“แกจะอยู่ที่นี่คนเดียวได้เหรอ กลางคืนมันเปลี่ยวนะแถวนี้ “
” อยู่ได้ สบายมาก อีกสองร้านนั้นก็รู้จักเขาแล้วนะ เจ๊กุ้งเจ้าของตึก กับพี่มิ่งร้านตัดผม “
เฌอตอบเพื่อนสนิทที่มองมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล อาคารพาณิชย์ตรงนี้มีขนาดสองชั้นครึ่ง ชั้นบนมีห้องนอนและห้องน้ำมีครัวเล็กให้อยู่คนละฝั่งกับห้องนอน ชั้นล่างเป็นห้องโถงกว้างและมีห้องน้ำให้หนึ่งห้องใต้บันได
เฌอริตาคิดว่าสำหรับเธอที่ตรงนี้มันถูกมากและคุ้มมากเลยทีเดียว เพราะเธออยากใช้เป็นพื้นที่ทำสต็อคสินค้า มีที่พักในตัว ตอนส่งของก็เรียกรถขนส่งเข้ามารับซึ่งเธอดีลกับพนักงานเอาไว้แล้วไม่ต้องเดินทางเอง
“แล้วนี่แกไปหาหมอหรือยัง”
เพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียวของเธอถาม แล้วก็ได้การส่ายหน้าเป็นคำตอบ เขาถึงกับเหนื่อยใจ
บอยมีพี่สาวหนึ่งคนแต่งงานและมีครอบครัวแล้ว มีลูกเล็กวัยสองขวบ เขาเห็นพี่สาวไปตรวจครรภ์และดูแลครรภ์กับหมอทุกเดือนตั้งแต่ท้องได้สองเดือนแล้ว
“เดี๋ยวก็ว่าจะไปส่งมันนี่แหละ”
“เดียวฉันไปส่งแกก็ได้นะ เคยพาพี่บุษไปบ่อย”
“งั้นก็ไปด้วยกันหมดนี่เลย”
เฌอพยักหน้าพลางหัวเราะทั้งน้ำตา ความรู้สึกตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าอย่างไหนมันมีน้ำหนักมากกว่ากัน ทั้งเสียใจ ซาบซึ้ง เหนื่อยและดีใจ ผสมปนเปกันไปหมดจนต้องระบายออกมาทางดวงตากลมโตคู่นั้นเป็นความร้อนผ่าวและมีน้ำสีใสเอ่อนอง
มือเล็กเย็นเฉียบ นั่งอยู่หน้าห้องตรวจเพื่อรอคิวสำหรับตัวเอง เธอมาที่นี่พร้อมกับเพื่อนสนิทสองคน ภายในสถานพยาบาลแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้หญิงที่อุ้มท้องตั้งแต่เล็กจนถึงท้องใหญ่แทบเดินไม่ไหว
“เฌอริตาค่ะ เฌอริตา เดชาพฤกษา”
“อีบอย แกเข้าไปกับมัน”
ป็อปสะกิดแขนเพื่อนชายคนสนิทให้เดินตามเฌอไปในห้องส่วนตัวเธอจะรออยู่ด้านนอก เพราะหากเข้าไปทั้งสามคนคงโดนคุณหมอไล่ตะเพิดออกมาแน่ ห้องตรวจก็ไม่ได้กว้างอะไรขนาดนั้น
สถานพยาบาลแห่งนี้มีค่าใช้จ่ายในราคากลางๆ เป็นคลินิกเฉพาะทาง ที่มีคุณหมอสูติคนเก่งอย่างนายแพทย์สมชาย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดีกรีผู้อำนวยการแผนกสูตินารีเวชในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
“อืม คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ยี่สิบสองสัปดาห์แล้วนะ” คุณหมอมองไปยังหน้าจอที่ฉายภาพเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตหนึ่งซึ่งกำลังขยับแขนและขาไปมาช้าๆ
“เพิ่งรู้ว่าท้องค่ะ พอดีประจำเดือนมาไม่ปกติเลยไม่รู้ตัว”
คุณหมอพยักหน้าให้คนไข้อย่างเข้าใจ เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับหมอ คนที่มาฝากครรภ์ตอนท้องแก่เพราะไม่รู้ตัวก็มีเยอะถมไป บางคนรู้ตัวตอนใกล้คลอดเลยก็มีเพราะไม่เคยสนใจตัวเอง
“น้องเป็นเด็กผู้ชายนะคุณแม่ นั่น ดิ้นแรง เตะแรงอย่างนี้สงสัยได้เป็นนักบอลแน่ๆ” คุณหมอแซวจนคนที่นอนอยู่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ร่างกายสมบูรณ์ไหมคะ”
เฌอริตาถามด้วยความกังวล เพราะที่ผ่านมาเธอไม่รู้ว่าท้องทำให้ไม่คิดจะดูแลตัวเองเลย บางวันแอบไปแพ็คของส่งจนลืมทานข้าวก็มี บางวันก็ลงรูปขายสินค้าใหม่หรือตอบคำถามลูกค้าจนดึกดื่น
“น้องสมบูรณ์ ร่างกายเติบโตปกติเลยนะคุณแม่”
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบแล้วยิ้ม น้ำตาคลอที่ขอบตาอย่างไม่มีสาเหตุ
ลูกชายของแม่คงซนน่าดู
“คุณแม่ต้องเจาะเลือดตรวจ ทั้งสองคนเลยกับคุณพ่อนะครับ”
“คนนี้เพื่อนค่ะ พ่อเขาไม่ได้มาด้วยค่ะ” เธอรีบอธิบายพลางโบกมือปฏิเสธ
คุณหมอพยักหน้าอย่างเข้าใจ หลังจากนนั้นจึงอธิบายและแนะนำการดูแลตัวเองให้เฌอริตาอย่างละเอียด ก่อนจะส่งต่อให้พยาบาลเป็นคนชี้แนะเรื่องการทานอาหาร ทานยาบำรุง รวมถึงการนัดครั้งถัดไป
ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ครั้งแรกนี้อยู่หลักพัน แต่ครั้งหน้านั้นต้องจ่ายค่าฝากครรภ์แบบพิเศษโดยเป็นการยืนยันว่าจะทำคลอดกับคุณหมอท่านนี้ และวันคลอดเธอต้องเตรียมเงินเกือบแสนสำหรับจ่ายค่าผ่าคลอดในโรงพยาบาล
“ไหวไหมวะ ไม่ไหวก็ไปฝากกับโรงพยาบาลรัฐ”
ป็อปตกใจกับค่ารักษาเพราะเธอเองไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน บอยเองก็ไม่รู้ว่ามันจะแพงมากอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่พาเพื่อนมา ทุกทีเขาไม่เคยสนใจเรื่องค่าใช้จ่ายเลย พี่สาวให้มาส่งเขาก็แค่มาส่งไม่เคยถามเลยสักครั้ง
“ไหว ต้องไหวสิ”
เฌอตอบแล้วมองฝ่ามือที่วางไว้บนท้องของตัวเอง เธอรู้สึกถึงความผูกพันที่มีให้กับลูกในท้อง ถึงแม้จะเพิ่งรู้ว่ามีเขาอยู่ตรงนี้ได้ไม่นาน
ต่อให้ต้องลำบากแค่ไหนเธอก็ต้องทำให้เขาเกิดมา ทำให้เขามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบให้ได้ ต่อให้ไม่มีพ่อแต่เขายังมีแม่ที่พร้อมจะทุ่มเททุกอย่างให้เขาอย่างเต็มที่
แม่รักหนูนะ
-----------------
เอาพี่บูมไปเก็บสักพัก โดนด่าเยอะ 555
บทที่ 24เสียงนาฬิกาปลุกดังซ้ำอยู่หลายทีแล้ว แต่เจ้าของมันไม่แม้แต่จะขยับ คนที่ปลุกไม่ยอมตื่นส่วนคนที่ตื่นไม่ได้ตั้งปลุกมือน้อย ๆ ของเด็กชายธีธัชตบลงที่แขนแม่เฌอหลายที เมื่อแม่ไม่ตื่นเขาจึงคลานขยับไปอีกนิด ตบที่แขนของผู้เป็นพ่อ คราวนี้มีคนปิดเสียงรบกวนที่ฟังไม่รื่นหูเสียที“อือ~” คนร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย แต่แขนกำยำยังกอดก่ายอยู่บนร่างกายของเมียเขา ปรือตามองเพียบเล็กน้อยก็เห็นว่าลูกชายนั่งมองเขากับเธออยู่บนเตียงตากลมแป๋ว“พ่อบูม”ลูกชายชินแล้วที่เห็นหน้าชายหนุ่มตอนตื่นนอนแต่ที่ไม่ชินคงเป็นเพราะเขาเลื่อนขั้นมาอยู่บนเตียงแถมยังได้กอดเมียทั้งคืน บูมยิ้มให้ลูกชายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อ้าแขนให้ลูกเข้ามาหา“ตื่นเช้าจัง มาหาพ่อเร็ว”น้องฌอนคลานข้ามตัวแม่ไปหาพ่อ คว้าเอามือถือไปด้วยให้เขาช่วยปิด บูมเลิกคิ้วแต่เมื่อพลิกจอดูแล้วถึงรู้ว่านาฬิกาปลุกของคนที่ยังหลับปุ๋ยนั้นดังอยู่หลายครั้งแล้วเมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็ม แตกยกแรกแล้วต่อยกสองที่ครัว จัดต่อในห้องน้ำ จนเธอหลับไหลคา…อกเขาอยากเห็นแบบนี้ทุกวัน อยากตื่นนอนแล้วได้เห็นหน้าลูก เห็นหน้าเมีย กอดหอม ดอมดมทั้งลูกทั้งเมียเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้
บทที่ 23ยกจนหมดอีกกระป๋องเฌอก็เริ่มกรึ่มได้ที่ กลิ่นหอมที่ลอยตลบผ่านลมโชยเข้าจมูกชวนให้ใจดวงน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายคล้ายลมพายุกำลังใกล้เข้ามาเตรียมจะพัดพาร่างของเธอให้ลอยหวือลอยหวือ!ร่างบอบบางถูกรวบกอดแล้วยกจนตัวลอยให้ไปนั่งอยู่บนตักในท่าเดิม เขารวดเร็วจนเธอตกใจ อาบน้ำห้านาทีไม่มีขาดเกิน“ห้านาทีไม่เกินจริง สะอาดไหมเนี่ย”“สะอาดทุกซอกมุม”คำว่า ‘ซอกมุม ‘ทำเอาคนตัวเล็กตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง ขนลุกไปทั้งตัว อุตส่าห์คิดว่าเบียร์สองกระป๋องจะทำให้เธอใจกล้าหน้าด้านแต่เรียกความกล้าหน้าด้านนั้นมาแล้วมันก็ไม่ยอมออกมาเสียที“ขออีกป๋อง”“พอแล้วเดี๋ยวเมาหลับ”ก็ต้องหลับไม่ใช่หรือ“ง่วงแล้วเหมือนกัน” เธอแกล้งว่าทั้งที่ตื่นทั้งตาทั้งอวัยวะส่วนอื่น“เธอครับ พี่รีบอาบน้ำยิ่งกว่าอยู่ค่ายทหาร”เฌอหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของเขามอบจุมพิตหวานหอมให้คนเร่งรีบอาบน้ำเป็นรางวัล ถ้าแกล้งอีกสงสัยมีงอนให้เธอได้ง้อแน่“รีบทำไมเฌออยากรู้”“รีบมากิน…เบียร์กับเธอ”“แต่ไม่เห็นแตะเบียร์”“เบียร์ในปากเธออร่อยกว่า”เขาดื่มเบียร์ไปเพียงหนึ่งกระป๋อง อีกสองเธอดื่ม เหลือไว้หนึ่งกระป๋องที่สงสัยจะถูกเมินแล้ว บูมเหมือนเมาได้ที่ ม
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อารมณ์ตกใจ ประหลาดใจปะปนกันไปหมด หัวใจเต้นโครมครามกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างน่าเป็นห่วง จนนึกไม่ออกว่าควรทำอย่างไรต่อเมื่อกี้ฉันทำอะไรค้างไว้นะเขาเองก็ไม่เคยพูดเรื่องของแม่ให้เธอฟัง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเธอกับเขาแล้วหรือยัง แต่ดูจสกภาพที่เห็น สรรพนามที่เธอได้รับเดาว่าคงรู้แล้ว“แม่จะเข้ามาหาหลานหลายทีแล้ว แต่เจ้าบูมบอกว่าเพิ่งมา กลัวแม่เฌอตกใจ” เพ็ญศรีหัวเราะขบขัน “ไม่ต้องตกใจนะ แม่แค่เหงาอยากมาเล่นกับหลานน่ะ”“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆเฌอริตาขยับขาที่แข็งเป็นหินนั้นไปข้างหน้า หวังจะเดินไปเก็บของเล่นลูกชายที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นแต่แทบสะดุดขาตัวเองล้มเมื่อเพ็ญศรีพูดประโยคถัดมาหน้าระรื่น“แม่จะมาคุยเรื่องหมั้นหมายด้วยน่ะ”เธอหันขวับไปที่คุณนายเพ็ญศรี นึกว่าหูตัวเองฟังผิดเพี้ยนไป อ้าปากพะงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงพูดเพราะคิดคำไม่ออกสถานการณ์ชักน่าเป็นห่วง แต่เฌอรู้ว่าไม่มีใครมาช่วยคิดอะไรได้เลยจึงเปลี่ยนเป็นไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเพ็ญศรีกับลูกชายแทน“คือว่า…” เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้“เจ้าบูมมันไม่บอกหรือ” เพ็ญศรีมองด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจเฌอริตาสั่นหน้า เพ็ญศรีจึงตบขาต
บทที่ 22เรื่องราวของทั้งคู่กลายมาเป็นประเด็นร้อนให้คนพูดถึงแทนเรื่องตำแหน่งดาวเดือน หลายคนให้กำลังใจแต่ก็มีอีกส่วนน้อยที่ยังด่าว่าคนประเภทนั้นจะเรียกว่าไม่อยู่ในความสนใจก็ไม่ใช่ เขาสนใจที่จะเก็บหลักฐานไปฟ้องเล่น ๆ แต่ไม่สนใจจะเอาคำพูดพวกมันมาใส่ใจ คนพวกนี้ไม่ต่างกับหมาที่นั่งเห่าอยู่หน้าจอไปวัน ๆ“เงินเหลือเหรอมึง”“เออ มีสปอนเซอร์ดี” คุณนายเพ็ญศรีตัวแม่เขาตอบเพื่อนที่นั่งหัวเราะมองเขาเก็บภาพที่มีคนด่าว่าบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาให้ทนายส่วนตัวของแม่จัดการให้เข็ดหลาบส่วนพลอยก็หายไปจากชีวิตของเขาเลยจนไม่ต้องทำอะไร นอกจากอวดลูกกับเมียไปวัน ๆกระเช้ากูก็ไม่เอาและไม่ต้องมายกมือไหว้กู!“ว่ากูไม่เท่าไร ด่าลูกเมียกูกูไม่ยอม”“กล้าเรียกเขาว่าเมียเขายอมให้มึงเป็นผัวหรือยัง”คำแซวของไมเนอร์ทำเอาคนฟังสะอึก นอกจากจูบแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นเผื่อแผ่มาให้เขาได้ลิ้มลอง เฌอไม่เปิดโอกาสให้เขาสักทีนี่ก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วนะที่เธอยอมรับเข้า แต่เขารอได้ อีกไม่นานเกินรอ ก็เขาอ่อยเธออยู่ทุกเช้าเย็น ทั้งถอดเสื้อเดินผ่าน โชว์กล้ามหน้าท้องปึ๋งปั๋ง กอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอให้เธอรู้ว่าอ้อมกอดเขามันอบอุ่น แล้วมั
ลมหายใจของคนตัวเล็กหอบหนัก ในหัวอื้ออึง สติกระจัดกระจายไปหลายที่ ร่างกายอ่อนเปรี้ย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำปรือ“หวานจัง”ขยับพูดขณะที่ริมฝากยังแนบชิด ขบกลีบปากของเธออย่างหยอกเย้า คนตัวเล็กอกสั่นขวัญผวาเมื่อเขาขยับริมฝีปากออกจากลีบปากเธอ กดแนบลงที่แก้ม ขยับไปที่ขมับ“พี่บูม” อยากตีปากตัวเองสักสิบที ตั้งใจจะห้ามเขาแต่เสียงเธอกลับสั่นพร่าราวกับเชื้อเชิญ“ครับ” เขาตอบทั้งที่ยังง่วนอยู่กับการก่อกวนเธอ กำปั้นเล็กที่ทุบอยู่ตรงอกไม่มีผลให้คนตัวใหญ่สะทกสะท้าน กล้ามเนื้อไม่มีสะเทือนเลยสักนิด“ไปดูลูกก่อนค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะหึคล้ายชอบใจ เธอเลือกใช้คำได้ดีทีเดียว อยากจะให้เขาปล่อยแล้วหนีแต่ให้ความหวังคล้ายจะกลับมาต่อกันอีก“ข้างนอกหนาวจัง นอนข้างในด้วยได้ไหม”“เฌอมีผ้าห่มให้”“พี่นอนกับพื้น ไม่ขึ้นเตียงให้เธอต้องลำบากแน่นอน”เฌอริตาไม่ยอมตอบเธอขยับตัวเพื่อให้เขาปล่อย อยู่อย่างนี้ต่อรองไปเธอก็แพ้ เขากอดรัดเธอไว้ทั้งร่างจะเอาแรงที่ไหนไปสู้“ได้คืบจะเอาศอก”“ไม่ได้จะเอาศอก” จะเอาเธอต่างหากเขาคิดเล่น ๆ แล้วยิ้มตามหลังคนตัวเล็กที่เหมือนจะยอมให้เข้าไปนอนในห้องด้วยกัน แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เพราะเ
บทที่ 21นานทีเดียวกว่าเธอจะยอมปริปากพูดกับเขา แต่ใบหน้าสะสวยนั้นยังซุกซบอยู่กับลาดไหล่แกร่ง เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ไม่ขยับตัวไปไหนที่เป็นอย่างนั้นเพราะมันทั้งรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย“เฌอแค่เหนื่อยจนอยากร้องไห้”เสียงของเธออู้อี้อยู่บนตัวเขา“แค่เหนื่อยหรือมีมากกว่านั้น พูดมันออกมาให้หมด ไม่ต้องเก็บมันไว้สักเรื่อง”เธอเงียบอยู่เป็นนาทีถึงขยับใบหน้าออกมา ไม่ทันจะยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตามือของเขาก็ทำหน้าที่แทนเสียแล้ว เข้าใช้ฝ่ามืออบอุ่นนั้นประคองใบหน้า ใช้นิ้วโป้งปาดเอาหยดน้ำตาที่เกาะพราวกับของตานั้นออก สัมผัสที่ใส่ใจและนุ่นนวลนั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเป็นกองโดนเขาตกอีกแล้ว เหมือนกับตอนนั้นเมื่อสองปีก่อน“พี่บูมรู้ไหม เฌอไม่มีใครเลยน้องจากลูก เพราะเฌอถูกไล่ออกจากบ้านตอนที่ทุกคนรู้ว่าท้อง”เขารู้ถึงไม่เคยถามให้เธอรู้สึกไม่ดี รู้ตั้งแต่ตอนที่ตามไปดูเธอถึงบ้านเมื่อสองปีก่อน“รู้ครับ”“รู้ได้ยังไง” เธอถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำถึงแม้จะหยุดร้องแต่น้ำตามันก็พร้อมจะทะลักออกมาทุกเมื่อ“ที่เล่าให้ฟังไปไง เมื่อสองปีที่แล้วพี่ตามไปดูเราเห็นเราถูกไล่ออกจากบ้าน”เฌอพยักหน้าอย่างเข้าใจจสกนั้นเธอก็พูดต่อ“แม่เฌ