นัยน์ตาสีอำพันเจิดจรัสราวกับลูกแก้วเพ่งจ้องมองตอบโต้กับเธออย่างไม่ลดละ มาตรว่าจิตวิญญาณของลีน่าที่เชื่อมโยงกับร่างกายผ่ายผอมนี้ ได้หวนคืนสู่อดีตในวัยเยาว์ของเธอ
น่าทึ่งมาก...
ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ คือความงดงามที่หญิงสาวทั้งโลกปรารถนา คิ้วเข้มหนาได้รูปรับกับหน่วยตากลมโตดุจนางกวาง จมูกโด่งสวยจนน่าอิจฉา
ลีน่าเอาปลายนิ้วแตะบนกลีบปากอ่ิมย้อยสีแดงอย่างเผลอไผล ก่อนจะเงื้อฝ่ามือตบเข้าที่แก้มขาวซีดตัวเองสองฉาด ซ้ายขวาติดต่อกัน เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้กำลังตกอยู่ในอาการประสาทหลอนเพราะศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน หรือฝันไป
“พระชายา!” / “อย่าเพคะ!” แม่นมหวง ซูปี้กับซูลี่พากันแหกปากร้องเสียงดังเซ็งเแซ่ นางกำนัลทั้งสามกรูเข้ามาจับแขนขาของนายหญิงเอาไว้
‘เธอเจ็บ! และเจ็บมากๆด้วย... ลีน่าเชื่อแล้วว่าตัวเองกำลังสิงอยู่ในร่างของคนอื่น’
ดาราสาวพยายามควบคุมสติเต็มที่ ลองนับหนึ่งถึงสอบในใจเธอยังเห็นดาวลอยวิ๊งๆ เหนือศีรษะ ตบได้หนักแบบนี้เป็นฝีมือเธอแน่นอน
ร่างผอมบางก้าวโซเซเหมือนเมา เดินไปทรุดนั่งลงบนเตียงนอนที่เธอเพิ่งลุกออกมา
ดวงตากลมโตงดงามดุจนางกวาง กวาดมองไปรอบๆ ภายในห้อง อย่างสำรวจตรวจตรา
จากการสันนิษฐานคร่าวๆ เป็นไปได้ว่า... ในโลกปัจจุบันลีน่าได้เสียชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ แต่เธอไม่มีเหตุผลอะไรจะอธิบายเกี่ยวกับโลกหลังความตายได้ และสถานที่วินเทจหรูหราแห่งนี้... ไม่มีทางเป็นนรกแน่นอน!
มีความเป็นไปได้สูงมากว่า... วิญญาณของเธอมาเกิดใหม่ในร่างกายของเด็กสาวชื่อหลี่น่า!
ร่ำลือกันว่าองค์รัชทายาทแห่งแคว้นซ่งรูปงามเหนือบุรุษทั้งหลายในใต้หล้า ความสูงส่งสง่างามประหนึ่งเทพเซียนคืออาวุธประจำกายอันร้ายกาจของซ่งหยวนซี
เหล่าสตรีผู้มีวาสนาที่ได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา ร้อยทั้งร้อยต่างตกหลุมเสน่ห์ของพระองค์อย่างงมงาย ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด ประกอบกับความเก่งกาจเป็นเลิศทั้งด้านบุ๋นและบู๊ ทำให้เหล่าองค์ชายทั้งเก้าในองค์จักรพรรดิซ่งจินซีไม่มีใครกล้าเทียบบารมี
นอกจากนี้ ซ่งหยวนซียังเป็นที่รักและเปรียบเสมือนขวัญกำลังใจของเหล่าข้าราชบริพารในวังหลวง เขาไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกระทำคุณงามความดีให้เป็นที่นิยมชมชอบของใคร เขาอาศัยแค่ความหล่อเหลาราวมิใช่มนุษย์ธรรมดามัดใจผู้คนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งองค์จักรพรรดิซ่งจินซียังต้องอาศัยความหน้าตาดีของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนผู้นี้ เป็นเครื่องมือเชื่อมสัมพันธไมตรีกับแคว้นใต้ปกครองในหลายโอกาส ทำให้เหล่าองค์หญิงจากแคว้นต่างๆ ขอถวายตัวเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทแคว้นซ่งเยว่
ในพระราชวังไป๋อวี้ (หยกขาว) ตำหนักในทั้งสิบสอง จึงมีพระชายาและพระสนมอาศัยอยู่ครบทุกตำหนัก เหลือเพียงตำหนักมู่ตาน (ดอกโบตั๋น) ที่ประทับสำหรับพระอัครชายา (เมียเอก) ซึ่งยังว่างเอาไว้
“ข้าได้ยินว่า ท่านทำให้พระชายาหลี่น่าเป็นลมหมดสติไปสามวันสามคืน”อี๋ชินอ๋องเหยียนหมิงเอ่ยถามซ่งหยวนซีอย่างเปิดเผย เขาเป็นองค์ชายคนเดียวของพระอนุชาในองค์จักรพรรดิซ่งจินซี ซ่งเหยียนหมิงกับซ่งหยวนซีเติบโตและร่ำเรียนวิชาด้านบุ๋นบู๊มาด้วยกัน จึงกลายเป็นทั้งญาติพี่น้องและสหายสนิท
ลีน่าตกใจจนแทบจะเป็นลม เมื่อจู่ๆ ม่านผ้าดิบถูกคนด้านนอกเปิดเข้ามาอย่างพรวดพราด ขณะที่อี๋ชินอ๋องกำลังอุ้มนางแหวกว่ายอยู่ในธารน้ำตกด้วยเรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ สายตาหวงแหนที่มองมาทำให้หญิงสาวรู้สึกกระดาก จนต้องขืนกายออกจากวงแขนแข็งแรงที่โอบกอด“ท่านมาเร็วกว่าที่คิด”ซ่งเหยียนหมิงเอ่ยทักทายญาติผู้พี่อย่างไม่รู้สึกร้อนหนาว“ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าทำได้เร็วกว่านี้” ซ่งหยวนซีถอดเสื้อผ้าออกจากร่างอย่างว่องไง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ล้อนจ้อนจะเดินลงไปในธารน้ำตก และว่ายน้ำไปแย่งเอาพระสนมตัวน้อยกลับคืนมา“เหยียนหมิงรังแกเจ้าไปกี่ครั้ง” เขาถามนาง น้ำเสียงหงุดหงิด“ครั้งเดียวเพคะ” เธอไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มซ่งหยวนซีไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่พูดพร่ำสิ่งใดให้เป็นการเสียเวลาอีก เขาอุ้มร่างอรชรเดินไปท
ลีน่าถูกเขาเคี่ยวกรำอย่างหนัก เธอสุดจะกลั้นเสียงร้องครวญคราง ร่างอรชรบิดเร่าแอ่นระแน้ด้วยความสยิวทรมาน สาสมใจคนเจ้าเล่ห์“อาา... ข้างในของเจ้าเหมือนสวรรค์ ช่าง... ดี... ดีเหลือเกิน” ซ่งเหยียนหมิงใช้ฝ่ามือใหญ่โอบอุ้มสะโพกผายกลมกลึงเอาไว้ เขาโก่งบั้นท้ายและยกร่างบางขึ้น ก่อนจะกดนางลงพร้อมกับกระแทกกระทั้นแก่นกายแกร่งชูชันใส่ความสาว“อ่ะ! หม่อมฉัน... มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊าา...”นางเว้าวอนอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงครวญครางกระเส่าสะอื้น ใบหน้างามแดงเรื่อราวกับมีพิษไข้ หากไม่อาจจะหยุดยั้งเรือนกายแกร่งที่เคลื่อนไหวราวกับบ้าคลั่งซ่งเหยียนหมิงประคองสะโพกผายกลมกลึงวางเกยบนขอบบ่อน้ำแร่ร้อน แล้วดันท่อนขาเพรียวสะล้างของนางพับขึ้น ระดับความสูงพอเหมาะช่วยหนุนเนินโหนกอวบอูมลอยเด่นจนเห็นชัดถนัดใจ แววตาของชายหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์ราวกับจะล
ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือเรือนกายเปลือยเปล่าของซ่งเหยียนหมิง และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลีน่าจะทำใจให้เคยชินกับความบ้าระห่ำเหนือการคาดเดาของเขา“เจ้าอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว” น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ เขาจับข้อเท้าของนางแยกออกจากกัน แล้วพิศมองเนื้อในความสาวความร้อนทำให้ผิวบอบบางบริเวณนั้นแดงก่ำและดูยิ่งโป๊เปลือยชวนให้ขัดเขิน เมื่อตกอยู่สภาพที่ถูกมองเห็นแบบชัดเจนถึงรูขุมขนขนาดนี้แล้ว ทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกทรวงอก“พอแล้วเพคะ อย่าจ้องหม่อมฉันแบบนั้น” ลีน่าเอาฝ่ามือปิดบังของสงวนแววตาของซ่งเหยียนหมิงเกือบลุกเป็นไฟ เขาอยากเอาตัวตนที่เหยียดขยายจนแข็งชูชันชำแรกเข้าไปในความสาวสดรัดรึงของนางแทบใจจะขาด แต่ทั้งคู่เพิ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำแร่ร้อน หากลงไม้ลงมืออย่างบุ่มบ่ามเขาจะทำให้หลี่น่าเจ็บ“ข้าอยากดื่มน้ำหวานในตัวเจ้า” ซ่งเหยียนหมิงดึงมือเรียวเล็กออกจากเนินเนื้ออวบอูม แล้วก้ม
ซ่งหยวนซีไม่มีความคิดจะเปิดโอกาสให้ซ่งเหยียนหมิงไปพรอดรักกับหลี่น่าสองต่อสอง ท่ามกลางแมกไม้ทัศนียภาพอันงดงามเหมือนสวรรค์เช่นนั้น“ท่านมีฏีกาสำคัญที่ต้องตรวจสอบมิใช่รึ” ซ่งเหยียนหมิงมีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ดูท่าทางเรื่องนี้คงยากที่ใครสักคนจะยอมแพ้ ลีน่าซึ่งเป็นคนกลางจนปัญญาจะจัดการกับพวกเขาคนใดคนหนึ่ง“หม่อมฉันขอเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ไท่จื่อกับอี๋ชินอ๋องตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่อยตามไปทีหลังจะดีกว่าเพคะ” พระสนมตัวน้อยกล่าวตัดสินอย่างเฉียบขาดพลันมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองหนุ่มกับหนึ่งสาวหันมองสบตากัน คล้ายต่างคนต่างมีคำถาม ปกติจะไม่มีใครกล้าบังอาจเข้ามาขัดจังหวะที่ทั้งส
จูเยี่ยนตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อครู่ที่นางเปิดประตูห้องบรรทมของพระชายาหลี่รี่เข้าไปแล้วเห็นภาพบัดสีบนเตียง ยิ่งไปกว่านั้น... ชายชู้ที่นายหญิงนอนเปลือยกายกอดก่ายแนบชิด คือองค์ชายเยว่หัว รัชทายาทแห่งแคว้นตงเยว่ภาพที่ได้เห็นทำให้จูเยี่ยนนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต ยี่สิบปีก่อน... ทหารของแคว้นตงเยว่ลักลอบข้ามเขตชายแดนของแคว้นฉงเยว่เข้ามารุกรานชาวบ้าน ครอบครัวของจูเยี่ยนถูกทหารตงเยว่สังหารอย่างโหดเหี้ยม พวกมันจับนางไปที่ค่าย รุมย่ำยีนางจนสลบและโยนทิ้งลงไปในแม่น้ำ เพราะพวกมันคิดว่านางตายแล้ว แต่โชคดีมารดาของหลี่รี่บังเอิญได้พบร่างของจูเยี่ยนที่ลอยมาติดอยู่ท่าน้ำหลังบ้านและได้ช่วยชีวิตจูเยี่ยนเอาไว้ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา จูเยี่ยนถวายการรับใช้สองแม่ลูกด้วยความซื่อสัตย์ภักดี และไม่เคยขัดคำสั่งพวกนาง แม้ว่าพวกนางจะสั่งให้จูเยี่ยนทำเรื่องที่เลวทรามต่ำช้าเพียงใด หรือจะโขกสับเยี่ยงทาส จูเยี่ยนยกย่องเทิดทูนพวกนางสองแม่ลูกประหน
“ข้าก็อยาก...เจ้า แทบจะทนไม่ไหวแล้ว”เยว่หัวขยับนอนท่าถนัด เรือนกายหนาหอบหายใจด้วยอารมณ์พิศวาสรุนแรง สายตาเร่าร้อนจ้องมองสัดส่วนวัยสาวด้วยความหื่นกระหาย เขายกร่างเปลือยเปล่าควบคร่อมเหนือหน้าตัก ดุนดันปลายองคชาติเสียบคาไว้ที่กลีบสวาทของนาง แล้วกดสะโพกผายกระแทกลงมาแรงๆ “อ๊าาา!!!” หลี่รี่ร้องครางเสียงแหลม เมื่อท่อนเนื้อเขื่องแข็งเสียบแทงเข้ามาความสาวจนจุกเสียด ปลายทวนของเยว่หัวหยั่งเข้าไปถึงส่วนลึกของนาง ความใหญ่ยาวของเขาทำให้นางอึดอัดจนต้องอ้าปากระบายลมหายใจ“หลี่รี่ ...เจ้ายอดเยี่ยมที่สุด อาาา...”เยว่หัวสูดปากครางด้วยความสยิว ชายหนุ่มเกร็งบั้นท้ายหมุนคว้านภายในความสาว เข้าไปสัมผัสจุดกระสันที่ซ่อนเร้น แล้วจ้วงแทงเข้าออกในตัวนางอย่างบ้าคลั่ง“องค์ชาย! องค์ชาย!” โฉมสะคราญร่ำร้องขอความเมตตา