"งานแถลงข่าวมาแล้วพวกเรามาดูเร็ว"ไพรินเอ่ยเรียกพนักงานทุกคนที่ทุกคนสนใจข่าวนี้กันมากไม่ใช่เพราะอยากรู้ความเป็นมาเพียงอย่างเดียว แต่การแถลงแก้ข่าวครั้งนี้มันจะส่งผลต่ออนาคตการทำงานของทุกคนด้วยทุกคนจึงรีบเข้ามานั่งฟังกันอย่างตั้งใจรวมไปถึงตัวมิ้นเองที่ต้องการดูว่าคนที่ถูกกล่าวหานั้นจะแก้เกมนี้เช่นไร-งานแถลงข่าว-"ขอบคุณที่มากันอีกครั้งนะครับ เลยต้องเข้ามากันอีกรอบเลยนะครับ"ยูร์พูดติดตลกเพื่อไม่ให้ดูตึงเครียดมากเกินไป"คุณยูร์ทราบไหมคะว่าใครปล่อยข่าวนี้"นักข่าว"จริงๆ ไม่ทราบเลยครับ อย่างที่ทราบกันผมไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ก็เลยคิดไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะเป็นคนปล่อยครับ""แล้วจริงอย่างที่ข่าวบอกไหมคะเรื่องที่คุณยูร์รับช่วงต่อ"นักข่าว"ไม่เลยครับ แต่เรื่องพ่อผมเป็นมาเฟียคือเรื่องจริงครับ"เสียงซุบซิบดังขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มพูดยอมรับ"ทุกคนฟังผมพูดให้จบแล้วค่อยตัดสินนะครับ พ่อหลังจากถูกวิสามัญทุกๆ อย่างที่เป็นชื่อท่านก็โดนยึดหมดครับไม่มีแม้แต่แดงเดียวที่ผมมีทุกวันนี้ได้ก็เป็นเพราะแม่เลี้ยงผมครับ ท่านเป็นสายให้ตำรวจมาจับพ่อผม แต่ผมไม่โทษท่านนะเพราะท่านทำในสิ่งที่ถูกแล้วละผมต้องขอบคุณสะอีกที่ท่
"ฉันจำได้ค่ะ ว่าคุณเป็นเจ้าของที่นี่""อย่าลองดี....อย่าลืมว่าเวลาโมโหฉันเป็นยังไง""....ฉันลืมแล้วค่ะ"หญิงสาวเลี่ยงที่จะไม่ตอบว่าจำเขาได้หรือไม่ เพราะตอนนี้สายตาของคนตรงหน้าเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้สึกกลัวจนใจสั่น "งั้นมาดูกัน"ชายหนุ่มไม่รอให้หญิงสาวตอบโต้อะไรกลับเขาจัดการใช้แขนแกร่งล็อกเข้าท้ายทอยของหญิงสาวก่อนจะฝังริมฝีปากอุ่นลงบนริมฝีปากนุ่มอย่างรุนแรง ความรู้สึกขาดหายในใจชายหนุ่มเริ่มกลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง ตลอดเวลาที่เขากลับไปเขาอดนับวันรอที่จะเจอหญิงสาวไม่ได้เลย 'คิดถึงใจจะขาด'เสียงในใจชายหนุ่มดังขึ้นและมันกำลังถูกส่งผ่านความรู้สึกไปสู่หญิงสาวจากริมฝีปากอุ่นนี้ เนิ่นนานหลายนาทีกว่าเขาจะยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระก่อนที่จะดึงเธอเข้ามากอดแน่น"อย่ามาพูดว่าลืมให้ฉันได้ยินอีก"เขาพูดขู่"....ฉัน""อธิบายทุกอย่างไปหมดแล้ว""แต่ฉันเกลียดคุณ""เกลียดไปสิ แต่เธอไม่มีวันหนีฉันได้หรอกนะ"ฉันหลับตาปี๋เมื่อเห็นว่าเขากำลังยื่นหน้าเขามาเพื่อหวังจะจูบอีกครั้ง แต่เมื่อหลับตาไปสักพักกลับยังไม่รู้สึกถึงริมฝีปากอุ่นเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าเขากำลังนั่งคิ้วขมวดอ่านข้อความบางอย่างอยู่ ก่อนจะโทรหา
“เป็นอะไรไปน่ะมิ้น เห็นเงียบไปตั้งแต่งานแถลงข่าวแล้ว”“....อ่อ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะพี่ไพริน เดี๋ยวมิ้นขอไปห้องน้ำสักครู่นะคะ”มิ้นเดินมาเข้าห้องน้ำห้างด้วยความรู้สึกเหม่อลอย ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดีในใจก็อยากจะลาออกแล้วหนีไปสะให้ไกลจากคนเลวคนนั้นอีกใจก็กลัวพี่ริลจะเสียหน้าที่อุตส่าห์ฝากเธอเข้ามาทำงาน ถ้าจะบอกว่าเขาจำเธอไม่ได้จากเหตุการณ์เมื่อครู่มันคงไม่ใช่เขาตั้งใจมองเธออย่างชัดเจน ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเธอจะปลอดภัยกึกๆเสียงล็อกประตูห้องน้ำเรียกความสนใจเธอให้หันไปมอง ชายหนุ่มรูปร่างคุ้นตาปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ณ วินาทีนั้นเธอเหมือนดั่งลมหายใจขาดหายเธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูกเขาแอบตามมาตอนไหนกัน!!“เป็นอะไรไป ลืมกันแล้วหรือไง”ชายตรงหน้าเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ จนเธอจำเป็นต้องถอยหลังไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็ติดเข้ากับผนังสะแล้วเมื่อเขาเห็นเธอกลัวก็ยิ่งรู้สึกได้ใจเลยแกล้งใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยไปทั่วใบหน้าอย่างๆ ยั่วยวน“กลัวฉันเหรอ ฉันใจดีมากนะเธอก็รู้….”หญิงสาวยังคงหลับตานิ่งถึงแม้ในใจอยากจะผลักคนตรงหน้าให้ออกไปพ้นๆ แต่กลัวว่าถ้าทำแบบนั้นเขาจะโมโห
ยูร์เมื่อเห็นร่างเล็กสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวก็ยิ่งได้ใจ ในเมื่อพูดกันดีๆ แล้วไม่ได้คำตอบก็คงต้องใช้วิธีนี้เขากัดเข้าที่ซอกคอขาวเบาๆ ไปมาโดยไม่สนเสียงร้องห้ามของคนตรงหน้ายิ่งเธอร้องเขายิ่งชอบและเพิ่มแรงกัดลงไปอีก“พูดมา….”“หยุด! หยุด”หญิงสาวร้องห้ามดังลั่นเมื่อชายหนุ่มสอดมือเข้ามาใต้ลำตัวเธอเพื่อตั้งใจจะปลดพันธนาการแต่ไม่เกินเสี้ยววินาทีเขากลับทำมันสำเร็จอย่างง่ายดายจนหญิงสาวได้แต่ทึ่งตอนนี้เธอลังเลใจแล้วว่าจะบอกไปตามตรงดีไหมเรื่องที่เธอแอบฟังเขาคุยโทรศัพท์ แต่ถ้าบอกเขาไปตอนนี้แล้วเขาโกรธเธอมากกว่าเดิมจะเป็นอย่างไร“อยากให้ฉันจูบซอกคอขาวๆ นี่มากสินะ ถึงได้ไม่ยอมพูดออกมาสักที จริงๆ ถ้าอยากอะไรกับฉันก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งยั่วโมโหให้มันเสียเวลาหรอกเพราะฉันพร้อมสนองอยู่แล้ว”“ไอ้บ้า! ฉันไม่คิดต่ำๆ แบบนั้นหรอก! โอ็ย!”เมื่อเธอกำลังจะเตะเข้าที่ขาของคนที่คร่อมเขากลับใช้ขาข้างนั้นพลิกหนีแล้วใช้เข่ากดลงที่ขาอ่อนเธออย่างแรงจนรู้สึกปวดด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่าทำให้เธอไม่ต่างจากการถูกล็อก แต่ถึงแบบนั้นริมฝีปากอุ่นของเขาก็ยังคงทำหน้าที่พรมจูบไปทั่วใบหูอย่างไม่หยุดจนเธอแทบสติหลุด“ฉันได้ยินคุณคุยโ
ตืดๆ ตืดๆ“อืมม”เสียงโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหูนักดังขึ้นปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์ เมื่อเธอมองไปที่ชายหนุ่มข้างกายก็ดูเหมือนว่าเขายังไม่มีท่าทีจะตื่น ตืดๆ ตืดๆเสียงโทรศัพท์ที่สั่นเป็นเวลานานดูเหมือนตอนนี้จะเรียกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ได้สักที เมื่อเธอเห็นอย่างนั้นก็รีบทำท่าทีเป็นยังหลับชายหนุ่มเมื่อตื่นแล้วก็หันมามองหญิงสาวข้างกายด้วยความเอ็นดูเขาเอื้อมมือมาลูบผิวแก้มนุ่มของหญิงสาวเบาๆ ก่อนเอื้อมมือจับโทรศัพท์มารับ“ว่าไงคะน้า”(ฉันท้องงงงงงงง)“หะ! จริงเหรอ เธอท้องแล้วสุดยอดไปเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น(มาหาฉันที่โรงพยาบาลนะ ฉันจะส่งที่อยู่ให้รีบมานะ)“ได้ๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”ด้วยความเงียบทำให้เธอได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ในใจจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่กลั้นอารมณ์ไว้รอให้ชายหนุ่มออกไปก่อนเธอแอบมองชายที่กำลังรีบลุกแต่งตัวอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยความดีใจไม่มีท่าทีรู้สึกผิดต่อภรรยาเขาแม้แต่น้อยทั้งที่คืนก่อนเธอกับเขาเพิ่งจะมีความสัมพันธ์กัน....แถมเขายังไม่รู้สึกผิดต่อเธอที่อยู่ๆ ก็กลายเป็นผู้หญิงที่ยุ่งกับสามีคนอื่น …..จุฟ! ระหว่างที่หลับตาเธอรู้สึกได้ถึงริมฝีปากอุ่นทาปลงมาบนแก้ม นั้นยิ่งทำ
เพลง! เสียงแก้วที่ถูกปาลงพื้นดังขึ้นยิ่งทำให้หญิงสาวตัวสั่นเธอก้มหน้านิ่งเพื่อหลบสายตาอำมหิตที่ถูกส่งมาจากคนตัวสูง“เธอกำลังหยามฉันนะ ….”เขากดเสียงลงต่ำแล้วเดินเข้ามายืนต่อหน้าเธอในระยะประชิด ก่อนใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยไปมาข้างแก้มเธอเบาๆ แต่มันกลับทำให้รู้สึกกลัวจนหายใจไม่ออกในสมองของเธอตอนนี้คิดเพียงแค่ต้องการให้ผู้ชายตรงหน้าสงบลงและให้เรื่องจบลงด้วยดีเท่านั้น....ฉันจะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดี....นึกได้ว่าเขาแท้จริงแล้วดูเป็นคนใจอ่อนเละขาดความอบอุ่นเธอจึงค่อยๆ รวบรวมความกล้าที่มีตรงเข้าไปกอดเอวเขาไว้ด้วยตัวที่สั่นท้าวถึงแม้จะกลัวมากแต่เรื่องนี้เธอต้องเดิมพัน“ฉันไม่ได้ต้องการจะหยามคุณ เพียงแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบ ฉันไม่ต้องการเจอเขาและไม่ต้องการจดจำ ไม่อยากให้คุณทำผิด”“....”“ฉันเชื่อว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น ถ้าคุณใจร้ายคุณคงไม่เลือกที่จะช่วยฉันในวันนั้นทั้งที่ฉันเป็นใครคุณก็ไม่รู้จัก ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนดีมากเพราะอย่างนั้นฉันถึงไม่อยากให้คุณทำอะไรผิดๆ”