“นี่ดูนี้สิ พี่เคซื้อให้ฉันเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ด้วยล่ะ”
“ปีนี้ฉันได้เป็นสร้อยรูปหัวใจ เห็นบอกว่าสั่งทำพิเศษมาให้ฉันโดยเฉพาะเลยนะ” “ของฉันเป็นแหวนจ๊ะปีนี้ ดูสิสวยใช้ไหม” เสียงพูดของสาวๆ ที่กำลังคุยยกยอถึงแฟนหนุ่มของตัวเองอย่างไม่ยอมกัน โดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ทำได้แต่นั่งฟังเงียบๆ เพราะหญิงสาวเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังไม่มีแฟน แล้วดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีความสนใจที่จะหาเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เลยเป็นปัญหาของพวกเพื่อนๆ ในกลุ่มที่จะต้องคิดหาวิธีให้เพื่อนของตัวเองหันมาให้ความสนใจในเรื่องความรักพวกนี้กับเขาบ้าง สาวๆ นั่งคุยเล่นกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ของมหาลัย เพื่อรอขึ้นไปเรียนคาบเช้ากัน เนย ไอริน และอิงอิง กำลังนั่งพูดคุยเรื่องของแฟนหนุ่มของตัวเองกันอย่างออกรส แต่พอพวกเธอหันไปมองที่เพื่อนของตัวเองอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมาซะทุกที เพราะเพื่อนของพวกเธออีกคนที่ตอนนี้กำลังนั่งก้มหน้าก้มตา กดเล่นเกมปลูกผักขายของในโทรศัพท์ของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ น้ำอุ่นเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงนิดหน่อยไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้างสักเท่าไร วันๆ หญิงสาวก็เอาแต่อ่านหนังสือดูซีรี่ย์ไม่ก็ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมเหมือนกับในตอนนี้ เพราะเธอมีนิสัยแบบนี้ไงถึงไม่มีแฟนกับเขาซะที พวกเนยละอยากจะบ้าตายกับเพื่อนของเธอคนนี้เสียจริงๆ ไม่เข้าใจเลยว่าน้ำอุ่นอยู่กับพวกเธอมาได้อย่างไงตั้งสามสี่ปี ทั้งที่นิสัยแตกต่างกับพวกเธอสามคนอย่างกับฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้ “น้ำอุ่นเธอไม่คิดที่จะหาแฟนกับเขาบ้างเลยหรือไง นี่พวกเราก็ขึ้นปีหนึ่งกันแล้วนะ” เสียงของเนยพูดถามเพื่อนที่ก้มหน้าเล่นเกมอยู่ข้างๆ ตัวเองอย่างสุดจะทนกับภาพตรงหน้า โตปานนี้แล้วยังมัวแต่นั่งเล่นเกมเหมือนเด็กอยู่ได้ ชีวิตนี้นอกจากดูซีรี่ย์อ่านนิยายและเล่นเกมยัยบ้านี่ไม่คิดจะหาอย่างอื่นทำเลยหรือยังไงกันนะ เธอละอยากจะบ้าตายกับเพื่อนคนนี้เสียจริงๆ “นั้นสิน้ำอุ่น…เธอไม่เหงาบ้างเลยหรือไงที่ต้องอยู่ห้องคนเดียวนะ เป็นฉันนะอกแตกตายไปนานแล้ว” ไอรินพูดเสริมไป ถ้าให้เธออยู่ห้องคนเดียวแบบนั้นทุกวันเธอคงจะเป็นบ้าตายแน่ๆ แค่แฟนหนุ่มของเธอกลับบ้านไปสองสามวันเธอก็แทบแย่แล้ว “ก็ไม่นะ…อีกอย่างที่ห้องของฉันก็ยังมี ชาเย็นกับชานม (แมว) อยู่เป็นเพื่อนแล้วไงไม่เหงาอยู่แล้ว” น้ำอุ่นเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์เครื่องหรู แล้วพูดตอบพวกเพื่อนๆ กลับไปตามที่เธอคิด สองตัวนั้นซนกันจะตายไป จะให้เธอเอาเวลาไหนมาเหงากันล่ะ น้ำอุ่นเป็นลูกสาวคนรองของบ้าน คุณพ่อคุณแม่ของเธอได้หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเด็ก น้ำอุ่นมีพี่ชายอยู่อีกหนึ่งคน แล้วก็น้องชายคนละพ่ออีกหนึ่งคน แต่ตอนนี้อาศัยอยู่กับคุณแม่ของเธอ ส่วนน้ำอุ่นเลือกอาศัยอยู่กับคุณพ่อของเธอสองคน คุณพ่อของน้ำอุ่นทำงานอยู่ต่างประเทศ ท่านจะเดินทางไปๆ มาๆ ตลอด เลยทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับคนรับใช้มาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นเธอเลยรู้สึกชินกับการอยู่คนเดียวแบบนี้แล้ว ส่วนคุณแม่ของเธอนั้นก็ได้แต่งงานใหม่ จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศกับสามีของท่าน นานๆ ถึงจะโทรกลับมาหาเธอสักครั้งสองครั้ง คุณแม่ของเธอก็มาชวนให้ไปอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่หญิงสาวไม่ไปเพราะชอบอยู่กับคุณพ่อของเธอมากกว่า “มันก็คนละอย่างกันไหมคนกับสัตว์มันจะเหมือนกันได้อย่างไง” อิงอิงรีบพูดแย้งออกมาทันที คนก็คือคนสัตว์ก็คือสัตว์มันจะมาแทนกันได้ยังไง เธอล่ะปวดหัวกับความคิดของเพื่อนตัวเองเสียจริงๆ ยัยบ้านี่คิดจะอยู่กับสัตว์เลี้ยงพวกนั้นไปจนตายเลยหรือไงกัน “……” น้ำอุ่นนั่งเงียบไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรเพื่อนๆ ออกไปอีก เพราะหญิงสาวรู้ดีว่าถึงพูดไป เพื่อนๆ ของเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ก็คนมันชอบอยู่แบบนี้นี่นาใครจะทำไม สำหรับน้ำอุ่นแล้วเธอคิดว่าการอยู่คนเดียวแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย หญิงสาวก็เห็นคนอื่นๆ อยู่คนเดียวกันออกเยอะแยะไป อีกอย่างเธอคิดว่าการอยู่คนเดียวแบบนี้มันก็สบายดีจะตายไป อยากกินอะไรก็กินอยากไปไหนก็ไปไม่ต้องสนใจใคร การอยู่แบบนี้ดีออกจะตายไปไม่เหมือนพวกเพื่อนของเธอ จะกินอะไรกันแต่ละทีก็ต้องถามแฟนก่อน จะไปเที่ยวไหนทีก็ต้องขออนุญาตแฟนก่อนทุกครั้ง ถ้าต้องให้เธอไปใช้ชีวิตแบบนั้นเธอก็คงจะเป็นบ้าตายเหมือนกันนั่นแหละ “นั้นสิ…เธอจะต้องลองมีแฟนดูสักครั้งนะน้ำอุ่น แล้วเธอจะรู้ว่าการได้อยู่กับคนสักคนนั้นมันให้ความรู้สึกแตกต่างกับสัตว์เลี้ยงขนาดไหน” เนยพูดบอกเพื่อนของตัวเอง แล้วทำท่ายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประสานกันไว้ที่อก ใบหน้ายิ้มมโนภาพของแฟนหนุ่มของตัวเองอย่างมีความสุข “ใช่…พอเธอมีแฟนเมื่อไหร่นะ แล้วเธอจะรู้สึกว่ามันดีอย่างนี้นี่เอง รู้อย่างนี้ฉันน่าจะมีแฟนไปตั้งนานแล้ว แบบนี้เลยล่ะ” ไอรินฉีกยิ้มระรื่นแล้วพูดแสดงความคิดเห็นของตัวเองเพิ่มมาอีกคน เมื่อก่อนไอรินก็มีความคิดเหมือนกับน้ำอุ่นนี่ล่ะ แต่พอได้ลองเปิดใจคบหากับแฟนหนุ่มดูแล้ว ก็ทำให้ความคิดของเธอนั้นเปลี่ยนไปทั้งหมด การได้ไปไหนมาไหนกับแฟนหนุ่มหรือการได้มาลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้น มันช่างแตกต่างกับเมื่อก่อนมาก แล้วเธอก็ชอบชีวิตในตอนนี้มากเลยด้วย “ขนาดนั้นเลย” น้ำอุ่นที่เห็นใบหน้าเพื่อนๆ ของเธอพากันยิ้มร่าอย่างมีความสุข ก็เริ่มไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองขึ้นมานิดหน่อยแล้ว มันมีความสุขขนาดนั้นเลยเหรอไอ้การมีแฟนเนี่ย “ใช่จ้ะ…ถ้าเธอได้ลองสักครั้งแล้วเธอจะต้องติดใจ อิอิ” อิงอิงพูดตอบน้ำอุ่นกลับไป แล้วพยายามพูดเน้นย้ำคำว่า ‘สักครั้งจะติดใจ’ ให้เพื่อนของตัวเองได้ยินชัดๆ ไปเลย หึหึ รับรองว่าได้ลองสักครั้งเพื่อนของเธอจะต้องติดใจแน่ๆๆ “ติดใจ!…ติดใจเรื่องอะไร” น้ำอุ่นเอ่ยย้ำคำพูดของอิงอิงออกมาแบบงงๆ ติดใจ ติดใจเรื่องอะไรกันก็แค่มีแฟนไหม มีคนมาอยู่เพิ่มขึ้นอีกคนก็เท่านั้นไม่ใช่เหรอ พูดกันซะโอเวอร์เลยยัยพวกนี้ “เรื่องแบบนี้จะต้องลองด้วยตัวเองนะคะคุณเพื่อน บอกไม่ได้ค่ะ” ริมฝีปากสวยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอดไม่ได้ แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาชี้นิ้วขึ้นขยับไปมาตรงหน้าของน้ำอุ่น เป็นการบอกว่าเรื่องพวกนี้บอกไม่ได้ อยากรู้จะต้องไปลองเองเท่านั้น “ใช่…บอกไม่ได้จ้า” เสียงของเนยกับไอรินพูดเสริมออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้ง แล้วหันมองหน้าอย่างรู้กัน ทำเอาเพื่อนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวพวกนี้อย่างน้ำอุ่นยิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่ “ฮ่าๆ ฮ่าๆ ฮ่าๆ” พอทั้งสามเห็นสีหน้าของเพื่อนตัวเองยังคงมึนงงไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเธอพูด ทั้งสามก็ต่างหัวเราะออกมาในที่สุด ยัยบ้านี่มันจะไร้เดียงสาเกินไปแล้วนะ น้ำอุ่นนั่งฟังเสียงหัวเราะของเพื่อนอยู่ที่โต๊ะ ในหัวของหญิงสาวก็พยายามคิดตามสิ่งที่เพื่อนๆ ของเธอพูดไปด้วย ‘สักครั้งจะติดใจ’ อย่างงั้นเหรอ พอคิดไปคิดมาหญิงสาวถึงเข้าใจว่าสิ่งที่เพื่อนๆ ของเธอต้องการจะสื่อ มันก็คือพวกเรื่องบนเตียงนั้นเอง พอน้ำอุ่นรู้อย่างงั้นใบหน้าขาวๆ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระรื่นขึ้นมาจางๆ ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันด้วยความเขินอาย แล้วค่อยๆ เอ่ยพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ไม่เห็นอยากลองตรงไหนเลย”สนามหญ้ากว้างที่แสงแดดร้อนๆ กำลังแผดเผาลงมาอย่างไม่เกร็งใจ ตอนนี้มีหนุ่มสาวนักศึกษาปีหนึ่งของคณะวิศวะนั่งต่อแถวกันอยู่เต็มสนามไปหมด กิจกรรมรับน้องสุดแสนจะโหดของคณะนี้เป็นที่เลื่องลือของมหาลัยอยู่แล้ว แสงแดดร้อนปะทะกับผิวขาวๆ ของเหล่าพวกนักศึกษาจนเป็นประกาย ผิวหน้าที่แต้มแต่งมาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน ตามใบหน้าและไล่ผมก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อไหลออกมาให้เห็นสี่สาว เนย ไอริน อิงอิงและน้ำอุ่นก็นั่งต่อแถวกันอยู่ในสนามหญ้าของวันนี้ด้วยเหมือนกัน และไม่ต้องแปลกใจกันเลยนะว่าทำไมสาวสวยอย่างพวกเธอถึงได้เลือกมาเข้าเรียนที่คณะที่มีแต่ผู้ชายแบบนี้ นั้นมันก็เป็นเพราะเพื่อนสาวคนสวยอย่างคุณหนูน้ำอุ่นของพวกเธอนั้นเอง ที่อยู่ๆ ก็ไปยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับคุณพ่อสุดที่รักของตัวเอง ว่าถ้าอยากให้เธอเข้าเรียนที่คณะวิศวะตามใจท่านละก็ จะต้องซื้อลูกแมวสายพันธุ์คาราคัลกับซาวันนาให้หญิงสาวอย่างละตัว มาเป็นการแลกเปลี่ยน (แมวสายพันธุ์คาราคัลกับซาวันนา เป็นแมวป่าในแถบทรีปแอฟริกา ราคาตัวละสามแสนนิดๆ)พอคุณพ่อของน้ำอุ่นได้ยินลูกสาวสุดที่รักพูดออกมาแบบนั้น ก็รีบหาซื้อลูกแมวมาให้ลูกสาวของตัวเองทันที พอน้ำอุ่นได้สัตว์เลี้
“เงียบ!!!… พวกคุณไม่เคยคุยกันหรือไงครับ!!”เสียงตะโกนของผู้ชายคนหนึ่งดังสนั่นไปทั่วสนาม ทำให้ทุกคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต้องหยุดชะงักและเงียบกันทันที จากนั้นก็หันหน้าไปสนใจต้นเสียงที่ยืนอยู่บนเวทีในตอนนี้แทน ร่างสูงคนหนึ่งยืนเด่นอยู่ตรงกลางเวทีได้ถือไมค์อยู่ในมือ แล้วจ้องมองมาทางคนที่นั่งอยู่ที่กลางสนามด้วยสายตาเย็นยะเยือก ใบหน้าของเขาที่ดูหล่อเหลาแต่ก็ดูน่ากลัวในเวลาเดียวกัน ทุกคนที่ได้เห็นแบบนั้นก็ต่างพากันเงียบลงทันที“เงียบ!!…ก้มหน้าลงไป!! อย่าให้ผมต้องได้สั่งซ้ำนะครับบ!!”ทุกคนที่ได้ยินเสียงตะโกนสั่งแบบนั้นก็รีบก้มหน้าลงกันทันที ทั่วสนามที่มีนักศึกษาปีหนึ่งนั่งกันอยู่ ตอนนี้กับเงียบกริบเหมือนไม่มีคนนั่งอยู่ตรงนั้นเลยก็ว่าได้ แสงแดดร้อนแผดเผาลงมาจนมีไอความร้อนขึ้นไปทั่ว นักศึกษาปีหนึ่งทุกคนได้นั่งก้มหน้าตามคำสั่งของชายคนนั้นด้วยความเกร็งกลัว“เป็นไงล่ะคนหล่อของพวกเธอ” เสียงของน้ำอุ่นกระซิบพูดกับเพื่อนของตัวเอง เทพบุตรอะไรเสียงตะโกนมันจะน่ากลัวขนาดนี้“แบบนี้ล่ะ ที่เขาเรียกว่าความเร้าใจยังไงละ เธอไม่เคยได้ยินเหรอ” เนยหันกระซิบพูดตอบน้ำอุ่นเสียงเบา แล้วยักคิ้วข้างหนึ่งให้แบบกวนๆ หล่อ
รุ่นพี่ปีสามที่ยืนอยู่บนเวทีพูดแนะนำตัวกันจนครบทุกคน จากนั้นก็เริ่มพูดเรื่องการทำกิจกรรมรับน้องต่อทันที พวกสาวๆ ที่นั่งกันอยู่ในสนามนั่งจ้องหนุ่มๆ บนเวทีกันตาแทบไม่กะพริบอยู่เมื่อกี้ พอพวกชายหนุ่มกลุ่มนั้นเดินลงเวทีไป ทุกคนก็เลิกให้ความสนใจรุ่นพี่คนอื่นบนเวทีกันทันที แล้วเริ่มหันมาจับกลุ่มพูดคุยกับเพื่อนๆ ของตัวเองหรือคนที่นั่งกันอยู่ข้างๆ อย่างออกรสกันอีกครั้ง กลุ่มของน้ำอุ่นก็ด้วยเหมือนกันพอไม่มีผู้ชายหล่อๆ ให้พวกเธอได้ดูอีก ก็หันมาพูดคุยเรื่องชายหนุ่มที่เดินลงจากเวทีกันต่อทันที พวกเธอถึงจะมีแฟนกันหมดแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สนใจเรื่องพวกผู้ชายหล่อๆ กันซะเมื่อไหร่จริงไหม อิอิแต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนที่คิดนอกคอกอยู่คนหนึ่งแหละมั้ง ที่ไม่มีความสนใจเข้าร่วมกลุ่มวงสนทนากับพวกเธอเลยสักนิด เพราะในมือของเธอในตอนนี้กำลังจิ้มกดเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างเมามันเลยทีเดียว เนยหันมองคนที่นั่งข้างๆ ตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาอย่างสุดจะทน มีผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลามายืนอยู่ตรงหน้า ก็ยังไม่สนใจเพื่อนของเธอคนนี้มันไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยหรือไง ยังมีอารมณ์มานั่งก้มหน้าก้มตาเล่นเกมอยู
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่” น้ำอุ่นและเพื่อนยกมือขึ้นไหว้พวกพี่ๆ ที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะทันทีที่มาถึง“มากันแล้วเหรอจ๊ะ” เสียงหวานของแพรวาเอ่ยพูดขึ้น หลังจากรับไหว้ของรุ่นน้องเสร็จแล้ว ที่จริงเธอว่าจะกลับก่อนอยู่แล้ว แต่หญิงสาวไม่ค่อยไว้ใจพวกเพื่อนของตัวเองสักเท่าไหร่ เลยต้องมาคอยดูพวกนี้ซะหน่อยแต่ละคนไว้ใจได้ที่ไหนกันล่ะ“รู้ไหมว่าทำไมพวกพี่ถึงให้พวกเราอยู่กันต่อ” ลุคเอ่ยพูดถามขึ้นแล้วหันไปส่งยิ้มให้กับพวกสาวๆ ไปหนึ่งที กลุ่มนี้มีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะเนี่ยโดยเฉพาะคนที่เพื่อนของเขาหมายตาไว้ พอได้มาเห็นใกล้ๆ แบบนี้แล้วยิ่งดูน่ารัก“……” กลุ่มของน้ำอุ่นไม่ได้พูดตอบอะไรกลับ ทั้งสี่เอาแต่ยืนก้มหน้ายืนเงียบกันอย่างเดียว“ตอบครับ!…เมื่อกี้ยังเห็นพูดกันไม่หยุดอยู่เลยนิครับ” เสียงเย็นที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ดูสิว่าจะยืนเงียบกันได้ถึงเมื่อไหร่เมื่อกี้ตอนอยู่ในแถวยังเห็นพูดกันไม่หยุดอยู่เลย“พวกเรา…พวกเราพูดกัน แล้วก็แอบเล่นโทรศัพท์ตอนรับน้องค่ะ” ไอรินทำใจกล้าเอ่ยพูดตอบออกมาเสียงติดๆ ขัดๆ ใบหน้าสวยก็ยังคงก้มมองพื้นกันอยู่เหมือนเดิม วันนี้พวกเธอจะรอดกันไหมเนี่ยทำไมพวกพี่เขาดูดุกันจังเลย!!!“ก็รู้นิค
เรื่องที่น้ำอุ่นบอกว่ามีคนกลุ่มอื่นพูดคุยกันหรือแอบเล่นโทรศัพท์กันนั้น ไม่ใช่ว่าพวกกายไม่เห็นนะแต่พวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจซะมากกว่า แล้วใครจะทำไมละก็พวกเขาอยากจะทำโทษแค่กลุ่มนี้กลุ่มเดียวเท่านั้นนี่นา เขาเป็นถึงเฮดว๊ากจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหมล่ะ จะว่าเขาใจร้ายก็ไม่ได้นะเพราะตอนแรกชายหนุ่มคิดแค่จะเรียกมาแกล้งเล่นนิดหน่อยก็เท่านั้น แต่ใครจะคิดละว่าเหยื่อตัวน้อยของเขาจะฝีปากร้ายกาจขนาดนี้ แถมสายตาที่จ้องมองเขาเมื่อครู่นี้นะ เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้ได้ซะขนาดนั้น เพราะฉะนั้นชายหนุ่มจะต้องตักเตือนเธอสักหน่อย เดียวเสียระบบกันหมดพอดี หึหึ“จ้องตาไม่กะพริบเลยนะคุณเพื่อนกาย” เสียงของลุคพูดล้อเพื่อนของตัวเองด้วยความหมั่นไส้ เมื่อเห็นว่ากายนั่งจ้องมองรุ่นน้องที่ชื่อน้ำอุ่นตาแทบไม่กะพริบ ไอ้นี่มันร้ายจริงๆ แถมยังเรียกพวกน้องเขามาแกล้งเล่นตั้งแต่วันแรกเลยด้วย“แต่ดูแล้วน่าจะดื้อพอตัวเลยวะ” เลโอพูดเสริมขึ้นเมื่อชายหนุ่มคิดถึงเรื่องที่เธอกล้าเถียงพวกเขาเมื่อครู่ ดูแล้วน่าจะดื้อมากเลยทีเดียวแล้วอย่างนี้เพื่อนของเขาจะเอาอยู่ไหมเนี่ย“พวกนายนี่นะ…ไม่ทำเกินไปหน่อยหรือไง” แพรวาพูดต่อว่าพวกเพื่อนตัวเองอย่า
หลังจากที่น้ำอุ่นและเพื่อนๆ วิ่งกันเสร็จก็เดินกลับมาหาพวกกลุ่มของกายที่นั่งรออยู่ ชายหนุ่มจ้องมองสภาพของสาวๆ แต่ละคนที่เดินกลับมาในตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าหมดสภาพ ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ ลำคอก็มีแต่เหงื่อไหลออกมาจนเปียกไปหมด ริมฝีปากบางก็อ้าปากสูบหายใจเข้าออกไม่หยุด มันช่างเป็นภาพที่น่ามองซะจริงๆ หึหึน้ำอุ่นกับเพื่อนๆ ยืนหอบอยู่ตรงหน้าของพวกหนุ่มๆ ใบหน้าบึ้งตึงแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองส่งสายตาดุไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่อย่างไม่เกร็งกลัว นี่ขนาดแค่สามรอบนะพวกเธอยังแทบแย่ นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นห้ารอบจริงๆ พวกเธอคงตายคาสนามกันเนี่ยๆ เลย ผู้ชายอะไรใจร้ายที่สุดเลยยกายรับรู้ได้ทันทีว่ามีสายตาแสนจะดุร้ายของแม่เหยื่อตัวน้อยกำลังจ้องมองมาทางเขาอยู่ ชายหนุ่มก็เลยหันหน้าไปกระตุกยิ้มยั่ว แล้วยักคิ้วให้หญิงสาวไปหนึ่งที หึหึ น่ากลัวตายละ น้ำอุ่นได้เห็นแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่ ริมฝีปากบางเม้นกัดกันจนเป็นรอย เธอเกลียดผู้ชายนิสัยแบบนี้ที่สุดเลยชอบใช้อำนาจรังแกคนอื่นคนนิสัยไม่ดี“จำไว้นะครับว่าเวลารับน้องห้ามพูดคุยและแอบ
ตอนนี้เป็นเวลาช่วงพักกลางวันของทุกคน นักศึกษาส่วนใหญ่ที่มีเรียนคาบบ่ายกันต่อ ก็จะมานั่งเล่นรออยู่ใต้คณะกันเต็มไปหมด รวมถึงกลุ่มของกายกับกลุ่มของน้ำอุ่นด้วย ที่ตอนนี้นั่งกันอยู่แถวใต้คณะกัน กายนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่ที่โต๊ะกับเพื่อนๆ ของตัวเอง สายตาจ้องมองไปทางโต๊ะนักศึกษาสาวโต๊ะหนึ่งอยู่เป็นพักๆ ไปด้วยบอกเลยว่าตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดสุดๆ เพราะตั้งแต่รับน้องจนถึงวันนี้แม่เหยื่อตัวน้อยของเขา ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายโกรธหรือมีท่าทีความสนใจในตัวเขาเลยสักนิด จนทำให้เขาคิดถึงคำพูดของแพรวาขึ้นมา‘นายก็เห็นแล้วนี่สายตาที่มองนายเมื่อกี้นะ มันมีความหลงใหลอยู่ในนั้นสักนิดไหมแหละค่ะคุณเพื่อน’ หรือว่าน้ำอุ่นจะเป็นพวกชอบผู้หญิงด้วยกันวะ กายเริ่มสับสนไปหมดแล้วในตอนนั้นเขาแค่แกล้งเล่นนิดเดียวเองขนาดกายทำเป็นเดินผ่านจนตัวแทบจะชนกันอยู่แล้ว หญิงสาวยังทำเป็นไม่สนใจเดินผ่านไปดื้อๆ ไม่สนใจเขาเลยสักนิด แล้วไม่รู้ว่าจะอะไรนักหนากับโทรศัพท์มือถือเนี่ย เพราะกายเห็นแต่หญิงสาวมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นแต่มันอย่างเดียวเลยนะสิ ไม่ว่าจะเจอตอนไหนเขาก็จะเห็นเธอใส่หูฟังแล้วก้มหน
ใต้ต้นไม้ข้างๆ ตึกคณะวิศวะสี่สาวนั่งพูดคุยเล่นกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน เพื่อรอขึ้นไปเรียนหนังสือในคาบบ่ายกัน เนยหนึ่งในกลุ่มของน้ำอุ่นก็สังเกตเห็นเหมือนว่ากลุ่มของกายที่นั่งอยู่ใต้คณะนั้นชอบมองมาทางกลุ่มของพวกเธออยู่หลายครั้งแล้ว หรือว่าจะมีคนในกลุ่มนั้นแอบสนใจคนในกลุ่มของพวกเธอกันนะ แต่คิดอีกทีมันก็ไม่น่าใช่เพราะตอนที่รับน้องนั้น พวกเขาแกล้งกลุ่มของพวกเธอซะน่วมเลยนี่น่า จนเพื่อนๆ คนอื่นไม่มีใครกล้ามาคุยกับกลุ่มพวกเธอเลยเพราะกลัวว่าจะโดนหางเลขไปด้วย“นี่พวกเราฉันเห็นกลุ่มของพี่ว๊ากแอบมองมาทางกลุ่มของเราหลายรอบแล้ว ฉันว่ามันจะต้องมีอะไรแน่ๆ” เนยเอ่ยพูดกระซิบบอกเพื่อนๆ ในกลุ่มของตัวเองออกมาเสียงเบา เธอว่ามันจะต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่งั้นพวกรุ่นพี่ไม่หันมองมาทางพวกเธอบ่อยขนาดนี้หรอก“ไหน..ไหน” ไอรินกับอิงอิงรีบหันไปทางที่พวกชายหนุ่มนั่งกันอยู่ทันทีเพียะ!!“ยัยบ้า!…แล้วพวกเธอจะหันไปทำไมกันเล่า” เนยรีบยกมือของตัวเองขึ้นตีไปที่แขนของเพื่อนทั้งสองคนไปหนึ่งที ยัยบ้าพวกนี้นี่หันไปแบบนั้นพวกพี่เขาก็รู้หมดกัน
ในท้องถนนในยามเช้าที่ทุกคนต่างพากันออกจากบ้าน ขับรถไปทำงานหรือไม่ก็ไปเรียนหนังสือกัน รถหรูจอดติดไฟแดงอยู่กลางถนนนานนับหลายนาที ภายในรถที่มีสองร่างนั่งเงียบไร้เสียงพูดคุย น้ำอุ่นนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างคนขับ ไม่สนใจที่จะมองหรือพูดคุยกับชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ เลยสักนิด เพราะหญิงสาวยังโกรธเคืองชายหนุ่มเรื่องเมื่อคืนอยู่“น้ำอุ่นยังโกรธพี่เรื่องเมื่อคืนอยู่อีกเหรอครับ” กายหันไปพูดถามคนข้างๆ ที่เอาแต่กดเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่อย่างไม่สนใจ เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาหญิงสาวยังไม่ยอมพูดกับเขาสักคำเลย ชายหนุ่มก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าคนตัวเล็กคงจะยังโกรธตัวเองเรื่องเมื่อคืนอยู่แน่ๆ“แล้วมันสมควรที่จะโกรธไหมล่ะ” ใบหน้าสวยส่งสายตาไม่พอใจให้คนข้างๆ ด้วยความโกรธเคือง เมื่อคืนชายหนุ่มเอาแต่ใจมาก เธอบอกให้เขาหยุดก็ไม่ยอมหยุด ดื้อรั้นจับเธอกินจนดึกเหมือนเดิมมันน่าโกรธไหมล่ะ“แหะๆ พี่ขอโทษ ก็มันควบคุมตัวเองไม่ได้นี่นา” กายหัวเราะแห้งๆ ออกมา เมื่อถูกคนตัวเล็กคาดโทษ ก็คนมันยังกินไม่อิ่มนี่นาจะให้หยุดได้อย่างไงจริงไหม“มีแฟนกับเขาทั้งทีก็มีแฟนหื่นซะได้ เลิกตอนนี้ทันไหมเนี่ย” เสียงหวานพูดบ่นพึมพำออกมาอย่า
“อือออ…อือออ”ในห้องนั่งเล่นที่มีทีวีจอใหญ่เปิดอยู่เสียงดังสนั่น สองร่างบนโซฟาหรูกำลังนั่งบดเบียดกันอยู่ เนื้อตัวทั้งสองเปลือยเปล่าร่างเล็กถูกร่างหนาอัดกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างเร่าร้อน ริมฝีปากบางถูกริมฝีปากหนาประกบจูบอย่างดูดดื่ม ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคอด้วยความเสียวซ่านอย่างห้ามไม่ได้หลังทานอาหารเที่ยงกันเสร็จกายที่ยังไม่ยอมกลับห้องของตัวเองนั้น ก็จัดการจับเจ้าของห้องทานล้างปากต่อทันที เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณแฟนคนสวยของเขา อาการจะดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากแล้ว แถมยังกลับมาปากดีชี้หน้าด่าว่าเขาเป็นชุดตั้งแต่เช้าแล้วด้วย กายเลยต้องจัดการหาอะไรให้เธอทำสักหน่อยจะได้หยุดด่าว่าเขาซะทีกายรับรู้ว่าคนตัวเล็กใกล้จะถึงฝั่งฝันอีกครั้งแล้ว ชายหนุ่มเลยรีบเร่งจังหวะของสะโพกกดแก่นกายเข้าออกให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะตอนนี้เขาก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันอีกครั้งแล้วเหมือนกันตับ! ตับ! ตับ!!!“อ๊ะ ะ!…อ๊ะ ะ!! อ่า าๆ ! / อ้า า...อ้า าๆ!!”น้ำอุ่นถูกคนตัวโตโถมกระหน่ำกระแทกแก่นกายเข้าออกไม่หยุด ร่างบางแนบชิดจนติดโซฟา เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังประสานกับเสียงร้องครางของทั้งคู่ก้องไปทั่วห้องนั่งเล่น ใบหน้าสวยซบลงที่ไหล่ก
หลังจากที่ทั้งสองทานต้มมาม่ากันจนอิ่มแล้ว น้ำอุ่นก็จัดการหายาคุมฉุกเฉินกับยาลดไข้มาทาน โดยไม่สนใจคนหน้ามึนที่ยังไม่ยอมไปไหน ร่างสูงนั่งมองคนตัวเล็กที่กำลังจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง เท้าหนารีบเดินไปขวางหน้าประตูห้องเอาไว้ ชายหนุ่มยังมีเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับเธออีกตั้งหลายเรื่อง“น้ำอุ่นอยู่คุยกับพี่ก่อนได้ไหม” มือหนารีบจับแขนเล็กของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น เขาไม่ยอมให้เธอหนีเข้าไปนอนตอนนี้ได้หรอก“แต่น้ำอุ่นไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่ ปล่อยค่ะ” น้ำอุ่นพูดกับชายหนุ่มออกไปเสียงแข็ง มือเล็กก็พยายามแกะมือหนาออกจากแขนของตัวเองไปด้วย เขาจะอะไรกับเธอนักหนานะ“แต่พี่มี…แล้วก็มีเยอะด้วย” กายไม่ยอมปล่อยตามที่น้ำอุ่นบอก ก็เป็นสักอย่างนี้ทุกที พอเขาจะขอคุยอะไรด้วยหน่อย ก็ชอบทำเป็นไม่สนใจจะเดินหนีเขาซะลูกเดียว“ว้าย!!…นี่พี่จะทำบ้าอะไรเนี่ยย!” น้ำอุ่นกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆ ร่างกายของเธอก็ลอยขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของคนตัวโต นี่เขาคิดจะทำบ้าอะไรของเขาอีกเนี่ยยยกายอุ้มคนที่เอาแต่โวยวายทุบตีเขาไม่หยุดเดินกลับมานั่งที่โซฟา โดยให้ร่างบางนั่งทับบนตักของตัวเองแล้ว ใช้แขนทั้งสองข้างกอดร
บนเตียงกว้างในยามบ่ายที่ห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำสู้กับแสงแดดที่สอดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง น้ำอุ่นหลังจากที่ถูกชายหนุ่มจับกินแทนมื้อเช้าไปจนอิ่ม หญิงสาวก็นอนหลับใหลไปอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเตียงไปอีกครั้ง ขนตายาวสวยค่อยๆ กะพริบถี่ๆ แล้วลืมตาขึ้นมา เมื่อเริ่มรู้สึกหิวจนทนไม่ไหว น้ำอุ่นถูกชายหนุ่มสูบพลังชีวิตออกจากร่างอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวาน ตั้งแต่ชาบูที่ห้างแล้วก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องของเธออีกเลยน้ำอุ่นค่อยๆ ขยับร่างที่เมื่อยล้าลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ดวงตากลมโตหันมองซ้ายมองขวาสำรวจไปรอบๆ อย่างงัวเงีย ในห้องนอนตอนนี้เหลือเพียงเธอนั่งอยู่คนเดียว ส่วนชายหนุ่มที่นอนกอดเธอจนถึงเมื่อครู่ตอนนี้กลับหายไปไม่เหลือแม้แต่เงา ผู้ชายอะไรนิสัยแย่ที่สุดพอกินเธอจนพอใจแล้วก็หนีกลับไปเลยสินะ ไอ้คนนิสัยไม่ดี!! ไอ้คนหื่น!!!ร่างบางนั่งพ่นคำด่าทอว่าคนที่จากไปออกมาไม่หยุด น้ำอุ่นเกลียดพวกผู้ชายแบบนี้ที่สุด ชอบเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นยังไม่พอยังชอบบังคับขืนใจคนอื่นอีกด้วย ในเมื่อไปแล้วก็ขออย่าให้ได้เจอกันอีกเลยหลังจากที่นั่งพูดด่าทอคนชายหนุ่มจนพอใจแล้ว ร่างบางก็ค่อยๆ ขยับตัวลุกลงจากเตียงกว้างอย่างช้าๆ น้ำอุ่น
ในรถหรูที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไปทั่วทั้งคันรถ มีสองร่างกำลังนั่งบดเบียดกันอยู่ที่นั่งข้างคนขับอย่างแนบชิด หลังจากที่กายอุ้มน้ำอุ่นขึ้นมาบนรถได้ ชายหนุ่มก็กลายร่างเป็นเสือร้ายเข้ามากัดกินแม่เหยื่อตัวน้อยของตัวเองทันที ร่างหนาโยกขยับสะโพกสอดแท่งเนื้อร้ายกระแทกเข้าออกร่างบางอย่างเต็มแรง จนเบาะรถขยับไปตามจังหวะกระแทกของเขาไปด้วย ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าคอยพากลับไปจักการที่ห้องทีเดียว แต่คนตัวเล็กฤทธิ์เยอะมากเกินไป เขาเลยจำเป็นต้องสั่งสอนสักสองสามยกก่อนกลับซะหน่อย“อ๊ะ!..จะ!…เจ็บ…อ้า า ๆ !!.. อ๊ะ ะ!!” เสียงสั่นพร่าร้องท้วงขึ้นอย่างสุดจะทน เมื่อเธอรู้สึกเจ็บและทรมานมากเหลือเกิน ฝ่ามือเล็กๆ ทั้งพยายามผลักดันและทุบตีคนเอาแต่ใจไปมาไม่หยุดน้ำอุ่นพยายามต่อต้านชายหนุ่มตรงหน้าอยากสุดชีวิต แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเธอเลยสักนิด แถมยังยกมือหนาขึ้นมาจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นสูง แล้วเร่งจังหวะกระแทกเข้ามาในตัวของเธอให้เร็วขึ้นและลึกขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ จนตอนนี้น้ำอุ่นรู้สึกเจ็บและจุกแน่นที่หน้าท้องไปหมด“อืออ…อือออ!!” เสียงทุ้มร้องครางออกมาดังกระหึ่มอย่างชอบใจ ริมฝีหนาวนเวียนดูดกัดอยู่แถวเต้าอวบอิ่มทั้งสองข้า
“โอเคครับคุณเมียยย!!” กายยิ้มกว้างออกมาทันทีเมื่อได้ยินหญิงสาวตรงหน้ายอมตกลงทำตามที่ตัวเองพูดกายกับน้ำอุ่นเดินไปที่จุดยืมหนังสือที่มีบรรณารักษ์นั่งอยู่ ชายหนุ่มยืนจ้องดูหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กะพริบ เพราะกลัวว่าแม่เหยื่อตัวดีจะแผลงฤทธิ์อะไรใส่เขาอีก พอน้ำอุ่นทำเรื่องยืมหนังสือเสร็จแล้ว ทั้งสองก็เดินไปขึ้นที่ลิฟต์กันเพื่อจะได้ลงไปข้างล่างด้วยกัน กายที่กลัวว่าน้ำอุ่นจะคิดหนีตัวเองไปอีก ชายหนุ่มก็ยกแขนขึ้นมาโอบเอวบางของคนข้างๆ เอาไว้แน่นน้ำอุ่นตอนนี้ในหัวของเธอพยายามคิดหาทางรอดให้กับตัวเองอยู่อย่างสุดชีวิต แต่ว่าหัวของเธอมันตื้อไปหมดคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เธอจะทำยังไงดีนะถึงจะรอดจะคนหื่นคนนี้ไปได้ติ่ง!!เสียงประตูลิฟต์เปิดออกทำให้น้ำอุ่นตื่นจากภวังค์ของความคิด หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้ามาในลิฟต์อย่างว่าง่าย แล้วในที่สุดเธอก็คิดอะไรบางอย่างออกจนได้ ถึงวิธีนี้จะเสี่ยงอยู่บ้างแต่ถ้าทำสำเร็จเธอก็น่าจะรอดไปได้เหมือนกัน เอาวะน้ำอุ่นลองสักครั้ง!!น้ำอุ่นยืนอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มเงียบๆ สายตาก็จ้องมองอยู่ที่ประตูของลิฟต์ที่กำลังจะปิด วิธีนี้มีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเธอจะต้องทำให้ได้กายที่ยืนรอลิฟต
ครืน!! ครืน!! ครืน!!ในห้องเรียนที่ทุกคนกำลังนั่งฟังอาจารย์สอนกันอยู่อย่างใจจดใจจ่อ อยู่ๆ เสียงข้อความของโทรศัพท์เครื่องหรูก็ดังติดๆ กันไม่หยุด มือหนาค่อยๆ กดเปิดดูข้อความที่มีคนส่งมา ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจเมื่อได้อ่านข้อความ มันต้องอย่างนี้สิถึงจะสมกับที่เขาเลือกมาจริงๆ หึหึ เย็นนี้เจอกันแน่แม่เหยื่อตัวแสบบบ!!ห้องสมุด“รู้แล้ว…กำลังหาอยู่…อืมม พรุ่งนี้เจอกัน”เสียงของน้ำอุ่นพูดตอบโต้กับเพื่อนในสาย วันนี้หญิงสาวรับหน้าที่มาหาหนังสือที่ต้องใช้ในการทำรายงานเพียงคนเดียว เพราะเพื่อนคนอื่นๆ บอกว่าติดธุระต้องรีบกลับห้องกันก่อน เธอเลยต้องมาเดินหาหนังสือที่ห้องสมุดนี้คนเดียวนั้นเองร่างบางไล่เดินดูหนังสือไปทีละชั้นทีละชั้นอย่างช้า เพราะตอนนี้ยังไม่เย็นมากสักเท่าไหร่ หญิงสาวยังมีเวลาในการหาหนังสืออีกเยอะ สายตาคู่สวยมองจ้องหนังสือทีละเล่มอย่างสนใจ ปกติน้ำอุ่นก็ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเธอเลยคิดว่าจะหาหนังสือเพิ่มอีกสักเล่มสองเล่มเอาไว้ไปอ่านเล่นช่วงวันหยุดสักหน่อยแต่อยู่ๆ น้ำอุ่นก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครบางคนมายืนข้างหลังของตัวเอง ร่างบางกำลังจะหันหลังไปดูแต่แล้วก็ต้องหยุ
“เนย!…เธอจะพูดบ้าอะไร” น้ำอุ่นรีบพูดกระซิบบอกที่ข้างหูของเพื่อนตัวเอง ยัยบ้านี่พอเหล้าเข้าปากแล้วก็ชอบทำอะไรไม่รู้จักคิดอยู่เรื่อย“แลกกับอะไรพูดมาให้จบสิ…ไม่แน่จริงนี่” ลูกชุบเห็นน้ำอุ่นทำท่าทางแปลกๆ เธอคิดว่ามันจะต้องมีอะไรปิดบังไว้อย่างแน่นอน หญิงสาวเลยจงใจพูดยุทางนั้นไปอีกครั้ง คอยดูนะคืนนี้ฉันจะเอาเรื่องเน่าๆ ของพวกเธอออกมาแฉให้หมดเลย“ก็เพราะเนยกับน้ำอุ่นมันเดิมพันกันไว้นะสิ ว่าถ้าน้ำอุ่นสามารถขึ้นเตียงของหนุ่มฮอตที่สุดของมหาลัยได้ จะยกคอนโดห้องนั้นให้อย่างไงละ”“ไอริน!!”ไอรินที่ทนฟังคำยวนยุของอีกฝ่ายไม่ไหว ปากบางก็พ้นความจริงทั้งหมดออกมายาวเหยียด อิงอิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พอได้ยินแบบนั้นก็แทบทำตัวไม่ถูก เธออยากจะบ้าตายกับยัยสองคนนี้จริงๆ เลย เหล้าเข้าปากเมื่อไหร่ความลงความลับอะไรเอามาพูดหมดไม่มีเหลือ ตาย! ตาย! ตาย!“เดิมพันอย่างงั้นเหรอ!” ลูกชุบพูดพึมพำออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง ยัยพวกนี้เล่นเกมบ้าอะไรกันอยู่เนี่ย เดิมพันอย่างงั้นเหรอดีพี่กายของเธอจะได้รู้สักทีว่า ยัยน้ำอุ่นที่เขาสนใจนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย แถมยังเห็นชายหนุ่มเป็นแค่ของในเกมเดิมพันของพวกเธอเท่านั้นเอง
“กรี๊ดดด!!…ยัยไอรินนี่เธอทำบ้าอะไรเนี่ย!” เสียงของลูกชุบกับมะปรางกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่อชุดที่พวกเธอใส่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยเหล้าในแก้วของไอริน“อุ๊ยขอโทษจ๊ะ!...พอดีว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจนะจ๊ะ” ไอรินพูดบอกทีละคำอย่างช้าๆ ใบหน้าหวานแสยะยิ้มขึ้นอย่างสะใจ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับพวกเธอ มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละสมน้ำหน้า“ชุดเปียกนิดๆ หน่อยๆ คงไม่เป็นไรใช่ไหมจ๊ะ คุณดาวคุณมะปรางคาาา!!” เนยยิ้มเยาะเย้ยทั้งสองขึ้นอย่างยียวน ช่วยไม่ได้ใครให้มาทำเพื่อนของพวกเธอก่อน แบบนี้เขาเรียกว่าตาต่อตา น้ำต่อน้ำไงละ หึหึ“พวกเธอ!!…ทำเกินไปแล้วนะ” ลูกชุบโกรธจัดกัดฟันดังกรอด เรื่องในคืนนี้เธอไม่ยอมจบง่ายๆ แน่บอกเลย“แล้วที่เธอทำกับเพื่อนของฉันล่ะมันไม่เกินไปหรือไง” เนยเถียงสองสาวกลับทันที พอตัวเองโดนเข้าบ้างทำมาเป็นร้องโวยวาย ทีตอนทำคนอื่นกลับไม่คิดมาบอกว่าพวกเธอทำเกินไป แล้วที่ทำกับน้ำอุ่นล่ะมันไม่เกินไปหรือไง“ใช่ คิดว่าทำคนอื่นได้ฝ่ายเดียวหรือไง ทางนี่ก็มีมือมีเท้าเหมือนกันนะคะ” ไอรินพูดว่าออกไป พร้อมกับชูแก้วเปล่าในมือให้ดูไปด้วย คิดว่าทำได้อยู่ฝ่ายเดียวอย่างงั้นเหรอ หึหึ รู้จักไอรินน้อยไปซะแล้ว“หึห