Se connecterธารธารายังจำได้ดีว่าวันนั้นอีกฝ่ายตำหนิติเตียนเธอว่าอย่างไรบ้าง แต่ที่มันน่าเศร้าคือเขายังมองว่าเธอเป็นพวกผิดเพศ เห็นเป็นคนแปลกหน้า และวางตัวเหินห่าง ให้เธอสำนึกในใจว่าเขาเป็นเจ้านาย ส่วนเธอก็เป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต้องทำงานแลกเงินเดือนของตระกูลอภิมหาเศรษฐีของเขาเท่านั้น
“กูไม่คิดจะปรองดองกับมัน” ปรเมศประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำทำให้ธารธาราเม้มปากแน่น
“แม่ง! ขี้เก๊ก วางฟอร์ม เรื่องมากว่ะ”
“เรื่องของกู!”
“เออ…เรื่องของมึงก็เรื่องของมึงเถอะสัด ว่าแต่ไปกับหน่วยอาสาไม่กี่วันมีสภาพเป็นหมอเถื่อนเลยนะมึง แล้วรอยที่ปากนั่นไปกัดกับใครมาวะ” เห็นสถานการณ์ไม่ดีแทนไทเลยชวนเปลี่ยนเรื่อง
“คนเมาแล้วกร่างกูเลยจัดให้มันหายซ่า” ปรเมศเอ่ยมาดนิ่งๆ แต่แววตาดุดันเอาจริง เรียกได้ว่าเป็นผู้ชายพันธุ์ดิบตัวจริงเสียงจริง จนเพื่อนพากันส่ายหัว
“ถ้ากูไม่สนิทกับมึงคงไม่เชื่อแน่ว่า ท่านรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ทายาทอภิมหาเศรษฐีหมื่นล้าน ผู้มีบุคลิกสุขุมลุ่มลึกอย่างมึงจะบ้าดีเดือดขนาดนี้”
“นั่นดิ แม่งโคตรเถื่อนเลยว่ะ ไอ้หมอเถื่อน!” ดนัยเอ่ยเสริมอย่างเห็นด้วยเป็นที่สุด
ขณะที่สี่หนุ่มกำลังกินเหล้าและพูดคุยตอบโต้กันด้วยถ้อยคำหยาบๆ ตามประสาเพื่อน ก็มีสาวสวยแวะเวียนมาทอดสะพานให้ไม่ได้ขาด ส่วนธารธารานั้นเอาแต่นั่งจ้องหน้าปรเมศอย่างลืมตัว เธอยอมรับว่าแทบจะละสายตาจากอีกฝ่ายไม่ได้ จากหน้าขาวๆ สะอาดสะอ้านตามแบบฉบับลูกผู้ดีมีตระกูล พอมีหนวดมีเคราก็ดูคมเข้ม ดิบๆ ออกแนวแบดบอยชวนคลั่งไปอีกแบบ ยิ่งมองยิ่งทำให้เธอรู้สึกอิจฉาผู้หญิงทุกคนที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขา
ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ธารธาราไร้การควบคุม เอาแต่จ้องหน้าหล่อๆ ของปรเมศ แถมยังมองเพลินชนิดไม่กะพริบตา ลืมตัวจนโดนเขาตวาดใส่อีกครา
“เชี่ยเอ๊ย! เมื่อไหร่มึงจะหยุดมองกูวะ!”
“อ้าว...ไอ้นี่ สาวมองตาปรอยเข้าหน่อยทำเป็นปากหมาเชียวนะมึง”
ภูธฤทธิ์เอ่ยแซวอย่างยิ้มๆ ทว่าคนพาลกลับไม่สนใจจะตอบโต้ ปรเมศจ้องหน้าใสๆ ทว่าแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เขม็ง แล้วเค้นเสียงกระด้างเจือดุดันคาดคั้น
“กูถาม…ตอบ!”
“กูไม่ได้มองมึงเสียหน่อย”
“มึงกวนตีนกูเหรอ! ก็เห็นๆ อยู่ว่ามึงจ้องหน้ากูตาไม่กะพริบ”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย มึงไม่ได้หล่อโดนใจจนกูต้องมองตาไม่กะพริบเสียหน่อย คนที่กูมองคือไอ้ภูต่างหากล่ะ มันหล่อกว่ามึงตั้งเยอะ”
วาจาที่หลุดออกมาจากปากสีระเรื่อทำให้ปรเมศถึงกับขบกรามแน่น ตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มมาไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าตอกหน้าเขาแบบนี้มาก่อน
“เฮ้ยไอ้น้ำวันนี้มึงพูดดีว่ะ อยากกินอะไรจ๊ะ เดี๋ยวป๋าภูจัดให้”
ภูธฤทธิ์เปิดยิ้มกว้าง ยักคิ้วเป็นเชิงเย้ยปรเมศ ก่อนจะเดินมากอดคอธารธารา แล้วทำท่าเหมือนจะหยิกแก้มใสๆ หากไม่เหลือบไปเห็นสายตาแปลกๆ ทว่าชวนขนลุกของปรเมศเสียก่อน แต่กระนั้นก็ยังไม่วายเลิกคิ้วกวนๆ ให้อีกฝ่าย ก่อนจะยีผมนุ่มสลวย แล้วเดินผิวปากไปนั่งลงที่เดิม
“อย่าให้กูเห็นว่ามึงมองหน้ากูอีกนะ ไม่งั้นมึงเจอดีแน่” ปรเมศเค้นเสียงขุ่นคลั่กพร้อมชี้หน้าธารธาราอย่างเอาเรื่อง ทำให้ดนัยที่นั่งจิบเหล้าอยู่เงียบๆ อดสวนขึ้นด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้
“อ้าว…ไอ้เชี่ยนี่แม่งกัดไม่ปล่อยว่ะ ไอ้น้ำมันเป็นผู้หญิงนะโว้ย หัดให้เกียรติมันบ้าง”
“กูไม่เคยนับว่ามันเป็นผู้หญิง เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนออกมาเที่ยวกลางคืนกับผู้ชายเป็นฝูงแบบนี้หรอก ผู้หญิงดีๆ เขาไม่ทำกัน” วาจาแดกดันทำให้คนฟังนึกน้อยใจ
“ถ้ามึงยังไม่รู้จักกูดีพอก็อย่าตัดสินกูที่ภายนอก”
“กูจะตัดสิน แล้วมึงจะทำไม” ปรเมศลอยหน้ายียวน ขณะเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาผลักไหล่บางแรงๆ อย่างหาเรื่อง ทำเอาธารธาราต้องเอนตัวหนี แล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“น้ำว่าน้ำกลับก่อนดีกว่า”
สรรพนามที่เธอใช้แทนตัวเองกับเพื่อนของเขาทำให้ปรเมศเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ปนหงุดหงิด
“เฮอะ...น้ำอย่างนั้นเหรอ”
“ก็เออสิวะ กูจะบอกอะไรให้นะเว้ย ไอ้น้ำมันพูดไม่เพราะกับคนปากหมาอย่างมึงคนเดียวเท่านั้นแหละ ส่วนกับพวกกูมันแทนตัวเองว่าน้ำอย่างนั้น น้ำอย่างนี้” แทนไทเอ่ยอย่างเย้ยๆ
“พวกมึงไม่ขนลุกเหรอวะที่มันออกแนวหญิงขนาดนั้น”
“ขนลุกบ้าอะไรล่ะ น่ารักจะตาย เนอะคนสวย”
ขาดคำแทนไทก็หยิกแก้มธารธาราซึ่งนั่งข้างกันอย่างหยอกเอิน ขณะยักคิ้วให้ไอ้คนที่เอาแต่จ้องหน้าเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมปรเมศถึงดูโกรธขึ้งให้เขานักหนา แต่เขาโคตรพอใจเป็นบ้าที่เห็นคนมาดนิ่งเก็บอารมณ์เก่งอย่างมันกำลังจะฟิวส์ขาด
เอ๊ะ! หรือว่าไอ้เมศมันจะแอบหึงไอ้น้ำ บ้าไปแล้ว! คนเกลียดกันแอบหึงกันได้ด้วยเหรอวะ
“หึ…” ปรเมศทำเสียงบางอย่างในลำคอ
“ทำไมวะ มึงอิจฉาพวกกูหรือไง”
“เรื่องอะไรกูต้องอิจฉาพวกมึง” หลังจากเอ่ยเป็นเชิงปฏิเสธเสียงแข็งๆ คนพาลก็หันไปเล่นงานธารธาราต่อ “ไหนมึงบอกจะกลับไง มานั่งบื้ออยู่ทำไม”
การถูกขับไล่คล้ายรังเกียจจนไม่อาจใช้อากาศหายใจร่วมกันทำให้ธารธาราหมดสิ้นความอดทน เจ้าของร่างเพรียวระหงตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่กลับถูกแทนไทฉุดข้อมือกลมกลึงให้นั่งลงที่เดิม
“ไอ้เชี่ยเมศมึงหยุดขับไสไล่ส่งไอ้น้ำ แล้วมองมันเป็นเพื่อนซักวันได้ไหมวะ” ดนัยเอ่ยปรามอย่างนึกหมั่นไส้กับความร้ายกาจของไอ้เพื่อนตัวแสบที่สาดใส่ธารธาราไม่หยุดหย่อน
“ถ้ามันกินเหล้าชนะกูได้ กูจะยอมรับมันเป็นเพื่อน” พ่อหนุ่มพันธุ์ดิบประกาศกร้าว ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วท้าทายธารธาราด้วยท่าทางโอหัง
“ว่าไง…กล้าไหมล่ะ ใครน็อกก่อนถือว่าแพ้”
“เอาเลยไอ้น้ำ ถ้าเมาจนกลับไม่ไหว เดี๋ยวไปนอนกับกู” วาจาที่หลุดออกมาจากปากภูธฤทธิ์ทำให้ปรเมศเผลอชักสีหน้า ก่อนจะเอ่ยเสียงกระด้างเจือดุดัน
“กูถามมันไม่ได้ถามมึง!”
“เออ…กูเสือกเองแหละ” ภูธฤทธิ์กระแทกเสียงใส่อย่างนึกหมั่นไส้ ทว่าแทนที่จะสนใจวาจาแดกดันที่หลุดออกมาจากปากเพื่อนซี้ ปรเมศกลับหันไปคาดคั้นเอาคำตอบจากธารธาราอีกครา
“ว่าไง…กล้าพอไหมล่ะ”
“เออ…กูรับคำท้า”
ความใจกล้าของธารธาราทำให้สามหนุ่มที่เหลือต่างร้องเฮลั่นด้วยความถูกใจ ก่อนจะเรียกให้เด็กในร้านเอาเหล้ามาเพิ่ม แล้วการดวลเหล้าก็เริ่มขึ้น
“มึงคงเอาชนะกูยากหน่อยนะ เพราะกับคนที่กูเกลียดกูมักจะสู้ไม่มีถอยอยู่แล้ว” ครั้นสลับกันซัดเหล้าเข้าปากได้ไม่กี่แก้วปรเมศก็เอ่ยข่มขวัญคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“กูก็สู้ไม่มีถอยเหมือนกันนั่นแหละ เพราะกูก็เกลียดมึงไม่ต่างจากที่มึงเกลียดกู”
วาจาที่หลุดออกมาจากปากธารธาราทำให้คนที่ถูกผู้หญิงตอกหน้าว่าเกลียดเป็นครั้งแรกชะงักเล็กน้อย นัยน์ตากระด้างขึ้น ก่อนจะปรับสีหน้าให้ราบเรียบไร้อารมณ์ ส่วนแทนไทนั้นถึงขั้นตบเข้าที่หน้าขาดังป้าบด้วยความสะใจ
“มันต้องอย่างนี้สิวะไอ้น้ำ”
จากนั้นทั้งคู่ก็ดวลเหล้ากันแก้วแล้วแก้วเล่า โดยไม่มีทีท่าว่าจะมีใครยอมแพ้ หรือน็อกกลางอากาศ ทำให้สามหนุ่มที่นั่งเป็นกรรมการต่างพากันลุ้นจนตัวโก่ง
“มองหน้ากูทำไม แดกเหล้าในแก้วมึงไป หรือว่าจะยกธงขาวยอมแพ้ก็บอกมาดีๆ” ปรเมศเอ่ยเสียงดุๆ หลังจากสังเกตหลายครั้งแล้วว่าก่อนที่จะกระดกเหล้าลงคอธารธารามักจะจ้องหน้าเขาตาไม่กะพริบ นัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มที่ขัดกับบุคลิกห้าวๆ นั้นทำให้เขานึกหงุดหงิด
“เรื่องอะไรกูจะยอมแพ้คนร้ายกาจอย่างมึง”
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงปีหน้าน้ำก็จะให้ลูกเข้าโรงเรียน”ถึงที่สุดดูเหมือนว่าทั้งคู่จะยังหาข้อสรุปกับเรื่องนี้ไม่ได้ ธารธาราก็เลยตัดสินใจเอ่ยเป็นเชิงมัดมือชกเสียงแข็งๆ และมองหน้าหล่อๆ ทว่างอง้ำเหมือนเด็กถูกขัดใจอย่างเอาเรื่อง “โธ่…น้ำ” พ่อคนขี้หวงยังไม่วายโอดครวญ พร้อมทำหน้าละห้อยเรียกคะแนนสงสารจากภรรยา แต่นอกจากธารธาราจะไม่เห็นใจแล้วเธอยังถลึงตาใส่ “ไม่ต้องมาอ้อนเลย ถ้ายังเรื่องมากเอาแต่คัดค้านและปกป้องลูกอยู่ล่ะก็ น้ำจะไม่ยอมให้นอนด้วย ลูกก็ไม่ต้องทำแล้ว ลูกหมูสามตัวที่อยากได้เพิ่มก็ไม่ต้องเอา” ได้ทีคุณแม่ลูกสามที่แอบโหดก็เอ่ยออกมาด้วยท่าทางขึงขัง แววตาดุๆ นั้นบ่งบอกว่าเอาจริงจนคนเป็นสามีหงอ “น้ำก็…” พ่อเจ้าประคุณยังไม่วายพ้อหน้างอ“ไม่ต้องมาน้ำก็เลยนะพ่อตัวดี! จะเอาไหมลูกหมูสามตัวที่ขอเพิ่ม ถ้าจะเอาก็ต้องยอมให้ลูกไปโรงเรียนในปีหน้า ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำมันแล้วลูก ชุดพยาบาลสาวยั่วสวาท ชุดครูระเบียบแอบหื่น ชุดแม่บ้านจอมร่าน ที่แอบไปซื้อมาก็เอาไปเผาทิ้งเลยนะ น้ำไม่ยอมให้ทำลูกหรอก ดื้อหัวแข็งแบบนี้ก็ช่วยตัวเองไปเลย น้ำไม่เอาด้วยแล้ว” คราวนี้เธอขึ้นเสียงใส่คุณพ่อสุดดื้ออย่างเหลืออด คำพูดทำนอง
“เอ่อ…น้ำ แบบว่า…” คนถูกจับได้ไล่ทันถึงกับพูดไม่ออก “หรือเมศจะเถียงว่ามันไม่จริง”ได้ทีเธอก็ไล่บี้ พร้อมจ้องหน้าสามีตัวดีอย่างคาดโทษ เล่นเอาคนมีชนักติดหลังแทบสะดุ้งเฮือก ทว่ายังปั้นหน้ายิ้มจืดเจื่อนทำเป็นใจดีสู้เสือ แล้วเปล่งเสียงหวานๆ เป็นเชิงอ้อน “โธ่…เมียจ๋า”“ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลยนะ ลูกหลับแล้วน้ำจะชำระความกับเมศเป็นรายต่อไป” ธารธาราขึงตาใส่พ่อคนที่มักจะอ้อนให้เธอใจอ่อน แล้วตบท้ายด้วยการคาดโทษ“ชำระความบนเตียงใช่ไหม งั้นโอเคเลย” นอกจากจะไม่สลดกับความผิดที่ได้ก่อเอาไว้เท่าที่ควรแล้ว พ่อเจ้าประคุณคนหน้าตายแต่หื่นขึ้นสมองยังไม่วายสัพยอกด้วยวาจาชวนกระดากอายเป็นที่สุด พอเธอจะฟาดเข้าให้เขาก็เบี่ยงตัวหลบ ทำให้ลูกๆ ต่างประสานเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เพราะคิดว่าพ่อกับแม่กำลังหยอกเล่นกัน หลังจากเด็กๆ กินอาหารฝีมือแม่ได้ไม่นานก็หนังท้องตึงหนังตาหย่อน งอแงจนธารธาราและสามีต้องพาไปนอนกลางวัน กล่อมกันได้ไม่นานลูกหมูสามตัวก็สิ้นฤทธิ์หลับปุ๋ย เห็นลูกหลับแล้วปรเมศก็พยักหน้าเป็นเชิงชักชวนภรรยา แล้วทั้งสองก็เกี่ยวก้อยกันเดินออกมาจากห้องนอนของลูกๆ หลังจากปิดประตูห้องนอนของทั้งคู่ ปรเมศก็โอบ
ธารธารากำลังจะอ้าปากต่อว่า ทว่าแขนที่โดนมือเล็กป้อมกระตุกยิกๆ ก็ทำให้คุณแม่คนสวยที่กำลังจะแยกเขี้ยวใส่สามีเปลี่ยนมาเป็นยิ้มหวานหยด “เอกเป็นคนชวนพ่อไปหาแม่เองครับ” เด็กชายอธิปกยืดอกปกป้องพ่อที่กำลังจะโดนแม่ดุอย่างกล้าหาญ ส่วนอีกสองแฝดก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน “โทก็ชวนพ่อเหมือนกันครับ”“ตรีก็ด้วยค่า”“พวกเราหิว แล้วก็คิดถึงแม่ด้วยครับ” คราวนี้เป็นคนที่หิวจัดกว่าใครอื่นอย่างทินวิทย์ที่เอ่ยอธิบายว่าทำไมต้องขัดคำสั่งแม่ ตบท้ายด้วยการออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชัง ก่อนเสียงใสๆ อีกสองเสียงจะเอ่ยอย่างเห็นด้วย“ใช่ครับ” “ช่ายค่า”“น่ารักที่สุดเลย มาให้แม่หอมคนละทีเสียดีๆ”จากที่จะเล่นงานสามีตัวดีที่ชอบตามใจลูก ธารธาราก็เปลี่ยนเรื่องไปเสียดื้อๆ ทำให้ปรเมศลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “น้ำอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” หลังจากยืนดูเมียกับลูกต่างกอดและหอมกัน บ้างมีเสียงหัวเราะสอดประสานก้องกังวาน คนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกก็เอ่ยถามเมียรักเสียงนุ่มละมุน “ไม่ค่ะ น้ำยังไงก็ได้ แล้วเด็กๆ ล่ะคะลูก อยากกินอะไรเอ่ย” ธารธาราส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะก้มลงถามลูกทั้งสามคนอย่างอ่อนโยน ท่าที
ถึงแม้จะแต่งงานกันมาสี่ปี ความรักของปรเมศและธารธาราก็ยังคงเป็นที่อิจฉาและกล่าวขานถึงของคนรอบข้าง แถมลูกหมูตัวแสบทั้งสามยังเป็นที่รักและเอ็นดูของคนที่พบเห็น เวลามาโรงพยาบาลทีไรเป็นต้องถูกพยาบาลสาวๆ มาขอถ่ายรูป ขอกอด ขอหอม เรียกได้ว่าฮอตเหมือนพ่อไม่มีผิด “พ่อครับ เมื่อไหร่แม่จะมา โทหิวข้าวแล้ว” คนที่เล่นของเล่นรอแม่จนเบื่อเดินไปเกาะแขนบิดาที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น ทว่ายังไม่ทันที่ปรเมศจะตอบเจ้าตัวแสบที่ชอบเรียกร้องความสนใจก็มีคนช่วยจัดการแทนอย่างรู้หน้าที่จนเขาเผลอยิ้มกว้างออกมา “โทอย่าไปกวนพ่อ กลับมาเล่นกับพี่ เดี๋ยวแม่ก็มาแล้ว” พี่ใหญ่ที่มีบุคลิกเหมือนผู้เป็นพ่อ แถมยังหน้าตาเหมือนพิมพ์เดียวกัน หันไปเรียกน้องชายเสียงขรึมพร้อมโชว์ของเล่นในมือ “แต่โทหิวข้าวนี่นา” คนเป็นน้องหันไปมองพี่ชายฝาแฝด แล้วเอ่ยเสียงอ่อยๆ พร้อมลูบท้องให้ดูน่าสงสาร จากนั้นก็เดินไปหาอีกฝ่าย ไม่นานเสียงใสๆ ก็ดังขึ้น “ตรีก็หิว อยากกินหนมด้วย” ขาดคำน้องน้อยแฝดคนสุดท้องก็วางตุ๊กตาเจ้าหญิงเอลซ่าในมือลงอย่างหมดความสนใจ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนบิดา แล้วเงยหน้าอ้อนเสียงหวาน “พ่อจ๋า…”“จ๋า…ว่าไงคะ นางฟ้าตัวน้
หากแต่ธารธารากลับต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็ปลดขาเรียวเสลาที่ตวัดรัดรอบเอวสอบออกเสียดื้อๆ จากนั้นก็ให้ลงไปยืนบนพื้น ทว่าไม่นานก็ต้องหลุดอุทานออกมา เมื่อคนลีลาท่ามากที่ยังไม่ยอมจับจูงเธอไปสู่จุดสูงสุดของความหฤหรรษ์ จับร่างอ้อนแอ้นให้หันหน้าเข้าหาโต๊ะ โดยที่มือทั้งสองค้ำโต๊ะเอาไว้เป็นหลักยึด จากนั้นก็เคลื่อนกายทรงพลังประกบซ้อนหลัง แล้วย่อตัวลงเสียบเสยความอลังการเข้าสู่ความคับแคบทว่าร้อนผ่าวในคราเดียวจนสุดลำ เรียกเสียงร้องอู้ ปากอิ่มห่อเข้าหากันเป็นรูปตัวโอ “โอ้วววว…อ๊า…ซี้ดดดดด…”จากนั้นธารธาราก็แอ่นสะโพกผายมาทางเบื้องหลัง อำนวยความสะดวกให้สามีได้อัดกระหน่ำเข้าหาอย่างล้ำลึก ร้องครางเกือบเป็นตะโกนประหนึ่งคนสติไม่สมประดี ในวินาทีที่พ่อตัวดีลดจังหวะการร่วมรักจากเร่าร้อนให้เป็นเชื่องช้าบาดอารมณ์ แถมยังจับขาข้างหนึ่งของเธอไปพาดตรงขอบโต๊ะ เปิดทางให้เขาขยับสับสอดได้อย่างถนัดถนี่ ปรเมศถอนความโอฬารอันแข็งกร้าวออกมา แล้วตอกอัดเข้าหาอย่างดิบเถื่อน ทำอย่างนั้นย้ำๆ ซ้ำๆ จนคนตัวเล็กดีดดิ้น และจิกข่วนโต๊ะจนเล็บแทบฉีก จากนั้นพ่อคนไม่ได้โตแต่ตัวก็สับสะโพกเข้าใส่พูเนื้อหยาดเย
“ไม่ใช่แค่ใส่ให้ดู แต่ใส่ให้ผัวรัก ใส่ให้ผัวหลง”คนเจ้าเล่ห์ขยิบตาให้ด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มชวนใจละลาย ฉุดข้อมือกลมกลึงให้ผุดลุกขึ้น แล้วรุนหลังเมียเข้าไปยังมุมแต่งตัว จากนั้นก็ถอยออกมารอยลโฉมสาวใช้ของเขาอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากสวมชุดสุดวาบหวิวที่สามีมัดมือชกเข้าไป ธารธาราก็แทบจะถอดออก แล้วเอาไปเผาไฟทิ้งเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด ในวินาทีที่เหลือบเห็นสภาพอันน่ากระดากอายของตัวเองในกระจก ใบหน้างามก็ร้อนซู่จนเกือบจะไหม้ เพราะนมแทบจะทะลักออกมา เนื่องจากสองเต้าเขย่าโลกดันเนื้อผ้าอันน้อยนิดจนกระดุมปริแยก ส่วนก้นก็แทบจะโผล่พ้นชายกระโปรงสุดแสนจะสั้น เห็นกางเกงในอยู่รำไร คุณหมอสาวที่สามีอยากให้แปลงร่างเป็นสาวใช้กัดปากเดินไปเดินมาอย่างชั่งใจ แต่ด้วยความที่อยากเอาใจอีกฝ่าย สุดท้ายธารธาราก็ต้องกลั้นใจเดินออกมาจากมุมแต่งตัวด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน ทันใดนั้นลมหายใจของเธอก็ต้องสะดุด รู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนระทวยจนเกือบลงไปกองกับพื้น เมื่อเหลือบไปเห็นคนที่นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงโดยชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้ ในสภาพที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวติดกายแต่กระดุมกลับถูกเจ้าตัวปลดออกทั้งแถบ แผงอกล่ำๆ เปลื







