“แล้วน้องเอ่อ....”
“ยัยนี่ชื่ออ้ายฉิงค่ะ ส่วนดิฉันชื่อลี่หลิน ยินดีที่ได้พบพี่ตงหานกับพี่ๆ นะคะ” หวงลี่หลินเป็นคนเอ่ยแนะนำตัวเพื่อนสาวและตนเองให้พี่ชายเพื่อนของเยว่หรูได้รู้จัก
“ครับ แล้วน้องอ้ายฉิง ทำไมถึงไม่อยากมีแฟนล่ะครับ” ลู่ตงหานเอ่ยต่อหลังจากที่เพื่อนสนิทของเพื่อนน้องสาวเอ่ยแนะนำตัวเธอและหญิงสาวที่เขาทักค้างไว้เสร็จแล้ว
“เอ่อ... คือดิฉันยังไม่เจอคนที่ใช่ค่ะ พวกผู้ชายส่วนมากก็จะเหมือนๆ กัน ไม่ขี้หลีก็ชีกอ ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่ได้เหมารวมพวกพี่ๆ ไปด้วยนะ”
อ้ายฉิงตอบออกมาก่อนที่จะรีบปฏิเสธเมื่อนึกขึ้นได้ว่าหนุ่มๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยก็เป็นผู้ชาย สามหนุ่มพากันยิ้มแหยๆ ออกมา โดยเฉพาะคนที่เป็นแบบที่เธอว่าจริงๆ อย่างเยว่อวี่ซิน
“ส่วนหนูน่ะเหรอ พี่คงจะรู้นะพี่ตงหานว่าทำไม หนูเจอผู้ชายจากสายงานของตัวเองมามากหน้าหลายตา เรียกได้ว่าเจอมาทุกรูปแบบ พอเจอบ่อยเข้าก็เริ่มที่จะเห็นว่าผู้ชายก็ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงเท่าไหร่ ตราบใดที่หนูหาคนที่จะมาทำให้รู้สึกอบอุ่นใจและปลอดภัยไม่ได้ ก็คงจะไม่มีวันที่เยว่หรูคนนี้อยากมีแฟนหรอกค่ะ” คำตอบของนักบิดสาวทำเอาคนที่กำลังฟังอย่างสนใจรีบเก็บข้อมูลเอาไว้ทันที
“แล้วนี่ไปรู้จักกับเจียวจ้านกันได้ยังไงกันครับ” เยว่อวี่ซินเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ สองสาวชี้ไปที่สาวสวยในชุดแซกสีแดงเพลิงพร้อมๆ กัน
“พอดีบังเอิญชนกันแถวหน้าห้องน้ำน่ะค่ะ”
“เพิ่งจะรู้จัก แล้วเพื่อนพี่มันมาเสนอหน้านั่งกับพวกน้องๆ เองหรือว่าน้องๆ ชวนมันมานั่งครับ” ลู่ตงหานเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ขณะที่เฉินเจียวจ้านนั้นได้แต่นั่งอมยิ้ม
“คือเราสองคนตกลงที่จะทำบางอย่างร่วมกันน่ะค่ะ” หวงลี่หลินตอบออกมาทันทีก่อนที่พี่ชายเพื่อนของเยว่หรูจะคิดไปไกล
“ทำบางอย่าง บางอย่างที่ว่าคงไม่ได้ตกลงกันว่าจะไปเป็นแฟนหลอกๆ ให้กันใช่ไหมครับ”
เยว่อวี่ซินเอ่ยถามขึ้น เพราะเฉินเจียวจ้านนั้นเพิ่งจะมาบ่นให้เขาทั้งสองคนฟังว่าทางบ้านกำลังจะหาคู่นัดบอดให้ ถ้าเขายังไม่มีแฟนไปเปิดตัวในวันเกิดของตนเองในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้
“อ้าว ทำไมพวกพี่รู้ล่ะคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นอย่างตกใจ
“ก็...พี่ได้ยินไอ้เจียวจ้านมันมาบ่นให้พวกพี่สองคนฟังจนหูชา พอน้องลี่หลินบอกว่าตกลงที่จะทำบางอย่างร่วมกันกับมันพี่ก็คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลยครับ เพราะน้องลี่หลินเองก็ยังไม่อยากมีแฟนเหมือนกัน ใช่ไหมล่ะ” เยว่อวี่ซินรีบเอ่ยขึ้นทันที
“ใช่ค่ะ พอดีลี่หลินกับ เยว่หรูและอ้ายฉิงเราต้องหาแฟนหลอกๆ เพื่อควงไปงานวันแต่งงานของเพื่อนต่างกลุ่มในรุ่นน่ะค่ะ พอดีโดนท้าทายมานิดหน่อย เข้าทางกับคุณเจียวจ้านพอดีเลย ที่เขาเองก็กำลังมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน เราสองคนเลยตกลงจะคบกันหลอกๆ เพื่อตบตาเพื่อนของเราและครอบครัวของคุณเจียวจ้านน่ะค่ะ”
หวงลี่หลินบอกความจริงกับสองหนุ่ม เพราะดูๆ แล้วพวกเขานั้นไม่ใช่คนที่กลุ่มยัยถิงถิงรู้จักอย่างแน่นอน หนุ่มๆ พยักหน้าพร้อมกันอย่างเข้าใจ ก่อนที่ลู่ตงหานจะเอ่ยถามหญิงสาวอีกคนขึ้นบ้าง
“แล้วน้องอ้ายฉิงหาได้แล้วหรอครับ แฟนหลอกๆ น่ะ หรือว่าอยากจะได้แฟนตัวจริง”
“ยังหรอกค่ะ ส่วนเรื่องแฟนตัวจริงไม่ได้อยู่ในความคิดหรือแผนการในชีวิตเลย” หญิงสาวผู้ที่มีบุคลิกภาพโดดเด่นตอบตามความจริงออกมา ชายหนุ่มมองมาอย่างสนใจก่อนที่จะเอ่ยเสนอตัวขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น ให้พี่ช่วยไหม รับรองไม่มีปัญหาอะไรตามมาอย่างแน่นอน เพราะพี่เองก็ยังไม่อยากจะมีแฟนในตอนนี้ และที่สำคัญพี่ก็ยังโสดอยู่ด้วย ฟังดูแล้วน่าสนุกดีออก” คำพูดของลู่ตงหานทำเอาทั้งสามสาวและสองหนุ่มเพื่อนรักมองไปที่เขาเป็นตาเดียว
“ถ้าได้พี่ตงหานมาเป็นแฟนหลอกๆ ของยัยอ้ายฉิงก็ดีน่ะสิ เอาเลยเธอ ดีกว่าไปหาคนที่เราไม่รู้จักมาควงนะ ถึงเวลาจะเลิกก็คงจะเลิกยากน่ะ”
เยว่หรูรีบรับประกันทันที ด้วยรู้จักกับพี่ชายของเพื่อนสมัยเรียนประถมคนนี้มานาน ลู่ตงหานจัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่สุภาพและดูจะเข้ากับอ้ายฉิงได้มากที่สุดในบรรดาสามหนุ่ม
“มันจะดีหรือคะ ก็นี่มันเป็นเรื่องของพวกเรานะ ถ้าอย่างนั้นอ้ายฉิงขอจ้างพี่แทนได้ไหม เพราะว่ามันต้องใช้เวลานานหลายเดือนเหมือนกันนะกว่ายัยโหรวโหรวจะแต่งงาน”
อ้ายฉิงเอ่ยออกมาอย่างไม่มีทางเลือก มันก็จริงอย่างที่เพื่อนเธอว่า ถ้าเป็นคนที่รู้จักกันอีกฝ่ายก็จะไม่กล้าตุกติกอะไร แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี เพราะหากเขายอมมาเป็นแฟนหลอกๆ ของเธอก็เท่ากับเขาเสียโอกาสที่จะได้พบเจอผู้หญิงคนอื่น
“อืม เงินทองพี่ก็มีแล้ว น้องอ้ายฉิงจะจ้างพี่ด้วยอะไรดีล่ะ” ลู่ตงหานเอ่ยถามยิ้มๆ ทำเอาสาวสวยที่ดูเรียบร้อยที่สุดในกลุ่มอดที่จะเขินไม่ได้
“เอาอย่างนี้ เวลาที่เราควงกันไปดินเนอร์ น้องอ้ายฉิงก็ออกค่าอาหารและเครื่องดื่มให้พี่ก็แล้วกันครับ เป็นไง...ไหวไหมครับ”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ก่อนที่หญิงสาวจะพยักหน้าตกลง อีกสองสาวผ่อนลมหายใจเบาๆ อย่างโล่งใจออกมาที่อ้ายฉิงก็หาทางออกได้แล้วอีกหนึ่ง ก็เหลือแต่เยว่หรูคนเดียว หวงลี่หลินหันไปมองเพื่อนสาวสลับกับหนุ่มหล่ออีกคนที่ยังว่างอยู่ เขาดูจะมีเสน่ห์แพรวพราวและหล่อเหลาคมคายอยู่ไม่น้อยแต่ดูท่าจะไม่ค่อยถูกชะตากับแม่นักบิดสาวเพื่อนรักของเธอสักเท่าไหร่
คฤหาสน์ตระกูลเฉินงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของเฉินเจียวจ้านถูกจัดขึ้นภายในบริเวณบ้านและภายในงานนี้ก็มีเพียงครอบครัวและเพื่อนนักธุรกิจของผู้เป็นพี่ชายเท่านั้น สื่อมวลชนนั้นไม่ได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาเก็บภาพภายในงาน เนื่องจากเจ้าของงานวันนี้ต้องการความเป็นส่วนตัว และต้องการจะแนะนำผู้หญิงคนที่มาเป็นแฟนของตนให้กับครอบครัวได้รู้จักอย่างเป็นทางการร่างระหงในชุดแซกแบบเรียบหรูสีแดงเพลิงความยาวเลยเข่ามาเล็กน้อยเดินควงแขนเฉินเจียวจ้านเข้ามาในงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดของทายาทคนเล็กของตระกูลเฉินหรือชายหนุ่มที่เธอเดินควงแขนมานั้นเอง สายตาหลายคู่จับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ความสวยที่ดูมีออร่า ผิวขาว ใบหน้าสวยหวานผมยาวสยายลงไปกลางหลัง เวลาเธอเดินเยื้องย่างก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมาเดินแบบ“ใครอะ สวยเวอร์” คนรับใช้ภายในเอ่ยถามเพื่อนขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นสาวสวยสุดเซ็กซี่เดินเคียงข้างมากับคุณชายน้อย“ก็ต้องเป็นแฟนคุณเจียวจ้านน่ะสิ เดินควงแขนกันมามองตากันหวานชื่นขนาดนั้น” คนรับใช้อีกคนเป็นฝ่ายตอบ ก่อนที่จะเดินไปหาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้กับแขกที่มาใหม่สองหนุ่มสาวจับจูงกันไปที่โต๊ะของบิดา
สองสัปดาห์ต่อมาวันนี้ก็ถึงเวลาที่หวงลี่หลินจะได้ทำหน้าที่แฟนปลอมๆ ของเฉินเจียวจ้านอีกครั้งหนึ่งเพราะวันนี้นั้นเป็นวันเกิดของเขา และเขาก็รับปากกับครอบครัวเอาไว้แล้วว่าจะพาแฟนสาวที่คบกันมาได้สักพักแล้วไปเปิดตัว เธออดที่จะกังวลไม่ได้ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจโทรไปเตี๊ยมกับผู้เป็นพี่สาว“เจเจ้ น้องมีเรื่องอยากคุยด้วย” เสียงหวานดังออกไปทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย“ว่าไงลี่จิน มีอะไรด่วนไหม นี่พี่กำลังจะไปซื้อของขวัญให้น้องชายของพี่เจียงข่าน” หวงลี่จินแม้จะงุนงงอยู่ไม่น้อยที่น้องสาวโทรมาหา เพราะปกติจะเป็นเธอที่โทรไปหาก่อนตลอด“พี่รีบไหม แล้วตอนนี้พี่เจียงข่านมารับหรือยัง” หวงลี่หลินเอ่ยถามพี่สาว“ก็ไม่รีบเท่าไหร่ ตอนนี้รอพี่เจียงข่านอยู่ มีอะไรจะคุยกับพี่อย่างนั้นเหรอ” หวงลี่จินอดที่จะสงสัยในน้ำเสียงของน้องสาวที่ดูร้อนรนไม่ได้“คืออย่างนี้นะเจเจ้ คือเย็นนี้น้องอาจจะไปโผล่ที่งานเดียวกับเจเจ้ เจเจ้ช่วยทำเป็นไม่รู้จักน้องด้วยนะ”“อ้าว ทำไมอะ แล้วเรารู้จักใครในงานหรือถึงไป วันนี้เห็นน้องชายของพี่เจียงข่านบอกว่าจะพาแฟนมาแนะนำให้ครอบครัวของเขาได้รู้จักด้วยนะ”หวงลี่จินแสร้งทำเป็นเอ่ยถามน้องสาวออกมา ทั้ง
“อืม... จริงด้วยสิ เมื่อวานสาวๆ ถึงได้จัดเต็มเลย”เขาเอ่ยขึ้นให้ตนได้ยินแค่คนเดียวก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาโดนคนสวยขโมยจูบตรงทางไปห้องน้ำของลูกค้าวีวีไอพีในคลับของลู่ตงหานและเยว่อวี่ซินเมื่อคืนที่ผ่านมา“แน่ะ ถามไม่ตอบเอาแต่ยิ้มนี่หมายความว่ายังไง สงสัยงานนี้มีคนมาแนะนำตัวว่าเป็นแฟนของนายแล้วสินะ เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวแล้วนี่” เฉินเจียงข่านอดที่จะเอ่ยแซวและเอ่ยถามน้องชายขึ้นมาไม่ได้กับสีหน้าที่แสดงออกว่ามีความสุขของไอ้หนุ่มผมยาว มาดสุดเซอร์คนนี้“อืม ก็ยังเรียกแฟนได้ไม่เต็มปากหรอกครับ แต่จะพามาเปิดตัวในงานวันเกิดของผมอย่างแน่นอน ยังไงพี่ช่วยนัดแนะกับป๊าม๊าแล้วก็ว่าที่พี่สะใภ้ด้วยล่ะว่าอย่าเพิ่งบอกว่าผมรู้จักเธอแล้ว และพวกพี่เองก็ด้วยอย่าเพิ่งไปแสดงออกว่ารู้จักเธอแล้ว ดูๆ เธอจะชอบการใช้ชีวิตที่ไม่ใช่ลูกคุณหนูมากกว่า วันนั้นไปเดินห้างกัน และไหนจะเมื่อคืนอีก เพื่อนกลุ่มที่ชอบมาหาเรื่องเธอพูดจาดูถูกเธอสารพัดแต่เธอก็ยังไม่ยอมเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองไม่ใช่แค่นักเขียนกระจอกกระจอกแต่เป็นทายาทอันดับที่สองของตระกูลหวง” เฉินเจียวจ้านระบายออกมาให้พี่ชายของตนได้ฟัง“เธออาจกำ
เช้าวันใหม่ ร่างบางที่นอนฟุบหลับอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานตัวเก่งก็เริ่มที่จะรู้สึกตัว หวงลี่หลินยืดตัวขึ้นก่อนที่จะบิดกายไล่ความขี้เกียจไปมา ร่างระหงลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและทำธุระส่วนตัวในตอนเช้า เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนค่อยๆ ย้อนเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ยามที่เธอนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ“อร๊าย!!! เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไปบ้างเนี่ย” เสียงหวานอุทานออกมาก่อนที่ร่างระหงจะมุดลงไปในน้ำและผุดขึ้นมาร่างกายเปลือยเปล่าที่สวยงามและสมบูรณ์ไปทุกสัดส่วนลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำในเวลาต่อมา ก่อนที่เธอจะทำธุระส่วนตัวแล้วรีบออกไปหาอะไรทาน เพราะท้องเริ่มส่งเสียงร้องประท้วงเนื่องจากเมื่อคืนเธอไม่ได้ทานอะไรเลยนอกจากดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ติ๊ง....ติ๊ง....ติ๊ง.....เสียงข้อความที่ดังมาจากสมาร์ทโฟนเครื่องเล็กของตนทำให้ร่างบางในชุดเสื้อยืดตัวโคล่งกับกางเกงขาสั้นต้องเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดู พอเห็นชื่อว่าใครเป็นผู้ส่งข้อความเข้ามา ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีเพราะความขัดเขินกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเจียวจ้าน : สวัสดีครับ ตื่นหรือยังเอ่ยเจียวจ้า
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ นายรู้ไหมว่าน้องลี่หลินพักอยู่คอนโดไหน” เยว่อวี่ซินเอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้น เพราะดูจากสาวสวยแฟนกำมะลอของเพื่อนเขาตอนนี้นั้นไม่ได้สติแล้ว“เดี๋ยวเยว่หรูส่งที่อยู่ยัยลี่หลินไปให้พี่ในวีแชทนะคะ”เยว่หรูรู้ดีว่าไม่มีใครรู้จักที่อยู่ของลี่หลินแน่นอนเธอจึงใจดีบอกที่อยู่ให้กับเฉินเจียวจ้าน เพราะเขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายเธอเสียอีก“ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอพาน้องลี่หลินกลับก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยลาเมื่อเปิดวีแชทแล้วเห็นชื่อของคอนโดที่หญิงสาวพักเรียบร้อยแล้ว“ค่ะ ฝากดูยัยลี่หลินด้วยนะคะ” สองสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความเป็นห่วงร่างหนาประคองร่างบางให้เดินออกไปด้วยกัน หวงลี่หลินนั้นยังพอมีสติอยู่บ้างพอได้ยินว่ากลับคอนโด ร่างระหงจึงเดินตามชายหนุ่มไปโดยดี“ไม่ต้องห่วงน้องลี่หลินหรอกนะครับ ถ้าเทียบกันในบรรดาสามคนเราแล้ว ไอ้เจียวจ้านเป็นสุภาพบุรุษที่สุด มันจะไม่เริ่มก่อนแน่นอนถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่เริ่ม”ลู่ตงหานเอ่ยออกมาให้ทั้งสองสาวสบายใจ หากแต่ทั้งสองสาวหันมามองหน้ากันและภาวนาขอให้หวงลี่หลินนั้นไม่ทำอะไรเพี้ยนๆ จนสุภาพบุรุษอย่างพี่เจียวจ้านตบะแตกก็แล้วก
หวงลี่หลินเดินกลับมาที่โต๊ะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเขาที่เธอเพิ่งจะขโมยจูบไปเมื่อสักครู่ไม่ได้เดินตามเธอออกมา“เป็นไง สบายใจขึ้นยัง เห้ย!! แล้วทำไมหน้าแดงขนาดนั้น นี่เธอเมามากเลยหรอยัยลี่หลิน” เยว่หรูเอ่ยถามก่อนที่จะทักขึ้นเมื่อสังเกตใบหน้าสวยของเพื่อนสาวที่บัดนี้แดงราวกับตูดลิง“ป่ะ..ป่าว พี่ตงหานคะ ขอลี่หลินลองอย่างอื่นที่ไม่ใช่พั้นซ์ได้ไหม” นักเขียนสาวตอบเพื่อนก่อนที่จะหันไปคุยกับพี่ชายเพื่อนของเพื่อนสนิท“ลองดื่มเบียร์สดดูไหมล่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารัวๆ เจ้าของร้านสุดหล่อจึงสั่งบริกรให้จัดมาให้เธอทันที เขาเข้าใจว่าเธอเครียดและโดนผู้หญิงสองคนนั้นดูถูก โดยไม่ได้คิดว่าเธอนั้นไปทำความผิดอะไรไว้เฉินเจียวจ้านหายไปสักครู่เพื่อให้เธอได้ผ่อนคลายความเขินอายลง แต่พอกลับมาที่โต๊ะก็ต้องพบกับร่างระหงที่กำลังโยกย้ายร่างงามไปมาอยู่ท่ามกลางสองสาว และหนุ่มๆ ที่รายล้อมหากแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้พวกเธอด้วยรู้ดีว่าเธอนั่งอยู่กับใคร“หายไปนานเลยนะไอ้เจียวจ้าน ดูแฟนกำมะลอของนายสิ ดื่มเบียร์สดไปสามแก้วกลายเป็นแม่เสือสาวไปซะแล้วฮ่าๆๆๆ” เยว่อวี่ซินเอ่ยขึ้นก่อนที่จะ