LOGIN“ว่าไง” ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูในตอนที่เดินกลับมาจากร้านสะดวกซื้อ เป็นจินนี่ที่โทรมา
‘สุขสันต์วันเกิดนะเพื่อนรัก มึงอยู่ที่ไหนคอนโดไหม’
“คอนโด กูบอกมึงรอบที่สองแล้วนะ”
‘รู้แล้ว แค่อยากให้แน่ใจ พอดีมีของขวัญไปส่ง อยากให้รับด้วยตัวเอง’
พอได้ยินคำว่าของขวัญเท่านั้น ฉันก็ยิ้มแฉ่ง
“มาหรือยัง กูอยู่ใต้ตึกเนี่ย รอของขวัญมึงอยู่”
‘ถึงแล้ว อยู่ล็อบบี้’
พอฉันได้ยินเท่านั้นก็ตรงไปยังล็อบบี้ ทั้งยังขอบคุณเพื่อนไม่หยุด ทันทีที่วางสาย ฉันก็เห็นคนที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้
“จินนี่ฝากของขวัญมาให้” สายตาเขาลดระดับลง ฉันถึงเห็นว่ามีกล่องของขวัญขนาดเท่าลังเบียร์วางอยู่กับพื้น คิดว่าในนั้นคงไม่พ้นตุ๊กตากับพวกของสวย ๆ งาม ๆ ที่จินนี่จะส่งให้ฉันอย่างทุกปี
“ขอบคุณ”
“เดี๋ยวเรายกขึ้นไปส่ง มันหนัก” คำพูดของเขาทำฉันชะงัก ภาพจะขึ้นห้องฉันเนี่ยนะ
“เรายกได้” แต่จริงยกไม่ได้ ไม่รู้ว่าอีจินนี่มึงส่งอะไรให้กู หนักขนาดนี้ ถ้าเป็นก้อนหิน แม่จะเอากลับไปทุ่มหัวมันถึงเชียงราย
“บอกแล้วว่าหนัก มาเถอะเรายกให้”
สุดท้ายฉันก็ปล่อยให้ภาพยกลังของขวัญวันเกิดมาบนคอนโด ด้วยหัวใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้อยู่กันตามลำพังหลังจากบนรถกระบะเมื่อหลายเดือนก่อน
“วางไว้ตรงนั้น” ฉันชี้ไปยังมุมห้อง เพราะห้องที่พักเป็นแค่คอนโดหนึ่งห้องนอนเท่านั้น มีห้องรับแขกแล้วก็ห้องนอนเลย
“เราขอน้ำกินสักแก้วได้ไหม” คำขอของเขาทำฉันหายใจไม่ทั่วท้อง จะมาขอน้ำกินทำไมกัน เซเว่นข้างล่างก็มี
“แกะของขวัญเลยไหม จินนี่ย้ำว่าให้แกะเลย” ภาพถามฉันที่ยังยืนงง ทำอะไรไม่ค่อยถูก ได้แต่พยักหน้า
“หา เบียร์เนี่ยนะ” กล่องของขวัญขนาดเท่าลังเบียร์ก็ลังเบียร์จริง ๆ นั่นแหละ มันเห็นฉันเรียนวิศวะแล้วจะต้องกินเหล้ากินเบียร์เก่งหรือไงถึงได้ส่งเบียร์มาทั้งลัง
“ขอกินกระป๋องหนึ่งได้ไหม”
“อยากกินก็กิน” ฉันวางถุงใส่เบียร์ไว้บนโต๊ะ กับแกล้มไม่ได้ซื้อมาเพราะปกติฉันชอบกินเบียร์เพียว ๆ ไม่ต้องมีกับแกล้ม
“สุขสันต์วันเกิดนะ” กระป๋องเบียร์สองกระป๋องกระทบกัน ฉันมองหน้าภาพอย่างมีคำถาม เขามาได้อย่างไร
“ภาพมาทำอะไรที่กรุงเทพฯ”
“มาหาเธอ ก็วันเกิดเธอ”
“เราเลิกกันแล้วไง จะมาทำไม” ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนไม่เลือกตามใจฉัน
“ก็วันเกิดวิว ทุกปีเราก็ฉลองด้วยกัน”
“ก็ตอนนั้นเป็นแฟนกัน” แต่ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว
“ไม่รู้สิ แค่รู้ว่าต้องมา ก็วันนี้วันเกิดเธอ ก็รัก” ภาพยังพูดคำเดิมซ้ำ ๆ
‘ก็รัก’ ความอุ่นวาบบังเกิดในหัวใจฉัน วิ่งมาถึงกระบอกตา คนยิ่งอ่อนไหวอยู่ด้วย รู้ไหมว่าแต่ละวันต้องพยายามแค่ไหนที่จะลืมเขา แต่เขากลับทำมันพัง เพราะคำคำเดียว ‘ก็รัก’
“เอาของขวัญวันเกิดมาให้” เขาวางถุงกำมะหยี่สีแดงไว้บนโต๊ะระหว่างเรา
“ขอบคุณ” ฉันหยิบมาเปิดในทันที เป็นแหวนทองวงเล็ก ๆ น่าจะสักครึ่งสลึงได้
“อยากให้เธอมากกว่านี้นะ แต่ว่าเรายังไม่มี” ไม่จำเป็นเลยสักนิด แค่นี้ฉันก็ดีใจแล้ว
น้ำตาฉันไหลไม่หยุดกับคำว่า ‘ไม่มี’ ต่างกับฉันที่แม่เพิ่งโอนเงินหลักแสนมาให้ซื้อกระเป๋าใบใหม่ ทั้งที่ตัวเองก็มีอีกตั้งหลายใบที่นอนอยู่ในตู้ ใช้ยังไม่ครบแต่ก็อยากซื้อใหม่
“วิวไม่ร้องสิ เธอร้องทำไม”
“เปล่า ใส่ให้หน่อยสิ”
“ใส่ข้างขวาก่อนนะ ไว้เราพร้อมดูแลวิวเมื่อไหร่ ค่อยใส่ข้างซ้าย” ภาพก็คือภาพ ผู้ชายที่แสนดีของฉัน
ภาพลูบหลังมือฉันเบา ๆ จูบตรงนิ้วที่เขาสวมแหวนให้ เราสองคนสบตากัน มือหนาของภาพสากกระด้างเพราะคงทำงานอย่างหนัก
มือนั้นประคองข้างแก้มฉันไว้ ความลังเลฉายในแววตาของภาพ เป็นฉันเองที่ไม่ลังเล ฉันเบียดกายเข้าหาเขา ทาบริมฝีปากของตัวเองกับปากเขา ภาพรวบตัวฉันขึ้นนั่งบนตัก ฉันเบียดก้อนเนื้อนุ่มเข้ากับอกแกร่งของเขา เราเคยจูบกันแต่ไม่เคยแนบชิดและลึกล้ำถึงขั้นนี้ ขั้นที่ฉันเบียดเนินเนื้อของตัวเองเข้ากับเป้ากางเกงของเขา
มือหนาบีบสะโพกฉันไว้แน่น เขาสอดมือเข้าลูบไล้แผ่นหลังในร่มผ้า ตะขอบราถูกปลดปล่อยพุ่มทรวงถูกเขากอบกุมด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างของเขายังประคองแผ่นหลังฉันไว้
“บนเตียง” ฉันสั่งเสียงพร่า
“เราไม่มีถุง” ภาพตอบเสียงกระเส่า ความคับแน่นใต้ร่มผ้าบ่งบอกว่าเขาเองก็ต้องการ
“ภาพเคยไหม” ฉันถามเพราะกำลังชั่งใจกับบางอย่าง เขาส่ายหน้าเร็วและแรง แถมแก้มยังแดงน่าหยิกอีก
“เราก็ไม่เคย สดกันไหม เราฝังยาคุม”
เด็กหญิงวาดวิวเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจและความสุขของครอบครัวทั้งสอง การมาเกิดของคนคนหนึ่งช่างมีผลกับความสุขของคนหลายคน “ทวดจ๋ามาถ่ายรูปกันเร็ว” วาดวิวโตมากับผู้สูงวัยเธอจึงเป็นเด็กน่ารักและเข้ากับคนง่าย ไม่แปลกเลยที่ใครจะรักจะหลงลูกสาวของพวกเขา ภาพครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านกับครอบครัวของรองผู้ใหญ่แทบล้นเฟรมกล้อง ทุกคนต่างยิ้มและหัวเราะอย่างชอบใจ “วาดเราให้” แต่ภาพของเด็กชายตัวอ้วนกำลังมอบช่อตุ๊กตาหมีให้วาดวิวทำให้ภาพวาดถึงกับหุบยิ้มในทันที แต่เขาก็ถามลูกสาวด้วยเสียงที่พยายามทำให้ธรรมดาที่สุด “ใครเหรอลูก” “นี่ นนท์ค่ะ แฟนวาดเองค่ะพ่อ” คำบอกเล่าของเด็กหญิงทำคนฟังหน้าตึง ให้มันได้อย่างนี้สิ ลูกเขาเพิ่งจะจบอนุบาลแต่กลับมีแฟนเสียแล้ว อาการของผู้เป็นสามีอยู่ในสายตาของภาพวิวมาโดยตลอดหลายวัน ภาพวิวไล่ดูบัญชีรายรับรายจ่ายของอู่ซ่อมรถการเกษตรที่ตอนนี้เปิดให้บริการมาเกือบสามปี ความรู้ที่เรียนมาไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ได้มาช่วยพ่อและสามี ก่อนหน้านี้กว่าพ่อผู้ใหญ่จะได้ซ่อมเครื่องยนต์สักครั้งต้องรอจากอู่ใหญ่ในตัวจังหวัดเพราะไม่มีใครซ่อมและเข้
“ใช่จ้า” “แล้วตอนนี้ผีโพงไปไหนหมดแล้วจ๊ะ” เด็กหญิงวัยห้าขวบถามอย่างอยากรู้ แต่ถามว่าเธออยากเจอไหม ไม่อยากเจอหรอกแต่ก็อยากรู้ “ผีโพงเป็นผีที่กลัวคน กลัวแสงไฟเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้วมั้ง ผีไม่น่ากลัวเท่าคนหรอกทุกวันนี้” ผู้เป็นทวดบ่น “เหรอ” เด็กหญิงตัวน้อยฟังยายทวดแล้วก็งุนงง ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก คนน่ากลัวกว่าผีแล้วเหรอทุกวันนี้ “คนสวยของพ่ออยู่ไหน” เสียงเรียกลูกสาวทำให้คนนอนดูหน้าจอใหญ่เด้งตัวลุกวิ่งไปหาผู้เป็นพ่อทันที “พ่อจ๋า” เด็กหญิงตัวเล็กกระโดดกอดพ่ออย่างคิดถึง ภาพนั้นทำให้คนมองอย่างภาพวิวถึงกับต้องสั่นศีรษะกับความเวอร์ของสองพ่อลูกคู่นี้ เพิ่งห่างกันยังไม่ทันข้ามวันคิดถึงอะไรกันขนาดนั้น “กินข้าวยัง” “ยังจ้า รอพ่อ” “เหรอ เดี๋ยวไปกินที่ร้าน อยากกินอะไร” “เก็ตตี้แดง” เก็ตตี้แดงที่เด็กหญิงวัยห้าขวบหมายถึงคือสปาเกตตีซอสมะเขือเทศซึ่งเป็นเมนูที่วาดวิวชื่นชอบ “อุลไปด้วยกันครับ” ภาพวิวหันไปเรียกอุลลูกพี่ลูกน้องของภาพวาด เด็กชายอุลในวันวานบัดนี้โตขึ้นแทบจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว พุงย้อย ๆ ในวันวานหายไปหมดแล้ว ยิ่งโ
“วิวร้องไห้ทำไม” ผมตกใจเมื่อกลับมาจากประชุมหมู่บ้านในตอนเย็นมาถึงบ้านเวลาสองทุ่มเห็นเมียนั่งร้องไห้ อยู่ตรงระเบียงดูดาว “เจ้ทราย ฮึก เจ้ทราย” “เจ้ทรายทำอะไร” ผมใจคอไม่ดี ไม่ใช่ทะเลาะกันอีกเหรอเนี่ย “เจ้ทรายไม่ให้กินลิ้นจี่ ฮือ เราอยากกิน ลูกก็อยากกิน เจ้ทรายให้เรากินนิดเดียว” คนท้องที่ตอนนี้ท้องโตขึ้นมากกว่าเดือนก่อน และสิ่งที่โตตามท้องคือการเอาแต่ใจ ทั้งยังอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ วัน ๆ ร้อยเรื่องราว “เจ้ไม่ให้กินเลยเหรอ” ผมถามเพื่อย้ำอีกครั้ง เจ้ทรายไม่น่าจะงกถึงขั้นไม่ให้กินสักลูกนะ เพราะลิ้นจี่ตอนนี้ก็มีเยอะมาก เจ้แกก็ไม่น่าหวง “ให้กิน แต่ไม่อิ่ม” นั่นไงว่าแล้ว “กินไปแค่ไหนทำไมไม่อิ่ม” ผมถามอย่างใจเย็นก็เข้าใจว่าเธอท้อง ข้าวเธอก็ไม่ชอบกิน อาศัยกินพวกผลไม้นี่แหละ แต่ผลไม้ก็น้ำตาลสูงไม่ต่างกัน ผมไม่อยากให้เมียเป็นเบาหวานจึงสั่งเจ้ทรายไว้ว่าให้จับตาการกินของวิวให้หน่อย อะไรห้ามได้ก็ห้าม ถามว่าทำไมผมต้องสั่งเจ้ทราย อ้าว ผมห้ามเมีย ได้ที่ไหนกันเล่า แค่วิวทำตาละห้อยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดและบอกว่า “ลูกอยากกิน ไม่ใช่เรา
“คนสวยทำไมทำหน้าอย่างนั้นละ” ผมถามคนสวยที่ใบหน้างอหงิก เมื่อเห็นผลตรวจของตัวเอง “เราท้อง เรายังไม่อยากท้อง” มันเกิดความผิดพลาดครับ เพราะเราสองคนไม่ได้ป้องกันอย่างอื่นเลยนอกจากคิดว่าวิวฝังยาคุม แต่เพราะเราสองคนลืมคิดไปว่ายาคุมแบบฝังออกฤทธิ์ได้ห้าปีเท่านั้น แล้วหลังจากแต่งงานมันก็เกินมาแล้วตั้งหลายเดือน เมื่อไม่กี่วันก่อนวิวก็เวียนหัวมากสุดท้ายพอตรวจแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ สองขีดแบบชัดเจนไม่ต้องให้กังขากันอีก “ที่ตรวจห้าอันสองขีดหมดเลย ไม่ท้องก็ต้องท้องแล้วละวิว” ภาพดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่งงานก็แต่งแล้วจะท้องก็ไม่เป็นไรหรอก “แต่เรายังเด็ก” เธอว่า ทั้งยังบ่นอุบอิบต่อ “เด็กตรงไหนกัน อายุเท่านี้แหละจะได้มีลูกทันใช้ไงครับ” ผมปลอบคนที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก “เรายังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลยอะ” วิวบ่นสิ่งที่เธออยากทำ มีอีกหลายอย่างที่เธออยากทำและกลัวว่าจะไม่มีเวลาให้ลูกและงาน “ลูกเป็นของขวัญของเรา อย่าคิดอย่างนั้นเลย อีกอย่างยายกับย่าคงอยากเห็นหน้าเหลนแล้ว คนช่วยเลี้ยงเยอะแยะ อย่าเครียดเลยนะครับที่รัก” ผมซุกหน้ากับกลุ่มผมหนานุ่มข
เสียงโทรศัพท์ทำฉันละสายตาจากกล้ามแน่น ๆ มาดูเบอร์โทรศัพท์ถอนหายใจแล้วก็กดรับ “ว่าไงเฮียผา” ‘ผู้หญิงโสดที่ยังไม่มีแฟนนี่เขาคิดยังไง’ ฉันขมวดคิ้วกับคำถามของเฮียผา “เขาแค่ไม่อยากมีมั้ง” ‘หรือว่าหาไม่ได้วะ’ ฉันกลอกตาอีกรอบแต่มือยังไล้บนหน้าท้องแกร่ง ปมของผ้าขาวม้าทำฉันอยากปลด อะไรที่ใหญ่โตกำลังขดอยู่ใต้ผ้าขาวม้านั่น “ใหญ่” ‘อะไรใหญ่ ไอ้วิว’ “เออ เฮียผาคิดไปใหญ่แล้ว ผู้หญิงโสดเขาก็แค่ยังไม่เจอใครถูกใจ เฮียชอบก็จีบสิ” ‘อยากได้แต่ไม่อยากจีบ’ ภาพจับมือฉันออกจากปมผ้าขาวม้าที่อยากปลด “อ้าว!” ‘จะอ้าวอะไร แค่อยากได้ไง อยากได้เฉย ๆ แต่ไม่อยากคบ’ พอได้ยินคำพูดเฮียผาแล้วฉันก็ได้แต่ถอนหายใจ เป็นอย่างนี้กันทั้งฝูงเลยหรือไงนะ “อยากได้ก็ไปขอเขาโน่น” ‘เขาจะให้ไหม’ “ถามเขาสิ มาถามวิวทำไม เฮียผาเนี่ยก็เหี้ยไม่ต่างจากเฮียบอมเลยนะ พวกมึงเนี่ยเหมาะกับเป็นเพื่อนกันจริง ๆ” ฉันเหลืออดแล้วเหมือนกัน ไอ้พวกผู้ชายเหี้ย ๆ ไม่ดีเหมือนภาพเลยสักนิด ‘เท่าที่กูจำได้ มึงก็เคยได้ผัวมึงแล้วไม่เอาเขาจริง’
“อ๊ะ!” ฉันร้องอย่างตกใจเมื่อร่างกายถูกพลิกให้หันไปอีกทาง สองเท้าอยู่บนโซฟา มือจิกพนักพิงแน่น รู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดต่อจากนี้ ท่าโปรดของเรา “วิว ครางดัง ๆ อา” คำสั่งของเขามาพร้อมกับท่อนลำใหญ่โตที่แทรกผ่านร่องเนื้อที่ฉ่ำไปด้วยน้ำรักและกำลังตอดไม่หยุด ทุกแรงขยับของเขาทำฉันแทบขาดใจ เนื้อในกายเต้นไม่หยุด ทุกจังหวะที่เขารูดลำเอ็นร้อนผ่าวผ่านเข้าออกและกระแทกแรงทำร่างฉันสั่นคลอน เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่มีน้ำแทรกกลางระหว่างเรายิ่งทำให้กายฉันสั่นเทิ้มไปด้วยความเสียว ใบหน้าฉันแหงนเริดขึ้นเพราะความเสียวที่ได้รับ ภาพเอี้ยวตัวมาจูบฉัน ในจังหวะที่เขาควงสะโพกเข้าหาไม่หยุด รสจูบเขายิ่งสร้างความวาบหวามไม่หยุด “อื้อ...ภาพเราจะตาย” นั่นคือเสียงของฉันเอง เสียงที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้ตัวเองจะเปล่งออกมาอย่างนี้ ทั้งสะโพกที่แอ่นรับแรงกระแทก มันแสบเพราะแรงกระแทกหากแต่ร่างกายฉันกำลังสุขสมเมื่อความแรงยิ่งเพิ่มมากขึ้น หน้าท้องจุกเพราะความลึกของท่อนลำขนาดใหญ่และยิ่งท่านี้เขายิ่งเข้าลึก คำพูดหยาบโลนของภาพที่ดังออกมาในทุกจังหวะที่ฝังกายเข้าหายิ่งทำให้ฉันสั







