Se connecter
14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ เมื่อสิบปีก่อน
ในวันแห่งความรักเช่นนี้ใครต่อใครต่างมอบดอกกุหลาบหรือของขวัญแทนใจให้คนที่ตัวเองรัก บางคนก็เซอร์ไพรส์แฟนด้วยการขอแต่งงาน บางคู่ก็ถือเอาวันที่โลกเป็นสีชมพูเช่นนี้เป็นการออกเดตครั้งแรก และก็มีอีกหลายคนที่เดินเข้าไปสารภาพรักกับคนที่ตัวเองแอบรัก เช่นเดียวกับธารธารา อัศวนนท์ นักศึกษาแพทย์ ปีสอง ของมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ ซึ่งใครต่อใครต่างคิดว่าเธอเป็นทอม ชอบผู้หญิง เพียงเพราะเธอชอบแต่งตัวเหมือนผู้ชาย แต่จริงๆ แล้วเธอนั้นเป็นผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ และแอบรักเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง จนถึงขั้นหาทางสารภาพรักกับเขาในวันนี้
หลังจากแอบเอาของขวัญไปใส่ไว้ในล็อกเกอร์ของอีกฝ่ายในตอนเช้าตรู่ที่ปราศจากผู้คน ธารธาราก็ออกอาการกระวนกระวายจนเรียนไม่รู้เรื่อง กระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน
ปรเมศ จิรกุล หนุ่มฮอตของคณะแพทย์ศาสตร์เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกล่องของขวัญในมือ
“นี่ของมึงใช่ไหม” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทว่าเย็นชา นัยน์ตาว่างเปล่า เอ่ยเสียงเรียบ
“เอ่อ…” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบว่ากระไรเขาก็สวนขึ้นเสียก่อน
“เอาของมึงคืนไป” เขายื่นกล่องของขวัญมาตรงหน้า ครั้นเธอจะรับอีกฝ่ายกลับจงใจปล่อยให้มันร่วงลงกระทบพื้นอย่างไม่แยแส จนสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเด็นออกมา
ธารธาราก้มลงมองนาฬิกาเรือนหรูที่ตัวเองอุตส่าห์เก็บเงินซื้อเกือบห้าเดือนด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเม้มปากแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์
“ทีหลังไม่ต้องเอาอะไรมาให้กูนะ กูไม่อยากได้ของมึง แล้วก็หัดเจียมตัวซะบ้าง กูเกลียดพวกผิดเพศจำไว้!”
“กูไม่ได้เป็นพวกผิดเพศ แค่ชอบแต่งตัวเหมือนผู้ชาย กูผิดมากหรือไง” เธอค้านเสียงแข็งๆ แล้วเอ่ยเป็นเชิงพ้อในตอนท้าย คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเธอไม่อยากตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ไม่อยากปกปิดตัวตนที่แท้จริงในคราบของเครื่องแต่งกายทะมัดทะแมง หากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตไม่ตามมาหลอกหลอนเธอจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ยังไม่ทันที่แบดบอยตัวร้ายซึ่งมักแสดงด้านมืดออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอจะได้สวนกลับด้วยวาจาสุดโอหัง เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็มุ่งตรงมาทางที่ทั้งคู่กำลังยืนหลบมุมอยู่
“พี่เมศขา…เมเม่ตามหาตั้งนานมาอยู่ที่นี่เอง”
น้ำเสียงหวานหยดเจือออดอ้อนอ่อนหวานของผู้มาใหม่ทำให้ธารธาราจำต้องกลั้นใจปรับสีหน้าให้เรียบสนิท ทว่าในวินาทีถัดมากลับต้องหัวตาร้อนผ่าว เมื่อสาวสวยดาวมหา’ลัยเดินเข้ามาเกาะแขนกำยำของปรเมศ แต่ที่มันชวนปวดใจกว่านั้นก็คือเขาหันไปคลี่ยิ้มบางๆ ทว่าอบอุ่นให้อีกฝ่าย แล้วยีผมแฟนสาวจนหล่อนหัวเราะคิกคัก ภาพสวีตที่เห็นตำตาทำให้ธารธาราแทบจะทนดูไม่ได้ และเขาก็เหมือนเลิกคิ้วท้าทายเธอ ก่อนจะก้มลงไปพูดกับแฟนสาว
“โทษทีนะตัวเล็ก พี่ลืมบอกไปเลยครับว่าจะมาที่นี่” น้ำเสียงสุภาพเจืออ่อนโยนที่หลุดออกมาจากปากหยักทำให้คนที่ตกเป็นส่วนเกินอดอิจฉาแม่สาวสวยตรงหน้าไม่ได้
“ขี้ลืมแบบนี้ต้องถูกทำโทษรู้มั้ยคะ”
“ยอมให้ทำโทษทั้งคืนเลยครับที่รัก” เขาเอ่ยเย้าอย่างยิ้มๆ พร้อมจ้องดวงหน้าสวยเฉี่ยวด้วยนัยต์ตากรุ้มกริ่มสื่อความนัยลึกซึ้ง ทำให้อีกฝ่ายค้อนน้อยๆ
“ว่าแต่…มีอะไรกันหรือเปล่าคะ” ดาวมหา’ลัยคนสวยเอ่ยถามเสียงหวาน ขณะมองหน้าทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างใคร่รู้ แล้วทันใดนั้นหล่อนก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่ถูกทิ้งอย่างไร้ค่าบนพื้น
“นี่อย่าบอกนะว่าพี่มาสารภาพรักกับแฟนหนู” เจ้าของร่างสะโอดสะองหันขวับไปจ้องหน้าธารธารา แล้วเอ่ยเสียงแข็ง ความหึงหวงทำให้หล่อนเปลี่ยนท่าทีจากนางฟ้าเป็นนางมารร้ายในชั่วพริบตา
“ชู่ว์…ไม่เอา ไม่หัวร้อนนะคะคนสวย เมเม่ก็รู้นี่คะว่าพี่ไม่ชอบพวกผิดเพศ” ท้ายประโยคคนใจร้ายยังไม่วายตอกย้ำซ้ำเติมให้ธารธาราได้เจ็บปวดเป็นเท่าทวี
“งั้นเราไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวไม่ทันรอบหนังที่เมเม่อยากดู”
“โอเคครับ”
ขาดคำหนุ่มหล่อสาวสวยที่เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยกก็ก้าวจากไป ทิ้งให้คนที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ยืนเคว้งคว้างอยู่ทางเบื้องหลัง แต่ยังไม่ทันจะเดินไปได้ไกลดาวมหา’ลัยคนสวยก็ปลีกตัวไปคุยโทรศัพท์กับโมเดลลิ่งที่เธอสังกัดอยู่ ส่วนปรเมศก็เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เจ้าของร่างสูงใหญ่กลับหลังหัน แล้วเดินล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางขี้เก๊กมาหยุดลงตรงหน้าธารธารา
“เมื่อกี้กูลืมบอกไปอย่าง”
“มึงมีอะไรก็รีบพูดมา”
“ตัดใจจากกูซะ เพราะกูไม่มีวันชอบทอมอย่างมึง”
วาจาร้ายกาจสุดขั้วทำให้คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นทอมเจ็บลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หากแต่ต้องกำหมัดระงับความอ่อนไหว แล้วเชิดหน้าสวนกลับเสียงแข็งๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้ากูรักมึงได้ กูก็เลิกรักมึงได้เช่นกัน”
ธารธาราไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้ประกาศออกไปอย่างนั้น เธอก็แค่อยากให้ไอ้คนหลงตัวเองรู้สึกเสียหน้าบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะตัดใจจากอีกฝ่ายได้เช่นไร
ปรเมศทำเสียงเยาะในลำคอ แล้วเดินเข้าประชิดร่างบาง ทำเอาเธอถอยหลังไปเรื่อยๆ ด้วยสีหน้าหวาดหวั่น ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ เมื่อแผ่นหลังแนบไปกับผนังตรงมุมลับตาคน แล้วก็ต้องหลับตาปี๋ในวินาทีที่ใบหน้าหล่อลากไส้เคลื่อนลงมาหา ลมหายใจผ่าวระอุที่รินรดพวงแก้มร้อนจี๋ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ก่อนจะแว่วได้ยินเสียงหัวเราะกลั้วลำคอหนา ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็จงใจกระซิบชิดใบหูน้อยด้วยถ้อยคำสุดโอหัง
“หึ…ให้มันแน่เถอะว่ะ กูเห็นคนที่ตกหลุมรักกูถอนตัวไม่ขึ้นทุกราย โดยเฉพาะพวกผิดเพศชอบตีฉิ่งและไม่เคยโดน ‘ของจริง’ อย่างมึง ถ้าได้ลองซักครั้งคงโงหัวไม่ขึ้น แต่เสียใจด้วยว่ะ กูไม่นิยมกระเดือกหุ่นแห้งๆ เหมือนไม้กระดานอย่างมึง ชิบหาย! แค่คิดว่าจะเอากับมึงกูก็ขนลุกแล้วว่ะ”
หลังจากยืนกำหมัดตัวสั่นเทิ้มทนฟังผู้ชายพันธุ์ดิบเหน็บแนมจนจบ เธอก็ลืมตาพรึ่บ ผลักอกกว้างให้ถอยห่าง แล้วย้อนกลับทันควัน
“ไอ้คนบ้า! กูบอกแล้วไง ว่ากูไม่ใช่พวกผิดเพศ แค่เหมือนทอม แต่กูเป็นผู้หญิง! กูเป็นผู้หญิงได้ยินไหม!” ท้ายประโยคธารธาราระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหมดสิ้นความอดทน
“ต่อให้มึงสลัดคราบทอม แล้วแต่งหญิงให้สวยกว่านี้ร้อยเท่า กูก็ไม่เหลือบตาแล เกลียดก็คือเกลียด…ชัดนะ!”
แบดบอยตัวร้ายขยี้หัวใจเธอให้แหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี ตบท้ายด้วยการแค่นยิ้มหยัน แล้วหมุนตัวเดินไปโอบแฟนสาวที่คุยโทรศัพท์เสร็จพอดี จากนั้นทั้งคู่ก็เดินจากไป
ปรเมศจากไปแล้ว แต่เธอยังคงยืนขาตายอยู่ตรงนั้น อาการอกหักทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยคำว่ารักออกมาจากปากมันเจ็บปวดจนธารธาราทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนเม้มปากกลั้นน้ำตาที่กำลังจะทะลักออกมา สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างเรียกสติ แล้วทรุดกายลงเก็บนาฬิกาเจ้ากรรมที่หน้าปัดร้าวจากการผลักไสอย่างไม่ไยดีของผู้ชายใจทมิฬ จากนั้นก็เก็บมันไว้ในล็อกเกอร์ ให้มันเป็นสิ่งเตือนใจว่าเธอควรตัดใจจากคนใจร้ายพรรค์นั้นได้แล้ว
หลังจากวันนั้นหากมีปรเมศอยู่ที่ไหนก็จะต้องไม่มีธารธาราอยู่ที่นั่น แค่เห็นเธอไกลๆ เขาก็แสดงท่าทีหงุดหงิดเสียแล้ว การเปิดเผยความรู้สึกทำให้เขาเกลียดขี้หน้าเธอมากกว่าเดิม และนั่นทำให้เธอไม่กล้าเฉียดกายเข้าใกล้เขา ทำได้เพียงเฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเจียมตัวดีว่าอีกฝ่ายแสนจะรังเกียจตนมากแค่ไหน
ไม่นานปรเมศก็เลิกกับสาวสวยดาวมหา’ลัย แล้วคบคนใหม่ไปเรื่อย โดยไม่คิดจะจริงจังกับใคร ทำตัวเป็นเพลย์บอยเนื้อหอมที่มีสาวๆ เคียงข้างกายไม่ว่างเว้น หนุ่มฮอต รูปหล่อ พ่อรวย ไม่เคยปฏิเสธสาวๆ ที่เข้าหา ยกเว้นเธอเท่านั้นที่เขาไม่คิดจะรับไมตรีจิต ไม่ว่าจะในฐานะใดก็ตาม
แต่ที่มันน่าแปลกก็คืออยู่ๆ นาฬิกาที่ธารธาราเก็บไว้ในล็อกเกอร์ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันหายไปตอนไหนเธอมิอาจทราบได้ และไม่รู้ว่าใครเอามันไป จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
แต่ถึงแม้ว่านาฬิกาที่เป็นอนุสรณ์แห่งความเจ็บปวด เป็นสิ่งเตือนใจให้เธอหวนระลึกถึงการถูกคนที่ตัวเองแอบรักหักอกครั้งแรก จะหายไป แต่ความรักที่เธอมีต่อเขากลับไม่เคยจางหาย เช่นเดียวกับคำพูดที่เขาตอกหน้าอย่างไร้ความปรานีในวันนั้น ต่อให้ผ่านมานานแค่ไหนเธอก็ยังจำมันได้ขึ้นใจ ไม่อาจลืมเลือน
‘ต่อให้มึงสลัดคราบทอม แล้วแต่งหญิงให้สวยกว่านี้ร้อยเท่า กูก็ไม่เหลือบตาแล เกลียดก็คือเกลียด…ชัดนะ!’
ใครเลยจะรู้ว่าเธอไม่ได้อยากแต่งตัวเป็นทอม ไม่อยากถูกผู้ชายที่ตัวเองแอบรักประณามว่าเป็นพวกผิดเพศ ไม่อยากถูกเพศเดียวกันมารุมกรี๊ด หรือมาสารภาพรัก ไม่อยากฮอตในหมู่สาววาย หากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตไม่ตามมาหลอกหลอนเธอจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
เมื่อยี่สิบปีก่อน พ่อและแม่ของธารธาราถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมจากน้ำมือของหุ้นส่วนธุรกิจ คนเลวพวกนั้นกำลังจะลั่นไกปืนปลิดชีวิตเธอ หากคุณลุงข้างบ้านไม่มาช่วยไว้เสียก่อน จากการสูญเสียอันน่าเศร้าและแสนสะเทือนใจทำให้ลูกสาวมหาเศรษฐีอย่างเธอกลายเป็นคุณหนูตกยาก ไร้ที่พึ่ง บรรดาญาติๆ ต่างพากันผลักไสเพราะไม่อยากรับเป็นภาระ เดชะบุญที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ารับเธอไว้ในความดูแล ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ที่พักพิง ให้การศึกษา และให้ความรักความอบอุ่น แม้ว่ามันจะไม่อาจลบเลือนแผลในใจเธอได้ แต่มันก็ทุเลาลง กอปรกับเวลาช่วยเยียวยาให้ทุกอย่างดีขึ้น จนเธอสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากพ่อกับแม่
ทว่าไม่นานแผลในใจของเธอก็ถูกสะกิดขึ้น เมื่อมีชายฉกรรจ์มาถามหาเด็กผู้หญิงที่มีรูปพรรณสัณฐานเหมือนเธอ ซึ่งธารธาราจำได้ขึ้นใจว่าสองในสี่คือคนที่เป็นผู้ลงมือสังหารพ่อกับแม่ของเธออย่างเลือดเย็นต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นพวกมันก็มาป้วนเปี้ยนและด้อมๆ มองๆ แถวรั้วของสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เธอหวาดกลัวจนตามติดแม่ครูแจและเอาแต่ร้องไห้ ซึ่งแม่ครูผู้ที่เธอรักและเคารพเกรงว่าคนเหล่านั้นจะทำร้ายเธอ ท่านจึงให้เธอตัดผมสั้น แต่งตัวเหมือนเด็กผู้ชาย ให้เปลี่ยนชื่อและนามสกุลเสียใหม่ โดยใช้นามสกุลของท่าน ฉะนั้นจากเด็กหญิงนลีญา มหัสธาดา จึงกลายมาเป็นธารธารา อัศวนนท์ อย่างเช่นทุกวันนี้
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงปีหน้าน้ำก็จะให้ลูกเข้าโรงเรียน”ถึงที่สุดดูเหมือนว่าทั้งคู่จะยังหาข้อสรุปกับเรื่องนี้ไม่ได้ ธารธาราก็เลยตัดสินใจเอ่ยเป็นเชิงมัดมือชกเสียงแข็งๆ และมองหน้าหล่อๆ ทว่างอง้ำเหมือนเด็กถูกขัดใจอย่างเอาเรื่อง “โธ่…น้ำ” พ่อคนขี้หวงยังไม่วายโอดครวญ พร้อมทำหน้าละห้อยเรียกคะแนนสงสารจากภรรยา แต่นอกจากธารธาราจะไม่เห็นใจแล้วเธอยังถลึงตาใส่ “ไม่ต้องมาอ้อนเลย ถ้ายังเรื่องมากเอาแต่คัดค้านและปกป้องลูกอยู่ล่ะก็ น้ำจะไม่ยอมให้นอนด้วย ลูกก็ไม่ต้องทำแล้ว ลูกหมูสามตัวที่อยากได้เพิ่มก็ไม่ต้องเอา” ได้ทีคุณแม่ลูกสามที่แอบโหดก็เอ่ยออกมาด้วยท่าทางขึงขัง แววตาดุๆ นั้นบ่งบอกว่าเอาจริงจนคนเป็นสามีหงอ “น้ำก็…” พ่อเจ้าประคุณยังไม่วายพ้อหน้างอ“ไม่ต้องมาน้ำก็เลยนะพ่อตัวดี! จะเอาไหมลูกหมูสามตัวที่ขอเพิ่ม ถ้าจะเอาก็ต้องยอมให้ลูกไปโรงเรียนในปีหน้า ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำมันแล้วลูก ชุดพยาบาลสาวยั่วสวาท ชุดครูระเบียบแอบหื่น ชุดแม่บ้านจอมร่าน ที่แอบไปซื้อมาก็เอาไปเผาทิ้งเลยนะ น้ำไม่ยอมให้ทำลูกหรอก ดื้อหัวแข็งแบบนี้ก็ช่วยตัวเองไปเลย น้ำไม่เอาด้วยแล้ว” คราวนี้เธอขึ้นเสียงใส่คุณพ่อสุดดื้ออย่างเหลืออด คำพูดทำนอง
“เอ่อ…น้ำ แบบว่า…” คนถูกจับได้ไล่ทันถึงกับพูดไม่ออก “หรือเมศจะเถียงว่ามันไม่จริง”ได้ทีเธอก็ไล่บี้ พร้อมจ้องหน้าสามีตัวดีอย่างคาดโทษ เล่นเอาคนมีชนักติดหลังแทบสะดุ้งเฮือก ทว่ายังปั้นหน้ายิ้มจืดเจื่อนทำเป็นใจดีสู้เสือ แล้วเปล่งเสียงหวานๆ เป็นเชิงอ้อน “โธ่…เมียจ๋า”“ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลยนะ ลูกหลับแล้วน้ำจะชำระความกับเมศเป็นรายต่อไป” ธารธาราขึงตาใส่พ่อคนที่มักจะอ้อนให้เธอใจอ่อน แล้วตบท้ายด้วยการคาดโทษ“ชำระความบนเตียงใช่ไหม งั้นโอเคเลย” นอกจากจะไม่สลดกับความผิดที่ได้ก่อเอาไว้เท่าที่ควรแล้ว พ่อเจ้าประคุณคนหน้าตายแต่หื่นขึ้นสมองยังไม่วายสัพยอกด้วยวาจาชวนกระดากอายเป็นที่สุด พอเธอจะฟาดเข้าให้เขาก็เบี่ยงตัวหลบ ทำให้ลูกๆ ต่างประสานเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เพราะคิดว่าพ่อกับแม่กำลังหยอกเล่นกัน หลังจากเด็กๆ กินอาหารฝีมือแม่ได้ไม่นานก็หนังท้องตึงหนังตาหย่อน งอแงจนธารธาราและสามีต้องพาไปนอนกลางวัน กล่อมกันได้ไม่นานลูกหมูสามตัวก็สิ้นฤทธิ์หลับปุ๋ย เห็นลูกหลับแล้วปรเมศก็พยักหน้าเป็นเชิงชักชวนภรรยา แล้วทั้งสองก็เกี่ยวก้อยกันเดินออกมาจากห้องนอนของลูกๆ หลังจากปิดประตูห้องนอนของทั้งคู่ ปรเมศก็โอบ
ธารธารากำลังจะอ้าปากต่อว่า ทว่าแขนที่โดนมือเล็กป้อมกระตุกยิกๆ ก็ทำให้คุณแม่คนสวยที่กำลังจะแยกเขี้ยวใส่สามีเปลี่ยนมาเป็นยิ้มหวานหยด “เอกเป็นคนชวนพ่อไปหาแม่เองครับ” เด็กชายอธิปกยืดอกปกป้องพ่อที่กำลังจะโดนแม่ดุอย่างกล้าหาญ ส่วนอีกสองแฝดก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน “โทก็ชวนพ่อเหมือนกันครับ”“ตรีก็ด้วยค่า”“พวกเราหิว แล้วก็คิดถึงแม่ด้วยครับ” คราวนี้เป็นคนที่หิวจัดกว่าใครอื่นอย่างทินวิทย์ที่เอ่ยอธิบายว่าทำไมต้องขัดคำสั่งแม่ ตบท้ายด้วยการออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชัง ก่อนเสียงใสๆ อีกสองเสียงจะเอ่ยอย่างเห็นด้วย“ใช่ครับ” “ช่ายค่า”“น่ารักที่สุดเลย มาให้แม่หอมคนละทีเสียดีๆ”จากที่จะเล่นงานสามีตัวดีที่ชอบตามใจลูก ธารธาราก็เปลี่ยนเรื่องไปเสียดื้อๆ ทำให้ปรเมศลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “น้ำอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” หลังจากยืนดูเมียกับลูกต่างกอดและหอมกัน บ้างมีเสียงหัวเราะสอดประสานก้องกังวาน คนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกก็เอ่ยถามเมียรักเสียงนุ่มละมุน “ไม่ค่ะ น้ำยังไงก็ได้ แล้วเด็กๆ ล่ะคะลูก อยากกินอะไรเอ่ย” ธารธาราส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะก้มลงถามลูกทั้งสามคนอย่างอ่อนโยน ท่าที
ถึงแม้จะแต่งงานกันมาสี่ปี ความรักของปรเมศและธารธาราก็ยังคงเป็นที่อิจฉาและกล่าวขานถึงของคนรอบข้าง แถมลูกหมูตัวแสบทั้งสามยังเป็นที่รักและเอ็นดูของคนที่พบเห็น เวลามาโรงพยาบาลทีไรเป็นต้องถูกพยาบาลสาวๆ มาขอถ่ายรูป ขอกอด ขอหอม เรียกได้ว่าฮอตเหมือนพ่อไม่มีผิด “พ่อครับ เมื่อไหร่แม่จะมา โทหิวข้าวแล้ว” คนที่เล่นของเล่นรอแม่จนเบื่อเดินไปเกาะแขนบิดาที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น ทว่ายังไม่ทันที่ปรเมศจะตอบเจ้าตัวแสบที่ชอบเรียกร้องความสนใจก็มีคนช่วยจัดการแทนอย่างรู้หน้าที่จนเขาเผลอยิ้มกว้างออกมา “โทอย่าไปกวนพ่อ กลับมาเล่นกับพี่ เดี๋ยวแม่ก็มาแล้ว” พี่ใหญ่ที่มีบุคลิกเหมือนผู้เป็นพ่อ แถมยังหน้าตาเหมือนพิมพ์เดียวกัน หันไปเรียกน้องชายเสียงขรึมพร้อมโชว์ของเล่นในมือ “แต่โทหิวข้าวนี่นา” คนเป็นน้องหันไปมองพี่ชายฝาแฝด แล้วเอ่ยเสียงอ่อยๆ พร้อมลูบท้องให้ดูน่าสงสาร จากนั้นก็เดินไปหาอีกฝ่าย ไม่นานเสียงใสๆ ก็ดังขึ้น “ตรีก็หิว อยากกินหนมด้วย” ขาดคำน้องน้อยแฝดคนสุดท้องก็วางตุ๊กตาเจ้าหญิงเอลซ่าในมือลงอย่างหมดความสนใจ ก่อนจะเดินมาเกาะแขนบิดา แล้วเงยหน้าอ้อนเสียงหวาน “พ่อจ๋า…”“จ๋า…ว่าไงคะ นางฟ้าตัวน้
หากแต่ธารธารากลับต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็ปลดขาเรียวเสลาที่ตวัดรัดรอบเอวสอบออกเสียดื้อๆ จากนั้นก็ให้ลงไปยืนบนพื้น ทว่าไม่นานก็ต้องหลุดอุทานออกมา เมื่อคนลีลาท่ามากที่ยังไม่ยอมจับจูงเธอไปสู่จุดสูงสุดของความหฤหรรษ์ จับร่างอ้อนแอ้นให้หันหน้าเข้าหาโต๊ะ โดยที่มือทั้งสองค้ำโต๊ะเอาไว้เป็นหลักยึด จากนั้นก็เคลื่อนกายทรงพลังประกบซ้อนหลัง แล้วย่อตัวลงเสียบเสยความอลังการเข้าสู่ความคับแคบทว่าร้อนผ่าวในคราเดียวจนสุดลำ เรียกเสียงร้องอู้ ปากอิ่มห่อเข้าหากันเป็นรูปตัวโอ “โอ้วววว…อ๊า…ซี้ดดดดด…”จากนั้นธารธาราก็แอ่นสะโพกผายมาทางเบื้องหลัง อำนวยความสะดวกให้สามีได้อัดกระหน่ำเข้าหาอย่างล้ำลึก ร้องครางเกือบเป็นตะโกนประหนึ่งคนสติไม่สมประดี ในวินาทีที่พ่อตัวดีลดจังหวะการร่วมรักจากเร่าร้อนให้เป็นเชื่องช้าบาดอารมณ์ แถมยังจับขาข้างหนึ่งของเธอไปพาดตรงขอบโต๊ะ เปิดทางให้เขาขยับสับสอดได้อย่างถนัดถนี่ ปรเมศถอนความโอฬารอันแข็งกร้าวออกมา แล้วตอกอัดเข้าหาอย่างดิบเถื่อน ทำอย่างนั้นย้ำๆ ซ้ำๆ จนคนตัวเล็กดีดดิ้น และจิกข่วนโต๊ะจนเล็บแทบฉีก จากนั้นพ่อคนไม่ได้โตแต่ตัวก็สับสะโพกเข้าใส่พูเนื้อหยาดเย
“ไม่ใช่แค่ใส่ให้ดู แต่ใส่ให้ผัวรัก ใส่ให้ผัวหลง”คนเจ้าเล่ห์ขยิบตาให้ด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มชวนใจละลาย ฉุดข้อมือกลมกลึงให้ผุดลุกขึ้น แล้วรุนหลังเมียเข้าไปยังมุมแต่งตัว จากนั้นก็ถอยออกมารอยลโฉมสาวใช้ของเขาอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากสวมชุดสุดวาบหวิวที่สามีมัดมือชกเข้าไป ธารธาราก็แทบจะถอดออก แล้วเอาไปเผาไฟทิ้งเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด ในวินาทีที่เหลือบเห็นสภาพอันน่ากระดากอายของตัวเองในกระจก ใบหน้างามก็ร้อนซู่จนเกือบจะไหม้ เพราะนมแทบจะทะลักออกมา เนื่องจากสองเต้าเขย่าโลกดันเนื้อผ้าอันน้อยนิดจนกระดุมปริแยก ส่วนก้นก็แทบจะโผล่พ้นชายกระโปรงสุดแสนจะสั้น เห็นกางเกงในอยู่รำไร คุณหมอสาวที่สามีอยากให้แปลงร่างเป็นสาวใช้กัดปากเดินไปเดินมาอย่างชั่งใจ แต่ด้วยความที่อยากเอาใจอีกฝ่าย สุดท้ายธารธาราก็ต้องกลั้นใจเดินออกมาจากมุมแต่งตัวด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน ทันใดนั้นลมหายใจของเธอก็ต้องสะดุด รู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนระทวยจนเกือบลงไปกองกับพื้น เมื่อเหลือบไปเห็นคนที่นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงโดยชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้ ในสภาพที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวติดกายแต่กระดุมกลับถูกเจ้าตัวปลดออกทั้งแถบ แผงอกล่ำๆ เปลื







