เข้าสู่ระบบเวลาต่อมา
ดวงตาคู่คมจ้องมองร่างบางสูงโปร่งที่ยืนพูดคุยอยู่กับวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างอย่างพิจารณาก่อนจะขมวดคิ้ว...นี่น่ะหรือเด็กเส้น?
เด็กเส้นที่ทำงานวันแรกพูดคุยกับวิศวกรรู้เรื่องราวกับเป็นสถาปนิกเจ้าของแบบแปลนแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?
“เคทมีความประสิทธิภาพมากพอที่จะเป็นสถาปนิกของNTK คุณนนท์ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมไม่ได้เอาคนไม่เป็นโล้เป็นพายเข้ามาหรอก” ปวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยเมื่อเห็นว่าสายตาของคนที่อยู่ ๆ ก็มาดูความเรียบร้อยที่โครงการจับไปที่ร่างของเพื่อนสาวของเขา...เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายคงมาที่นี่เพราะมีใครเป่าหูเรื่องเพื่อนของเขาอย่างแน่นอน
“ถ้าคุณมั่นใจ ผมก็คงทำได้แค่รอดู” นนทกรตอบกลับทว่าสายตายังคงไม่ละไปจากร่างบางที่ยังคงพูดคุยอยู่กับวิศวกรอย่างจริงจัง คริษฐาไม่เหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เขาเคยพบเจอ หญิงสาวไม่ถึงกับห้าวแต่ก็ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ คนงานที่เดินผ่านไปผ่านมานอกจากแอบมองอย่างหลงใหลแล้วยังมีความเคารพบ่งบอกว่าก่อนหน้านี้เธอได้ทำให้เขาเหล่านั้นได้เห็นแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่รังแกได้ง่าย...ยิ่งมอง ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ
“รอดูได้ แต่อย่าดูนาน เดี๋ยวตำรวจจับ” ปวินบอกกับคนที่ยังคงมองเพื่อนของเขาอย่างสนใจก่อนจะเดินผละออกไปโดนไม่อธิบายในประโยคท้าย
ร่างสูงของปวินก้าวไปหาเพื่อนสาวก่อนจะแบมือให้ “กุญแจรถหน่อย จะกลับไปเอาของที่บริษัท”
มือบางหยิบกุญแจรถยื่นให้แต่ก็ชักกลับเมื่อนึกขึ้นได้ “ขากลับเอาโกโก้ปั่นมาฝากด้วย รับปากก่อนแล้วจะให้”
“เออ เดี๋ยวจัดแก้วใหญ่ ๆ ให้เลย” ปวินรับคำด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงการประท้วง เพราะไม่อยากเปลืองน้ำมันเขาเลยติดรถคริษฐามาที่ไซต์งานแต่ดูแล้วการติดรถยัยคนนี้มาก็ไม่ได้ทำให้เขาประหยัดไปเท่าที่ควรจะเป็น
ปวินเดินจากไปแล้วคริษฐาก็เดินดูสิ่งก่อสร้างต่อโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะมองมา
เพราะหญิงเคยทำงานที่NTKอยู่ช่วงหนึ่งแม้จะนานมาแล้วทำให้หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาและรู้จักหญิงสาวกันอยู่บ้างการพูดคุยและทำงานจึงไม่มีฝ่ายไหนต้องเกร็งหรือเคอะเขิน ยิ่งได้ทำงานกันมาก่อนจะได้กลับมาเป็นสถาปนิกเต็มตัวแล้วกว่า1สัปดาห์ก็ยิ่งทำให้หลายคนสนิทใจที่จะคุยกับสถาปนิกคนใหม่โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ
หนึ่งในคนที่รู้จักกับคริษฐามาตั้งแต่ช่วงก่อนจะลาออกก็คือพิมพ์จันทร์ สาวหล่อจอมกวนหนึ่งในทีมวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้าง ในอดีตพิมพ์จันทร์ตามจีบสถาปนิกสาวมาโดยตลอด แต่หลังจากที่คริษฐาแต่งงานพิมพ์จันทร์ก็กลายมาเป็นเพื่อนอีกคนของหญิงสาวที่ไปมาหาสู่กันจนสนิทสนมกับครอบครัว แม้แต่เด็กชายคีรกูรยังสนิทกับพิมพ์จันทร์จนบางครั้งคีรินทร์ยังรู้สึกอิจฉา
ลำแขนแข็งแรงพาดลงบนคอขาวจากด้านหลังทำให้คริษฐาที่กำลังมองดูการทำงานของคนงานก่อสร้างอยู่ต้องเหลือบมอง “อะไร?”
“อยากกอด ไม่ได้เหรอ?” พิมพ์จันทร์พูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สถาปนิกสาวเบือนหน้าหนีพร้อมกับยิ้มขำ
“อย่ามาอ่อย ไม่หลงหรอก”
“ใครอ่อย...ไม่ได้อ่อยเว้ยช่วยอยู่ต่างหาก” คนโดนหาว่าอ่อยแย้งพร้อมกับส่งเสียงกระซิบ “มีคนมองแกอยู่ ไม่รู้ตัวบ้างเหรอคุณนาย”
“มอง?” คริษฐาลอบสังเกตรอบ ๆ ข้างก่อนจะเลิกคิ้ว...มีหลายคนมองมาอย่างสนใจจริง ๆ แฮะ
“ไอ้ผู้ชายไซต์นี้มันชอบสาวสวย เก่ง เท่ ๆ ที่ไม่ใช่ทอม และไม่มึงมาพาโวยแบบไอ้เจี๊ยบ มันเลยสนใจคุณนายกันใหญ่”
“แล้วไง?”
“ก็ถ้าทวงผัวคืนมันยาก หาใหม่ก็ได้นะเว้ย พวกเขาสนใจแกอยู่ เปิดใจบ้างก็ได้” พิมพ์จันทร์พูดพลางส่งสัญญาณให้มองตามไปดูแต่ละคนที่มีท่าทีสนใจคริษฐา
“ไม่เอาล่ะ ขี้เกียจวุ่นวาย ณ ตอนนี้ฉันต้องการความโสด”
“พวกนี้อาจไม่หล่อพอ งั้นนำเสนอคนนี้... ทางซ้าย” พิมพ์จันทร์บอกพิกัดก่อนจะอธิบาย “รู้สึกว่าจับตาดูแกมานานแล้ว หล่ออยู่นะ”
คริษฐามองตามก่อนจะรีบส่ายหน้าเมื่อคนที่พิมพ์จันทร์สื่อถึงนั้นก็คือนนทกร “ไปกันใหญ่แล้วจันทร์ ที่เขามอง ๆ น่ะ ไม่ใช่ว่าอยากหาทางจับผิดไล่เด็กเส้นออกเหรอ”
“ก็ไม่แน่ เขาอาจจะมองไปมองมาแล้วชอบก็ได้”
“เพ้อเจ้อ”
“เฮ้ย อาจจะไม่เพ้อเว้ย แกไม่เหมือนใคร ไม่หวานแต่ก็ไม่ห้าวเป้งมึงมาพาโวยแบบไอ้เจี๊ยบ ผู้ชายส่วนใหญ่เริ่มชอบแบบนี้ อ่อนแอน่ะเขาไม่ค่อยชอบกันแล้วเขาชอบแบบแกนี่ อีกอย่างนะเขาว่าสาวรัสเซียสวยติดอันดับโลก หน้าตาได้แม่มาแบบนี้ใครมองก็หลง”
“มโนเก่ง นั่นประธานคนใหม่ อยากโดนไล่ออกรึไง?”
“ประธานแล้วไงวะ ฉันเห็นเขามองแกตลอด ไม่มองธรรมดาด้วยนะบอกให้”
“เงาหัวแกเริ่มไม่มีแล้วจันทร์ เลิกไร้สาระแล้วไปทำงานดีกว่ามั้ย”
“ไปก็ได้ แต่ถามก่อน...ถ้าเขาสนใจแก แกจะสนกลับมั้ย หล่อ รวย ไฮโซด้วยนะ”
“ไม่”
“เฮ้ย ไม่สนเลยเหรอคุณนาย”
“ไม่สน แล้วก็ไม่ใช่คุณนายแล้วด้วย” คริษฐาย้ำช้า ๆ ชัด ๆ กับพิมพ์จันทร์ก่อนจะเดินเลี่ยงไปในจุดที่สายตาของใครคนนึงจะตามไปไม่ถึง
พิมพ์จันทร์ถอนใจพรืดก่อนจะลอบมองประธานหนุ่ม...มีหนุ่มหล่อมาสนใจคุณนายแบบนี้ สามี เอ้ย อดีตสามีรู้เข้าจะเป็นยังไงน๊า
“เรื่องนี้มันต้องขยาย มาดูกันซิ ไอ้ผู้กองจะทำยังไง” คนมีแผนการยิ้มก่อนจะแอบถ่ายรูปประธานหนุ่มและเดินตามคริษฐาไป
ขณะที่คริษฐากำลังสนใจงาน นนทกรที่คิดว่าตัวเองควรเลิกมองสถาปนิกสาวได้แล้วก็ถอนสายตาจากร่างบางและก้าวเดินไปอีกทาง เพราะเขาบอกปวินว่าจะมาดูความคืบหน้าของโครงการก็ต้องดูจริง ๆ จะมามองแต่เด็กเส้นที่ดูจะมีฝีมือไม่ได้
ร่างสูงก้าวช้า ๆ สายตามองความคืบหน้าของสิ่งก่อสร้างก่อนจะหยุดฟังเมื่อได้ยินเสียงพูดกันของคนงานที่แอบนั่งอู้กันอยู่
“สถาปนิกผู้หญิงนั่นโคตรแจ่มเลยว่ะ หน้าก็สวย อกเป็นอก เอวเป็นเอว ข้างนอกดูเท่ ๆ ลุย ๆ ไม่รู้ข้างในจะเป็นยังไง”
“จะเป็นยังไงล่ะวะ ก็คงจะขาวน่าฟัดน่ะสิ”
“พวกเอ็งอย่าทะลึ่งซิวะ จำกันไม่ได้เหรอที่โดนจับทุ่มกันมาหลังแทบหักเมื่อวันก่อนน่ะ”
“เหอะ ก็แค่ผู้หญิงที่รู้ศิลปะป้องกันตัวนิดหน่อยจะไปกลัวทำไมวะ ถ้ามีโอกาสนะพ่อจะฟัดให้ร้องขอชีวิตเลย”
“อย่าพูดดังไปไอ้โต้ง เดี๋ยวมีใครมาได้ยินเข้ามันจะเป็นเรื่อง”
“เหอะ ไอ้ขี้ขลาดเอ้ย”
นนทกรยืนฟังบทสนทนาของชายฉกรรจ์เพียงเท่านั้นก็หันหลังกลับและก้าวไปยังทิศทางที่คริษฐายืนพูดคุยอยู่กับพิมพ์จันทร์
ร่างสูงหยุดยืนด้านหน้าของทั้งสองคนก่อนจะนิ่งไปครู่แล้วจึงเอ่ยถาม “พวกคุณสองคนเห็นคุณปรานรึเปล่า?”
“ปรานไปเอาของที่บริษัทน่ะค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ผมอยากดูความคืบหน้าของโครงการ ในเมื่อคุณปรานไม่อยู่คุณสองคนก็นำทางแล้วก็อธิบายแทนหน่อยก็แล้วกัน” คำของเขาไม่ใช่คำขอร้องแต่เป็นคำสั่งที่คริษฐาและพิมพ์จันทร์ไม่สามารถขัดได้ หนึ่งสถาปนิกและหนึ่งวิศวกรจึงต้องนำนนทกรชมความคืบหน้าของการก่อสร้างอย่างเลี่ยงไม่ได้
พิมพ์จันทร์แปลกใจและสงสัยขณะที่คริษฐามองผ่านไม่คิดสงสัยอะไรแต่นนทกรรู้ดีว่าตัวเขากำลังทำอะไรอยู่ การเดินดูพื้นที่ก่อสร้างดำเนินไปสักพักพิมพ์จันทร์ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำด้วยท่าทีรีบร้อนจึงเหลือเพียงสถาปนิกสาวและประธานหนุ่มที่ยืนอยู่เพียงสองคน
เมื่อเหลือกันเพียงสองคนคริษฐาที่เห็นสมควรว่าควรจะรอพิมพ์จันทร์กลับมาก่อนก็เอ่ยถาม “เอ่อ พักตรงนี้ก่อนมั้ยคะ?”
“ก็ดี”
เมื่อไม่มีพิมพ์จันทร์และไม่ต้องอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างของงานต่างฝ่ายก็ต่างเงียบราวกับไม่รู้ว่าควรจะคุยอะไร นนทกรไม่รู้จะพูดอะไรส่วนคริษฐานั้นเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วจึงไร้บทสนทนาระหว่างทั้งคู่ไปโดยปริยาย
มือบางลากคนที่ยังมึนจนเกือบจะน็อคกลางอากาศออกมาจากตึกก่อนจะรีบปล่อยมือเมื่อพาชายหนุ่มมาถึงจุดที่ไร้ผู้คน“ไง หายงงยัง”“คะ เคท เคทต่อยเฮียเหรอ” เอาตรง ๆ มั้ยล่ะเขาไม่โดนผู้หญิงที่ไหนต่อยมาก่อนเลยโดยเฉพาะคนตรงหน้า ร้อยวันพันปีคริษฐาไม่เคยจะสาวหมัดใส่เขาแม้แต่จะตบกันอย่างหยอกล้อ เธอยังไม่สามารถทำได้เลยสักครั้งนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ“ก็ต่อยน่ะซิ คิดว่าจูบหรือไง”“แล้วมันเรื่องอะไรหะ ถึงมาต่อยกันแบบนี้”“ก็อยากต่อยต่อย ทำไมต่อยไม่ได้เหรอ ก็สอนให้ต่อยเองนี่ เรียนมาก็ต้องใช้...ไม่ถูกเหรอ” หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบกลับ เล่นเอาคนที่สอนให้ต่อยถึงกับสะอึก... ใช่ เขาเป็นคนสอนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวให้เธอเองและก็เคยบอกเธอด้วยว่าเรียนมาแล้วก็ต้องใช้จะได้ไม่เสียแรงฟรีเล่นย้อนกันแบบนี้ไปไม่ถูกเลยทีเดียวคริษฐาร้องหึในลำคอเมื่อเห็นใบหน้าไปไม่ถูกของชายหนุ่ม หญิงสาวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดเปิดคลิปเสียงที่เธอวานให้จิรชาส่งมาให้ทางไลน์พร้อมกับมองคนที่ยังตกอยู่ในอาการมึนงงพูดอะไรไม่ถูกได้ฟัง“ยังไง?”“เฮียมีเหตุผลนะ” คนความลับแตกเอ่ยเสียงหวั่น ๆ เขาไม่ได้กลัวคริษฐาเพียงแค่เกรงว่าเธอจะเข้าใจเจตนาของเขาผิดไป
นัยต์ตาหวานจดจ้องดอกกุหลาบขาวสัญลักษณ์ของความรักที่บริสุทธิ์ไร้ซึ่งแผนร้ายแอบแฝงพลางอมยิ้ม เธอชอบสีขาวและชอบดอกกุหลาบสีขาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแต่เธอไม่เคยบอกใครเลยว่าเธอชื่นชอบดอกกุหลาบขาว นอกจากเขาคนนั้นแล้วไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนแม้ว่าดอกกุหลาบขาวจะสื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ แต่คริษฐาไม่ได้มองว่ากุหลาบขาวดอกนี้ถูกส่งมาเพื่อสื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์หรอกนะ เธอมองว่ามันสื่อถึงความใส่ใจของคนให้เสียมากกว่า...เขาส่งในสิ่งที่เธอชอบมา หมายความว่าเขาใส่ใจเธอถึงหลายครั้งจะแสดงออกว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องยิบย่อยใช่มั้ยล่ะ?“กุหลาบก็มา ของโปรดก็มา แต่ทำไมตัวไม่มา ใจคอจะไม่มาเจอหน้าเลยรึไง รอเจอก่อนก็ไม่ได้”“เขาไม่รอเจอแก ก็เพราะเขากลัวคุยนาน ๆ แกจะจับได้น่ะสิ” จิรชาแทรกขึ้นพร้อมกับก้าวมานั่งข้าง ๆ คริษฐามองเพื่อนสาวใจห้าวที่ไม่ได้เดินมามือเปล่าแต่ยังมีเค้กชิ้นพอดีจานติดมือมาด้วยก่อนจะหลุดขำจนลืมสิ่งที่เพื่อนสาวพูดไปเสียสนิทเมื่อมองไปที่ริมฝีปากของเพื่อน ดูเอาเถอะยัยห้าวที่บางครั้งทำตัวแมนกว่าผู้ชายเวลากินเค้กก็กินเปื้อนอย่างกับเด็ก ๆ เลยแหน่ะ จะไม่ให้ขำได้ยังไง“กินเลอะเป็นเด็ก ๆ ไปได้”“ก็คนม
ดวงตาคู่คมมองผ่านแว่นดำไปยังไซต์งานที่กำลังก่อสร้างอยู่ไม่ไกลก่อนจะผินตาไปมองเจ้าของร้านน้ำปั่นที่ตนกำลังนั่งรอโกโก้ปั่นอยู่กับใครอีกคนที่นั่งหลับตาพักสายตาอยู่หลายสายตากำลังเมียงมองและซุบซิบทว่าคีรินทร์กลับไม่ได้สนใจ แม้จะรู้อยู่แก่ใจถึงเหตุผลที่หลากหลายสายตามองมา...ไม่แปลกที่ผู้คนจะสนใจ ก็ผู้ชายหุ่นกำยำสองคนมานั่งด้วยกันในร้านน้ำปั่นแบบนี้ใคร ๆ ก็ต้องมองล่ะ“โกโก้กับชาเขียวปั่นพร้อมขนมได้แล้วค่ะคุณลูกค้า” เสียงหวานที่ดัดให้หวานกว่าเสียงจริง ๆ ดังขึ้นก่อนที่โกโก้และชาเขียวปั่นที่สั่งไปพร้อมกับขนมจะถูกนำมาเสิร์ฟคีรินทร์ยื่นมือไปหยิบแก้วทันทีที่แก้วถูกวางลงก่อนจะจับหลอดดูดในทันทีโดยไม่สนใจสายตาหวานเชื่อมของพนักงานเสิร์ฟสาวที่พยายามทอดสายตาอยู่ ร้อนถึงคนที่ลืมตาจากการพักสายตาต้องเอ่ยขอบคุณพนักงานสาวเพื่อเป็นการเป็นนัย ๆ ให้หญิงสาวถอยออกไป“ผู้หญิงสมัยนี้นี่ยังไง ไม่สงวนท่าทีซะบ้างเลย” น้ำเสียงทุ้มชัดถ้อยชัดคำที่แตกต่างจากใบหน้าที่คนไม่รู้จักมาเห็นอาจจะคิดว่าเป็นชาวต่างชาติเอ่ยบ่นก่อนจะหยิบแก้วชาเขียวปั่นขึ้นมาดื่มบ้าง“หมดยุคนั่งเหนียมอายแล้วมั้ง” คีรินทร์เอ่ยแสดงความคิดเห็นแล้วก็มองโ
เวลาต่อมาดวงตาคู่คมจ้องมองร่างบางสูงโปร่งที่ยืนพูดคุยอยู่กับวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างอย่างพิจารณาก่อนจะขมวดคิ้ว...นี่น่ะหรือเด็กเส้น?เด็กเส้นที่ทำงานวันแรกพูดคุยกับวิศวกรรู้เรื่องราวกับเป็นสถาปนิกเจ้าของแบบแปลนแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?“เคทมีความประสิทธิภาพมากพอที่จะเป็นสถาปนิกของNTK คุณนนท์ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมไม่ได้เอาคนไม่เป็นโล้เป็นพายเข้ามาหรอก” ปวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยเมื่อเห็นว่าสายตาของคนที่อยู่ ๆ ก็มาดูความเรียบร้อยที่โครงการจับไปที่ร่างของเพื่อนสาวของเขา...เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายคงมาที่นี่เพราะมีใครเป่าหูเรื่องเพื่อนของเขาอย่างแน่นอน“ถ้าคุณมั่นใจ ผมก็คงทำได้แค่รอดู” นนทกรตอบกลับทว่าสายตายังคงไม่ละไปจากร่างบางที่ยังคงพูดคุยอยู่กับวิศวกรอย่างจริงจัง คริษฐาไม่เหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เขาเคยพบเจอ หญิงสาวไม่ถึงกับห้าวแต่ก็ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ คนงานที่เดินผ่านไปผ่านมานอกจากแอบมองอย่างหลงใหลแล้วยังมีความเคารพบ่งบอกว่าก่อนหน้านี้เธอได้ทำให้เขาเหล่านั้นได้เห็นแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่รังแกได้ง่าย...ยิ่งมอง ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ“รอดูได้ แต่อย่าดูนาน เดี๋ยวตำ
1สัปดาห์ต่อมาเพราะความช่วยเหลือของปวินและผลงานที่เป็นที่ประจักษ์จากการควบคุมและจัดการคนงานในไซต์งานได้อยู่หมัดทั้งที่เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คริษฐาจึงได้เซนต์สัญญากับบริษัทอีกครั้งร่างสูงโปร่งในเสื้อยืดกางเกงยีนคล่องตัวก้าวเข้ามาภายในบริษัทNTK Interior Architectสถานที่ทำงานด้วยใบหน้ามุ่งมั่นบริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทก่อสร้างสถาปัตยกรรมครบวงจร ไม่ว่าจะบ้าน คอนโดมิเนี่ยม หรือสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ภายในบริษัทมีทั้งสถาปนิก มัณฑนากร วิศวกร และทีมงานก่อสร้าง โครงการในความรับผิดชอบของบริษัทมีทั้งในและนอกประเทศจึงเป็นบริษัทออกแบบและก่อสร้างที่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างคริษฐานึกย้อนถึงความจริงข้อนี้แล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ในที่สุดที่ก็ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งทั้งที่ไม่เคยวาดฝันว่าจะได้กลับมา...จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไรล่ะ2วันก่อน“ที่นี่มีสถาปนิกมากมาย ไม่ขาดแคลน...” หลังจากที่เงียบมานานนริศหรือบอสนิคของทุกคนในบริษัทก็เอ่ยขึ้น ประโยคนั้นของนริศทำเอาคนฟังใจแป้วไม่น้อย ไม่ต่างจากปวินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ซึ่งมีอาการไม่แตกต่างไปจากเพื่อนสาวทว่าเพียงไม่กี่นาทีทั้งคู่ก็ต้องอุทานด้วยความตกใจกับคำพูดต่อจากนั
คริษฐาไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางที่ถูกบอกเลิกแล้วจะเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย โอเค! ในตอนแรกเธออาจจะตกใจ รู้สึกคิดอะไรไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่บ้าง แต่โน๊ตที่คีรินทร์ทิ้งไว้ก็ทำให้ทุกอย่างจางหายไปในความคิดของคริษฐาสิ่งที่คีรินทร์ต้องการจะสื่อทั้งหมดก็คือยกบ้านให้เธอ ให้เธออยู่ที่นี่เพื่อรอเขากลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันในสักวันหนึ่ง...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แต่ถ้าเธอทำตามนั้นเธอก็ไม่ต่างจากของตายที่เขาหันมาเมื่อไหร่ก็ยังวางอยู่ที่เดิมน่ะสิ...ฝันไปเถอะนั่นไม่ใช่สไตล์ของเธอ คีรินทร์จะต้องสำนึกกับการคิดว่าเธอเป็นของตาย และต้องเสียดายจนแทบบ้าที่กล้าบอกเลิกเธอด้วยความคิดบ้า ๆ บอ ๆและสิ่งที่หญิงสาวทำสิ่งแรกหลังจากเห็นโน๊ตของอดีตสามีก็คือการตัดสินใจเก็บกระเป๋าและออกไปจากอะไรเดิม ๆ และที่เดิม ๆ ที่เคยอยู่เขาจะให้เธอรออยู่ที่นี่เธอก็จะไม่รอ...แล้วเขาจะได้รู้ ว่าไม่ควรสิ้นคิดขอเลิกเธอ1สัปดาห์ต่อมาว่ากันว่าอยากทำให้ใครเสียดายก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้น ยิ่งถ้าอยากให้แฟนเก่า สามีเก่า หรือคนสิ้นคิดเสียดายเล่นเพื่อความสะใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องทำให้ตัวเองสวยขึ้น ดูดีขึ้น“อุแม่!!! เกิดอะไรขึ้นคะชะนี ผมยาวสลว







