เมื่อสองพ่อลูกเดินทางเข้ามาถึงหมู่บ้าน เห็นทุกคนช่วยกันทำอาหาร อย่างมีความสุข รอยยิ้มเล็กน้อยเหล่านี้ชั่งทำให้สุขใจ
ยาย" พ่อหนุ่มมาชิมอาหารรสมือข้าสิ " เหมียวเหริ่นเฟิง"ไหน ยายทำอะไร หน้ากินจัง. เป็นภาพที่หน้าเอ็นดูและแสนอบอุ่นคนเป็นพ่อเห็นแล้ว ก็นึกถึงภรรยาที่รักของตนขึ่นมาทันที....หากนางยังอยู่ครอบครัวเราคงมีกันพร้อมหน้าพร้อมตา เหมียวเหรินเฟิ่งจะได้มีแม่อีกคน นั้นจึงจะสมบูรณ์แบบ เหมียวเหรินเฟิ่ง" ท่านพ่อ ได้ยินข้าหรือไม่" "มีอะไร " เหมียวเหรินเฟิง" ข้ามาตาม่าน วันนี้มีสุราชั้นยอดมาด้วย มาเถอะ ท่านพ่อ" "ได้ ไปกัน" เขตนอกเมือง ทหารเฝ้ายามทำงานไม่ได้หลับได้นอนผลัดกันเปลี่ยนบ้าง ยื่นหลับบ้างเป็นเรื่องปกติ....แต่กลิ่นนั้นไม่สามารถดับได้หากได้สัมผัส .... "1" ผู้ใด ย่างอะไร " " 2"ข้าก็ไม่รู้" "1"ได้กลิ่นแล้วข้าหิว" "2"แต่แถวนี้ไม่มีหมู่บ้าน ผู้ใดจะมาย่างเนื้อ จมูกเจ้าพิการรึ" " 1"เจ้าจะบ้า เจ้าเองก็ได้กลิ่น" 2" ข้าว่าลองเดินตามกลิ่นไป เจ้าคิดเช่นไร" 1" ก็ลองดู ไป" ในขณะที่ทั้งสองเดินไปเรื่อยๆทางไปนั้นกลับเป็นหน้าผาที่เคยไปกับองค์ชายหม่าสิงคงรอบที่แล้ว.....ในเวลาอันเงียบสงัดทั้งสองได้ยินเสียงคนคุยกันเข้ามาเป็นระยะๆ เป็นเสียงที่แผ่วเบามากจึงตกใจวิ่งหนีแหกกระเจิงไปคนละทิศละทาง รุ่งสาง ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนเฝ้ายามตามปกติในทุกๆวัน แต่วันนี้มันแปลกไปกว่าวันอื่นๆ " สองคนนั้นหายไปไหน ข้าวของก็อยู่ " 2" นั้นสิ รึว่าไปออกลาดตะเวนก่อนกลับ" 1" พวกมันนั้นรึ เจ้าฝันไปเถอะไม่มีทาง" 2" รึว่าพวกมันถูกฆ่าตาย" 1" เจ้าก็พูดไปเรื่อย" 2" เจ้าๆ ดูนั้นรอยเท้า ข้าว่าลองเดินตามรอยเท้าไป" 1" อืม ข้าก็คิดเช่นเจ้า 2" หึ เจ้าดูสิ รอยเท้าเดินไปทางหน้าผา ต้องใช่แน่ๆ" 1" ห๊ะ องค์ชายหม่าสิงคง รีบคำนับเร็ว หม่าสิงคง" ทำท่าทางตื่นตระหนก มีอะไรรึ 1" องค์ชายทหารที่เฝ้ายามเมื่อคืนหายไปขอรับ หม่าสิงคง" หายไปงั้นรึ" 1"ขอรับ เห็นแค่รอยเท้าเดินไปถึง หน้าภูผา ตรงข้ามกับป่าบังบด ขอรับ" หม่าสิงคง" เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ข้าจะกลับมาสะส่าง ตอนนี้มีเรื่องด่วน พวกเจ้าอยู่เฝ้ากันไปก่อน" 1" ขอรับ องค์ชาย" เขตลับนอกเมือง นักฆ่าชายทั้ง10 สุ่มแยกกันดักรอ คนของเหยียนจี หากมีการเล่นตุกติก พร้อมฆ่าตายทันที ในขณะนั้นหม่าสิงคงได้เดินทางมาถึงยังจุดหมายที่ท่านพ่อทรงมอมหมายให้มา หม่าสิงคง" ข้ารู้สึกแปลกๆ " องค์รักษ์" องค์ชาย เหตุใดไม่มีผู้คนเลย" หม่าสิงคง" อยู่นิ่งๆเสียก่อน พวกมันจับตาดูเราอยู่ จู่ๆพวกมันก็กระโดดลอยตัวลงมาทั่ง10 คน..... " วันนี้ที่ข้านัดพบ มาเพื่อส่งข่าวสาร เจ้าคงเป็นตัวแทนของเหยียนจี สินะ" หม่าสิงคง" ใช่ ท่านมีข่าวอะไรรึ " ฝากไปบอกเหยียนจีว่า พวกเราเริ่มทำงานกันยากขึ้น เพราะมีนักฆ่าที่มีฝีมือกว่าพวกข้า ขัดขว้างงาน จนเสียหาย ข้าต้องการให้ท่านเหยียนจีจัดการเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้น เราจะไม่ทำการค้าด้วย " หม่าสิงคง" เรื่องแค่นี้เองรึ" " ใช่ เรื่องแค่นี้ ที่เจ้าอุทานออกมานั่น มันคงเป็นเรื่องตลก ..หึ ค่อยดูเถิด ไป! พี่น้องข้ากลับถิ่น!! หม่าสิงคง" ข้าว่าเรื่องนี้ ต้องไม่ใช่แค่เรื่องการค้า " องค์รักษ์" ขอรับ มันต้องมีอย่างอื่นอยู่เบื้องหลัง" หม่าสิงคง" กลับไปที่เขตนอกเมืองต่อ " องค์รักษ์" ขอรับ" เขตนอกเมือง นายทหารทั้งสองคนบังเอิญเดินไปเจอทหารที่หายไปเมื่อคืนหลบซ่อนตัวอยู่ที่ถ้ำเล็กๆในป่าไม่ลึกมากนักพวกทหารทั้งสองตัวสั่นพูดจาติดขัดไม่รู้ความ...ทหารผลัดเช้าจึงนำทหารผลัดดึกเข้ามาที่เขตเฝ้ายาม" 1" เหตุใดอยู่ๆก็กลายเป็นสภาพเช่นนี้" 2" รึว่าพวกมันถูกผีหลอก" 1" ผีเผอลอะไรกัน พวกเราก็เฝ้าที่นี้มาหลายปีไม่มีเหตุการณ์ ผีมาหลอกคนหรอก 2" แต่อาการพวกมัน ไม่ต่างจากโดนผีหลอก" 1" องค์ชายมาพอดี " หม่าสิงคงกลับจากพบปะนักฆ่า ก็ต้องมาสะส่างเรื่อง ที่เขตนอกวังต่อ ในขณะที่เดินทางมานั้น ก็นึกอยู่ในใจว่า มันกี่รอบแล้วเรื่องบนหน้าผา...ตนตะงิดใจว่ามันต้องมีอะไรยู่ที่นั้น จึงเข็นถามนายทหารทั้งสอง หม่าสิงคง" เจ้าทั้งสองไปเจออะไรเข้า" พวกมันทั้งสองไม่พูด เป็นบางคำ พูดจับใจความไม่ได้มากนัก "1 กลิ่นอาหาร....ข้าตามไป ....ได้ยินเสียง เสียงคน เสียงคน หม่าสิงคง" เอาละ ข้าพอจับใจความได้ แต่เรื่องนี้ ต้องค่อยสังเกตดหตุการณ์จะสืบให้ได้วันนี้คงไม่ได้ ส่วนเจ้าเฝ้ายามดึก ก็ค่อยสังเกต ก็แล้วกัน มีอะไร รายงานมาให้หมด" 2" ขอรับ องค์ชาย " ตำหนักเหยียนจี อาลี่เห็นว่าหม่าสิงออกไปทำงานบางอย่าง เลยอยากทำน้ำชาและของว่างให้ ยามกลับมาจะได้หายเหนื่อย ....นางเดินตรู่เข้าไปในครัวใหญ่ของวัง....อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว....นางสนมที่นั้นเห็นเข้าจึงอยากแกล้งนางยิ่งนัก เลยเดินมาหาเรื่อง...ชวนทะเลาะจนได้ สายตาเย้ยยัน มองต่ำลงพื้น วางอำนาจบาดใหญ่ เดินมั่นใจมาหาอาลี่ ที่ห้องครัว " เห้อ ได้ข่าวว่า องค์ชายหม่าสิงคงรับผู้ใดมิรู้เป็นภรรยาเอก รากเง้ามาจากที่ใด ก็ยังไม่แน่ใจ" อาลี่ได้ยินเช่นนั้น ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตั้งใจทำอาหารว่างให้องค์ชาย นางกำนัลเห็นอาลี่ไม่มีการตอบโต้....เลยโยนผลไม้ปาใสหัว...แม่ครัวและคนอื่นไม่สนใจไม่ช่วยอะไรเลย อาลี่" แม่หญิง ท่านโยนผลไม้ใสหัวข้า ทำไมรึ " มือข้ามันลื่น ข้าไม่ได้ตั้งใจ ไหนๆก็โดนไปแล้ว ก็ถือสะว่าเป็นบทเรียนให้เจ้า อาลี่" ขอบใจท่านนักที่เตือนสติข้าด้วยวิธี ต่ำๆเช่นนี้ " "นี้เจ้าว่าข้ารึ" อาลี่" ข้าว่าท่านตรงไหน เมื่อครู่ข้าเพึ่งจะชมท่านไป อีกอย่างท่านก็แค่นางกำนัล ส่วนข้าเป็นชายา หากเรื่องนี้เล่าลือออกไป คงเสียชื่อเสียง ของราชวงค์ฮั่น เป็นแน่" นางกำนัลโดนชม เชย ที่เจ็บที่สุดเท่าที่เคยพบเจอ นางกำมือหมัดสั่นริกๆ อยากจะทำร้ายแต่ก็ต้องกลั้นไว้ หลังจากที่อาลี่ จากไป...ทุกคนในครัวจึงวางแผนทำร้ายในขณะที่ อาลี่เดินกลับวังซางเจี้ยงหมิง" แสดงว่าท่านพี่รู้ทุกอย่าง "เหยียนจี " ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น"ซางเจี้ยงหมิง" หากท่านไม่รู้ แล้วเหตุใด ท่านถึงบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน"เหยียนจีเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ " ทหารนำตัวชายไร้สติผู้นี้ออกไปเสีย"ซางเจี้ยงหมิง" ข้าไม่ได้ไร้สติ ท่านต่างหากที่สติพิการ แอบค้าขายสตรี บ้าตัณหา ชอบทารุณหญิงสาว นี่แหละที่เรียกว่าไร้สติเหยียนจี" เจ้าอย่ามาใสความข้า "ซางเจี้ยงหมิง" ลากพยานออกมา"เหยียนจี เห็นชายสองคนที่ตนนั้นจ้างให้นำศพหญิงสาวไปทิ้ง ถึงกับต้องใช้สายตาข่มขู่สายทั้งสอง ซางเจี้ยงหมิง" ท่านพี่มองอะไรรึ"เหยียนจี" ชายสองคนนี้ข้าไม่รู้จัก"ซางเจี้ยงหมิง" แต่ชายสองคนผู้นี้รู้จักท่าน ไหนพวกเจ้าสองคน เล่ามา"ชาย1" ฝ่าบาทจ้างพวกข้า ให้นำหญิงสาวที่ถูกทารุณไปทิ้งในแม่น้ำ ขอรับ "เหยียนจี" พวกเจ้าใสความข้า เหลวไหล"ชาย2" ฝ่าบาททำเช่นนี้ มาตลอดระยะเวลาหลายปี ขอรับ"ซางเจี้ยงหมิง" เห็นไหม ท่านพี่ รึว่าแค่นี้ไม่พอ "เหยียนจี" เจ้าจะทำอะไร"ซางเจี้ยงหมิง" เมือคืนนี่ท่านพี่พึ่งทารุณหญิงสาวนางสนมที่เข้ามาวันแรก จำไม่ได้รึเหยีนนจี " เจ้า ไม่มีหลักฐานอย่ามาใสความข้า ซางเจี้ยงหมิง"
ตกดึก 21.00เหยียนจี" พวกเจ้าทั้ง5 คนเข้ามาใกล้เข้าสิ "เพ่ค่ะ ฝ่าบาท"เหยียนจี" มาเล่นเกมส์กับข้ากันเถอะ"" เหตุใดต้องมาห้องใต้ดินด้วย "เหยียนจี" ทำไม ห้องใต้ห้องนี้มันไม่สวยรึ"สวยมากเพ่ค่ะ แต่ข้าแค่สงสัย"เหยียนจี เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ให้เหมือนสมัยที่ข้ายังเป็นหนุ่ม มาๆปิดตาทีละคน มัดแขนขึงไว้คนมุมฝ่าบาท" ทำไมเงียบเช่นนี้"เหยียนจี" ข้ากำลังนำความสุขมาให้เจ้า เข้ามา หนุ่มๆ 5 คนเข้า ของดีๆรอพวกเจ้าอยู่"...........................หลังจากนั้นสภาพ มีรอยช้ำ ร้องไห้โหยหวนลั่นคุกใต้ดิน กลัวจนตัวสั่น เหยียนจี" ของพวกนี้งานดีมาก แต่ว่าท่าดูจะหมดสภาพแล้ว ทหารนำหญิงพวกนี้ไปฆ่าทิ้งเสีย "" ขอรับ" องค์รักษ์" ฝ่าบาท จะตามพวกมันไปหรือไม่"หม่าสิงคง" ตามไป ข้าเกรงว่าพยานแค่นี้อาจไม่พอ"องค์รักษ์" ขอรับ"ทหารนำหญิงสาวทั้ง5 ขุดหลุมฝั่งร่างทั้งเป็นแต่องค์รักษ์มาได้ทันเวลา จึงฆ่าทั้งทหารทั้งสองทิ้งเสีย และนำพวกนางขึ่นรถม้าไปซ่อนไว้ในป่าบังบดเช่นเคยซางเจี้ยงหมิง" เจ้าเหตุถึงได้มาที่นี่ยามดึกเช่นนี้"หม่าสิงคง" ท่านพ่อข้าทารุณหญิงสาว ในคุกใต้ดินอาการสาหัส ได้โปรดท่านซางเจี้ยงหมิง ช่วยพวกนางด้วย
ซางเจี้ยงหมิง" แต่เจ้าก็ไม่ควรทำร้ายตัวเองเช่นนี้"หลังจากนั้นเหมียวเหรินเฟิ่งก็สลบไปอีกครั้งเพราะริทเหล้า หม่าสิงคงจึงแบกร่างกายเข้าไปที่บ้านเหมียวเหรินเฟิ่งองค์รักษ์" ท่านคิดอะไรอยู่รึ"หม่าสิงคง" ข้าก็กลัวว่าวันหนึ่ง ข้าก็จะเป็นเช่นนี้" องค์รักษ์"ข้าว่าอย่าคิดมากเลยขอรับ ไปหาภรรยาท่านเถิด นางไม่รู้ว่าท่านมา หากรู้คงดีใจมาก "หม่าสิงคง" เจ้าก็ไม่ต่างกัน อยากเจออาหนิงยี่ใจจะขาดแล้วใช่หรือไม่"องค์รักษ์" ขอรับ ข้อนี้ข้าไม่ปฎิเสธ"หลังจากนั้นต่างฝ่ายก็ไปหาเมียของตน..แถมพาไปร่วมรัก ในที่ลับๆอาลี่คิดถึงหม่าสิงคงกอดไม่ยอมปล่อย" ข้านึกว่าท่านไปมีหญิงอื่นเสียแล้ว"หม่าสิงคง " หญิงอื่นข้าไม่ชายตามอง ข้ามีแต่เจ้าเพียงผู้เดียว"อาลี่" ข้าก็มีแต่ท่านผู้เดียวเช่นกัน"อยู่กันสองต่อสองเช่นนี้ มังกรผงาดเริ่มแข็งตัวขึ้นมือไม้เริ่มคล้ำๆร่างกายทีละน้อยจนไปสัมผัสที่ส่วนล่างร่องรักจนอีกฝ่ายดิ้นสั่นครางเสียว น้องชายพร้อมจะเปิดศึกแล้วจึงกระชาก เสื้อผ้าออกหมด ขบเม้นดูดกลืนที่ยอดอก มือเรียวๆหนาๆ ลวงเข้าช่องน้องสาวอย่างเร้าร้อน " ท่านพี่ "หม่าสิงคง " นอนลง ข้าจะพาเจ้าขึ้นสวรรค์""ของท่านพี่ ใหญ่จัง "มัง
เมื่อนางเดินนางถึงราชวงค์ฉิน....แต่ความรู้สึกกลับว่างเปล่าแม้จะมีสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแปลกใหม่ ก็ไม่อาจรังสายตานางได้ อาเก้า" เข้าไปข้างในเถิด ขุนนางรอต้อนรับเจ้าอยู่"นางพยักหน้าดั่งดอกไม้ถูกแดดแผดเผาจนแห้งเหี่ยว" เพ่ค่ะ "ในท้องพระโรงราชวงค์ฉินชั่งใหญ่โต อลังการงามตา..ขุนนางทั้งหลาย น้อมคำนับองค์หญิงด้วยความปลื้มปิติ ขุนนาง" ขอต้อนรับการกลับมาขององค์หญิงแห่งราชวังฉิน "อาเก้า" ตั้งแต่วันนี้ไป องค์หญิงหลิวเชียหนิงคือผู้สืบทอดบัลลังค์คนต่อไป ข้าอยากให้ขุนนางทุกท่านเป็นพยาน ลงนามด้วยความเห็นชอบ ที่จะให้หลิวเชียหนิงครองบัลลังค์คนต่อไป"ขุนนางพร้อมใจกันลงความเห็นโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หลิวเชียหนิง" ข้าหลิวเชีย จะตั้งใจพยายามเป็นราชิณีที่ดี ไม่ทำให้ชาวบ้านต้องอดยากแร้งแค้น มีแต่จะทำให้รุ่งเรืองขึ่น"ขุนนาง ทรงพระเจริญองค์หญิงหลิวเชียหนิง (การมาครั้งนี้เป็นการเปิดตัวอย่างสมบูณร์)อาเก้า" ลูกพ่อ นางกำนัลคนนี้ จะเป็นนางประจำตัวของเจ้า (นางหันมองท่านพ่อตนอย่างเมอลอย พยักหน้าตอบรับที่ไร้ความสุข) " เพ่ค่ะ"อาเก้า" พวกเจ้า พาลูกสาวข้าไปตำหนักใหญ่" "เพ่ค่ะ ฝ่าบาท""องค์หญิงเพ่ค่ะ กระหม่อมทั้งสอง
รุ่งส่างตำหนักเหนียนจีแม่เล้าเร่งเดินทางด้วยท่าทางกระวนกระวายจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขอพบเข้าเฝ้าฝ่าบาทในยามเช้าตรู่เหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนขอบตาดำคล้ำผมยุ่งเหยิงเสื้อผ้าเมื่อคืนยังไม่ได้เปลี่ยนแม่เล้า" ท่านขุนนางข้าอยากเข้าพวกฝ่าบาทข้ามีเรื่องจะทูลข้าต้องเข้าก็ฝ่าบาทเดี๋ยวนี้"ขุนนาง" ออกไปนี่ไม่ใช่เวลาจะมาเข้าเฝ้าวันนี้เข้าเฝ้าไม่ได้ "ทหาร ลากนางออกไป"แม่เล้า" แต่ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ หากไม่เข้าเฝ้าตอนนี้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แน่หากท่านขุนนางไม่เชื่อก็ตามใจท่านเถิดข้ายอมกลับก็ได้"เหยียนจี" เสียงเอะอะโวยวายอะไรกันดังไปถึงข้างในจนข้านอนไม่ได้"ขุนนาง" มีผู้หนึ่งบอกว่าจะขอเข้าเฝ้าท่านให้ได้หากไม่เฝ้าวันนี้พรุ่งนี้เรื่องอาจจะบานปลายขอรับ"เหยียนจี" ไปตามนางกลับมาเข้าเฝ้า"ขุนนาง" ขอรับฝ่าบาท"ขุนนางเร่งฝีเท้าเดินตามหาหญิงผู้นั้นอยู่หลายคราจนกว่าจะพบก็เล่นซะเหงื่อตกหายใจหอบเหนื่อยอยู่หลายคร่า"ขุนนาง" ข้าหาเจ้าอยู่นานเจ้ามานั่งพิงกำแพงอย่างกับคนขอทานอยู่นี้นี่เอง ฝ่าบาทเรียกเจ้าเข้าพบ "แม่เล้า" จริงหรือได้ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้"ตำหนักเหยียนจีเหยียนจี" เจ้ามีธุระอันใดเหตุใดสภาพ
ภูเขาลูกที่สองทุกนางเดินทางมาถึงภูเขาที่ 2 แล้วสงสัยใช่ไหมว่าเหตุใดทำไมหม่าสิงคงถึงให้พวกนางเดินทางมาที่ภูเขาลูกที่ 2 โดยใช้ทางลัด....เหตุเพราะที่นี่เป็นทางที่หม่าสิงคงใช้ในการลัดพบปะศัตรูอยู่บ่อยครั้งถึงไม่ค่อยมีชาวบ้านหรือผู้อื่นใช้ทางเส้นนี้กันเพราะทางเส้นนี้มีทางสลับซับซ้อนมากมายแต่ที่พวกนางมาได้เพราะองครักษ์ได้ติดป้ายลูกศรในระหว่างเดินทางเมื่อเจอลูกศรให้ดึงลูกศรออกเพื่อจะได้ไม่เหลือร่องรอยหม่าสิงคง" เจ้าช่วยข้าคิดเสียทีว่าจะนำพวกนางทั้งหมดไปได้เช่นไร"องค์รักษ์" รถม้าใหญ่สัก 50 เชือกก็น่าจะพอขอรับ" หม่าสิงคง" เจ้ามีคนที่พอไว้ใจที่จะนำมา 50 เชือกมาให้ข้าได้หรือไม่" องค์รักษ์" ถ้าพอมีอยู่บ้างรับรองไว้ใจได้ขอรับ"หม่าสิงคง" งั้นไปนำมาข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่""ขอรับ"2 ชั่วโมงผ่านไปหม่าสิงคง" คนที่เจ้าหามา พอใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย นี่ใกล้ถึงภูผาแล้ว"องค์รักษ์" ท่าน นั้นเหมียวเหรินเฟิ่ง"หม่าสิงคง" หยุดม้าก่อนข้าจะ พูดเอง"เหมียวเหรินเฟิ่ง" องค์ชายหายดีแล้วหรือแล้วนี่ขนสิ่งใดมา ใช้ม้าตั้ง 50 เชือก"หม่าสิงคง" ข้าขนสตรีมา 500 คน"เหมียวเหรินเฟิ่ง" เจ้าจะฆ่าพวกนางหรือเจ้ามันชั่วช้า"