“อย่า! อื๊อ...” อินนัดดาร้องห้ามอีกครั้ง แต่ปัณณธรไม่อยากได้ยิน เขาผละจากอกนุ่มหยุ่นอย่างเสียดาย แต่เขารำคาญเสียงสะอื้นและถ้อยคำที่คอยแต่จะห้ามเขาอยู่ตลอดเวลามากกว่า ชายหนุ่มเลือกที่จะดูดซับเสียงนั้นไว้ทั้งหมดด้วยการมอบจูบที่เร่าร้อนให้หญิงสาวเนิ่นนาน
“เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน ร่างกายของเธอเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้อินนัดดา” ปัณณธรกระซิบเสียงเครียด บอกคนที่หอบหายใจแรงให้รับรู้
“หนูจะหย่า หนูไม่แต่งงานกับคุณแล้ว ปล่อยนะ ปล่อย”
“ฉันปล่อยเธอไปแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอสูญเสียทุกอย่าง!!”
ปัณณธรตะคอกเสียงดัง มือใหญ่จับบ่าบอบบางทั้งสองข้างบีบแน่น อินนัดดาเจ็บจนต้องนิ่วหน้า
“แต่ฉันจะปราณี...อย่างน้อย ฉันจะให้เธอได้เหลือลมหายใจกลับไป” ชายหนุ่มยิ้มร้ายกาจ จนอินนัดดารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
“คุณมันโรคจิต ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย”
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกอินนัดดา แม้แต่ครอบครัวของเธอ พวกเขายังเต็มใจยกเธอให้ฉันเลย”
“ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต อื๊อ!” ปัณณธรจูบปากเล็กช่างโวยวายอีกครั้ง เร่าร้อนและรุนแรงจนอินนัดดาแทบขาดใจ ชายหนุ่มดึงผ้าขนหนูให้พ้นจากร่างตนเอง ความแข็งแกร่งร้อนผ่าวแนบไปบนต้นขาเนียน และนั่นทำให้อินนัดดาเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ปัณณธรไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว ร่างนุ่มนิ่มเนียนมือ กลิ่นกายสาวหอมกรุ่น และรสจูบไม่ประสาที่หวานล้ำ ทำให้ร่างใหญ่รุ่มร้อน กลางกายเหยียดขยายเคร่งครัด เขาจับต้นขาเนียนแยกกว้างแล้วกดทับไว้ด้วยต้นขาของตนเอง สะโพกสอบขยับถูไถความแกร่งแกร่งไปบนเนินเนื้อสาวนุ่มนิ่ม มือใหญ่ช้อนลงใต้สะโพกมนจับตรึงไว้รอรับการสอดแทรก
“อา...ร้อนเร็วดีมากอินนัดดา” เนื้อนุ่มเสียดสีกับความแข็งแกร่งซ้ำๆ ทำให้อินนัดดาปั่นป่วนวาบหวิวไปทั้งร่าง กลางกายสาวกลั่นน้ำหวานออกมามากมาย หญิงสาวไม่ได้ดิ้นรนหนีเขาอีกต่อไป มือที่คอยผลักไสกลับยกขึ้นกอดร่างใหญ่ไว้แน่น ขาเรียวแยกกว้างแอ่นสะโพกขึ้นรับการเสียดสี อยากได้มากกว่า
นี้อยากใกล้ชิดมากกว่านี้ ปัณณธรหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องมองดวงหน้าเนียนแดงเรื่อ เธอหลับตาพริ้ม ปากเล็กบวมเจ่อเพราะถูกเขาจูบซ้ำๆเผยอเล็กน้อย เขายิ้มอย่างดูแคลน ก่อนจะยกสะโพกขึ้นค่อยๆกดส่วนปลายลงในร่องรักชุ่มฉ่ำ
“อ๊ะ!” อินนัดดาเบิกตากว้างเมื่อถูกรุกล้ำ ความคับแน่นของช่องทางรักที่ยังไม่เคยมีสิ่งใดกล้ำกราย ทำให้ความใหญ่โตของคนรุกรานไม่สามารถเข้าไปได้อย่างใจคิด ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ และพยายามที่จะแทรกตัวตนเข้าไปในร่างหญิงสาวให้ได้
“เจ็บนะ เอามันออกไป ฮึกๆ” ปัณณธรกำหมัดแน่นทุบลงบนโซฟา เขาทรมานต้องการปลดปล่อย แต่ความคับแน่นและอาการดิ้นรนของเจ้าสาวตัวเล็ก ทำให้เขาต้องหยุดการทุกอย่างไว้ก่อน เพราะหากขืนบุ่มบ่ามเดินหน้าต่อ อินนัดดาคงไม่สามารถไปร่วมงานเลี้ยงฉลองค่ำนี้ได้แน่ นี่แค่ส่วนปลายลำแกร่งเดินทางไปจดจ่ออยู่ทางเข้า คนตัวเล็กใต้ร่างยังดิ้นรนแทบเป็นแทบตาย
อินนัดดารีบหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง ถอยร่นไปจนชิดพนักวางแขนโซฟาอีกด้านทันที เมื่อเจ้าบ่าวที่เกือบปล้นพรหมจรรย์ของเธอลุกขึ้นนั่ง หญิงสาวงอเข่ากอดตัวเองมองหน้าชายหนุ่มอย่างหวาดกลัว ปัณณธรกระตุกยิ้มร้ายกาจ ขยับตัวเร็วรวบเอาร่างเล็กมานั่งบนตักตัวเอง
“ปล่อยนะ...”
“อย่าดิ้น! ไม่อย่างนั้นเธอได้เสียเลือดแน่” เสียงขู่ที่ดังอยู่แนบต้นคอด้านหลังทำให้อินนัดดาชะงักนั่งนิ่ง จมูกโด่งที่ซุกไซ้ดอมดมและความแข็งขึงที่ดุนดันอยู่ชิดสะโพก ทำให้หญิงสาวนั่งตัวเกร็งหลับตากัดฟันแน่น
“อุ๊ย!” เสียงหวานอุทานแผ่ว เมื่อปัณณธรเอนหลังกับพนักโซฟา จับพลิกร่างเล็กให้หันหน้ามาหาตนเองและนั่งคร่อมบนต้นขาแกร่ง อินนัดดาหลุบตามองความใหญ่โตที่อยู่กลางกายชายหนุ่ม แล้วรีบเงยหน้าขึ้นทันที แก้มสาวร้อนผ่าวแดงเรื่อซับสีเลือด
“เลือกเอาระหว่างที่จะให้มันเข้าไปอยู่ในตัวเธอ หรือเธอจะทำยังไงก็ได้ให้มันสงบลง” อินนัดดาสบตาคนพูด ด้วยแววตาที่อยากจะร้องไห้เหลือเกิน ถึงจะไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายใดมาก่อน แต่เธอก็ใช่ว่าจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ปัณณธรเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามว่าเธอจะเลือกแบบไหน วงแขนแกร่งที่กอดเอวคอดของเธอไว้หลวมๆเริ่มกระชับแน่น อินนัดดาจึงเลือกที่จะเอื้อมมือออกไปเพื่อจะสัมผัสตัวตนของชายหนุ่ม อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่เธอจะต้องเสียเลือด เสียพรหมจรรย์ให้กับคนที่ไม่ได้รักกันไม่ใช่เหรอ หญิงสาวหลับตาลูบมือคลำผ่านกล้ามเนื้อหน้าท้องจนถึงสิ่งที่ร้อนผ่าวและแข็งกร้าว สองมือเล็กรวบไว้แน่น จนเจ้าของมันสะดุ้ง
“ขยับสิอิน อา...” อินนัดดาเพียงแค่จับแล้วปล่อยลูบไปมา เธอไม่รู้ว่าขยับของเขาเป็นแบบไหน มือนุ่มนิ่มที่ป่ายปัดลูบคลำสะเปะสะปะไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ก่อให้เกิดความเสียวซ่านนัก ปัณณธรจึงจับสองมือน้อยนำทางให้เธอรู้ว่าเขาต้องการเช่นไร ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะทรมานตายเพราะความอัดอั้นเสียก่อน เมื่อหญิงสาวจับจังหวะได้จึงปล่อยให้เธอเป็นคนควบคุมเอง ใบหน้าหล่อเข้มก้มลงซุกไซ้ที่อกอวบ ดูดดึงและขบเม้มสร้างรอยไว้เพื่อให้รู้ว่าเขาคือเจ้าของร่างนี้ มือใหญ่บีบเคล้นสะโพกเต่งตึงไล้วนขึ้นมาที่แผ่นหลังเนียน กดให้หญิงสาวแอ่นตัว เพื่อป้อนอกอวบเข้าปากของตนเองได้ถนัด อินนัดดายอมทุกอย่างไม่ดีดดิ้น เพราะกลัวเขาจะรุกรานในจุดที่เธอหวาดกลัวที่สุด
หากแต่เมื่อเขาใช้มือใหญ่กดตรึงสะโพกกลมกลึงของตนไว้ และสามีเริ่มส่ายวนบดเบียดช้าๆ หญิงสาวก็หลงลืมตัวขยับรับเขาอย่างรู้งาน ก้องภพหัวเราะเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะที่ปานรักรู้ว่าเขาพอใจที่ชักนำเธอให้หลงติดกับดักได้ แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เธอก็พร้อมและเต็มใจกระโจนเข้าสู่กับดักของเขาทุกทีสิน่า หญิงสาวหลับตาแน่น ซึมซับความเร่าร้อนที่สาดซัดเข้าสู่ร่างอย่างไม่เกี่ยงงอน เขาต้องการเธอ เธอต้องการเขา ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนสัมผัสแห่งรักที่มอบให้กันยังจะงดงามอยู่เสมอ เพราะมั่นใจว่าไม่ว่าจะเนิ่นนานเพียงใด หัวใจรักของเขาและเธอก็จะมีเพียงกันและกันตลอดไป“ไง...ไอเสือปัณ ลูกแกมาเกิดหรือยัง” เช้าวันสุดท้ายก่อนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมของน้องเขย ปัณณธรถูกต้นตะวันแซวถาม ชายหนุ่มตวัดค้อนให้ภรรยาที่นั่งป้อนอาหารเช้าให้บุตรชายอยู่ข้างๆกัน ภายในโซนห้องอาหารริมทะเลแบบเอาท์ดอร์ของโรงแรม“อย่าให้ถึงทีกูนะ ไอ้หมอ” ปัณณธรตอบกลับเพื่อนด้วยเสียงรอดไรฟัน อินนัดดาไม่สนใจสามีนัก ที่จริงเธอไม่ได้กินยาคุมกำเนิดมาตั้งนานแล้ว และประจำเดือนก็ขาดไปสองเดือนแล้ว คุณสามีเธอก็ช่างไม่สังเกตเอาเสียเลย
“ปานนึกว่าพี่ก้องจะพาไปเล่นน้ำทะเลเสียอีก” หญิงสาวจูงมือสามีเดินมานั่งหย่อนขาลงในสระน้ำ“เรื่องอะไรจะให้เมียใส่ชุดแบบนี้ไปโชว์คนอื่น พี่จะเก็บไว้ดูคนเดียวครับ” ปานรักหันมาค้อนให้สามี“ค่า...ขอบคุณมากนะคะพี่ก้อง” ปานรักจุ๊บปากสามีเบาๆ แล้วเคลื่อนตัวลงสระ ก้องภพมองตามยิ้มๆ แล้วเคลื่อนตัวลงไปอยู่ในสระกับภรรยา ชายหนุ่มนั่งอยู่ในส่วนที่ตื้นของสระมองดูภรรยาว่ายโผไปมาอย่างมีความสุข เมื่อตะวันใกล้จะลาลับจากขอบฟ้า เขาก็เรียกภรรยาให้มานั่งซ้อนบนตัก โอบกอดร่างบางไว้อย่างแสนรัก“หิวหรือยังครับ” ปานรักส่ายหน้าแทนคำตอบ“ไม่อยากลงไปทำงานช่วยคุณแม่แล้วเหรอ” เสียงกระเซ้าถามไม่จริงจังทำให้ปานรักเบี่ยงหน้ากลับจิกสายตามองสามี“แล้วใครที่ทำให้ปานต้องมาติดแหง็กอยู่บนนี้ ไม่ได้ลงไปเจอผู้คนเลย ป่านนี้พี่ปัณกับพี่อินกลับหรือยังไม่รู้ ไม่เห็นมีใครโทรหาปานบ้างเลย” ก้องภพหัวเราะในลำคอ ก้มหน้าสบตาภรรยา ยิ้มแพรวพราว“ช่วงเวลาโปรโมชั่นแบบนี้ ไม่มีใครเขาโทรหาคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันหรอก”“เมื่อก่อนปานคิดว่าพี่ก้องเป็นคนเงียบๆนะคะ”“แล้วตอนนี้ค
“พี่สระผมให้นะครับ” แล้วจะปฏิเสธยังไงล่ะ ปานรักจึงได้แต่พยักหน้ารับ ชายหนุ่มปรนนิบัติเธอราวกับว่าเป็นเจ้าหญิง เขาใส่ใจทุกรายละเอียดของร่างกายเธอ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่มีสักตารางนิ้วที่จะรอดพ้นการลูบไล้ทำความสะอาดให้อย่างใส่ใจ จนเมื่อก้องภพกระซิบเบาๆที่ใบหูเล็ก หญิงสาวจึงลืมตาขึ้น“เรียบร้อยแล้วครับ ทีนี้ก็...เป็นทีของน้องปานอาบให้พี่บ้าง” ปานรักมองค้อน นั่นไงผิดจากที่คิดไว้ซะที่ไหน เขาขยับกายเข้าใกล้ จับมือบางวางทาบบนอกแกร่ง มือเล็กไล้วนอย่างกล้าๆกลัวๆ“โอย...น้องปานครับ” ก้องภพครางกระเส่า จับบ่าบอบบางแน่น ปานรักเงยหน้ามองสามีอย่างไม่เข้าใจ“ปะ...เป็นอะไรคะพี่ก้อง” หญิงสาวคิดว่าเขาอาจจะไม่สบาย เพราะเสียงสั่นและใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาก็แสดงออกมาราวกับว่าเจ็บปวดนักหนา“ไม่ไหวแล้วครับ น้องปานช่วยพี่ด้วยนะครับ” วงแขนแกร่งกอดรัดร่างนุ่มนิ่มแนบอก“ชะ...ช่วยยังไงคะ พี่ก้องปล่อยก่อนค่ะ เป็นอะไรไปคะ” ปานรักถามไถ่อย่างเป็นห่วงเป็นใย ยิ่งตัวเขาสั่นสะท้านแนบตัวเธออยู่อย่างนี้ หญิงสาวก็ใจไม่ดี หรือเขาจะใช้กำลังมากไป ก็เมื่อคืนกวนเธอทั้งคืนกว่าจะได้หลับไ
“อืม...พี่ก้อง พี่ก้อง” ปานรักเงยหน้าครวญครางเรียกชื่อสามีแผ่วเบา ด้วยความซ่านเสียวไปทั้งร่าง ริมฝีปากหยักได้รูป ดูดกลืนยอดอกที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะกรุมตะกราม มือใหญ่ขยับสะโพกมนให้เข้ากับจังหวะที่ตนเองแอ่นสะโพกสอดเสยขึ้น จนเมื่อปานรักเริ่มเรียนรู้ที่จะรุกรับอย่างคนหัวไว ก้องภพจึงเคลื่อนมือขึ้นบีบเคล้นอกอวบนุ่มหยุ่นมือ จับฐานอกอวบบีบป้อนเข้าปากตัวเองดูดกลืนขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนไล้วนตวัดรอบเม็ดทับทิมสีหวาน รวบดูดรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลากดแนบไปกับอกอวบ ซุกไซ้อย่างหลงใหล“อื้อ...พี่ก้อง” ปานรักโหมสะโพกแรงตามอารมณ์หวามที่ทะยานจนใกล้ถึงปลายทาง หญิงสาวครางแว่วหวาน สลับการการเรียกชื่อสามี ใบหน้างามส่ายสะบัดจนผมยาวสยายเต็มหลัง ก้องภพละมือจากอกอวบ รวบเอวคอดไว้แน่น ขณะที่ทั้งเขาและภรรยาขยับโยกในจังหวะรุกรับรุนแรง ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงคลุกเคล้ากับอกอวบดีดเด้งตรงหน้า สูดดมและขบเม้มเบาๆ เพิ่มความเสียวปลาบให้ร่างเล็กจนต้องครวญครางซ้ำ บทเพลงรักบรรเลงไปตามท่วงทำนองร้อนเร่า ต่างเติมเต็มให้กันและกันด้วยไฟปรารถนา“ปานน่ารักที่สุด ที่รักของพี่...อา” ก้องภพเกร็งสะโพกรับการโห
“ไม่เหนื่อยสักนิดครับ แต่คิดถึงเมียแทบขาดใจ” แก้มสาวแดงเรื่อท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้อง ปานรักจึงพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้ หนีแววตาคมปลาบที่จ้องมองไม่วางตานั้น ก้องภพเอนตัวลงสอดกายลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกับภรรยา เขาวาดวงแขนไปโอบกอดร่างเล็กที่นอนหันหลังให้“น้องปานบอกว่าจะตามใจพี่ทุกอย่าง” ปฏิบัติการทวงสัญญาขาหื่นเริ่มขึ้น พูดจบก็เป่าลมร้อนใส่หูเล็ก พร้อมทั้งขบเม้มเบาๆสร้างความปั่นป่วนให้คนที่นอนใจเต้นแรงอยู่อย่างห้ามไม่ได้ ปานรักหดคอเล็กน้อย“ใครสัญญาอะไรหรือคะ ปานไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่ตอบกลับมา“หืมมม...จำไม่ได้จริงๆเหรอ” ก้องภพพลิกกายขึ้นทาบทับภรรยา สบตายตาถามเอาคำตอบ“จำไม่ได้ค่ะ” ปานรักเบี่ยงหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา กายสาววูบวาบ แก้มนวลร้อนผ่าว“แน่ใจเหรอว่าจำไม่ได้” ขาแกร่งบดเบียดขาเรียวจนแยกกว้าง ก้องภพแทรกตัวเองไปอยู่ระหว่างขาเรียวนั้น บดเบียดความแข็งขึงกับกลางร่างสาว ในนาทีนั้นเองที่ปานรักเพิ่งสังเกตว่าสามีของเธออยู่ในสภาพเปลือยกาย เขาถอดกางเกงออกตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย หญิงสาวทุบบ่ากว้างเบาๆ หันมาสบสาย
เมื่อถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พากันกล่าวคำอวยพร และคำอวยพรที่เจ้าสาวต้องหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก เห็นจะหนีไม่พ้น ขอให้มีลูกเร็วๆ และขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั่นแหละ“พ่อฝากน้องด้วยนะก้อง พ่อเชื่อว่าป้องจะดูแลปานแทนพวกเราได้ ขอบใจมากที่ช่วยทำให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขอีกครั้ง” อานนท์ตบบ่าลูกเขยที่นั่งคู่กับลูกสาวอยู่บนพื้นห้องเบาๆ“ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องปานด้วยชีวิตของผมครับ” ก้องภพสบตาผู้สูงวัยกว่าด้วยแววตาแน่วแน่“หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก” ปรางทิพย์เอ่ยสำทับ คู่บ่าวสาวก้มลงกราบผู้สูงวัยทั้งสองที่ออกจากห้องหอทีหลังสุด ถึงแม้จะเคยอวยพรเคยกล่าวคำฝากฝังลูกสาวมาแล้วในพิธีการครั้งแรก แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังอยากย้ำอีกครั้ง ด้วยความที่ลูกสาวเจอะเจอเรื่องราวร้ายแรงมา จนแทบไม่ยอมรับรู้เรื่องราวอะไรรอบกาย แต่เพราะผู้ชายใจดีตรงหน้าเฝ้าถนอมและดูแลกันมาจนปานรักหายขาดจากอาการป่วย อานนท์และปรางทิพย์จึงไม่ลังเลสักนิดที่จะยกลูกสาวให้ชายหนุ่มดูแลสองหนุ่มสาวนั่งสบตากันบนพื้นห้องสวีตชั้นสูงสุดของโรงแรม ซึ่งถูกจัดแต่งเป็นห้องหอ อบอ