“ยัยเกลมาได้ไง ไหนว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง”เจนหันไปกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ
“เลื่อนไฟล์ทน่ะ ก็เลยมาเซอร์ไพร์ส คิดถึงแกมากๆเลย” “คิดถึงเหมือนกัน ไปหาที่นั่งในสวนกัน เดี๋ยวทำของอร่อยไปให้ทาน” ร้านเบอเกอรี่ของเจนเป็นร้านที่ร่มรื่นมากบรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา “เจนแล้วตอนนี้แกพักที่ไหน” “นี่ไงบ้านชั้น”เจนชี้ไปที่บ้านสีขาวที่อยู่ติดกับร้าน “บ้านน่ารักจัง เดี๋ยววันหลังแวะมาเล่นด้วยบ่อยๆ” “ว่าแต่แกเถอะไปอยู่ที่บ้านพี่เค้าเป็นไงบ้าง พี่เขาน่ากลัวรึป่าว” “แกก็พูดไปเรื่อยคนนะไม่ใช่ผี ชั้นว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลย” “ยังไงไหนเล่าซิ” “ก็ตอนแรกที่ชั้นเล่าให้แกฟังว่าเค้าดูไม่น่าคบ ใจร้าย เอาแต่ใจ แต่พอเจอกันจริงๆก็ไม่เป็นแบบนั้นนะ ไม่รู้สิอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก” “แกคงไม่ได้ตกหลุมรักเค้าแล้วนะ”เจนแซวเพื่อน เกวลินตีแขนเพื่อนรักเบาๆ “บ้า!!! พึ่งเจอกันได้สามวันเอง ชั้นใจง่ายขนาดนั้นหรอ อีกอย่างที่มาก็เพื่อให้แม่กับคุณป้าแอนนาสบายใจแค่นั้น อย่างอื่นไม่ได้คิด” “ชั้นจะคอยดู หนุ่มหล่อสาวสวยอยู่บ้านหลังเดียวกัน เดี๋ยวผีก็ผลักเข้าสักวัน แต่แกระวังไว้หน่อยนะ ในข่าวเขาควงสาวไม่ซ้ำหน้าดูเจ้าชู้ไม่เบา แต่ช่วงนี้เห็นควงนางแบบชื่อนิต้าออกงานบ่อยๆ ไม่รู้คนนี้จริงจังรึป่าว แกอยู่บ้านเค้าไม่มีอะไรผิดสังเกตเลยหรอ” “ไม่นะ ปกติดี ไม่ต้องไปสนใจเรื่องคนอื่นหรอก สนใจเรื่องของเราดีกว่า”เกวลินทำทีเป็นไม่สนใจแต่แอบเก็บข้อมูลอยู่ ที่ผ่านมาที่เธอรู้ความเคลื่อนไหวของเอริคเพราะมีเหยี่ยวข่าวสาวอย่างเจนเป็นคนส่งข้อมูลให้อ่านอยู่เสมอ “แล้วแกกะว่าจะมาอยู่ยาวเลยมั้ย หรือมาอยู่แค่หกเดือนแล้วก็กลับ” “ยังไม่แน่ใจเลย เดี๋ยวค่อยดูอีกที แต่อยู่ที่ไหนชั้นก็คุยกับแกได้ตลอดแหละ” “งือ คิดถึงวันนี้เดี๋ยวชั้นเลี้ยงต้อนรับแกดีกว่า เราไปกินข้าวเย็นแล้วสังสรรค์กันซักหน่อยดีมั้ย คืนนี้ชั้นเป็นเจ้ามือไม่เมาไม่เลิก แต่ตอนนี้แกต้องไปเป็นลูกมือช่วยชั้นทำงานก่อน โอเค๊” “ได้ค่ะ คุณเจนจะให้เกลทำอะไรสั่งมาได้เลยค่ะ”สองเพื่อนรักหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ส่วนเอริควันนี้ทั้งวันก็ไม่เป็นอันทำการทำงานมองโทรศัพท์ตลอดเวลาจนเจมส์สังเกตได้ “นายมีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ” “ไม่มี”เขาตอบเสียงห้วนๆ “แต่ผมเห็นนายมองโทรศัพท์ทั้งวัน มีเรื่องอะไรบอกผมได้นะครับ” “….”เอริคไม่ตอบผู้ช่วย “นายครับผมลืมบอกไป เย็นนี้คุณนิต้าชวนไปทานข้าวเย็น นายให้ผมนัดเวลากับเธอได้เลยมั้ยครับ” “ไม่ไปจะรีบกลับบ้าน” เจมส์เดินออกมาจากห้องเจ้านายแล้วบ่นพึมพำคนเดียวว่าวันนี้เจ้านายของเขาดูแปลกไป จนเกตุเลขาหน้าห้องเห็นเขาพูดคนเดียวจึงทักขึ้น “น้องเจมส์เป็นอะไร โดนนายดุมาหรอ” “ป่าวครับพี่เกตุ ผมแค่รู้สึกว่าวันนี้นายไม่ปกติ” “ยังไงคะ ที่ว่าไม่ปกติ” “มองโทรศัพท์ตลอดเวลา ดูใจลอยๆ เมื่อกี้ผมบอกว่าคุณนิต้าชวนไปทานข้าวเย็นนายก็บอกไม่ไป จะกลับบ้าน” “พี่ก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ”เลขาท้องแก่ค่อยๆลุกขึ้นมากระซิบกับผู้ช่วยหนุ่ม “ใช่มั้ยครับ ผมไม่ได้คิดไปเองคนเดียวจริงๆด้วย” เอริคเมื่อไล่ลูกน้องไปแล้ว ก็นั่งทำงานต่อสักพักเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาจนถึงห้าโมงครึ่งแล้ว จึงกดโทรศัพท์ส่งไลน์ไปหา เกวลิน “กลับบ้านยัง” “ยังค่ะวันนี้เกลกลับดึกหน่อยนะคะ จะไปทานข้าวกับเพื่อน” “ที่ไหน” “ยังไม่รู้เลยค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะเพื่อนเรียกแล้ว” เวลาล่วงเลยมาจนสามทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าเกวลินจะกลับบ้าน เอริคที่นั่งรอตั้งแต่เย็นเริ่มหมดความอดทนไลน์ไปหาเธออีกรอบ เขาคิดในใจว่าอุตส่าห์รีบกลับบ้านมาทานข้าวด้วยแต่กลับหนีไปทานกับคนอื่น “เกลอยู่ไหน” “ร้าน AB ค่ะ” “ใกล้กลับยัง” “อีกพักนึงค่ะ” เขาอ่านข้อความเธอแล้วไม่ตอบ แต่รีบขับรถออกจากบ้านทันที ร้าน AB เป็นร้านอาหารกึ่งผับ เขาได้แต่นึกโมโหเธอในใจ เป็นผู้หญิงสองคนทำไมกล้ามาที่ร้านแบบนี้ ระหว่างทางเขาโทรบอกให้เจมส์ออกมาพบเขาที่ร้านนี้ด้วย “นายนี่ก็แปลกคน สาวๆชวนไปไม่ไป อยู่ดีๆชวนเราออกมาดื่ม”เจมส์บ่นหลังจากเขามาถึงและนังรอเจ้านายอยู่ในร้าน เพราะจากคอนโดของเจมส์อยู่ใกล้ร้านมากกว่าเขาจึงใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า “นายทางนี้ครับ”เขาโบกมือเรียกผู้เป็นนาย “นายอยากทานอะไรครับ” “สั่งเลย เต็มที่วันนี้เลี้ยง”เขาบอกลูกน้องแต่สายตากลับมองหาเกวลิน จนไปสะดุดตากับหญิงสาวสองคนโต๊ะมุมด้านในสุดของร้าน ที่ตอนนี้มีหนุ่มๆแวะมาทักทายขอชนแก้วด้วยไม่ขาดสาย เกวลินเองแม้จะดูเป็นคนสนุก สดใสแต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัว และไม่ค่อยชอบคุยกับคนไม่รู้จักสักเท่าไหร่ ผิดกับเจนที่ดูจะพูดคุยได้กับทุกคน เธอรู้ว่าเพื่อนไม่ชอบคนมาเกาะแกะ หากใครเข้ามาเธอก็จะเป็นคนรับหน้าแทน “เสน่ห์แรงจริงนะยัยเกล ชั้นออกหน้ารับแทนจนเหนื่อยแล้วเนี่ย”เจนบ่นเพื่อน “แล้วใครให้แกพามาร้านแบบนี้กันล่ะ” “ก็ชั้นอยากดื่มต้อนรับนี่นา นานๆดื่มทีไม่เป็นไรหรอก มาชนแก้วๆ” “เรากลับกันดีกว่ามั้ยเริ่มเมาแล้ว”เกวลินชวนเพื่อนกลับหลังรู้สึกมึนๆหัว “ดื่มต่ออีกนิดนะเพลงกำลังสนุกเลย แป๊บเดียวเดี๋ยวพากลับ” เอริคแอบมองหญิงสาวทั้งคู่เป็นระยะเพื่อเช็คว่าพวกเธอยังโอเคอยู่มั้ย เขานั่งกระดกเหล้าไม่ยอมพูดยอมจา จนเจมส์เองก็งงว่านายเขาไปกินรังแตนที่ไหนมา เอริคหันไปเห็นชายคนหนึ่งเรียกเด็กเสิร์ฟที่กำลังนำค็อกเทลไปเสิร์ฟที่โต๊ะของเกวลินมาพูดคุยและแอบใส่ผงบางอย่างลงไปในแก้ว เห็นเพียงเท่านั้นเอริคก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังจะทำเรื่องไม่ดีกับหญิงสาวทั้งคู่แน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้ลุกไปห้ามพวกเธอไม่ให้ดื่มแต่อย่างใด เอริคเฝ้ามองอาการของทั้งคู่เป็นระยะ จนเป็นเกวลินเองที่รู้สึกไม่ไหวจึงชวนเพื่อนรักกลับ “หึ กว่าจะรู้ตัวว่าต้องกลับ”เอริคพึมพำ “นายว่าไงนะครับ ไปเช็คบิลส่งคนกลับบ้าน” “ส่งใครครับนาย เรามากันสองคน”เจมส์รีบลุกขึ้นเดินตามเจ้านายออกมาด้วยความงงชายหนุ่มคนที่วางยาสองสาวเมื่อเห็นพวกเธอลุกออกจากโต๊ะก็ชวนเพื่อนเดินตามพวกเธอมาไม่ห่าง “ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะคนสวย ดูท่าจะกลับเองไม่ไหวแล้ว”เขาเดินมาหาสองสาวที่ตอนนี้เริ่มมึนหัวจากฤทธิ์ยา ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปประคองสองสาวก็มีมือของเอริคและเจมส์ผลักพวกเขาออกทันที ก่อนจะเข้าไปประคองพวกเธอไว้แทน เอริคดึงเกวลินเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนเจมส์ก็ทำหน้าที่ประคองเจนไว้แบบงงๆ“พวกมึงเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไม”“ผัวเมียหรอ กูคู่หมั้นเธอโว้ย ส่วนมึงจะให้กูแจ้งตำรวจข้อหาวางยามั้ย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้น…”สิ้นคำพูดของเอริคการ์ดของร้านก็เดินตรงเข้ามาหาคนที่วางยาเกวลิน “ทางนี้ฝากด้วย”เขาหันไปบอกการ์ดอีกครั้ง“ครับคุณเอริค”“พี่เอริค เกลมึนหัว”“สมควร!!!”“นายครับผู้หญิงคนนี้ผมต้องไปส่งที่ไหน”“เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้ในกระเป๋าน่าจะมีกุญแจบ้านอยู่ ถ้าไม่มีก็นอนบ้านนายไปก่อน”“เอ่อ นาย นายครับ เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยต้องมาดูแลคนไม่รู้จักกันเนี่ย คุณครับไปขึ้นรถผมพาไปส่งบ้าน”ทางด้านของเกวลินตอนนี้แทบเดินไม่ไหวมีแต่บ่นว่ามึนหัว จนเอริคทนไม่ไหวอุ้มร่างบางขึ้นรีบเดินกลับร
เจนเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ต้องแปลกใจที่ตัวเองมานอนอยู่ที่บ้าน และที่สำคัญเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย เธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เพียงเลือนลางเท่านั้น พยายามนึกทบทวนและเดินลงมาหาน้ำดื่ม หางตาก็ไปสะดุดกับชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนโซฟาบ้านตน “อ๊าย แกเป็นใครเข้ามาในบ้านชั้นได้ยังไง”เจมส์สะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องของหญิงสาว ก่อนจะรีบอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง“ผมเป็นผู้ช่วยคุณเอริค ที่พาคุณมาส่งบ้านเมื่อคืนไงครับ คุณพอจะจำได้มั้ย”เจนพยายามนึกภาพตามก็เห็นว่าเป็นความจริงตามที่เขาพูด “แล้วทำไมเสื้อผ้าชั้นถึงได้….”“เมื่อคืนคุณอ้วกผมก็เลยจำเป็นต้องเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้”“อีตาบ้า!! นายฉวยโอกาสหรอ”“ป่าวนะครับตอนเปลี่ยนผมก็ไม่ได้มอง หรือจะให้ผมปล่อยให้คุณนอนจมกองอ้วกแบบนั้น ก็เลยต้องอยู่รออธิบายให้คุณฟังนี่ไงครับ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”เจมส์บ่น“แล้วชั้นจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ล่วงเกินชั้น”“แล้วคุณเจ็บปวดตรงไหนมั้ยล่ะครับ ถ้าไม่มั่นใจไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยก็ได้”เขาพูดพลางจะดึงแขนเธอให้ไปด้วยกัน“ไม่ต้อง ชั้นจะลองเชื่อคุณดูซักครั้ง ยังไงก็ขอบคุณคุณด้วยแล้วกันที่มาส
วันนี้เป็นวันจันทร์และเป็นวันแรกที่เกวลินต้องไปทำงานในฐานะเลขาของเอริค เธอตื่นเต้นและประหม่าพอสมควร หลังแต่งตัวเสร็จเธอเดินมาคุยกับตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง“สู้ๆยัยเกล แกมันคนเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”วันนี้เกวลินแต่งตัวนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ตรวจเช็คความเรียบร้อยจึงไม่ได้ลงมาทำข้าวเช้าให้ เอริคทาน เมื่อเช็คความเรียบร้อยทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมจนมั่นใจแล้ว เธอจึงรีบลงมาข้างล่างก็เห็นเอริคนั่งรอที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เกวลินมาในลุคชุดสูทแขนยาวกระโปรงสั้น สไตล์เกาหลี ดูเรียบหรูและน่ารักในคราวเดียวกัน เอริคที่นั่งรออยู่ถึงตะลึงในความสวยของหญิงสาวไปพักใหญ่ เขาคิดในใจว่าบทจะแต่งตัวเป็นทางการก็ดูดีไม่เบา“พี่เอริคไปกันได้รึยังคะ”“ไปสิ”เขาตอบกลับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ภายในใจตื่นเต้นไม้แพ้เกวลินเลย“วันนี้เกลขอโทษนะคะ ไม่ได้ลงมาทำอาหารเช้าให้ทานเลย ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ”“ตื่นเต้นทำไม แค่มาทำงาน”“ก็เกลตื่นเต้นนี่คะ”“กลัวทำไม่ได้”เขาเลิกคิ้วถามเธอ“ป่าวซักหน่อย คนอย่างเกวลินไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”“ดี จะคอยดู ถ้าไม่ไหวก็บอกจะได้ส่งกลับบ้าน”“ไม่มีทาง”เธอตอบเขาด้วยน้ำเ
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เอริคเกลเข้าไปได้มั้ยคะ”“อืม”เอริคตอบรับสั้นๆ“เราจะกลับบ้านกันตอนไหนหรอคะ”“รีบ?”เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปหาเธอ“ป่าวค่ะ แค่เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว”เธอตอบเขาเสียงอ่อย“ขอเคลียร์งานก่อน ถ้าหิวขนมอยู่ตรงนั้นทานได้”เขาบอกเธอก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อเกวลินนั่งมองเขาพลางคิดถึงคำพูดของป้าแอนนาที่บอกว่าเอริคเป็นคนบ้างานมากจนบางทีลืมกินข้าว จนทำให้เป็นโรคกระเพราะ แต่ท่าทางจริงจังของเขาก็ทำให้เธอเผลอมองอยู่นาน เพราะเธอรู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ดูมีเสน่ห์มากบวกกับความหล่อของเขายิ่งชวนหลงใหล“บ้าจริง ยัยเกลคิดอะไรของแก”เกวลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง ก่อนจะนั่งเล่นมือถือรอเขาจนเผลอหลับไปเอริคเคลียร์งานเสร็จเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาจวนจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนเกวลินกลับบ้าน“เกลกลับได้แล้ว”เขาเรียกเธอมือก็เก็บเอกสารไปด้วย โดยไม่ได้มองหญิงสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงหันไปมองพบว่าเธอหลับอยู่ เอริคเดินไปนั่งตรงหน้าเธอและมองใบหน้าสวยละมุนของเธอ“ยัยลูกเป็ดขี้เหร่โตมาสวยได้ขนาดนี้เลยหรอ”เขาพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เกวลินลืมตาตื่นขึ้นม
“พี่เอริควันนี้หลังเลิกงานเกลจะไปเยี่ยมพี่เกตุนะคะ”“ไปสิพี่ไปด้วย”หลังเลิกงานทั้งคู่ไปเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนก่อนเดินทางไปเยี่ยมเกตุที่โรงพยาบาล“คุณลูกค้าต้องการของใช้แบบไหนคะ”พนักงานขายเดินมาถามทั้งคู่เพราะเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของพวกเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่“ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ เด็กต้องใช้อะไรบ้างเอามาให้หมดเลยค่ะ”เกวลินตอบพนักงานสาว“เป็นพ่อแม่มือใหม่สินะคะ น่ารักจังเลยนะคะมาช่วยกันเลือกของให้ลูกด้วย”พนักงานสาวพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่นะคะ คือซื้อไปให้หลายค่ะ”เกวลินรีบปฏิเสธทันที ผิดกับเอริคที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา…โรงพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย…“น่ารักน่าชังจังเลยเจ้าตัวเล็ก”เกวลินหมั่นเขี้ยวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกตัวเอง“พี่เอริคอยากลองอุ้มมั้ยคะ”“อุ้มไม่เป็น”“มาเกลช่วย”เธอพาเจ้าตัวเล็กเดินไปหาเอริคที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวโตจะทำสีหน้าดุเธอแค่ไหน“เกล ไม่เอา”เขาปฏิเสธหญิงสาวแต่มือก็ยื่นไปรับลูกชายของเกตุและทำตามคำบอกของเกวลิน อย่างว่าง่าย จนคนอื่นๆหลุดขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเขา เขามองเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน ในหัวพลันคิดว่าถ้าเป็นลูกของเขากับคนท
เกวลินพอเจอฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพลงที่ชอบก็เต้นอย่างสนุก จนเอริคที่ยืนอยู่ข้างๆเกิดอาการหวง ขยับเข้าไปโอบเอวเธอไว้ เกวลินที่สติเหลืออยู่แทบไม่ถึงครึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังยกแขนมาคล้องคอเขาให้เต้นไปด้วยกัน กลับกลายเป็นเอริคเองที่ตกใจกับการกระทำของเธอแทน“เกลทำอะไร”เขากระซิบข้างหูเธอ“ชวนพี่เต้น”“เกลเอามือออกยืนเต้นดีๆ”“ก็เกลอยากเห็นพี่เต้นนี่คะ”“ไม่เต้น หันไปเต้นดีๆ ถ้าไม่ปล่อยพี่พากลับแล้วนะ”“ไม่กลับ กำลังสนุก”“งั้นก็หันกลับไปเต้นดีๆ อย่าดื้อ”“โอเคๆ เต้นกับคนแก่ไม่สนุกละ”เธอบ่นเขา“เกล เดี๋ยวจะโดน”เธอไม่สนใจคำพูดเขาซักนิดหันกลับไปเต้นต่ออย่างสนุก ปล่อยให้เอริคยืนใจเต้นรัวข้างๆเธอ เกวลินไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย คงเป็นเพราะสบายใจ อุ่นใจและเชื่อใจที่เป็นเขาถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้“ยัยเด็กแสบใครใช้ให้มาเต้นยั่วแบบนี้”เขาบ่นพึมพำเบาๆ เพราะการกระทำของเธอทำให้เขาคลั่งแทบอยากจะพาเธอกลับไปจัดการที่ห้องตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนข่มใจให้เย็นลง“พี่เอริค…เกล…มึนหัว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มหลังจากดื่มไปหลายแก้วจนเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ใครให้ดื่มเยอะขนาดนี้ กลั
“ปวดหัวจัง”เกวลินบ่นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า“เอ๊ะ ไม่ใช่หมอนข้าง”เธอเอามือลูบคลำไปทั่วแผงอกแกร่งของเอริค และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ หมอนที่เธอกอดทั้งคืนคือตัวเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินทำตัวไม่ถูกจะมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม“จะหลบไปไหน ยัยตัวแสบ”เอริคที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอดิ้นยุกยิกเรียกให้หยุด เกวลินยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมรอยยิ้มแห้ง“เมื่อคืนเราไม่ได้…เอ่อ…มีอะไรกันใช่มั้ยคะ”“ไม่มี”“เฮ้อ ค่อยยังชั่วนึกว่าเมาแล้วเผลอ…”“แค่จูบ”เขาตอบเธอเสียงนิ่ง“ห๊ะ!!!อะไรนะคะ อีกแล้วหรอเนี่ยยัยเกล ไม่น่าดื่มเยอะเลย”เธอบ่นตัวเอง“อีกแล้ว”เขาเลิกคิ้วถามเธอด้วยความสงสัย“กับใคร”“ไอ้พี่เอริคบ้า”เธอทุบไปที่อกแกร่งของเขา“จะใครล่ะที่ขโมยจูบแรกของเกลไป อุตส่าห์เก็บรักษามาตั้งนาน”“คืนนั้นรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“เอ่อ..จำได้ลางๆค่ะ”“แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ”“รับผิดชอบอะไรคะ เกลเป็นผู้หญิงเกลเสียหายนะ พี่ต้องรับผิดชอบเกลสิถึงจะถูก”“ใครเริ่มก่อนจำได้มั้ย”เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทำทีจะจูบเธอเพื่อระลึกความหลัง“พอแล้วค่ะ เกลจำได้”“งั้น วันนี้ก็รับผิดชอบ”“ให้รับผิดชอบอะไร”“พาเที่
เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก“โห สวยมาก”เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น“แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน“พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง“สวยมั้ยคะ”“อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว“คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว”“ได้”“เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า”“มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจ
“ว๊าย ไอ้พี่เอริคบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไหนบอกจะไม่ทำอะไรไง”เกวลินโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมอกเขา“เกลเสียงดังอะไรแต่เช้า พี่ยังง่วงอยู่เลย”“ไม่ต้องนอนแล้ว นี่หมายความว่าไงพี่แอบเอาหมอนออกตอนเกลหลับหรอ”เอริคลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้มองเขาตาเขียวปั๊ด “คิดดีๆว่าใครเป็นคนถีบหมอนลงไปข้างล่าง”“พี่จะหาว่าเกลเป็นคนทำหรอ”“อือ…ฮึ”“ไอ้คนเห็นแก่ตัว”เธอทุบที่อกเขารัวๆ“เกลพี่เจ็บ”เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้เพื่อให้เธอหยุดทุบเขา“หันมองข้างๆสิว่าใครเป็นคนขยับหาใคร” เกวลินมองไปรอบๆเตียงก็พบว่าตัวเองเป็นฝ่ายข้ามฝั่งมาหาเอริคเอง จึงได้แต่ถอนหายใจให้กับความโก๊ะของตัวเอง “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยด้วย แค่กอด เกลก็นอนกอดพี่ทั้งคืนเหมือนกันพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”เกวลินหน้าแดงด้วยความเขิน ไม่รู้จะทำตัวยังไงจึงรีบลุกขึ้นไปสูดอากาศที่ระเบียง“ไม่คุยด้วยแล้วไปดีกว่า”“ยัยบ๊องเอ๊ย น่ารักชิบ”เอริคยิ้มให้กับความโก๊ะของเธอ ก่อนจะเดินตามเกวลินออกไปสูดอากาศข้างนอก เขาเดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลังและเอาคางเกยไหล่เธอไว้“สดชื่นจัง หอมมากด้วย”เขามองวิวด้านนอกสลับ
เอริคและเกวลินแวะเที่ยวอีกหลายที่ ก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงแรมที่แอนนาแม่ของเอริคจองไว้ให้ในช่วงเย็น โรงแรมแห่งนี้บรรยากาศดีมากรายล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวชะอุ่ม สบายตาไปหมด ที่พักแห่งนี้เป็นวิลล่าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีห้องพักอยู่ไม่มากนัก แต่ละห้องมีความเป็นส่วนตัวมาก“โห สวยมาก”เกวลินถึงกับพูดออกมาด้วยความตื่นตาตื่นใจ ห้องพักมีขนาดใหญ่มาก วิวดีมองออกไปข้างนอกเห็นภูเขาเขียวชะอุ่ม ระเบียงห้องใหญ่มากและยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กท่ามกลางธรรมชาติอีกด้วย เกวลินมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศจนลืมคิดไปว่าห้องนี้มีเพียงหนึ่งห้องนอนเท่านั้น“แม่นะแม่ร้ายจริงๆ”เอริคพึมพำเมื่อเดินสำรวจรอบห้องแล้วพบว่าบรรยากาศเหมาะสำหรับให้คู่รักมาพักผ่อนกัน“พี่เอริคดูสิคะข้างนอกสวยมากเลย”เกวลินดึงแขนชายหนุ่มให้ออกไปดูวิวตรงระเบียง“สวยมั้ยคะ”“อืม สวย สวยมาก”เอริคตอบเธอโดยไม่ได้มองวิวเลยแม้แต่น้อย แต่สายตากลับจ้องมาที่เกวลิน อย่างเดียว“คืนนี้เราสั่งอาหารมาทานที่ห้องนะคะเกลไม่อยากออกไปไหนแล้ว”“ได้”“เกลไปเดินดูข้างในก่อนดีกว่า”“มีเตียงเดียวอีกแล้ว คุณป้านะคุณป้า”เธอบ่นพึมพำเมื่อเดินมาถึงห้องนอน เกวลินใจ
“ปวดหัวจัง”เกวลินบ่นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า“เอ๊ะ ไม่ใช่หมอนข้าง”เธอเอามือลูบคลำไปทั่วแผงอกแกร่งของเอริค และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ หมอนที่เธอกอดทั้งคืนคือตัวเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินทำตัวไม่ถูกจะมุดตัวลงไปใต้ผ้าห่ม“จะหลบไปไหน ยัยตัวแสบ”เอริคที่รู้สึกตัวตั้งแต่เธอดิ้นยุกยิกเรียกให้หยุด เกวลินยื่นหน้าออกมาจากผ้าห่มพร้อมรอยยิ้มแห้ง“เมื่อคืนเราไม่ได้…เอ่อ…มีอะไรกันใช่มั้ยคะ”“ไม่มี”“เฮ้อ ค่อยยังชั่วนึกว่าเมาแล้วเผลอ…”“แค่จูบ”เขาตอบเธอเสียงนิ่ง“ห๊ะ!!!อะไรนะคะ อีกแล้วหรอเนี่ยยัยเกล ไม่น่าดื่มเยอะเลย”เธอบ่นตัวเอง“อีกแล้ว”เขาเลิกคิ้วถามเธอด้วยความสงสัย“กับใคร”“ไอ้พี่เอริคบ้า”เธอทุบไปที่อกแกร่งของเขา“จะใครล่ะที่ขโมยจูบแรกของเกลไป อุตส่าห์เก็บรักษามาตั้งนาน”“คืนนั้นรู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“เอ่อ..จำได้ลางๆค่ะ”“แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ”“รับผิดชอบอะไรคะ เกลเป็นผู้หญิงเกลเสียหายนะ พี่ต้องรับผิดชอบเกลสิถึงจะถูก”“ใครเริ่มก่อนจำได้มั้ย”เขาถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทำทีจะจูบเธอเพื่อระลึกความหลัง“พอแล้วค่ะ เกลจำได้”“งั้น วันนี้ก็รับผิดชอบ”“ให้รับผิดชอบอะไร”“พาเที่
เกวลินพอเจอฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพลงที่ชอบก็เต้นอย่างสนุก จนเอริคที่ยืนอยู่ข้างๆเกิดอาการหวง ขยับเข้าไปโอบเอวเธอไว้ เกวลินที่สติเหลืออยู่แทบไม่ถึงครึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบเอวก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังยกแขนมาคล้องคอเขาให้เต้นไปด้วยกัน กลับกลายเป็นเอริคเองที่ตกใจกับการกระทำของเธอแทน“เกลทำอะไร”เขากระซิบข้างหูเธอ“ชวนพี่เต้น”“เกลเอามือออกยืนเต้นดีๆ”“ก็เกลอยากเห็นพี่เต้นนี่คะ”“ไม่เต้น หันไปเต้นดีๆ ถ้าไม่ปล่อยพี่พากลับแล้วนะ”“ไม่กลับ กำลังสนุก”“งั้นก็หันกลับไปเต้นดีๆ อย่าดื้อ”“โอเคๆ เต้นกับคนแก่ไม่สนุกละ”เธอบ่นเขา“เกล เดี๋ยวจะโดน”เธอไม่สนใจคำพูดเขาซักนิดหันกลับไปเต้นต่ออย่างสนุก ปล่อยให้เอริคยืนใจเต้นรัวข้างๆเธอ เกวลินไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย คงเป็นเพราะสบายใจ อุ่นใจและเชื่อใจที่เป็นเขาถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้“ยัยเด็กแสบใครใช้ให้มาเต้นยั่วแบบนี้”เขาบ่นพึมพำเบาๆ เพราะการกระทำของเธอทำให้เขาคลั่งแทบอยากจะพาเธอกลับไปจัดการที่ห้องตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนข่มใจให้เย็นลง“พี่เอริค…เกล…มึนหัว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มหลังจากดื่มไปหลายแก้วจนเริ่มทรงตัวไม่อยู่“ใครให้ดื่มเยอะขนาดนี้ กลั
“พี่เอริควันนี้หลังเลิกงานเกลจะไปเยี่ยมพี่เกตุนะคะ”“ไปสิพี่ไปด้วย”หลังเลิกงานทั้งคู่ไปเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนก่อนเดินทางไปเยี่ยมเกตุที่โรงพยาบาล“คุณลูกค้าต้องการของใช้แบบไหนคะ”พนักงานขายเดินมาถามทั้งคู่เพราะเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของพวกเขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่มือใหม่“ของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ เด็กต้องใช้อะไรบ้างเอามาให้หมดเลยค่ะ”เกวลินตอบพนักงานสาว“เป็นพ่อแม่มือใหม่สินะคะ น่ารักจังเลยนะคะมาช่วยกันเลือกของให้ลูกด้วย”พนักงานสาวพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม“ไม่ใช่นะคะ คือซื้อไปให้หลายค่ะ”เกวลินรีบปฏิเสธทันที ผิดกับเอริคที่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา…โรงพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย…“น่ารักน่าชังจังเลยเจ้าตัวเล็ก”เกวลินหมั่นเขี้ยวเจ้าตัวน้อยในอ้อมอกตัวเอง“พี่เอริคอยากลองอุ้มมั้ยคะ”“อุ้มไม่เป็น”“มาเกลช่วย”เธอพาเจ้าตัวเล็กเดินไปหาเอริคที่นั่งอยู่บนโซฟา โดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวโตจะทำสีหน้าดุเธอแค่ไหน“เกล ไม่เอา”เขาปฏิเสธหญิงสาวแต่มือก็ยื่นไปรับลูกชายของเกตุและทำตามคำบอกของเกวลิน อย่างว่าง่าย จนคนอื่นๆหลุดขำกับท่าทางเก้ๆกังๆของเขา เขามองเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน ในหัวพลันคิดว่าถ้าเป็นลูกของเขากับคนท
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เอริคเกลเข้าไปได้มั้ยคะ”“อืม”เอริคตอบรับสั้นๆ“เราจะกลับบ้านกันตอนไหนหรอคะ”“รีบ?”เขาละสายตาจากเอกสารตรงหน้าหันไปหาเธอ“ป่าวค่ะ แค่เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว”เธอตอบเขาเสียงอ่อย“ขอเคลียร์งานก่อน ถ้าหิวขนมอยู่ตรงนั้นทานได้”เขาบอกเธอก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อเกวลินนั่งมองเขาพลางคิดถึงคำพูดของป้าแอนนาที่บอกว่าเอริคเป็นคนบ้างานมากจนบางทีลืมกินข้าว จนทำให้เป็นโรคกระเพราะ แต่ท่าทางจริงจังของเขาก็ทำให้เธอเผลอมองอยู่นาน เพราะเธอรู้สึกว่าท่าทีแบบนี้ดูมีเสน่ห์มากบวกกับความหล่อของเขายิ่งชวนหลงใหล“บ้าจริง ยัยเกลคิดอะไรของแก”เกวลินพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองทิ้ง ก่อนจะนั่งเล่นมือถือรอเขาจนเผลอหลับไปเอริคเคลียร์งานเสร็จเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาจวนจะหนึ่งทุ่มแล้วจึงชวนเกวลินกลับบ้าน“เกลกลับได้แล้ว”เขาเรียกเธอมือก็เก็บเอกสารไปด้วย โดยไม่ได้มองหญิงสาวด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็กเขาจึงหันไปมองพบว่าเธอหลับอยู่ เอริคเดินไปนั่งตรงหน้าเธอและมองใบหน้าสวยละมุนของเธอ“ยัยลูกเป็ดขี้เหร่โตมาสวยได้ขนาดนี้เลยหรอ”เขาพึมพำเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เกวลินลืมตาตื่นขึ้นม
วันนี้เป็นวันจันทร์และเป็นวันแรกที่เกวลินต้องไปทำงานในฐานะเลขาของเอริค เธอตื่นเต้นและประหม่าพอสมควร หลังแต่งตัวเสร็จเธอเดินมาคุยกับตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง“สู้ๆยัยเกล แกมันคนเก่ง ทำได้อยู่แล้ว”วันนี้เกวลินแต่งตัวนานกว่าปกติเพราะมัวแต่ตรวจเช็คความเรียบร้อยจึงไม่ได้ลงมาทำข้าวเช้าให้ เอริคทาน เมื่อเช็คความเรียบร้อยทั้งเสื้อผ้า หน้า ผมจนมั่นใจแล้ว เธอจึงรีบลงมาข้างล่างก็เห็นเอริคนั่งรอที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เกวลินมาในลุคชุดสูทแขนยาวกระโปรงสั้น สไตล์เกาหลี ดูเรียบหรูและน่ารักในคราวเดียวกัน เอริคที่นั่งรออยู่ถึงตะลึงในความสวยของหญิงสาวไปพักใหญ่ เขาคิดในใจว่าบทจะแต่งตัวเป็นทางการก็ดูดีไม่เบา“พี่เอริคไปกันได้รึยังคะ”“ไปสิ”เขาตอบกลับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ภายในใจตื่นเต้นไม้แพ้เกวลินเลย“วันนี้เกลขอโทษนะคะ ไม่ได้ลงมาทำอาหารเช้าให้ทานเลย ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ”“ตื่นเต้นทำไม แค่มาทำงาน”“ก็เกลตื่นเต้นนี่คะ”“กลัวทำไม่ได้”เขาเลิกคิ้วถามเธอ“ป่าวซักหน่อย คนอย่างเกวลินไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”“ดี จะคอยดู ถ้าไม่ไหวก็บอกจะได้ส่งกลับบ้าน”“ไม่มีทาง”เธอตอบเขาด้วยน้ำเ
เจนเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ต้องแปลกใจที่ตัวเองมานอนอยู่ที่บ้าน และที่สำคัญเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย เธอจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เพียงเลือนลางเท่านั้น พยายามนึกทบทวนและเดินลงมาหาน้ำดื่ม หางตาก็ไปสะดุดกับชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนโซฟาบ้านตน “อ๊าย แกเป็นใครเข้ามาในบ้านชั้นได้ยังไง”เจมส์สะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องของหญิงสาว ก่อนจะรีบอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง“ผมเป็นผู้ช่วยคุณเอริค ที่พาคุณมาส่งบ้านเมื่อคืนไงครับ คุณพอจะจำได้มั้ย”เจนพยายามนึกภาพตามก็เห็นว่าเป็นความจริงตามที่เขาพูด “แล้วทำไมเสื้อผ้าชั้นถึงได้….”“เมื่อคืนคุณอ้วกผมก็เลยจำเป็นต้องเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้”“อีตาบ้า!! นายฉวยโอกาสหรอ”“ป่าวนะครับตอนเปลี่ยนผมก็ไม่ได้มอง หรือจะให้ผมปล่อยให้คุณนอนจมกองอ้วกแบบนั้น ก็เลยต้องอยู่รออธิบายให้คุณฟังนี่ไงครับ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ”เจมส์บ่น“แล้วชั้นจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ล่วงเกินชั้น”“แล้วคุณเจ็บปวดตรงไหนมั้ยล่ะครับ ถ้าไม่มั่นใจไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนนี้เลยก็ได้”เขาพูดพลางจะดึงแขนเธอให้ไปด้วยกัน“ไม่ต้อง ชั้นจะลองเชื่อคุณดูซักครั้ง ยังไงก็ขอบคุณคุณด้วยแล้วกันที่มาส
ชายหนุ่มคนที่วางยาสองสาวเมื่อเห็นพวกเธอลุกออกจากโต๊ะก็ชวนเพื่อนเดินตามพวกเธอมาไม่ห่าง “ให้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะคนสวย ดูท่าจะกลับเองไม่ไหวแล้ว”เขาเดินมาหาสองสาวที่ตอนนี้เริ่มมึนหัวจากฤทธิ์ยา ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินเข้าไปประคองสองสาวก็มีมือของเอริคและเจมส์ผลักพวกเขาออกทันที ก่อนจะเข้าไปประคองพวกเธอไว้แทน เอริคดึงเกวลินเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนเจมส์ก็ทำหน้าที่ประคองเจนไว้แบบงงๆ“พวกมึงเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไม”“ผัวเมียหรอ กูคู่หมั้นเธอโว้ย ส่วนมึงจะให้กูแจ้งตำรวจข้อหาวางยามั้ย ถ้าไม่อยากเดือดร้อนรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้น…”สิ้นคำพูดของเอริคการ์ดของร้านก็เดินตรงเข้ามาหาคนที่วางยาเกวลิน “ทางนี้ฝากด้วย”เขาหันไปบอกการ์ดอีกครั้ง“ครับคุณเอริค”“พี่เอริค เกลมึนหัว”“สมควร!!!”“นายครับผู้หญิงคนนี้ผมต้องไปส่งที่ไหน”“เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้ในกระเป๋าน่าจะมีกุญแจบ้านอยู่ ถ้าไม่มีก็นอนบ้านนายไปก่อน”“เอ่อ นาย นายครับ เฮ้อ…เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยต้องมาดูแลคนไม่รู้จักกันเนี่ย คุณครับไปขึ้นรถผมพาไปส่งบ้าน”ทางด้านของเกวลินตอนนี้แทบเดินไม่ไหวมีแต่บ่นว่ามึนหัว จนเอริคทนไม่ไหวอุ้มร่างบางขึ้นรีบเดินกลับร