เข้าสู่ระบบพื้นที่สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ถูกเคลียร์เพื่อต้อนรับแขกคนพิเศษของเอียน เชสเตอร์ เมื่อฮ.ลงจอดเรียบร้อย ชายในชุดสูทดำหกคนก็ก้าวลงมาก่อน ตามด้วยชายร่างสูงใหญ่ในชุดเชื้อเชิ้ตสีฟ้าพาสเทลเกงเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อน ชายในชุดสูทดำหกคนตั้งแถวยืนฝั่งละสามคน ทำให้ผู้นำที่ดูสง่าผ่าเผยอยู่แล้วยิ่งโดดเด่นเกินใครขึ้นไปอีก แล้วทั้งกลุ่มก็ตรงมาหาคนของเอียนที่ยืนตั้งแถวรอรับ ในขณะที่ฮ.ก็บินขึ้นในทันทีที่คนออกมาในระยะห่างอย่างปลอดภัยแล้ว
“ยินดีต้อนรับครับ...ท่าน”
ลูยส์เอ่ยอย่างลังเลกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดต่างจากทุกคน สายตาหลังแว่นกันแดดสีน้ำตาลเข้มดูคมและกวาดไล่มองหน้าพวกเขาจนครบก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เอียน?”
“เอ่อ...คุณเอียนเกิดปัญหานิดหน่อย เลยสั่งให้ผมมาต้อนรับแทนแล้วก็ฝากขอประทาน...เอ่อ...และบอกว่าจะมาขอ...เอ่อ...”
“อย่ามากพิธีเลย สบายๆ เถอะ ใช่ว่าเพิ่งเจอกันครั้งแรก”
“ครับ แล้วคุณเอียนจะขอโทษด้วยตัวเองอีกครั้งครับ”
คำพูดเกร็งๆ ในตอนแรกเริ่มติดขัดน้อยลงเมื่ออีกฝ่ายอนุญาต
“เอาละ ฉันพักห้องไหนล่ะ พาไปสิ”
“ครับ เชิญครับ”
ลูยส์ผายมือเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม อีกฝ่ายจึงเดินนำโดยมีลูยส์กับเจมส์และคนของทั้งสองฝ่ายตามมา
“แล้วเอียนจะมาเจอฉันเมื่อไร ในงานหรือก่อนเริ่มงาน”
“เอ่อ...ยังไม่ทราบได้ครับ”
ลูยส์กลับมาตอบติดขัดอีกครั้งเพราะนายของเขาไม่ได้สั่งเอาไว้
“ทำไม”
“พอดีมีปัญหาที่กำลังติดพันอยู่...ค่อนข้างแก้ยาก อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยน่ะครับ”
ถึงจะตอบไปแบบนั้น แต่ตามความคิดของเขาแล้วมองว่าสิ่งที่เอียนกำลังเผชิญไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพียงแค่รู้สึกว่านายของเขาอาจจะไม่อยากแก้ปัญหาให้เสร็จเร็วเองต่างหาก
“งั้นก็ยังขอดูก่อนไม่ได้สินะ”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่พูดกับตัวเองโดยไม่ได้เจาะจงถามจริงจัง แต่ลูยส์คิดว่าตนมีหน้าที่ต้องใส่ใจแขกพิเศษและดูแลอย่างดีตามที่ได้รับคำสั่งมา
“ดูอะไรเหรอครับ”
“ฉันแค่จะขอดูอะไรจากเอียนสักหน่อย แต่ช่างเถอะ ฉันจะรอคุยกับเขาเอง”
เมื่ออีกฝ่ายบอกแบบนั้นเขาจึงรับคำและพาแขกวีไอพีเข้าประตูดาดฟ้าเพื่อไปยังลิฟต์โดยไม่ถามอะไรอีกอย่างรู้หน้าที่ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน
คณะย่อมๆ เดินทางไปยังห้องที่หรูหราพิเศษที่สุดของเรือ กระทั่งแขกวีไอพีนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาตัวใหญ่ ขณะที่คนของแขกสี่คนเดินดูความเรีบยร้อยตามจุดต่างๆ ลูยส์กับเจมส์ยืนกุมมือมองตามเงียบๆ กระทั่งทั้งสี่คนกลับมายืนข้างๆ โซฟาแล้วลูยส์จึงเอ่ยขึ้น
“ผมจะไปจัดการเรื่องอาหาร ไม่ทราบว่าโปรด...เอ่อ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”
“อะไรก็ได้ที่คิดว่าอร่อย”
เจมส์อ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนลูยส์อึ้งไปเล็กน้อยหากก็ตั้งสติได้ทันก่อนจะรับคำ คำนับพร้อมกับเจมส์แล้วถอยออกมาจากห้อง
“นายอยู่ที่นี่นะเจมส์...พวกนายด้วย”
เขาบอกรุ่นน้องให้อยู่กับคนของแขกวีไอพีที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องสองคนก่อนจะแยกตัวออกไปจัดการเรื่องอาหาร
พอเข้ามาในห้องของตน เอียนก็พาร่างนุ่มนิ่มตรงไปยังห้องน้ำเพราะคิดว่ามันจำเป็นสำหรับเธอ หลังจากวางหญิงสาวลงเขาก็บอกเบาๆ
“คุณจัดการตัวเองก่อน เดี๋ยวผมมา”
เขาหันหลังจากไปทันทีอย่างรู้มารยาท ขณะเดียวกันหญิงสาวก็พุ่งตรงไปยังอ่างล้างหน้าทันทีเช่นกันเพราะพยายามอดกลั้นสิ่งที่จะพุ่งออกมาเอาไว้ครู่หนึ่งแล้ว
ชายหนุ่มชะงักเท้าเล็กน้อยจากเสียงในห้องน้ำ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ของตัวเองพร้อมกับผ้าขนหนูอีกสองผืน เขาถอดเสื้อเชิ้ตโยนใส่ตะกร้าไปแล้วยืนรอหญิงสาวด้านนอกเพราะคิดว่าเธอคงต้องการความเป็นส่วนตัว หากเธอออกมาแล้วเขาจะได้เข้าไปล้างตัวบ้าง
“โอเคขึ้นไหมคุณ”
เขาถามเมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลและทุกอย่างก็เงียบไปแล้ว
“ค่ะ เอ่อ...รอสักครู่นะคะ”
เสียงหวานติดขัดตอบกลับมา แม้จะนึกแปลกใจแต่เอียนก็ยอมยืนรอหน้าประตูห้องน้ำ ขณะเดียวกันก็นึกขำตัวเองไม่น้อยที่ไม่เคยเลยสักครั้งกับการต้องมายืนรอใครแบบนี้
ยังไม่ทันคิดจบก็มีเสียงเปิดประตูเอียนจึงหันไปมอง ในขณะที่อีกฝ่ายผงะในทันทีที่เห็นเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ว้าย...”
เมื่อเห็นหญิงสาวเอนตัวไปด้านหลังเขาจึงคว้าเอวบางไว้อีกครั้งเพราะกลัวเธอจะเสียหลัก
“เป็นอะไรไหม”
“เอ่อ...ไม่...คือ...พายมึนหัวน่ะค่ะ”
เพียงขวัญนึกขึ้นมาได้ว่าต้องยื้อชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้ แล้วการบอกว่าตัวเองสบายดีก็อาจทำให้เธอต้องออกไปจากห้องของเขาเร็วขึ้น แต่จะว่าไปอาการของเธอมันก็ยังไม่โอเคจริงๆ นั่นแหละ
“งั้นมาทางนี้ดีกว่า”
อีกฝ่ายบอกพร้อมกับรั้งพาร่างเล็กกว่าค่อนข้างมากไปยังโซฟา ในขณะนั้นเองที่เพียงขวัญรู้สึกได้ว่ามือของตัวเองวางอยู่บนเนื้อหนังแน่นๆ ไม่ใช่เนื้อผ้า จึงก้มลงมองฝ่ามือตนเองแล้วก็พบกับกล้ามเนื้ออกแกร่งเข้าเต็มๆ มือ ดวงตาคู่โตขยายกว้าง ตัวแข็งเกร็งขึ้นทันที
เอียนรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดเขาเกร็งขึ้นมาอีกจึงก้มลงมาใกล้ ปลายจมูกโด่งแทบจะแตะขมับบาง ทว่าก็ไม่ได้เอ่ยอะไรนอกจากสังเกตอาการแปลกๆ ของเธอเท่านั้น
“คุณพักตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน ผมขอไปล้างตัวหน่อย แล้วเดี๋ยวจะเอาน้ำส้มมาให้นะ จะได้สดชื่นขึ้น”
เขาดันอีกฝ่ายให้นั่งที่โซฟาเบาๆ แล้วผละห่างออกมา จังหวะนั้นเองสายตาคมก็บังเอิญลดต่ำลงแล้วก็ปะทะกับเสื้อเชิ้ตขาวที่เปียกปอนของหญิงสาว เนินเนื้อขาวอิ่มกับเสื้อชั้นในสีน้ำตาลอ่อนซึ่งเห็นได้ชัดทำเอาถึงกับลมหายใจสะดุด ทว่าเอียนก็ยังควบคุมตัวเองได้ดีไม่มีอาการผิดปกติให้สังเกตเห็นได้ง่ายๆ ร่างสูงใหญ่ขยับถอยออกไปแล้วเดินไปยังห้องน้ำตามที่บอกไว้โดยมีตาคู่กลมโตหวานฉ่ำมองตาม
แผ่นหลังกว้างที่มีมัดกล้ามแน่นหนาทำให้เพียงขวัญละสายตาไม่ได้เลย แน่นอนว่าเวลาปกติเธอไม่มีทางมองใครที่ไหนแบบนี้แน่ ทว่าเวลานี้สติส่วนใหญ่ถูกแอลกฮอลล์ควบคุม การกระทำแต่ละอย่างบางครั้งก็เป็นไปโดยไม่รู้ตัวสักนิด
เมื่อได้อยู่นิ่งๆ ฟังเสียงน้ำไปเรื่อยๆ เปลือกตาบางของเพียงขวัญก็ค่อยๆ ปิดลง เธอไม่ได้ตั้งใจจะหลับแค่อยากพักสายตาให้อาการหนักหัวและมึนลดน้อยลง แม้จะตั้งใจแบบนั้นทว่าสุดท้ายก็เผลอเคลิ้มหลับไป
=====
“ผมรู้คนสวย”เขากระซิบเสียงพร่า ใบหน้าคมขยับมาหาอีกครั้งพร้อมมือหนาเลื่อนมาเกาะกุมอกข้างหนึ่งของเธอเข้าเต็มๆ เพียงขวัญถอยตามสัญชาตณาณทว่าเพราะนอนบนฟูกหนาทำให้ไปไหนไม่ได้ มือบางรีบคว้าข้อมือหนาทันควัน ขณะที่ริมฝีปากได้รูปกระซิบชิดปากเธอ“ผ่อนคลาย เชื่อใจผม”ชายหนุ่มบอกแล้วบดจูบพร้อมกับมือหนาเคล้าคลึงอกอวบสวยเต็มกำมืออย่างแผ่วเบาเพียงขวัญครางฮือในทันที หากก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายทำราวกับเป็นเจ้าของมัน ไม่นานอกคู่สวยก็ถูกปากร้อนผ่าวครอบครองสลับไปมาทั้งสองข้าง ทั้งไล้เลียดูดดื่มเหมือนชิมรสอาหารถูกปากจนหญิงสาวหอบกระเส่า เนิ่นนานจนพอใจเอียนจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังกางกางขาสั้นของหญิงสาว เขาถอดมันออกโดยไม่จำเป็นต้องถามความสมัครใจจากอีกฝ่าย ร่างอ่อนระทวยไร้แรงต้านราวกับยินยอมพร้อมใจให้เขาพาไปทุกที่ แม้ตอนปลดชั้นในสองชิ้นบนร่างเธอก็ไม่ขัดขืนเอียนขยับมือหนาไปหาสัดส่วนอ่อนไหวโดยไม่ลังเล รับรู้ว่าอีกฝ่ายเกร็งและพยายามจะบิดตัวหนีแต่เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ มือข้างหนึ่งวางบนอกอวบ พร้อมกับโน้มตัวลงไปจูบเร้าโรมรันร่างหญิงสาวทุกส่วนพร้อมกันทำเอาอีกฝ่ายถึงกับครางกระสับกระส่ายกับความต้องการที่ถูกปลุกให้พุ่งส
‘แผนเริ่มแล้ว’วิเวียนบอกเป็นสัญญาณก่อนจะเลิกการติดต่อ นับจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีการแชตกลุ่มเป็นอันขาดจนกว่าจะถึงเวลาประมูลทุกคนจะมาเจอกันที่ห้องของวิเวียนก่อนหน้านี้ทั้งหมดต่างบอกความคืบหน้ากันในกรุ๊ป มีเพียงเพียงขวัญที่เงียบไปทำให้ทุกคนเริ่มกังวลแต่งานสำคัญก็ล้มเลิกไม่ได้ พวกเธอต้องเดินหน้าต่อ ส่วนชาริสานั้นวิเวียนบอกให้ตามไปสมทบกับมินตราที่ห้องเพราะหากปิลันธ์อยู่กับผู้หญิงเขาคงใช้เวลากับเธอพักใหญ่และไม่ออกมาจนกว่าจะถึงเวลาประมูล ถ้าเขาจะไปร่วมงานด้วยขณะกำลังจะเดินไปยังชั้นที่ตัวเองพัก คนกลุ่มใหญ่ที่ยืนรอลิฟต์อยู่ทำให้ชาริสาหลบอยู่ตรงมุมทางเดินก่อน แม้คนกลุ่มนั้นอาจจะจำเธอไม่ได้แต่หญิงสาวไม่ชอบหน้าตาลุงนั่นเพราะฉะนั้นอยู่ในห่างๆ ดีกว่า และเมื่อลิฟต์มาถึงคนส่วนใหญ่ก็ก้าวเข้าไปแต่อีกสองคนกลับแยกออกไปทางอื่น เธอเห็นหนึ่งในนั้นล้วงไปจับบางอย่างในเสื้อสูท ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าเป็นปืนแต่เพราะเขาหันเสื้อด้านในมาทางเธอชาริสาจึงรู้ว่ามันคือกล่อง กล่องสีดำที่เขาพยายามใส่ไว้ในที่ที่ปลอดภัยและไม่ให้เป็นที่สังเกต ชาริสากลับมาหลบในมุมเดิมขณะครุ่นคิดว่าควรทำอย่างไรต่อไป‘อย่าไปยุ่งเรื่อง
เพราะเกรงว่าความเลินเล่อของตัวเองที่ลืมคิดถึงกล้องวงจรปิดไปจะทำให้งานพลาดชาริสาจึงรีบกดลิฟต์เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตถ้าเธอหยุดรออยู่ตรงนี้นานจนเกินไป หญิงสาวคิดว่าหากเกิดอะไรขึ้นจริงต้องมีการตรวจกล้องแน่แม้ชั้นนี้จะไม่ใช่ชั้นของห้องนิรภัยแต่การทำลับๆ ล่อๆ ของเธออาจมีคนสังเกตเห็นขึ้นมาชาริสาพยายามสูดหายใจเข้าปอดให้ลึกพร้อมกับคิดว่าตนควรบอกให้วิเวียนรู้เอาไว้ก่อนเกี่ยวกับปิลันธ์ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ละสายตาจากเขาแต่ตามเขาไม่ได้ต่างหาก ทว่าพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะพิมพ์ข้อความประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อจะก้าวเข้าไปทว่าคนที่อยู่ข้างในทำให้ใจดวงน้อยร่วงลงไปตาตุ่ม หากก็ยังคงพยายามเก็บสีหน้าไม่ให้แสดงอาการตระหนกเอาไว้ขณะสบตากับอีกฝ่ายแล้วก้าวเข้าไปด้านใน“ชั้นไหนครับ”คนอยู่ก่อนเอ่ยถามอย่างสุภาพบุรุษ“ชั้นสามค่ะ”เมื่อเขากดลิฟต์ให้หญิงสาวก็ยิ้มให้พร้อมเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะก้มลงเปลี่ยนเป็นเข้าแอปโซเชียลดูนั่นนี่วางมาดให้ปกติในยุคสังคมก้มหน้ากระทั่งถึงชั้นของตนจึงก้าวออกมา“ขอให้สนุกนะครับ”หญิงสาวหันกลับไปยิ้มรับและเอ่ยขอบคุณชายในชุดสูทดำ คนที่เธอจำได้ว่าเขายืนอยู่ข้างกายเอียนเสมอ!ร่าง
พื้นที่สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ถูกเคลียร์เพื่อต้อนรับแขกคนพิเศษของเอียน เชสเตอร์ เมื่อฮ.ลงจอดเรียบร้อย ชายในชุดสูทดำหกคนก็ก้าวลงมาก่อน ตามด้วยชายร่างสูงใหญ่ในชุดเชื้อเชิ้ตสีฟ้าพาสเทลเกงเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อน ชายในชุดสูทดำหกคนตั้งแถวยืนฝั่งละสามคน ทำให้ผู้นำที่ดูสง่าผ่าเผยอยู่แล้วยิ่งโดดเด่นเกินใครขึ้นไปอีก แล้วทั้งกลุ่มก็ตรงมาหาคนของเอียนที่ยืนตั้งแถวรอรับ ในขณะที่ฮ.ก็บินขึ้นในทันทีที่คนออกมาในระยะห่างอย่างปลอดภัยแล้ว“ยินดีต้อนรับครับ...ท่าน”ลูยส์เอ่ยอย่างลังเลกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดต่างจากทุกคน สายตาหลังแว่นกันแดดสีน้ำตาลเข้มดูคมและกวาดไล่มองหน้าพวกเขาจนครบก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“เอียน?”“เอ่อ...คุณเอียนเกิดปัญหานิดหน่อย เลยสั่งให้ผมมาต้อนรับแทนแล้วก็ฝากขอประทาน...เอ่อ...และบอกว่าจะมาขอ...เอ่อ...”“อย่ามากพิธีเลย สบายๆ เถอะ ใช่ว่าเพิ่งเจอกันครั้งแรก”“ครับ แล้วคุณเอียนจะขอโทษด้วยตัวเองอีกครั้งครับ”คำพูดเกร็งๆ ในตอนแรกเริ่มติดขัดน้อยลงเมื่ออีกฝ่ายอนุญาต“เอาละ ฉันพักห้องไหนล่ะ พาไปสิ”“ครับ เชิญครับ”ลูยส์ผายมือเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม อีกฝ่ายจึงเดินนำโดยมีลูยส์กับเจมส์และคนของ
เธอกำลังมึน...เพียงขวัญคิดขณะพยายามฝืนทำร่างกายให้ดูเหมือนเป็นปกติ หญิงสาวดื่มคอกเทลไปแล้วห้าแก้ว มันมากเกินไปสำหรับคนคออ่อนเช่นเธอ แต่ไม่อาจปฏิเสธหวังหมิงที่สั่งมาให้เพิ่มได้ แม้พยายามจิบช้าที่สุดแล้วแต่ราวกับอีกฝ่ายจ้องมอมเหล้าเธอ เมื่อเห็นคอกเทลของเธอพร่องไปมากกว่าครึ่งแก้วเขาจะสั่งแก้วใหม่เพิ่มทันทีถึงเธอจะบอกว่าเกรงใจแล้วก็ตาม“เพิ่มอีกแก้วไหมครับ”“ไม่แล้วล่ะค่ะ พายเริ่มมึนแล้ว เดี๋ยวเดินกลับห้องไม่ไหว”เพียงขวัญรีบปฏิเสธแล้วอธิบายเพิ่มเมื่อหวังหมิงหันไปยังลูกน้องของตน“อ้าวงั้นเหรอ ต้องขอโทษจริงๆ ผมเองก็ลืมคิดไปว่าคุณอาจจะคอไม่แข็ง วันนี้ผมรู้สึกสดชื่นมากเลย รู้ไหมว่าตั้งแต่ขึ้นมาบนเรือยังไม่มีเคยมีสาวสวยขนาดนี้มานั่งดื่มด้วยสักที”“เอ่อ...”หญิงสาวเหลือบไปทางเอียนอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ซึ่งอีกฝ่ายก็เบนสายตามายังเธอแวบเดียวแล้วเมินไปราวกับไม่ได้ยินคำพูดหวังหมิงที่เหมือนจะเกี้ยวพาเธอ ทว่าเพียงขวัญมั่นใจว่าเห็นมุมปากเขายิ้มนิดๆ“คุณหวังให้เกียรติพายเกินไปแล้วล่ะค่ะ”เธอพยายามถ่อมตัวพร้อมยิ้มให้ ไม่รู้หรอกว่าดวงตาที่หวานอยู่แล้วของตนนั้นหวานเยิ้มเพียงใด และยิ้มแบบนั้นก็ทำให้มุมปา
สาวหน้าหวานในชุดสบายๆ เสื้อบางสีขาวตัวยาว ยัดปลายด้านหน้าเข้าไปในกางเกงขาสั้นสีขาว ดึงดูดสายตาเอียนได้ทันทีที่เจ้าตัวก้าวเข้ามาในโซนของสระน้ำ เจ้าตัวมีท่าทางราวกำลังมองหาใครอยู่ เธออาจจะมาหาเพื่อนหรือเด็กๆ ที่เล่นด้วยวันนั้น กระทั่งมองมายังจุดที่เขานั่งอยู่หญิงสาวดูนิ่งขึงไปชั่วอึดใจก่อนจะละสายตาแล้วมองไปในทิศทางอื่น นั่นทำให้เอียนขมวดคิ้วนิดๆเธอมีท่าทีราวกับไม่อยากเจอเขา...“อ้าว นั่นสาวสวยที่ตกน้ำวันนั้นนี่นา”น้ำเสียงชื่นมื่นของหวังหมิงทำให้เอียนคอแข็งโดยทันที ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นเธอเหมือนเขา“อาหลี่ไปเชิญคุณผู้หญิงมาหน่อย บอกว่าฉันอยากเลี้ยงปลอบขวัญ”“ครับนาย”คนของหวังหมิงเดินไปแล้วเอียนจึงเอ่ยขึ้น“ไม่น่าเชื่อว่านักธุรกิจที่ใจเย็น วางแผนแยบยลอย่างคุณหวัง จะใจร้อนเรื่องสาวๆ”เขาลองหยั่งเชิงและอีกฝ่ายก็หัวเราะเสียงดัง“เดี๋ยวนี้ชักช้าก็อดกันพอดี ผมมันแก่แล้ว ถ้าไม่รีบตะครุบเหยื่อก็ช้ากว่าพวกหนุ่มๆ หล่อๆ น่ะสิครับ”เอียนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำมือแน่นขึ้น แม้สีหน้าจะดูยิ้มนิดๆ ก็ตาม ขณะเดียวกันสาวสวยตัวเล็กทว่าอวบอิ่มก็ก้าวตามคนของหวังหมิงมาด้วยสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด







