“ไปไหนมา”
เสียงเย็น ๆ ของชายหนุ่มดังเข้ามาในโสตประสาทหูของจันทร์ฉายทันทีที่เธอก้าวเท้าเข้ามาในห้อง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองก็พบสงกรานต์นั่งหน้าบูดที่โซฟารออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวแสร้งไม่สนใจแล้วเดินเข้าไปดื่มน้ำในห้องครัว
สงกรานต์รู้สึกโมโหร่างเล็กตรงหน้ามากที่เธอกล้าเมินเขา สายตาคมดุกวาดมองไปทั่วร่างบางก่อนจะจับจ้องที่ดวงหน้าหวานของเธอนิ่ง
“ไปไหนมา” ประโยคคำถามถูกถามขึ้นมาอีกครั้ง จันทร์ฉายถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจตอบเขาไปตามความจริง
“ไปฝากท้องค่ะ”
“ฝากท้อง ? แล้วทำไมไม่รอพี่ พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะพาไป” สงกรานต์ถามอย่างไม่ยินยอม
“ที่ฉายรีบไปเป็นเพราะฉายกลัวว่าจะทำอะไรที่เกิดอันตรายกับลูกในท้อง ดังนั้นฉายจึงรีบไปเพื่อพบกับคุณหมอรวมถึงจะได้ถามสิ่งที่ต้องระวังต่าง ๆ ด้วย”
ได้ยินคำตอบยาว ๆ ของเธอ ชายหนุ่มก็เข้าใจและรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ทว่าเขาก็ยังรู้สึกไม่ดีกับการกระทำของหญิงสาวที่ตัดสินใจคนเดียวโดยพลการ ทั้งยังไม่เชื่อฟังคำพูดเขาที่เคยบอกเอาไว้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงแสดงสีหน้าไม่พอใจตามเดิม แต่น้ำเสียงที่พูดออกไปกลับอ่อนลงมากขึ้น
“แล้วทำไมไม่บอกพี่ พี่จะได้พาไป”
“ฉายไม่อยากรบกวน”
“ไม่ได้เป็นการรบกวนอะไรเลยกับการที่พี่จะพาฉายที่กำลังท้องลูกของพี่ไปหาหมอ ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีก มีอะไรก็บอก เข้าใจไหม”
“...”
“เข้าใจไหม ?” ชายหนุ่มกดเสียงถามเมื่อไม่เห็นว่าเธอตอบรับ
“ค่ะ”
“ดี แล้วหมอว่ายังไงบ้าง พี่ศึกษามาคร่าว ๆ เขาว่าถ้าไปฝากท้องจะมีสมุดฝากครรภ์ที่คุณหมอจะให้มาด้วยใช่ไหม พี่ขอดูหน่อย แล้วท้องได้กี่เดือนแล้ว ต้องระวังอะไรบ้าง”
สงกรานต์ร่ายยาว น้ำเสียงของเขามันทั้งตื่นเต้นและห่วงใย จันทร์ฉายมองหน้าชายหนุ่มสักพักก่อนจะตัดสินใจบอกกับเขาถึงข้อห้ามข้อควรระวังต่าง ๆ ที่คุณหมอบอกกับเธอมา
“เข้าใจแล้ว หลัก ๆ ก็ห้ามเครียดและห้ามยกของหนักสินะ”
ชายหนุ่มพูดกับเธอในประโยคแรก ก่อนที่จะพูดกับตัวเองในประโยคหลัง
“ฉายขอตัวไปพักก่อนนะคะ”
จันทร์ฉายพูดจบก็ชิงเข้าห้องนอนไปไม่รอให้ชายหนุ่มอนุญาต
สงกรานต์ได้แต่มองคนตัวเล็กที่เดินเข้าห้องไปก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก จากนั้นเขาก็เริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อ
‘ท้องแรก ข้อควรระวัง คุณพ่อคุณแม่มือใหม่’
ชายหนุ่มกดค้นหาและนั่งศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เมื่อเข้าใจในหัวข้อนี้แล้ว เขาก็จะเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อย ๆ จนคิดว่าตัวเองมีความรู้เกี่ยวกับอาการของคนท้องมากพอแล้วนั่นแหละถึงได้หยุด
“ต้องให้ฉายพักผ่อนให้เพียงพอและห้ามเครียด ลูกของเราจะได้แข็งแรงและปลอดภัย” พูดกับตัวเองเสร็จก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวในห้องนอน
“นี่!”
สงกรานต์รู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในห้อง กระเป๋าเดินทางที่เมื่อก่อนเก็บอยู่ในมุมห้องมุมหนึ่งไม่เป็นที่น่าสนใจในสายตา ตอนนี้กลับมาปรากฏอยู่กลางห้องนอน ทั้งยังดูเหมือนว่าในกระเป๋าใบนั้นเก็บเสื้อผ้าทุกอย่างใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยนาน เขาตรงไปยังกระเป๋าดังกล่าว ก่อนจะเปิดมันออกมา เมื่อเห็นว่ามีเสื้อผ้าบรรจุอยู่เต็มกระเป๋าชายหนุ่มก็หน้าตึง ก่อนจะปรายสายตาไปมองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยอารมณ์คุกรุ่น
ใจอยากจะปลุกหญิงสาวให้ตื่นขึ้นมาแล้วคุยกันให้รู้เรื่อง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอท้องเขาจึงต้องหักห้ามใจ แล้วพยายามทำให้ตัวเองอารมณ์เย็น ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนข้างหญิงสาว วาดแขนแกร่งคว้าร่างนุ่มนิ่มและมีกลิ่นหอมเข้าสู่อ้อมกอด เสร็จแล้วจึงหลับตามเธอไป
“อื้อ!”
จันทร์ฉายครางประท้วงเมื่อรู้สึกหนักบริเวณกลางลำตัวพร้อมทั้งรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวแปลก ๆ หญิงสาวพยายามขยับตัวหนีสิ่งที่กอดรัดเธออยู่นั้นอย่างตั้งใจ แต่ว่ายิ่งขยับเหมือนว่าเจ้าสิ่งนั้นยิ่งรัดแน่นขึ้น
สายตาของสาวเจ้ากะพริบติด ๆ กันเพื่อปรับให้ชินกับแสงภายในห้อง เมื่อปรับสายตาได้แล้วเธอก็พยายามมองหาสิ่งที่ทำให้เธออึดอัด
สายตาของจันทร์ฉายหลุบต่ำมองตั้งแต่เอวคอดกิ่วเล็กของเธอ ก่อนที่คิ้วเรียวสวยจะย่นเข้าหากันเมื่อสายตาสวยไปกระทบกับลำแขนแกร่ง เธอไล่สายตาตามวงแขนนั้นไปเรื่อย ๆ ด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เมื่อไล่สายตาถึงโคนแขนเธอก็เจอเข้ากับร่างแกร่งของสงกรานต์ เธอเลื่อนสายตาไปเรื่อย ๆ ก่อนจะรู้สึกลมหายใจสะดุดเมื่อสบเข้ากับดวงตาคมดุที่มองมาอย่างรำคาญใจคู่นั้น
ตึก ตึก ตึก
ใจของจันทร์ฉายเต้นแรงเมื่อแน่ชัดแล้วว่าเจ้าของอ้อมกอดคนที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดแท้จริงแล้วคือสงกรานต์ พ่อของลูกในท้อง ทั้งยังเป็นตัวเขาจริง ๆ ไม่ได้เป็นการคิดไปเองอย่างที่ผ่านมา
ต้องบอกก่อนว่าสงกรานต์มานอนกับหญิงสาวทุกครั้ง ทว่าเธอกลับไม่เคยได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาเลย ทุกครั้งที่เขามาเธอและเขาจะต่างคนต่างนอน ต่างฝ่ายต่างหลับไป
เช้าตื่นขึ้นมาเธอก็ไม่เห็นเขาแล้ว จันทร์ฉายรู้สึกโหยหาอ้อมกอดเขาหลายครั้ง และอยากให้เขากอดเธอบ้าง บางครั้งเธอก็หลับฝัน ฝันว่าเขากักเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม ทว่านั่นก็เป็นเพียงความฝัน เพราะเมื่อยามเช้ามาเยือนยามที่เธอตื่นขึ้น เธอก็พบกับความจริงที่ว่า เธอไม่ได้รับอ้อมกอดแสนอบอุ่นของเขาเลย
ทว่าวันนี้เธอได้รับมันแล้ว เขากำลังกอดเธออยู่และดูเหมือนว่าเขาจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
จันทร์ฉายมั่นใจแล้วว่านี่คือความจริงไม่ใช่ความฝัน!
“พี่สง ?”
“ครับ”
“ปล่อยค่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับขยับตัวพยายามออกจากอ้อมกอดของเขา
“รังเกียจ ?” ชายหนุ่มพูดนิ่ง ๆ พร้อมกับกอดรัดร่างบางของเธอมากกว่าเดิม
“เปล่าค่ะ”
“เปล่าแล้วขยับตัวออกทำไม นอนเฉย ๆ ไปสิ”
“...” จันทร์ฉายพูดไม่ออก เธอมองสบตากับเขาด้วยความไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร...
ทำแบบนี้ทำไม หรือต้องการเล่นกับความรู้สึกเธอ...
ว่ากันว่าผู้หญิงเวลาท้องจะคิดมากกว่าเดิมเห็นทีจะจริง เพราะตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนั้นอยู่
เหอะ!
เมื่อสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดเขาไม่ได้ หญิงสาวก็ร้องในลำคอด้วยความไม่พอใจ ทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้ว
สงกรานต์หรี่ตาอันตราย คราแรกก็กะว่าจะปล่อยเรื่องที่เธอเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไป ทว่าเมื่อเห็นกิริยาอาการของเธอตอนนี้แล้ว เห็นทีจะปล่อยผ่านเรื่องนั้นไปไม่ได้
เพราะอาการของเธอมันน่าถูกสั่งสอนจริง ๆ เสียดายที่เธอกำลังท้องอ่อน ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงสั่งสอนคนในอ้อมกอดด้วยวิธีของเขาไปแล้ว
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เรื่องอะไรคะ ?” ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับดันร่างหญิงสาวให้นั่งด้วยเช่นกัน ก่อนจะชี้นิ้วไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หญิงสาวมองตามนิ้วเรียวของชายหนุ่มก่อนจะนิ่งไป
“ว่าไง นั่นคืออะไร”
“กระเป๋าไงคะ”
“พี่รู้ว่ากระเป๋า แต่ที่พี่ถามคือทำไมมันวางอยู่ตรงนั้น แล้วทำไมมีเสื้อผ้าของฉายอยู่ในนั้นด้วย”
“...”
“อย่าเงียบฉาย ตอบพี่มา” ชายหนุ่มเร่งรัดคนตัวเล็กโดยการกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม จันทร์ฉายรู้สึกขัดใจแต่ยังไม่ยอมตอบคำถามของเขา
“ถ้าไม่ตอบพี่จะกอดเราแน่นกว่าเดิม และจะทำอย่างอื่นด้วย ว่าไง” ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มก้มหน้าคลอเคลียแก้มเนียนของเธอด้วย หญิงสาวก้มหน้าหนีก่อนจะพูดมันออกมา
“ฉายจะกลับบ้าน”
“กลับบ้าน ?”
“ใช่ค่ะ ฉายจะกลับไปอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัด”
พูดถึงตรงนี้ร่างของเธอก็ถูกกระชับกอดแน่นกว่าเดิม
“ดี! งั้นพี่จะกลับด้วย”
“ไม่ได้!” หญิงสาวรู้สึกตกใจที่เขาบอกว่าจะกลับบ้านกับเธอ หญิงสาวรู้สึกว่านี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย เขาจะกลับบ้านกับเธอได้ยังไง กลับในฐานะอะไร ถ้าเขากลับบ้านไปกับเธอเขาคงถูกตากับยายบังคับให้รับผิดชอบเธอโดยการแต่งงานแน่
“ทำไมไม่ได้”
“คือ ฉาย... ฉาย ตาฉายดุ”
“ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องเจอกันในสักวันอยู่แล้ว เจอเร็วขึ้นจะเป็นอะไรไป ฉายห้ามพี่ไม่ได้หรอก”
สงกรานต์พูดเองเออเองโดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวเล็กหน้าซีดเผือดเพราะคำพูดของเขาขนาดไหน แต่ถึงแม้สนใจเขาก็ยังยืนยันคำเดิมในคำพูดของตนว่าเขาจะไปบ้านของหญิงสาวเช่นเดิม และไม่ว่ายังไง จันทร์ฉายก็ห้ามเขาไม่ได้
2 วันต่อมาในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังจากที่จันทร์ฉายนอนโรงพยาบาลได้สองวัน หญิงสาวก็ได้รับสัญญาณว่าตัวเองจะคลอดแล้ว น้ำคร่ำหญิงสาวแตกออกเยอะมาก สงกรานต์ก็รีบกดกริ่งเรียกพยาบาล พร้อมทั้งขอเข้าไปในห้องคลอดกับคนรักด้วย หลังจากได้รับอนุญาตเขาก็โทรบอกครอบครัวเขาและเธอก่อนจะรีบไปเปลี่ยนชุด และเข้าไปอยู่ข้าง ๆ จับมือเธออย่างรวดเร็ว“โอ๊ย เจ็บ ฟู่วว!” จันทร์ฉายพูดขึ้นยามเมื่อถูกพาเข้ามาในห้องคลอดแล้ว เธอหันไปสบสายตากับคนรัก แล้วก็พบสายตาแห่งความรักความอบอุ่นมองสบมา“คุณแม่สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาเลยนะคะ” เสียงคุณหมอที่เป็นคนทำคลอดเอ่ยบอก“อื้ออออออ!”เสียงเบ่งหายใจดังออกมาจากลำคอของจันทร์ฉาย เธอหอบจนตัวโยน“ฉายครับเบ่งอีกนะครับ เราจะได้เจอหน้าลูกแล้วสู้ ๆ นะครับ” สงกรานต์รีบเอ่ยบอก มือก็จับมือไว้แน่น“คุณแม่ไม่ต้องกลั้นเสียงตอนเบ่งไว้นะคะ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาปลดปล่อยเสียงได้เต็มที่ มันจะทำให้คลอดง่ายขึ้นนะคะ” คุณหมอนำคลอดเอ่ยบอก มือก็สาละวนอยู่ที่ช่องคลอดของหญิงสาว“เอานะครับ พร้อมนะฉาย หนึ่ง สอง สาม”“กรี๊ดดดด!” เธอเบ่งคลอดพร้อมคิดออกมา เหงื่อกาฬไหลพราก ด
หลายเดือนผ่านไปในที่สุดอายุครรภ์ของจันทร์ฉายก็ครบเก้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของจันทร์ฉายนูนออกมามาก แม้จะไม่ใหญ่เท่าท้องคนอื่น แต่ก็ใหญ่มากแล้วสำหรับท้องแรกหรือที่เรียกว่าท้องสาวตั้งแต่ท้องของเธอมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม สงกรานต์ก็แทบจะไม่ห่างกายหญิงสาวอีกเลย เขาหอบงานมาทำที่บ้านถ้าไม่มีธุระสำคัญหรือด่วนจริง ๆ เขาจะไม่ยอมทิ้งเธอไปไหนชายหนุ่มทำหน้าที่สามีได้ดีมาก ๆ และเขาก็ดูแลเธอดีมากเช่นกัน ว่ากันว่าคนท้องมักปวดเมื่อยตามร่างกายโดยเฉพาะเท้าและหลัง ชายหนุ่มก็ไปเรียนนวดกับคุณหมอ เขาได้คำแนะนำมามาก แล้วก็เอาความรู้ที่ตัวเองได้เรียนมาปรนนิบัติให้กับหญิงสาวคนรักจันทร์ฉายรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่มีชายหนุ่มอยู่เคียงข้างกาย การมีคนดูแลและเอาใจใส่ตัวเองมากขนาดนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีความสุข และจะมีความสุขมากขึ้นไปอีกเมื่อคนคนนั้นเป็นคนที่เธอรักและรักเธอแต่ก็ว่าเถอะนะ การมีคนดูแลและใส่ใจมันก็ดี แต่ว่าก็ต้องตั้งอยู่ในความพอดีด้วย ไม่ใช่ว่าห้ามไปซะหมดเหมือนกับสงกรานต์ ที่ไม่ยอมให้เธอทำอะไรเลย จนบางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกเบื่อไปเหมือนกัน เหมือนตอนนี้“ฉาย จะไปไหนก็บอกพี่สิครับ พี่จะได้พาไป เดินไ
ตกเย็นจันทร์ฉายก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าหกโมงเย็นแล้วยังไม่มีทีท่าว่ารถของสามีตีทะเบียนจะเข้ามา ก็อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวออกมานั่งรอเขาที่ศาลาหน้าบ้าน ชะเง้อคอมองไปทางประตูรั้วบ่อยครั้ง“แปลกจริงวันนี้ตาสงกลับช้า”“นั่นน่ะสิคะคุณแม่ ทุกทีห้าโมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วนี่นา” เธอตอบด้วยความกระวนกระวายใจ จนคุณสารภียิ้มขำ“หนูฉายไม่ต้องเป็นห่วง แม่คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกน่าจะเร่งทำงาน เพราะเหมือนแม่ได้ข่าวว่างานเยอะมาก!”“หึ! สมน้ำหน้า เวลาบอกให้ไปทำงานก็ไม่ฟังเอาแต่จะอยู่ดูแลฉาย”“ตาสงเขาก็คงเป็นห่วงนั่นแหละ”“ฉายรู้ค่ะ แต่ว่าก็ควรทำหน้าที่ตัวเองไม่ให้ขาดตกบกพร่องสิคะ ที่สำคัญฉายอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ เด็กในบ้านรวมถึงคนรถก็มี เขาห่วงฉายมากเกินไปค่ะ” แม้คำพูดจะเหมือนต่อว่าแต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรักคุณสารภีมองลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ท่านจะชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้หญิงสาวกังวลเรื่องของลูกชายท่านเกินไปนัก ไม่นานรถหรูคุ้นตาก็แล่นเข้ามาในรั้วบ้านก่อนจะขับเข้าไปจอดที่โรงจอดรถจันทร์ฉายมองสภาพหมดเรี่ยวแรงของสงกรานต์ด้วยสายตาสงสาร เธอเข้าไปถามไถ่ชายหนุ่มด้ว
“นี่มันอะไรครับ”“ก็งานของคุณสงไงคะ”“ผมรู้ว่ามันเป็นงาน แต่ทำไมถึงเยอะแบบนี้ ตอนผมอยู่บ้านคุณก็หอบเอางานมากมายไปให้ผมทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“ค่ะ... แต่งานที่ดิฉันเอาไปให้คุณสงที่บ้านนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการซึ่งไม่อาจรอได้ค่ะ ส่วนงานที่อยู่บนโต๊ะคุณสงทั้งหมดในตอนนี้ล้วนเป็นรายละเอียดงานยิบย่อยที่สามารถรอได้ ดิฉันจึงไม่ได้นำไปให้คุณสงทำที่บ้าน ดังนั้นมันจึงมากมายอย่างที่คุณสงเห็น”“แต่งานพวกนี้มันก็ไม่ได้ยากมากมายอะไรนะคะ เพราะดิฉันจัดการข้อมูลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว รอแค่คุณสงตรวจสอบและเซ็นชื่ออนุมัติก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ความจริงมันเยอะกว่านี้อีกนะคะ แต่ดิฉันเข้าใจว่าคุณสงรีบกลับไปหาน้องฉาย ดังนั้นวันนี้จึงมีเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มกองใหม่ค่ะ”สงกรานต์ที่ได้ฟังคำตอบจากเลขาส่วนตัวก็อ้าปากค้าง พลางก้มมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า‘กองเบ้อเริ่มขนาดนี้ก็ว่าเยอะแล้ว นี่ยังบอกว่ายังไม่หมดและมีรออยู่อีกเหรอ ตาย ๆ ๆ งานเยอะขนาดนี้จะกลับบ้านเร็วได้ยังไงเล่า!’ชายหนุ่มได้แต่บ่นภายในใจคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงความรู้สึกออกมาจนเมธ
“พี่ไม่อยากไปเลยฉาย ให้พี่อยู่กับฉายหนึ่งวันนะ” สงกรานต์มีท่าทีไม่อยากไปทำงาน พร้อมทั้งขอร้องหยุดอยู่บ้านกับเธออีกหนึ่งวัน“ไม่ได้ค่ะ พี่สงเกเรไม่ยอมไปทำงานหลายวันแล้วนะคะ”“ขอวันนี้อีกแค่วันเดียวนะ นะครับ”“ไม่ได้ค่ะ ฉายไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าวันนี้พี่สงไม่ไปทำงานก็นอนนอกห้องไปเลย” หญิงสาวยื่นคำขาดจนชายหนุ่มหน้าเสียสงกรานต์รู้สึกไม่ยินยอม เขาอยากอยู่กับจันทร์ฉาย อยากดูแลเธอ แล้วทำไมเธอไม่เข้าใจเขาบ้างนะ ชายหนุ่มขบคิดหาทางออกให้ตัวเอง ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าพี่ไปทำงานแล้วใครจะดูแลฉายล่ะครับ ดูสิตอนนี้ฉายท้องโตแล้วนะ เดินเหินก็ยาก พี่ว่าให้พี่อยู่ดูแลฉายดีกว่า”“ไม่! ถ้าพูดไม่ฟังล่ะก็นอนนอกห้องไปเลย”พูดจบหญิงสาวก็สะบัดตัวหนีจากอ้อมกอดของเขาพร้อมทั้งเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็วสงกรานต์มองตามร่างภรรยาตีทะเบียนที่เขาทั้งรักและหลงเธอด้วยสายตาตัดพ้อ แถมยังบืนปากขัดใจที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของตัวเองได้จันทร์ฉายน่าจะเข้าใจเขาสักนิด ว่าที่เขาต้องการอยู่กับเธอก็เพราะว่ารักและเป็นห่วงเธอกับลูกในท้องทั้งนั้น ตอนนี้ตัวเธอเองก็ท้องโตมากแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เดินอุ้ยอ้ายอย่างคุณแม่คนอื่น ๆ เพราะ
‘ตกลงครับ เลื่อนไปก่อนได้ รอจนกว่าเจ้าตัวเล็กจะคลอดและอายุครบสามปีเดินได้คล่อง เราค่อยแต่งงานกัน แต่ว่า... ฉายต้องจดทะเบียนสมรสกับพี่นะครับ หากไม่ตกลงข้อเสนอของฉายก็ถือว่าเป็นโมฆะ’‘ฉายกับพี่ต้องจดทะเบียนสมรสกัน หากฉายไม่ตกลง งานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นทันที’ประโยคนี้คือคำพูดของสงกรานต์ที่ได้พูดไว้ในวันที่ครอบครัวของเขามาทำการสู่ขอเธอวันนั้นหลังจากที่ได้ฟังเธอก็ได้แต่ยิ้มค้างไว้จนได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เจือความเอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เมื่อไม่อาจปฏิเสธอะไรได้เธอจึงได้ตอบตกลงเขาไป ซึ่งหลังจากนั้นเจ็ดวันให้หลัง เธอและเขาต้องมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอหลังจากที่สงกรานต์ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสกับจันทร์ฉายแล้ว ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็กำลังรอเจ้าหน้าที่บันทึกและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อยู่อย่างสงบระหว่างรอสงกรานต์ก็เอาแต่สนใจและกุมมือจันทร์ฉายไว้ไม่ปล่อยเช่นกัน จวบจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกชื่อพวกเขาเพื่อสอบถามข้อมูล ชายหนุ่มถึงได้หันไปให้ความสนใจกับเจ้าหน้าที่ทะเบียน“ไม่ทราบว่าพวกคุณแต่งงานกันวันไหนครับ”“ยังไม่แต่งครับ”คำตอบของชายหนุ่มทำให้เจ้าหน้าที่ชะงักเล็กน้อยแต่ก็