"อะไรกัน จับฉันทำไม ปล่อยนะ"
พอก้าวออกจากร้านเสื้อผ้าเธอก็โดยชายร่างใหญ่สองคนเข้ามาจับตัวเอาไว้ เขาสองคนไม่ฟังคำพูดอะไรของเธอลากเธอโยนใส่รถขับพาออกไปยังจุดหมายตามคำสั่งของใครบางคน
"ปล่อยฉันนะ มาจับตัวฉันทำไม"
"พูดอะไรว่ะฟังไม่ออก อย่าดิ้นเดี๋ยวช้ำ นายด่ากูสองคนอีก"
ราฟชายอาหรับร่างใหญ่จับหญิงสาวให้นั่งนิ่งอยู่ตรงเบาะหลังรถ เขาฟังสิ่งที่เธอพูดไม่ออก และรู้เพียงแค่ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นของขวัญของผู้เป็นนายเขามีหน้าที่ดูแลและนำไปมอบให้ผู้เป็นนายเท่านั้น
"ฉันจะฟ้องพ่อแมกซ์ พ่อฉันเป็นมาเฟีย ฆ่าพวกนายได้นะ ปล่อยยย กรี๊ดดดด"
"ไอ้ราฟ คนนี้แน่นะ ทำไมมันดิ้นนักว่ะ โวยวายอีกตั้งหาก"
นาฟน้องชายฝาแฝดของราฟ เขาฟังสิ่งที่หญิงสาวผู้ไม่ออก รู้แต่ว่าจากตรงนี้อีกไกลกว่าจะถึงคฤหาสเขามีหน้าที่ต้องขับรถไปให้ทันเวลาที่นายของเขาจะกลับมา
"คนนี้แหละ ชุดก็ใช้ สีเหลืองนวลและเป็นคนเอเชีย มันก็เล่นตัวไปงั้น"
ราฟพูดย้ำอีกรอบให้นาฟฟังว่าเขาได้รับสารมาจากนายแบบนี้ไม่ผิดแน่นอน และดูท่าหญิงตรงหน้าเขาจะฉลาดไม่ใช่ย่อยดูจากสายตาที่ถูกถ่ายทอดออกมา
ราฟกับนาฟสองพี่น้องทั้งดึงทั้งลากแม่รางวัลสาวที่พวกเขามารับตัวไปส่งให้นายตามคำสั่ง เขารู้ว่าหญิงสาวพูดอังกฤษแต่พวกเขามันไม่ฉลาดพอที่จะแปลออก และพวกเขาก็มั่นใจว่าพามาไม่ผิดตัวแน่เพราะเขาไม่เคยทำงานผิดพลาด
"ปล่อยฉันนะ ฉันจะแจ้งตำรวจ ปล่อย กรี๊ดดดด"
"เงียบโว้ย ฟังไม่ออกหรือไง ไอ้นาฟขับเร็วๆ กูหูจะแตกแล้ว"
ต่างคนต่างพูดคนละภาษา บิวตี้ที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ แล้วไอ้สองคนนี้มันจับเธอมาทำไม ความหวาดกลัวเริ่มเข้าครอบงำหญิงสาวมันแผ่ไปถึงดวงตาทั้งคู่ที่เริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาอย่างอ่อนแอ ใครก็ได้ช่วยเธอด้วย
"อยู่ในนี้รอนายไปก่อน"
"โอ้ย"
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงลงบนที่นอนนุ่มสุดแรงชายจนก้นเธอกระแทกลงอย่างแรง ไอ้บ้าสองคนที่เธอเพิ่งสังเกตว่าหน้าตาเหมือนกันมันช่างไม่รู้เลยว่าผู้หญิงเพศแม่บอบบางแค่ไหน
เธอถูกพามาบ้านใครสักคนที่ดูท่าจะร่ำรวยมากขนาดในห้องที่พาเธอมาขังยังดูหรูหราใช่ย่อย และถูกตกแต่งอย่างมีสไตล์
"ปล่อยนะ แล้วเอากระเป๋าฉันคืนมา ไอ้พวกบ้า ปล่อย กรี๊ดดดด"
บิวตี้ได้แต่กรีดร้องอยู่ในห้องเหมือนคนเสียสติ แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดจนเวลาผ่านไปแสงตะวันด้านนอกถูกกลบด้วยแสงจันทร์ประตูถึงเปิดออก ร่างใหญ่ของใครบางคนเดินเข้ามา
ร่างใหญ่ของผู้มาเยือนค่อยๆปรากฏกายขึ้น ทุกอย่างที่อยู่บนตัวผู้ชายที่เดินเข้ามาไม่ว่าจะใบหน้าและหุ่นอันลำบึกมันดูลงตัวไปหมด ถ้าเวลานี้เธอไม่ได้ถูกจับตัวมาเธอคงพูดได้เต็มปากว่าตกหลุมรักผู้ชายคนที่เพิ่งจะเจอเพียงเสี้ยววินาทีคนนี้
"ทำหน้าที่ของเธอสิ"
ชารีฟพ่อค้าน้ำมันรายใหญ่และผู้มีอิทธิพลเกือบค่อนประเทศเขากับการมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวติดตัวเดินเข้ามานั่งบนเตียงนุ่มที่มีหญิงสาวนั่งก้มหน้าอยู่อีกฝั่งด้วยความหวาดกลัว เขามองดูร่างบางอย่างพอใจในของรางวัลชิ้นนี้ที่ลูกค้าคนสำคัญส่งมากำนัลเขา คืนนี้เขากับแม่ผู้หญิงคนนี้คงต้องสนุกกันมากแน่ อีกอย่างเขาไม่ค่อยจะได้ลิ้มลองสาวเอเชียเท่าไรเพราะพวกเธอร่างเล็กเขากลัวว่าจะตายก่อนที่เกมส์รักจะจบลง
"ปล่อยฉัน ไม่งั้นฉันจะให้พ่อมาถล่มที่นี่"
บิวตี้เหลือมองชายงามตรงหน้า เธอยังคงนึกเสียดายโอกาสที่ต้องมาเจอกันแบบนี้ เขาดูดีและถูกใจเธอมาก แต่วันนี้เธออยากให้เขาออกไปให้พ้นไม่ว่าเขาจะเข้ามาทำอะไรก็ตาม
"พูดอะไรของเธอ ถอดเสื้อผ้าออก ฉันไม่มีเวลามาฟังเธอพร่ำหรอกนะ"
เขาพูดภาษาอังกฤษออกมาช้าๆให้หญิงสาวฟังชัดๆ ตอนนี้อารมณ์เขามันพลุ่งพล่านไปทั้งตัวก็มันได้เวลาปลดปล่อยแล้วแต่เธอยังไม่ขยับตัวเลย ยิ่งเห็นดวงตาทรงเสน่ห์ของเธอเขาก็แทบอดใจไม่ไหว
"นายฟังฉันออก ปล่อยฉันกลับไปนะ"
"ฉันปล่อยเธอแน่ แต่เธอต้องช่วยฉันปลดปล่อยก่อน"
"ไม่นะ ฉันไม่ใช่ อุ้บ"
ปากหนาประกบปากบางที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรออกมา ลิ้นหนามากประสบการณ์แตะชิมความหวานไปทั่วปากบางจนหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะสัมผัสวาบหวามอย่างไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน เขากล้ามากที่กล้าเอาจูบแรกของเธอไป
"ทำเป็นเถียงแค่จูบก็ระทวยแล้ว"
"อย่านะ"
บิวตี้ร้องห้ามชายหนุ่มที่เพิ่งขโมยจูบแรกของเธอไปก็เขากำลังจะถอดเสื้อผ้าเธอออก เธอยอมรับว่าชอบในบทจูบที่เขามอบให้แต่ถ้าให้ทำมากกว่านี้เธอคงยอมไม่ได้
"เฉยนะ ถ้าไม่อยากตายก่อนได้กลับออกไป"
คำขู่จากเสียงใหญ่ทำให้อีกฝ่ายที่กลั้นน้ำตาไว้ถึงกับปล่อยสะอื้นไห้ออกมาทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ เธอน่าจะเชื่อพ่อแมกซ์ไม่เดินทางมาที่นี้ตอนนี้เธอคงต้องยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง
"ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิด ปล่อยฉันไปนะ ได้โปรดเถอะนะ ฉันเป็นหมอที่ค่ายอาสานอกเมือง "
"แคว๊ก"
"กรี๊ด"
เสียงพูดไม่ทันขาดคำก็ตามด้วย เสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาด หญิงสาวยังคงดิ้นเอาตัวรอดจากร่างกายทรงอำนาจนั้น แต่เขาเหมือนกรงเหล็กที่กักขังร่างกายของเธอได้ เสื้อผ้าชุดสวยขาดออกจากกายของเธอจนหมดไม่เหลืออะไรปิดบังกายสาวเลยซักชิ้นนอกจากชั้นในสดำที่ตัดกับสีผิวขาวละเอียด
"สวย"
เสียงใหญ่คำรามในลำคอด้วยความพอใจ ร่างกายของเธอขาวสะอาดต่างจากผู้หญิงที่เขาพบเจอมา
ใบหน้าคมก้มลงสัมผัสกับเนินอกอิ่มที่ทะลักล้นบราเซียสีดำออกมา ปากหนาพรมจูบไปทั่วอย่างหิวกระหาย เธอหอม เธอหวานอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เธอไปแอบขายตัวอยู่ที่ไหนมาทำไมเขาไม่เคยเจอ
ร่างเล็กที่นอนให้เขากระทำอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนคนขาดสติไม่ต่อสู้ดิ้นลนอะไรเพียงเพราะสัมผัสจากเขา
เห็นร่างบางไม่ดื้อนอนนิ่งให้เขาสัมผัส มือใหญ่สองมือก็ทำหน้าที่ปลดเปลืองปราการสองชิ้นสุดท้ายให้พ้นทางอย่างง่ายด้าย
"ไม่นะ ออกไป"
ร่างเล็กได้สติอีกครั้ง เธอพยายามผลักไสเขาให้ออกจากร่างกายเธอแต่ดูท่าจะไม่เป็นผลเขาตัวใหญ่กว่า มือเล็กรีบยกขึ้นปิดเนินอกอิ่มที่ปิดไม่มิดเพื่อจะได้เอาตัวรอด ไหนจะกุหลาบงามด้านล่างที่หญิงสาวพยายามเอาเรียวขางามมาเบียดปิดนั้นอีกแต่ทุกอย่างกลับไปช่วยให้เขาเข้าถึงตัวเธอง่ายขึ้น
"สวยนิ คุ้มกับที่ลงทุนไปจริงๆ"
ใบหน้าคมก้มลงซุกไซร้ซอกคอระหงส์สูดหอมกลิ่นกายของเธออย่างถือวิสาสะ สองมือใหญ่จับตรึงมือเล็กไว้เหนือศีรษะของเธอ และย้ายร่างกายใหญ่โตมาคั้นไว้ตรงหว่างขาขาวคู่นั้นไม่ให้เธอดิ้นหนี
"ได้โปรดปล่อยฉันไปนะ"
หญิงสาวเอ่ยบอกชายที่ไม่รู้จักชื่อที่กำลังค่อมอยู่บนร่างของเธอด้วยน้ำตานองหน้าด้วยไม่รู้จะทำยังไงทุกอย่างดูมืดมนไปหมด
"ไม่ได้หรอกสาวน้อย เธอกับฉันจะทรมานทั้งคู่"
พูดจบเขาก็ก้มลงซุกหน้ากับเนินอวบด้านล่าง ระรัวลิ้นหนาใส่กุหลาบงามจนน้ำหวานเยิ้มออกมาเคลือบลิ้นเขา สาวสวยผู้ไม่เคยต้องมือชายใดตอนนี้อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
"ไม่นะ ฉันยังไม่เคย"
พอมีสติกลับคืนมาบิวตี้ก็ร้องขอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ออกมาอีก ถึงจะรู้ว่าเขาคงไม่ฟัง
"หึ ไม่มีหรอกสาวบริสุทธิ์อย่ามาใสซื่อ"
ชารีฟรีบจัดการกับผ้าขนหนูที่พันอยู่รอบเอวของเขาให้พ้นทางเพียงกระตุกพรึบเดียวแกนกายใหญ่โตก็โชว์หราอวดให้หญิงสาวได้เห็นเขาหยิบเครื่องป้องกันมาใส่ แล้วรีบกดแกนกายอันใหญ่โตเขากลีบกุหลาบที่ปิดแน่นนั้นทันทีเพราะเขามันสุดจะทนแล้ว สำหรับเธอเขาเล้าโลมให้มากพอแล้วเพราะปกติผู้หญิงที่ขึ้นเตียงกับเขาต้องพร้อมทำหน้าที่เลยไม่ใช่แบบเธอ
"ไม่นะ กรี้ดดดดดด"
"เฮ้ย อย่าดิ้น"
เธอยังบริสุทธิ์ตามที่เธอพูด แต่เขาก็หยุดไม่ได้แล้วยังไงก็ต้องทำต่อเขารีบก้มหน้าลงกับดอกบัวงามด้ายร่างลงลิ้นกับปุ้มเสียวให้เธอได้ผลิตน้ำหวานออกมาหล่อลื่นช่องทางรักก่อนที่เขาจะพาสาวบริสุทธิ์ขึ้นสวรรค์ มือใหญ่แอบถอดเครื่องป้องกันออกเขาอยากสัมผัสเธอแบบลึกซึ้งกว่าคนอื่น
แกนกายใหญ่โตค่อยๆกดเข้าช่องสวาทเล็กนั้นถึงน้ำเยิ้มของหญิงสาวจะออกมามากแต่มันก็แทบจะไม่ช่วยหล่อลื่นเลย
"ฮื่อออ ออกไป ฉันเจ็บ ออกไป"
"อ้าส์ เดี๋ยวก็หายอย่าเกร็ง"
"ไม่ ได้โปรดปล่อยฉันนะ"
สะโพกใหญ่กดแน่นไปกับกายสาวให้เธอได้ปรับสภาพ เขาเริ่มขยั[จากช้าจนเร็ว
เธอทำให้เขาสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ใบหน้าหญิงสาวที่เขามองเต็มตาในตอนที่เขากำลังโยกอยู่บนตัวเธอ เธอไม่ได้สวยไปกว่าผู้หญิงที่เขาเคยนอนมาด้วยเลย แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกพิเศษกับเธอ
"อื้ม อื้อ อ้าส์ เบาๆ ฉันแสบ"
"เธอเสียว ครางออกมา"
"อื้อซี้ดส์ ไม่"
"คราง"
เขากระแทกสะโพกใส่เธอแรงขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมทำตาม
"อื้อ อ้าส์ อื้ม อ้าส์ อ่ะ"
"อ้าส์ครางแบบนั้นแหละ"
ร่างใหญ่บนร่างเล็กยังคงตอกแกนกายเข้าออกอย่างไม่มีหมดแรง ผู้หญิงคนนี้เอามันชะมัด รู้สึกเสียดายที่เจอเธอช้าไป
"อ้าย"
"อ้าส์"
เขาส่งร่างเล็กให้ถึงความเสียวที่สุดครั้งแรกในชีวิตและรีบส่งตัวเองตามไปติดๆกดร่างใหญ่ของตัวเองให้แนบชิดกับเธอเพื่อปลดปล่อยตัวตนของเขาใส่เธอ
"ไม่ปล่อยข้างในนะ ออกไป"
"ดีดดิ้นจริงวะ"
ถ้ากับหญิงอื่นเขาคงพอแค่นี้และไล่พวกเธอกลับไปแต่กับเธอเขายังคงโยกสะโพกแกร่งใส่เธอต่อและอีกหลายรอบจนเขาพอใจ
บิวตี้นอนสลบเพราะฤทธิ์สวาทจนเกือบเที่ยงของอีกวันเธอถึงฟื้น ร่างเล็กพยายามพยุงร่างบอบช้ำลุกขึ้นเพื่อจะออกไปจากห้องนรกนี้
"จะไปไหน คิดว่าจะออกไปได้งั้นสิ"
ร่างเล็กที่เขาต้องยอมยืดอกรับว่าหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นขยับจนเขาตื่นขึ้นมาและเขาคงไม่ยอมให้ขวัญชั้นเลิศนี้หนีไปหรอกนะเพราะเขายังไม่พอใจและคงรับไม่ได้ถ้าเธอจะออกไปมีอะไรกับชายคนอื่นเธอเป็นของเขาคนเดียว
"ได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้วก็ปล่อยฉันกลับสิ"
"เธอเดินออกไปคงไม่พ้นประตูนี้ พวกด้านนอกคงจับเธอทำเมียพวกนั้นอดอยากมากไม่เชื่อเธอก็ลองดู"
"ฉันจะกลับ"
"อยู่ที่นี้จนกว่าฉันจะพอใจ แล้วฉันจะส่งเธอกลับเอง"
"ฉันไม่ใช่นางบำเรอ ฉันเป็นหมอคนไข้รอฉันอยู่ข้างนอกนั้น"
"งั้นก็เป็นซะ ยังไงก็หนีไปไม่ได้"
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังสม่ำเสมอคล้ายเสียงดนตรีสาดที่กำลังบรรเลงบนหาดทรายสีขาวสะอาดบนเกาะส่วนตัวของครอบครัวราเซ ที่วันนี้ได้มีโอกาสต้อนรับคู่สามีภรรยาป้ายแดงที่เพิ่งจะแต่งงานกันได้เพียงอาทิตย์เดียวสองหนุ่มสาวที่เพิ่งลงจากเรือพากันเดินทอดน่องบนหาดทรายขาวที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ร่างบางของหญิงสาวอยู่ในความดูแลของชายหนุ่มตลอดทางที่เดินมาอย่างอบอุ่นและดีที่สุดสมาร์ทชี้นู้นชี้นี้ให้มินตราได้ดูมาตลอดทาง เขาเอาใจใส่เธอแบบนี้ทุกลมหายใจเพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อตาว่าจะดูแลเธอให้ยิ่งกว่าชีวิตของเขาเอง"ที่นี้สวยจังเลยค่ะ"มินตราที่เดินควงคู่มากับสมาร์ทผู้เป็นสามี เธอไม่เคยมาที่นี้และไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าครอบครัวราเซมีเกาะส่วนตัวแต่ที่ทำให้เธอยิ้มกว้างให้เขาได้ก็คือความสวยงามของที่นี่และความเอาใจใส่ของสมาร์ทผู้เป็นสามี"เมียพี่สวยกว่าเกาะนี้อีกนะ"เขารวบร่างเล็กขึ้นมาอุ้มให้ร่างกายนุ่มนิ่มน่าสัมผัสของเธอแนบไปกับอกของเขา ตั้งแต่เดินทางมาจากไทยจนถึงตอนนี้เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วไม่รู้กี่รอบเพราะความน่ารักของเธอที่มีเขาเพียงคนเดียวที่ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด"หนูมินเดินเองได้ค่ะ พี่สุดหล่อปล่อยหนูมิ
"ทะลึ่ง นอนไปเลย"มินตรารีบกลับเข้าบ้าน เธอหวั่นใจอยู่ไม่น้อยกลัวจะเผลอปล่อยตัวไปกับอารมณ์ก่อนที่จะสอบเสร็จวันพรุ่งนี้ และผิดคำพูดที่ให้ไว้กับพ่อว่าจะรอให้เรียนจบ เธอต้องหักห้ามทุกอย่างเอาไว้อีกแค่วันเดียวเธอก็จะเรียนจบและได้แต่งงานกับเขาอย่างถูกต้องตามที่ควรจะเป็น"เดี๋ยวถึงห้องแล้วพี่โทรหานะ"สมาร์ทตะโกนไล่หลังสาวน้อยไปแบบเงียบๆ เขากลัวเข้มจะมาได้ยินเข้า อย่างน้อยไม่นอนกอดกันก็ยังได้ยินเสียงกันจนหลับเหมือนทุกวันก็ยังดี"สาวน้อยแว่นโตของพี่นอนหรือยังครับ"พอเห็นแสงไฟจากห้องของหญิงสาวเปิดขึ้นเขาก็รีบกลับเข้าเต็นท์ที่ว่าที่พ่อตาเอามากางให้นอนกลางสนามหญ้าทันที และโทรหามินตราตามที่พูดเอาไว้"อยากจะออกไปจากบ้านกูไปตอนนี้ไหม"เข้มเดินเข้ามาหยิบหนังสือให้มินตราที่ห้องนอนพอดีกับที่โทรศัพท์ของลูกสาวเขาดังขึ้นเขาเลยถือโอกาสรับสายแทนเพราะคนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่นมันคือคนที่นอนอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้านเขาเอง"พ่อเข้ม"โทรศัพท์ที่ถืออยู่แทบจะร่วงลงกับพื้น ปลายสายไม่ใช่มินตราหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจแต่กลับเป็นพ่อตาที่เขาแสนจะเกรงใจและไม่อยากจะมาปะทะฝีปากด้วยเลยในเวลานี้"เออ กูเอง"ถึงเขาจะใจดีให้สมาร
"ขนกันมาทำไมมากมาย"เข้มนอนอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันเต็มๆ จนมีเวลาให้สมาร์ทโทรบอกคนนู้นคนนี้จนมารวมตัวกันอยู่เต็มห้องเล็กๆ นี้ จนตอนนี้คนไข้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดโดนเฉพาะต้องมานอนมองหน้าไอ้น้องเขยนอกไส้ที่ดันมายิ้มอยู่ข้างเตียงเขาไม่รู้มันจะดีใจอะไรของมันนักหนา"พักเยอะๆ นะครับ"แมกซ์แวลล์ที่อยู่เมืองไทยมานานนับเดือนเพื่อดูความสำเร็จของลูกชาย กำลังนั่งยิ้มอย่างภูมิใจที่ลูกของเขาเข้มแข็งและอดทนเพื่อคนรักได้ไม่ต่างจากเขาที่เคยผ่านด่านพิสูจน์รักของเข้มมาแล้ว มันช่างน่าภูมิใจสะจริงที่ลูกจะเก่งได้พ่อขนาดนี้"หนูมิน ถ้าพ่อหลับห้ามออกไปไหนนะ หนูยังไม่แข็งแรง""พ่อพักก่อนนะคะ ไม่ต้องห่วงหนูมิน หนูมินหายดีแล้วค่ะ"ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้คอยมองผู้เป็นพ่อไม่คลาดสายตาเธอเลย สองมือเล็กกำมือใหญ่ไว้แน่นเธอเป็นห่วงผู้ชายคนนี้มากที่สุดในหัวใจ พ่อเข้มของเธอไม่เคยเจ็บป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลมาก่อน"ผมจะดูแลหนูมินให้ครับ"สาร์ทยืนอยู่ด้านหลังมินตราเขาคอยดูแลเข้มอยู่อีกคนรีบเสนอตัวเองออกมาเพื่อให้คนไข้ได้พักจะได้ไม่ต้องกังวนใจอะไร"กูยิ่งต้องห่วง"เขาไม่เคยไว้ใจทั้งแมกซ์แวลล์และสม
"นี้มันกี่โมงแล้ว ใครใช้ให้แกมานอนกินบ้านกินเมืองแบบนี้วะ"เข้มรีบตื่นมาทำหน้าที่ของเขาตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่ขึ้นขอบฟ้า เขาไม่อยากให้สมาร์ทสุขสบายแม้แต่นาทีเดียวเพราะมันจะต้องเป็นฝ่ายขอยอมแพ้"ผมขอเวลาอีกห้านาทีครับ จะรีบออกไป"เขารู้สึกเหมือนเพิ่งจะนอนพักไปได้ไม่กี่ชั่วโมงนี้เองยังไม่หายเหนื่อยด้วยซ้ำไปแต่เสียงเรียกด้านนอกทำให้เขานอนต่อไม่ได้แล้ว"พ่อแกไม่สอนหรือไง ว่ามาอยู่บ้านคนอื่นเขาต้องทำตัวยังไง"เสียงใหญ่ดุดันตะคอกออกมาเหมือนคนไร้มารยาทแต่เขาจำเป็นต้องร้ายกาจใส่ชายหนุ่มตรงหน้าทั้งที่สมาร์ทก็ไม่ได้มีความผิดอะไรนอกจากเขาต้องการให้ไปให้พ้นจากลูกสาวเขาก็เท่านั้นเอง"ผมขอโทษครับ"ใบหน้าหล่อคมที่เพิ่งตื่นนอนยังคงเปียกชื้นไปด้วยน้ำที่เขาเอามาล้างหน้าก่อนที่จะออกมาเพื่อเรียกความสดชื่นให้ตัวเอง"ตามมา"เข้มพาคนงานที่เขาเพิ่งจะปลุกให้ตื่นเดินมาตามทางเดินเล็กๆ ภายในไร่ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยไม้ผลนานาชนิดปลูกแยกโซนกันไว้อย่างเป็นระเบียบ เขาพาสมาร์ทเดินมาจนถึงท้ายไร่ที่ซึ่งจะเป็นห้องทำงานของพ่อนักธุรกิจใหญ่ในวันนี้"งานของแกวันนี้ คือเรื่องกล้วยๆ เหมือนเมื่อวาน"ร่างใหญ่น่าเกรงขามหยุด
"ครับ"คำตอบที่ไร้คำถามตามมาเหมือนเดิมของสมาร์ทที่ยินดีทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ขอเพียงได้ใจพ่อตามาครองเขายอมได้หมดแม้แต่เป็นคนเปิดประตูรั้วเขาก็ยอมทำ"เดินตามเข้าไปให้ถึงที่พักแล้วแกจะได้พักจนถึงเย็น"เข้มรีบขับรถกระบะเข้ามาตอนที่สมาร์ทกำลังเปิดประตู เขาอยากจะดูหน้ามันตอนที่มันต้องเดินตามรถกระบะว่าจะเป็นยังไงและมันก็สมใจที่ได้แกล้งสมาร์ท"ครับ"สมาร์ทออกเดินตามรถกระบะที่เคลื่อนตัวนำหน้าเขาออกไปด้วยสองขาที่อ่อนแรงเต็มทนผ่านมาหลายสิบชั่วโมงแล้วเขายังไม่ได้หยุดพักเลยแต่ต่อให้ไม่ได้นอนอีกหลายสิบชั่วโมงเขาก็จะสู้เพื่อให้เข้มได้เห็นว่าเขาเข้มแข็งพอที่จะดูแลมินตราได้"ชักช้าเหมือนพ่อแกไม่มีผิด"เข้มยืนรอคนงานคนใหม่ที่เขาต้อนรับด้วยการให้เดินมาด้วยใบหน้าหงุดหงิดเพราะเกือบสิบนาทีกว่ามันจะเดินมาถึงไม่รู้จะลีลาอะไรนักหนาจนเขานึกโมโหไปถึงน้องเขยนอกไส้ที่ไม่สั่งสอนลูกให้ดี"ขอโทษครับ"ร่างใหญ่เดินกึ่งวิ่งมาจนมาถึงที่หมายทั้งที่ระยะทางเกือบกิโลเพื่อให้ทันคนที่ขับรถมา แต่ก็ดูเหมือนเขาจะมาช้าไปจนต้องเอ่ยคำขอโทษออกมาเพื่อเอาใจว่าที่พ่อตาอย่างเต็มที่"นี้ที่พักของแก แล้วสี่โมงเย็นไปเจอฉันที่บ้านหลังใหญ
"เข้ามาแค่แพรคนเดียว"เข้มยอมเปิดประตูออกมา แต่เขาก็ไม่ให้ใครได้เข้ามาในห้องนอกจากดึงมือแพรพลอยให้เดินเข้ามาเพียงคนเดียวและเขาก็ล๊อคห้องลงตามเดิม"แพรขอโทษแทนลูกชายด้วยนะคะ"คำแรกที่พูดออกมาเมื่อได้เจอหน้าผู้ที่เป็นยิ่งกว่าพี่ชายอย่างเข้ม เธออยากให้พี่ชายใจอ่อนต่อลูกของเธอเหมือนที่เคยใจอ่อนกับสามีของเธอเมื่อหลายสิบปีกก่อนหน้านี้"จะไปขอโทษแทนมันทำไม ก็เพราะพ่อมันนั่นแหละ เลี้ยงลูกไม่ดี"เขาไม่เคยคิดโทษใครนอกจากน้องเขยที่เขาไม่เคยชอบขี้หน้ามันเลยสักนิดเดียวแต่จำต้องยกน้องสาวให้มันไป"พี่เข้มให้เด็กสองคนได้เจอกันเถอะนะ"แพรพลอยหันไปเจอหน้ามินตราความสงสารก็ยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว สภาพของสมาร์ทก็ดูแย่มากแล้วแต่สภาพมินตราดูแย่มากกว่าเป็นเท่าตัว เธอคงปล่อยให้เข้มใจร้ายต่อไปไม่ได้อีก ต้องขอร้องให้ถึงที่สุด"พี่จะไม่ให้มันได้เจอกับลูกสาวพี่อีก แพรดูสภาพมินตราสิ"เข้มนั่งลงกับโซฟาตัวเดิมด้วยอารมณ์ฉุนเชียวที่เขาเองแทบจะคุมไม่อยู่เพราะนอกจากน้องสาวของเขาจะไม่เข้าใจเขาแล้วยังจะพยายามพรากลูกสาวไปจากอกเขาอีกให้ไปอยู่กับคนที่มันไม่สามารถปกป้องดวงใจของเขาได้"เด็กสองคนรักกันนะคะ พี่เข้มอย่าใจร้ายกั