เสน่ห์และกลิ่นอายแห่งความเป็นชายชาตรีของซ่งเหยียนหมิงนั้นมีอำนาจรุนแรงเกินต้านทาน ไม่มีสิ่งใดสามารถปกป้องเขาให้รอดพ้นจากความคิดอกุศลของหญิงสาว แม้กระทั่งตอนอยู่ภายในอาณาเขตอารามหลวงอันสิิ่งศักดิ์สิทธ์
ลีน่าหวั่นใจ… ‘สาธุฯ ขออย่าให้ซ่งเหยียนหมิงอ่านความคิดของเธอได้เลย...’
ต่อให้จิตใจใฝ่ดีของหญิงสาวแน่วแน่เพียงใด หากความปรารถนาอันกล้าแกร่งของซ่งเหยียนหมิงหนักแน่นยิ่งกว่า
อวี๋ชินอ๋องหนุ่มไม่ได้มีดีเพียงแค่รูปร่างหน้าตา ระดับไหวพริบสติปัญญาของเขาอยู่เหนือคำว่าฉลาดหลักแหลม กอปรกับอุปนิสัยช่างสังเกตทำให้ชายหนุ่มสามารถมองเห็นท่าทางมีพิรุธของพระสนมตัวน้อยได้ไม่ยาก
ซ่งเหยียนหมิงเคยมีค่ำคืนร้อนหนาวร่วมกับสตรีจำนวนนับร้อย มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนงามที่นั่งอยู่เบื้องหลังม่านกันลมของหน้าต่างรถเทียมม้า สายลมวสันต์พัดพากลิ่นกายหอมละมุนยั่วยวนใจจากเรือนร่างของโฉมสะคราญกำจายผ่านมายังด้านนอก กระตุ้นความปรารถนาที่มีต่อหญิงสาวเพิ่มมากขึ้น
“พระสนมหลี่น่า”
ซ่งเหยียนหมิงเรียกขานชื่อพี่สะใภ้ โฉมสะคราญที่นั่งอยู่ในรถม้าจึงเปิดม่านกันลมให้ผู้คนด้านนอกได้เห็นความงามอย่างถนัดสายตา
“เพคะ อวี๋ชินอ๋อง”
“เดินทางต่อไปอีกหนึ่งลี้ ข้างหน้าจะเป็นสะพานข้ามลำธาร ทิวทัศน์ธรรมชาติแถวนี้งดงามมาก เจ้าอยากลงไปเดินเล่นรึไม่”
น้ำเสียงสุขุมนุ่มนวลของซ่งเหยียนหมิงชวนให้คนฟังรู้สึกอ่อนระทวยไปถึงกระดูกสันหลัง แม้มันจะเป็นข้อเสนอที่เปิดทางให้เธอได้มีโอกาสนัวเนียกับคนหล่อ และต้องถูกเขาถีบตกเหวภายหลัง ลีน่าก็ไม่ลังเลที่จะตอบ...
“อยากเพคะ”
ประจวบกับเวลาใกล้จะถึงเที่ยงวันที่ทุกชีวิตต้องหยุดพักผ่อนกินข้าวกินปลา ซ่งเหยียนหมิงจึงชวนหญิงสาวไปเดินเล่น ระหว่างที่เหล่าทหารองครักษ์นางกำนัลวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมอาหารและที่พำนักชั่วคราว
สองร่างเดินเคียงกันไปบนทางขรุขระเลียบลำธารที่เกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำและการรวมตัวของกรวดหิน ซ่งเหยียนหมิงได้ทีจึงฉวยโอกาสจับมือพระสนมตัวน้อย เดินจูงไปตามที่เขาปรารถนา
“เบื้องหน้าเป็นธารน้ำตกและในแอ่งน้ำมีปลาสีสันสวยงาม รับรองว่าหากเจ้าเห็นแล้วต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงครึ้มอกครึ้มใจ
ทว่าสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อความสามารถในการควบคุมตัวเองของหญิงสาว ทั้งคู่เดินต่อไปได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ ร่างอรชรก็สุญเสียการทรงตัวเพราะสะดุดหินก้อนเล็กๆ โชคดีที่ซ่งเหยียนหมิงมือไว ฉวยร่างบางเอาไว้ได้ทันก่อนนางจะเอาศีรษะไปกระแทกกับโขดหิน ก่อนที่ทั้งคู่จะเสียหลักล้มลงไปนอนทับกันบนเนินทราย
“หลี่น่า”
ซ่งเหยียนหมิงกอดรัดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้อย่างแน่นหนา พระสนมตัวน้อยมีสีหน้างุนงง เมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง หน้าอกอวบอัดของนางกดทับแผ่นอกกว้างของเขา แนบสนิทติดกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียว
เดิมทีชายหนุ่มต้องการเพียงจะหาโอกาสสานสัมพันธ์กับคนงาม ครั้นร่างกายได้เชยชิดกับนางในสถานที่ซึ่งห่างไกลสายตาผู้คน เขากลับลืมเลือนความตั้งใจแรกไปจนหมดสิ้น
ความหลงใหลและความสุขสมซาบซ่านซึ่งเคยได้ลิ้มลอง เมื่อคราวที่เขาใช้วิชามนตร์ดำครอบงำจิตใจพระสนมตัวน้อย เพื่อเข้าไปก่อกวนความฝันอันล้ำลึกของเธอในยามหลับใหล ความรู้สึกกับความทรงจำเหล่านั้นผันแปรเป็นความปรารถนาชวนคลุ้มคลั่ง
เสน่ห์และกลิ่นอายแห่งความเป็นชายชาตรีของซ่งเหยียนหมิงนั้นมีอำนาจรุนแรงเกินต้านทาน ไม่มีสิ่งใดสามารถปกป้องเขาให้รอดพ้นจากความคิดอกุศลของหญิงสาว แม้กระทั่งตอนอยู่ภายในอาณาเขตอารามหลวงอันสิิ่งศักดิ์สิทธ์ลีน่าหวั่นใจ… ‘สาธุฯ ขออย่าให้ซ่งเหยียนหมิงอ่านความคิดของเธอได้เลย...’ ต่อให้จิตใจใฝ่ดีของหญิงสาวแน่วแน่เพียงใด หากความปรารถนาอันกล้าแกร่งของซ่งเหยียนหมิงหนักแน่นยิ่งกว่า อวี๋ชินอ๋องหนุ่มไม่ได้มีดีเพียงแค่รูปร่างหน้าตา ระดับไหวพริบสติปัญญาของเขาอยู่เหนือคำว่าฉลาดหลักแหลม กอปรกับอุปนิสัยช่างสังเกตทำให้ชายหนุ่มสามารถมองเห็นท่าทางมีพิรุธของพระสนมตัวน้อยได้ไม่ยากซ่งเหยียนหมิงเคยมีค่ำคืนร้อนหนาวร่วมกับสตรีจำนวนนับร้อย มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนงามที่นั่งอยู่เบื้องหลังม่านกันลมของหน้าต่างรถเทียมม้า สายลมวสันต์พัดพากลิ่นกายหอมละมุนยั่วยวนใจจากเรือนร่างของโฉมสะคราญกำจายผ่านมายังด้านนอก กระตุ้นความปรารถนาที่มีต่อหญิงสาวเพิ่มมากขึ้น“พระสนมหลี่น่า” ซ่งเหยียนหมิงเรียกขานชื่อพี่สะใภ้ โฉมสะคราญที่นั่งอยู่ในรถม้าจึงเปิดม่านกันลมให้ผู้คนด้านนอกได้เห็นความงามอย่างถนัดสายต
ซ่งหยวนซีประคองนางนอนเคียงข้างกัน สายตาเปี่ยมพลังอำนาจมองสำรวจความเปลือยเปล่าของอิสตรีอย่างไม่อาจห้ามใจ ร่องรอยความละโมบและคราบละเลื่อมของเหลวที่ปรากฏบนผิวพรรณขาวสล้าง ไม่ได้ลดทอนความงามของนางให้น้อยลง หากมันกลับทำให้ร่างอรชรยิ่งดูมีเสน่ห์เย้ายวนเขาก้มลงจูบเคล้าคลึงกลีบปากบวมเจ่อสีแดงสดด้วยความลุ่มหลง ริมฝีปากรุ่มร้อนเลื่อนไล้ต่ำลงมาที่ลำคอระหง ประพรมลาดไหล่บอบบาง หยอกล้อเล้าโลมทรวงอกนุ่มแน่นน่าฟัด เรื่อยลงมาถึงหน้าท้องแบนราบและเนินสวาทอวบอูมยั่วตัณหา“อื้ออ... ไท่จื่อ หม่อมฉันไม่ไหวแล้วเพคะ” น้ำเสียงหวานวอนขอความเห็นใจ“ครั้งแรกมักเจ็บเป็นธรรมดา ครั้งนี้และครั้งต่อไป เจ้าจะเรียกร้องให้ข้าทำมันอีก... จงคอยดูเถิด” ชายหนุ่มหว่านล้อมสารพัดแล้วก็... จริงอย่างที่เขาบอกเด็กสาวนัยน์ตาสวยโศกที่เข้ามาอยู่ในวังไป๋อวี้เมื่อสามปีก่อน มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ‘หลี่น่า’ นางคือองค์หญิงน้อยแห่งแคว้นฉงเยว่ ซึ่งถูกนำตัวมาถวายเป็นพระชายาบรรณาการให้แก่องค์รัชทายาทแคว้นซ่งเยว่ มหาอำนาจแห่งสี่ทะเลแปดดินแดน หลายครั้งที่อี๋ชินอ๋องซ่งเหยียนหมิงใช้วิชาตัวเบา อำพรางเรือนร่างสูงส่งเหยียบย่างเข้ามาในอาณาราชฐานข
เขาทำให้นางเคลิ้มเสียวจนคล้อยตามและแอ่นหยัดสะโพกผายตอบสนอง จากนั้นจึงฉวยโอกาสกระแทกกายเข้าไปในแก่นใจหญิงจนสุดขนาด“อร๊าาายยย... !!!”เด็กสาวกรีดร้องเสียงหลง กลีบปากอวบอิ่มน่ากัดราวกับผลไม้สุกงอมสั่นระริก หยาดน้ำที่เอ่อคลอดวงตาดอกแท้คู่งามไหลลงมาเปื้อนสองแก้มนวล“อย่าร้องไห้... ซี๊ดดด ทนอีก โอ... ประเดี๋ยว ไม่เจ็บแล้ว อาา...” ซ่งหยวนซีก้มลงประทับริมฝีปากอุ่นจูบเคล้ากลีบปากนุ่มของนางอย่างเอาใจ เขาก็เสียวจนแทบทนไม่ไหวแล้วร่างสูงใหญ่ขยับเคลื่อนไหวบั้นท้ายแกร่ง บดเบียดความแข็งขึงชูชันนวดคลึงเนินหัวหน่าวโหนกนูนของคนใต้ร่างด้วยน้ำหนักเนิบเน้นอ่อนโยน ปลุกเร้าจนไฟรักในกายนางร้อนเร่าลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เขาจึงเริ่มบรรเลงจังหวะสวาท ยามที่เนื้อหนั่นแฉะฉ่ำน้ำรักกระทบกระทั่งกันเกิดเสียงดัง ตับๆ ตับๆ ทำให้คนฟังยิ่งมีอารมณ์ อาาา... ซี๊ดดด... ซ่งหยวนซีสูดปากครางเสียวทุกครั้งที่สอดใส่เข้าออกในความสาว ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็นสีแดงก่ำ เขานั่งคร่อมร่างบางในท่าถนัด เอามือจับพับเข่าขาวเนียนดันขึ้น แล้วกระแทกกระทั้นสัดส่วนเขื่องแข็งเข้าใส่เนินหนั่นโหนกนูนของนางอย่างกระหายดุดัน“อ๊ะๆๆๆ บะ เบาๆ อื้อออ...” มือเรี
นางหยัดสะโพกผายเสนอตัวให้แก่ชายหนุ่ม มือเรียวงามฉุดร่างหนาเคลื่อนขึ้นมาแนบชิด พลางแอ่นสองเต้าอวบสล้างเสียดสีแผ่นอกกำยำอย่างเชื้อเชิญ หัวใจที่เต้นระรัวแรงร่ำร้องและรอคอยการถูกชายหนุ่มครอบครองซ่งหยวนซีก้มลงทาบริมฝีปากหนาบดจูบกลีบปากอวบอิ่มของพระสนมตัวน้อยอย่างดูดดื่มเร่าร้อน พลางสอดแขนข้างหนึ่งแทรกลงระหว่างขาสั่นเทา ตะปบฝ่ามือหยาบใหญ่บนความโหนกอูมแห่งวัยสาว แล้วนวดเน้นเนินหัวหน่าวขาวนวลอย่างโลมเล้า เขาแยกแย้มกลีบพูอวบอัดให้อ้าออก ใช้สองนิ้วแข็งยาว บดคลึงเกสรเสียวสีแดงสด ไถลขึ้น ไถลลง กระทั่งได้ยินเสียงสะอื้นครางสยิวทรมาน ชายหนุ่มจึงบรรจงกดปลายนิ้วล่วงล้ำเข้าสู่รูสวาทฉ่ำร้อนจนสุดข้อ ชักเข้าชักออกช้าๆ ลูบไล้ผนังเนื้ออ่อนนุ่มกระทั่งค้นพบปุ่มกระสัน แล้วงอนิ้วสัมผัสแก่นใจหญิง เขาปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามจนร่างอรชรสั่นสะท้านและเกร็งกระตุกด้วยความซ่านเสียว“เจ้าต้องการข้า” น้ำเสียงและแววตามาดหมายซ่งหยวนซีแยกท่อนขาเรียวเล็กออกจากกัน เขาจ่อปลายบานโร่สีแดงก่ำละเลงน้ำรักที่ไหลรินออกมาจากใจกลางสองกลีบอวบฉ่ำ ยั่วเย้าให้นางแอ่นสะโพกผายเข้าหาแล้วเสือกดุ้นเขื่องไถลแทงเข้าสู่รูสวาทด้วยความหิวกระหายในตัวน
“อาาา!!” ซ่งหยวนซีร้องครางเสียงหลงมือใหญ่คว้าข้อมือเล็กเอาไว้และบีบแน่น หากนางขยับอีกเพียงนิดเดียว เขาคงกระฉูดคาวใคร่เป็นแน่ “เด็กดื้อ เจ้าซุกซนเกินไปแล้ว” เขาหายใจหอบแรง ใช้สายตามองคาดโทษนางทว่า... แววตาสุดแสนเสียดายและท่าทางขบริมฝีปากอย่างกระหายหิวของเด็กสาว ทำให้ชายหนุ่มหัวใจเต้นระส่ำ สาวแรกรุ่นเร่าร้อนเพียงนี้เชียวรึ!?“ใช้ปากของเจ้า อาา...” น้ำเสียงชายหนุ่มแหบห้าวหลี่น่าทำตามคำบัญชาราวกับโดนสะกด กลีบปากอวบอิ่มน่าขบกัดราวกับผลไม้ต้องห้ามที่สุกงอมของเด็กสาว เผยออ้าครอบครองหัวเห็ดอันเป่งบานขององคชาติซ่งหยวนซีกำหมัดแน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองนางกลืนกินตัวตนของเขาแบบไม่กะพริบ ความรู้สึกคับแน่นภายในโพรงปากอุ่นชื้นทำให้ชายหนุ่มหายใจติดขัด เขาเพิ่งได้สัมผัสกับความทรมานตอนตกอยู่ใต้อำนาจอิสตรีอย่างแท้จริง เมื่อนางห่อริมฝีปากดูดดื่มและรีดเค้นรสชาติจากแก่นกายบุรุษภาพเด็กสาวแลบลิ้นลื่นบางไล้เลียผิวเรียบตึงทั่วดุ้นเอ็นเขื่อง ช่างพริ้วไหวน่ามองราวกับวิถีปลายพู่กันของอัจฉริยะศิลปิน เป็นภาพความงดงามที่ยั่วยวนและกระตุ้นอารมณ์กระสันอย่างสุดแสน โอ... เสียงครางกระหึ่มในลำคอแกร่ง ดวงตาดอกท้อคู่งา
กว่าแรมเดือนที่ซ่งหยวนซีเฝ้ามองดอกไม้งามเริ่มผลิกลีบอันบอบบาง กระทั่งร่างแน่งน้อยค่อยๆเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง และเบ่งบานอวดความสวยสดงดงามท้าทายตัณหาบุรุษอื่น ต่อหน้าต่อตาเขา!สันดานสัตว์เพศผู้เหมือนกัน ทำไมซ่งหยวนซีจะไม่รู้ว่า คนเหล่านั้นคิดอย่างไรกับนาง ผู้ชายร้อยทั้งร้อยล้วนชื่นชอบสาวงาม ต่างก็ต้องการครอบครองสตรีที่ตนพึงพอใจ และอยากเป็นชายคนแรกของหญิงสาวเหล่านั้นซ่งหยวนซีไม่สนใจสักนิด หากผู้ใดจะได้ครอบครองโฉมสะคราญอันดับหนึ่งในใต้หล้า เพราะชายหนุ่มตระหนักแล้วว่า สุดยอดปรารถนาของเขามีเพียงนางเดียว...“พระสนมตัวน้อยของข้าช่างงามนัก” น้ำเสียงเขาแหบห้าว นัยน์ตาสีนิลกาฬเรืองโรจน์ดุจมีกองเพลิงโหมกระพืออยู่ภายในนั้น ซ่งหยวนซีจ้องมองหลี่น่าอย่างลุ่มหลง ใบหน้าที่ขโมยความงดงามมาจากเทพธิดาของนางเป็นสีแดงระเรื่อ ผิวพรรณผุดผ่องนวลนุ่มรุ่มร้อนด้วยไฟปรารถนา ดวงตาดอกท้อหรี่ปรือปราศจากเล่ห์มารยา บัดนี้ถูกเคลือบคลอด้วยหยาดพราวพร่าสวาท เนื้อหนั่นวัยสาวสะพรั่งสั่นเทาเร่าระริก เพราะฝ่ามือที่หิวกระหายและแสนละโมบของเขาแท้จริง... เรือนร่างบอบบางอรชรที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้ร่างหนา หาได้ตกเป็นเหยื่อกามาของชายห