ทันทีที่บานประตูปิดลง มือแกร่งก็รวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด แล้วโน้มหน้าลงประทับริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เผยอขึ้นพอดี เขากลัวเธอเปลี่ยนใจ จึงรีบจูบเธอเสียก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา
พลอยดาวไม่คิดว่าตัวเองจะตอบรับเขาง่ายดายหลังจากไวน์พร่องไปครึ่งขวด เธอไม่ใช่คนคออ่อนนัก เวลาไปออกงานกับพ่อก็ดื่มนิดๆหน่อยๆ พอเข้าสังคม และเป็นคนขับรถให้พ่ออยู่บ่อยๆ อาจเพราะครั้งนี้เธอไม่ตามพ่อไปสัมมนาต่างจังหวัดด้วย อาจเพราะเธอรู้สึกอิสระมากขึ้นเพราะเรียนจบแล้ว หรือเพราะคำชวนอันเย้ายวนของเขา
‘ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะคบกับผม ถ้างั้นคืนนี้เรามีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ไหม’
‘อะไรนะคะ’
‘แค่คืนนี้และไม่ผูกมัด’
พลอยดาวรู้ความหมายของประโยคนี้ดี แต่ไม่คิดว่าเขาเอ่ยปากชวนง่ายๆ หรือเพราะเขาทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ เธอจึงตัดสินใจได้แทบจะในทันที เธอวางมือของตนบนฝ่ามือของเขาแทนคำตอบ และเขาก็กุมมือเธอเดินออกมาจากห้องอาหารชั้นที่สามสิบสี่มาห้องสวีทสุดหรูชั้นที่ห้าสิบสอง เพราะจิตใจจดจ่อกับมือที่กุมมือเธออยู่ทำให้ไม่ได้สนใจว่าเขาพาเธอมายังห้องสวีทนี้ได้ยังไง และเพียงบานประตูปิดลง ร่างของเธอก็ถูกเขากอดรัดแนบแน่น
เรียวลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากไล่ต้อนลิ้นน้อยๆ ของหญิงสาวที่เพิ่งเคยสัมผัส ‘จูบแรก’ รสไวน์แดงยังอยู่ในปากและลมหายใจอุ่นร้อน พร้อมกับจับเอวคอดกิ่วขึ้นให้นั่งบนเคาน์เตอร์มินิบาร์ จากนั้น มือแกร่งลูบไล้แผ่นหลังจนเจอซิปที่ซ่อนอยู่แล้วรูดมันลงอย่างรวดเร็ว
ความเย็นของอากาศในห้องแตะแผ่นหลังเปลือยเปล่าทำให้เธอผงะไปเล็กน้อย มือเรียวเล็กยกขึ้นดันแผ่นอกอีกฝ่ายทันที แววตาของเขาร้อนแรงราวกับมีเปลวไฟพร้อมหลอมละลายให้มอดไหม้ แม้เขินอายแต่ใจใคร่รู้ว่าเขาต้องการทำอะไรกับร่างกายนี้ พลอยดาวได้ยินเพียงเสียงลมหายใจหนักหน่วง และเสียงหัวใจเต้นรัวของตัวเองเมื่อเขาโน้มหน้าลงจูบที่เนินอก เธอหลุดเสียงครางเบาๆ ที่เป็นสัญญาณเชื้อเชิญอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว กวิวัชร์ใช้มือข้างเดียวปลดตะขอบราเซียออกง่ายดาย เพียงผ้าลูกไม้หลุดออกเขาก็ใช้ปากครอบครองยอดอกสีชมพูหวาน หญิงสาวตัวสั่น เงยหน้าส่งเสียงครางหวานแต่กลับทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีไปด้วย ลิ้นร้อนไล้เลียจนเปียกชุ่ม สลับกับขบกัดเบาๆ แต่ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่าน
“อ๊า! คุณ...”
“เรียกชื่อผม” เขาถอนปากจากทรวงอกข้างหนึ่งมาหยอกเย้าอีกข้าง
“กวิ...วัชร์”
“ชื่อเล่นสิครับ” เขากระซิบเสียงพร่า “กั้ง”
“คุณกั้ง อึก..อ๊า”
พลอยดาวครางสะอึกสะอื้น ฝ่ามือของเขานวดคลึงอกอิ่มและยังปากร้ายกายที่ดูดดึงปลายถัน บางครั้งเขาอมไว้ในโพรงปากแล้วตวัดลิ้นรัวจนเธอส่ายหน้าไปมาเพราะเสียวซ่าน แอ่นอกให้เขาดื่มกินอย่างไม่รู้ตัว สองแขนเท้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อพยุงตัวไม่ให้แผ่หราลงไป เขาละมือจากอกคู่สวยเลื่อนไปปลดสายรัดถุงน่อง เขาผละจากร่างที่หอบหายใจแรงพลางเลียริมฝีปากตนเอง เธอหวานหอมกว่าที่เขาคิดไว้มาก หญิงสาวมองเขาถอดรองเท้าและรูดถุงน่องออกไปพ้นเรียวขา กางเกงชั้นในตัวน้อยเปียกชุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฝ่ามือหนาลูบไล้เบาๆ แต่เรียกเสียงครวญคราง เขาเอื้อมมือลงไประหว่างเรียวขาทั้งสอง นิ้วยาวแตะต้องส่วนที่เธอไม่เคยให้ใครสัมผัส เขาดันนิ้วเข้าไปในร่องรักที่เปียกชุ่ม ร่างเล็กสั่นสะท้านและเกร็งตัวเพราะไม่เคยกับเรื่องแบบนี้มาก่อน
กวิวัชร์จับจ้องสีหน้าของหญิงสาวที่เวลานี้พวงแก้มแดงระเรื่อ ดวงตาหลังแว่นตาพร่ามัวคล้ายมีหยดน้ำเอ่อคลอ เธอกัดริมฝีปากในบางครั้ง และส่งเสียงสะอึกสะอื้นเมื่อเขาขยับนิ้วเข้าออกพร้อมกับบดขยี้จุดอ่อนไหว
“คุณกั้ง..อื้อ...พลอย..พลอยไม่ไหวแล้วค่ะ”
แค่นิ้วยังรัดเขาแน่นขนาดนี้ กวิวัชร์ได้แต่ครางในอก แล้วเพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้ว เขาอยากเห็นเธอเสร็จสมเหมือนเวลานี้ที่สะโพกสวยส่ายร่อนรับจังหวะซอยนิ้วของเขา เขาเร่งเร้าและพาเธอไปถึงจุดสุดยอด
“อร๊ายยย” พลอยดาวหลุดหวีดร้องเมื่อตัวเองถูกส่งไปถึงจุดสุดยอด เธอหอบหายใจจนตัวโยนในขณะที่เขาจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ เขาถอนนิ้วออกแล้วส่งนิ้วที่เปื้อนคราบรักวาวใสเข้าปากตัวเองแล้วใช้อีกมือที่ว่างดึงแว่นตาของเธอออก
“สายตาพลอยสั้นมากนะคะ”
“ดีสิครับ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมจะได้อยู่ใกล้ๆ ให้คุณมองเห็นผมได้ชัดเจน”
ภายนอกกวิวัชร์คือผู้ชายสุขุม แต่เวลานี้เขาเหมือนเด็กหนุ่มเจ้าเล่ห์อย่างไรไม่รู้ พลอยดาวไม่คิดว่าตัวเองจะได้เห็นอีกด้านของเขา
กวิวัชร์ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นเสือหิวขนาดนี้ เขาแทบอยากกระชากเธอมากอดตั้งแต่อยู่ในลิฟต์แล้วแต่ต้องข่มใจไว้ และเมื่อเสื้อผ้าของพลอยดาวหล่นลงมากองที่เท้า ทำให้เขาพบว่าเบื้องหน้าคือเรือนร่างแสนเย้ายวน เขาช้อนร่างอรชรอุ้มเข้าไปในห้องนอน ว่างร่างเปลือยเปล่าบนที่นอนขนาดคิงส์ไซด์ เขาถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่นั้นกวาดตามองเขา ลิ้นสีชมพูแลบออกมาเลียริมฝีปากเหมือนหิวโหยยิ่งทำให้เขาแทบกระโจนใส่ทันที กวิวัชร์ปีนขึ้นเตียงแล้วคร่องหญิงสาวไว้ โน้มหน้าลงจูบกลีบปากนุ่มขบเม้มจนพอใจแล้วแทรกลิ้นเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากอีกครั้ง ครั้งแรกเธอเงอะงะจนเขาแปลกใจ แต่เมื่อได้จูบอีกเขากลับรู้สึกพอใจและอยากจูบอีก ร่างกายกำยำบดเบียดร่างอ่อนนุ่มจนร้อนระอุไปทั่วทุกอณู แก่นกายที่แข็งขึงถูไถกลีบดอกไม้สาวที่คายน้ำหวานจนเปียกชุ่ม
“อื้อ...คุณกั้ง...ดะ...เดี๋ยวก่อนค่ะ...” เธอกำลังเตลิดกับสิ่งเย้ายวนเบื้องล่าง แต่ยังพอรั้งสติไว้ได้และผลักอกเขาเบาๆ
“ผมรู้” เขาพูดเสียงพร่า ขยับตัวออกอย่างจากหญิงสาวไปควานหากล่องถุงยางอนามัยที่พกติดตัวมาด้วย แวบแรกเขาคิดหาข้อแก้ตัวดีๆ เกรงว่าพลอยดาวจะเข้าใจผิดว่า เขาวางแผนดินเนอร์เพื่อจบลงบนเตียง เขาเองก็อยากค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่รู้ว่าหลังจากดื่มไวน์ไปแก้วที่เท่าไหร่ เขากลับชวนเธอวันไนท์ฯ เสียอย่างนั้น
พลอยดาวหลุบตาลงอย่างเขินอาย อายเหรอ? อายตอนนี้จะทันไหมเนี้ย ขึ้นเตียงมาขนาดนี้แล้ว แค่เห็นขนาดของน้องชายเขาแวบๆ เธอก็ตัวสั่นขึ้นมา และเมื่อเขาขยับตัวกลับมาอยู่เหนือร่างเธออีกครั้งก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่สามารถถอยหนีได้อีก หรือจะพูดให้ตรงกับใจ เธอไม่คิดอยากหนีไปจากสิ่งที่เขากำลังมอบให้
น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานทำเอาหัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบ เขาถอนหายใจแล้วหมุนตัวไปถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ปกติเขานอนไม่สวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามากอด ซุกใบหน้าหาตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วหลับตาพริ้ม เขาก้มมองแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข การได้กอด ได้รักและปกป้องใครสักคน มันทำให้หัวใจอิ่มเอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ “รักนะคะ” “อะ..อ.ไรนะครับ” เขานึกว่าเธอหลับ แม้ได้ยินชัดแต่อยากได้ความมั่นใจอีกครั้ง “รักค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณที่มาให้รักนะคะ” “ครับ” เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่รักน้องมุก ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายธรรมดาคนนี้ได้รู้จักความรักนะครับ” “ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง มุกจะถนอมความรักของพี่คิมไว้นานๆ” “พี่ก็จะถนอมความรักที่น้องมุกให้พี่เก็บไว้ให้นานที่สุด” “อื้ม พี่คิมไม่กลัวพ่อของมุกจริงๆเหรอคะ เราคบกันแล้ว ไม่ต้องหลบๆมาเจอกัน เพราะฉะนั้นให้พ่อแม่รู้คงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พราวมุกถาม ดวงตาเริ่มปิดลง คราวนี้เธอง่วงแล้วจริงๆ
“เหมือนเรื่องของเรานะเหรอ” “แค่กๆ ก็...ประมาณนั้น” “ทำไมพูดแค่นี้ก็ต้องเขิน” เธอมองเขาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “แล้วนายไม่เข้าใจประโยคไหนของฉัน” “ก็...เอ่อ...ที่น้องมุกบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อ ...พี่ก็พยายามวิเคราะห์มาตลอดแต่ก็ยังไม่เข้าใจ” “ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เลยเหรอ” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉลาดอย่างนายไม่เข้าใจจริงๆเหรอ” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ท่าทางเหมือนลูกศิษย์ที่รอรับคำสอนของคุณครูทำให้พราวมุกยันกายขึ้นนั่ง เขาหยิบหมอนให้เธอเอนหลังพิงหัวเตียง “ตั้งแต่เด็ก ฉันจะเห็นพ่อยุ่งกับงานตลอด แม่เล่าว่าพ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พอจบก็แต่งงานกันทันที และเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น พ่อก็เรียนต่อปริญญาโทและทำงานไปด้วย รับงานวิจัยอีกสารพัด หลายครั้งที่แม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ไม่เข้าใจในงานของพ่อ จนสุดท้ายมันเกิดเป็นความเหินห่างและทำให้แม่เป็นฝ่ายขอเดินออกจากชีวิตของพ่อ ฉันเอง...เวลาอยู่กับพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของพ่อ เวลาอยู่กันสามคน ฟังพ่อกับพลอยคุยกันก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน ยิ่งเวลาที
“อยู่ที่นี่แหละ” แฟรงค์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ทะ...ทำไมทำแบบนี้”“เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนี้”“แฟรงค์...ฉันไม่เข้าใจ ...นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม เรา...เรามาคุยกันดีๆ ก่อนดีไหม”“มุก” น้ำเสียงเขาพร่าลง สายตาจับจ้องริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นจนเรียบตึง “ฉันทำดีกับเธอตั้งมากมาย เธอยังไม่สนใจฉัน ฉันเบื่อเล่นเป็นบทคนดีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้รู้ว่าตัวจริงของฉันเป็นยังไง บางที เธออาจจะชอบมันก็ได้”พราวมุกเบี่ยงหน้าหลบทันทีที่เห็นแฟรงค์โน้มหน้าลงมา เธอพยายามยกเท้าขึ้นเตะไปมาแต่กลับถูกเขาใช้ร่างตัวเองกดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งแนบชิด เสียงลมหายใจของเขาแรงขึ้น สีหน้าก็ตื่นเต้นจนแก่นกายแข็งขันดุนดันจนเขาปวดหนึบไปหมด เขาครางอย่างพอใจที่เห็นเหยื่อตัวน้อยแสดงการขัดขืนชัดเจนถึงเพียงนี้ พราวมุกเข้าใจในทันทีว่าการขัดขืนของเธอกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขา แต่เธอฝืนทำอยู่นิ่งไม่ได้ สีหน้าหื่นกระหายมันน่ารังเกียจ เธอขยะแขยงจนต้องพยายามบิดตัวหนี“ที่รัก! บอกแล้วคุณต้องชอบมัน”“แฟรงค์! ปล่อย!”เธอตวาดเขาเสียงสั่นแล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แฟรงค์ผงะไปทันที ปล่อยมือจาก
“อ้าว…แม่ก็นึกว่าลูกกับหนูพลอยดาว...” “ไม่ใช่ครับแม่ คิมกับน้องพลอยเป็นแค่พี่น้องกันครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่นกันเลย แล้วตอนนี้น้องพลอยก็มีคนรักแล้วด้วย “แม่ก็นึกว่า...” แม่ยิ้มแหย คุณกานดาก็เห็นลูกชายเที่ยวรับส่งดูแลพลอยดาวมาตลอด หญิงสาวเองก็นิสัยดี น่ารัก ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ นางก็ไม่ขัดอะไร “เอ่อ...แม่ครับ แม่ว่า..ปกติผู้หญิงเขาจะชอบผู้ชายเหมือนพ่อใช่ไหม แบบมีพ่อเป็นต้นแบบอะไรอย่างนั้น” คุณกานดาฟังแล้วก็พยักหน้ารับ “ก็ทำนองนั้นแหละ” “แล้วถ้าผู้หญิงที่บอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อนี่...แม่คิดยังไงครับ” “แม่เคยเจอเคสเด็กผู้หญิงถูกพ่อทำร้ายร่างกายมาโรงพยาบาล ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่มีใครอยากได้แฟนแบบพ่อหรอก” คิมหันต์ขมวดคิ้วยุ่ง เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์วิทยาไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เป็นคนใจเย็นและประนีประนอม ขนาดเจอนักศึกษาหัวเสียขึ้นเสียงใส่ อาจารย์ยังนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ได้เลย “...หรือไม่ก็...” คุณกานดาพูดอย่างเพิ่งนึกออก “อาจจะเปรียบเปรยว่าทำตัวเหมือนพ่อ คอยคุมไปเสียทุกอย่างก็ได้”
“หา! นี่เราเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆเหรอ” “พี่คิม! มุกไม่ใช่คนชอบแอบดูคนอื่นนะ แค่สงสัยนิดๆหน่อยๆแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง” ได้ยินเธอเรียก ‘พี่คิม’ หัวใจก็ปลื้มปริ่มยินดี มันไม่เหมือนเวลาพลอยดาวเรียกเขาว่า ‘พี่’ เพราะนั้นคือความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของพราวมุก เขารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ไม่ใช่ ‘นายนั้น นายนี่ หรืออาจารย์คิม’ เขาห็นใบหน้าเล็กๆ มีเหงื่อออกก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้“ให้พี่สตาร์ทรถให้ไหม” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเขารู้” โชคยังเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นสงบลง อวัชลงจากรถเสื้อผ้ายับยู่เล็กน้อย เขาถอยห่างออกมาและไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นก็เคลื่อนออกไป พราวมุกสะดุ้งโหยงเมื่ออวัชกวาดตามองมาทางเธอ หญิงสาวรีบก้มหัวลงต่ำแต่กลายเป็นว่าเธอซุกเข้าไปในอกแกร่งของคิมหันต์กลิ่นหอมจากตัวเขาทำให้เธอดิ้นขลุกขลักแต่ชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้น “ชู่ว์...อย่าเพิ่งขยับ ให้เขาไปก่อน” คราวนี้พราวมุกจึงหยุดดิ้นแทบกลั้นหายใจเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่โอบกอด อากาศน้อยเกินไปหรือเธอกำลังเ
พราวมุกสะบัดหน้าไปมา บอกตัวเองให้ทุ่มเทกับงานและลืมผู้ชายที่คิมหันต์นั้นเสียที ทว่าอีกด้านหนึ่งที่พราวมุกไม่รู้ ฝ่ายอาจารย์หนุ่มก็หน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา แต่ทุกคนเข้าใจไปว่าเขาเครียดกับเรื่องวิทยานิพนธ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพราวมุกทำเหมือนไม่อยากติดต่อพูดคุย ทั้งที่เขาอยากเดินหน้า ‘จีบ’ อย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับหลบหน้าเขาเสียอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น(วะ)เนี้ย! เขายกมือขึ้นนวดขมับเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์มือถือดังขึ้น รีบร้อนรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา เพราะใจหวังให้เป็นเสียงหวานใจ แต่กลายเป็นว่า “อาจารย์พี่คิม...” “ครับ” คิมหันต์ตอบรับแล้วยกมือถือดูหน้าจอแล้วค่อยพูดต่อ “อ้อ..นายนนท์มีอะไรเหรอ” “พอดีมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ รูปที่ขายได้ในงานนิทรรศการต้องเอาไปส่งที่บริษัท...แต่รถของพวกเราขนไปไม่หมด เลยอยากจะรบกวนอาจารย์คิม...” เพียงแค่ได้ยินชื่อบริษัทนั้น เขาก็ดีดตัวนั่งหลังตรงทันที เพราะมันคือบริษัทที่พราวมุกทำงานอยู่ “ได้ครับ เดี๋ยวพี่เอาไปส่งเอง” “ต้องรบกว