เร้าใจลูกน้อง

เร้าใจลูกน้อง

last updateHuling Na-update : 2025-07-14
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Hindi Sapat ang Ratings
44Mga Kabanata
8views
Basahin
Idagdag sa library

Share:  

Iulat
Buod
katalogo
I-scan ang code para mabasa sa App

“กำลังหาคนแต่งงานอยู่ใช่ไหม” “เอ็งไปรู้มาจากไหน” “ได้ยินพนักงานนินทากัน” “เฮ้อ...” ม่วงถอนหายใจพลางหยิบที่ทับกระดาษมาวางบนกองเอกสารที่คัดมา เขามั่นใจว่าตัวเองพูดด้วยเสียงปกติ ทั้งในห้องห้องนั้นใช่ว่ากำแพงจะบาง คราวหน้าคราวหลังหากจะคุยเรื่องสำคัญคงต้องผ่อนเสียงลงสักหน่อยแล้ว “ใช่ ฉันบอกคุณธรรศว่าจะแต่งงานก่อนไปเจอลูกค้ารายล่าสุดน่ะ” ข่าวลือที่พนักงานซุบซิบกัน หากลูกค้าตั้งคำถามมันก็มีหลากหลายวิธีในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งที่เขาควรจะคำนึงถึงจริง ๆ ก็คือการทำให้งานแต่งงานครั้งนี้เป็นไปอย่างแนบเนียนที่สุดผ่านระยะเวลาและการกระทำ ซึ่งเขามีเวลาสามเดือนก่อนจะได้เวลานัด เลขาหนูคิดไปก็เดินมานั่งลงยังเก้าอี้ เอื้อมมือหยิบชิ้นขนมปังกรอบราดแยมผลไม้ขึ้นมาใส่ปาก เขามีเหตุผลอื่นที่ต้องการพึ่งใบสมรสนอกเสียจากการทำงานกับเจ้านายภูวธรรศ แต่จะเลือกใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อย่างน้อยต้องเป็นคนที่น่าไว้วางใจและไม่ปากพล่อย- “เป็นผมได้ไหม” ลูกน้องหน้านิ่งซึ่งยืนไพล่หลังกล่าวขึ้นอย่างปุบปับท่ามกลางความเงียบในห้องก่อนจะตามด้วยเสียงกลืนในลำคอเล็กที่หดเกร็งเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ “เอ็งหมายถึงอะไร?” “แต่งงาน”

view more

Kabanata 1

บทที่ ๑ น่ารักครับ อยากได้

‘สังคมมนุษย์สัตว์’ คือนิยามของโลกนี้ ทุกผู้ทุกคนมีวิวัฒนาการมาจากสัตว์ประเภทใดประเภทหนึ่งโดยมีพื้นฐานคล้ายคลึงกับมนุษย์ พัฒนาสังคมระหว่างสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อมาจนเข้าสู่ยุคสมัยสุขสงบซึ่งสิ่งประดิษฐ์เดินหน้าไกลขึ้นจากประวัติศาสตร์ ผู้คนเริ่มตั้งหมู่บ้านเวลาผ่านไปกลายเป็นพระนครอันใหญ่โต ก่อเกิดเศรษฐกิจการเมืองโดยมีคนตัวเล็กตัวน้อยเป็นฟันเฟืองช่วยกันขับเคลื่อนและนั่นคือสังคมมนุษย์สัตว์

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 

‘ถูกปฏิบัติราวกับเป็นพระเจ้าในสังคม ถูกเทิดทูนมาตลอดชีวิตในเส้นทางการเป็นผู้นำ และได้รับคำสรรเสริญแม้เพียงกระดิกนิ้ว’

แม้มันอาจเป็นประโยคอันเหนือความจริงไปบ้างทว่านั่นคือความเป็นจริงที่ตัวของ เฉลิม ได้รับมาในหลายโอกาสของชีวิตในฐานะซึ่งเกิดมามีเพศรองเป็นพิโดร ตรงข้ามกับคนที่เขาปลาบปลื้ม ซึ่งชีวิตที่ผ่านมาต้องตะเกียกตะกายเพื่อเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย

สุคนธ์ พิโดร รดา สามเพศรองในโลกที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้เหล่าสิ่งมีชีวิตดำรงเผ่าพันธุ์ไปได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

‘สุคนธ์’ มนุษย์ฐานพีระมิดนับเป็นเพศซึ่งมีอำนาจต่อรองน้อยที่สุดในบรรดาเพศทั้งหมด ด้วยรูปลักษณ์ที่ในสายตาใครก็ถูกมองว่าอ่อนแอ ตั้งแต่เกิดส่วนใหญ่จึงล้วนถูกประคบประหงมดูแลประหนึ่งไข่ในหิน ส่งกลิ่นหอมกำจายเมื่อเข้า ‘ฤดูพิสมัย’ ชักจูงพิโดรที่อยู่ใกล้ให้เข้ามามีสัมพันธ์ทางกายเพื่อก่อเกิดทายาท

‘พิโดร’ มนุษย์ยอดพีระมิด มีรูปร่างสูงใหญ่เป็นที่น่าเกรงขาม มิหนำซ้ำส่วนใหญ่มียศถาบรรดาศักดิ์และอำนาจต่อรองสูงที่สุดในบรรดาเพศทั้งหมด สามารถขับกลิ่นข่มเพศอื่นได้โดยเฉพาะสุคนธ์ ในทางตรงกันข้ามกลับถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของสุคนธ์ได้ง่ายในบางรายอาจคลุ้มคลั่งไม่อาจควบคุมสติสัมปชัญญะได้เลยเชียว

‘รดา’ เพศที่มีจำนวนมากที่สุดในสังคม เป็นคนธรรมดาดาษดื่นไม่สามารถรับรู้กลิ่นพิสมัยของสุคนธ์ได้กระนั้นในบางครั้งก็สามารถได้กลิ่นข่มจากพิโดรได้เช่นกัน

ทั้งหมดทั้งมวลนั้นด้วยร่างกายอันสูงใหญ่ซึ่งสืบสายมาจากต้นตระกูลของหมีผสมกับเพศรองอันเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่มันจึงทำให้เขาไม่ต้องทุ่มเทความพยายามก็ได้มาในสิ่งที่ต้องการ แม้จะเติบโตมาในครอบครัวซึ่งมีฐานะปานกลาง แต่ใครมองก็รู้ว่าสุดท้ายอีกไม่นานเงินทองที่มีในตู้จะพอกพูนขึ้นเป็นเท่าทวีเมื่อได้พิโดรมากุมบังเหียน

ช่างน่าตลกที่ในสังคมนี้หากมีอยู่สองตัวเลือก ผู้คนย่อมเทคะแนนไปให้พิโดรผู้อ่อนประสบการณ์มากกว่าสุคนธ์หรือรดาผู้มากด้วยความสามารถ และเขาได้รับมันตอนถูกเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าห้องหรือประธานนักเรียนโดยไม่เต็มใจ

ท่ามกลางเสียงปรบมือที่มีให้หลังจากเขากล่าวคำไม่กี่คำเพราะความเบื่อหน่ายจากอากาศร้อนในคิมหันต์ฤดู เขาเห็นผู้ลงสมัครด้านหลังส่งยิ้มมาให้ แต่เขารู้ดีว่าในแววตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียใจแค่ไหน

เรื่องราวในวัยเลขหนึ่งนี้อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กวัยละอ่อน ทว่ามันกลับสะท้อนความจริงที่เด็กเหล่านั้นรวมถึงตัวเขาจะต้องเผชิญออกมาได้อย่างน่ารักน่าชังเสียจนหลายคนชินชาและยอมรับมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ในที่สุด

นอกเหนือไปจากการถูกเลือกปฏิบัติอันไร้ความยุติธรรม มีหลายครั้งที่เขาต้องพยายามเป็นคนอื่นต้องพยายามสวมบทบาทเป็นจุดสูงสุดที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะต้องมีความกล้าหาญ แน่วแน่ และทำทุกอย่างออกมาให้ดี ทว่ามันกลับต้องใช้พลังงานมากกว่าที่ธรรมชาติของตัวเขาจะทำออกมาได้

ความเงื่องหงอยเฉื่อยชา ความรับผิดชอบที่มีเทียบเท่ามาตรฐานของคนธรรมดา ไม่ตอบรับซึ่งค่านิยมอันสุดโต่งนั้น เขาเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หายใจไปวัน ๆ โดยที่มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตของตัวเองมันก็เท่านั้น ไม่ได้ต้องการเกิดมาเพื่อตอบรับค่านิยมบ้า ๆ ของสังคมแบบนี้เสียหน่อย ซึ่งเป้าหมายนี้เป็นมารดาของเขาที่ปลูกฝังมันมา

แม่เองคงโดนคนในสังคมพ่นค่านิยมอันไร้แก่นสารใส่หัวจนก่อเกิดเป็นคำสอนนี้ขึ้นมา ซึ่งมันทำให้เขาที่โตมากับมารดาได้รับอิสระมากกว่าพิโดรคนอื่น ๆ เขาไม่ถูกบังคับให้รับช่วงต่อบริษัทที่พ่อแม่สร้างขึ้นมา ไม่ถูกกดดันให้ต้องเรียนได้อันดับหนึ่ง หรือไม่ต้องไปแข่งกับใครคนอื่น เพราะสิ่งที่มารดากำชับเขามีเพียงสิ่งเดียวคือ ‘จงทำทุกอย่างให้เต็มที่ ให้ตัวเองในอนาคตไม่กลับมาเสียดายทีหลัง’

ด้วยเส้นทางชีวิตและคำสอนนั้นมันจึงทำให้เขาออกมาจากบ้านเพื่อตามหาเป้าหมายในชีวิตจนจับพลัดจับผลูได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเครือ‘เหมบำรุง’ซึ่งกุมธุรกิจและเงินทองเป็นอันดับต้น ๆ ในภาคเหนือของประเทศ เพราะอุดมการณ์ที่คล้ายคลึงกันและการทำงานที่สะท้อนมาซึ่งวิสัยอันสอดคล้องกับที่เป็นอยู่นั้นมันจึงทำให้เขาตัดสินใจส่งจดหมายยื่นใบสมัครจนผ่านเข้ามาในรอบสัมภาษณ์

อาคารขนาดใหญ่สร้างขึ้นด้วยอิฐปูนสีหม่นแปะป้ายเขียน ‘โชติพัฒก่อสร้าง’ ต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้าของอาคาร ให้ร่มเงากับบริเวณทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหินอย่างเรียบง่าย เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วขับขานท่ามกลางสายลมเย็นยามเช้า สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายทว่าแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึมเป็นระเบียบ

เข้ามาในอาคารชั้นสองซึ่งเป็นที่นั่งพักของเหล่าผู้สมัคร เสียงนาฬิกาแขวนบนผนังที่ดังเป็นจังหวะตามเข็มวินาที ผู้สมัครหลายคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เรียงรายทั่วทางเดิน บางคนพลิกอ่านเอกสารในมือ บางคนจับปากกาเขียนบางสิ่งบางอย่างลงบนกระดาษด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เสียงถอนหายใจเป็นครั้งคราวสะท้อนถึงแรงกดดันและความคาดหวัง ในขณะที่เขาซึ่งมาก่อนเวลานัด ๑๐ นาทีแล้วเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่เฉย ๆ โดยไม่กระทำสิ่งใดนอกไปจากการทำสมาธิ

ไม่นานก็มีเสียงของรองเท้าหนังเดินมา ทว่ามันกลับแผ่วเบามากกว่าผู้สมัครส่วนใหญ่ พร้อมกับสีหน้าแววตาของผู้สมัครคนอื่นที่ดูจะแปลกไปจนเขาเองก็สงสัย 

“ผู้สมัครทุกท่านโปรดมาแจ้งชื่อที่โต๊ะลงทะเบียน และรับป้ายหมายเลขด้วยครับ”

เสียงที่เหมือนทุ้มต่ำทว่ากลับหวานล้ำน่าฟังราวเสียงสวรรค์ ท่าทางอันสง่างามภายใต้ร่างกายอันบอบบางของสายพันธุ์หนูตัวเล็กค่อย ๆ เดินอย่างใจเย็นเข้าไปในห้องสัมภาษณ์

ท่ามกลางความวุ่นวายระหว่างกำลังต่อแถวรับป้ายหมายเลขกับเจ้าพนักงานก็มีเสียงซุบซิบนินทาแว่วมาเป็นระยะถึงสรีระรูปร่างของคนที่น่าจะเป็นผู้สัมภาษณ์

‘ตัวเล็กขนาดนั้น เป็นสุคนธ์เหรอ?’

‘ไม่ใช่หรอก ไม่ได้สวมปลอกคอหรือมีรอยกัดนี่’

‘ไม่น่าเชื่อว่าคนสัมภาษณ์จะเป็นหนูตัวแค่นั้น’

‘ใช้เส้นสายขึ้นมาหรือเปล่า’

‘อาจจะเป็นผู้ช่วยก็ได้นะ’

‘ฉันว่าหน้าตาเขาก็ใช้ได้นะ เส้นสายที่ว่าอาจจะ...’

คำพูดเหล่านั้นมันแสลงหูจนเขาหน่ายจะฟัง ดีที่เขาได้รับป้ายหมายเลขมาพอดี และอันดับที่ ๔ ก็นับเป็นตัวเลขที่ดีในการสัมภาษณ์เนื่องจากเขาไม่อยากรอนาน กลับกันก็พอมีเวลาให้ได้หายใจหายคออยู่บ้าง

เขาเองในระหว่างรอสัมภาษณ์ก็มานั่งคิดว่าเพราะเหตุใด ทำไมผู้สมัครคนอื่นจึงได้ซุบซิบนินทาหัวเราะกันอย่างสนุกปาก มันคงเพราะที่นี่คือบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำ ไม่ใช่แค่ในภาคเหนือแต่เป็นระดับประเทศ คนที่สามารถเข้ามาทำงานได้ล้วนเป็นพิโดรร่างสูงใหญ่กันทั้งนั้น จากข่าวลือที่ได้ยิน มีพนักงานน้อยคนนักที่เป็นรดา และแน่นอนว่ามีสุคนธ์เท่ากับศูนย์ ทว่านั่นก็แค่ข่าวลือปากต่อปากไม่อาจพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้สักเท่าไร

ในความคิดเขานั้นยอมรับว่าตกใจในครั้งแรกที่ได้เห็นเช่นกัน กระนั้นเขาก็ไม่ได้มีอคติใด ๆ ซ้ำยังรู้สึกสนอกสนใจเข้าไปใหญ่ ว่าเพราะเหตุใดคนที่มีหูเล็ก ๆ กับหางเรียวกระจ้อยร่อยแบบนั้นจึงสามารถเดินเหินโดยติดป้ายตำแหน่งเลขานุการอยู่บนอกซ้ายได้ ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากตำแหน่งที่ใช่ว่าใครจะเป็นได้ ทั้งใบหน้ากลม ๆ ดวงตาใส ๆ ก็น่ารัก-

“เชิญผู้สมัครหมายเลข ๕ คุณเฉลิมชัย พิสุทธิ์สุขค่ะ”

“ครับ”

เขาไม่คิดว่าการออกนอกเรื่องจะทำให้เวลาเดินผ่านไปเร็วขนาดนี้ ว่าแล้วก็ลุกจากที่นั่งเดินเข้าไปยังห้องสัมภาษณ์แล้วจึงเห็นว่ามีคนตัวเล็กนั่งจับปากกาก้มหน้าจดข้อมูลลงกระดาษอยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาพร้อมส่งยิ้มมารยาทให้พอเป็นพิธี

“เชิญนั่งครับ”

“ขอบคุณครับ”

“รบกวนแนะนำตัว พร้อมเล่าประวัติการทำงานคร่าว ๆ ด้วยครับ”

“ครับ ผมชื่อ…”

ในระหว่างที่ตอบคำถามไปเขาไม่อาจละสายตาไปจากกรรมการสัมภาษณ์ตัวเล็กได้เลย เขานึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งว่าในยามที่นั่งอยู่ด้านนอกและเจ้าตัวเดินผ่าน ส่วนสูงของอีกฝ่ายนั้นยังสูงไม่พ้นศีรษะเขาเลย หากเปรียบเปรยสัดส่วนร่างกายแล้วอีกฝ่ายคงไม่ต่างอะไรจากเด็กประถมปลายหรือม.ต้นเสียด้วยซ้ำ กระนั้นแววตาสีหน้าท่าทางทั้งหมดทั้งมวลกลับสามารถมอบบรรยากาศอันสุขุมเยือกเย็นออกมาไม่แพ้คนตัวสูงใหญ่เลย

“ทำไมถึงเลือกที่นี่เหรอครับ?”

“ผมอยากมาทำงานที่นี่เพราะเห็นว่ามีอุดมการณ์สอดคล้องกัน...”

ยิ่งได้มองยามอีกฝ่ายจดขยุกขยิกยิ่งสนใจ เขาอยากรู้ไปเสียหมดว่าอีกฝ่ายแท้จริงแล้วมีเพศรองเป็นอะไรหรือผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ไหนจะสามารถเมินเฉยต่อคำนินทาและคงไว้ซึ่งความสง่า

“ถ้าคุณเข้ามาทำงานที่นี่ คุณจะมีผมเป็นหัวหน้า ผมเลยอยากทราบน่ะครับ ว่าคุณคิดอย่างไรกับผม?”

เจ้าตัวคงเคยชินกับปฏิกิริยาของผู้สมัครคนอื่นจนเกิดกลายเป็นคำถามตัดสินขึ้นมา เขานึกภาพออกเลยว่าพวกที่เคยพูดจาอวดเก่งอยู่เมื่อกี้คงจะมีหน้าชากันบ้าง

“ผมไม่คิดอะไรครับ”

“ช่วยขยายความเพิ่มเติมด้วยครับ”

“ที่ผมหมายถึงคือ...”

นี่เป็นงานทั่วไป เขาไม่สนใจหรอกว่าจะมีหัวหน้าเป็นรดา สุคนธ์ หรือพิโดรร่างเล็กจิ๋ว เพราะมันต้องมีเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้คนที่ตกเป็นที่ตั้งคำถามจากผู้คนภายนอกแบบนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นถึงเลขานุการและกรรมการสัมภาษณ์ ซึ่งเขาเองก็อยากรู้เส้นทางนั้นเช่นกัน เผื่อว่ามันจะทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาได้บ้าง ดังนั้นเขาจึงหวังว่าคำตอบที่เขาพูดออกไป จะสามารถสื่อสิ่งที่เขาคิดออกไปได้อย่างหมดจด

“หมดคำถามแล้วครับ จะมีการส่งจดหมายประกาศผลการคัดเลือกไปภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ขอบคุณที่สนใจบริษัทของเราครับ”

“ขอบคุณเช่นกันครับ”

ผ่านมาจากวันนั้นสิ้นเดือนก็มีจดหมายตอบรับว่าเขาผ่านการคัดเลือกและสามารถเข้าไปทำงานได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ในตำแหน่งของพนักงานทั่วไปแผนกบริหารทรัพยากรองค์กร ซึ่งนับว่าเป็นตำแหน่งเล็กสุดของบริษัท ทว่าเขาดีใจมากที่จะได้เข้าไปทำงานร่วมกับคนคนนั้นที่สัมภาษณ์เขา

ทว่าเมื่อเข้ามาทำงานผ่านไปหนึ่งเดือนก็แล้ว สามเดือนก็แล้ว ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเลขาตัวเล็กคนนั้นเลย จนเมื่อถามไปถามมาเขาก็ได้รับคำตอบมาจากหัวหน้างานว่า คนที่เขาสนใจนั้นเป็นถึงเลขานุการส่วนบุคคลของคุณภูวธรรศซึ่งนั่งแท่นประธานบริษัทสูงสุด และเจ้าตัวนั้นต่อให้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าทว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับงานเบื้องล่างสักเท่าไรนัก หากไม่มีกิจกรรมประจำปีอย่างการประเมิน หรือกิจกรรมสังสรรค์ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ

แต่เขาก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสเสียทีเดียว เพราะในทุกปีจะมีการคัดคนอีกระลอกเพื่อขึ้นไปทำงานในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อที่จะได้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่ได้เห็นอีกฝ่ายมากขึ้น

ทว่ายิ่งเขาใช้เวลาไปเพื่อเป้าหมายนี้มากเท่าไร จากความรู้สึกนับถือ ก็เริ่มกลายเป็นความปลาบปลื้ม กลายเป็นความสนใจที่ชักจะถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ จนเมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผู้ช่วยทั่วไป มีหลายครั้งที่ได้รับเอกสารคำสั่งและอีกฝ่ายตวัดสายตามามอง คล้ายว่าจะเป็นจังหวะที่ใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยามอีกฝ่ายเดินผ่าน ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างตั้งใจทำงานของตัวเองเขากลับเอาแต่มองจนแผ่นหลังนั้นลับสายตาไป

ใช่ว่าความรู้สึกที่มีให้คนคนนั้นจะมากขึ้นทุกวันเพราะอย่างไรเขาต้องเอาสมาธิส่วนใหญ่ไปใส่กับการทำงานเพื่อเลื่อนขั้น ทว่าในทุกครั้งที่ได้หวนคิดถึงใบหน้ากลมกลึงนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาที่เพิ่มขึ้น จนในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าตัวเองคิดเห็นอย่างไรกับหัวหน้าหนูตัวจิ๋วคนนี้

หลังจากได้เลื่อนขั้นขึ้นมาทำงานใกล้ชิดเบื้องบนจนกลายเป็นผู้ติดตามคอยขับรถไปรับไปส่งคุณเลขานุการตัวเล็ก ในยามกลางคืนที่ความมืดปกคลุมไปทั่วฟ้าพร้อมกับลมหนาวที่พัดผ่านร่างมาเป็นระยะ เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนเกือบสิบคนเดินลงไปตามทางเลียบแม่น้ำข้างสลัมก่อนจะพบเข้ากับกระท่อมเก่าหลังหนึ่งถูกสร้างขึ้นจากไม้ที่ดูเปราะบาง เสียงหรีดหริ่งเรไรขับขานเป็นบทเพลงแห่งความเงียบเหงา ในขณะที่เขาเดินตามหลังเลขานุการตัวเล็กไปอย่างไม่มีข้อสงสัยจนมาหยุดที่หน้ากระท่อมปลายทาง

‘แน่ใจนะว่าใช่ที่นี่’

‘ครับนาย เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วเห็นว่าเดินเข้าไปด้านในแล้วยังไม่ได้ออกมาครับ’

‘ถ้าฉันพังเข้าไป น้องเปลวเขากลัวฉันไหมวะไอ้ม่วง

‘เป็นผม ผมกลัวตั้งแต่มีใครไม่รู้มาเคาะประตูบ้านแล้วครับนาย’

บทสนทนาอันเป็นกันเองระหว่างเจ้านายลูกน้องทำให้เขารู้ว่าทั้งสองมีความสนิทสนมกันมากพอควร

งานที่ได้รับมอบหมายวันนี้คือการติดตามคอยเป็นมือเท้าให้ประธาน ซึ่งช่วงนี้มันแทบจะกลายเป็นงานหลักไปแล้ว

สถานการณ์ต่อจากนั้นมีความฉุกละหุกขึ้นนิดหน่อย แต่เมื่อรับหน้าที่พาลูกแฝดชายหญิงของคุณเปลวไปส่งยังโรงแรมสำเร็จ เขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องทำเป็นพิเศษนอกจากการนั่งเฝ้าหน้าห้องกับหัวหน้าหนูจี๊ดที่มาด้วยกัน

ได้ยินว่าเป็นคนที่คุณภูวธรรศตามหามานาน คงจะเป็นบุคคลสำคัญมากจนถึงขั้นให้เลขานุการส่วนตัวเป็นคนเฝ้าด้วยตัวเองแทนที่จะสั่งลูกน้องคนอื่นมาทำหน้าที่แทน

เฉลิมหมีใหญ่เหลือบมองหัวหน้าร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ของโรงแรมด้วยความใคร่รู้ จากการทำงานด้วยกันมามีอีกเรื่องน่าทึ่งที่เขาทราบมาจากรุ่นพี่ที่ทำงานมานาน เห็นว่าเจ้าตัวเคยมีประวัติเป็นสุคนธ์มาก่อนจะได้รับผลตรวจอีกครั้งว่าเป็นรดา ทว่าอย่างไรมันก็น่าแปลกใจอยู่ดี

ไหนจะรูปร่างภายนอกอันบอบบางตัวเล็ก ยิ่งมานั่งข้างกันยิ่งเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างในสรีระ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ฝ่ามือ เรียวนิ้ว หรือแม้แต่รอยสักยันต์ที่โผล่พ้นคอปกเสื้อขึ้นมา ทุกอย่างล้วนเล็กจิ๋วไปเสียหมดจนเหมือนตุ๊กตาเดินได้ที่สมควรได้รับการดูแลมากกว่าการต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ ช่างน่าแปลกใจเหลือเกินที่คนตัวเล็กแบบนี้จะทำงานที่ต้องการความอดทนและความละเอียดสูงได้นานหลายชั่วโมงติดต่อกัน ในขณะที่เขาได้ยินลูกน้องบางคนทำงานไปได้ไม่เท่าไรก็บ่นอิดออด พี่หนูช่างน่านับถือเสียจริง

“ถ้าเอ็งง่วงก็ไปเปิดห้องนอนก็ได้นะ ฉันเฝ้าคนเดียวได้”

“ไม่เป็นไร”

หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือมีผู้ปองร้าย เขาจะได้ช่วยเหลือทัน เพราะร่างกายเท่าฝ่ามือแบบนี้คงไม่อาจต่อสู้ได้ถนัดถนี่นัก ดังนั้นเขาจะอยู่ด้วยจนงานเสร็จ นอกจากนี้เขาเชื่อว่าคุณธรรศน่าจะให้เวลาพักผ่อนแก่พวกเขาทดแทนแน่นอน

“เอ็งนี่ก็แปลกคน บอกให้พักไม่พัก”

หัวหน้าหนูบ่นอิดออด วางหนังสือพิมพ์มาเท้าคางมองเจ้าหมีตัวใหญ่ที่เอาแต่ทำหน้าตายไร้อารมณ์จนม่วงเดาใจไม่ออก

โดยเฉลิมที่ถูกสายตากลมจ้องมองด้วยความสงสัยจึงผินใบหน้าเล็กน้อยลงไปสบสายตาอย่างเรียบนิ่งโดยไม่พูดอะไร เนื่องจากในตอนนี้เขาตื่นเต้นจนหัวใจจะวาย!

เขารู้แล้วว่าตัวเองชอบหัวหน้าคนนี้ ชอบพอรักใคร่มาตลอดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้ารวมไปถึงการได้ยินเรื่องราวที่คนนำมาเล่าสู่กันฟัง และที่นั่งนิ่งอยู่แบบนี้นั้นไม่ใช่เพราะอะไรแต่เพราะเขาเกร็งอยู่ต่างหากเล่า! นอกจากจะมีร่างกายอ้อนแอ้นน่ารักแล้ว ยังทำตัวน่ารักอีก นี่กะจะไม่เผื่อแผ่แบ่งปันคำว่าน่ารักให้คนอื่นบนโลกสักหน่อยหรือไรกัน

“เห็นว่าตรงหัวมุมโรงแรมมีซุ้มขายขนมเครื่องดื่มด้วย เอ็งจะเอาอะไรไหม? เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”

“อือ”

“ตอบแต่อือ ๆ แล้วฉันจะตรัสรู้เหรอไอ้เฉลิม”

“กาแฟนม”

“อื้อ! แค่นี้เอง”

โอ้...คุณพระคุณเจ้า ขนาดดุยังน่ารัก ยิ่งตอนชมยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ นี่เจ้าตัวจะรู้ไหมว่ามีคนชอบพอตัวเองอยู่ ซึ่งไม่ใช่มีแค่เขา แต่รวมไปถึงลูกน้องคนอื่นที่ต้องการชิงตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวซึ่งได้ยินว่าจะเริ่มคัดเร็ว ๆ นี้ หลายคนจึงพยายามตั้งใจทำงานในส่วนของตัวเองอย่างเต็มที่

“สั่งเหมือนเดิมทุกครั้งไม่เบื่อบ้างเหรอ?”

“ไม่”

“แล้วก็นี่ ขนมปังสอดไส้ ฉันกินไม่หมดกล่องหรอกดังนั้นช่วยฉันกินด้วยก็ดี”

“อือ”

ครับ น่ารักจนพูดไม่ออกเลยครับ เพราะใจดีแบบนี้อย่างไรเล่าลูกน้องถึงได้หลงกันจนโงหัวไม่ขึ้น ดังนั้นแล้วเขาจะต้องคว้าตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวของคุณเลขานุการมาให้จงได้

Palawakin
Susunod na Kabanata
I-download

Pinakabagong kabanata

Higit pang Kabanata

Mga Comments

Walang Komento
44 Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status