Se connecterเจ้าของร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์โอปป้าเกาหลีทว่ามีหนวดเคราชวนมอง แต่งตัวออกแนวแบดบอย กลายเป็นจุดสนใจของสาวน้อยสาวใหญ่ทันทีที่เยื้องย่างกรายเข้าสู่สถานบันเทิงชั้นนำในตัวเมืองเชียงใหม่ แววตาเย็นชาทว่าแฝงพลังอำนาจมองหากลุ่มเพื่อนซี้ ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้น
“เฮ้! ไอ้เมศทางนี้!”
เสียงของเพื่อนที่นั่งข้างกายป้องปากตะโกนเรียกผู้มาใหม่ ทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยผงกหัวขึ้น ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่เดินล้วงกระเป๋ามุ่งหน้ามาเป็นใคร
ชั่วอึดใจปรเมศก็เดินมาถึงโต๊ะที่เพื่อนในแก๊งนั่งอยู่ เพื่อนสนิทของเขาทั้งสามคนจบแพทย์มาจากมหา’ลัยเดียวกับเขา และทำงานที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อมาดทะเล้นอย่างภูธฤทธิ์ วงศ์วาณิชย์ หนุ่มเซอร์มาดกวนเช่นแทนไท มโนไมย และหนุ่มตี๋มาดนิ่งอย่างดนัย อาภาศิริกุล
แต่ที่มันน่าหงุดหงิดก็คือมีตัวแถมอีกหนึ่งรายที่เขาไม่อยากจะกล่าวถึง ไม่อยากเห็นหน้าหรือเสวนาด้วย เดาว่าเพื่อนเขาหนึ่งในสามตัวต้องเป็นคนชวนยัยทอมมาด้วยแน่ๆ เพราะยัยนั่นก็ทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกับพวกเขา ถึงแม้เขาจะแทบไม่ได้คุยกับเธอ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ เรื่องงาน แต่พนันว่าเพื่อนเขาต้องได้คุยหรือไม่ก็ชวนยัยนั่นไปแฮงเอาท์ด้วยอย่างแน่นอน เพราะสมัยเรียนพวกมันก็สนิทกับเธออยู่ไม่น้อย
ครั้นได้มองปรเมศในระยะใกล้ธารธาราก็แทบจะตะลึงตาค้าง หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ จากผู้ชายสะอาดสะอ้าน หล่อแบบโอปป้าเกาหลี พอมีหนวดมีเครามาประดับบนหน้าขาวๆ ก็ทำให้ลุคเปลี่ยนเป็นดิบเถื่อนระคนดุดันอย่างน่าทึ่ง มาดที่ออกแมนๆ ขาลุยแบบนี้ทำให้เธอเผลอมองตาไม่กะพริบ
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหรือไง” คำพูดรวนๆ ชวนหาเรื่องของคนพาลทำให้เธอได้สติ เลือกที่จะเงียบ ก่อนจะขยับนั่งตัวตรงอย่างเกร็งๆ แล้วปรับสีหน้าให้เรียบสนิท
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเขาก็ยังทำท่ารังเกียจเธอเหมือนเดิม…ไม่เคยเปลี่ยน
ธารธาราคิดอย่างเศร้าใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะต่อให้ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนเธอก็ยังจดจำปรเมศ จิรกุล ได้ว่าเป็นแพทย์หนุ่มที่หล่อที่สุดในรุ่น เขาขึ้นชื่อเรื่องความฮอตฉ่า เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน เทคแคร์ดีเยี่ยม และให้เกียรติผู้หญิงทุกคน ยกเว้นเธอที่ถูกอีกฝ่ายตั้งแง่รังเกียจตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกในงานรับน้อง เพียงเพราะว่าเธอแต่งตัวและซอยผมสั้นเหมือนผู้ชาย เขาก็เลยประณามว่าเธอเป็นพวกผิดเพศ และเปิดฉากเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่นั้นมา คำพูดจาหยาบๆ มักจะถูกซัดใส่หน้า จนเธอต้องพลอยใช้สรรพนาม มึง กู กับเขาไปด้วย เขาอาจจะพูดจาอ่อนหวานกับผู้หญิงทั้งโลก แต่ไม่ใช่กับเธอ
“กูถามว่ามองหน้ากูทำเชี่ยอะไร!” เห็นเธอไม่ตอบเขาก็ชักสีหน้าใส่ ก่อนจะเค้นเสียงดุดันติดจะกระด้างพร้อมมองคนที่เอาแต่นั่งเม้มปากอย่างหงุดหงิด
“อ้าว...ไอ้เชี่ยนี่! มาถึงก็ปากหมาเลยนะมึง” แทนไทเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันจงเกลียดจงชังอะไรธารธารานักหนา
“พวกมึงทำไมไม่บอกว่ามันมาด้วย กูจะได้ไม่มา” เขาเอ่ยเสียงแข็งๆ พลางจ้องหน้าธารธาราเขม็ง
วาจาที่แสดงถึงความรังเกียจอย่างเปิดเผยทำให้ธารธาราอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น หากรู้ว่าอีกฝ่ายจะมาเธอคงไม่มา เพราะไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดเช่นนี้
“ไม่เอาน่าไอ้เมศ มึงจะเกลียดอะไรมันนักหนาวะ ไอ้น้ำมันก็เป็นเพื่อนเรานะโว้ย” ภูธฤทธิ์เอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจคนที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนักตั้งแต่โดนไอ้เพื่อนตัวร้ายของเขามองอย่างไม่เป็นมิตร
“มันไม่ใช่เพื่อนกู! กูไม่ชอบพวกผิดเพศ!”
คำพูดทำร้ายจิตใจที่ไม่ว่าจะได้ยินกี่ครั้งก็ยังสร้างความเจ็บปวด ทำให้ธารธาราอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการแต่งหญิง แต่ใจยังไม่กล้าพอ เพราะมีปมในอดีตคอยย้ำเตือนว่าหากเธอทำอย่างนั้นพวกคนชั่วจะตามมาเอาชีวิต ได้แต่หวังลึกๆ ว่าสักวันเธอจะลืมความเลวร้ายในอดีตไปเสียสิ้น
“กูก็ไม่ชอบคนขี้เก๊กปากหมาอย่างมึงเหมือนกันล่ะว่ะ” หลังจากซัดเหล้าย้อมใจธารธาราก็เชิดหน้าสวนกลับเสียงแข็งๆ ทำให้จอมเย็นชาหน้านิ่งชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเค้นเสียงดุกร้าวลอดไรฟัน
“ปากดีแบบนี้มึงจะเอากับกูเหรอวะ”
“เฮ้ย! หยุดๆ พวกมึงนี่โตๆ กันแล้วยังจะกัดกันเหมือนหมาอยู่ได้” เห็นท่าไม่ดีภูธฤทธิ์ก็รีบห้ามทัพ ตั้งใจจะฉุดแขนปรเมศให้นั่งลงข้างๆ ทว่าแทนไทกลับสวนขึ้นเสียก่อน
“เกลียดมันนักก็มานั่งข้างๆ มันนี่มา จะได้กัดกันให้ตายกันไปข้าง”
“เรื่องอะไรกูต้องนั่งข้างมัน” ปรเมศเอ่ยอย่างหยิ่งๆ ก่อนจะทรุดกายลงนั่งข้างภูธฤทธิ์
“เออ…ไม่นั่งก็ไม่นั่งโว้ย!” แทนไทกระแทกเสียงใส่ด้วยความหมั่นไส้
“อะไรวะ ไอ้กูก็นึกว่าพวกมึงจะปรองดองกันตั้งแต่ได้ทำงานที่เดียวกันแล้วซะอีก” คนที่นั่งจิบเหล้าเงียบๆ มาโดยตลอดอย่างดนัยเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
ธารธาราอยากจะบอกนักว่าปรเมศก็ยังเป็นปรเมศคนเดิม เขาเป็นสุภาพบุรุษและดีกับผู้หญิงทุกคนยกเว้นเธอ ตั้งแต่วันวาเลนไทน์ปีนั้นเขาและเธอก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
การเรียนแพทยศาสตร์ใช้เวลาเรียน 6 ปี ปีแรกเรียกชั้นเตรียมแพทยศาสตร์ เรียนวิทยาศาสตร์ทั่วไปเน้นเกี่ยวข้องทางชีววิทยา ปีที่ 2-3 เรียนวิชาที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ เรียกระยะนี้ว่าพรีคลีนิก (Preclinic) ปีที่ 4-5 เรียนและฝึกงานผู้ป่วยจริงร่วมกับแพทย์รุ่นพี่และอาจารย์ เรียกระยะนี้ว่าชั้นคลินิก (Clinic) และปีสุดท้ายเน้นฝึกปฏิบัติกับผู้ป่วยจริงภายใต้การดูแลของแพทย์รุ่นพี่และอาจารย์ เรียกระยะนี้ว่าเอกซ์เทิร์น (Extern)
หลังเรียนจบธารธาราต้องทำงานชดใช้ทุนรัฐบาลเป็นเวลาสามปี จากนั้นก็เลือกที่จะเรียนต่อเฉพาะทาง (resident) สาขาสูตินรีแพทย์ ส่วนทายาทอภิมหาเศรษฐีอย่างปรเมศนั้นไปเรียนประสาทศัลยแพทย์ที่อเมริกาตั้งแต่เรียนจบ แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย
จนกระทั่งมาเจอกันที่โรงพยาบาลรักษ์…โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของเชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งธารธาราเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน และเพราะความฮอตในหมู่สาววายไม่ต่างจากสมัยเรียนทำให้มีสาวๆ มาตามกรี๊ด แต่ที่มันกลายเป็นปัญหาจนเธอต้องกุมขมับคือมีบุคลากรสาวถึงขั้นตบตีกันแย่งชิงเธอ ทั้งที่เธอยืนยันชัดเจนว่าตัวเองเป็นผู้หญิง และชอบผู้ชาย ไม่มีใจเอนเอียงไปทางเพศเดียวกันเด็ดขาด
ทว่าเรื่องราวกลับบานปลายใหญ่โต สองสาวที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันโดนไล่ออกในวันรุ่งขึ้นโทษฐานที่ทำให้โรงพยาบาลเสื่อมเสียชื่อเสียง และก่อความวุ่นวายจนเพื่อนร่วมงานไม่เป็นอันทำงาน ส่วนเธอก็ถูกเรียกตัวเข้าพบท่านรองผู้อำนวยการที่เพิ่งมารับตำแหน่ง วินาทีแรกที่ได้มีโอกาสเห็นหน้าเจ้านายของตัวเองธารธาราแทบช็อก เพราะไม่คิดว่าท่านรองฯ ที่พยาบาลสาวๆ ต่างกล่าวถึงด้วยความปลาบปลื้ม ว่าเป็นหมอผ่าตัดสมองที่ทั้งเก่ง หล่อ และรวย จะเป็นปรเมศ จิรกุล ผู้ชายพันธุ์ดิบที่เธอยังคงแอบรักไม่เสื่อมคลาย
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงปีหน้าน้ำก็จะให้ลูกเข้าโรงเรียน”ถึงที่สุดดูเหมือนว่าทั้งคู่จะยังหาข้อสรุปกับเรื่องนี้ไม่ได้ ธารธาราก็เลยตัดสินใจเอ่ยเป็นเชิงมัดมือชกเสียงแข็งๆ และมองหน้าหล่อๆ ทว่างอง้ำเหมือนเด็กถูกขัดใจอย่างเอาเรื่อง “โธ่…น้ำ” พ่อคนขี้หวงยังไม่วายโอดครวญ พร้อมทำหน้าละห้อยเรียกคะแนนสงสารจากภรรยา แต่นอกจากธารธาราจะไม่เห็นใจแล้วเธอยังถลึงตาใส่ “ไม่ต้องมาอ้อนเลย ถ้ายังเรื่องมากเอาแต่คัดค้านและปกป้องลูกอยู่ล่ะก็ น้ำจะไม่ยอมให้นอนด้วย ลูกก็ไม่ต้องทำแล้ว ลูกหมูสามตัวที่อยากได้เพิ่มก็ไม่ต้องเอา” ได้ทีคุณแม่ลูกสามที่แอบโหดก็เอ่ยออกมาด้วยท่าทางขึงขัง แววตาดุๆ นั้นบ่งบอกว่าเอาจริงจนคนเป็นสามีหงอ “น้ำก็…” พ่อเจ้าประคุณยังไม่วายพ้อหน้างอ“ไม่ต้องมาน้ำก็เลยนะพ่อตัวดี! จะเอาไหมลูกหมูสามตัวที่ขอเพิ่ม ถ้าจะเอาก็ต้องยอมให้ลูกไปโรงเรียนในปีหน้า ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำมันแล้วลูก ชุดพยาบาลสาวยั่วสวาท ชุดครูระเบียบแอบหื่น ชุดแม่บ้านจอมร่าน ที่แอบไปซื้อมาก็เอาไปเผาทิ้งเลยนะ น้ำไม่ยอมให้ทำลูกหรอก ดื้อหัวแข็งแบบนี้ก็ช่วยตัวเองไปเลย น้ำไม่เอาด้วยแล้ว” คราวนี้เธอขึ้นเสียงใส่คุณพ่อสุดดื้ออย่างเหลืออด คำพูดทำนอง
“เอ่อ…น้ำ แบบว่า…” คนถูกจับได้ไล่ทันถึงกับพูดไม่ออก “หรือเมศจะเถียงว่ามันไม่จริง”ได้ทีเธอก็ไล่บี้ พร้อมจ้องหน้าสามีตัวดีอย่างคาดโทษ เล่นเอาคนมีชนักติดหลังแทบสะดุ้งเฮือก ทว่ายังปั้นหน้ายิ้มจืดเจื่อนทำเป็นใจดีสู้เสือ แล้วเปล่งเสียงหวานๆ เป็นเชิงอ้อน “โธ่…เมียจ๋า”“ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลยนะ ลูกหลับแล้วน้ำจะชำระความกับเมศเป็นรายต่อไป” ธารธาราขึงตาใส่พ่อคนที่มักจะอ้อนให้เธอใจอ่อน แล้วตบท้ายด้วยการคาดโทษ“ชำระความบนเตียงใช่ไหม งั้นโอเคเลย” นอกจากจะไม่สลดกับความผิดที่ได้ก่อเอาไว้เท่าที่ควรแล้ว พ่อเจ้าประคุณคนหน้าตายแต่หื่นขึ้นสมองยังไม่วายสัพยอกด้วยวาจาชวนกระดากอายเป็นที่สุด พอเธอจะฟาดเข้าให้เขาก็เบี่ยงตัวหลบ ทำให้ลูกๆ ต่างประสานเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เพราะคิดว่าพ่อกับแม่กำลังหยอกเล่นกัน หลังจากเด็กๆ กินอาหารฝีมือแม่ได้ไม่นานก็หนังท้องตึงหนังตาหย่อน งอแงจนธารธาราและสามีต้องพาไปนอนกลางวัน กล่อมกันได้ไม่นานลูกหมูสามตัวก็สิ้นฤทธิ์หลับปุ๋ย เห็นลูกหลับแล้วปรเมศก็พยักหน้าเป็นเชิงชักชวนภรรยา แล้วทั้งสองก็เกี่ยวก้อยกันเดินออกมาจากห้องนอนของลูกๆ หลังจากปิดประตูห้องนอนของทั้งคู่ ปรเมศก็โอบ
ธารธารากำลังจะอ้าปากต่อว่า ทว่าแขนที่โดนมือเล็กป้อมกระตุกยิกๆ ก็ทำให้คุณแม่คนสวยที่กำลังจะแยกเขี้ยวใส่สามีเปลี่ยนมาเป็นยิ้มหวานหยด “เอกเป็นคนชวนพ่อไปหาแม่เองครับ” เด็กชายอธิปกยืดอกปกป้องพ่อที่กำลังจะโดนแม่ดุอย่างกล้าหาญ ส่วนอีกสองแฝดก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน “โทก็ชวนพ่อเหมือนกันครับ”“ตรีก็ด้วยค่า”“พวกเราหิว แล้วก็คิดถึงแม่ด้วยครับ” คราวนี้เป็นคนที่หิวจัดกว่าใครอื่นอย่างทินวิทย์ที่เอ่ยอธิบายว่าทำไมต้องขัดคำสั่งแม่ ตบท้ายด้วยการออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชัง ก่อนเสียงใสๆ อีกสองเสียงจะเอ่ยอย่างเห็นด้วย“ใช่ครับ” “ช่ายค่า”“น่ารักที่สุดเลย มาให้แม่หอมคนละทีเสียดีๆ”จากที่จะเล่นงานสามีตัวดีที่ชอบตามใจลูก ธารธาราก็เปลี่ยนเรื่องไปเสียดื้อๆ ทำให้ปรเมศลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “น้ำอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” หลังจากยืนดูเมียกับลูกต่างกอดและหอมกัน บ้างมีเสียงหัวเราะสอดประสานก้องกังวาน คนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกก็เอ่ยถามเมียรักเสียงนุ่มละมุน “ไม่ค่ะ น้ำยังไงก็ได้ แล้วเด็กๆ ล่ะคะลูก อยากกินอะไรเอ่ย” ธารธาราส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะก้มลงถามลูกทั้งสามคนอย่างอ่อนโยน ท่าที
ถึงแม้จะแต่งงานกันมาสี่ปี ความรักของปรเมศและธารธาราก็ยังคงเป็นที่อิจฉาและกล่าวขานถึงของคนรอบข้าง แถมลูกหมูตัวแสบทั้งสามยังเป็นที่รักและเอ็นดูของคนที่พบเห็น เวลามาโรงพยาบาลทีไรเป็นต้องถูกพยาบาลสาวๆ มาขอถ่ายรูป ขอกอด ขอหอม เรียกได้ว่าฮอตเหมือนพ่อไม่มีผิด “พ่อครับ เมื่อไหร่แม่จะมา โทหิวข้าวแล้ว” คนที่เล่นของเล่นรอแม่จนเบื่อเดินไปเกาะแขนบิดาที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น ทว่ายังไม่ทันที่ปรเมศจะตอบเจ้าตัวแสบที่ชอบเรียกร้องความสนใจก็มีคนช่วยจัดการแทนอย่างรู้หน้าที่จนเขาเผลอยิ้มกว้างออกมา “โทอย่าไปกวนพ่อ กลับมาเล่นกับพี่ เดี๋ยวแม่ก็มาแล้ว” พี่ใหญ่ที่มีบุคลิกเหมือนผู้เป็นพ่อ แถมยังหน้าตาเหมือนพิมพ์เดียวกัน หันไปเรียกน้องชายเสียงขรึมพร้อมโชว์ของเล่นในมือ “แต่โทหิวข้าวนี่นา” คนเป็นน้องหันไปมองพี่ชายฝาแฝด แล้วเอ่ยเสียงอ่อยๆ พร้อมลูบท้องให้ดูน่าสงสาร จากนั้นก็เดินไปหาอีกฝ่าย ไม่นานเสียงใสๆ ก็ดังขึ้น “ตรีก็หิว อยากกินหนมด้วย” ขาดคำน้องน้อยแฝดคนสุดท้องก็วางตุ๊กตาเจ้าหญิงเอลซ่าในมือลงอย่างหมดความสนใจ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนบิดา แล้วเงยหน้าอ้อนเสียงหวาน “พ่อจ๋า…”“จ๋า…ว่าไงคะ นางฟ้าตัวน้
หากแต่ธารธารากลับต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็ปลดขาเรียวเสลาที่ตวัดรัดรอบเอวสอบออกเสียดื้อๆ จากนั้นก็ให้ลงไปยืนบนพื้น ทว่าไม่นานก็ต้องหลุดอุทานออกมา เมื่อคนลีลาท่ามากที่ยังไม่ยอมจับจูงเธอไปสู่จุดสูงสุดของความหฤหรรษ์ จับร่างอ้อนแอ้นให้หันหน้าเข้าหาโต๊ะ โดยที่มือทั้งสองค้ำโต๊ะเอาไว้เป็นหลักยึด จากนั้นก็เคลื่อนกายทรงพลังประกบซ้อนหลัง แล้วย่อตัวลงเสียบเสยความอลังการเข้าสู่ความคับแคบทว่าร้อนผ่าวในคราเดียวจนสุดลำ เรียกเสียงร้องอู้ ปากอิ่มห่อเข้าหากันเป็นรูปตัวโอ “โอ้วววว…อ๊า…ซี้ดดดดด…”จากนั้นธารธาราก็แอ่นสะโพกผายมาทางเบื้องหลัง อำนวยความสะดวกให้สามีได้อัดกระหน่ำเข้าหาอย่างล้ำลึก ร้องครางเกือบเป็นตะโกนประหนึ่งคนสติไม่สมประดี ในวินาทีที่พ่อตัวดีลดจังหวะการร่วมรักจากเร่าร้อนให้เป็นเชื่องช้าบาดอารมณ์ แถมยังจับขาข้างหนึ่งของเธอไปพาดตรงขอบโต๊ะ เปิดทางให้เขาขยับสับสอดได้อย่างถนัดถนี่ ปรเมศถอนความโอฬารอันแข็งกร้าวออกมา แล้วตอกอัดเข้าหาอย่างดิบเถื่อน ทำอย่างนั้นย้ำๆ ซ้ำๆ จนคนตัวเล็กดีดดิ้น และจิกข่วนโต๊ะจนเล็บแทบฉีก จากนั้นพ่อคนไม่ได้โตแต่ตัวก็สับสะโพกเข้าใส่พูเนื้อหยาดเย
“ไม่ใช่แค่ใส่ให้ดู แต่ใส่ให้ผัวรัก ใส่ให้ผัวหลง”คนเจ้าเล่ห์ขยิบตาให้ด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มชวนใจละลาย ฉุดข้อมือกลมกลึงให้ผุดลุกขึ้น แล้วรุนหลังเมียเข้าไปยังมุมแต่งตัว จากนั้นก็ถอยออกมารอยลโฉมสาวใช้ของเขาอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากสวมชุดสุดวาบหวิวที่สามีมัดมือชกเข้าไป ธารธาราก็แทบจะถอดออก แล้วเอาไปเผาไฟทิ้งเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด ในวินาทีที่เหลือบเห็นสภาพอันน่ากระดากอายของตัวเองในกระจก ใบหน้างามก็ร้อนซู่จนเกือบจะไหม้ เพราะนมแทบจะทะลักออกมา เนื่องจากสองเต้าเขย่าโลกดันเนื้อผ้าอันน้อยนิดจนกระดุมปริแยก ส่วนก้นก็แทบจะโผล่พ้นชายกระโปรงสุดแสนจะสั้น เห็นกางเกงในอยู่รำไร คุณหมอสาวที่สามีอยากให้แปลงร่างเป็นสาวใช้กัดปากเดินไปเดินมาอย่างชั่งใจ แต่ด้วยความที่อยากเอาใจอีกฝ่าย สุดท้ายธารธาราก็ต้องกลั้นใจเดินออกมาจากมุมแต่งตัวด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน ทันใดนั้นลมหายใจของเธอก็ต้องสะดุด รู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนระทวยจนเกือบลงไปกองกับพื้น เมื่อเหลือบไปเห็นคนที่นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงโดยชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้ ในสภาพที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวติดกายแต่กระดุมกลับถูกเจ้าตัวปลดออกทั้งแถบ แผงอกล่ำๆ เปลื







