หลังแยกจากสองหนุ่มต่างเชื้อชาติ ต้นก็เข้ามาภายในห้องของเขา ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงพัดลมที่ทำให้คลายร้อนแค่นั้น
ต้นนั่งลงบนเตียง ที่มีเพียงหมอนหนุนและหมอนข้าง แต่ก่อนมีหมอนหนุนสองอัน พอปรัชญ์แฟนหนุ่มได้หนีจากไป ต้นจึงนำไปเก็บไว้ในตู้อย่างมิดชิด
สายตาของต้นสอดส่ายทั่วห้อง และหยุดมองรูปของปรัชญ์แฟนหนุ่มที่เขายังไม่ได้เก็บ เพราะยังอยากเห็นใบหน้าของแฟนหนุ่มอยู่ ต้นจ้องมองดูอยู่ไม่นาน หลังจากนั้นจึงเดินไปนำรูปแฟนหนุ่ม ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้ง
ต้นทั้งรักทั้งเกลียดปรัชญ์ในระดับเดียวกัน รักมากจนยอมใช้หนี้ก้อนโตแทน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นแท่บหมดตัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียว ที่โดนปลดจากร้านอาหารฝรั่ง เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองรายได้ไม่เข้าเป้า
ต้นจึงเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่โดนขอร้องให้ออกจากงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นหันมาเป็นหมอนวด เพราะได้เงินดีและได้ทุกวัน
ส่วนปรัชญ์แฟนหนุ่มนั้น พอรู้ว่าต้นหมดตัว จึงหนีจากไปอย่างไม่บอกลาสักคำ จนทำให้ต้นนั้นสุดซ้ำใจอย่างหนัก แต่ต้นก็ใจแข็งตัดใจไม่ตามหา ต้นล้มตัวลงนอนคิดถึงอดีตที่แสนหวานกับปรัชญ์แฟนหนุ่ม ครั้งแรกที่เจอกันในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งต้นกับริโอ้ชอบไปนั่งซิลๆกัน ในระหว่างที่หัวเราะต่อกระซิบ จิกตามองผู้ชายเป็นอาหาร ซึ่งก็สมหวังดังใจเลย
"หวัดีครับ นั่งด้วยคนได้ไหม"
ต้นกับริโอ้มองตาก็รู้ใจจึงพยักหน้า ด้วยที่ปรัชญ์หล่อคมเข้ม หุ่นดีสูงมีกล้าม
"ยินดีที่รู้จักครับ"ปรัชญ์ยื่นแก้ว เพื่อแสดงความสัมพันธ์ไมตรี
ต้นกับริโอ้ก็พร้อมใจชนแก้ว ด้วยความยินดี เพราะไม่สามารถปฏิเสธหนุ่มงานดีได้
"ผมชื่อปรัชญ์ครับ แล้วชื่ออะไรกันบ้างครับ"
"ผมชื่อต้น ส่วนเพื่อนเราชื่อริโอ้"ต้นเป็นฝ่ายแนะนำ
"ริโอ้ เป็นอะไรกับมาริโอ้หรือเปล่า"
"เป็นซิ เป็นแฟนคลับ"ริโอ้หัวเราะ
"ช่างมั่นเนาะ"ต้นแซว
ทั้งสามคุยกันถูกคอจนร้านปิดก็ยังไม่กลับ ไปนั่งเล่นแถวสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำปิงยันสว่างถึงแยกย้ายกันกลับ
หลังจากนั้นสามสี่วัน ต้นได้เจอปรัชญ์อีกครั้งในฐานะเพื่อนร่วมงาน ที่ร้านอาหารฝรั่งในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟเหมือนกัน จึงทำให้ทั้งคู่สนิทสนมแนบแน่นขึ้นมาอีก
ต้นนอนคิดถึงความความหลังครั้งเก่าต่อ จนถึงช่วงห้วงเวลาที่ปรัชญ์บอกรัก
"วันนั้นทั้งต้นและปรัชญ์นอนบนเตียงตัวนี้ จู่ๆปรัชญ์แฟนหนุ่ม ก็บอกคำพูดที่ต้นฟังแล้วเคลิ้มฝันหวาน
"ปรัชญ์รักต้นนะ "ปรัชญ์จ้องมองต้นด้วยสายตาอันหวานฉ่ำ
"แล้วต้นรักปรัชญ์ไหม"
ต้นอ่ำอึ้งสงวนท่าทีอ้อยอิ่งนิดนึง เพราะรู้สึกเขินอายที่ถูกบอกรักครั้งแรก
"ต้นก็รักปรัชญ์นะ "บอกเสร็จก้มหน้าหลบสายตาปรัชญ์
พอสิ้นคำรักของต้น ปรัชญ์เริ่มโอบกอดต้นไว้ในวงแขน แล้วโน้มร่างลงบนที่นอนอย่างช้าๆ บรรจงพรหมจูบทั่วใบหน้า ส่วนมือยังประครองร่างของต้นไว้ เพราะจะได้ถนัดกับการมอบความรักให้ต้นอย่างสุดซึ่ง
ต้นขยี้ที่นอนเมื่อหลุดจากความสุขในอดีต เพราะความชังเข้ามาแทนที่ เขาจึงไม่สามารถคิดต่อไปได้
เช้าวันใหม่ต้นมาทำงานแต่เช้าดั่งเช่นเดิม และต้องพบกับความประหลาดใจ เมื่อเห็นคิมที่มานั่งรอ ตั้งแต่ร้านยังไม่ทันเปิด
"มาแต่เช้าเลยนะ " ต้นทักคิม
"มารอต้นตั้งนานแล้ว พาไปนวดเลยนะ แต่เปลื่ยนจากนวดไทย เป็นนวดน้ำมันหนึ่งชั่วโมง" กันนายจ้างกล่าวขึ้น
"ครับ" ต้นหันมายิ้มให้คิม
ต้นได้พาคิมมาที่ห้องนวด และหยิบกางเกงในกระดาษพร้อมผ้าเช็ดตัว ตะกร้าวางสิ่งของ เมื่อจัดวางเรียบร้อยแล้ว ต้นจึงออกไปรออยู่ข้างนอกห้องนวด
ต้นยืนรอกะระยะเวลา ให้คิมเปลื่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาจึงจะเข้าไป
เมื่อถึงเวลาที่กะไว้คร่าวๆ ต้นจึงเปิดผ้าม่านที่ทำแทนประตูห้องเข้าไป และสิ่งที่เห็นคือคิมนอนคว่ำรอการนวด
ต้นจึงนำผ้าเช็ดตัวผืนน้อยปกปิดบริเวณสะโพก และเดินไปที่ปลายเตียงนวด พร้อมใช้มือคลึงนวดฝ่าเท้าไล่ไปข้อพับ หลังจากนั้นชะโลมน้ำมันลงบนฝ่ามือ แล้วเริ่มนวดรีดบริเวณ เท้า ขา ไปจนถึงต้นขาซ้ายขวา
คิมได้สัมผัสฝ่ามือที่อ่อนนุ่มของต้น เขาถึงกับมีความสุข เพลิดเพลินเคลิ้มสบายตัว ที่แสนจะตึงและเมื่อยมาเนิ่นนาน
ยิ่งต้นไล่นวดขึ้นมาจนสุดต้นขา จากแรงรีดเส้นอย่างชำนาญ สร้างความสบายกายลามไปถึงความรู้สึก
เมื่อสิ้นสุดการนวดร่างกายครึ่งร่าง จึงต่อด้วยแผ่นหลังที่ขาวเนียน ต้นถึงกับมองด้วยความอิจฉา
"จะขาวอะไรขนาดนั้น"ต้นแอบคิดในใจ
ชั่วเวลาไม่นานคิมเกิดความง่วงนอน เขาจึงหลับตาเผลอหลับไปพักใหญ่ ตื่นรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะต้นสะกิดให้พลิกตัวนอนหงาย
เมื่อคิมพลิกร่าง จึงเผยเห็นมัดกล้ามอย่างเด่นชัด จนต้นต้องเบี่ยงสายตาไปทางอื่น ถึงจะรู้สึกหวั่นไหวกับมัดกล้าม แต่ต้นก็ไม่ตื่นตระหนก จึงบรรจงนวดอยู่เช่นเดิม ลูบไล้รีดเส้นจากขอบเอวขึ้นไปจนถึงแผ่นอก ฉีกมือออกวนรอบเนินอก ย้อนกลับมาที่เดิมตรงบริเวณขอบเอว
ในขณะเดียวกันนั้น คิมเริ่มง่วงอีกครั้ง เขาจึงหลับตาและหลับลงในที่สุด ต้นก็ยังทำการนวดต่อทุกท่าไม่ขาด
ถึงแม้บางครั้งจะสะดุดกับกล้ามแขนเป็นมัด ที่ต้นเริ่มนวดต่อจากร่างกายส่วนบนด้านหน้า ต้นวางแขนรีดเส้นจนเสร็จทั้งสองข้าง ต่อด้วยนวดศีรษะและคลึงใบหน้า จบทุกกระบวนท่าเสร็จสิ้น ต้นจำเป็นต้องปลุกคิมลุกขึ้นมา
"เสร็จแล้วครับ"ต้นบอกกล่าว
คิมเบิกตาขึ้นนั่งอย่างงงๆ พร้อมมองตาต้นแบบมึนๆ
"นวดทีไรผมหลับตลอดเลย"คิมเสียดายความรู้สึกที่ผ่อนคลาย
"ธรรมดา หลายคนก็เป็นแบบนี้"ต้นย้ำให้คิมรู้สึกดี
"ผมไม่อยากหลับเลย"คิมเสียงออดอ้อน
"ทำไมไม่อยากหลับ"ต้นถามด้วยความสงสัย
"ผมอยากดูหน้าต้นตลอดเวลานวด"คิมทำตาละห้อย
"เดี๋ยวต้นออกไปรอข้างนอกก่อนนะ" ต้นไม่อยากตอบกลับคำหวานของคิม ต้นจึงรีบเปิดผ้าม่านออกไปนอกห้อง เพื่อให้คิมได้เปลื่ยนเสื้อผ้า
เมื่อต้นเดินออกมาก็เจอกับจางที่นั่งเม้าท์มอยกับริโอ้อยากออกรสชาติ โดยมีปันเพื่อนใหม่ของต้นที่แสนดีนั่งฟังอย่างสงบ แต่ต้นไม่เห็นสามหนุ่มสามหน่อที่เหลือ ซึ่งต้นก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะอาจได้งานแล้วก็เป็นได้
"ต้น ผมรอคุณตั้งนาน เมื่อคืนเจอกันก็ไม่ค่อยได้คุยกับต้นเลย "จางรีบลุกขึ้นไปหาต้นแล้วเล่าความในใจ ปล่อยให้ริโอ้กับปันอ้าปากค้าง กับคำพูดเมื่อคืนอีกแล้ว
โดยเฉพาะริโอ้ก็เห็นอยู่ว่านวดที่วัดจนดึกดื่น แล้วจะไปคุยกันตอนไหน
"พูดเยอะจัง"ต้นพูดภาษาไทย
"อะไร"จางฟังไม่เข้าใจ พลันคิดไปต้นนินทราเขา ซึ่งก็คิดถูกซะด้วย
"เปล่า"ต้นตัดบททันที
"ต้นพาลูกค้าไปนวดเลย เดี๋ยวพี่จัดการเองลูกค้าของต้นที่อยู่ในห้องน่ะ"กันเจ้าของร้านตะโกนมาจากหลังเคาท์เตอร์
"ไป๊"ต้นเรียกจางและพาไป ที่ห้องนวดน้ำมันอีกห้องหนึ่ง
พอต้นกับจางเข้าห้องนวด คิมก็ออกมาพอดี แล้วก็เดินมาจนถึงหน้าร้าน มองหาต้นจนหมุนรอบตัว
"ต้นไปไหน"คิมถามริโอ้ที่มองเขาอยู่
"พาลูกค้าไปนวด"ริโอ้ยิ้มให้คิม แต่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มตอบสนองกลับ
"อ่อ"หลังจากนั้นก็เดินไปจ่ายเงิน และเขารู้ได้ทันทีว่าลูกค้าคนนั้นน่าจะเป็นจาง ที่เจอเมื่อคืนวาน คิมรู้สึกกังวลใจกับหนุ่มอันเจียคู่แข่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากลงสนามแข่งรัก
ต้นพาจางมาที่ห้องนวด ส่งกางเกงในกระดาษ พร้อมผ้าเช็ดตัว หลังจากนั้นต้นก็ออกไปรอนอกห้องตามเดิมปล่อยให้จางเปลื่ยนเสื้อผ้า ภายในห้องคนเดียว
จางถอดเสื้อกางเกงออกจนหมด และเอากางเกงในกระดาษใส่ในทันที พร้อมเรียกต้นให้เข้ามาภายในห้อง โดยไม่ต้องรอให้ต้นเข้ามาเอง
"ต้น เรียบร้อยแล้ว"
"โอเค"ต้นขานรับเปิดผ้าม่านเข้ามา และสิ่งที่เห็นคือจางใส่กางเกงในกระดาษตัวเดียวยืนรออยู่ อย่างไม่เขินอายแม้แต่น้อย
ต้นมองรูปร่างจางแก็รู้สึกชอบ เพราะมีความคล้ายปรัชญ์แฟนเก่า ที่หุ่นจะลีนๆหน่อยแต่มีกล้ามพอสวย ต่างกันแค่ที่ปรัชญ์ผิวจะเข้มกว่า
"ขึ้นไปนอนคว่ำบนเตียง"ต้นสั่ง
"เดี๋ยวขึ้นก็ได้คุยกันก่อน"จางเอ่ยขึ้น
"เดี๋ยวเวลาไม่พอนะ"ต้นรู้สึกว่าจางเริ่มเรื่องเยอะ
"ตั้งสองชั่วโมงคุยหนึ่งขั่วโมง นวดอีกชั่วโมงก็ยังได้"
"ไม่ได้ที่ร้านมีกฎห้ามคุย"ต้นเริ่มจะคุ่นเคือง
"ก็ได้ เดี๋ยวคืนนี้ไปหาที่ห้องนะ จะได้คุยกันทั้งคืน"จางยิ้มแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงนวดในทันที
ส่วนต้นนั้นไม่รู้จะทำอย่างไงกับจาง ที่ชอบพูดไปเรื่อย แต่ไม่นานเขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะต้องเริ่มทำงาน เขาจึงไม่รอช้าเริ่มปฏิบัติงานตามขั้นตอน แบบเดียวกับคิมทุกอย่าง แต่ที่ผิดกันกับคิมจะนิ่ง ส่วนจางยุกยิกตลอดเวลา ยิ่งช่วงนวดไล่ขึ้นสูงเรื่อยๆ นี่ยิ่งไม่นอนนิ่งขยับตัวไปมา
ส่วนสาเหตุนั้น ก็มาจากจางยังไม่เคยนวดน้ำมันกับผู้ชาย เขาเคยนวดแต่กับผู้หญิง
มาครั้งนี้ที่แรกในไทย ที่เขาเลือกหมอนวดผู้ชาย ความรู้สึกของจางเลยสองจิตสองใจ ชอบกับไม่ชอบบอกไม่ถูก
บางครั้งก็รู้สึกดี เขาไม่เข้าใจที่มีความคิดแบบนี้ แต่เแล้วจางก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งไป
"เป็นอะไร"ต้นถามเมื่อเห็นจางขยับร่างกายตลอดเวลา
"เปล่านวดเลย"จางปฏิเสธ และใช้ความอดกลั้นไม่ให้ขยับตัวเพราะจักกะจึ้
ช่วงแรกจางก็เกร็งประหม่า พอนานๆเข้าเกิดความเคยชิน กลับกันเขารู้สึกสบายตัว ยิ่งนวดบริเวณแผ่นหลัง จางยิ่งรู้สึกดีขึ้นมาทันที มันคลายความตึงของหลัง ถูกเส้นถูกจุดไปหมด จนจางเคลิ้ม
ยิ่งพอเปลื่ยนท่าที่ต้องนอนหงาย จางกับอิดออดแกล้งหลับ เพราะเขาไม่อยากพลิกนอนหงายเพราะมีความอายขึ้นมาทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังชินชาท้าสายตาต้น
"จางตื่นได้แล้ว นอนหงายเลย"ต้นเรียก
"หรอ ฮือ เอ่อ ก็ได้"จางจึงรีบพลิกร่างนอนหงาย พลิกเสร็จรีบนำผ้าเช็ดตัวมาปิดเองในทันที
ต้นทำเป็นนิ่งเเฉย เพราะไม่ได้สนใจอะไร เขาก็ทำการนวดตามปกติ เพียงแต่นวดให้หนักขึ้น
เพื่อทำให้จางรู้สึกเจ็บขึ้นนิดหน่อย แต่ผิดคาดยิ่งรีดเส้นจากขอบเอวขึ้นไปจนถึงแผ่นอก จางกับรู้สึกเฉยๆแถมจักกะจี้นิดหน่อย พร้อมหัวเราะอมยิ้มสลับกันไป
ต้นงงงวยกับพฤติกรรมของจาง จึงทำหน้านิ่งๆ ตั้งใจนวดต่อไป ต้นจึงเพิ่มแรงกดให้หนักขึ้น
ซึ่งจางก็ชอบแบบนวดหนักๆ จึงทำให้เขาได้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น ในระหว่างนวดนั้นจางเริ่มมองต้นไม่วางสายตา
มองพินิจดูหน้าตาที่น่ารักมากกว่าหล่อ ตัวเล็กแต่ไม่ผอมจนเกินไป ซึ่งแตกต่างจากจางที่สูง รูปร่างดีมีกล้ามแบบนักกีฬา
"ต้นรู้ไหม ต้นเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก"จางเผลอพูดออกไป แล้วพลันคิดได้ว่า พูดไปได้ไงเขาแค่ต้องการเพื่อนคลายเหงา จะมาชมเพื่อนชายว่าน่ารัก มันแลดูแปลกๆ
จางเลยเงียบและหลับตา เพื่อจะได้ไม่เห็นหน้าต้นแต่ก็ต้องลืมตาขึ้น เพราะอยากลองรักกับผู้ชายสักครั้ง
เช่นเดียวกับต้นที่เผลอยิ้มออกมา หลังจากจางหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีก เหมือนคนฝันร้ายแล้วตกใจตื่น ถึงบางครั้งจะรู้สึกรำคาญบ้าง แต่ก็ไม่เคยโกรธอย่างจริงจัง
ตอนจางหลับตา ต้นเพ่งพินิจหน้าตาออกตี๋ ของจาง แต่ก็ไม่ได้ออกแนวน่ารัก มีความคมบ้าง ยิ่งต้นมองนานเท่าไร เขาเริ่มใจคอไม่ดี เลยสลัดความคิดนั้นทิ้งไป บรรจงนวดต่อเพื่อให้เสร็จสิ้น ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งก็ใช้เวลาสองชั่วโมงจึงจบคอร์สนวดน้ำมัน ที่จางซื้อไว้
"เสร็จแล้วครับ"ต้นยิ้มให้จาง
"ไวจังเลย อยากนวดอีกทั้งวัน"จางพูดขึ้น เพราะในระหว่างแกล้งหลับตา แต่ไม่ได้หลับจริงๆ เขาครุ่นคิด เรื่องความรู้สึกต่อต้นเป็นแบบไหน ถึงจะคิดไม่เต็มร้อย แต่ใจที่ให้ต้นนี่เกินร้อยแน่ เขาจึงตัดสินใจลองทำตามใจตัวเองซักครั้ง เพื่อที่จะได้เจอความต้องการของตัวเองที่แท้จริง
"ไปเปลื่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว"เดี๋ยวต้นออกไปรอหน้าร้านนะ"
"ก็ได้"จางลงจากเตียง ส่วนต้นเปิดม่านออกนอกห้องไป
พอต้นเดินมาถึงก็เจอริโอ้ นั่งเม้าท์มอยกับคิม ดูคุยกันอยากออกรสชาต เพราะริโอ้เป็นคนคุยสนุกยิ้มเริงร่า ส่วนคิมก็ดูผ่อนคลายไปเยอะ สีหน้าไม่เคร่งครึมเหมือนแต่ก่อน
"ต้น โยฮันเขารอต้นไปกินข้าวตอนกลางวัน"ริโอ้บอกเพื่อนทันทีที่เห็นเดินออกมา
"ฮือ"ต้นไม่รู้จะพูดอะไร
"ไปกินข้าวกลางวันกับผมนะต้น"คิมเว้าวอนด้วยสายตาพร้อมคำพูด
ต้นถึงกับนิ่งคิดไม่ออก จะตอบไปอย่างไรดี ไม่นานนักเสียงคุ้นๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง
"ต้นไม่ไปหรอก มีนัดกับผมแล้ว"จางตะโกนออกมา พร้อมเร่งเดินให้ถึงโดยเร็ว
"จริงเหรอต้นจะไปกับจาง"คิมมีสีหน้าวิตก
"เอ่อ"ต้นยืนนิ่ง เพราะไม่ได้นัดกับจาง และยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปกับคิม
จะไปกับคิมก็กลัวจางเสียความรู้สึก จะไปกลับจางก็เกรงใจคิมที่ชวนก่อน ต้นจึงมองคิมทีจางที แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
ต้นจึงครุ่นคิดหาทางแก้ไข โดนมีริโอ้เอาใจช่วย ช่วงที่กำลังคิดหาทางออกอยู่นั้น เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นมาในทันทีนั่นคือเสียงของกันเจ้าของร้านที่ดังขึ้น
"กฏที่ร้านห้ามพนักงานออกไปกับลูกค้า ในระหว่างเวลางาน ถึงจะเป็นช่วงกินข้าวกลางวันก็เถอะ"เสียงเข้มๆ ของกันดังขึ้น
"ใช่ เราไปไม่ได้ขอโทษด้วย"ต้นตีหน้าเศร้า รับไม้ต่อทันที
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับไปกินข้าวกัน"คิมชิงพูดก่อน
"เดี๋ยวเราไปหาที่ห้องนะ เรารู้จักห้องต้นแล้ว เดี๋ยวไลน์หาอยู่ห้องเบอร์อะไร"จางเกทับทันที
คำนี้ของจางกระแทกใจ คิมยิ่งนัก แต่เขาก็คิดต่อไปว่าถ้าจางไปได้ เขาก็จะตามไปด้วย
กันเจ้าของร้านเห็นไม่ได้การ จึงคิดหาวิธีทางเอาตัวรอดให้ต้น
"ต้น พี่รู้สึกปวดหลัง มานวดให้พี่หน่อยนะ ขอโทษด้วยนะลูกค้า"กันตีหน้าเศร้ากับสองหนุ่ม
"ริโอ้ ฝากเทคแคร์ลูกค้าด้วย"กันสั่งพร้อมขยิบตา
เมื่อพูดจบกันก็พยักหน้าให้ต้นตามมา ส่วนต้นก็หันหน้าไปยิ้มให้ทั้งสองหนุ่ม หลังจากนั้นรีบเดินตามกันเข้าไปข้างใน ปล่อยให้ริโอ้อยู่กับหนุ่มทั้งสองตามลำพัง
"เสน่หแรงนะเรา"กันแซวเมื่อต้นเดินตามมาถึง
"แรงแบบนี้ไม่ไหวหรอกครับ หัวจะปวด"
"ไหวซิ มีหนุ่มมาให้เลือกตั้งสองคน แถมงานดีไม่แพ้กันเลย"กันมองหน้าต้น
"ต้นก็ลองดูใจทั้งสองไปก่อน เพราะเรายังไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษ เปิดใจลองดูนะ"
"ครับ" เพราะต้นก็รู้สึกดีๆกับทั้งสอง แต่ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองว่าเอนเอียงไปทางไหน
ต้นหันหลังไปมองสองหนุ่มที่กำลังจะออกจากร้าน โดยมีริโอ้โบกมือส่ง เมื่อทั้งสองเดินไปจนลับตา ต้นจึงหันมามองกันแล้วถอนหายใจ โดยมีกันยืนอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
จางรอต้นจนใกล้จะถึงเวลา ที่ต้องเข้าไปข้างในสนามบิน เขาหมดหวังแล้วที่ต้นจะมาหาเขา จางจึงพยายามทำใจก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งหลันหลันก็สังเกตเห็นจางดูซึมลง แต่เธอก็ไม่แคร์ขอแค่จางกลับไปด้วยกันเป็นพอ"รอแฟนใหม่อยู่เหรอ เขาไม่มาหรอกอย่าหวังเลย"หลันหลันยิ้มเยาะ"ผมไม่ได้รอ และก็ไม่ได้หวังหรอกว่าต้นจะมา"จางมีสีหน้าที่ซึมลงกว่าเก่าอีก"คิดได้ก็ดี ได้เวลาแล้วไปกัน"หลันหลันลุกขึ้นยืน และแอบชำเลืองมองจาง"ฮือ"จางรับคำ และเขาก็ยังไม่อยากกลับอันเจียอยากอยู่ที่เชียงใหม่ต่อ แต่ในเมื่อต้นไม่สนใจเขา จางจำใจต้องจากไปพอรถมอเตอร์ไซค์จอด ต้นลงจากรถยืนนิ่งครุ่นคิด สักพักคิมโยอันก็ลงตาม ต่อจากนั้นก็เก็บหมวกกันน็อคทั้งสองใบไว้ที่หน้ารถ"เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวไม่ทันจาง"คิมพูดอย่างจริงใจ และหวังว่าทั้งสองจะปรับความเข้าใจกัน"คือ ต้น เอ่อ"ต้นอ้ำอึ่ง"ไปเหอะอย่าเสียเวลาเลย ทำตามใจที่เราต้องการ"ต้นยืนคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจไปหาจางี่ย เพราะอย่างน้อยจางก็ยังบอกเขาเมื่อจะกลับอันเจีย ถ้าเกิดจางยังจะกลับอันเจียหลังจากเจอเขา ต้นก็พร้อมที่จะปล่อยจางจากไปเช่นกันต้นและคิมเดินมาอย่างรวดเร็ว และหยุดวนรอบตัวเองมองหาจา
"แล้วเรื่องของจางต้นจะทำอย่างไร"คิมถาม เพื่ออยากรู้คำตอบและจะได้สานรอยร้าวให้สมานดังเดิ่ม และนี่เป็นโอกาสของเขาเอง ที่เขาต้องไขว่คว้าไว้หลังจากแพ้ทางรัก ให้แกจางในครั้งที่แล้ว"ต้นย้งไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี" ใจหนึ่งต้นอยากจะไปหาเจาง เพราะเขาก็ยังรักจางอยู่ไม่เปลื่ยนแปลง แต่อีกใจหนึ่งเขาเริ่มท้อกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับปัญหาที่จิตใจของจางที่ไม่มั่นคงเหมือนคิม"จะไม่ไปหาจางแล้วเหรอครับ"คิมลุ้นคำตอบที่จะได้รับฟัง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกออกมาชัดเจน"คงไม่ไปแล้วแหล่ะ เพราะไม่เห็นจางโทรมาเลย"ต้นรู้สึกเสียใจ เพราะส่วนหนึ่ง ใจของเขาอยากให้จางโทรมา เพียงแค่นี้เขาก็จะไปหาจางทันที แต่ก็รอมาร่วมสองวันยังไร้วี่แววของจาง"คิดว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม"คิมถาม"คงยังไม่ได้หรอก ถ้านานไปคงจะทำใด้เอง"ต้นรู้สึกใจหายวับหลังจากได้ยินคำถามนี้ ที่แสนจะแทงใจเขาจนสุดขั้ว"ไม่ว่าต้นจะตัดสินใจอย่างไร โยฮันยินดีอยู่เป็นเพื่อน และพร้อมดูแลต้นตลอดไป"คิมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วจ้องมองหน้าของต้นอย่างเว้าวอน ให้เห็นใจความรักที่เขามีให้ต้น"ขอบใจนะโยฮัน ต้นเข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนนี้ต้นขอเวลาให้กับตัวเองซักระยะ"ต้นห
ริโอ้ได้มาส่งซองที่โรงแรม เมื่อมาถึงในห้องนอนที่แสนจะชวนทำอะไรบางอย่าง"ดึกมากแล้วน่ะ ริโอ้กลับไปก่อนเถอะ"ซองแกล้งทั้งที่ใจอยากให้อยู่ เพราะซองเปิดใจให้ริโอ้เมื่อไม่นาน ยิ่งเห็นความจริงใจของริโอ้ที่มีต่อต้น จนเขารู้สึกอิจฉาในบางครั้ง แต่ถ้าได้คบกับต้นในฐานะคนรัก ริโอ้คงจะดูแลดีขนาดไหน ซองนั่งคิดฝันหวาน"ก็ได้ผมกลับแล้วนะ"ริโอ้รู้สีึกโกรธ ใจจริงเขาอยากนอนที่นี่"อยากกลับก็กลับไปเลยไม่ต้องมาอีกนะ"ซองรู้สึกโมโห หวังจะให้ริโอ้มายอกล้อให้คลายอารมณ์เครียดที่ริโอ้พูดเช่นนั้น เพราะเขายังกังวลใจ ในเรื่องของต้นอยู่มากพอสมควร เขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะมาพูดเล่น แต่ถ้าทำบางสิ่งเขาก็ไม่มีปัญหา"ก็ได้ ริโอ้กลับแล้ว" ริโอ้รีบเดินไปที่ประตูอย่างอารมณ์เสียซองเห็นริโอ้โกรธและไม่มีอารมณ์หยอกล้อคุยเล่น เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาริโอ้ แล้วกอดเอวไว้แนบกายอย่างแนบสนิท"ปล่อยริโอ้นะ จะกลับแล้ว ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาหรอก"ริโอ้พยายามแกะมือของซองออก โดยใช้แรงเพียงนิดหน่อย เพราะเขามีความรู้สึกที่แปลกในจิตใจและร่างกาย ที่ไม่อยากไปจากที่นี่"อย่าไปนะ ซองขอโทษ ซองล้อเล่น"ซองรัดอ้อมกอดไว้แน่น เพราะกลัวริโอ้จะไปจริงๆใน
จางยังไม่สามารถลดอคติในใจที่มีต่อต้นกับปรัชญ์ได้ เขาจึงมองไม่เห็นในข้อนี้"มันเป็นเรื่องของผมคุณจะมายุ่งอะไรด้วย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งเฉย"ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ที่มาก็เพราะต้นไม่ใช่คุณ"คิมพยายามสงบจิตใจให้แน่นิ่ง"นั่นไงคุณยอมรับมาแล้ว ว่ายังคิดอะไรกับต้นอยู่"จางมองหน้าคิมด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ"คุณนี่มันพาลจริงๆ แถมเมาอีกด้วยผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว""ไม่อยากคุยหรือพูดแทงใจดำ ถึงผมจะมีปัญหากับต้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเป็นห่วงต้นสงสารต้น เพราะยังไม่ได้เลิกกันสักหน่อย""ตามสบาย"คิมพูดได้แค่นี้ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่มีสิทธิ์ข้อนี้"ฝากบอกต้นด้วยให้มาหาผม ถ้าไม่มาอีกสองวันผมจะกลับอันเจีย"จางยังมีสีหน้าที่นิ่งอยู่"ทำไมไม่ไปบอกเอง"คิมพูดขึ้น"เรื่องของผม คุณไม่ต้องรู้"จางอยากพิสูจน์ใจของต้น เขาต้องการรู้ว่าต้นจะยังรักเขาอยู่ไหม ถ้าเกิดต้นไม่มาแสดงว่าต้นหมดรักเขาแล้ว จางคิดไปไกลถึงขั้นนั้นทีเดียว"ผมไม่บอกหรอก ดีผมจะได้จีบต้นต่อถ้าเลิกกับคุณ"คิมยิ้มเยาะ"คุณนี่มัน ออกไปจากห้องผมเลย"จางชี้มือไปที่ประตูห้อง"ผมไปแน่ แล้วจะไปหาต้นด้วย ปล่อยให้คุณเมาเหล้าอยู่อย่างนี้แหล่ะ"พูดจบคิมก็เดิน
หลันหลันเคาะประตูเพียงครั้งเดียว จางก็เปิดประตูออกมาทันที และเขาก็มีสีหน้าที่ผิดหวังที่ไม่ใช่ต้น"มองหาแฟนหรอ""ต้นมาเหรอ"จางถาม"เขาฝากกุญแจไว้"หลันหลันยื่นกุญแจรถให้จาง เขาจึงรับไว้"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ"จางเดินออกจากห้องรีบมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา"จะมองอะไรแค่เขาไม่เข้าห้องก็น่าบอกได้แล้วนะว่า เขาเลิกกับจางแล้ว"หลันหลันยักไหล่เหล่สายตามองจาง ในท่าทีเย้ยหยัน"ทำใจซะ คงคิดได้คบกับจางต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร "หลันหลันหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ"ไม่จริง"จางใช้ที่เสียงหนักแน่น แต่เริ่มแผ่วในช่วงท้าย"ทำไมจะไม่จริง จางก็ลองดูซิถ้าอีกสามวันเขาไม่มาหาจาง แสดงว่าเขาคงอยากเลิกกับจาง"เมื่อจางเจอหลันหลันย้ำ เขาถึงคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างไม่ได้ตั้งใจ พลางคิดไปว่าต้นคงกลับไปคบกับปรัชญ์เหมือนเดิม เพราะทั้งคู่เคยรักใคร่ต่อกันมาก่อนเขา"เขาคงคิดได้ล่ะมั้ง ถ้าอยู่กับจางก็แค่มีความสุขในไทย แต่ไม่สามารถไปที่อันเจียได้ จางก็รู้ดีนี่ ที่นั้นเขายังไม่ยอมรับเรื่องนี้ จางกล้าที่จะเผชิญความจริงเหรอ"หลี่่หลันหลันพยายามสังเกตสีหน้าของจาง ซึ่งก็เป็นผลดั่งที่เธอคาดไว้ หลันหลันจึงใส่ไฟต่อไม่พอแค่นี้"ถ้า
จางนั่งมองโทรศััพท์มือถือ เพื่อดูข้อความที่ส่งมาซึ่งเขายังอุ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่หลันหลันยังไม่ได้บอกเรื่องราวของเขาให้กับคนรอบข้างฟัง จางคิดอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะไปข้อร้อง หลันหลันอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งกว่าจะไปจางก็ใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ มันเป็นอะไรที่ยากเย็นมากที่จะเอ่ยปากขอร้องหลันหลัน แต่เขาต้องรีบไปไม่งั้นชีวิตของเขาคงวุ่นวายแน่ จางจึงเดินออกจากห้องไปหาหลันหลันจางเคาะประตูสักพักหลันหลันก็เปิดประตูออกมา หลันหลันมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก"มีอะไรจาง"หลันหลันใช้สายตาเย็นชามองจาง"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม""ทีคุยกับผู้หญิงหน้าห้องอายเหรอ ทำไมเมื่อวานกอดกับผู้ชายไม่อาย""ผมอยากคุยธุระกับคุณ"จางมีสายตาที่เศร้าจนหลันหลันใจอ่อนขึ้นมาบ้าง ในฐานะคนเคยรักกันแต่เธอก็ยังไม่หายโกรธจางอยู่ดีจางเดินเข้ามาในห้องของหลันหลันแล้วนั่งลง ส่วนหลันหลันก็นั่งลงช้างๆ"มีอะไรว่ามา"หลันหลันถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว การมาของจางนั้นมาเพื่ออะไร"คือ ผมอยากให้หลันหลันอย่าบอกเรื่่องนี้กับใคร"พูดจบจางก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ"รู้ตัวมานานหรือยังว่าชอบ เอ่อ แบบนั้น"หลันหลันเริ่มอ่อนลง"ผมรู้ตัวที่นี