Share

บทที่ 6 แม่ค้ามือใหม่ 30%

last update Last Updated: 2024-11-10 21:23:50

แม่ค้ามือใหม่

เสียงเอะอะดังอยู่ข้างบ้านขณะที่เพียงฤดีกำลังทำอาหารเช้า เธอเดินออกไปดู เห็นว่าคีรินกำลังให้ชายสามคนตัดไม้ต้นใหญ่ข้างบ้าน ซึ่งเธอจำได้ว่าเป็นต้นที่เขาเรียกว่ากระถินเทพา

“ตัดทำไมหรือคะพี่คีริน” เธอเห็นว่ามันอยู่ข้างบ้านก็ร่มรื่นดี และไม้ที่เขาบอกว่าจะตัดเพื่อนำมาสร้างบ้านก็อยู่ในสวนต่างหาก

“มันอยู่ใกล้บ้านเกินไป เดี๋ยวลมแรงกิ่งจะหักใส่หลังคาอีก ตัดไม้เอามาใช้ดีกว่า เพราะเราต้องใช้ไม้ในการปรับปรุงบ้านอีกเยอะ” เขาตอบ ขณะหันไปมองชายวัยกลางคนที่กำลังตัดต้นไม้อยู่

โดยมีเชือกโยงดึงต้นไม้ให้ล้มไปคนละฝั่งกับบ้าน คนเลื่อยไม้หนึ่งคน อีกสองคนยืนตะโกนโหวกเหวกเพื่อให้คนตัดรู้ว่าจะให้มันล้มไปยังตำแหน่งไหน เธอยืนดูด้วยความตื่นเต้น ลุ้นว่ามันจะล้มทับบ้านไหม แล้วก็ถอนใจอย่างโล่งอก เมื่อมันล้มครืนลงไปอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งมีหญ้าขึ้นสูง ตรงตามตำแหน่งที่ต้องการพอดี

“โห เขาเก่งจังเลยนะคะ บังคับได้ด้วยว่าจะให้มันล้มไปทางไหน”

“พวกเขาตัดไม้จนชำนาญแล้ว พี่ก็เคยตัดนะ ตอนอยู่กับคุณปู่ แต่ไม่ได้ทำมานาน กลัวจะล้มทับบ้านเอา เลยต้องให้พวกเขามาช่วย เดี๋ยวพี่ไปบอกเขาก่อนว่าจะให้ตัดไม้แบบไหน” เขาบอก

“ค่ะ งั้นฤดีไปทำกับข้าวต่อก่อนนะคะ อ้อ วันนี้ฤดีจะไปเก็บเงาะไปขายที่บ้านน้าเล็กนะคะพี่คีริน เมื่อวานน้าเล็กบอกว่าวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาล่องแพเยอะ ถ้าเรามีของในสวนให้เอาไปวางขายได้ค่ะ”

“อือ ก็ตามใจเราเถอะ เราไปเก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าขนกลับไม่ไหวก็มาบอก เดี๋ยวพี่จะไปช่วยขน” เขาพอจะรู้จากนภาธรมาบ้างว่า ตอนนี้เพียงฤดีไม่ค่อยมีเงินมากนัก เงินเก็บที่มีก็เอาไปจ่ายค่าที่ดินหมดแล้ว ไหนยังต้องส่งแม่ส่งน้องเรียนอีก คงอยากหารายได้ จึงไม่ขัดขวางหากเธอจะเอาของในสวนไปขาย เพราะถ้าเก็บไว้เขาก็คงไม่ได้เอาไปขาย เนื่องจากยังยุ่ง ๆ กับการปรับปรุงบ้านให้อยู่ได้สบายก่อน

“ค่ะ แต่เดี๋ยวฤดีเอารถเข็นไปได้ไหมคะ” หญิงสาวตอบแล้วหันไปมองรถเข็นที่เขาซื้อมาใช้สำหรับจะขนของ

“ได้ เอาไปสิ” เธอยิ้มดีใจแล้วรีบกลับไปทำกับข้าว ก่อนจะเอามาตั้งโต๊ะด้านนอกเช่นเคย หญิงสาวออกมาก็เห็นคนกำลังเลื่อยไม้ตัดเป็นท่อน ๆ ตามขนาดที่เขาต้องการ

“พี่คีรินคะ กินข้าวก่อนค่ะ” เขาเดินมานั่งกินข้าวหน้าบ้าน โดยปล่อยให้คนงานเลื่อยไม้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

เมื่อกินข้าวอิ่มต่างก็แยกกันไปทำงาน โดยที่เพียงฤดีเอากระสอบใบใหญ่ซึ่งได้จากการที่คีรินซื้อวัสดุก่อสร้างแล้วเขาใส่ของมาให้เอาไปใส่เงาะ ส่วนคีรินก็เดินนำช่างเลื่อยไม้ไปยังต้นกระถินเทพาอีกต้นที่อยู่หลังบ้าน ด้วยเป็นที่แปลงใหญ่ บริเวณบ้านไม่ติดกับใคร จึงเป็นการง่ายที่จะโค่นไม้ต้นใหญ่ให้ล้มไปในทิศทางที่ต้องการได้สะดวก

เพียงไม่นานเพียงฤดีก็เก็บเงาะใส่กระสอบแล้วลากมากับรถเข็น ท่าทางทุลักทุเลนั้นเขาอดส่ายหน้าอย่างเอ็นดูไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยหอบของคนที่ไม่ค่อยได้ทำงานหนักมากนัก ต้องไปสอยเงาะ เก็บเงาะแล้วก็ต้องขนกลับมาในระยะทางที่ไม่ได้ไกล้เลย

“ได้กี่กิโลก็ไม่รู้ค่ะ น้าเล็กบอกว่าให้เอาไปชั่งทำกิโลที่บ้านน้าเล็กก็ได้ อันนี้เราเก็บไว้กินเนอะ” เธอว่าพลางหยิบเงาะช่อใหญ่หลายช่อวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะใช้แขนปาดเหงื่อบนใบหน้า

“เราไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ มอมแมมหมดแล้ว เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง” เขาว่าแล้วก็หยิบเงาะมากินหนึ่งลูก เพียงฤดีรีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะออกมาในชุดใหม่ ใส่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีฟ้าอ่อน กางเกงยีนส์สีเข้ม เธอแต่งหน้าอ่อน ๆ โทนสีชมพูดูสบายตา รวบผมเรียบร้อยและสวมหมวกแก็ป ท่าทางกระฉับกระเฉง พร้อมเป็นแม่ค้าอย่างเต็มที่

“ไปเถอะ พี่เอาเงาะขึ้นรถให้แล้ว” เขาว่าแล้วก็ขับรถไปส่งที่บ้านของเล็กกับนิด เมื่อไปถึงก็เห็นว่าเล็กกับนิดกำลังเตรียมรับลูกค้า เมื่อเห็นเขาจอดรถและบอกว่าเพียงฤดีจะเอาเงาะมาขาย ทั้งสองก็รีบกุลีกุจอเอาโต๊ะมาวางให้ขายของ ซึ่งก็มีคุณลุงคุณป้าสี่ห้าคนก็มาจัดโต๊ะเอาผลไม้ในสวนมาขายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้วย ทุเรียน มังคุด ลองกอง ซึ่งแล้วแต่ว่าผลไม้สวนตนมีอะไรสุกก็เอามาขาย

นิดหยิบเงาะไปชิมหนึ่งลูกแล้วบอกว่า

“หวานดีโลเท่าไหร่เนี่ย ที่บ้านน้ายังไม่สุกเลย เดี๋ยวจะอุดหนุน” ชายวัยกลางคนถาม เพียงฤดีหันไปยังคีรินราวกับจะถามว่าราคาเท่าไร

“เอ่อ ผมก็ไม่ทราบครับน้านิด ว่าช่วงนี้เขาขายกันราคาโลละเท่าไร ขานี้น่ะคิดจะขายอย่างเดียวเลย ผมก็นึกว่าเขารู้ราคาแล้ว เห็นรีบไปเก็บแต่เช้า” ตอบพลางหันมองคนตัวเล็กที่คิดจะขายของแต่ไม่รู้ว่าจะขายเท่าไร

“วันก่อนน้าเห็นที่ตลาดเขาขายกันโลละสี่สิบ สามโลร้อย งั้นขายแบบนี้ไปก่อนดีไหม ถ้ารู้ราคาค่อยว่าอีกที” นิดถาม

“ครับ แบบนั้นก็ได้ครับ แต่น้านิดไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาไปกินเลยครับ ที่บ้านผมมีอีกตั้งเยอะ” เขารีบหยิบให้อีกฝ่าย

“ไม่ได้สิ เดี๋ยวน้าประเดิมให้ก่อนสักสามโลก็แล้วกัน เอาฤกษ์เอาชัย จะได้เฮง ๆ” ว่าแล้วนิดก็ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเงินมาให้ แม่ค้าสาวยิ้มแป้นรับเงินมาด้วยความดีใจ ก่อนจะหยิบเงาะออกมากองไว้แล้วทำหน้าเจื่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 100%

    “นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 70%

    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 50%

    “งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 30%

    ๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 100%

    ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 70%

    งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status