เร้าใจลูกน้อง

เร้าใจลูกน้อง

last updateLast Updated : 2025-07-14
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
44Chapters
344views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

“กำลังหาคนแต่งงานอยู่ใช่ไหม” “เอ็งไปรู้มาจากไหน” “ได้ยินพนักงานนินทากัน” “เฮ้อ...” ม่วงถอนหายใจพลางหยิบที่ทับกระดาษมาวางบนกองเอกสารที่คัดมา เขามั่นใจว่าตัวเองพูดด้วยเสียงปกติ ทั้งในห้องห้องนั้นใช่ว่ากำแพงจะบาง คราวหน้าคราวหลังหากจะคุยเรื่องสำคัญคงต้องผ่อนเสียงลงสักหน่อยแล้ว “ใช่ ฉันบอกคุณธรรศว่าจะแต่งงานก่อนไปเจอลูกค้ารายล่าสุดน่ะ” ข่าวลือที่พนักงานซุบซิบกัน หากลูกค้าตั้งคำถามมันก็มีหลากหลายวิธีในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งที่เขาควรจะคำนึงถึงจริง ๆ ก็คือการทำให้งานแต่งงานครั้งนี้เป็นไปอย่างแนบเนียนที่สุดผ่านระยะเวลาและการกระทำ ซึ่งเขามีเวลาสามเดือนก่อนจะได้เวลานัด เลขาหนูคิดไปก็เดินมานั่งลงยังเก้าอี้ เอื้อมมือหยิบชิ้นขนมปังกรอบราดแยมผลไม้ขึ้นมาใส่ปาก เขามีเหตุผลอื่นที่ต้องการพึ่งใบสมรสนอกเสียจากการทำงานกับเจ้านายภูวธรรศ แต่จะเลือกใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อย่างน้อยต้องเป็นคนที่น่าไว้วางใจและไม่ปากพล่อย- “เป็นผมได้ไหม” ลูกน้องหน้านิ่งซึ่งยืนไพล่หลังกล่าวขึ้นอย่างปุบปับท่ามกลางความเงียบในห้องก่อนจะตามด้วยเสียงกลืนในลำคอเล็กที่หดเกร็งเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ “เอ็งหมายถึงอะไร?” “แต่งงาน”

View More

Chapter 1

บทที่ ๑ น่ารักครับ อยากได้

‘สังคมมนุษย์สัตว์’ คือนิยามของโลกนี้ ทุกผู้ทุกคนมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่งโดยมีพื้นฐานคล้ายคลึงกับมนุษย์ พัฒนาสังคมระหว่างสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อมาจนเข้าสู่ยุคสมัยสุขสงบซึ่งสิ่งประดิษฐ์เดินหน้าไกลขึ้นจากประวัติศาสตร์ ผู้คนเริ่มตั้งหมู่บ้านเวลาผ่านไปกลายเป็นพระนครอันใหญ่โต ก่อเกิดเศรษฐกิจการเมืองโดยมีคนตัวเล็กตัวน้อยเป็นฟันเฟืองช่วยกันขับเคลื่อนและนั่นคือสังคมมนุษย์สัตว์

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 

‘ถูกปฏิบัติราวกับเป็นพระเจ้าในสังคม ถูกเทิดทูนมาตลอดชีวิตในเส้นทางการเป็นผู้นำ และได้รับคำสรรเสริญแม้เพียงกระดิกนิ้ว’

แม้มันอาจเป็นประโยคอันเหนือความจริงไปบ้างทว่านั่นคือความเป็นจริงที่ตัวของ เฉลิม ได้รับมาในหลายโอกาสของชีวิตในฐานะซึ่งเกิดมามีเพศรองเป็นพิโดร ตรงข้ามกับคนที่เขาปลาบปลื้ม ซึ่งชีวิตที่ผ่านมาต้องตะเกียกตะกายเพื่อเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย

สุคนธ์ พิโดร รดา สามเพศรองในโลกที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้เหล่าสิ่งมีชีวิตดำรงเผ่าพันธุ์ไปได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

‘สุคนธ์’ มนุษย์ฐานพีระมิดนับเป็นเพศซึ่งมีอำนาจต่อรองน้อยที่สุดในบรรดาเพศทั้งหมด ด้วยรูปลักษณ์ที่ในสายตาใครก็ถูกมองว่าอ่อนแอ ตั้งแต่เกิดส่วนใหญ่จึงล้วนถูกประคบประหงมดูแลประหนึ่งไข่ในหิน ส่งกลิ่นหอมกำจายเมื่อเข้า ‘ฤดูพิสมัย’ ชักจูงพิโดรที่อยู่ใกล้ให้เข้ามามีสัมพันธ์ทางกายเพื่อก่อเกิดทายาท

‘พิโดร’ มนุษย์ยอดพีระมิด มีรูปร่างสูงใหญ่เป็นที่น่าเกรงขาม มิหนำซ้ำส่วนใหญ่มียศถาบรรดาศักดิ์และอำนาจต่อรองสูงที่สุดในบรรดาเพศทั้งหมด สามารถขับกลิ่นข่มเพศอื่นได้โดยเฉพาะสุคนธ์ ในทางตรงกันข้ามกลับถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของสุคนธ์ได้ง่ายในบางรายอาจคลุ้มคลั่งไม่อาจควบคุมสติสัมปชัญญะได้เลยเชียว

‘รดา’ เพศที่มีจำนวนมากที่สุดในสังคม เป็นคนธรรมดาดาษดื่นไม่สามารถรับรู้กลิ่นพิสมัยของสุคนธ์ได้กระนั้นในบางครั้งก็สามารถได้กลิ่นข่มจากพิโดรได้เช่นกัน

ทั้งหมดทั้งมวลนั้นด้วยร่างกายอันสูงใหญ่ซึ่งสืบสายมาจากต้นตระกูลของหมีผสมกับเพศรองอันเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่มันจึงทำให้เขาไม่ต้องทุ่มเทความพยายามก็ได้มาในสิ่งที่ต้องการ แม้จะเติบโตมาในครอบครัวซึ่งมีฐานะปานกลาง แต่ใครมองก็รู้ว่าสุดท้ายอีกไม่นานเงินทองที่มีในตู้จะพอกพูนขึ้นเป็นเท่าทวีเมื่อได้พิโดรมากุมบังเหียน

ช่างน่าตลกที่ในสังคมนี้หากมีอยู่สองตัวเลือก ผู้คนย่อมเทคะแนนไปให้พิโดรผู้อ่อนประสบการณ์มากกว่าสุคนธ์หรือรดาผู้มากด้วยความสามารถ และเขาได้รับมันตอนถูกเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าห้องหรือประธานนักเรียนโดยไม่เต็มใจ

ท่ามกลางเสียงปรบมือที่มีให้หลังจากเขากล่าวคำไม่กี่คำเพราะความเบื่อหน่ายจากอากาศร้อนในคิมหันต์ฤดู เขาเห็นผู้ลงสมัครด้านหลังส่งยิ้มมาให้ แต่เขารู้ดีว่าในแววตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียใจแค่ไหน

เรื่องราวในวัยเลขหนึ่งนี้อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กวัยละอ่อน ทว่ามันกลับสะท้อนความจริงที่เด็กเหล่านั้นรวมถึงตัวเขาจะต้องเผชิญออกมาได้อย่างน่ารักน่าชังเสียจนหลายคนชินชาและยอมรับมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ในที่สุด

นอกเหนือไปจากการถูกเลือกปฏิบัติอันไร้ความยุติธรรม มีหลายครั้งที่เขาต้องพยายามเป็นคนอื่นต้องพยายามสวมบทบาทเป็นจุดสูงสุดที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะต้องมีความกล้าหาญ แน่วแน่ และทำทุกอย่างออกมาให้ดี ทว่ามันกลับต้องใช้พลังงานมากกว่าที่ธรรมชาติของตัวเขาจะทำออกมาได้

ความเงื่องหงอยเฉื่อยชา ความรับผิดชอบที่มีเทียบเท่ามาตรฐานของคนธรรมดา ไม่ตอบรับซึ่งค่านิยมอันสุดโต่งนั้น เขาเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หายใจไปวัน ๆ โดยที่มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตของตัวเองมันก็เท่านั้น ไม่ได้ต้องการเกิดมาเพื่อตอบรับค่านิยมบ้า ๆ ของสังคมแบบนี้เสียหน่อย ซึ่งเป้าหมายนี้เป็นมารดาของเขาที่ปลูกฝังมันมา

แม่เองคงโดนคนในสังคมพ่นค่านิยมอันไร้แก่นสารใส่หัวจนก่อเกิดเป็นคำสอนนี้ขึ้นมา ซึ่งมันทำให้เขาที่โตมากับมารดาได้รับอิสระมากกว่าพิโดรคนอื่น ๆ เขาไม่ถูกบังคับให้รับช่วงต่อบริษัทที่พ่อแม่สร้างขึ้นมา ไม่ถูกกดดันให้ต้องเรียนได้อันดับหนึ่ง หรือไม่ต้องไปแข่งกับใครคนอื่น เพราะสิ่งที่มารดากำชับเขามีเพียงสิ่งเดียวคือ ‘จงทำทุกอย่างให้เต็มที่ ให้ตัวเองในอนาคตไม่กลับมาเสียดายทีหลัง’

ด้วยเส้นทางชีวิตและคำสอนนั้นมันจึงทำให้เขาออกมาจากบ้านเพื่อตามหาเป้าหมายในชีวิตจนจับพลัดจับผลูได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเครือ‘เหมบำรุง’ซึ่งกุมธุรกิจและเงินทองเป็นอันดับต้น ๆ ในภาคเหนือของประเทศ เพราะอุดมการณ์ที่คล้ายคลึงกันและการทำงานที่สะท้อนมาซึ่งวิสัยอันสอดคล้องกับที่เป็นอยู่นั้นมันจึงทำให้เขาตัดสินใจส่งจดหมายยื่นใบสมัครจนผ่านเข้ามาในรอบสัมภาษณ์

อาคารขนาดใหญ่สร้างขึ้นด้วยอิฐปูนสีหม่นแปะป้ายเขียน ‘โชติพัฒก่อสร้าง’ ต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้าของอาคาร ให้ร่มเงากับบริเวณทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหินอย่างเรียบง่าย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วขับขานท่ามกลางสายลมเย็นยามเช้า สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายทว่าแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึมเป็นระเบียบ

เข้ามาในอาคารชั้นสองซึ่งเป็นที่นั่งพักของเหล่าผู้สมัคร เสียงนาฬิกาแขวนบนผนังที่ดังเป็นจังหวะตามเข็มวินาที ผู้สมัครหลายคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เรียงรายทั่วทางเดิน บางคนพลิกอ่านเอกสารในมือ บางคนจับปากกาเขียนบางสิ่งบางอย่างลงบนกระดาษด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เสียงถอนหายใจเป็นครั้งคราวสะท้อนถึงแรงกดดันและความคาดหวัง ในขณะที่เขาซึ่งมาก่อนเวลานัด ๑๐ นาทีแล้วเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่เฉย ๆ โดยไม่กระทำสิ่งใดนอกไปจากการทำสมาธิ

ไม่นานก็มีเสียงของรองเท้าหนังเดินมา ทว่ามันกลับแผ่วเบามากกว่าผู้สมัครส่วนใหญ่ พร้อมกับสีหน้าแววตาของผู้สมัครคนอื่นที่ดูจะแปลกไปจนเขาเองก็สงสัย 

“ผู้สมัครทุกท่านโปรดมาแจ้งชื่อที่โต๊ะลงทะเบียน และรับป้ายหมายเลขด้วยครับ”

เสียงที่เหมือนทุ้มต่ำทว่ากลับหวานล้ำน่าฟังราวเสียงสวรรค์ ท่าทางอันสง่างามภายใต้ร่างกายอันบอบบางของสายพันธุ์หนูตัวเล็กค่อย ๆ เดินอย่างใจเย็นเข้าไปในห้องสัมภาษณ์

ท่ามกลางความวุ่นวายระหว่างกำลังต่อแถวรับป้ายหมายเลขกับเจ้าพนักงานก็มีเสียงซุบซิบนินทาแว่วมาเป็นระยะถึงสรีระรูปร่างของคนที่น่าจะเป็นผู้สัมภาษณ์

‘ตัวเล็กขนาดนั้น เป็นสุคนธ์เหรอ?’

‘ไม่ใช่หรอก ไม่ได้สวมปลอกคอหรือมีรอยกัดนี่’

‘ไม่น่าเชื่อว่าคนสัมภาษณ์จะเป็นหนูตัวแค่นั้น’

‘ใช้เส้นสายขึ้นมาหรือเปล่า’

‘อาจจะเป็นผู้ช่วยก็ได้นะ’

‘ฉันว่าหน้าตาเขาก็ใช้ได้นะ เส้นสายที่ว่าอาจจะ...’

คำพูดเหล่านั้นมันแสลงหูจนเขาหน่ายจะฟัง ดีที่เขาได้รับป้ายหมายเลขมาพอดี และอันดับที่ ๔ ก็นับเป็นตัวเลขที่ดีในการสัมภาษณ์เนื่องจากเขาไม่อยากรอนาน กลับกันก็พอมีเวลาให้ได้หายใจหายคออยู่บ้าง

เขาเองในระหว่างรอสัมภาษณ์ก็มานั่งคิดว่าเพราะเหตุใด ทำไมผู้สมัครคนอื่นจึงได้ซุบซิบนินทาหัวเราะกันอย่างสนุกปาก มันคงเพราะที่นี่คือบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำ ไม่ใช่แค่ในภาคเหนือแต่เป็นระดับประเทศ คนที่สามารถเข้ามาทำงานได้ล้วนเป็นพิโดรร่างสูงใหญ่กันทั้งนั้น จากข่าวลือที่ได้ยิน มีพนักงานน้อยคนนักที่เป็นรดา และแน่นอนว่ามีสุคนธ์เท่ากับศูนย์ ทว่านั่นก็แค่ข่าวลือปากต่อปากไม่อาจพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้สักเท่าไร

ในความคิดเขานั้นยอมรับว่าตกใจในครั้งแรกที่ได้เห็นเช่นกัน กระนั้นเขาก็ไม่ได้มีอคติใด ๆ ซ้ำยังรู้สึกสนอกสนใจเข้าไปใหญ่ ว่าเพราะเหตุใดคนที่มีหูเล็ก ๆ กับหางเรียวกระจ้อยร่อยแบบนั้นจึงสามารถเดินเหินโดยติดป้ายตำแหน่งเลขานุการอยู่บนอกซ้ายได้ ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากตำแหน่งที่ใช่ว่าใครจะเป็นได้ ทั้งใบหน้ากลม ๆ ดวงตาใส ๆ ก็น่ารัก-

“เชิญผู้สมัครหมายเลข ๕ คุณเฉลิมชัย พิสุทธิ์สุขค่ะ”

“ครับ”

เขาไม่คิดว่าการออกนอกเรื่องจะทำให้เวลาเดินผ่านไปเร็วขนาดนี้ ว่าแล้วก็ลุกจากที่นั่งเดินเข้าไปยังห้องสัมภาษณ์แล้วจึงเห็นว่ามีคนตัวเล็กนั่งจับปากกาก้มหน้าจดข้อมูลลงกระดาษอยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาพร้อมส่งยิ้มมารยาทให้พอเป็นพิธี

“เชิญนั่งครับ”

“ขอบคุณครับ”

“รบกวนแนะนำตัว พร้อมเล่าประวัติการทำงานคร่าว ๆ ด้วยครับ”

“ครับ ผมชื่อ…”

ในระหว่างที่ตอบคำถามไปเขาไม่อาจละสายตาไปจากกรรมการสัมภาษณ์ตัวเล็กได้เลย เขานึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งว่าในยามที่นั่งอยู่ด้านนอกและเจ้าตัวเดินผ่าน ส่วนสูงของอีกฝ่ายนั้นยังสูงไม่พ้นศีรษะเขาเลย หากเปรียบเปรยสัดส่วนร่างกายแล้วอีกฝ่ายคงไม่ต่างอะไรจากเด็กประถมปลายหรือม.ต้นเสียด้วยซ้ำ กระนั้นแววตาสีหน้าท่าทางทั้งหมดทั้งมวลกลับสามารถมอบบรรยากาศอันสุขุมเยือกเย็นออกมาไม่แพ้คนตัวสูงใหญ่เลย

“ทำไมถึงเลือกที่นี่เหรอครับ?”

“ผมอยากมาทำงานที่นี่เพราะเห็นว่ามีอุดมการณ์สอดคล้องกัน...”

ยิ่งได้มองยามอีกฝ่ายจดขยุกขยิกยิ่งสนใจ เขาอยากรู้ไปเสียหมดว่าอีกฝ่ายแท้จริงแล้วมีเพศรองเป็นอะไรหรือผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ไหนจะสามารถเมินเฉยต่อคำนินทาและคงไว้ซึ่งความสง่า

“ถ้าคุณเข้ามาทำงานที่นี่ คุณจะมีผมเป็นหัวหน้า ผมเลยอยากทราบน่ะครับ ว่าคุณคิดอย่างไรกับผม?”

เจ้าตัวคงเคยชินกับปฏิกิริยาของผู้สมัครคนอื่นจนเกิดกลายเป็นคำถามตัดสินขึ้นมา เขานึกภาพออกเลยว่าพวกที่เคยพูดจาอวดเก่งอยู่เมื่อกี้คงจะมีหน้าชากันบ้าง

“ผมไม่คิดอะไรครับ”

“ช่วยขยายความเพิ่มเติมด้วยครับ”

“ที่ผมหมายถึงคือ...”

นี่เป็นงานทั่วไป เขาไม่สนใจหรอกว่าจะมีหัวหน้าเป็นรดา สุคนธ์ หรือพิโดรร่างเล็กจิ๋ว เพราะมันต้องมีเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้คนที่ตกเป็นที่ตั้งคำถามจากผู้คนภายนอกแบบนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นถึงเลขานุการและกรรมการสัมภาษณ์ ซึ่งเขาเองก็อยากรู้เส้นทางนั้นเช่นกัน เผื่อว่ามันจะทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาได้บ้าง ดังนั้นเขาจึงหวังว่าคำตอบที่เขาพูดออกไป จะสามารถสื่อสิ่งที่เขาคิดออกไปได้อย่างหมดจด

“หมดคำถามแล้วครับ จะมีการส่งจดหมายประกาศผลการคัดเลือกไปภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ขอบคุณที่สนใจบริษัทของเราครับ”

“ขอบคุณเช่นกันครับ”

ผ่านมาจากวันนั้นสิ้นเดือนก็มีจดหมายตอบรับว่าเขาผ่านการคัดเลือกและสามารถเข้าไปทำงานได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ในตำแหน่งของพนักงานทั่วไปแผนกบริหารทรัพยากรองค์กร ซึ่งนับว่าเป็นตำแหน่งเล็กสุดของบริษัท ทว่าเขาดีใจมากที่จะได้เข้าไปทำงานร่วมกับคนคนนั้นที่สัมภาษณ์เขา

ทว่าเมื่อเข้ามาทำงานผ่านไปหนึ่งเดือนก็แล้ว สามเดือนก็แล้ว ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเลขาตัวเล็กคนนั้นเลย จนเมื่อถามไปถามมาเขาก็ได้รับคำตอบมาจากหัวหน้างานว่า คนที่เขาสนใจนั้นเป็นถึงเลขานุการส่วนบุคคลของคุณภูวธรรศซึ่งนั่งแท่นประธานบริษัทสูงสุด และเจ้าตัวนั้นต่อให้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าทว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับงานเบื้องล่างสักเท่าไรนัก หากไม่มีกิจกรรมประจำปีอย่างการประเมิน หรือกิจกรรมสังสรรค์ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ

แต่เขาก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสเสียทีเดียว เพราะในทุกปีจะมีการคัดคนอีกระลอกเพื่อขึ้นไปทำงานในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อที่จะได้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่ได้เห็นอีกฝ่ายมากขึ้น

ทว่ายิ่งเขาใช้เวลาไปเพื่อเป้าหมายนี้มากเท่าไร จากความรู้สึกนับถือ ก็เริ่มกลายเป็นความปลาบปลื้ม กลายเป็นความสนใจที่ชักจะถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ จนเมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผู้ช่วยทั่วไป มีหลายครั้งที่ได้รับเอกสารคำสั่งและอีกฝ่ายตวัดสายตามามอง คล้ายว่าจะเป็นจังหวะที่ใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยามอีกฝ่ายเดินผ่าน ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างตั้งใจทำงานของตัวเองเขากลับเอาแต่มองจนแผ่นหลังนั้นลับสายตาไป

ใช่ว่าความรู้สึกที่มีให้คนคนนั้นจะมากขึ้นทุกวันเพราะอย่างไรเขาต้องเอาสมาธิส่วนใหญ่ไปใส่กับการทำงานเพื่อเลื่อนขั้น ทว่าในทุกครั้งที่ได้หวนคิดถึงใบหน้ากลมกลึงนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาที่เพิ่มขึ้น จนในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าตัวเองคิดเห็นอย่างไรกับหัวหน้าหนูตัวจิ๋วคนนี้

หลังจากได้เลื่อนขั้นขึ้นมาทำงานใกล้ชิดเบื้องบนจนกลายเป็นผู้ติดตามคอยขับรถไปรับไปส่งคุณเลขานุการตัวเล็ก ในยามกลางคืนที่ความมืดปกคลุมไปทั่วฟ้าพร้อมกับลมหนาวที่พัดผ่านร่างมาเป็นระยะ เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนเกือบสิบคนเดินลงไปตามทางเลียบแม่น้ำข้างสลัมก่อนจะพบเข้ากับกระท่อมเก่าหลังหนึ่งถูกสร้างขึ้นจากไม้ที่ดูเปราะบาง เสียงหรีดหริ่งเรไรขับขานเป็นบทเพลงแห่งความเงียบเหงา ในขณะที่เขาเดินตามหลังเลขานุการตัวเล็กไปอย่างไม่มีข้อสงสัยจนมาหยุดที่หน้ากระท่อมปลายทาง

‘แน่ใจนะว่าใช่ที่นี่’

‘ครับนาย เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วเห็นว่าเดินเข้าไปด้านในแล้วยังไม่ได้ออกมาครับ’

‘ถ้าฉันพังเข้าไป น้องเปลวเขากลัวฉันไหมวะไอ้ม่วง

‘เป็นผม ผมกลัวตั้งแต่มีใครไม่รู้มาเคาะประตูบ้านแล้วครับนาย’

บทสนทนาอันเป็นกันเองระหว่างเจ้านายลูกน้องทำให้เขารู้ว่าทั้งสองมีความสนิทสนมกันมากพอควร

งานที่ได้รับมอบหมายวันนี้คือการติดตามคอยเป็นมือเท้าให้ประธาน ซึ่งช่วงนี้มันแทบจะกลายเป็นงานหลักไปแล้ว

สถานการณ์ต่อจากนั้นมีความฉุกละหุกขึ้นนิดหน่อย แต่เมื่อรับหน้าที่พาลูกแฝดชายหญิงของคุณเปลวไปส่งยังโรงแรมสำเร็จ เขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องทำเป็นพิเศษนอกจากการนั่งเฝ้าหน้าห้องกับหัวหน้าหนูจี๊ดที่มาด้วยกัน

ได้ยินว่าเป็นคนที่คุณภูวธรรศตามหามานาน คงจะเป็นบุคคลสำคัญมากจนถึงขั้นให้เลขานุการส่วนตัวเป็นคนเฝ้าด้วยตัวเองแทนที่จะสั่งลูกน้องคนอื่นมาทำหน้าที่แทน

เฉลิมหมีใหญ่เหลือบมองหัวหน้าร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ของโรงแรมด้วยความใคร่รู้ จากการทำงานด้วยกันมามีอีกเรื่องน่าทึ่งที่เขาทราบมาจากรุ่นพี่ที่ทำงานมานาน เห็นว่าเจ้าตัวเคยมีประวัติเป็นสุคนธ์มาก่อนจะได้รับผลตรวจอีกครั้งว่าเป็นรดา ทว่าอย่างไรมันก็น่าแปลกใจอยู่ดี

ไหนจะรูปร่างภายนอกอันบอบบางตัวเล็ก ยิ่งมานั่งข้างกันยิ่งเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างในสรีระ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ฝ่ามือ เรียวนิ้ว หรือแม้แต่รอยสักยันต์ที่โผล่พ้นคอปกเสื้อขึ้นมา ทุกอย่างล้วนเล็กจิ๋วไปเสียหมดจนเหมือนตุ๊กตาเดินได้ที่สมควรได้รับการดูแลมากกว่าการต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ ช่างน่าแปลกใจเหลือเกินที่คนตัวเล็กแบบนี้จะทำงานที่ต้องการความอดทนและความละเอียดสูงได้นานหลายชั่วโมงติดต่อกัน ในขณะที่เขาได้ยินลูกน้องบางคนทำงานไปได้ไม่เท่าไรก็บ่นอิดออด พี่หนูช่างน่านับถือเสียจริง

“ถ้าเอ็งง่วงก็ไปเปิดห้องนอนก็ได้นะ ฉันเฝ้าคนเดียวได้”

“ไม่เป็นไร”

หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือมีผู้ปองร้าย เขาจะได้ช่วยเหลือทัน เพราะร่างกายเท่าฝ่ามือแบบนี้คงไม่อาจต่อสู้ได้ถนัดถนี่นัก ดังนั้นเขาจะอยู่ด้วยจนงานเสร็จ นอกจากนี้เขาเชื่อว่าคุณธรรศน่าจะให้เวลาพักผ่อนแก่พวกเขาทดแทนแน่นอน

“เอ็งนี่ก็แปลกคน บอกให้พักไม่พัก”

หัวหน้าหนูบ่นอิดออด วางหนังสือพิมพ์มาเท้าคางมองเจ้าหมีตัวใหญ่ที่เอาแต่ทำหน้าตายไร้อารมณ์จนม่วงเดาใจไม่ออก

โดยเฉลิมที่ถูกสายตากลมจ้องมองด้วยความสงสัยจึงผินใบหน้าเล็กน้อยลงไปสบสายตาอย่างเรียบนิ่งโดยไม่พูดอะไร เนื่องจากในตอนนี้เขาตื่นเต้นจนหัวใจจะวาย!

เขารู้แล้วว่าตัวเองชอบหัวหน้าคนนี้ ชอบพอรักใคร่มาตลอดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้ารวมไปถึงการได้ยินเรื่องราวที่คนนำมาเล่าสู่กันฟัง และที่นั่งนิ่งอยู่แบบนี้นั้นไม่ใช่เพราะอะไรแต่เพราะเขาเกร็งอยู่ต่างหากเล่า! นอกจากจะมีร่างกายอ้อนแอ้นน่ารักแล้ว ยังทำตัวน่ารักอีก นี่กะจะไม่เผื่อแผ่แบ่งปันคำว่าน่ารักให้คนอื่นบนโลกสักหน่อยหรือไรกัน

“เห็นว่าตรงหัวมุมโรงแรมมีซุ้มขายขนมเครื่องดื่มด้วย เอ็งจะเอาอะไรไหม? เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”

“อือ”

“ตอบแต่อือ ๆ แล้วฉันจะตรัสรู้เหรอไอ้เฉลิม”

“กาแฟนม”

“อื้อ! แค่นี้เอง”

โอ้...คุณพระคุณเจ้า ขนาดดุยังน่ารัก ยิ่งตอนชมยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ นี่เจ้าตัวจะรู้ไหมว่ามีคนชอบพอตัวเองอยู่ ซึ่งไม่ใช่มีแค่เขา แต่รวมไปถึงลูกน้องคนอื่นที่ต้องการชิงตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวซึ่งได้ยินว่าจะเริ่มคัดเร็ว ๆ นี้ หลายคนจึงพยายามตั้งใจทำงานในส่วนของตัวเองอย่างเต็มที่

“สั่งเหมือนเดิมทุกครั้งไม่เบื่อบ้างเหรอ?”

“ไม่”

“แล้วก็นี่ ขนมปังสอดไส้ ฉันกินไม่หมดกล่องหรอกดังนั้นช่วยฉันกินด้วยก็ดี”

“อือ”

ครับ น่ารักจนพูดไม่ออกเลยครับ เพราะใจดีแบบนี้อย่างไรเล่าลูกน้องถึงได้หลงกันจนโงหัวไม่ขึ้น ดังนั้นแล้วเขาจะต้องคว้าตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวของคุณเลขานุการมาให้จงได้

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
44 Chapters
บทที่ ๑ น่ารักครับ อยากได้
 ‘สังคมมนุษย์สัตว์’ คือนิยามของโลกนี้ ทุกผู้ทุกคนมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่งโดยมีพื้นฐานคล้ายคลึงกับมนุษย์ พัฒนาสังคมระหว่างสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อมาจนเข้าสู่ยุคสมัยสุขสงบซึ่งสิ่งประดิษฐ์เดินหน้าไกลขึ้นจากประวัติศาสตร์ ผู้คนเริ่มตั้งหมู่บ้านเวลาผ่านไปกลายเป็นพระนครอันใหญ่โต ก่อเกิดเศรษฐกิจการเมืองโดยมีคนตัวเล็กตัวน้อยเป็นฟันเฟืองช่วยกันขับเคลื่อนและนั่นคือสังคมมนุษย์สัตว์ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .  ‘ถูกปฏิบัติราวกับเป็นพระเจ้าในสังคม ถูกเทิดทูนมาตลอดชีวิตในเส้นทางการเป็นผู้นำ และได้รับคำสรรเสริญแม้เพียงกระดิกนิ้ว’แม้มันอาจเป็นประโยคอันเหนือความจริงไปบ้างทว่านั่นคือความเป็นจริงที่ตัวของ เฉลิม ได้รับมาในหลายโอกาสของชีวิตในฐานะซึ่งเกิดมามีเพศรองเป็นพิโดร ตรงข้ามกับคนที่เขาปลาบปลื้ม ซึ่งชีวิตที่ผ่านมาต้องตะเกียกตะกายเพื่อเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายส
last updateLast Updated : 2025-06-01
Read more
บทที่ ๒ มโนภาพ
 นี่เป็นเวลาสายของวันซึ่งคุณภูวธรรศผู้เป็นเจ้านายเข้ามาบริษัทเพื่อจัดการเอกสารทุกอย่างที่ถูกจัดกองไว้บนโต๊ะ รวมไปถึงเอกสารการคัดเลือกรองเลขานุการส่วนตัวของเขาเช่นกัน“เอ็งตาถึงดีนี่”“คนนี้มันทำไมเหรอครับนาย?”ม่วงไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้านายกำลังจะสื่อ หลังจากเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ ตลอดหลายเดือนเขาทำเพียงคัดคนจากผลงานที่เห็นได้ชัดที่สุดแต่เพียงเท่านั้น และไอ้เฉลิมก็เป็นคนที่รู้สึกว่าจะทำงานด้วยความละเอียดลออกว่าคนอื่นที่สักแต่เอาจำนวนเข้าว่า“ฉันคุ้นนามสกุลนี้เฉย ๆ น่ะ คิดว่าคงจะได้ทำงานร่วมกันในอนาคตเลยจำเอาไว้”“ลูกคนรวย?”“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่มีแนวโน้ม”คุณธรรศไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่าลงนามรับรองตำแหน่งให้ก่อนจะละมือไปอ่านเอกสารอื่น ๆ บนโต๊ะ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้คุณธรรศนอกจากจะเป็นเจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างและสังหาริมทรัพย์ ยังเป็นเจ้าหนี้ของคุณเปลวซึ่งเจ้านายบอกว่าเป็นคู่ชะตาที่พลัดพราก...ตอนได้ยินเขาไม่แปลกใจกับคำพูดทำนองนี้เท่าไรนัก เพราะเจ้านายเขามักจะเพ้อแบบนี้เป็นประจำ หากเจ้าตัวยังคงให้เงินเดื
last updateLast Updated : 2025-06-02
Read more
บทที่ ๓ ประคบเย็น
 “มีอะไรจะแก้ตัวไหม? ไอ้ม่วง”เขาทำงานพลาดครั้งใหญ่“ไม่ครับ”“ดี”เลขานุการหนูคนสนิทยืนตัวตรงมือไพล่หลังน้อมรับบทลงโทษที่จะตามมางานที่เขาควรส่งคนคุ้มกันคุณเปลวและผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไม่ให้คลาดสายตา แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับเป็นความล้มเหลว ต่อให้คนที่ทำพลาดจะเป็นคนอื่นไม่ใช่เขาทว่าคนอื่นคนนั้นคือลูกน้องซึ่งได้รับคำสั่งจากตัวเขาซึ่งเป็นหัวหน้า ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบ*พลั่ก!!* กำปั้นตรงเข้าข้างแก้มอย่างจัง จนรดาร่างเล็กล้มลงในทันที ดีที่ข้างเคียงเป็นเตียงหากเป็นขอบโต๊ะละก็คงไม่ได้มีแค่แผลเดียวเป็นแน่ใบหน้าเล็กแม้ขึ้นเป็นรอยฟกช้ำใหญ่จนมันเกยขึ้นตาแต่สีหน้านัยนายังคงเรียบเฉย สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เนื่องจากงานงานนี้เจ้านายย้ำนักย้ำหนาให้เขาพึงระวังกับมันมากกว่างานที่เป็นไปเพื่อผลกำไรของบริษัท ถึงกระนั้นด้วยผลที่ออกมาตรงกันข้ามให้ทราบได้ว่าเขายังใส่ใจไม่มากพอพวกเขาตามสืบมายังย่านอโคจรจนถึงห้องซึ่งส่งกลิ่นฉุนของน้ำหอมออกมาจนน่าอาเจียน ผ้าม่านผืนหนาสีเข้มปิดหน
last updateLast Updated : 2025-06-03
Read more
บทที่ ๔ เขยิบเข้ามาสิ
 “ยอด ฝากดูเด็ก ๆ ที ฉันจะลงไปคนเดียว”หัวหน้าเลขานุการตัวเล็กกล่าวเมื่อรถยนต์แล่นมาถึงยังอีกหนึ่งจุดนัดหมายซึ่งอยู่ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ในยามนี้เป็นเวลาเกือบแปดโมง ทว่าเขายังเหลืออีกหนึ่งปัญหาให้ต้องจัดการคิดแล้วก็ส่งยิ้มให้เด็ก ๆ ก่อนจะกล่าวขอตัวออกมาจากรถเพื่อเดินเข้าเขตก่อสร้างที่ตนตกลงกับลูกน้องเอาไว้ว่าจะพาไอ้คนที่มันทำเสียเรื่องมาพูดคุยกันที่นี่พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างเหนือขอบฟ้าแผ่ลงมายังเขตก่อสร้างซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมและเสียงคลื่นไคล้แห่งการทำงาน ความเงียบของช่วงเช้าตรู่ถูกแทนที่ด้วยเสียงเครื่องจักรที่กำลังทำงานอย่างต่อเนื่อง เสียงค้อนตอกตะปูและเครื่องมือหนักต่าง ๆ ที่ดังก้องสะท้อนทั่วอาณาบริเวณ ผสานเข้ากับเสียงฝีเท้าที่ก้าวตรงไปยังห้องรับรองในมุมหนึ่งของพื้นดินเรียบแห้งซึ่งมีลูกน้องบางส่วนกำลังยืนพูดคุยหารือกับช่าง“อรุณสวัสดิ์ครับ-หัวหน้าไปโดนอะไรมา!?”“เฮ้อ...ช่างฉันเถอะน่ะ แล้วไอ้นั่นมันอยู่ไหน?”“นั่งรออยู่ข้างในครับ...”“อือ”“หะ...ให้ผมซื้อผ้าพัน...”“ไม่ต้อง ทำหน้าที่ของตัวเองไป”
last updateLast Updated : 2025-06-04
Read more
บทที่ ๕ ช่างกล้า
 ในยามเช้าตรู่ ณ บริษัทโชติพัฒก่อสร้าง แสงแดดยามสายสาดส่องอ่อน ๆ เหนือท้องนภา สีฟ้าอมส้มเป็นฉากหลังให้กับประธานหนุ่มเสือดาวหิมะซึ่งกำลังนั่งประสานมือเคร่งเครียดยังโต๊ะทำงานพลางเหลือบมองไอ้เจ้าเลขาหนูจี๊ดที่ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้มันโกรธเข้าให้ถึงได้มาล้อเล่นกันในเรื่องแบบนี้“ไม่ได้ประชดฉันใช่ไหม ฉันว่าเรื่องนี้มันผ่านไปนานแล้วนะ เอ็งยังไม่พอใจที่โดนต่อยอีกเหรอวะ?”“ที่ผมบอกไปไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นครับ”เจ้านายอย่างธรรศเริ่มฉงนสงสัยและไม่ไว้ใจ ต่อให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ เพราะจนป่านนี้ผ่านมาหลักสัปดาห์รอยช้ำบนหน้าไอ้ม่วงก็ยังไม่หายไป เอ็งจะไม่พอใจก็บอกมาตรง ๆ สิวะ!“พูดมาตามตรงเถอะว่าเอ็งยังอารมณ์เสียอยู่”“ไม่ครับ”“แล้วที่บอกว่าจะเป็นคนแต่งงานเอง มันหมายความว่าอะไร?”“ผมหมายความตามที่พูดไปครับนาย”ภูวธรรศยิ่งฟังยิ่งกุมขมับ พวกเขามีเหตุต้องไปพูดคุยกับลูกค้ารายใหม่ในฐานะตัวเลือก สิ่งที่ต้องทำก็มีตั้งแต่เตรียมเอกสาร เตรียมวัสดุตัวอย่างต่าง ๆ ทว่ายิ่งไปกว่านั้นคือมีข่าวมาจากสายสืบว่าลูกค้ารายนี้มีแนวโ
last updateLast Updated : 2025-06-05
Read more
บทที่ ๖ หน้ามึน
 เมื่อเวลาผ่านไปในช่วงบ่ายแก่ ๆ แสงแดดที่เคยร้อนแรงแผดเผาพื้นยางมะตอยในตอนกลางวันเริ่มอ่อนลง กลายเป็นไออุ่นที่ทอดผ่านหน้าต่างรถ ส่องให้เห็นถนนที่ไม่พลุกพล่านมากนัก รถยนต์สีเทาคันประจำเคลื่อนตัวออกจากเขตก่อสร้าง มุ่งหน้าไปยังที่ว่าการเขตเพื่อจดทะเบียนสมรสสองข้างทางที่ขับผ่านมีต้นไม้และอาคารเรียงรายอยู่ คอยมอบร่มเงาพาดยาวลงมาบนถนนดินเรียบ การเดินทางครั้งนี้พลอยทำให้หัวใจของเฉลิมพลขับอุดมไปด้วยความคาดหวังและความสุขเล็ก ๆ ที่จะได้ทำตามขั้นตอนสำคัญสำหรับชีวิตคนคนหนึ่งทว่าคู่สมรสตัวเล็กข้าง ๆ คงจะไม่ยินดียินร้ายกับมันเสียเท่าไรนักบรรยากาศรอบข้างเงียบสงบ โดยต่อให้รถรุ่นนี้จะสามารถเปิดวิทยุคลอไปได้แต่คุณว่าที่ภรรยากลับเอาแต่นั่งกอดอกทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์แถบชานเมืองด้วยใบหน้าเรียบเฉยปนเหนื่อยอ่อนเนื่องด้วยงานอันมหาศาลที่ต้องจัดการให้เสร็จภายในครึ่งเช้า ไหนจะต้องไปอยู่ในเขตก่อสร้างร้อน ๆ คราวบอกให้พี่หนูไปนั่งรอตากลมเครื่องปรับอากาศในรถสบาย ๆ ก็ไม่ยอม จะลงมาช่วยแจกเงินรายวันให้ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘งานจะได้เสร็จเร็วขึ้น’ ซึ่งเขาจะไปเถียงคงไม่ได้เพราะหัวหน้าค
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
บทที่ ๗ ครั้งเดียวไม่พอ
 ม่วงที่คาดหวังว่าตัวเองจะได้กลับบ้านตัวเองไปพักจิตพักใจทำงานที่คั่งค้างอย่างสบายอารมณ์กลับต้องมาหัวเสียอยู่ในบ้านเช่าของเจ้าเฉลิม เนื่องจากลูกน้องคนนี้พึ่งมาสังเกตว่าน้ำมันรถใกล้หมดเต็มทีโดยในตอนนั้นจะหาปั๊มน้ำมันหรืออะไรก็คงจะไม่ทันนอกเสียจากเลี้ยวลัดเลาะตรอกซอยเข้าชุมชนไอ้ลูกน้องคนนี้เมื่อบ้านเริ่มปรากฏให้เห็นจากระยะไกล โครงสร้างไม้และระเบียงหน้าบ้านเล็ก ๆ ทำให้รู้สึกถึงความเรียบง่ายกระนั้นมันกลับดูอบอุ่นขึ้นมาเมื่อรอบบ้านประดับประดาไปด้วยกระถางต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ผนวกกับกลิ่นอ่อนของดินชื้นชุ่มถูกพัดมาเตะจมูกช่วยให้อารมณ์คุกรุ่นทรงตัวขึ้นมาได้บ้างนี่เป็นครั้งแรกที่หัวหน้าอย่างเขาได้มาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของลูกน้องคนนี้ เพราะมันเลือกปฏิเสธการเข้ามาพักในตึกแถวพนักงานและมาหาที่อยู่ด้วยตัวเอง ไม่นึกมาก่อนว่าคนหน้าตายอย่างมันจะมีงานอดิเรกเป็นการปลูกต้นไม้พืชผักสวนครัวกับเขาด้วย ไหนจะตุ๊กตาดินเผาตัวเล็กตัวน้อยที่เกาะกระถางอีก ไม่รู้ไปสรรหามาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้โครงสร้างส่วนใหญ่ของบ้านเล็กหลังนี้ทำจากไม้ผสมปูนบางส่วน มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง และมีร
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more
บทที่ ๘ สำเหนียก
 “ฉันคิดว่าหลังจากนี้เราควรอยู่ด้วยกัน แต่งงานแล้วแยกกันอยู่คนเขาจะจับพิรุธได้เอา”หัวหน้าหนูจี๊ดกล่าววาจาเจื้อยแจ้วพร้อมแววตาใสแป๋วหลังอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ พลางเดินเข้ามาใกล้สามีตามกฎหมายไม่ต่างจากในตอนนี้พวกเขามีสถานะเป็นหัวหน้า-ลูกน้องแต่เพียงอย่างเดียว“ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้เอ็งย้ายมานอนบ้านฉัน”หางยาวเรียวเล็กตวัดตามจังหวะการเดินอย่างช้าเนิบ ใบหูบนศีรษะกระตุกเล็กน้อยตามธรรมชาติเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้น ร่างกายบอบบางในเสื้อคอปกกว้างตัวโคร่งหลวมเมื่อมองหน้าคุยกับผู้ช่วยตัวยักษ์ไปมาก็เริ่มยกมือขึ้นกอดอก พลอยให้คอเสื้อเคลื่อนเผยผิวมากกว่าเดิม“นี่เอ็งได้ฟังอยู่รึเปล่า?”หากให้กล่าวกันตามตรง ใครหนอใครจะมีสมาธิสนทนาพาทีในขณะที่คนที่ตนแอบชอบยืนประจันหน้าอยู่ในชุดเสื้อผ้าวับ ๆ แวม ๆ คราวจะพูดก็หวั่นใจจะเผลอทำมารยาททรามโดยไม่ทันคิด“นี่!”เมื่อเสียงเล็กตะเบ็งเสียงดังขมวดคิ้วหน้ามู่ทู่ เมื่อนั้นเฉลิมจึงพยักหน้าหงึก ๆ ให้พี่หนูรับทราบและกล่าวต่ออย่างที่เคยเป็นกันมา ซึ่งเริ่มเข้าเรื่องน้ำมันรถยนต์ที่ใกล้หมดเต็มที เห็นว่าจะออกไปซื
last updateLast Updated : 2025-06-08
Read more
บทที่ ๙ รู้สำนึกบุญคุณ
 เมื่อราตรีผ่านพ้น ดวงจันทร์ซึ่งมอบแสงรำไรกลายเป็นไออุ่นจากแสงอาทิตย์ที่เข้ามาแทนที่ ใต้ผืนผ้าห่มซึ่งเคยกันลมหนาวตอนนี้กลับร้อนขึ้นมาอย่างช้า ๆ จนร่างเล็กบนเตียงเริ่มขยับหยุกหยิกขดตัวพลิกซ้ายขวา ก่อนที่เปลือกตาจะกะพริบถี่เปิดขึ้นมามองสภาพแวดล้อมหัวสมองยังคงง่วงงุนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ความทรงจำจะเริ่มแจ่มชัดขึ้น ใบหูเล็กจิ๋วกระตุกเล็กน้อยเมื่อแว่วเสียงนกร้อง เมื่อมองไปรอบ ๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคยซึ่งให้กลิ่นอายของความเป็นบ้านไม้ไทย ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ว่าด้วยเหตุขัดข้องของรถยนต์ เขาจึงต้องจำใจมานอนบ้านลูกน้องว่าแล้วม่วงก็มองซ้ายมองขวาหาตัวไอ้เฉลิมทว่ากลับไม่เจอ หรือเมื่อคืนมันจะไปนอนที่อื่น ทั้งที่เตียงตัวเองก็มีที่เหลือตั้งเยอะให้นอนไม่ใช่หรือ แต่อาจเป็นไปได้ว่ามันมาตอนเห็นเขาหลับไปแล้วจึงไม่อยากปลุก ซึ่งมีความเป็นไปได้ แต่น้ำหน้าอย่างมันน่ะหรือจะคิดแบบนั้น คงจะเกรงใจในฐานะเจ้านายลูกน้องไม่ก็กลัวเขาตื่นมาเฉ่งสิไม่ว่าในขณะที่กำลังปรับตัวจากการตื่นนอน กลิ่นหอมกรุ่นของอาหารที่โชยเข้ามาทางประตูห้องยิ่งย้ำเตือนว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขา ม่วงเหลือบสายตาขึ้นไ
last updateLast Updated : 2025-06-09
Read more
บทที่ ๑๐ พี่หนูของน้อง
 “มะ...มีแล้วเหรอครับ”เจ้าของเสียงส่อแววเศร้าสร้อยตรงกันข้ามกับสีหน้ามั่นอกมั่นใจในทีแรกเมื่อย่างก้าวเข้ามาเสนอตัว ทำให้ม่วงเลขานุการทราบว่ายังมีคนที่เกินความคาดหมายอยู่มากมายนัก แต่จะให้สั่งย้ายทุกคนเห็นทีจะไม่รุ่งเพราะนั่นคือจำนวนกว่าครึ่งของลูกน้องภายในสังกัด ทั้งไอ้เจ้าพวกนั้นก็ทำเพียงแค่เข้ามาเสนอตัว ทำงานก็ดีตามมาตรฐาน และยังไม่เคยทำผิดร้ายแรงสักครั้งถึงกระนั้นเองก่อนหน้าที่จะเข้าสู่กระบวนการประเมินอย่างถี่ถ้วน ม่วงจำต้องมานั่งกล่าวปฏิเสธลูกน้องไปไม่ต่ำกว่าห้าคนแล้วในช่วงเช้า ดีที่ไอ้เฉลิมมันหาที่ตั้งสำหรับเอาใบสำคัญการสมรสมาตั้งเด่นหราหน้าโต๊ะเพื่อเป็นการป่าวประกาศสำหรับไอ้คนที่เข้ามาไปอีกทางแต่โดยส่วนตัวแล้วม่วงไม่ใช่คนที่จะสามารถอดทนกับปัญหาไร้สาระเดิม ๆ ได้จึงคิดเรื่องหนึ่งออก ก่อนจะเหลือบหางตามองเจ้าหมีใหญ่ที่กำลังตระเตรียมตัวลงไปซื้อมื้อเที่ยงขึ้นมาให้เขา“ไอ้เฉลิม”เจ้าของชื่อใบหูกระตุก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น มองหัวหน้าหนูจี๊ดพร้อมน้อมรับคำสั่ง ทั้งจะว่าไปแล้วรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์นั้นก็น
last updateLast Updated : 2025-06-10
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status