2ปีต่อมา...
"ฉันจะให้แกไปเรียนต่ออังกฤษ"
".........." นนท์อายุเจ็ดขวบนั่งฟังพ่อของตนเองพูดโดยที่เขาไม่ได้โต้แย้งใดๆอยากให้เขาไปไหนทำอะไรเขาก็จะทำ จะให้ไปเรียนเมืองนอกก็ดีเหมือนกันเพราะเขาก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ เขาเกลียดบ้านหลังนี้เกลียดพ่อตัวเองเกลียดเมียน้อยพ่อเกลียดเด็กปิ่นนั่นด้วยเขาเกลียดทุกคนที่เป็นต้นเหตุให้แม่เขาทิ้งเขาไปเมื่อสองปีก่อน จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าแม่เขาอยู่ที่ไหนเพราะแม่ไม่ติดต่อกลับมาเลย ตลอดสองปีที่ผ่านมาเขาเฝ้ารอทุกวันว่าแม่จะกลับมารับเขาไปอยู่ด้วยแต่ก็ไร้วี่แวว
"ทำไมต้องให้ไปเรียนตั้งเมืองนอกด้วยคะพี่ชาติค่าเทอมที่นั่นคงจะแพงหน้าดูไหนจะค่ากินค่าอยู่อีกวาดว่าให้เรียนที่นี่แต่เป็นโรงเรียนประจำก็ได้นะคะพี่ชาติ"
"มันจะแพงแค่ไหนกันเชียว ตานนท์เป็นลูกชายคนเดียวของพี่พี่ก็อยากให้แกได้เรียนที่ดีๆก็แค่นั้นเอง" ปานวาดฟังสามีพูดอย่างไม่พอใจ ทำไมต้องเสียเงินตั้งหลายบาทด้วยก็แค่ลูกเมียเก่า
"แต่ว่าวาด....."
"ไม่ต้องห่วงหรอกทรัพย์สินเงินทองในส่วนของเธอพี่ก็จัดการไว้ให้แล้วไม่ต้องกลัว" ปานวาดยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินแบบนั้นแต่เธอก็ไม่อยากให้สามีคิดว่าเธอรังเกียจลูกเลี้ยงเพราะก่อนหน้านี้เธอให้สัญญากับสามีเอาไว้ว่าจะดูแลนนท์ให้เหมือนที่ดูแลปิ่นปักจะรักให้เหมือนลูกแท้ๆ แต่จริงๆแล้วเธอเกลียดนนท์ยิ่งว่าใส่เดือนกิ้งกือ เธออยากให้นนท์ไปจากที่นี่ซะเพราะทุกครั้งที่เห็นหน้านนท์เธอก็จะคิดถึงสายตาเกลียดชังและจองเวรจากสุนีย์
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะพี่ชาติวาดน่ะแค่เป็นห่วงถ้าไอ้...เอ่อตานนท์ไปอยู่เมืองนอกแล้วใครจะดูแลแกยังเด็กอยู่เลยค่ะถ้าให้เรียนที่นี่วาดก็ยังจะช่วยดูแลแกได้" ปานวาดพยายามหาข้ออ้างข้อแก้ตัวเพื่อให้ตัวเองดูเป็นคนดีเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีต่อหน้าสามี
"ไม่ต้องเป็นห่วงห่วงลูกสาวของแกเถอะ" นนท์บอกปานวาดโดยไม่กลัวว่าพ่อของตัวเองจะโกรธ เขารู้ว่าที่ปานวาดพูดมันไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเขาแต่เป็นเพราะกลัวเรื่องเงินเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่าเพราะถ้าเรียนเมืองนอกค่าใช้จ่ายมันจะสูงคงเสียดายเงินนั่นแล่ะถึงเขาจะอายุเจ็ดขวบเขาก็รู้ไม่ได้ไม่รู้
"ตานนท์พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามเรียกน้าปานวาดว่าแกทำไมถึงไม่เชื่อ"
"ก็ผมเกลียดมันนี่ ถ้าไม่มีมันแม่ก็คงไม่ทิ้งผมไป"
"แกจะพูดถึงแม่แกทำไมห๊ะ ฉันไม่ได้ไล่แม่แกแม่แกไปเอง"
"ก็ถ้าพ่อไม่พามันเข้ามาแม่ก็คงไม่ไปจากผม"
"ฉันพยายามใจเย็นกับแกแล้วนะ ถ้าแกยังทำตัวเป็นเด็กก้าวร้าวฉันจะให้แกไปอยู่ที่โน่นไม่ต้องกลับมา"
"ก็ดีครับผมก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่เหมือนกัน"
"ได้แกพูดเองนะ ตอนแรกฉันจะให้แกไปเรียนแค่ไม่กี่ปีแต่ถ้าแกพูดแบบนี้ฉันจะได้ให้แกอยู่ที่โน่นจนกว่าฉันจะเรียกแกกลับมาแต่ก็ไม่รู้นะว่ามันจะกี่ปีอาจจะห้าปีหรือสิบปีหรืออาจจะยี่สิบปี"
"ไม่ต้องให้ผมกลับมาก็ได้นะถ้าพ่อจะพูดแบบนี้" นนท์ลุกจากโซฟาแล้วเดินขึ้นห้องอย่างไม่พอใจ
ตลอดสองปีที่ผ่านมาเขาโดนปานวาดใส่ร้ายกลั่นแกล้งบางครั้งก็ถึงขั้นทำร้ายร่างกายเขาตอนที่พ่อของเขาไม่อยู่ไปทำงาน เขาอดทนมาตลอดเพราะถ้าเขาสู้กลับเขาไม่รับรองความปลอดภัยว่าปานวาดจะอยู่ในสภาพไหน เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นรอวันที่เขาได้แก้แค้นสองคนแม่ลูกนั่น
"พี่นนท์ขา" เด็กหญิงปิ่นอายุห้าขวบเดินมาหานนท์ที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้อง
"ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ใช่พี่เธออย่ามาเรียกฉันว่าพี่"
"แต่คุณพ่อบอกให้เรียกนี่คะแล้วอีกอย่างเราก็เป็นพี่น้องกัน"
"ฉันไม่มีน้องและไม่คิดอยากจะมี"
"แต่ว่า..."
"เลิกวุ่นวายกับฉันสักทีจะได้ไหม เดี๋ยวแม่เธอมาเห็นก็จะหาว่าฉันรังแกเธออีก"
"พรุ่งนี้วันเกิดพี่นนท์เอ่อคุณนนท์ใช่ไหมคะ นี่ค่ะ ปิ่นทำการ์ดอวยพรวันเกิดมาให้ค่ะ" นนท์มองดูการ์ดวัดเกิดที่ปิ่นยื่นให้ตอนแรกเขาว่าจะไม่รับเพราะเขารังเกียจแต่พอคิดอะไรออกเขาก็ยื่นมือไปรับมันมา ปิ่นมองด้วยรอยยิ้มและดีใจที่นนท์ยอมรับการ์ดวันเกิดที่เธอทำแต่...
แคว่ก!!! แคว่ก!!!!! แคว่ก!!!!!!
นนท์ฉีกการ์ดวันเกิดของปิ่นเป็นชิ้นๆจากนั้นนนท์ก็ก้มลงเก็บเศษกระดาษพวกนั้นขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปใกล้ปิ่นแล้วก็บีบคางปิ่นอย่างแรงจากนั้นนนท์ก็เอากระดาษพวกนั้นยัดใส่ปากของปิ่นและบังคับให้เธอเคี้ยว ปิ่นจำใจต้องเคี้ยวและกลืนเศษกระดาษพวกนั้นลงคอทั้งน้ำตา
"จำใส่หัวเอาไว้ว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกไม่อย่างนั้นจะเจอหนักกว่านี้แน่"
ปิ่นปัก..."ถ้าพี่นนท์ว่าดีปิ่นก็ว่าดีค่ะ^^" อะไรที่เขาคิดว่าดีฉันก็ไม่ขัดเพราะว่าเขาคงคิดมาเป็นอย่างดีแล้วถึงทำหลังจากจดทะเบียนกันเสร็จเราก็กลับมาที่บ้านเพื่อบอกข่าวดีกับทุกคนโดยเฉพาะน้องปันปันที่แกเคยพูดกับฉันหลายครั้งว่าอยากมีน้อง ตอนนี้แกกำลังจะมีน้องสมใจแล้วแต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นผู้หญฺิงหรือผู้ชาย"เย้ เย้ เย้ น้องกำลังจะได้เป็นพี่สาวแล้วใช่มั้ยคะแม่""ใช่ค่ะน้องดีใจมั้ยคะ""ดีใจค่า ดีใจที่สุดเลย แต่..."จากตอนแรกที่ลูกยิ้มดีใจตอนนี้ลูกทำหน้าเศร้าจนฉันตกใจ"แต่อะไรคะ" "แต่น้องไม่มีพ่อ น้องในท้องของแม่มีพ่อคือคุณลุงแต่น้องไม่มีพ่อน้องอยากมีพ่อค่าแม่>พอได้ยินลูกพูดฉันก็รีบดึงลูกมากอดเพราะตอนนี้แกก็ยังไม่รู้ว่าพี่นนท์คือพ่อเพราะฉันไม่ได้บอกและพี่นนท์เองก็ไม่ได้บอกซึ่งฉันเองเป็นคนสั่งให้เขาไม่ให้บอกแต่ตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้วที่น้องปันปันจะได้รู้ความจริงสักทีว่าแกก็มีพ่อเหมือนคนอื่นแต่ฉันคงต้องบอกพี่นนท์ก่อนฉันอยากให้พี่นนท์บอกกับลูกด้วยตัวเขาเอง"น้องปันปันขา""ขาแม่""พรุ่งนี้แม่มีข่าวดีจะบอกเรื่องพ่อของน้องนะแต่ตอนนี้ดึกแล้วแม่พาน้องไปนอนนะคะ""ค่าแม่" คืนนั้น...หลังจากส่งลูกเข
ชานนท์...."ทำไมเงียบไม่ตกใจเลยวะ หรือว่ามึงจำได้ว่ามึงเคยไล่ให้ปิ่นไปตาย""..........." ทำไมผมจะจำไม่ได้ผมจำได้หมดทุกอย่างนั่นแล่ะ"มึงรู้ไหมถ้าวันนั้นกูไม่ตามปิ่นมาตอนนี้มึงคงไม่มีเมียชื่อปิ่นไม่มีลูกชื่อปันปัน แล้วมึงรู้ไหมว่าชื่อลูกมึงน้องปันปันใครเป็นคนตั้ง....หึกูนี่กูกับเมียกูเป็นคนตั้ง""มึงต้องการอะไร หรือจะให้กูกราบขอบคุณมึง.. ได้ถ้ามึงต้องการเพราะกูก็เลวจริงที่ตอนนั้นทำร้ายปิ่นกับลูก" ผมไม่ได้พูดประชดนะผมพูดจากใจจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมยอมรับว่าผมผิดและมันก็มีบุญคุณที่ช่วยปิ่นไว้"มึงไม่ต้องไหว้กูเพราะกูไม่ต้องการ""แล้วมึงต้องการอะไร" "ถ้ามึงไม่อยากให้ปิ่นรู้ว่ามึงไม่ได้ความจำเสื่อมมึงต้องยอมยกลูกสาวมึงให้กับลูกชายกู""ห๊ะ!!! อะไรนะ" "มึงจะตกใจทำเชี่ยไร มึงก็เห็นว่าสายฟ้าลูกชายกูชอบน้องปันปันมากเดินตามต้อยๆไม่หยุดกูเป็นพ่อกูรู้ดีว่าลูกกูคิดอะไรอยู่เพราะฉะนั้นถ้ามึงไม่อยากให้ปิ่นรู้ว่ามึงตอแหลมึงก็ห้ามปฏิเสธ""ไอ้เหี้ยเหนือลูกกูกับลูกมึงอายุเพิ่งจะสี่ขวบเองนะ""เออจองไว้ก่อนมึงจะเอาสินสอดเท่าไหร่ก็บอกกูพร้อมเปย์เพื่อลูกสะใภ้ในอนาคต""เด็กอายุแค่นี้มึงจะอะไรโตไปก็ลืมกันแล้
บนรถ...."ปิ่นเชื่อว่าสักวันพี่จะต้องกลับมาจำทุกอย่างได้แน่ค่ะพี่อย่าท้อใจนะคะ" ปิ่นจับมือผมพร้อมกับให้กำลังใจเมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว"พี่ขอบใจปิ่นมากเลยนะครับที่อยู่ดูแลพี่เป็นกำลังใจให้พี่" ผมจับมือปิ่นแล้วดึงมาจูบอย่างแสนรักแม้จะรู้สึกผิดที่โกหกเธอ"เรากลับบ้านกันดีกว่านะคะพี่จะได้พักผ่อน""ครับที่รัก^^" ผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับปิ่นทุกวัน ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าไม่มีเธอผมจะอยู่ยังไงหลายอาทิตย์ต่อมา...ปิ่นปัก....ช่วงนี้พี่นนท์เป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะเหมือนเขาจะง่วงนอนทั้งวันแถมยังอาเจียนบ่อยด้วย"ปื่นพี่เหมือนจะตายเลย ช่วยพี่ที" ฉันพยุงพี่นนท์ออกมาจากในห้องน้ำแล้วพาไปนอน"ปิ่นอย่าไปไหนนะ""ค่ะปิ่นไม่ไหนหรอกพี่นอนเถอะ" ฉันอดสางสารเขาไม่ได้ก็เลยนั่งลงข้างๆให้เขาจับมือจนหลับไป เวลาต่อมา..."เธอจะร้องไห้เป็นห่วงมันทำไมเยอะแยะวะปิ่นผัวเหี้ยๆ แบบนี้สันดานก็ไม่ดีแถมยังจะมาความจำเสื่อมอีก ทิ้งมันไปเลยแล้วก็หาผัวใหม่ซะเอาที่นิสัยดีๆ ไม่ใช่แบบไอ่เชี่ยนี่"ฉันถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินประโยคนี้ของพี่ทิศเหนือ"เหนือมึงพูดอะไรแบบนี้เนี่ยไม่สงสารนนท์บ้างหรือไงเค้าป่วยอยู่นะ" พี่นับดาวว่าให้พี่ทิศเหนือแล้
ชานนท์....ตั่บ!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!! ตั่บ!!!!!!!!!!"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เสียวจังค่ะ พี่นนท์ปิ่นเสียวช่วยปิ่นที ฮือออ ฮือออ" ปิ่นครางลั่นห้อง ร่องรักของเธอเริ่มตอดรัดน้องชายผม แสดงว่าเธอใกล้จะเสร็จแล้วผมก็เลยจับเอวปิ่นไว้แน่นแล้วขยับตัวกระแทกสะโพกสวนขึ้นไปอย่างเป็นจังหวะปึก!!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!! ปึก!!!!!!!!!!!!!"อ๊ะ อ๊าาาา เสียว ฮือออ มันเสียวมากพี่นนท์ปิ่นจะไม่ไหวแล้ว ฮืออออ กรี๊ดดดดดดด" เสียงกรี๊ดของปิ่นมาพร้อมกับร่องรักที่กระตุกไม่หยุด สักพักน้ำหวานสีใสของเธอก็ชโลมไปทั่วท่อนเอ็นของผม ผมไม่รอช้าถอดตัวตนออกจากร่องรักของปิ่นแล้วขยับตัวลงไปก่อนจะใช้ลิ้นปาดเลียร่องรักที่มีน้ำหวานไหลทะลักไม่หยุดแผล่บ แผล่บ แผล่บ ผมค่อยๆใช้ลิ้นปาดเลียน้ำหวานที่เลอะเต็มสองกลีบกุหลาบ"อื้ออ พี่นนท์อย่าเลียแบบนี้ปิ่นเสียวค่ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา พี่นนท์ปิ่นจะตายแล้ว ฮือออ ฮือออ" ปิ่นดิ้นทุรนทุรายไปมาเมื่อผมใช้ปลายลิ้นสอดใส่เข้าไปด้านในแล้วใช้ลิ้นตวัดที่ติ่งเสียวของเธอ"อื้อออ พี่นนท์ปิ่นจะเสร็จอีกแล้ว ฮือออ" พอรู้ว่
ชานนท์...."ค่อยๆทานนะคะมันร้อน" ปิ่นพูดพร้อมกับเอาผ้ามาคอยเช็ดตรงมุมปากให้ ผมแม่งอยากดึงเธอเข้ามากอดทำไมเธอแสนดีขนาดนี้ทำไมเมียผมน่ารักได้ขนาดนี้นะ แบบนี้ถ้าผมจะยอมความจำเสื่อมไปตลอดชีวิตมันจะดีไหม"พี่ทานลำบากจังมาค่ะเดี๋ยวปิ่นป้อนพี่ดีกว่านะ" สุดท้ายปิ่นก็เป็นคนป้อนให้ผมตามเดิม"พี่อิ่มมั้ยคะหรือยังไม่อิ่มปิ่นจะได้ตักมาเพิ่มให้อีก" ปิ่นถามผมหลังจากตักข้าวคำสุดท้ายให้ผมกิน"อิ่มแล้วครับ^^" ผมไม่เคยกินข้าวมื้อไหนอร่อยเท่ากับเวลาที่ปิ่นป้อนเลยเชื่อไหม แม่งผมเป็นเอามากจริงๆ ตอนนี้ผมคลั่งรักเมียตัวเองขนาดนี้ได้ไงวะ"ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพี่กินยานะคะแล้วก็จะได้นอนพักผ่อน" "กินยาเสร็จแล้วปิ่นขึ้นมานอนกอดกับพี่เหมือนเดิมนะ" เพราะปกติเวลาผมกินข้าวเสร็จแล้วก็กินยาผมจะอ้อนขอให้ปิ่นขึ้นมานอนเป็นเพื่อนซึ่งเธอก็ยอมทำตามที่ผมร้องขอ"คือวันนี้ปิ่นจะไปงานวันเกิดพี่แดนค่ะอาจจะไม่ได้...""เห็นคนอื่นสำคัญกว่าพี่ก็ไม่เป็นไรครับไปเถอะพี่นอนหลับเองก็ได้แม้จะนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ก็เถอะ" พูดจบผมก็หยิบยามากินเองแล้วก็ล้มตัวลงนอนเอาผ้าคลุมตัวจนมิด สักพักผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าปิ่นเดินออกไปจากห้อง แม่งผมทำไมต้อง
ปิ่นปัก....ตอนนี้พี่แดนกลับไปแล้วเหลือแค่ฉันที่นั่งรอพี่นนท์อยู่ในห้อง ผ่านไปสักพักบุรุษพยาบาลรวมถึงพี่พยาบาลก็นำตัวเขากลับมาที่ห้องพักฟื้น "อาการพี่นนท์เป็นยังไงบ้างคะ" ฉันถามพี่พยาบาล"ผลเอกซเรย์จะออกวันพรุ่งนี้นะคะยังไงก็รอฟังคุณหมอบอกอีกที" พี่พยาบาลบอกกับฉันก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทำให้ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ฉันกับพี่นนท์ที่ยังคงนอนหลับสนิท"พี่นนท์อย่าเป็นอะไรนะคะ ปิ่นไม่อยากให้พี่เป็นอะไรไปเลย ถ้าพี่หายป่วยปิ่นมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพี่ด้วยนะ" ฉันบอกกับเขาที่นอนหลับอยู่ชานนท์...."พี่นนท์อย่าเป็นอะไรนะคะ ปิ่นไม่อยากให้พี่เป็นอะไรไปเลยพี่ต้องรีบหายนะ" นั่นคือสิ่งที่ผมได้ยิน คือผมอ่ะฟื้นตั้งแต่ก่อนที่พยาบาลจะพาผมไปเอ็กซเรย์แล้วตั้งแต่ตอนที่ไอ้แดนไทยมันมาเยี่ยมแล้วก็แซวปิ่นผมนี่ขากระตุกอยากลุกแต่ลุกไม่ไหวร่างกายไม่อำนวย พอเข้าห้องมาเจอปิ่นนั่งรออยู่ผมก็แกล้งทำเป็นหลับต่อทันทีเพื่อดูว่าเธอจะมีอากัปกิริยายังไง"พี่รีบหายนะคะปิ่นมีเรื่องสำคัญจะบอกกับพี่" เรื่องสำคัญอะไรหรือว่าปิ่นจะบอกว่าเธอจะไปจากผม ใช่มันต้องเป็นแบบนั้นเพราะก่อนหน้านี้เธอบอกกับผมว่าเธอจะไปอยู่ที่อื่นเพราะเธอไม่อยากผ