LOGIN“คุณฉันกำลังจะตายแล้ว”ฉันเหลือบตาไปมองอีตาหน้าหล่อรอยสักเต็มต้นคอและหน้าอกด้วยสายตาเศร้าๆเขาก็มองมาที่ฉันแววตาของเขาสื่อถึงความห่วงใย
“มันยังไม่ได้เอามีดกรีดคอคุณเลยน่ะ คุณจะตายแล้วเหรอ?”เขาเอ่ยถามฉันพลางขมวดคิ้วจนจะผูกกันเป็นปม “มันใช่เวลามากวนไหม ฉันจะตายเพราะกลิ่นตัวกับกลิ่นปากมันเนี่ย เหม็นชิบอ๊าย!!”ฉันเอ่ยเสร็จพร้อมกับย่นจมูกและทำท่าพะอืดพะอมจะอ้วกเต็มทน “อ้าวเหรอ เห้ยมึงก็บอกมาว่าต้องการยัยตัวคุณหนูนี่ไปทำอะไร?”เขาเอ่ยถามไอ้กล้ามโตบึกบึนที่โอบร่างฉันไว้ด้วยสายตาจริงจัง “กูบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของมึง!”มันตอบนายนั้นไป “คุณไม่ต้อถามมันมากแล้ว ฉันเหม็นจนจะไม่อยากหายใจอยู่แล้วเนี่ย!!”ฉันตะโกนแหกปากบอกหมอนั้นไป เฉือก “โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่แล่นลงไปลนลำคอของฉันและความเย็นของปลายมีดที่คมกริบ “เห้ย!มึงฆ่ามันไม่ได้น่ะเว้ย เดี๋ยวมึงก็โดนนายฆ่าตายหรอก!!”เสียงเพื่อนของมันอีกคนเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงตกใจ “เห้ยคุณ!!”ตานั้นเอ่ยเรียกฉันพลางทำสีหน้าตกใจ ฉันก็มองเขาพลางเบะปากเหมือนจะร้องไห้ “เจ็บเหรอ?”เขาเอ่ยถามฉัน “เปล่า”ฉันก็ตอบเขาไป เขาก็ยิ่งขมวดคิ้วงุนงงขึ้นไปอีก “แล้วร้องทำไม?” “กลัวเสียโฉม”ฉันบอกเขาไปตามความจริง เขาก็ทำสีหน้าเบื่อโลกใส่ฉันพลางผ่อนลมหายใจอย่างแรงออกมา “เอาตัวมันไป!!”เสียงสั่งการของเพื่อนมันเอ่ยขึ้น ทำให้ไอ้ร่างยักษ์ที่คงอยู่ในความตกใจที่ทำฉันบาดเจ็บได้สติ พรึบ ฉันเอื้อมมือมาตวัดจับมือที่ไอ้ดำมันถือจ่อมีดไว้ที่คอฉันและออกแรงหักมือมันให้ปล่อยจากฉันและฉันก็ใช้ร่างกายเบนตัวออกมาทำให้ฉันหลุดจากการจับกุมของมันได้ “แกคิดว่าทำฉันเสียโฉมแล้วฉันจะปล่อยพวกแกไปง่ายๆอย่างงั้นเหรอ?”ฉันเอ่ยถามขึ้นด้วยนำ้เสียงเดือดจัด พวกมันสิบกว่าคนทำสีหน้าตกใจและทุกคนก็หยิบปืนพกออกมาจากที่เก็บจ่อมาที่ฉัน “เห้ยคุณ!”นายนั้นเอ่ยเรียกฉันด้วยนำ้เสียงตกใจ “คุณคอยดูไว้ล่ะกัน อย่าพลาดกระพริบตาเลย”ฉันหันหน้าไปมองอีตาบ้านั้นพลางเอ่ยบอกเขาให้จับต่ดูฉันไว้ให้ดีๆเขาก็ทำสีหน้าตกใจ ฉันจึงส่งจูบให้เขาทำสายตาเซ็กซี่และหันกลับมาให้ความสนใจกับชายชุดดำที่อยู่เบื้องหน้าฉันต่อ “เห้ยๆอย่ายิงน่ะเว้ย ไม่งั้นนายเอาพวกเราตายหมดแน่” “นายพวกแกเป็นใคร?”ฉันเอ่ยถามพวกมันไปด้วยความสงสัยฉันเพิ่งจะมาอยู่ที่นี้เองน่ะ ยังไม่รู้จักใครสักคนแม้กระทั่งไอ้คนที่พาฉันวิ่งหนีฉันยังไม่รู้จักชื่อเขาเลย “เป็นใครก็ได้ที่แกไม่จำเป็นต้องรู้!”หนึ่งมนชายชุดดำร่างบึกบึนและกลิ่นตัวเหม็นแรงเอ่ยบอกฉันมา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ “แสดงว่าพวกแกจะไม่บอกฉันใช่ไหม?” “ใช่!”พวกมันพร้อมใจกันผสานเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ฉันจึงกรีดรอยยิ้มเยือกเย็นขึ้นมาสายตาของฉันจับจ้องไปที่ด้านหน้าของขอบกางเกงของไอ้ร่างบึกบึนที่ขอบกางเกงของมันมีปืนพกสั้นสองกระบอก “มองอะไรว่ะ!”มันเอ่ยถามฉันมาพลางยื่นมือไปปิดเป้ากางเกงของมันอย่างไว “เปล่าหนิ ฉันพร้อมแล้วเข้ามาจับฉันสิ”ฉันบอกมันไปพร้อมกับยื่นแขนทั้งสองข้างของตัวเองไปข้างหน้าเพื่อให้มันมาจับฉันไป “คุณจะบ้าป่ะเนี่ย ทำอะไร!!”อีตาบ้านั้นหลังจากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยตะโกนถามฉันมาด้วยนำ้เสียงตื่นตะหนก แต่ฉันไม่ได้สนเขากลับเดินมุ่งตรงไปยังกลุ่มชายชุดดำนั้น พรึบ แกร๊ก แกร๊ก ฉันมุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างไวและไม่รอช้ายื่นมือทั้งสองข้างไปหยิบปืนพกที่ขอบกางเกงของไอ้ร่างบึกบึนนั้นและจ่อปืนเล็งยิงไปที่กลุ่มชายชุดดำพร้อมกับกราดยิงปืนทั้งสองกระบอกไปพร้อมๆกันโดยที่ฝ่ายมันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พรึบ ตุ๊บ “เอือกกกก” “เห้ย!!!”เสียงร้องด้วยความตกใจคนที่ยืนอยู่ด้านหลังฉันร้องอุทานขึ้นหลังจากที่ฉันกราดยิงร่างของชายบึกลึนนับสิบคนนอนล้มตายกันเกลื่อนพื้น “จิตใจโหดเกิ๊น!”เขาเอ่ยขึ้นพลางถอยหลังหนีฉัน ฉันก็กระตุกรอยยิ้ม พรึบ “นี่สำหรับที่แกทำให้คอของฉันเสียโฉม!!”ฉันโยนกระบอกปืนพกทั้งสองกระบอกลงไปบนร่างของไอ้คนตัวเหม็นนั้นพลางเอ่ยบอกมันไปด้วยนำ้เสียงโกรธแค้น “นี่คุณ!”เสียงเรียกและแรงสะกิดแขนฉัน ทำให้ฉันหันไปมองเขา เขาที่มีสีหน้าตื่นตกใจและสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากที่เราสองคนสบสายตาเข้ากัน “อะไร?” “ทำไมคุณเก่งจัง?” “ฉันเคยยิงแต่ปืนของปลอมไม่คิดว่าของจริงไกมันจะแข็งขนาดนี้”ฉันบอกเขาไปพลางค่อยๆเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนฟุตบาทข้างทางอย่างคนหมดแรง“ค่ะ^_^”ฉันกับพ่อก็ยิ้มให้กันและเราทั้งหมดก็ทานข้าวกันไปพลางคุยกันไปอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะรอยยิ้มของทุกคนคือสิ่งที่สวยงามและมีความสุขทำให้ฉันรักที่นี้และอยากอยู่ที่นี้ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว “ผมกับซาโยโกะจังขอตัวก่อนนะครับ”พี่ซาโนะเอ่ยขึ้นพลางลุกขึ้นยืนพร้อมกับจับมือของฉันฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ ทุกคนยังทานข้าวไม่เสร็จเลยนะ“ไปไหนคะ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างสงสัยพลางหัรกลับไปมองพ่อของฉัน ท่านก็ยิ้มอบอุ่นและพยักหน้าอนุญาตให้ฉันไปกับซาโนะ“ไปเถอะครับนะ”“ไปเถอะลูก”พ่อมิซานว่าพลางยิ้มแย้มให้ฉัน ฉันก็พยักหน้าและยอมลุกขึ้นยืนและหันไปก้มหัวให้ทุกคนเพื่อขออนุญาตและเดินตามหลังของมิซาโนะออกมาจากที่ทานอาหารตรงนั้น เขาพาฉันเดินไปเรื่อยๆจนไปถึงริมหาดทรายและเขาก็หยุดลงพร้อมกับหันมามองหน้าฉันและเอื้อมมือมาจับมือฉันอีกข้างไปกุมไว้“พี่คิดว่าพี่เอาเปรียบโยโกะจังมามากแล้ว…คือพี่อยากจะ”พี่ซาโนะเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงกระตุกๆ ฉันก็มองหน้าเขาอย่างสงสัยจนคิ้วของตัวเองจะผูกกันเป็นปมแล้ว เขาเอาเปรียบอะไรฉัน“คือพี่อยากจะขอซาโยโกะจังแต่งงานให้ถูกต้องตามกฎหมายและจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตาม
“ปลายฟ้ามึง!!”เสียงตวาดอย่างดุดันของคนที่คุ้นหูฉันดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งตกใจรีบลืมตาตื่นและผุดลุกขึ้นนั่งอย่างอัตโนมัติและถอดแว่นกันแดดออกทันทีเมื่อเห็นพี่ริวอุ้มเรียวซังลูกชายของเขาและวิ่งมาอย่างไวด้วยสีหน้าบูดบึ้งโดยที่เรียวซังยิ้มร่าหัวเราะออกมาอย่างสนุกเขาแหละมีบอดี้การ์ดถือร่มคันใหญ่วิ่งตามหลังพี่ริวแทบไม่ทัน“ว๊ายริว!!”พี่ปลายฟ้ารีบหันกลับไปมองพี่ริวและเอ่ยออกมาอย่างตกใจที่เห็นพี่ริวยืนอยู่ด้านหลังเธอ“เออ!ก็ผัวมึงไง!!”พี่ริวตะโกนเสียงดังใส่พี่ปลายฟ้าจนร่างของพี่ปลายฟ้าสั่นสะท้านฉันไม่รู้ว่าเธอโกรธหรือเธอกลัวกันแน่ ฉันรีบลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปคุยกับพี่ริวไม่ให้เขาโกรธพี่ปลายฟ้าแต่แล้วร่างของฉันก็โดนใครสักคนโอบเอวบางและกระชากเข้าหาตัวเขาอย่างไวพรึบ โพล๊ะ“พะพี่ซาโนะ!”ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนนั้นแต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนนั้นคือสามีสุดหล่อของฉันเอง เขาค่อยๆถอดแว่นกันแดดสีดำออกฉันก็พบกับแววตาดุๆของเขา วันนี้พี่ซาโนะหล่อจัง เขาไม่ได้ใส่เสื้อโชว์ท่อนบนเปลือยเปล่าที่เต็ทไปด้วยรอยสักโชว์ซิกแพคแน่ๆของเขาและเขาก็สวมกางเกงสีแดงขาสั้นแค่หัวเข่า หน้าอกของฉันเบียดเสียดอยู่กับแผงอกสุดแกร่งของเขาและหน้าผ
เกาะส่วนตัวของซานโต้คฤหาสน์….13:00น.ต้นฝน ซาโยโกะจัง….“เป็นยังไงบ้างคะดีขึ้นรึยังซาโยโกะจัง?”เสียงหวานๆของพี่ปลายฟ้าทำให้ฉันที่ลืมตาตื่นต้องหันไปมองเธอและยิ้มให้เธอ พยาบาลประจำตัวคนสวยของฉัน^_^“ดีขึ้นมาแล้วค่ะที่นี้วิวสวยจังเลยนะคะ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันมองออกไปนอกหน้าต่างบานกระจกใสเพื่อมองนำ้ทะเลสีฟ้าครามสวยสดใสพื้นทรายขาวละเอียดมองแล้วโคตรจะมีความสุขเลย“ท่านนายกกำลังเดินทางมานะคะน่าจะมาถึงตอนเย็นพอดี^_^”พี่ปลายฟ้าว่าพลางตรวจร่างกายของฉันอีกรอบ ตัวของฉันไม่มีบาดแผลอะไรนอกจากแผลที่คิของฉันที่ถูกฮามิโกะใช้มีดบาดคอของฉันดีที่เข้าไม่ลึกมากไม่งั้นฉันคงตายไปแล้วล่ะ ส่วนร่างกายของฉันก็ได้รับผลข้างเคียงของยาที่ฮามิโกะฉีดให้ฉันแค่นั้น ฉันรู้สึกเหมือนขาและแขนไม่ค่อยมีแรงคุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นผลกระทบของยาน่ะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงพักผ่อนเยอะๆร่างกายก็จะคืนสู่สภาพเดิมเอง“อาจารย์ภามเสียแล้วเหรอคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่ปลายฟ้าไปอย่างสงสัยเพราะเมื่อเช้าฉันได้ยินซาโนะคุยกับพี่ริวเรื่องการตายของอาจารย์ภามและพ่อของเขารวมไปถึงฮามิโกะที่โดนตำรวจจับกุมตัวได้ที่สนามบินพร้อมกับมินตราสองคนนั้นกำลังจะหนีออกจาก
“คุณพ่อเอาตัวคุณโยโกะไปไว้ที่ไหน!!”เสียงของภามทั้งเสียงดังและดุดันจนทำให้คนรอบข้างพากันตกใจกับอารมณ์ที่โกรธรุนแรงของภาม ฮิเรนเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามองหน้าภาม “ผู้หญิงของแกหายแล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉัน?”ฮิเรนเอ่ยถามภามไปพลางไหวไหลเล็กน้อยนั้นยิ่งทำให้ภามมั่นใจ ว่าฮิเรนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน พรึบ “ผมยอมคุณพ่อมาหลายเรื่องแต่เรื่องนี้ผมจะไม่ยอม!!”ภามเดินไปตบมือทั้งสองข้างลงไปบนโต๊ะไม่ตรงหน้าของฮิเรนทำให้ฮิเรนไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ภามกล้าตวาดเสียงใส่เขา “แกต้องการอีนางนั้นมากกว่าตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ของแกงั้นเหรอ?”ฮิเรนลุกขึ้นและตบมือลงไปบนโต๊ะเสียงดังไม่แพ้ของภามและเอ่ยภามไป ทั้งคู่จ้องหน้ากันแววตาของภามสั่นไหวซึ่งผิดกับแววตาของฮิเรนที่มีทั้งความโลภและความโกรธมากมายอยู่ในนั้น “ใช่!”ภามตอบฮิเรนไปด้วยนำ้เสียงหนักแน่น “แกมันโง่!!”ฮิเรนว่าภามแววตาของเขาจ้องมองไปที่ภามอย่างผิดหวังและโกรธแค้น ทำไมเด็กคนนี้ถึงไม่ได้ความเลวจากเขาไปอย่างเยอะๆ “พ่อไม่เคยมีความรัก..พ่อไม่มีวันเข้าใจ”ภามเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่เขาทั้งรักและเคารพอย่างแผ่วเบา เขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้วในวันนี้ “ใช่เพราะฉัน
บ้านพักของ ฮามิโกะจังภาคใต้ ของประเทศญี่ปุ่น…ต้นฝน ซาโยโกะจัง…“หึ!”เสียงแค่นหัวเราะอย่างสะใจของฮามิโกะดังขึ้นหลังจากที่เธอหันไปมองเวลาของนาฬิการะเบิดที่ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สิบนาที เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาร่างของฉันที่นอนมองเธอด้วยลมหายใจรวยรินเพราะตอนนี้ร่่งกายและระบบประสาทของฉันไม่ทำงานไม่สั่งการอะไรแล้ว“ฉันคงต้องไปแล้วนะ…เธอคงจะต้องอยู่คนเดียว^_^”“ฮ่ะๆๆๆๆ”ฮามิโกะหัวเราะเสียงดังสนั่นราวกับคนที่เสียสติ ฉันจึงค่อยๆหลับตาลงและฟังเสียงรองเท้าของเธอกระทบกับพื้นเสียงรองเท้าของเธอดังไกลออกไปและในโสตประสาทของฉันก็ได้ยินแค่เพียงเสียงเดินถอยหลังของนาฬิกาดิจิตอลนี้ ฉันคงจะตายจริงๆแล้วสินะ‘ลาก่อนค่ะทุกคน’พรึบ“นายหญิงครับ”“นายหญิงซาโยโกะ!”เสียงเรียกฉันพร้อมกับเเรงเขย่าร่างของฉันอย่างเบาๆจึงทำให้ฉันค่อยๆลืมตามองไปที่บุคคลที่ฉันไม่เคยเห็น เขาสวมชุดคล้ายพวกนินจาเสื้อคลุมแขนยาวกางเกงขายาวและผ้าโพกหัวนั้นสีดำสนิทฉันเห็นได้เพียงแค่แววตาของเขา“รีบไปจากที่นี้เถอะครับผมมาช่วย”เขาว่าพลางไม่รอคำอนุญาตจากฉัน เขารีบอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าหญิง และรีบพาฉันเดินออกมาจากห้องนี้โดยที่การเคลื่อนไหวของเขาทำให้ฉัน
(เขตภาคใต้ครับอยู่แถบชานเมืองที่เราเจอรถคอนเทนเนอร์จอดอยู่ขับรถตรงไปเรื่อยๆอีกห้ากิโลเมตรจะเจอกับจุดที่จับสัญญาณโทรศัพท์ของนายหญิงได้ครับ)“ขอบใจมาก”“รอคำสั่งจากฉัน…ฉันจะไปที่นั้นก่อน”ผมเอ่ยบอกปลายสายอย่างรัวเร็วและกดวางสายซาต้าทันที และรีบเดินไปขึ้นรถของผมอย่างไว“เดี๋ยวฉันขับเองนายไปนั่งเถอะ”ผมเอ่ยสั่งคิงะพลางทำมือบอกเขาโดยที่ผมเปิดประตูรถสปอร์ตฝั่งคนขับแล้ว คิวะพยักหน้าเข้าใจและเดินไปขึ้นฝั่งคนนั่งเมื่อเขาขึ้นรถเสร็จผมก็ใส่เกียร์และเหยียบคันเร่งอย่างเร็วเพื่อไปที่นั้นอย่างไว ตลอดเส้นทางที่ผมขับไปมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเหตุการณ์เดจาวูคือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว“มีอะไรรึเปล่าครับนาย?”คิวะเอ่ยถามผมด้วยนำ้เสียงเป็นห่วง เขาคงจะแปลกใจที่ผมลดเหยียบคันเร่งลง ผมหันไปมองหน้าคิวะ“เส้นทางนี้เหมือนฉันเคยมา”ผมบอกคิวะไปและพยายามนึกคิดให้ออกว่าผมเคยมาได้ยังไง เพราะที่ภาคใต้นี่ไม่ใช่เขตของซานโต้และโกมะแต่เป็นของชิโร่ ทาโมโต้ใช่แล้ว ผมเคยมาที่นี้เมื่อปีที่แล้ว “ฮามิโกะเป็นลูกสาวของชิโร่!!”ผมเบิกตาโตขึ้นและพูดออกมาอย่างเพิ่งนึกออกใช่ ผมลืมเธอคนนี้ไปได้ยังไง “เช็กให้ฉันหน่อยว่าบ้านของฮามิโกะ