอดส่องในบ้าน “น้องแกล่ะ? ยังไม่กลับมาเหรอ?”

ซินจือเหยากำลังจะพูดว่าไม่รู้ ก็ได้ยินหลินไห่อิงพูดว่า “ฉันเพิ่งโทรไปถามมา บอกว่าเล่นบาสกับเพื่อนอยู่ เพิ่งจะเลิก อยู่ระหว่างทางแล้ว”

ซินอู่แสยะยิ้ม “วัน ๆ รู้แต่เล่นบาส หนังสือหนังหาไม่ตั้งใจเรียน ไม่เอาไหน”

“ลูกเพิ่งจะม.หก คุณรู้ได้ยังไงว่าไม่เอาไหน มีพ่อแม่ที่ไหนว่าลูกชายตัวเองแบบนี้ฮะ”

หลังจากจัดวางอาหารเสร็จ ทั้งสามก็นั่งอยู่หน้าโต๊ะ แต่ไม่มีใครเริ่มจับตะเกียบเพียงเพราะซินฮ่าวเจ๋อยังไม่กลับ

ซินจือเหยาเคยชินแล้ว จ้องเม็ดข้าวตรงหน้าเหม่อลอย

“ทำไมฮ่าวฮ่าวยังไม่กลับมาอีก จะเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?” หลินไห่อิงเอ่ยปากด้วยความเป็นห่วง

“โตขนาดนี้แล้วจะเกิดเรื่องอะไรได้” ถึงซินอู่จะพูดอย่างนี้ แต่ก็ยังอดพูดไม่ได้ “คุณโทรหาถามหน่อยเถอะ”

ทันใดนั้นซินจือเหยานึกถึงสมัยที่ตัวเองเรียนมัธยมศึกษาปีที่หก เพราะไม่มีเงินกินแล้ว เธอที่อยู่หอพักจึงได้แต่ฉวยโอกาสวันสุดสัปดาห์กลับบ้านมาขอจากพวกเขา วันนั้นระหว่างทางกลับบ้านฝนตก เธอหลบฝนอยู่ใต้ชายคานานมากกว่าฝนจะซาลง รอจนเธอเนื้อตัวเปียกปอนเปิดประตูบ้าน พ่อแม่และน้องชายเธอกำลังกินข้าวอยู่ที่โต๊ะ เห็นเธอเปียกโชกทั้งตัวยังไม่แยแส กลับพูดออกมาอย่างนั้นว่า “ฝนตกหนักขนาดนี้ เรานึกว่าแกจะกลับมาพรุ่งนี้เสียอีก”

ครั้งนั้นเธอกลับบ้านช้าหนึ่งชั่วโมง ต้องกินอาหารเหลือของพวกเขา

แต่ซินฮ่าวเจ๋อไม่เหมือนกัน กลับมาช้าสิบกว่านาทีพวกเขายังโทรศัพท์ไปถาม อาหารก็ต้องรอจนกว่าเขาจะกลับมาถึงจะกินได้

หลินไห่อิงกำลังจะโทรศัพท์หาซินฮ่าวเจ๋อก็มีเสียงเปิดประตูดังมาจากหน้าห้อง

เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางประตูทันที “ฮ่าวฮ่าวกลับมาแล้วเหรอ”

ที่เข้ามาคือเด็กหนุ่มอายุสิบหก หน้าตาอยู่ระหว่างอ่อนเยาว์และเป็นผู้ใหญ่ ปอยผมทิ้งตัวอยู่ตรงหน้าผาก ใบหน้าอิสระ ไม่ได้รูดซิปเสื้อโรงเรียน ปล่อยทิ้งชายทั้งสองข้างสบาย ๆ

“หิวแล้วละสิ แม่ทำหูหมูที่ลูกชอบที่สุดเอาไว้ด้วยนะ” หลินไห่อิงยิ้มตาหยีพูดกับซินฮ่าวเจ๋อ

“นั่นมันเรื่องเมื่อชาติไหนแล้ว ผมไม่ชอบกินเมนูนี้ตั้งนานแล้ว” ซินฮ่าวเจ๋อพูดด้วยความหงุดหงิด

“งั้นเหรอ? งั้นตอนนี้ลูกชอบกินอะไรน่ะ คราวหน้าแม่จะทำให้ลูกนะ”

“อะไรก็ได้” น้ำเสียงของซินฮ่าวเจ๋อไม่ถือว่าดีนัก

ตอนที่เขาเข้าประตูมามองซินจือเหยาแวบหนึ่ง พูดว่า “ทำไมเธออยู่ที่นี่ล่ะ?”

กระทั่งไม่เรียกขาน

“สุดสัปดาห์แล้ว พี่ลูกเลยกลับมากินข้าวบ้าน” หลินไห่อิงผลักเขาไปที่ห้องครัว “รีบล้างมือแล้วกินข้าว รอจนกับข้าวเย็นหมดแล้ว”

ซินฮ่าวเจ๋อเข้าห้องครัวอย่างอารมณ์ไม่ดี

ตลอดเวลาที่กินข้าว ซินจือเหยาเงียบมาก มีแต่หลินไห่อิงที่คีบอาหารให้ซินฮ่าวเจ๋อไม่หยุด ราวกับกลัวว่าเขาจะหิว

ซินฮ่าวเจ๋อไม่รับน้ำใจ หลบเลี่ยงอย่างหงุดหงิด “ผมมีมือ ผมคีบเองได้”

ซินอู่มองดูอยู่ด้านข้างพูดขึ้น “เอาละ จะกินข้าวดี ๆ ได้ไหม”

เทียบกับพวกเขา ซินจือเหยาแปลกแยกมาก

กระทั่งเธอกินเนื้อติดมันอย่างไม่ใส่ใจ เมื่อความมันเลี่ยนกระจายในปาก กระเพาะเธอก็ปั่นป่วนทันที

“แหวะ”

เธอกลั้นไม่อยู่อาเจียนกับพื้นเรี่ยราด

!!!

ทั้งสามคนหันไปมองเธอเป็นตาเดียว ซินฮ่าวเจ๋ออุดจมูกด้วยความรังเกียจ

ซินจือเหยายังไม่ทันพูด กระเพาะก็ปั่นป่วนอีก เธอวิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยความเร็วสูงสุด นั่งยองอาเจียนของที่กินไปในคืนนี้ออกมาจนหมด

“เป็นอะไรไป? เป็นอะไรไป?” หลินไห่อิงเข้าตามมาตบหลังให้เธอ “อยู่ดี ๆ ทำไมอ้วกได้ล่ะ?”

ซินจือเหยาอาเจียนจนน้ำตาจะไหล กรอบตาแดง รู้สึกถึงอุณหภูมิอุ่นร้อนจากฝ่ามือของหลินไห่อิงแนบกับแผ่นหลังของเธอ

จู่ ๆ ก็คิดขึ้น ก่อนที่ซินฮ่าวเจ๋อจะเกิด แม่ของเธอก็ตบหลังโอ๋เธอแบบนี้หรือเปล่า

ตอนนี้ในดวงตาขมปร่า ความกระวนกระวายใจและความกลัวตลอดหลายวันที่ผ่านมาเอ่อล้น

เธออยากบอกแม่ว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว อยากถามแม่ว่าเธอควรทำอย่างไรดี? ชีวิตของเธอจะจบสิ้นแล้วใช่ไหม?

“ดีขึ้นหรือยัง?” หลินไห่อิงมองเธอพร้อมถาม

ซินจือเหยาหันไปพยักหน้ากับเธอ ขณะกำลังจะพูดก็หยุดอีก “แม่ หนู...”

เธอยังไม่ทันพูด หลินไห่อิงลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้างนอกพลางขมวดคิ้วพูด “ดีขึ้นแล้วก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย กำลังกินข้าวอยู่ พื้นเละเทะหมดเลย ทำไมแกไม่อดทนแล้วไปอ้วกในห้องน้ำนะ”

คำพูดของหลินไห่อิงราวกับไม้ที่แพ่นกบาล

ยังคงมีเสียงมาจากนอกห้องน้ำ “ฮ่าวฮ่าว ทำไมลูกไม่กินแล้วล่ะ? แม่จะเก็บของสกปรกพวกนี้เดี๋ยวนี้แหละ ลูกกินเยอะ ๆ หน่อย”

เสียงหงุดหงิดของซินฮ่าวเจ๋อดังขึ้น “ไม่กินแล้ว ความอยากอาหารหมดไปนานแล้ว”

ซินอู่เอ่ยเสียงหนัก “เก็บกวาดเร็ว ๆ หน่อย จะให้กินข้าวอยู่ไหม”

ไม่มีใครสนใจว่าซินจือเหยาในห้องน้ำเป็นอะไรไป ไม่มีใครยื่นทิชชูให้เธอ ไม่มีใครเทน้ำให้เธอบ้วนปาก

ซินจือเหยาที่นั่งยองอยู่ในห้องน้ำน้ำตาร่วงเผาะทันที

เธอไม่ควรคาดหวังกับพวกเขา เธอนึกว่าจะได้การปลอบประโลมจากครอบครัวสักหน่อย

แต่เธอลืมไปว่าบาดแผลที่เธอได้รับก็ได้มาจากครอบครัวนี่แหละ ถ้าเธอทำผิด พวกเขามีแต่จะตำหนิเธอ โกรธเธอ ไม่เคยมีใครนึกถึงความรู้สึกของเธอเลย

ในตอนที่น้ำตาพร่ามัว เธอก็นึกถึงผู้ชายที่ราวกับจันทร์กระจ่างหลังฝน

เขาจะบอกเธอได้ไหมว่าเธอควรทำอย่างไร?

……

ค่ำคืนเงียบสงัด โจวจี้นั่งอยู่ในห้องทำงาน ตรงหน้ามีแล็บท็อปวางอยู่เครื่องหนึ่ง แสงสว่างอันแล็บท็อปอันเย็นชืดตกลงบนใบหน้าของเขา คิ้วตาเฉยชา นิ้วมือเรียวยาวของเขากำลังเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วอยู่

“อืด ๆ ๆ”

จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือข้างตัวเขาก็สั่น โจวจี้นวดระหว่างคิ้วแล้วหยิบมาดู เป็นเบอร์แปลก

“สวัสดีครับ” เสียงของโจวจี้มีเสน่ห์มาก

ปลายสายไม่มีคนพูด

โจวจี้พูดอีกครั้ง “สวัสดีครับ”

ยังคงไม่มีใครตอบ โจวจี้สงสัยว่าจะเป็นเบอร์ก่อกวนจึงเตรียมจะวางสาย

ก็ขณะที่ปลายนิ้วกำลังจะแตะปุ่มวางสายก็มีเสียงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ดังมาจากข้างใน “ศะ ศาสตราจารย์โจวคะ”

โจวจี้แค่ฟังก็รู้ว่าเป็นเสียงของซินจือเหยา จึงแนบโทรศัพท์มือถือกับข้างหูอีกครั้ง

เสียงของเธอเจือความขลาดเล็กน้อย “ฉันซินจือเหยาค่ะ”

“ฉันรู้”

“ขอโทษนะคะที่รบกวนศาสตราจารย์ยามดึก” ดูเหมือนว่าเธอจะตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็เหมือนตัดสินใจ “พรุ่งนี้ศาสตราจารย์มีเวลาไหมคะ? เราเจอกันหน่อยได้ไหม?”

โจวจี้ไม่ถามมาก จ้องโคมไฟตรงหน้าแล้วตอบ “ได้”

……

โจวจี้เป็นคนกำหนดเวลาและสถานที่ พอผลักประตูร้านอาหารเข้าไป เขาก็เห็นซินจือเหยาในแวบแรก เธอสามเสื้อโค้ตสีเทาที่เห็นครั้งแรกในมหาวิทยาลัย ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือก้มลงเล็กน้อย บิดนิ้วมือที่วางอยู่บนโต๊ะไม่หยุด บ่งบอกอารมณ์ตึงเครียดของเธอ

โจวจี้เดินไปทางเธอ

เมื่อซินจือเหยาได้ยินฝีเท้าจึงเงยหน้าขึ้น ครั้นดวงหน้าของโจวจี้สะท้องอยู่ในจักษุก็รีบลุกขึ้น “ศะ ศาสตราจารย์โจว”

โจวจี้บอกให้เธอนั่งลง ส่วนตัวเองก็นั่งลงตามติด ๆ

ทั้งสองนั่งฝั่งตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบเชียบเล็กน้อย

โจวจี้เอ่ยปากก่อน “อยากกินอะไร?”

ซินจือเหยารีบโบกมือ “ไม่ต้องค่ะ ๆ”

“ที่นัดมาที่นี่ก็เพื่อกินข้าว” โจวจี้ดันเมนูอาหารให้เธอ “สั่งที่ชอบ”

น้ำเสียงของเขาแน่วแน่ประมาณหนึ่ง ซินจือเหยาไม่กล้าขัดเขาจึงชี้ไปแบบส่ง ๆ “อันนี้ค่ะ”

โจวจี้มองแวบหนึ่ง...หัวปลาผัดพริก

เขาไม่ได้พูดอะไร เรียกพนักงานมาแล้วสั่งอาหารเพิ่มอีกสามอย่างนอกเหนือหัวปลาผัดพริก

รอจนได้เวลาอาหารขึ้นโต๊ะ ซินจือเหยาจึงดื่มน้ำอย่างมีกลยุทธ์

โจวจี้ดูไม่รีบ ตั้งแต่นั่งก็ไม่ถามจุดประสงค์ที่นัดเขาออกมาสักคำ

อาหารขึ้นโต๊ะ พอซินจือเหยาเห็นหัวปลาผัดพริกที่มีพริกปกคลุมอยู่เต็มไปหมดก็รู้สึกสยองขึ้นมา

เธอกินเผ็ดไม่ค่อยได้ แต่เมื่อกี้จิตใจเธอไม่ได้อยู่กับเมนู ชี้ส่งเดชไปไม่รู้ว่าตัวเองชี้อะไร

ของที่สั่งเอง ตอนนี้ต่อให้ฝืนก็ต้องกิน เธอกินติดต่อไปหลายคำ เผ็ดจนเหงื่อซึมหน้าผาก ปากแดงไปหมด

โจวจี้มือหนึ่งยื่นมือเทน้ำเต็มแก้วของเธอ “น้ำมะนาวลดเผ็ดได้ กินไม่ได้ก็อย่ากินเลย”

“ขอโทษค่ะ” ซินจือเหยาอายเล็กน้อย

“ไม่มีอะไรต้องขอโทษ” โจวจี้ขยับหัวปลาผัดพริกไปด้านข้าง “อย่างน้อยฉันก็รู้แล้วว่าเธอกินเผ็ดไม่ได้”

คำพูดของเขาทำให้หัวใจซินจือเหยาหวั่นไหวเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองโจวจี้

น้ำเสียงของเขาราบเรียบมาตลอด แม้ก่อนหน้านี้จะรู้ว่าเธอคือนักศึกษาของเขาก็แค่เสียกิริยาไปชั่วขณะและกลับมาเป็นปกติ

เขาน่าจะอายุมากกว่าเธอไม่น้อย นี่ก็คือความสุขุมจากกาลเวลาในตัวเขา

บางทีการที่เธอมาหาเขาจะเป็นการเลือกที่ถูกต้อง

ทันใดนั้นซินจือเหยามีความกล้า เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูด “ศาสตราจารย์โจวคะ ที่วันนี้ฉันมาหาศาสตราจารย์ก็เพราะว่ามีเรื่องจะพูดด้วย”

ในที่สุดก็เข้าประเด็น โจวจี้พยักหน้าส่งสัญญาณ “เชิญพูด”

ซินจือเหยาเปิดกระเป๋าตัวเอง กางผลการตรวจแล้วส่งไปตรงหน้าเขา

สองมือนั้นสั่นระริกไม่หยุด
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 100

    โจวจี้กำลังจะหยิบปากกามาติ๊ก พอได้ยินก็นิ่งไป “เธอไม่กินเผ็ดไม่ใช่เหรอ?”ซินจือเหยาตอบเสียงเบา “เจียเจียกินค่ะ”โจวจี้พยักหน้าแล้วติ๊กที่เนื้อต้มซ่งอวี่เจียมองพวกเขาจากอีกฝั่งทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เป็นความใกล้ชิดที่ดูเป็นธรรมชาติ มือที่บาดเจ็บของโจวจี้วางพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ของซินจือเหยาอย่างสบาย ๆ ส่วนอีกข้างถือปากกาติ๊ก ซินจือเหยาตัวเล็กกว่าโจวจี้มาก พอมองเผิน ๆ ก็เหมือนเธอถูกเขาโอบไว้ในอ้อมแขนส่วนตัวศาสตราจารย์โจวเป็นอย่างนี้นี่เองอยู่ที่มหาวิทยาลัย ถึงทุกคนจะรู้สึกว่าศาสตราจารย์โจวเป็นคนอ่อนโยนและมีมารยาท แต่ความจริงเวลาเรียนเขาจริงจังมาก มีความเป็นนักวิชาการเต็มตัวแล้วก็จริงจังกับการสอนมาก เลยทำให้ทุกคนแอบเกรง ๆ เขาอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังไม่เป็นอุปสรรคให้นักศึกษาหลาย ๆ คนเพ้อฝันกับเขาใครบ้างไม่อยากดึงผู้ชายที่หล่อเหมือนเซียนลงมาจากแท่นแต่ตอนนี้ซินจือเหยากลับได้ไปง่าย ๆยัยบ้านี่ ได้ดีขนาดนี้!ซ่งอวี่เจียอิจฉาอยู่ในใจอย่างหนักหลังจากอาหารขึ้นโต๊ะ เนื่องจากปฏิกิริยาท้องระยะต้น ซินจือเหยาจึงกินได้น้อยมาก ส่วนซ่งอวี่เจียก็ไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว พยายามล

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 99

    ซินจือเหยา : พูดความจริงอะไรเนี่ย ⁄(⁄ ⁄•⁄ω⁄•⁄ ⁄)⁄ซ่งอวี่เจีย : เอาจริงนะ พอดูอย่างนี้แล้วเธอก็เหมาะสมกับศาสตราจารย์โจวดีเหมาะสมงั้นเหรอ?ซินจือเหยายากจะจินตนาการว่าคำนี้กลับใช้กับเธอและโจวจี้ซ่งอวี่เจีย : เธอถือถ้วยรางวัลยืนกับเขามันได้ความรู้สึกเหมือนสุดยอดกับสุดยอดมาเจอกันซินจือเหยามองภาพนั้นนิ่ง ๆ จากนั้นก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้สุดยอดกับสุดยอดมาเจอกัน?เธอชอบคำนี้จริง ๆซินจือเหยาพูดอย่างใจป้ำ : เย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอนะซ่งอวี่เจีย : ว้าว ๆ ๆซ่งอวี่เจีย : ไม่บอกแต่แรกล่ะ ถ้ารู้ว่าเย็นนี้จะมีข้าวฟรี กลางวันก็กินน้อย ๆ แล้วซ่งอวี่เจีย : ไม่ได้ ก่อนกินข้าวฉันต้องทำท้องให้ว่าง แบบนี้ถึงจะกินได้เยอะซินจือเหยา : ...ขี้เกียจจะพูดกับเธอแล้วหลังจากแชตกับซ่งอวี่เจียเสร็จ ซินจือเหยาคิดแล้วจึงส่งรูปที่ซ่งอวี่เจียส่งมากับโจวจี้ตอนที่โจวจี้ได้รูปกำลังเตรียมตัวไปห้องเรียนเพื่อสอนคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้หลังจากเปิดรูปดู เขาก็เห็นซินจือเหยาในแวบแรก เธอถือถ้วยรางวัลยืนอยู่ข้างตัวเอง ใบหน้าเหนียมอาย ในดวงตาคือรอยยิ้มที่ปกปิดไม่อยู่โจวจี้ยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วตอบกลับ : สวยซิ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 98

    เธอคืนคำที่พวกเขาพูดเมื่อก่อนหน้านี้กลับไปอย่างง่าย ๆ พูดจบก็จากไปอย่างสบาย ๆเจี่ยงซินมองแผ่นหลังที่จากไปของเธอพักหนึ่งแล้วจึงคิดขึ้นมาได้ ดึงไหล่อวี๋เชว่ด้วยความโกรธ “ต้องโทษนายนั่นแหละ ข้อสุดท้ายง่ายขนาดนั้นยังตอบผิด นายดูสิ ตอนนี้เธอชิงที่หนึ่งไปแล้ว”อวี๋เชว่หัวเสียที่ตัวเองผิดพลาดจนเสียที่หนึ่งไปทุนเดิมอยู่แล้ว เจี่ยงซินไม่ปลอบใจเขาแล้วยังจะซ้ำเติมเขาอีกเขาพูดอย่างหงุดหงิด “อย่าพูดได้ไหม เธอได้เธอก็ไปเองสิ”เจี่ยงซินได้ยินก็โกรธจัด “อวี๋เชว่ นายหมายความว่ายังไง? แม้แต่นายก็ดูถูกฉันแล้วใช่ไหม?”ไม่รู้ตัวเองซะบ้างอวี๋เชว่คร้านจะพูดกับเธอจึงเดินไปเสียเจี่ยงซินยังไม่ยอมเลิก ฉุดแขนของเขา “ห้ามไปนะ นายต้องพูดกับฉันให้รู้เรื่องก่อน นายดูถูกฉันใช่ไหม? คิดว่าฉันเก่งสู้ซินจือเหยาไม่ได้ใช่ไหม?”พวกเขายังยืนอยู่หน้าหอประชุม คนที่เดินผ่านหลาย ๆ คนได้ยินเสียงจึงหันมามองพวกเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นเมื่อก่อนเพราะเจี่ยงซินหน้าตาดี เขาอยู่กับเธอจึงรู้สึกภูมิใจ แต่ระยะนี้ยิ่งอยู่กับเธอก็ยิ่งรู้สึกขายหน้า โดยเฉพาะหลังจากทะเลาะกันต่อหน้าธารกำนัลสองสามครั้ง แม้แต่เพื่อนของเขาก็ยังเย้ยเขา บอ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 97

    “เชิญซินจือเหยาตอบค่ะ”ซินจือเหยา พูดเสียงแหบพร่า “บริเวณส่วนท้ายของร่องขมับส่วนบนในซีกซ้ายของสมองใหญ่”พิธีกรแย้มยิ้ม “ถูกต้องค่ะ ยินดีกับซินจือเหยาด้วยนะคะที่ได้ที่หนึ่ง”ทั้งห้องประชุมปรบมือลั่น ซินจือเหยาเกือบอดใจไม่ไหวลุกขึ้นมา เธอมองไปยังเงาร่างโจวจี้เขาปรบมืออยู่ข้างล่างเวที สายตาจดจ่ออยู่กับเธอ มุมปากงามได้รูปยิ้มจาง ๆจู่ ๆ ซินจือเหยาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาจะภูมิใจในตัวเธอไหม? ต่อให้แค่นิดเดียวก็ยังดีนี่หมายถึงเธอใกล้เขาไปอีกนิดอวี๋เชว่ที่อยู่ด้านข้างหมดแรงพิงเก้าอี้ เจี่ยงซินที่อยู่ด้านล่างเวทีแค่นเสียงอย่างไม่ยินยอม บ่นพึมพำ “เธอก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”รางวัลของรางวัลที่หนึ่งคือถ้วยรางวัลกับกำไลออกกำลังกาย หลังจากรับของรางวัลแล้วก็ถึงช่วงเวลาถ่ายรูป ซินจือเหยากลับเห็นว่ามีผู้เข้าแข่งขันไปถ่ายรูปกับโจวจี้ทำไมถึงมีคนอย่างนี้นะซินจือเหยาขยับไปอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนเพราะมีคนไปก่อน คนอื่น ๆ จึงกล้าไปสอบถามโจวจี้โจวจี้น้ำเสียงเป็นมิตร ดูจะเหนื่อยใจอยู่หน่อย ๆ “คนเยอะอย่างนี้ ไม่งั้นก็ถ่ายรูปหมู่เถอะ”ในเมื่อเขาเป็นคนเสนอ นักศึกษาคนอื่น ๆ จ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 96

    “ตุบ”ซินจือเหยาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์กดปุ่ม“ค่ะ ซินจือเหยาตอบคำถาม”“ลิมโฟไซต์”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”“คำถามข้อที่สาม อวัยวะใหญ่สุดในร่างกายมนุษย์”“ตุบ”“เชิญหวังเสี่ยวเล่อตอบคำถามค่ะ”“ผิวหนัง”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”……บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ พอคำถามยิ่งยาก คะแนนก็เริ่มห่างกันทีละน้อย บางคนความเร็วมือแย่ ถึงจะรู้คำตอบแต่จนใจที่แย่งสิทธิ์ในการตอบคำถามไม่ได้ จึงได้แต่มองคนอื่นคว้าคะแนนไปต่อหน้าต่อตาบนเวทีการแข่งขันดุเดือด ส่วนข้างล่างบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดโจวจี้สีหน้าสงบ มองซินจือเหยาอยู่ตลอดเธอในการแข่งขันต่างจากปกติ สายตาจ้องหน้าจอใหญ่ตาเขม็ง ขบฟันกรามแน่น ท่าทางจดจ่อมากกว่าเวลาไหน ๆไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงก็ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ที่แปลกออกไปอีกอย่างหนึ่งยามตั้งใจ ดึงดูดคนเป็นพิเศษโจวจี้ถามตัวเองว่าเคยเห็นคนโดดเด่นมานักต่อนัก แต่ไม่ส่งผลต่อความชื่นชมคนที่พยายามของเขาเลย และเนื่องจากเธอคือภรรยาของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างหนึ่งกระนั้น การได้เห็นคนคนหนึ่งเติบโตละยอดเยี่ยมมากขึ้นทุกที จะรู้ส

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 95

    ซินจือเหยาจ้องดูหน้าจอบนโทรศัพท์มือถือ ปลายนิ้วจิ้มบนหน้าจออย่างรวดเร็วสิบสองนาทีผ่านไปไวมาก หน้าข้อสอบหยุดส่งอัตโนมัติ“การสอบรอบแรกจบลงแล้ว ตอนนั้นจะนับคะแนน” พิธีกรเป็นคนจากสโมสรนักศึกษา กำลังพูดคุยกับกรรมการเบา ๆ อยู่บนเวทีซินจือเหยาผ่อนคลายมือที่แข็งเกร็ง มั่นใจคะแนนของตัวเองมากดังคาด พิธีกรประกาศผลการแข่งรอบแรก“จางหยวนหยวนคลินิกคอลห้องห้าปีสองหนึ่ง ซินจือเหยาคลินิกคอลห้องเจ็ดปีสองสอง อวี๋เชว่คลินิคอลห้องสามปีสองสอง จ้าวโส่วตงคลินิกคอลห้องเก้าปีสองสาม หลินซวี่ช่องปากห้องสองปีสองศูนย์ หวังเสี่ยวเล่อการพยาบาลปีสองศูนย์... ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาสิบท่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงตอบคำถามในลำดับต่อไป ขอเชิญนักศึกษาที่เรียกชื่อขึ้นนั่งบนเวทีด้วยค่ะ”หลังจากพิธีกรขานชื่อแต่ละคนก็มีเสียงประมือดังกึกก้องซินจือเหยาลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นบนเวทีบนเวทีมีที่นั่งอยู่สิบที่ บนโต๊ะแต่ละตัวจะมีปุ่มสีแดงให้แย่งกันกดตอบคำถามไม่รู้ว่าจงใจหรือเปล่า อวี๋เชว่นั่งอยู่ข้างซินจือเหยา“สู้ ๆ นะ” อวี๋เชว่ราวกับพูดกับเธอซินจือเหยาไม่สนใจเขา กดปุ่มสีแดงทำความคุ้นเคยทันใดนั้นตรงที่นั่งคนดู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status