"งั้นก็เป็นซะ ยังไงก็หนีไปไม่ได้"
เขาต้องการแบบนั้นจริงๆ นางบำเรอที่ถูกใจเขาคงมีแค่เธอ และคงเป็นได้แค่นั้นเพราะคนอย่างชารีฟไม่ยกย่องใครเป็นเมียแน่นอน
"เลว"
"หึ ด่าอีกสิ ผัวชอบ"
เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหยิบผ้าเช็ดตัวที่ใส่ตอนเดินเข้ามาขึ้นมาพันรอยกาย รีบเดินออกไปนอกห้องวันนี้เขามีงานตอนบ่ายแล้วนี้ก็เกือบเที่ยงเขาไม่มีเวลามาเถียงกับเธอเอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันเขาจะเถียงกับเธอให้เตียงสั่นเลยแม่ของขวัญของชารีฟ
"ไอ้ชาติชั่ว ไอ้สารเลว ไอ้บ้ากาม ไอ้เห็นแก่ตัว"
เสียงด่าถอดังตามแผ่นหลังใหญ่ออกมาเป็นระยะ เธอไม่มีทางเลือกแล้วนิด่าให้เขาโมโหแล้วฆ่าเธอทิ้งสะดีกว่าต้องอยู่กับผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นที่บำเรอความใคร่มันน่าขยะแขยงสิ้นดี
"ไอ้แฝดนรก มึงสองคนเฝ้าให้ดี อย่าให้หนีออกไปได้ ไม่งั้นกูจะส่งพวกมึงไปตายกลางทะเลทราย"
"ครับนาย"
นาฟรับคำผู้เป็นนายอย่างแข็งขัน เขารู้ว่าผู้เป็นนายอย่างชารีฟพูดจริง และการตายกลางทะเลทรายมันก็โหดร้ายมากสำหรับคนที่เกลียดทะเลทรายอย่างเขา
"ปกตินายต้องให้เราส่งเธอกลับตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ทำไมเธอยังอยู่"
ราฟอดสงสัยไม่ได้เขาเอ่ยถามคำถามโง่เง้าออกมาและนั้นคือจุดจบของปากเขา
"ไอ้นาฟตบปากมัน หรือจะให้กูตบเอง"
"กูขอโทษนะไอ้ราฟ เพี๊ยะ"
นาฟรีบตบหน้าคู่แฝดของเขาทันที เพราะถ้าให้ชารีฟลงมือเองไอ้ราฟอาการสาหัสแน่ ฝ่ามือใหญ่ฝาดเต็มแรงจนอีกฝ่ายเลือดไหลออกมาจากปากแต่นั้นก็เบากว่าฝีมือของผู้เป็นนายแน่
"อย่าให้หนีไปได้ ทำหน้าที่ของมึงให้ดี"
เขากำชับคำสั่งอีกครั้งก่อนจะออกจากคฤหาสน์ใหญ่ที่ตั้งอยู่นอกเมืองห่างไกลผู้คนแห่งนี้ ปกติเขาแทบจะไม่มาเยือนที่นี้เลยเพราะที่นี้มีผู้หญิงที่เขาแสนเบื่อพวกเธออยู่อีกเป็นสิบคน พวกเธอเป็นของกำนัลจากพวกที่คิดว่าลูกสาวที่ถูกส่งมาจะช่วยให้ธุรกิจที่ทำอยู่กับเขาจะดีขึ้นแต่ก็คิดผิดเพราะเธอแต่ละคนได้ขึ้นเตียงกับเขาแค่คนละรอบและเขาก็เขี่ยทิ้งต้องมารวมกันอยู่ที่นี้
"โอ้ยยยยย"
"เสียงอะไรว่ะไอ้นาฟ"
"โอ้ยยยยย"
"เสียงออกมาจากในห้องผู้หญิงเอเชีย มึงไปดูสิไอ้ราฟ"
"โอ้ยยยยยย"
"นี้พวกนายสองคนช่วยทำให้คนในห้องนั้นเงียบด้วย หนวกหู ปึง"
หญิงสาวห้องข้างๆห้องของบิวตี้ออกมาโวยวายใส่สองแฝดแล้วปิดประตูใส่หน้าอย่างไร้มารยาทเพราะเธอสุดจะทนตั้งแต่เมื่อคืนที่ทั้งชารีฟและผู้หญิงมาใหม่ครางกันแทบทั้งคืนไม่เกรงใจห้องข้างๆอย่างเธอเลย
"เร็วเลยมึง"
ราฟหันไปเร่งคู่แฝดของเขาเพราะไม่อยากให้อีกหลายห้องต้องเปิดออกมาด่าพวกเขาสองคน
"โอ้ยยยยยยย"
บิวตี้นั่งอยู่กับพื้นเอามือเล็กกดท้อง ในสภาพแต่งตัวหล่อแหลม เธอมีเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดร่างกายเพราะเสื้อผ้าเธอถูกเขาฉีกขาดหมด
"ปวดท้องเหรอว่ะ"
"โอ้ยยยยย"
กว่าเธอจะรวบรวมความกล้าเรียกไอ้สองร่างยักษ์นี้เข้าห้องมาได้ด้านนอกก็เริ่มมืดแล้ว ถึงเธอจะแต่งตัวเปรี้ยวโชว์ความเซ็กซี่มาตลอดแต่ก็เซฟตัวเองอย่างดีไม่เคยต้องโชว์มากแบบนี้ชนิดที่เรียกได้ว่าชั้นในไม่มีมีเพียงผ้าผืนเดียวห่อร่างกายเอาไว้แล้วผ้าก็ไม่ได้ผืนใหญ่อะไร
"ไอ้นาฟมึงไปเอายามา เดี๋ยวกูเฝ้าเอง"
ถึงจะฟังอีกฝ่ายพูดไม่รู้เรื่องแต่ภาษากายที่หญิงสาวถ่ายทอดออกมามันบอกอาการแบบนั้น และเขาก็ปล่อยให้ผู้หญิงที่นายสั่งให้เฝ้าไว้เป็นอะไรไปไม่ได้
"เออ"
นาฟวิ่งออกจากห้องไปหายาที่ชั้นล่างน่าจะมียาแก้ปวดอะไรซักอย่างอยู่บ้าง
"โอ้ย"
บิวตี้ใช้จังหวะที่ไอ้แฝดอีกคนที่ยังอยู่ในห้องหันไปมองอีกคนที่เดินออกไป เธอหยิบโคมไฟที่เอามาวางไว้ใกล้มือฟาดเขาเต็มแรงใส่ร่างยักษ์
บิวตี้รีบวิ่งออกมา เธอจำไม่ได้ว่าทางออกอยู่ตรงไหนตอนที่เธอเข้ามาก็มัวแต่ดิ้นรนจะเอาตัวรอดจนไม่ทันได้สังเกตุ ร่างเล็กวิ่งลงมาจนถึงชั้นล่างและโชคก็เข้าข้างเธอประตูใหญ่อยู่ข้างหน้า
"ไอ้นาฟ มันหนีไปแล้ว จับมันไว้"
ราฟที่พอฟื้นคืนสติเขาก็รีบพยุงร่างใหญ่โตของตัวเองให้ลุกขึ้นมา ไม่งั้นเขาคงได้ตายจริงแน่ถ้าเธอหนีออกไปได้
เสียงใหญ่ตะโกนลงมาจากชั้นบนจนทำให้เธอชะงักหันไปมองใบหน้าเปื้อนเลือด
"เห้ยหยุดนะโว้ย"
นาฟวิ่งมาตามเสียงใหญ่ของราฟ เขามองเห็นร่างบางกำลังวิ่งออกจากประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ถ้าเธอหลุดไปจากประตูนั้นได้เขาสองคนเดือนร้อนแน่
บิวตี้วิ่งสุดแรงเท่าที่เธอจะมีออกมาจากคฤหาสน์นั้นได้และโชคดีที่ไม่มีคนเฝ้าประตูเธอวิ่งหลุดออกมานอกรั่วของคฤหาสน์ได้อย่างสบาย
"รอดแล้วบิวตี้ ไปทางไหนต่อดี"
คุณหมอบิวตี้ยืนหันซ้ายหันขวาลังเลว่าจะไปไหนต่อ ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงทุกที่ เธอไม่รู้จะไปไหนแถมแถวนี้ยังไม่มีผู้คนผ่านมาเลยละที่นี้มันคือที่ไหนของเมืองที่ยิ่งใหญ่นี้
สองเท้าเปล่ากึ่งวิ่งกึ่งเดินอย่างไร้จุดหมายอย่างน้อยก็หาตู้โทรศัพท์เพื่อโทรกลับไปค่ายอาสาให้ส่งคนมารับเธอ เธอจะได้กลับบ้านหนีคนเลวคนนั้นไปให้พ้นหนีเรื่องบัดศรีในชีวิตนี้ไปสะที
.....
"พ่อครับติดต่อพี่หนูสวยได้หรือยัง"
สมาร์ทที่เพิ่งกลับจากประชุมแทนผู้เป็นพ่อรีบเดินเข้ามาหาพ่อแม่ และน้องๆของเขาที่รอฟังข่าวพี่สาวฝาแฝดของเขาอยู่ก็ครบวันแล้วที่พี่สาวเขาไม่ติดต่อกลับมา
"ยัง แต่พ่อสั่งคนของเราออกตามหาแล้ว"
แมกซ์แวลล์นั่งกุมมือผู้เป็นภรรยาแน่น เพราะตั้งแต่บิวตี้ขาดการติดต่อแพรพลอยก็ลมจับไม่รู้กี่รอบแล้ว
"แล้วเราจะทำยังไงต่อกันดีครับ"
คอนเนอร์นั่งรวมตัวอยู่ด้วยกับครอบครัวเอ่ยถามถึงแผนขั้นต่อไปเพราะเขารู้ว่ายังไงพี่สาวแสนดีของเขาต้องกลับมาด้วยความรักของคนในครอบครัวและเธอจะต้องปลอดภัยด้วย
"พ่อจะไปตามบิวตี้กลับมาเอง ไม่ต้องทำมันแล้วอาชีพหมอ"
แต่ที่เขาเป็นหวงคือบิวตี้อยู่ในฐานะลูกสาวมาเฟีย เขากลัวใครจะทำอันตรายลูกสาวของเขาเพราะเขาและครอบครัวก็มีศัตรูมากพอตัวและยิ่งที่นั้นเป็นที่ที่อิทธิพลของเขาไปไม่ถึงแล้วด้วยความเป็นหวงยิ่งมีมากเป็นเท่าตัว
แมกซ์แวลล์และลูกชายอีกสองคนคือสมาร์ทและคอนเนอร์กับลูกน้องอีกหลายสิบชีวิตเดินทางลัดฟ้าภายในเช้าวันถัดมาทันที เพราะลูกน้องของเขาส่งข่าวมาว่าเห็นหญิงสาวที่คล้ายบิวตี้ถูกจับตัวมาเฟียใหญ่อย่างเขาก็นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้
.....
"พวกมึงเฝ้ายังไงให้หนีไปได้ กูน่าจะส่งมึงไปฆ่าทิ้งซะ"
เสียงใหญ่ตะคอกลูกน้องผ่านโทรศัพท์ไร้สายมา จนสองคนที่เอาหูแนบโทรศัพท์ไว้ถึงกับกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งผากด้วยความกลัวตาย
"พวกผมกำลังขบรถออกตามหาอยู่ครับนาย"
"ตามให้เจอ อีกซักพักกูจะตามไปสมทบ"
เขายังคงติดงานเจรจาธุรกิจอยู่ ทั้งที่ใจเขาก็มีลางสังหรว่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่เขาคิด ยัยตัวดีหาทางหนีไปจนได้
"ซวยจริงๆเลย เพราะมึงแท้ๆไอ้นาฟ"
"มึงก็ผิด จะมาโทษกูคนเดียวได้ยังไง"
สองคนเจ้าจอของฉายาแฝดนรกลูกน้องคนสนิทของพ่อค้าน้ำมันรายใหญ่อย่างชารีฟกำลังขับรถวนตามซอกซอยแถวคฤหาสน์อของชารีฟเพื่อตามหาร่างบางตัวก่อปัญหาให้เขาสองคน และเขาสองคนก็คั่นเวลาด้วยการทะเลาะกันเองไปด้วย
"เจอหรือยัง"
"ยังครับนาย"
ชารีฟรีบตามมาสมทบหลังจากที่งานของเขาเรียบร้อยแต่ไอ้ฝาแฝดสองคนก็ทำให้เขาไม่พอใจในผลงานของมันสองคน ถ้ามันสองคนไม่ใช่ลูกน้องที่ดีของเขาและผลงานของพวกมันก็ดีมาตลอดทำให้เขาได้แค่ส่งสายตาคาดโทษมาให้เท่านั้นแทนที่จะฆ่าทิ้งโทษฐานทำงานพลาด
"นายไม่นั่งรถไปหรือครับ"
"ยัยตัวดีนั้นคงวิ่งหลบอยู่แถวนี้ และคงฉลาดกว่าพวกมึง"
เขาเชื่อว่าถ้าเธอเป็นหมอเธอคงหาที่หลบแสงไฟจากรถได้สบายด้วยสมองระดับเธอ
ชารีฟเดอยู่ในความมืดเขาไม่ใช่แสงไฟอะไรส่องทางทั้งนั้นอาศัยแสงจันทร์คลำทางเดินไปเรื่อยๆตามซอยเล็กซอยน้อย
"คิดว่าไปไหนไกล"
เขาส่งสัญญาณให้ไอ้แฝดนรกหยุดเดินและเงียบเพราะเขามองเห็นเจ้าของร่างหอมที่เขาซุกไซร์มาทั้งคืนกำลังแอบเขาอยู่
เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังสม่ำเสมอคล้ายเสียงดนตรีสาดที่กำลังบรรเลงบนหาดทรายสีขาวสะอาดบนเกาะส่วนตัวของครอบครัวราเซ ที่วันนี้ได้มีโอกาสต้อนรับคู่สามีภรรยาป้ายแดงที่เพิ่งจะแต่งงานกันได้เพียงอาทิตย์เดียวสองหนุ่มสาวที่เพิ่งลงจากเรือพากันเดินทอดน่องบนหาดทรายขาวที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ร่างบางของหญิงสาวอยู่ในความดูแลของชายหนุ่มตลอดทางที่เดินมาอย่างอบอุ่นและดีที่สุดสมาร์ทชี้นู้นชี้นี้ให้มินตราได้ดูมาตลอดทาง เขาเอาใจใส่เธอแบบนี้ทุกลมหายใจเพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อตาว่าจะดูแลเธอให้ยิ่งกว่าชีวิตของเขาเอง"ที่นี้สวยจังเลยค่ะ"มินตราที่เดินควงคู่มากับสมาร์ทผู้เป็นสามี เธอไม่เคยมาที่นี้และไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าครอบครัวราเซมีเกาะส่วนตัวแต่ที่ทำให้เธอยิ้มกว้างให้เขาได้ก็คือความสวยงามของที่นี่และความเอาใจใส่ของสมาร์ทผู้เป็นสามี"เมียพี่สวยกว่าเกาะนี้อีกนะ"เขารวบร่างเล็กขึ้นมาอุ้มให้ร่างกายนุ่มนิ่มน่าสัมผัสของเธอแนบไปกับอกของเขา ตั้งแต่เดินทางมาจากไทยจนถึงตอนนี้เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วไม่รู้กี่รอบเพราะความน่ารักของเธอที่มีเขาเพียงคนเดียวที่ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด"หนูมินเดินเองได้ค่ะ พี่สุดหล่อปล่อยหนูมิ
"ทะลึ่ง นอนไปเลย"มินตรารีบกลับเข้าบ้าน เธอหวั่นใจอยู่ไม่น้อยกลัวจะเผลอปล่อยตัวไปกับอารมณ์ก่อนที่จะสอบเสร็จวันพรุ่งนี้ และผิดคำพูดที่ให้ไว้กับพ่อว่าจะรอให้เรียนจบ เธอต้องหักห้ามทุกอย่างเอาไว้อีกแค่วันเดียวเธอก็จะเรียนจบและได้แต่งงานกับเขาอย่างถูกต้องตามที่ควรจะเป็น"เดี๋ยวถึงห้องแล้วพี่โทรหานะ"สมาร์ทตะโกนไล่หลังสาวน้อยไปแบบเงียบๆ เขากลัวเข้มจะมาได้ยินเข้า อย่างน้อยไม่นอนกอดกันก็ยังได้ยินเสียงกันจนหลับเหมือนทุกวันก็ยังดี"สาวน้อยแว่นโตของพี่นอนหรือยังครับ"พอเห็นแสงไฟจากห้องของหญิงสาวเปิดขึ้นเขาก็รีบกลับเข้าเต็นท์ที่ว่าที่พ่อตาเอามากางให้นอนกลางสนามหญ้าทันที และโทรหามินตราตามที่พูดเอาไว้"อยากจะออกไปจากบ้านกูไปตอนนี้ไหม"เข้มเดินเข้ามาหยิบหนังสือให้มินตราที่ห้องนอนพอดีกับที่โทรศัพท์ของลูกสาวเขาดังขึ้นเขาเลยถือโอกาสรับสายแทนเพราะคนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่นมันคือคนที่นอนอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้านเขาเอง"พ่อเข้ม"โทรศัพท์ที่ถืออยู่แทบจะร่วงลงกับพื้น ปลายสายไม่ใช่มินตราหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจแต่กลับเป็นพ่อตาที่เขาแสนจะเกรงใจและไม่อยากจะมาปะทะฝีปากด้วยเลยในเวลานี้"เออ กูเอง"ถึงเขาจะใจดีให้สมาร
"ขนกันมาทำไมมากมาย"เข้มนอนอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันเต็มๆ จนมีเวลาให้สมาร์ทโทรบอกคนนู้นคนนี้จนมารวมตัวกันอยู่เต็มห้องเล็กๆ นี้ จนตอนนี้คนไข้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดโดนเฉพาะต้องมานอนมองหน้าไอ้น้องเขยนอกไส้ที่ดันมายิ้มอยู่ข้างเตียงเขาไม่รู้มันจะดีใจอะไรของมันนักหนา"พักเยอะๆ นะครับ"แมกซ์แวลล์ที่อยู่เมืองไทยมานานนับเดือนเพื่อดูความสำเร็จของลูกชาย กำลังนั่งยิ้มอย่างภูมิใจที่ลูกของเขาเข้มแข็งและอดทนเพื่อคนรักได้ไม่ต่างจากเขาที่เคยผ่านด่านพิสูจน์รักของเข้มมาแล้ว มันช่างน่าภูมิใจสะจริงที่ลูกจะเก่งได้พ่อขนาดนี้"หนูมิน ถ้าพ่อหลับห้ามออกไปไหนนะ หนูยังไม่แข็งแรง""พ่อพักก่อนนะคะ ไม่ต้องห่วงหนูมิน หนูมินหายดีแล้วค่ะ"ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้คอยมองผู้เป็นพ่อไม่คลาดสายตาเธอเลย สองมือเล็กกำมือใหญ่ไว้แน่นเธอเป็นห่วงผู้ชายคนนี้มากที่สุดในหัวใจ พ่อเข้มของเธอไม่เคยเจ็บป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลมาก่อน"ผมจะดูแลหนูมินให้ครับ"สาร์ทยืนอยู่ด้านหลังมินตราเขาคอยดูแลเข้มอยู่อีกคนรีบเสนอตัวเองออกมาเพื่อให้คนไข้ได้พักจะได้ไม่ต้องกังวนใจอะไร"กูยิ่งต้องห่วง"เขาไม่เคยไว้ใจทั้งแมกซ์แวลล์และสม
"นี้มันกี่โมงแล้ว ใครใช้ให้แกมานอนกินบ้านกินเมืองแบบนี้วะ"เข้มรีบตื่นมาทำหน้าที่ของเขาตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่ขึ้นขอบฟ้า เขาไม่อยากให้สมาร์ทสุขสบายแม้แต่นาทีเดียวเพราะมันจะต้องเป็นฝ่ายขอยอมแพ้"ผมขอเวลาอีกห้านาทีครับ จะรีบออกไป"เขารู้สึกเหมือนเพิ่งจะนอนพักไปได้ไม่กี่ชั่วโมงนี้เองยังไม่หายเหนื่อยด้วยซ้ำไปแต่เสียงเรียกด้านนอกทำให้เขานอนต่อไม่ได้แล้ว"พ่อแกไม่สอนหรือไง ว่ามาอยู่บ้านคนอื่นเขาต้องทำตัวยังไง"เสียงใหญ่ดุดันตะคอกออกมาเหมือนคนไร้มารยาทแต่เขาจำเป็นต้องร้ายกาจใส่ชายหนุ่มตรงหน้าทั้งที่สมาร์ทก็ไม่ได้มีความผิดอะไรนอกจากเขาต้องการให้ไปให้พ้นจากลูกสาวเขาก็เท่านั้นเอง"ผมขอโทษครับ"ใบหน้าหล่อคมที่เพิ่งตื่นนอนยังคงเปียกชื้นไปด้วยน้ำที่เขาเอามาล้างหน้าก่อนที่จะออกมาเพื่อเรียกความสดชื่นให้ตัวเอง"ตามมา"เข้มพาคนงานที่เขาเพิ่งจะปลุกให้ตื่นเดินมาตามทางเดินเล็กๆ ภายในไร่ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยไม้ผลนานาชนิดปลูกแยกโซนกันไว้อย่างเป็นระเบียบ เขาพาสมาร์ทเดินมาจนถึงท้ายไร่ที่ซึ่งจะเป็นห้องทำงานของพ่อนักธุรกิจใหญ่ในวันนี้"งานของแกวันนี้ คือเรื่องกล้วยๆ เหมือนเมื่อวาน"ร่างใหญ่น่าเกรงขามหยุด
"ครับ"คำตอบที่ไร้คำถามตามมาเหมือนเดิมของสมาร์ทที่ยินดีทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ขอเพียงได้ใจพ่อตามาครองเขายอมได้หมดแม้แต่เป็นคนเปิดประตูรั้วเขาก็ยอมทำ"เดินตามเข้าไปให้ถึงที่พักแล้วแกจะได้พักจนถึงเย็น"เข้มรีบขับรถกระบะเข้ามาตอนที่สมาร์ทกำลังเปิดประตู เขาอยากจะดูหน้ามันตอนที่มันต้องเดินตามรถกระบะว่าจะเป็นยังไงและมันก็สมใจที่ได้แกล้งสมาร์ท"ครับ"สมาร์ทออกเดินตามรถกระบะที่เคลื่อนตัวนำหน้าเขาออกไปด้วยสองขาที่อ่อนแรงเต็มทนผ่านมาหลายสิบชั่วโมงแล้วเขายังไม่ได้หยุดพักเลยแต่ต่อให้ไม่ได้นอนอีกหลายสิบชั่วโมงเขาก็จะสู้เพื่อให้เข้มได้เห็นว่าเขาเข้มแข็งพอที่จะดูแลมินตราได้"ชักช้าเหมือนพ่อแกไม่มีผิด"เข้มยืนรอคนงานคนใหม่ที่เขาต้อนรับด้วยการให้เดินมาด้วยใบหน้าหงุดหงิดเพราะเกือบสิบนาทีกว่ามันจะเดินมาถึงไม่รู้จะลีลาอะไรนักหนาจนเขานึกโมโหไปถึงน้องเขยนอกไส้ที่ไม่สั่งสอนลูกให้ดี"ขอโทษครับ"ร่างใหญ่เดินกึ่งวิ่งมาจนมาถึงที่หมายทั้งที่ระยะทางเกือบกิโลเพื่อให้ทันคนที่ขับรถมา แต่ก็ดูเหมือนเขาจะมาช้าไปจนต้องเอ่ยคำขอโทษออกมาเพื่อเอาใจว่าที่พ่อตาอย่างเต็มที่"นี้ที่พักของแก แล้วสี่โมงเย็นไปเจอฉันที่บ้านหลังใหญ
"เข้ามาแค่แพรคนเดียว"เข้มยอมเปิดประตูออกมา แต่เขาก็ไม่ให้ใครได้เข้ามาในห้องนอกจากดึงมือแพรพลอยให้เดินเข้ามาเพียงคนเดียวและเขาก็ล๊อคห้องลงตามเดิม"แพรขอโทษแทนลูกชายด้วยนะคะ"คำแรกที่พูดออกมาเมื่อได้เจอหน้าผู้ที่เป็นยิ่งกว่าพี่ชายอย่างเข้ม เธออยากให้พี่ชายใจอ่อนต่อลูกของเธอเหมือนที่เคยใจอ่อนกับสามีของเธอเมื่อหลายสิบปีกก่อนหน้านี้"จะไปขอโทษแทนมันทำไม ก็เพราะพ่อมันนั่นแหละ เลี้ยงลูกไม่ดี"เขาไม่เคยคิดโทษใครนอกจากน้องเขยที่เขาไม่เคยชอบขี้หน้ามันเลยสักนิดเดียวแต่จำต้องยกน้องสาวให้มันไป"พี่เข้มให้เด็กสองคนได้เจอกันเถอะนะ"แพรพลอยหันไปเจอหน้ามินตราความสงสารก็ยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว สภาพของสมาร์ทก็ดูแย่มากแล้วแต่สภาพมินตราดูแย่มากกว่าเป็นเท่าตัว เธอคงปล่อยให้เข้มใจร้ายต่อไปไม่ได้อีก ต้องขอร้องให้ถึงที่สุด"พี่จะไม่ให้มันได้เจอกับลูกสาวพี่อีก แพรดูสภาพมินตราสิ"เข้มนั่งลงกับโซฟาตัวเดิมด้วยอารมณ์ฉุนเชียวที่เขาเองแทบจะคุมไม่อยู่เพราะนอกจากน้องสาวของเขาจะไม่เข้าใจเขาแล้วยังจะพยายามพรากลูกสาวไปจากอกเขาอีกให้ไปอยู่กับคนที่มันไม่สามารถปกป้องดวงใจของเขาได้"เด็กสองคนรักกันนะคะ พี่เข้มอย่าใจร้ายกั