ถนนส่วนบุคคลที่ทอดยาวจากตึกสำนักงานของเลอเวนส์กรุ๊ปสู่ถนนสายหลัก ในช่วงเวลาเลิกงานถนนเส้นนี้ก็จะพลุกพล่านเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่เดินออกไปรอรถเมล์บ้าง รถแท็กซี่บ้างซึ่งต่างจะพูดคุยหยอกล้อกันไปอย่างสนุกสนานดูมีสีสัน บางคนก็จะมีรถยนต์ของตนเองซึ่งพนักงานของที่นี่จะว่าไปก็มีรถยนต์กันแทบทุกคน แต่ในยามนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มก็จะค่อนข้างเงียบแม้ไฟรายทางจะสว่างไสวมียามรักษาความปลอดภัยคอยตรวจตราอย่างเคร่งครัดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องจะเกิดอันตรายหากพนักงานจะทำโอทีและกลับบ้านดึกเหมือนวันนี้ที่นารินเต็มใจทำงานพิเศษหลังเลิกงานเพราะค่าจ้างส่วนต่างมันล่อใจนี่ล่ะ ดังนั้นเมื่อแสงรวีขอให้ช่วยงานเธอจึงไม่ลังเลเพราะปกติแล้วเธอเองก็ชอบงานแปลเอกสารและมักจะหารายได้พิเศษจากงานแปลเป็นประจำโดยไม่ต้องรบกวนเงินจากทางบ้านแม้ว่าครอบครัวของตนจะค่อนข้างมีฐานะร่ำรวย แต่นารินชินกับการช่วยเหลือตนเองและสนุกกับการทำงานมากกว่า จนบ้างครั้งเพื่อนๆ ในกลุ่มสมัยเรียนเคยบ่นว่าเธอเป็นเศรษฐีขี้งกประจำ เมื่อนึกถึงอดีตที่ครอบครัวเคยมีฐานะร่ำรวยนารินก็หน้าหม่นลงทันที เพราะปัจจุบันครอบครัวของเธอก็คงจะมีแค่ เปลือก ที่ร่ำรวย
นารินเดินอย่างไม่เร่งรีบไปยังถนนที่มีรถวิ่งพลุกพล่านรายทางสว่างไสวงดงามลมเย็นๆ พัดมาเอื่อยๆ ก็พลอยทำให้รู้สึกสดชื่นอยู่บ้าง แม้ที่นี่จะอยู่ใจกลางเมืองแต่ก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ สวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกลก็ส่งผลให้บริเวณใกล้เคียงบรรยากาศดีไปด้วย นารินชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ามีรถยนต์แล่นมาข้างหลังหญิงสาวค่อยๆ เดินหลบชิดขอบทางซึ่งร่มรื่นด้วยต้นไม้ก่อนจะหันกลับไปมองเมื่อยังรู้สึกว่ารถคันนั้นยังไม่ยอมแล่นผ่านไป คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นรถยนต์หรูซึ่งเธอแน่ใจว่าตนไม่รู้จักใครที่ขับรถราคาคันละลิบๆ ล้านแบบนี้แน่นอน
“ท่านประธาน..” แล้วนารินก็อุทานออกมาอย่างคาดไม่ถึงเมื่อกระจกรถเลื่อนลงพร้อมกับรถคันหรูจอดข้างๆ เธอ
“ขึ้นมาสิ” เสียงนุ่มทุ้มบอกเป็นภาษาไทยชัดเจน ดวงตาคมเข้มมองเธอนิ่งนารินก้าวขาไม่ออกไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“เอ้า จะยืนอีกนานมั้ย หรือว่าจะต้องให้ไปอุ้มขึ้นมา”
“ตะ แต่ ริน เอ่อ ดิฉัน..” นารินตาโตหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“ฉันไม่มีเวลามากนะ แล้วนี่ก็มืดแล้ว ขึ้นมาฉันจะไปส่ง”
“คือ..” นารินยังอึกอักทำทีลังเลแต่เมื่อเห็นเขาทำท่าจะปลดเข็มขัดนิรภัยลงมาทำให้เธอต้องรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งเคียงข้างเขาเพราะกลัวว่าเขาจะอุ้มเธอขึ้นรถจริงๆ เมื่อรถเคลื่อนเข้าสู่ถนนสายหลักที่พลุกพล่านด้วยรถยนต์เต็มท้องถนนจนทำให้รู้สึกว่ามันเป็นลานจอดรถมากกว่าถนนที่รถจะวิ่งสัญจรไปมา
“ท่านประธานส่งดิฉันที่สถานีรถไฟฟ้าข้างหน้านั่นก็ได้ค่ะ” นารินบอกอย่างเกรงใจเพราะเขากับเธอต่างกันเหลือเกิน
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะไปส่งก็คือจะไปส่ง แล้วไม่ต้องแทนตัวเองว่าดิฉงดิฉันได้มั้ย ฟังดูแก่แดดพิลึก” ดวงตาคมปรายมามองอย่างไม่ชอบใจซึ่งนารินไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องไม่พอใจด้วยแต่เธอก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกแถมยังติดอ่างไปเสียอีกทั้งที่เธอไม่ใช่คนติดอ่างหรือพูดช้าคิดช้าสักนิด
“เอ่อ คือ...”
“ไม่ยักรู้ว่าบริษัทฉันรับคนติดอ่างเข้าฝึกงานด้วย”
“รินไม่ได้ติดต่างค่ะ” ก็เพราะเขานั่นล่ะที่ทำให้สมองเธอเบลอๆ พูดติดๆ ขัดๆ แบบนี้
“อ้าวเหรอ นึกว่าติดอ่าง เจอกันทีไรเธอพูดติดอ่างทุกที” มันเป็นจริงดังเขาว่า เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ดามพ์เข้ามาตรวจงานที่สำนักงานใหญ่ เธอซึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาต้องได้พบเขาทุกวันและทุกครั้งที่เจอหน้าเขาเธอก็มักตื่นเต้นหวั่นไหวทำอะไรไม่ถูกเสียทุกที เมื่อวานตอนเอากาแฟไปเสิร์ฟเขาในห้องเธอก็เผลอทำกาแฟหกเลอะเสื้อสูทของเขาจนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น... แล้วเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นทีไรแก้มสาวก็เห่อร้อนขึ้นมาทันที...
“เป็นอะไรหน้าแดงๆ”
โอ๊ย... นารินอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีดวงตาคมของเขานัก
ก็เพราะเขานั่นล่ะที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ นารินคิดอย่างขัดเขินและเดือดดาลในอก เธอต้องเสียจูบแรกไปเพราะใคร ต้องใจสั่นหวั่นไหวนอนไม่หลับกระสับกระส่ายเพราะความหวามไหววูบวาบในอกเพราะใครกันล่ะ วันนี้เธออุตส่าห์ไม่ยอมเอากาแฟไปเสิร์ฟและวันทั้งวันเธอก็ไม่พบหน้าเขา แต่ก็สุดท้ายเธอยังหลบหน้าดามพ์ไม่พ้น
“เปล่าค่ะ สงสัยอากาศจะร้อน..” เหมือนเธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอของเขา นารินหันไปมองก็พบเพียงใบหน้าหล่อเหลาส่งยิ้มทรงเสน่ห์มาให้ สาวน้อยซึ่งกำลังจะพ้นรั้วมหาวิทยาลัยรีบหันหน้าหนีดวงตาคมแทบไม่ทัน
“ไม่ยักรู้ว่าแอร์รถฉันเสีย” นารินไม่พูดอะไรต่อเพราะคิดคำตอบโต้กับเขาไม่ออก ดามพ์จึงเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“เดี๋ยวเราแวะหาอะไรกินกันก่อนนะ”
“แต่รินไม่หิวค่ะ”
“แต่ฉันหิว ทำงานทั้งวันเหนื่อยและหิวมากด้วยตอนนี้ เอาเป็นว่านั่งกินเป็นเพื่อนกันก่อน ได้ไหม...” ท้ายประโยคน้ำเสียงของเขาฟังเหมือนจะอ้อนวอน ใจสาวที่หวั่นไหวอยู่แล้วก็อ่อนยวบนารินจึงตอบรับเขาไป แล้วไม่กี่นาทีเธอกับดามพ์ก็นั่งอยู่ในร้านอาหารหรูซึ่งมีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ...
ดวงตมคมเฝ้ามองคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่อย่างขบขัน ดามพ์ไล่สายตาสำรวจสาวน้อยที่สะดุดใจเขาตั้งแต่แรกพบช้าๆ นารินเป็นผู้หญิงรูปร่างเล็กเธอสูงแค่ไหล่ของเขาเท่านั้นเองผิวขาวละเอียดเปล่งปลั่งตามวัยสาว โครงหน้าเรียวปากนิดจมูกหน่อยดูน่ารักจิ้มลิ้มยิ่งเจ้าหล่อนไว้ผมม้าปรกหน้าผากมนยิ่งทำให้นารินดูเหมือนเด็กมัธยมปลายมากกว่าสาวน้อยที่กำลังจะเป็นหญิงสาวเต็มตัว แล้วยิ่งเธอใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้หน้าตาก็ดูอ่อนเยาว์ใสๆ แบบนี้ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังหลอกเด็ก ก็กำลังหลอกเด็กจริงๆ ไม่ใช่หรือ...
ใช่.. เขากำลังหลอกเด็ก... และเด็กคนนี้ก็น่าหลอกน่ากินเสียเหลือเกิน เห็นหน้าตาน่ารักตัวเล็กๆ น่าทะนุถนอมแบบนี้แต่เมื่อได้สัมผัสถึงเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของเจ้าหล่อนแล้วดามพ์ยอมรับอย่างไม่อายเลยว่านารินจุดไฟในกายของเขาให้ลุกโชนได้อย่างง่ายดาย อย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำได้ นั่นคือความจริง แม้เขาจะชอบผู้หญิงสวยเซ็กซี่เร้าใจรู้จักเอาอกเอาใจและที่ผ่านมาเขาก็ได้ระเริงรักกับพวกเจ้าหล่อนเหล่านั้นมานับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยรู้สึกพลุ่งพล่านร้อนระอุเพียงแค่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายของหญิงสาวเหล่านั้น ไม่เคยอยากได้อยากครอบครองพวกเธอเพียงแค่เห็นหน้าเหมือนอย่างที่เขากำลังต้องการนาริน แค่เห็นเธอเขาก็รุ่มร้อนจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ยิ่งได้จูบเธอในวันก่อนเขาก็ยิ่งอยากได้นารินมากขึ้น และจะต้องได้ในเร็วๆ นี้ด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงคลั่งตายแน่ๆ
รสหวานจากเรียวปากจิ้มลิ้มไร้เดียงสายังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้นเนื้อสาวนุ่มละมุนมือยังคงตราตรึงในสมองอันชาญฉลาดของเขา ทรวงอกอวบอิ่มเต็มอุ้งมือใหญ่ยังให้ความรู้สึกเหมือนว่ามือของเขายังได้เคล้นคลึงปทุมอวบอัดคู่นั้นอยู่ไม่สร่าง เขาต้องบ้าหรือไม่ก็ลงแดงตายเร็วๆ นี้แน่ๆ หากยังมีอาการเช่นนี้อยู่
“อิ่มแล้วเหรอ..” ดามพ์ถามคนที่รวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม นารินพยักหน้าน้อยๆ แล้วนั่งก้มหน้าเงียบๆ ไม่พูดอะไร ดามพ์ขยับตัวอย่างอึดอัด เพราะยิ่งมองก็ยิ่งอยาก...
“เอ่อ กลับได้รึยังคะ เดี๋ยวจะดึก”
“ไปสิ” ร่างสูงลุกขึ้นหลังจากที่จ่ายเงินค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มขับรถมาถึงหน้าอพาร์ตเม้นต์ของนารินได้อย่างถูกต้องแม่นยำเพียงแค่เธอบอกชื่ออาคารแห่งนี้เท่านั้นทำให้นารินถึงกับหันมามองเขาตาโต
“อะไร” เขาหันมาถามเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นแววตาคาดไม่ถึงของเธอ ก็เขาสืบมาหมดแล้วว่าเธออยู่ที่ไหนอย่างไรมีหรือจะมาไม่ถูกและหากเขาต้องการอะไรมีหรือที่จะไม่ได้ นารินหน้าแดงเรื่อดูน่ารักน่าปรารถนาในสายตาเขาเหลือเกินและหากเจ้าหล่อนทำหน้าแดงๆ ตาใสๆ แบบนี้บ่อยๆ ตบะอันแก่กล้าของเขาคงแตกเร็วๆ นี้ล่ะ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” สาวน้อยอ้อมแอ้มตอบพลางควานหาที่ปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยด้วยท่าทางเงอะงะแต่จนแล้วจนรอดนารินก็ยังคงก้มหน้าก้มตาปลดเข็มขัดนิรภัยอยู่จนดามพ์ต้องยื่นมือเข้าไปช่วย
“เธอนี่ยังไงนะ ซุ่มซ่ามเสียจริงแค่กดตรงนี้มันก็คลายออกแล้ว”
“ระ ริน คือ ริน..” เธอไม่เคยนั่งรถราคาแพงลิบขนาดนี้นี่นะ และรถของเขาก็มีปุ่มอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมากมายแปลกตาจนเธอไม่กล้าจะจับจะต้องเพราะกลัวจะทำรถของเขาเสียหาย ดามพ์หัวเราะเบาๆ ในลำคอแม้จะปลดเข็มขัดได้แล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ขยับตัวออกห่างความใกล้ชิดของเขากับนารินในตอนนี้เรียกได้ว่าลมหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว...
“ขอบคุณฉันรึยังที่มาส่ง”
“รินขอบคุณไปแล้วนี่คะ” สาวน้อยตอบหน้าซื่อดามพ์ซ่อนยิ้มในหน้า
“แล้วขอบคุณรึยังที่ฉันช่วยปลดเข็มขัดนิรภัยให้”
“ขะ ขอบคุณค่ะ” นารินพนมมือไหว้ขอบคุณเขาอย่างอ่อนช้อยน่ารัก แต่ดามพ์ไม่ได้ต้องการการขอบคุณแบบนี้สักหน่อย
“ไม่ใช่การขอบคุณที่ฉันต้องการ ฉันต้องการให้เธอขอบคุณแบบนี้ต่างหาก...”
ตอนที่46. อวสานครอบครัวของเขาสุขแสนสุข เมื่อทั้งเมียและแม่เข้าขากันได้เป็นอย่างดีจนบางทีเขาก็รู้สึกว่ามีแม่สองคน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเบื่อหน่าย เมื่อแม่ยอดรักของเขานั้นหอมหวานเร่าร้อนเหลือเกิน..ตั้งแต่เรื่องร้ายๆ ผ่านไป มารดาของเขาก็เอาใจใส่นารินกับลูกมากไม่ว่านารินกับลูกๆ อยากได้อะไรคุณดรุณีไม่เคยขัดแต่ก็ไม่เคยก้าวก่ายการเลี้ยงดูลูกๆ ของนาริน แต่ไม่ว่านารินจะพูดจะทำอะไรคุณดรุณีจะสนับสนุนและเห็นดีเห็นงามไปด้วยทุกครั้งและยังเอาอกเอาใจสะใภ้คนสวยจนคนเป็นลูกชายแท้ๆ แทบจะหมดความสำคัญลงไป แต่นั่นล่ะคือสิ่งที่เขาต้องการ เขากับมารดาเคยทำผิดกับนารินไว้มากมายและทำให้เธอต้องตกระกำลำบากมาอย่างแสนสาหัส โชคดีที่นารินยังรักและให้อภัยเขากับมารดาและเธอก็ยังให้ลูกๆ ที่น่ารักแก่เขาถึงสามคน...“พี่ดามพ์ขา ที่รักพาลูกๆ ขึ้นบ้านได้แล้วค่ะ ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว..” เสียงหวานเจื้อยแจ้วร้องบอกดามพ์ยิ้มบางๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปตามลูกๆ เข้าบ้าน แล้วพาเด็กๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวมารับประทานอาหารเย็นซึ่งวันนี้มีปาร์ตี้เล็กๆ รับขวัญหลานน้อย
ตอนที่45.“ดีมาก ขอบใจที่ช่วยสั่งสอนคนชั่วๆ ให้” ดามพ์วางสายด้วยความพอใจเมื่อได้รับข่าวว่าภารกิจของเขาสิ้นสุดลงด้วยดีเพราะเขาเป็นผู้ชายและไม่เคยลงไม้ลงมือกับผู้หญิงเขาจึงต้องให้ผู้หญิงด้วยกันจัดการ แต่เขารับรองได้เลยว่านภาลัยจะไม่มีวันได้มีความสุข คนที่คิดทำร้ายทำลายคนในครอบครัวของเขาจะต้องได้รับการสั่งสอนเอาคืนอย่างสาสม ยิ่งคนเลวๆ อย่างนภาลัยที่ไม่ได้แค่คิดจะทำร้ายนารินเท่านั้น แต่นภาลัยฆ่าแม่ของนาริน นภาลัยจะต้องเจออะไรที่มันหนักหนาเป็นสองเท่า...นารินมองค้อนสามีจอมพลังที่ไม่ยอมให้เธอพักเสียทีทั้งที่ตักตวงความสุขจากเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พ่อคุณก็ยังไม่ยอมสงบ ดามพ์น้อย ยังคงคึกคักอย่างน่าหมั่นไส้...“รินจ๋า ดามพ์น้อยมันไม่ยอมนอน...” ชายหนุ่มเคล้าคลอเกลือกกลิ้งใบหน้าหล่อเหลากับทรวงสาวของเธออย่างออดอ้อน ริมฝีปากร้อนผ่าวแตะแต้มมายังยอดอกสีหวานอีกครั้ง นารินครางเบาๆ อย่างอ่อนอกอ่อนใจแต่ก็แอ่นอกเข้าหาปากร้อนผ่าวอย่างเต็มอกเต็
ตอนที่44.“ขอบคุณนะคะ ฉันไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดี แต่ฉันไม่อาจจะรับผิดชอบอะไรที่มันเกินกำลังฉันได้อีกต่อไป ฉันขอแค่เป็นพนักงานคนหนึ่งของคุณดีกว่า อย่างน้อยๆ คงไม่ทำกิจการเจ๊งเหมือนที่ผ่านมา” มีเรียเช็ดน้ำตาแล้วบอกเขายิ้มๆ“ก็ตามใจคุณนะ ผมยินดีช่วยเหลือคุณ”“ค่ะ ขอบคุณ คุณอีกครั้งนะคะ..” หนุ่มสาวยิ้มให้กันอย่างเข้าอกเข้าใจมิตรภาพที่ดีเริ่มงอกงามอีกครั้ง“อ้าว.. น้องริน รู้สึกตัวแล้วหรือคะ” มีเรียหันไปมองนารินซึ่งเดินเข้ามาหาพวกตน นารินไม่พูดไม่จาแต่เดินไปหาดามพ์แล้วฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของเขาเต็มแรง…เพี๊ยะ... เสียงฝ่ามือเล็กๆ กระทบใบหน้าหล่อเหลาเต็มแรงจนหน้าหันไปเลยทีเดียว ดามพ์ถึงกับเห็นดาวเห็นเดือนวิ่งวิ้งๆ ต่อหน้าต่อตา“ว้าย น้องริน.. อย่าค่ะ อย่าทำอะไรดามพ์เลยนะคะ” มีเรียเข้ามาขวางไว้เมื่อเห็นแววตาวาวๆ ของนาริน“พี่โรสถอยไปค่ะหากไม่อยากโดนลูกหลง..”“อะไรกันครับเมียจ๋า” ดามพ์หน้าเสียยิ่งเห็นแววตา
ตอนที่43.“แกหักหลังฉันเหรอ”“ใครว่าฉันหักหลังเธอเล่า ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ต้องทำและเธอก็ยังได้สนุกกับไอ้พวกนี้อีก วินๆ กันทั้งสองฝ่าย เธอได้มันได้เงินด้วยนะไม่ชอบเหรอ” นภาลัยเหยียดยิ้มน่ารังเกียจ มีเรียมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความชิงชัง ขนาดเธอเป็นผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกขยะแขยงความคิดและการกระทำของนภาลัย ซึ่งเธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนภาลัยจะต้องทำร้ายนารินขนาดนั้น“ฉันถามจริงๆ เถอะทำไมเธอจะต้องทำขนาดนี้ด้วย นารินเขาไปทำอะไรให้เธอ”“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ มันแค่สวยกว่า และใครๆ ก็รักมันมากกว่าฉัน ตอนฉันเป็นเมียพี่มัน ผัวฉันก็คอยแต่พร่ำเพ้อห่วงมันคิดถึงมันจะส่งเสียเงินให้มันเรียน แม่มันก็ทั้งรักทั้งห่วงไม่มีใครสนใจฉันที่เป็นสะใภ้ พอมันท้องไม่มีพ่อกลับมาก็ยังจะรักจะหลงมัน ฉันพยายามทำให้ทุกคนเกลียดมันเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแต่คนรักมัน แล้วนังเด็กน่าเกลียดสองคนนั่นอีก พอมันลืมตามาดูโลกมันแย่งความรัก แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน สามีฉันกับแม่ของมันก็ไปเห่อนังเด็กฝรั่งขี้นกกัน ไม่มีใครสนใจฉันเลยสักคน
ตอนที่42.“พี่ดามพ์ขา เข้ามาหาริน โอ้ว ซี๊ดดด...”“อีกนิดคนสวย อา รินจ๋า... ที่รักหวานเหลือเกิน...” ดามพ์ครางกระเส่าชิดยอดอกไหวระริกเมื่อส่งก่อนจะเคลื่อนกายแกร่งเสียดสีกับกายนุ่มนิ่มอย่างยั่วเย้า แล้วบดจุมพิตร้อนแรงลงบนกลีบปากบวมเจ่อของเธออย่างเร่าร้อนดูดดื่ม“รินร้อนเหลือเกิน พี่ดามพ์ขา สิคะ..” หญิงสาวแอ่นสะโพกเชิญชวนเสนอกายให้เขาบ่งบอกว่าเธอต้องการอะไร ดวงตาสวยหยาดเยิ้มด้วยเพลิงเสน่หาความเร้ารัญจวนจากดวงตาคมทำให้นารินวาบหวามเสียวกระสัน ยิ่งเมื่อเขาจับแก่นกายแกร่งแข็งขึงและร้อนราวเปลวไฟจดจ่อลากไล้หยอกเย้ากับดอกไม้งามร้อนเร่าราวจะมอดไม้ด้วยความต้องการของเธอ แต่ไม่ยอมเข้ามาเติมเต็มเสียทีนารินก็ยิ่งร้อนระอุ“พี่ดามพ์ เดี๋ยวนี้ รินต้องการ อื้อออ คนบ้า เดี๋ยวนี้...” คนตัวเล็กสั่งเสียงพร่าพยายามแอ่นสะโพกเข้าหาด้วยความฉุนเฉียว เล็บแหลมจิกลงบนข้อมือแกร่งอย่างเร่งเร้า จนทนไม่ไหวนารินจึงผลักให้เขานอนลงแทนที่ตนแล้วพลิกกายเหนือร่างแกร่งก่อนจะคร่อมสะโพกหนาไว้แล้ว
ตอนที่41.มีเรียหน้าเสียเมื่อเห็นเบอร์โทร. ของนภาลัยโทรเข้ามา หญิงสาวจำต้องรับแล้วค่อยๆ พูดเบาๆ กับคนปลายสายซึ่งพูดมาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว“ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์ฉันซะทีฮะ แล้วงานที่สั่งให้ทำไปถึงไหนแล้วยะ”“ฉันกำลังทำอยู่ อย่าเร่งเร้าได้มั้ย ดามพ์ไม่ใช่คนโง่นะ”“รู้ว่าไม่โง่แต่เมื่อไหร่ที่แกจะลงมือเสียทีฉันรอนานแล้วนะ ฉันต้องการให้แกลงมือโดยเร็ว ฉันให้เวลาแกสามวัน ส่วนฉันพร้อมเสมอ และตอนนี้ฉันก็อยู่เชียงใหม่แล้ว..” มีเรียหน้าเสียเมื่อนภาลัยบอกเช่นนั้น นั่นหมายความว่าเธอจะต้องถูกยายนั่นข่มขู่บังคับได้ง่ายขึ้นน่ะสิ“โอเค แล้วฉันจะทำตามแผนของเธอ” มีเรียวางสายแล้วก็ได้แต่นั่งคิดหนักอยู่คนเดียวหลังจากที่เธอได้พูดคุยกับเด็กหญิงทั้งสองแล้วมีเรียรู้สึกทั้งรักและเอ็นดูหนูน้อยทั้งสอง ทั้งได้เห็นความรักเอาใจใส่ที่นารินมีแต่เด็กๆ ถ้อยคำปลอบโยนยามที่หนูน้อยหกล้มร้องไห้ ท่าทางปกป้องลูกน้อยจากภัยอันตรายไม่ว่าร้อนหรือหนาวของนารินทำให้มีเรียคิดถึงวัยเด็กอ